ตอบข้อสงสัย เรื่องการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่

1. ทำไมให้ลูกกินแต่นม จนถึง 6 เดือน

ทำไมให้ลูกกินแต่นม จนถึง 6 เดือน

 

จริงๆแล้ว กระเพาะของทารกแรกเกิด มีขนาดเล็กมากค่ะ โดยในช่วงแรกเกิด ขนาดกระเพาะของทารกจะมีขนาดเท่ากับลูกเชอร์รี่ และขนาดของกระเพาะจะค่อยๆขยายขึ้นช้าๆ เท่ากับขนาดของ ไข่ไก่ ประมาณ 1 เดือน หลังคลอด

ตารางขนาดกระเพาะเด็กทารกหลังคลอด

นอกจากนี้ ตับอ่อนของทารกยังทำงานไม่สมบูรณ์ ทำให้การหลั่งน้ำย่อยไม่สมบูรณ์เช่นกัน แปลง่ายๆคือ ย่อยไม่เก่ง ธรรมชาติจึงสร้าง นมแม่ ให้เหมาะกับระบบย่อยของทารกตั้งแต่แรกเกิด ทั้งย่อยง่าย ดูดซึมง่าย และ มีปริมาณน้ำและสารอาหารครบถ้วน พอเหมาะกับความต้องการของทารก

นมแม่มีคุณสมบัติ Hypo-Allergenic (H.A.) ที่อ่อนโยนต่อระบบภูมิคุ้มกันของทารก นมแม่ อุดมไปด้วยสารเสริมภูมิคุ้มกันตามธรรมชาติ ที่ช่วยให้ระบบป้องกันโรคของลูกแข็งแรงขึ้น มีโปรตีนบางส่วนที่ถูกย่อยให้มีขนาดเล็กลงตามธรรมชาติ หรือ PHP (Partially Hydrolyzed Proteins) ที่ช่วยลดภาระงานของระบบย่อยอาหาร ทำให้ลูกสบายท้องและย่อยโปรตีนได้ดีขึ้น พร้อมกันนี้ นมแม่ยังเป็นแหล่งของจุลินทรีย์สุขภาพอย่าง โพรไบโอติก บีแล็กทิส (B. lactis) ที่ช่วยสร้างสมดุลจุลินทรีย์ในลำไส้ ทำให้ระบบย่อยอาหารและภูมิคุ้มกันลำไส้ทำงานร่วมกันได้อย่างเหมาะสม ลดโอกาสการเกิดภูมิแพ้ และช่วยให้ลูกเจ็บป่วยน้อยลงในวัยทารก

และที่สำคัญ นมแม่อุดมด้วยสารอาหารกว่า 200 ชนิด มีสารอาหารสำคัญต่อพัฒนาการสมอง เช่น ดีเอชเอ (DHA), โอเมก้า 3,6,9 (Omega 3,6,9) และ แอลฟาแล็ค สฟิงโกไมอีลิน (Alphalac Sphingomyelin) ซึ่งมีบทบาทในการสร้างปลอกประสาทไมอีลิน ช่วยให้การส่งสัญญาณประสาทของสมองเป็นไปอย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ ทำให้ลูกเรียนรู้ จดจำ และพัฒนาทักษะต่าง ๆ ได้ดีขึ้นตั้งแต่ช่วงเริ่มต้นของชีวิต
 

ในทางกลับกัน บางคนที่มีความเชื่อผิดๆว่า ทารกกินแต่นมไม่น่าอิ่ม และพยายามหาป้อนอาหารอื่นๆให้ทารก ทั้งที่กระเพาะยังไม่สามารถจุปริมาณได้เพียงพอ เมื่อป้อนอาหารอื่นๆ เช่น กล้วย หรือข้าว ที่มีสารอาหารต่ำกว่านมแม่ ทำให้กระเพาะเต็มเร็ว ทั้งที่สารอาหารยังไม่พอ อาจทำให้ทารกขาดสารอาหารได้

นอกจากนี้ การป้อนอาหารอื่นๆ ที่ทารกยังไม่พร้อมจะย่อย เนื่องจากน้ำย่อยยังทำงานได้ไม่เต็มที่ ทำให้อาหารเหล่านี้ไม่ ย่อย เกิดลำไส้อุดตันได้ ทำให้ทารกมีอาการท้องอืด ปวดท้อง ลำไส้อักเสบ ซึ่งสามารถเสียชีวิตได้ จากที่เคยมีข่าวปรากฎอยู่ โดยตับอ่อนจะเริ่มหลั่งน้ำย่อยตอนประมาณ 4 เดือน ดังนั้น จึงเป็นที่มาว่า ทำไมปัจจุบัน เราควรให้ทารกกินแต่นม จนถึง 6 เดือนค่ะ

 

