เด็กแต่ละคนใช้เวลาปรับตัวไม่เท่ากันค่ะคุณแม่ ลองชวนเขาเล่นบทบาทสมมติเป็นเพื่อนกันที่บ้าน หรืออ่านนิทานเกี่ยวกับมิตรภาพ จะช่วยให้เขาเข้าใจการมีปฏิสัมพันธ์กับเพื่อนมากขึ้นค่ะ และอาจจะลองนัดเจอเพื่อนๆ

เข้าใจเลยค่ะว่าพลังงานแทบไม่เหลือแล้ว!

เป็นเรื่องที่เจอได้บ่อยเลยค่ะ ไม่ต้องตกใจนะคะ เป็นเพราะฮอร์โมนการตั้งครรภ์ที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างมาก สามารถทำให้ร่างกายของเราไวต่อสิ่งกระตุ้นต่างๆ มากขึ้นค่ะ บางครั้งอาการเหล่านี้ก็จะหายไปเองหลังคลอด

เป็นคำถามที่ดีมากค่ะ การใช้แผ่นอนามัย "อาจเพิ่มความเสี่ยงได้" หากใช้ไม่ถูกวิธีค่ะ เพราะแผ่นอนามัยจะทำให้บริเวณจุดซ่อนเร้นมีความ "อับชื้น" มา

เป็นการเตรียมตัวที่ดีมากเลยค่ะ! คุณแม่สามารถเริ่มฝึกได้เลยค่ะ การฝึกหายใจลึกๆ ยาวๆ (หายใจเข้าทางจมูกช้าๆ แล้วค่อยๆ ผ่อนลมออกทางปากยาวๆ)

เป็นอาการยอดฮิตของคุณแม่ไตรมาส 3 เลยค่ะ และไม่ต้องอายนะคะ สาเหตุก็เพราะ "มดลูกที่ขยายใหญ่" และ "ศีรษะของลูกน้อย" กำลังกดทับลงบนกระเพาะปัสสาวะ

เข้าใจเลยค่ะว่าเป็นช่วงเวลาที่ทรมานมาก ท่านอนที่ดีและปลอดภัยที่สุดในไตรมาสนี้คือ "ท่านอนตะแคงซ้าย" ค่ะ เพราะท่านี้จะช่วยให้เลือดไหลเวียนไป

เป็นอาการยอดฮิตของคุณแม่ช่วงนี้เลยค่ะ สาเหตุหลักก็เพราะ "มดลูกที่ขยายใหญ่ขึ้น" จนยอดมดลูกอยู่สูงระดับสะดือแล้ว กำลังเริ่ม "เบียดและดันอวัยวะ

เป็นอาการที่พบได้บ่อยในช่วงนี้ค่ะ สาเหตุไม่ได้มาจากน้ำหนักท้องเพียงอย่างเดียว แต่เกิดจาก:
การเปลี่ยนแปลงของจุดศูนย์ถ่วง: มดลูกที่เริ่มขยาย

อาการนี้เป็นผลโดยตรงจาก "ฮอร์โมนโปรเจสเตอโรน (Progesterone)" ที่พุ่งสูงขึ้นอย่างมหาศาลในช่วงไตรมาสแรกค่ะ ฮอร์โมนตัวนี้มีฤทธิ์คล้ายๆ ยานอนหลับ

เป็นคำถามที่ดีมากและเป็นจุดที่ทำให้คุณแม่มือใหม่สับสนที่สุดค่ะ! ในทางการแพทย์ การนับอายุครรภ์จะเริ่มนับจาก "วันแรกของประจำเดือนครั้งสุดท้าย"

ยินดีด้วยค่ะ! โอกาสท้องสูงมากถึง 99% เลยค่ะ ขีดที่สองแม้จะจางแค่ไหน ก็หมายถึงร่างกายของคุณแม่ได้เริ่มผลิตฮอร์โมน hCG (ฮอร์โมนตั้งครรภ์) ออก

เป็นเรื่องที่ทำให้คุณพ่อคุณแม่กังวลและเสียใจได้มากเลยค่ะ แต่พฤติกรรมก้าวร้าวในเด็กเกิดจากหลายสาเหตุที่ซับซ้อนมาก ไม่ว่าจะเป็นพื้นฐานอารมณ์ของเขาเอง

เข้าใจเลยค่ะว่าน่าเหนื่อยใจแค่ไหน จริงๆ แล้วเขาไม่ได้ตั้งใจจะไม่ฟังนะคะ แต่เป็นเพราะการทำงานของสมองที่ทำให้เขามีปัญหาในการควบคุมตัวเอง

เข้าใจความกังวลเลยค่ะ แต่คุณแม่ไม่ต้องเป็นห่วงจนเกินไปนะคะ ข้อมูลพัฒนาการรายสัปดาห์เป็นเพียงค่าเฉลี่ยโดยทั่วไปเท่านั้น ทารกแต่ละคนมีจังหวะการเติบโต

ควรลองตรวจสอบสาเหตุที่ลูกตื่นกลางดึก เช่น ความหิว ความเจ็บป่วย หรือความกลัว หากเป็นเพราะความกลัว ควรพูดคุยปลอบโยนลูกและสร้างความรู้สึกปลอดภัยให้กับลูก หากเป็นเพราะความหิว

