คุณแม่สามารถเริ่มนวดสัมผัสเบาๆ ให้ลูกได้ตั้งแต่สัปดาห์แรกๆ หลังคลอดเลยค่ะ แต่ถ้าเป็นการนวดที่เป็นกิจวัตรมากขึ้น ผู้เชี่ยวชาญส่วนใหญ่มักจะแนะนำให้รอจนน้องอายุประมาณ 1 เดือน

เป็นความเชื่อที่ "ผิดและอันตรายมาก" เลยค่ะ! การเงยหน้าจะทำให้เลือดไหลย้อนกลับลงไปในคอ ซึ่งอาจทำให้เกิดการสำลักหรืออาเจียนได้ค่ะ วิธีที่ถูกต้องคือต้องให้นั่งตัวตรงและ

เป็นคำถามที่ดีมากเลยค่ะ หากน้องมีไข้ไม่สูงมาก (ต่ำกว่า 38.5 องศาเซลเซียส) และยังนอนหลับได้สบายดี การปล่อยให้น้องได้พักผ่อนถือเป็นสิ่งสำคัญที่สุดค่ะ แต่ถ้าหากน้องมีไข้สูง

เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นได้ค่ะ! ลองเช็กปัจจัยพื้นฐานง่ายๆ ก่อนนะคะ เช่น น้องอาจจะกำลังหิว เหนื่อย หรือหนาวเกินไปหรือเปล่า บางทีเขาอาจจะยังไม่คุ้นเคยกับสัมผัสแบบนี้ค่ะ

เป็นข้อสังเกตที่ดีมากค่ะ แม้ว่าทักษะการเคี้ยวของเด็กวัยนี้ยังพัฒนาไม่เต็มที่ แต่ส่วนใหญ่ก็สามารถจัดการกับอาหารอ่อนๆ ได้แล้วค่ะ ลองสังเกตดูว่าเวลาเขากินขนมที่ชอบ

ยังไม่สายเกินไปแน่นอนค่ะ! แม้ว่าช่วงเวลาทองในการปรับรูปทรงศีรษะจะอยู่ในช่วง 4-6 เดือนแรก แต่กะโหลกศีรษะของน้องยังคงมีความนุ่มและยืดหยุ่นอยู่ค่ะ ในวัยนี้ที่น้องเริ่มชันคอ

เป็นเรื่องที่คุณแม่หลายคนเจอเลยค่ะ พัฒนาการในช่วงวัยนี้เขาจะเริ่มมีความคิดเป็นของตัวเองและสนใจสิ่งรอบข้างมากขึ้น การอมข้าวอาจเป็นวิธีที่เขาใช้บอกว่า "หนูยังไม่หิว"

เข้าใจเลยค่ะว่าเป็นสถานการณ์ที่น่าเหนื่อยใจมากๆ ลองสังเกต "กิจวัตรก่อนนอน" ของเราดูนะคะ กิจกรรมที่ตื่นเต้นเกินไป เช่น การวิ่งเล่น หรือการดูการ์ตูนก่อนนอน

เป็นคำถามที่สำคัญมากเลยค่ะ จุดสังเกตที่ชัดเจนที่สุดของภาวะหยุดหายใจขณะหลับ (OSA) คือ "ลักษณะการกรนที่ไม่สม่ำเสมอ" ค่ะ น้องจะกรนเสียงดังสลับกับมีช่วง

เป็นเรื่องปกติมากเลยค่ะที่น้องจะดิ้นกลับมาในท่าที่เขาสบายที่สุด! ท่านอนหงายเป็นท่านอนที่ปลอดภัยที่สุดในการลดความเสี่ยงของภาวะ SIDS (โรคไหลตายในทารก)

เป็นคำถามที่ดีมากเลยค่ะ เพราะความต้องการของเด็กขวบกว่าๆ จะเริ่มแตกต่างจากเบบี๋แล้วค่ะ ในวัยนี้การร้องให้อุ้มอาจจะเป็นส่วนผสมระหว่างความต้องการความอบอุ่นจริงๆ

เป็นคำถามที่สำคัญมากเลยค่ะ ถ้าเป็นเพราะหวัดคัดจมูก อาการนอนอ้าปากมักจะเกิดขึ้น "ชั่วคราว" และจะหายไปเมื่ออาการหวัดดีขึ้นค่ะ แต่ถ้าหากน้องยังคงนอนอ้าปากเป็นประจำ

การนอนผวาหรือสะดุ้งตื่นเป็น "ปฏิกิริยารีเฟล็กซ์" ตามปกติของทารกที่เรียกว่า Moro Reflex ค่ะ ซึ่งไม่ได้หมายความว่าเขาหลับไม่สนิทเสมอไปค่ะ

เป็นเรื่องคลาสสิกที่ทุกบ้านต้องเจอเลยค่ะ เข้าใจความหวังดีของผู้ใหญ่ แต่หลักการแพทย์สมัยใหม่สนับสนุนการอุ้มเพื่อสร้างความผูกพันที่มั่นคงค่ะ (Secure Attachment)

เป็นความเชื่อที่พบบ่อยมากเลยค่ะ แต่จริงๆ แล้วน้ำมูกสีเขียวหรือสีเหลือง "ไม่ได้หมายความว่า" เป็นการติดเชื้อแบคทีเรียเสมอไปนะคะ! ส่วนใหญ่มักเกิดจากการที่เซลล์เม็ดเลือดขาวของร่างกาย

เข้าใจเลยค่ะว่าเห็นแล้วตกใจมาก แต่ส่วนใหญ่มักจะไม่ใช่อาการที่อันตรายร้ายแรงนะคะ สาเหตุที่พบบ่อยที่สุดคืออากาศในห้องนอนที่แห้งเกินไป (โดยเฉพาะห้องที่เปิดแอร์หรือฮีตเตอร์)