2. หลังฉีดวัคซีน ต้องปั๊มนมทิ้งไหม

หลังฉีดวัคซีน ต้องปั๊มนมทิ้งไหม

หลังฉีดวัคซีนใดๆ ไม่ว่าจะเป็น วัคซีน Covid19 หรือวัคซีนอื่นๆ เช่น วัคซีนไข้หวัดใหญ่ ไม่ต้องปั๊มนม ทิ้งค่ะ เนื่องจากเชื้อที่นำมาทำ วัคซีน เป็นเชื้อที่ทำให้อ่อนฤทธิ์อยู่แล้ว ก่อโรคไม่ได้ เมื่อแม่ฉีดวัคซีน และให้นมลูก จะไม่ส่งผ่านเชื้อ ก่อโรคไปยังลูกแน่นอน

 

Covid 19 Vaccine

 

ถึงแม้ว่า หลังฉีดวัคซีนอาจมีอาการไม่สบายตัว มีไข้ ปวดบวมแดงบริเวณที่ฉีด ก็ยังสามารถให้นมแม่ได้ค่ะ ทารกจะไม่ติดไข้จากแม่ เนื่องจากไข้ของแม่เกิดจากปฏิกิริยาของ ภูมิต้านทานโรคที่กำลังทำงาน และไข้นี้ไม่สามารถส่งผ่านทางน้ำนม ไปสู่ลูกได้

 

3. แม่ไม่สบายให้นมได้ไหม

แม่ไม่สบายให้นมได้ไหม

ตามปกติแล้ว ไม่ว่าคุณแม่จะมีอาการไม่สบาย เป็นหวัด มีไข้ ท้องเสีย เชื้อเหล่านี้ ไม่ได้ผ่าน ทางน้ำนมดังนั้น เมื่อแม่ไม่สบายด้วยอาการทั่วๆ ไปเหล่านี้ยังสามารถให้นมแม่ได้ค่ะ แต่ควรระวังการติดลูกทางอื่นแทนค่ะ เช่น หวัด ไม่ได้ติดทางการให้นม แต่ลูกอาจติดจากการไอจามหายใจรดกัน ดังนั้นขณะให้นมควรล้างมือให้สะอาด หรือใส่หน้ากากอนามัย ป้องกันการไอจามใส่ลูก หรือหากแม่เป็นเริม / สุกใส ก็ยังสามารถให้นมได้ เพราะเชื้อไม่ผ่านน้ำนม แต่ลูกอาจติดได้ทางการสัมผัส ดังนั้นควรระวังลูกสัมผัสโดนตุ่มน้ำของเรา ต้องล้างมือก่อน ให้นม อาจใช้การปั๊มนมให้ลูกกินแทนการกินจากเต้าก็ได้ค่ะ หากมีตุ่มขึ้นบริเวณใกล้กับเต้านมด้วย หากคุณแม่ให้นมจำเป็นต้องกินยา แนะนำให้ปรึกษา บุคลากรทางการแพทย์

 

4. นมแม่ใส แปลว่า ไม่มีสารอาหาร?

ในนมแม่ ทุกๆครั้งที่หลั่งออกมา จะมี 2 ส่วน คือ ส่วนหน้า กับส่วนหลัง ซึ่งรู้ไหมคะ ว่า ส่วนประกอบไม่เหมือนกัน

น้ำนมส่วนหน้าของคุณแม่

นมแม่ส่วนหน้า (foremilk)

มีส่วนประกอบของน้ำเป็นหลัก ดังนั้นจึงดูใส แต่จริงๆแล้วมีสารอาหารเต็มเปี่ยม ทั้งน้ำตาลแลคโตสที่เป็นสารอาหาร ที่สำคัญของสมอง โปรตีน วิตามิน และแร่ธาตุที่จำเป็น สำหรับการเติบโต

 

นมส่วนหลังของคุณแม่

นมส่วนหลัง (hindmilk)

มีส่วนประกอบหลักเป็นไขมัน ทำให้ข้นหนืดกว่า แต่คุณแม่หลายคนที่ปั๊มไม่เกลี้ยงเต้า หรือให้ลูกกินจากเต้าจะไม่เห็นว่ามีนมส่วนนี้ จึงทำให้เข้าใจ ผิดว่านมแม่มีแต่ใสๆได้ค่ะ

 

นอกจากนี้สารอาหารหลายตัว เป็นสารอาหารที่ละลายในน้ำ ดังนั้นจึงใส และไม่จำเป็นต้องเป็นตะกอนให้เห็นด้วยตาเปล่า ซึ่งสารอาหารหนึ่งที่สำคัญมาก และมองไม่ เห็นด้วยตาเปล่าจริงๆ นั่นคือ ภูมิต้านทานจากแม่ค่ะ ที่ส่งผ่านทางน้ำนมสู่ลูก ดังนั้น หมอจึงยืนยันว่า นมแม่ที่ใส ก็มีสารอาหารครบถ้วน แน่นอนค่ะ

 

5. หลัง 6 เดือน นมแม่มีสารอาหาร น้อยลงจริงหรือ?