ผู้ปกครองควรจัดตารางการนอนหลับให้เป็นเวลา พยายามเข้านอนและตื่นนอนให้ตรงเวลาทุกวัน ควรสร้างกิจวัตรก่อนนอนที่ผ่อนคลาย เช่น อาบน้ำอุ่น อ่านหนังสือ หรือฟังเพลง และหลีกเลี่ยงการดื่มคาเฟอีน

นอกจากการเลือกชื่อตามวันเกิดแล้ว ยังสามารถเลือกชื่อตามความหมายของคำ ชื่อที่สื่อถึงคุณลักษณะที่ต้องการให้ลูกมี หรือชื่อที่ไพเราะและเข้ากับนามสกุลก็เป็นอีกวิธีที่ได้รับความนิยม

ควรศึกษาหลักโหราศาสตร์อย่างละเอียด และควรพิจารณาความหมายของชื่ออย่างรอบคอบ เนื่องจากบางครั้งความหมายอาจมีความซับซ้อนและแตกต่างกันไปตามบริบท

เป็นเรื่องปกติและเป็นสัญญาณที่ดีของการเติบโตเลยค่ะคุณแม่! เขาเพิ่งค้นพบว่าตัวเองมีความคิดเป็นของตัวเองและกำลังทดลองใช้ 'พลัง' ใหม่นี้ค่ะ ลองเปลี่ยนจากการออกคำสั่งเป็นการให้ "ทางเลือก"

เป็นเรื่องที่ทำให้ใจสลายได้เลยใช่ไหมคะ ภาวะนี้เรียกว่า "ความกังวลจากการแยกจาก" (Separation Anxiety) ค่ะ เกิดจากเขาเพิ่งเข้าใจว่าแม่กับเขาเป็นคนละคนกัน แต่ยังไม่เข้าใจว่าถึงแม่จะหายไปจากสายตา

มีแน่นอนค่ะ และเป็นตัวกระตุ้นชั้นดีเลย:
น้ำอัดลมและโซดา: แก๊สในเครื่องดื่มจะไปเพิ่มแรงดันในกระเพาะอาหาร ทำให้กรดยิ่งถูกดันย้อนกลับขึ้นมาได้

เป็นคำถามที่ดีมากเลยค่ะคุณแม่ ให้สังเกตที่ "ความสุข" ของลูกเป็นหลักค่ะ ถ้าลูกยังคงสนุก มีความกระตือรือร้นที่จะทำ แม้บางครั้งจะเจอเรื่องยากบ้าง นั่นคือการส่งเสริมค่ะ แต่ถ้าการไปทำกิจกรรมนั้นๆ

ก่อนอื่นคุณแม่ต้องใจเย็นๆ และลองพูดคุยเพื่อหาสาเหตุที่แท้จริงก่อนนะคะ อย่าเพิ่งด่วนสรุปว่าเขา "เบื่อ" แล้วค่ะ บางครั้งสาเหตุอาจจะมาจากเรื่องอื่น เช่น มีปัญหากับเพื่อนในห้องเรียน, รู้สึกกดดันจากครูผ

"มีโอกาสท้องสูงมากค่ะ" การหลั่งนอกเป็นวิธีการคุมกำเนิดที่ "ไม่มีประสิทธิภาพและไม่แนะนำอย่างยิ่ง" ค่ะ เหตุผลเพราะ:
อสุจิปนเปื้อน: ในระหว่าง

การมีเลือดออกเล็กน้อยในช่วงแรกของการตั้งครรภ์สามารถเกิดขึ้นได้และไม่จำเป็นต้องเป็นอันตรายเสมอไปค่ะ สาเหตุที่พบบ่อยคือ เลือดล้างหน้าเด็ก

เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นได้ค่ะ เด็กแต่ละคนมีการรับรู้ต่อการสัมผัสไม่เหมือนกัน ไม่ต้องกังวลนะคะ ลองเปลี่ยนเป็นการสัมผัสแบบอื่นที่เขาอาจจะชอบมากกว่าดูค่ะ เช่น การลูบหลังเบาๆ, การจับมือ, การแปะมือไฮไฟว์

ปกติและเป็นสัญญาณที่ดีมากค่ะ! ขณะที่ลูกกำลังดูดนม ร่างกายของคุณแม่จะหลั่งฮอร์โมน "ออกซิโทซิน (Oxytocin)" ออกมา ซึ่งฮอร์โมนตัวนี้จะไปกระตุ้น

จริงส่วนหนึ่งค่ะ! การมีพี่น้องที่อายุใกล้กันพูดคุยเล่นด้วยตลอดเวลาจะทำให้น้องได้ "ซึมซับ" คำศัพท์และประโยคต่างๆ เยอะขึ้น แต่ก็ไม่ได้การันตี

เป็นเรื่องปกติสุดๆ เลยค่ะคุณแม่! กล้ามเนื้อที่ใช้ในการพลิกคว่ำกับพลิกหงายมันคนละชุดกันค่ะ น้องเลยมักจะทำได้ทีละอย่างก่อน เหมือนเราเรียนรู้

เป็นคำถามยอดฮิตที่คุณพ่อชอบเอามาขิงคุณแม่เลยค่ะ! จริงๆ แล้วเป็นเพราะเสียงพยัญชนะอย่าง 'ด' หรือ 'บ' มันเกิดจากการใช้ลิ้นและริมฝีปากด้านหน้า

เป็นเรื่องปกติมากๆ และเป็นสัญญาณที่ดีว่าน้องกำลังเรียนรู้เรื่อง "เหตุและผล" (cause and effect) ค่ะ! เขาจะสนุกกับการได้เห็นว่าพอเขาปาของไป