เข้าใจความกังวลของคุณแม่เลยค่ะ! แม้ว่าท่านอนหงายจะเป็นท่าที่ปลอดภัยที่สุดในการลดความเสี่ยงของภาวะ SIDS (โรคไหลตายในทารก) แต่ถ้าหากน้องสามารถพลิก

เป็นความเชื่อที่ได้ยินกันบ่อย แต่ในทางการแพทย์แล้ว "ห้ามเด็ดขาด" เลยนะคะ! การให้นอนคว่ำในขณะที่ผู้ใหญ่หลับและไม่ได้เฝ้าดูนั้น เพิ่มความเสี่ยงของภาวะ SIDS

เป็นเรื่องปกติมากค่ะที่เด็กๆ จะยึดติดกับ "Comfort Food" หรืออาหารที่คุ้นเคยเวลาไปอยู่ในที่ที่ไม่คุ้นเคยค่ะ ในช่วงเวลาสั้นๆ ของการเดินทาง การที่เขายอมทานอะไรสักอย่างก็ถือว่าดีมากแล้วค่ะ

เป็นคำถามที่ดีมากเลยค่ะ สัญญาณที่บ่งบอกว่าน่าจะมีเสมหะเหนียวข้นจริงๆ คือน้องมักจะมีอาการ "ไอร่วมด้วย" และเวลาไอดูเหมือนจะไอไม่สุด

เข้าใจเลยค่ะว่าเป็นสถานการณ์ที่น่าเหนื่อยใจมาก ลองเตรียม "กล่องของว่างมหาสนุก" ที่มีของกินเล่นที่ดีต่อสุขภาพหลากหลายชนิด เช่น ผลไม้หั่นชิ้นเล็กๆ, ขนมปังกรอบรสจืด

เป็นวิธีที่ดูเหมือนจะตรงไปตรงมาที่สุด แต่ก็มักจะสร้างความกดดันให้น้องโดยไม่รู้ตัวค่ะ ลองเปลี่ยนจากการ "บังคับให้พูดตาม" เป็นการ "บรรยาย" สิ่งที่กำลังทำอยู่ให้เขาฟังบ่อยๆ

เข้าใจเลยค่ะว่าทำให้ใจไม่ดีเลย ลองเช็กปัจจัยพื้นฐานง่ายๆ ก่อนนะคะ เช่น น้ำอุ่นพอดีไหม หรือเขาอาจจะแค่ตกใจกับความรู้สึกที่เปลี่ยนไป ลองใช้ผ้าอุ่นๆ

เป็นคำถามที่คุณพ่อคุณแม่ถามกันเยอะมากเลยค่ะ! จริงๆ แล้วทารกแรกเกิดที่ยังไม่ได้คลานไปไหน ไม่จำเป็นต้องอาบน้ำทุกวันก็ได้ค่ะ การเช็ดตัวด้วยผ้าชุบน้ำอุ่น

เป็นอาการที่น่าสงสัยโรคมือเท้าปากมากๆ เลยค่ะ โดยเฉพาะการมีตุ่มขึ้นหลายตำแหน่งร่วมกับการไม่ยอมทานอาหาร ซึ่งมักเกิดจากแผลร้อนในที่เจ็บปวดในปากค่ะ

เป็นความเชื่อที่ได้ยินกันมานานเลยค่ะ แต่ในทางการแพทย์แล้ว "ห้ามทำเด็ดขาดเลยนะคะ!" การพยายามกลืนก้อนข้าวเหนียวหรืออาหารแข็งๆ

เข้าใจเลยค่ะว่าพอเห็นตุ่มขึ้นแล้วก็ใจไม่ดี ถ้าเป็นแค่ตุ่มใสๆ ไม่กี่ตุ่มโดยไม่มีไข้หรืออาการป่วยอื่นๆ ก็อาจจะเกิดจากสาเหตุที่ไม่น่ากังวลค่ะ เช่น การเสียดสี, แมลงกัดต่อยเล็กน้อย

อาการนี้น่าจะเป็นสัญญาณของภาวะ "ท่อน้ำตาอุดตัน" ซึ่งพบได้บ่อยมากในทารกแรกเกิดค่ะ เกิดจากเยื่อบางๆ ที่ปลายท่อน้ำตายังไม่เปิดออกอย่างสมบูรณ์

เป็นเสียงที่ทำให้คุณพ่อคุณแม่ใจหายได้เลยค่ะ แต่สำหรับทารกเล็กๆ แล้ว เสียงครืดคราดนี้มักจะ "ไม่ใช่อาการกรน" จริงๆ ค่ะ ส่วนใหญ่มักเกิดจากช่องจมูกที่ยังเล็กมาก

เป็นเรื่องมหัศจรรย์ของพันธุกรรมเลยค่ะ! สีผิวของคนเราถูกควบคุมโดยยีนหลายตัวมากค่ะ ลูกน้อยอาจจะได้รับยีนเด่นหรือยีนด้อยมาจากรุ่นปู่ย่าตายายก็เป็นได้ ทำให้เขามีสีผิวที่แตกต่างจากคุณ

เป็นภาพที่คุ้นเคยสำหรับคุณพ่อคุณแม่มือใหม่เลยค่ะ! สีผิวแดงๆ หรืออมม่วงเล็กน้อยตอนแรกเกิดเป็นเรื่องปกติมากค่ะ เกิดจากระบบไหลเวียนโลหิตของน้องที่ยังปรับตัวกับโลกภายนอกไม่เต็มที่