หลัง 6 เดือน นมแม่มีสารอาหาร น้อยลงจริงหรือ

หลัง 6 เดือน นมแม่ ยังมีประโยชน์เหมือนเดิมค่ะ ไม่ได้ลดคุณค่าทางสารอาหารลง แต่เด็กหลัง 6 เดือน ต้องการสารอาหารที่มากขึ้น เพื่อใช้ในการเจริญเติบโต และพัฒนาการที่มากขึ้น โดยเฉพาะธาตุเหล็ก ที่ต้องการมากขึ้น จึงเป็นเหตุผลที่เด็กต้อง “กินเพิ่ม” เริ่มกินอาหารตามวัยเมื่ออายุครบ 6 เดือน แต่ไม่ได้แปลว่า นมแม่ “มีสารอาหารน้อยลง”

มันไม่เกี่ยวกันเลยค่ะ นมแม่ยังคงมีสารอาหารครบถ้วน และมีสิ่งที่จำเป็นสำหรับ ลูกเช่นเคย นั่นคือ ภูมิต้านทานที่ส่งผ่านจากนมแม่สู่ลูก ดังนั้น หลัง 6 เดือน แม่ท่านไหนที่ยังมีนมแม่อยู่ ยังไม่จำเป็นต้องเลิกนะคะ ยังสามารถให้นมลูกต่อได้ยาวๆ ตราบที่แม่ยังไหว ได้เลยค่ะ

 

6. แม่ให้นม กินกาแฟได้ไหม

โดยทั่วไปแล้ว คุณแม่ให้นมสามารถดื่มกาแฟได้ในปริมาณที่ไม่มากเกินไปได้ค่ะ โดยดูจากปริมาณของคาเฟอีนในเครื่องดื่ม เป็นหลัก แต่นอกจากกาแฟแล้ว ชาและช็อคโกแลตก็เป็นเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีนเช่นกัน ต้องอย่าลืมจำกัดปริมาณด้วยเช่นกันค่ะ

ปริมาณคาเฟอีนที่แนะนำคือ ไม่เกิน 200 มก.ต่อวัน ซึ่งเทียบเท่ากับ (โดยประมาณ เนื่องจากปริมาณคาเฟอีนขึ้นกับหลายปัจจัย)

คาเฟอีนมีผลต่อทารกอย่างไร-1
กาแฟ 2 แก้ว

 

คาเฟอีนมีผลต่อทารกอย่างไร-2

กาแฟชองพร้อมชง 3 ซอง

 

คาเฟอีนมีผลต่อทารกอย่างไร-3

น้ำอัดลมสีดำ 6 กระป๋อง

 

คาเฟอีนมีผลต่อทารกอย่างไร-4

อเมริกาโน่ 1 แก้ว

 

คาเฟอีนมีผลต่อทารกอย่างไร-5

ลาเต้ 3 แก้ว

 

คาเฟอีนมีผลต่อทารกอย่างไร

คาเฟอีนในปริมาณที่มากเกินไป อาจทำให้ทารกกระสับกระส่าย ร้องกวน งอแง หัวใจเต้นเร็ว หรือนอนไม่หลับได้ค่ะ โดยคาเฟอีนสามารถอยู่ในร่างกายคุณแม่ได้ 4-6 ชั่วโมง สูงสุดในช่วง 1-2 ชั่วโมงหลังดื่ม และความไวต่อคาเฟอีนของทารกแต่ละคน อาจไม่เท่ากัน ดังนั้นนอกจากจำกัดปริมาณคาเฟอีนต่อวันแล้ว คุณแม่อาจสังเกตอาการของลูกหากกระสับกระส่ายมาก ควรปั๊มนมทิ้งในช่วง 4-6 ชั่วโมงหลังดื่มเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีนทิ้งได้ค่ะ

 

7. โด๊ปอะไรดี ให้มีน้ำนมเยอะๆ

จริงๆแล้วสูตรการเพิ่มน้ำนม มีเยอะมาก แต่หมอขอแนะนำ “ตัวช่วย” มาให้แม่ๆเช็กลิสต์ตัวเองกันดูค่ะ

คุณแม่มือใหม่โด๊ปอะไรดี ให้มีน้ำนมเยอะ

 

1. ต้องดื่มน้ำให้เพียงพอ

อันนี้เป็นสิ่งสำคัญที่สุดของคนที่ให้นมค่ะ เนื่องจากถ้าปริมาณน้ำในร่างกายไม่เพียงพอ บำรุงด้วยอย่างอื่นยังไง นมแม่ก็มา น้อยได้เพราะปริมาณน้ำในร่างกายไม่เพียงพอ นอกจากนี้การฝืนปั๊มนมเยอะทั้งที่ดื่มน้ำไม่พอ จะทำให้ร่างกายของแม่ขาดน้ำ และยิ่งทำให้สุขภาพของแม่ทรุดโทรมเร็วขึ้นด้วยค่ะ โดยปริมาณที่แนะนำคือ มากกว่า 2-3 ลิตรต่อวันค่ะ

 

2. สมุนไพรที่มีฤทธิ์กระตุ้นน้ำนม

ที่นิยมนำมาใช้ เช่น ลูกซัด หัวปลี น้ำขิง ฯลฯ สามารถใช้ร่วมกันได้ค่ะ แต่ควรควบคู่กับการดื่มน้ำให้เพียงพอ กระตุ้นเต้านมสม่ำเสมอทุก 3 ชั่วโมง และพักผ่อนให้เพียงพอ ถึงจะเห็นผลค่ะ

สิ่งสำคัญคือ คุณแม่ต้องอย่าลืมดูแลตัวเองควบคู่ไปด้วย ด้วยการปรับสภาพอารมณ์ พยายามไม่เครียด พักผ่อนให้เพียงพอ เนื่องจากสุขภาพที่ทรุดโทรมและฮอร์โมนความเครียดก็ทำให้น้ำนมมาน้อยได้ค่ะ และสุดท้าย หากคุณแม่ยังกังวลใจเรื่องน้ำนมน้อยควรปรึกษาแพทย์เพื่อขอคำแนะนำเพิ่มเติมได้ค่ะ

 

8. สูตรปั๊มให้น้ำนมแม่ ไหลมาเทมา

สำหรับแม่ๆสายปั๊ม ที่อยากให้น้ำนมมาเยอะๆ วิธีคือ

 

1. ปั๊มนมทุก 3 ชั่วโมง

คุณแม่ปั๊มนมทุก 3 ชั่วโมง

เพื่อกระตุ้นการหลั่งฮอร์โมน oxytocin ให้สม่ำเสมอ ทำให้น้ำนมแม่ไหลดี ต่อเนื่องได้ค่ะ

 

2. ปั๊มทีละ 2 ข้าง พร้อมกัน

คุณแม่ปั๊มทีละ 2 ข้าง พร้อมกัน

หรือกรณีที่ให้ ลูกเข้าเต้า อาจใช้เครื่อง ปั๊มนมปั๊มอีกข้างพร้อมกัน เพื่อหลอกร่างกายว่า มีลูกแฝด ทำให้ร่างกาย ต้องเพิ่มการผลิตน้ำนม

 

3. สูตรปั๊ม แบบ Power Pump (20-10-10-10-10)

วิธีทำคือ ปั๊มนมทีละ 2 ข้าง ปั๊มแล้วพักเป็นรอบๆ โดยปั๊ม 20 นาที - พัก 10 นาที - ปั๊ม10นาที - พัก 10 นาที - ปั๊ม 10 นาที นับเป็น 1 เซ็ต ทำ Power Pump วันละ 1-2 เซ็ต

แต่ที่สำคัญที่สุดคือ การเลือกเครื่องปั๊มนมให้เหมาะกับเราด้วยค่ะ เลือกกรวยปั๊มนมที่มีขนาดเหมาะสม เนื่องจากถึงใช้สูตร ปั๊มทุกสูตรแล้ว แต่หากกรวยปั๊มนมขนาดไม่เหมาะสม หรือเครื่องปั๊มเบาไป/แรงไป ปั๊มแล้วเจ็บ ก็ทำให้น้ำนมมาน้อย ได้เช่นกันค่ะ

 

9. ลูกกินนมแม่จากเต้า จะรู้ได้อย่างไรว่า ได้รับน้ำนมเพียงพอ

ลูกกินนมแม่จากเต้า จะรู้ได้อย่างไรว่า ได้รับน้ำนมเพียงพอ

ในกรณีกินนมจากเต้า คุณแม่หลายคนสงสัยว่า น้ำนมแม่ ไหลดีไหม? ลูกได้รับนมพอไหม? จะดูอย่างไร ในขณะให้นม วิธีสังเกตว่า ลูกได้รับน้ำนมพอหรือไม่ ให้ดูว่าที่เต้า นมอีกข้างมีน้ำนมไหลซึมออกมาหรือไม่ค่ะ

ซึ่งอาการที่น้ำนมอีกข้างไหลออกมาด้วยนี้ เรียกว่า Led down reflex เนื่องจากเป็นการตอบสนองของฮอร์โมนหลั่งน้ำนม ทำให้น้ำนมอีกข้างไหลออกมาด้วย ช่วยให้แม่ ๆ มั่นใจได้ค่ะว่าข้างที่ลูกดูด มีน้ำนมไหลออกมาแน่นอน

ส่วนปริมาณนม การดูว่าลูกได้รับปริมาณนมเพียงพอไหม ให้ดูการขับถ่ายของลูกค่ะ โดยเด็กทารกแรกเกิด เมื่อได้รับ น้ำนมเพียงพอ จะปัสสาวะวันละ 6 ครั้งขึ้นไป อุจจาระ 4 ครั้ง ขึ้นไป (นับรวมกันใน 24 ชั่วโมง) นอกจากนี้ ยังสามารถดูได้จาก น้ำหนักของลูก โดยเด็กทารกควรมีน้ำหนักขึ้นตามนี้

 

น้ำหนักตามเกณฑ์ของเด็กทารก

 

  • 0-3 เดือน น้ำหนักทารก ขึ้นเดือนละ 600-800 กรัม
  • 4-6 เดือน น้ำหนักทารก ขึ้นเดือนละ 400-600 กรัม

ควรติดตามน้ำหนักลูกทุกครั้งที่ไปฉีดวัคซีน โดยเทียบกับกราฟมาตรฐานการเจริญเติบโตเกณฑ์ปกติค่ะ เพื่อดูว่าน้ำหนัก ของลูก ขึ้นตามเกณฑ์หรือไม่ เนื่องจากการดูด้วยตาเปล่าอาจทำให้คลาดเคลื่อนได้

 

10. ทำไมห้ามอุ่นนมแม่ ด้วยไมโครเวฟ

ทำไมห้ามอุ่นนมแม่ ด้วยไมโครเวฟ

 

ในกรณีที่แม่ๆที่ทำนมสต็อกให้ลูกกิน การเอานมสต็อกมาอุ่น ควรอุ่นในชามน้ำร้อน ไม่ควรอุ่นในไมโครเวฟค่ะ เนื่องจาก การอุ่นในไมโครเวฟ ความร้อนในนมไม่สม่ำเสมอ ทำให้เกิดการไหม้ในบางจุดได้ ในขณะที่บางจุดยังเย็น เมื่อทารกกินอาจทำให้บางจุดที่ความร้อนสูง ลวกปากและลิ้นของ ทารกได้

นอกจากนี้ การอุ่นในไมโครเวฟ ยังทำลายสารภูมิต้านทานและสารอาหารในนมแม่อีกด้วย ดังนั้นจึงไม่ควรอุ่นนมแม่ในไมโครเวฟ วิธีการที่ถูกต้องคือ

1. ย้ายถุงนมแม่แช่แข็งจากช่องฟรีส ลงมาช่องธรรมดา ให้ละลายเองในตู้เย็นข้ามคืน 

2. ก่อนให้ลูกกิน ใช้วิธีแช่ถุงนมในชามน้ำอุ่น

การอุ่นนมที่ถูกวิธี นอกจากไม่ลวกปากและลิ้นของลูก ยังช่วย รักษาคุณค่าและสารอาหารของนมแม่ให้ได้มากที่สุดอีกด้วยค่ะ

All articles

วิธีบีบน้ำนมด้วยมือ ให้น้ำนมไหลดีขึ้น และเทคนิควิธีนวดเปิดท่อน้ำนม
บทความ
คุณแม่ให้นมบุตร

วิธีบีบน้ำนมด้วยมือ ให้น้ำนมไหลดีขึ้น และเทคนิควิธีนวดเปิดท่อน้ำนม

น้ำนมน้อย คัดเต้า? บทความนี้มีคำตอบ! สอนเทคนิคบีบนมและนวดกระตุ้นน้ำนม ลดคัดเต้า แก้ท่อนมอุดตัน พร้อมวิธีนวดเต้าหลังคลอดและนวดเปิดท่อน้ำนมที่ทำตามได้จริง

13นาที อ่าน

ตารางกินนมทารก เด็กแรกเกิดถึง 1 ปีกินนมกี่ออนซ์? ปริมาณเท่าไหร่
บทความ
รวมบทความการตั้งครรภ์ ตั้งแต่สัญญาณการตั้งครรภ์ ไปจนก่อนคลอด

ตารางกินนมทารก เด็กแรกเกิดถึง 1 ปีกินนมกี่ออนซ์? ปริมาณเท่าไหร่

ไขข้อสงสัยการให้นมลูก! ดูตารางให้นมทารกและปริมาณนมที่เหมาะสม รู้ชัดว่าเด็กแรกเกิดถึง 1 ปีกินนมกี่ออนซ์ พร้อมสัญญาณหิว อิ่ม และวิธีรับมือเมื่อลูกกินเยอะไป

13นาที อ่าน

วิตามินสำหรับเด็ก ตัวช่วยเสริมภูมิคุ้มกันลูกน้อยให้แข็งแรง
บทความ
รวมบทความ แนะนำอาหารที่ควรทานของเด็กวัยแรกเกิด - 1 ปี

วิตามินสำหรับเด็ก ตัวช่วยเสริมภูมิคุ้มกันลูกน้อยให้แข็งแรง

วิตามินเด็ก สำคัญแค่ไหน ในแต่ละวันลูกอาจได้รับวิตามินจากหลากหลายแหล่งอาหาร วิตามินซีสำหรับเด็กจึงเป็นอีกหนึ่งทางเลือกเสริมที่คุณพ่อคุณแม่ควรให้ความสำคัญ

16นาที อ่าน

Colostrum คืออะไร น้ำนมเหลืองที่มีสฟิงโกไมอีลิน เสริมภูมิคุ้มกันลูก
บทความ
รวมบทความเกี่ยวกับ แอลฟาแล็ค สฟิงโกไมอีลิน ตัวช่วยพัฒนาสมอง

Colostrum คือ น้ำนมสีเหลืองที่มีสฟิงโกไมอีลิน เสริมภูมิคุ้มกันลูก

Colostrum คือ น้ำนมสีเหลืองส่วนหน้าที่อุดมไปด้วยสารอาหารสำคัญที่มี แอลฟาแล็ค สฟิงโกไมอีลิน ช่วยเสริมภูมิคุ้มกันให้ลูกน้อยแข็งแรงและมีพัฒนาการทางสมองที่ดี

10 กิจกรรมฝึกสมองวัยซน เสริมพัฒนาการให้ลูกสมองไว
บทความ
รวมเคล็ดลับ คำแนะนำการพัฒนาด้านสมองของลูกน้อย

10 กิจกรรมฝึกสมองวัยซน เสริมพัฒนาการให้ลูกสมองไว

กิจกรรมฝึกสมองเด็ก ช่วยพัฒนาสมองลูกน้อยวัย 3-5 ปี ให้ลูกน้อยมีพัฒนาการทางสมองที่ดี ฉลาดสมวัย และมีความคิดสร้างสรรค์ กิจกรรมฝึกสมองเด็กแบบไหน เหมาะสำหรับลูก

 

เด็กทารกสะอึก เกิดจากอะไร พร้อมวิธีช่วยบรรเทาอาการลูกสะอึก
บทความ
รวมบทความ ทารกแรกเกิด การดูแลเด็กทารกให้ดีที่สุด

เด็กทารกสะอึก เกิดจากอะไร พร้อมวิธีช่วยบรรเทาอาการลูกสะอึก

เด็กทารกสะอึก เกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ เมื่อลูกสะอึกทำให้คุณพ่อคุณแม่เกิดความกังวลว่าลูกจะเป็นอันตรายหรือเปล่า ดูแลเด็กทารกสะอึกได้ยังไงบ้าง ไปดูกัน

8นาที อ่าน

ของใช้เด็กแรกเกิด ของใช้เด็กอ่อนมีอะไรบ้าง เตรียมของก่อนคลอดลูก
บทความ
รวมบทความ ทารกแรกเกิด การดูแลเด็กทารกให้ดีที่สุด

30 ของใช้เด็กแรกเกิด ของใช้เด็กอ่อนมีอะไรบ้าง เตรียมของก่อนคลอดลูก

30 ของใช้เด็กแรกเกิดก่อนคลอด ของใช้เด็กอ่อนคุณแม่ควรเตรียมอะไรก่อนคลอดบ้าง ของใช้เด็กแรกเกิดแบบไหนที่จำเป็นและควรเตรียมไว้ก่อนคุณแม่คลอดเจ้าตัวเล็ก

10นาที อ่าน

ธาตุเหล็ก กุญแจสำคัญสู่พัฒนาการสมองและร่างกายของลูกรัก
บทความ
รวมบทความ ทารกแรกเกิด การดูแลเด็กทารกให้ดีที่สุด

ธาตุเหล็ก กุญแจสำคัญสู่พัฒนาการสมองและร่างกายของลูกรัก

ไขข้อสงสัย! ธาตุเหล็ก คืออะไร ธาตุเหล็กมีประโยชน์อย่างไรกับลูกน้อย ช่วยพัฒนาสมองและสร้างเม็ดเลือดแดงให้แข็งแรง พร้อมวิธีป้องกันภาวะขาดธาตุเหล็กที่แม่ต้องรู้

10นาที อ่าน

ภูมิแพ้ในเด็กเล็ก พร้อมวิธีดูแลลูก เมื่อเด็กเป็นภูมิแพ้
บทความ
รวมบทความ ทารกแรกเกิด การดูแลเด็กทารกให้ดีที่สุด

ภูมิแพ้ในเด็กเล็ก พร้อมวิธีดูแลลูก เมื่อเด็กเป็นภูมิแพ้

ภูมิแพ้ในเด็กเกิดจากอะไรกันแน่? บทความนี้จะชวนคุณพ่อคุณแม่มาไขทุกข้อสงสัย ตั้งแต่สาเหตุ อาการที่ต้องสังเกต ไปจนถึงวิธีดูแลลูกน้อยเบื้องต้นเมื่อเกิดอาการแพ้

12นาที อ่าน

เด็กแพ้นมวัว มีอาการอย่างไร พร้อมวิธีสังเกตเมื่อลูกแพ้นมวัว
บทความ
รวมบทความ ทารกแรกเกิด การดูแลเด็กทารกให้ดีที่สุด

เด็กแพ้นมวัว มีอาการอย่างไร พร้อมวิธีสังเกตเมื่อลูกแพ้นมวัว

ไขทุกข้อสงสัยเรื่องอาการเด็กแพ้นมวัว ตั้งแต่สาเหตุที่แท้จริง อาการที่พบบ่อย บทความนี้จะพาไปรู้จักเทคนิคการสังเกตเพื่อแยกความแตกต่างระหว่างลูกแพ้นมวัวกับการแพ้อาหารอื่นๆ

11นาที อ่าน

โฟลิคสำหรับคนท้อง สำคัญอย่างไร? กินตอนไหน ปริมาณเท่าไหร่
บทความ
คู่มือคุณแม่มือใหม่ สำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์ พร้อมเคล็ดลับดูแลตัวเอง

โฟลิคสำหรับคนท้อง สำคัญอย่างไร? กินตอนไหน ปริมาณเท่าไหร่

วางแผนตั้งครรภ์ต้องรู้ รู้จัก ประโยชน์โฟลิค สำหรับคนท้องที่สำคัญต่อพัฒนาการสมองทารก! เรียนรู้ว่าควรกินตอนไหน ปริมาณเท่าไหร่ พร้อมคำแนะนำเพื่อสุขภาพแม่และลูก

8นาที อ่าน

โคลีน คืออะไร ตัวช่วยพัฒนาการเรียนรู้และสมองของลูกรัก
บทความ
รวมบทความ ทารกแรกเกิด การดูแลเด็กทารกให้ดีที่สุด

โคลีน คืออะไร ตัวช่วยพัฒนาการเรียนรู้และสมองของลูกรัก

โคลีน คืออะไร (Choline) สารอาหารสำคัญที่มีบทบาทในการพัฒนาระบบประสาทและสมองของลูก ช่วยส่งเสริมด้านการเรียนรู้ ความจำ และการสื่อสาร ไปดูประโยชน์ของโคลีนกัน

15นาที อ่าน

โอเมก้า 3 6 9 คืออะไร? ทำไมถึงสำคัญต่อพัฒนาการเด็กแต่ละวัย
บทความ
รวมบทความ ทารกแรกเกิด การดูแลเด็กทารกให้ดีที่สุด

โอเมก้า 3 6 9 คืออะไร? ทำไมถึงสำคัญต่อพัฒนาการเด็กแต่ละวัย

นมโอเมก้า 3 6 9 สารอาหารสำคัญที่ช่วยส่งเสริมพัฒนาการสมอง สายตา และระบบประสาทของเด็ก ช่วยให้ลูกน้อยเติบโตอย่างสมวัย ไปทำความเข้าใจโอเมก้า 3 6 9 กัน

34นาที อ่าน

12 เมนู อาหารเด็ก 1 ขวบ อร่อย ทำง่าย สารอาหารหลากหลาย
บทความ
คู่มือเมนูอาหารสำหรับเด็ก พร้อมเคล็ดลับเสริมอาหารตามช่วงวัย

12 เมนู อาหารเด็ก 1 ขวบ อร่อย ทำง่าย สารอาหารหลากหลาย

รวม 12 เมนู อาหารเด็ก 1 ขวบ อร่อย ทำง่าย อุดมด้วยสารอาหารสำคัญ ช่วยให้ลูกน้อยได้รับประโยชน์หลากหลาย เหมาะกับเด็กวัย 1 ขวบ ช่วยแก้ปัญหาลูกเบื่ออาหาร

22นาที อ่าน

อาหารมื้อแรกของลูก ข้าวมื้อแรกของลูก เริ่มกินเมื่อไหร่ถึงจะดี
บทความ
คู่มือโภชนาการลูกน้อย พร้อมเคล็ดลับเสริมโภชนาการตามช่วงวัย

อาหารมื้อแรกของลูกตามช่วงวัย ข้าวมื้อแรกของลูก ควรเริ่มกินเมื่อไหร่

ลูกน้อยอายุ 6 เดือนขึ้นไป คือช่วงวัยที่พร้อมสำหรับอาหารมื้อแรกของลูก คุณแม่ควรใส่ใจกับข้าวมื้อแรกของลูก เพราะช่วยเติมเต็มพัฒนาการและความแข็งแรงของร่างกาย

9นาที อ่าน

เด็กขาดธาตุเหล็ก เกิดจากอะไร อาการเด็กขาดธาตุเหล็กป้องกันได้
บทความ
บทความแนะนำพัฒนาการลูกน้อยตามช่วงวัย 0-12 เดือน

เด็กขาดธาตุเหล็ก เกิดจากอะไร พร้อมวิธีป้องกัน

เด็กขาดธาตุเหล็กทำให้มีภาวะโลหิตจาง หรืออาการลูกตัวซีด ส่งผลต่อการภูมิต้านทาน และการเจริญเติบโตของร่างกาย คุณแม่ป้องกันได้ด้วยการให้ทานอาหารที่มีธาตุเหล็ก

5นาที อ่าน

ท้อง 8 เดือน ลูกอยู่ท่าไหน อาการท้องแข็งขณะตั้งครรภ์ 8 เดือน
บทความ
คู่มือคุณแม่มือใหม่ สำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์ พร้อมเคล็ดลับดูแลตัวเอง

ท้อง 8 เดือน ลูกอยู่ท่าไหน อาการท้องแข็งขณะตั้งครรภ์ 8 เดือน

คุณแม่ท้อง 8 เดือน มีอาการแบบไหน ท้อง 8 เดือน ลูกอยู่ท่าไหน อาการท้องแข็งขณะตั้งครรภ์ 8 เดือน เป็นอย่างไร พร้อมวิธีรับมือและวิธีดูแลทารกในครรภ์

8นาที อ่าน

อายุครรภ์ 11 สัปดาห์ คุณแม่ท้อง 11 สัปดาห์ เกิดอะไรขึ้นบ้าง
บทความ
คู่มือคุณแม่มือใหม่ สำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์ พร้อมเคล็ดลับดูแลตัวเอง

อายุครรภ์ 11 สัปดาห์ คุณแม่ท้อง 11 สัปดาห์ เกิดอะไรขึ้นบ้าง

อายุครรภ์ 11 สัปดาห์ คุณแม่ท้อง 11 สัปดาห์ เกิดอะไรขึ้นบ้าง ลูกตัวใหญ่แค่ไหน สัญญาณอะไรที่บอกว่าคุณแม่ตั้งครรภ์ 11 สัปดาห์แล้ว พร้อมวิธีดูแลครรภ์

อายุครรภ์ 10 สัปดาห์ คุณแม่ท้อง 10 สัปดาห์ เกิดอะไรขึ้นบ้าง
บทความ
คู่มือคุณแม่มือใหม่ สำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์ พร้อมเคล็ดลับดูแลตัวเอง

อายุครรภ์ 10 สัปดาห์ คุณแม่ท้อง 10 สัปดาห์ เกิดอะไรขึ้นบ้าง

อายุครรภ์ 10 สัปดาห์ คุณแม่ท้อง 10 สัปดาห์ เกิดอะไรขึ้นบ้าง ลูกตัวใหญ่แค่ไหน สัญญาณอะไรที่บอกว่าคุณแม่ตั้งครรภ์ 10 สัปดาห์แล้ว พร้อมวิธีดูแลครรภ์

คุณแม่ท้อง 3 เดือน ลูกอยู่ตรงไหน อายุครรภ์ 3 เดือน ลูกดิ้นหรือยัง
บทความ
บทความสำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์ พร้อมพัฒนาการลูกน้อยในครรภ์

คุณแม่ท้อง 3 เดือน ลูกอยู่ตรงไหน อายุครรภ์ 3 เดือน ลูกดิ้นหรือยัง

คุณแม่ท้อง 3 เดือน ลูกอยู่ตรงไหน อายุครรภ์ 3 เดือน ลูกดิ้นหรือยัง มีพัฒนาการอย่างไร เมื่อคุณแม่ตั้งครรภ์ 3 เดือน พร้อมวิธีรับมือและวิธีดูแลทารกในครรภ์

10นาที อ่าน

อายุครรภ์ 12 สัปดาห์ คุณแม่ท้อง 12 สัปดาห์ เกิดอะไรขึ้นบ้าง
บทความ
คู่มือคุณแม่มือใหม่ สำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์ พร้อมเคล็ดลับดูแลตัวเอง

อายุครรภ์ 12 สัปดาห์ คุณแม่ท้อง 12 สัปดาห์ เกิดอะไรขึ้นบ้าง

อาการท้องระยะแรก 12 สัปดาห์ คุณแม่ท้อง 12 สัปดาห์ เกิดอะไรขึ้นบ้าง ลูกตัวใหญ่แค่ไหน สัญญาณอะไรที่บอกว่าแม่ตั้งท้อง 12 สัปดาห์แล้ว พร้อมวิธีดูแลครรภ์

คุณแม่ท้อง 4 เดือน ลูกดิ้นหรือยัง อายุครรภ์ 4 เดือน ลูกอยู่ตรงไหน
บทความ
บทความสำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์ พร้อมพัฒนาการลูกน้อยในครรภ์

คุณแม่ท้อง 4 เดือน ลูกดิ้นหรือยัง อายุครรภ์ 4 เดือน ลูกอยู่ตรงไหน

คุณแม่ท้อง 4 เดือน ลูกดิ้นหรือยัง อายุครรภ์ 4 เดือน มีอาการแบบไหน ลูกอยู่ตรงไหน มีพัฒนาการอย่างไร เมื่อคุณแม่ตั้งครรภ์ 4 เดือน พร้อมวิธีดูแลทารกในครรภ์

8นาที อ่าน

อายุครรภ์ 14 สัปดาห์ คุณแม่ท้อง 14 สัปดาห์ เกิดอะไรขึ้นบ้าง
บทความ
คู่มือคุณแม่มือใหม่ สำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์ พร้อมเคล็ดลับดูแลตัวเอง

อายุครรภ์ 14 สัปดาห์ คุณแม่ท้อง 14 สัปดาห์ เกิดอะไรขึ้นบ้าง

อายุครรภ์ 14 สัปดาห์ คุณแม่ท้อง 14 สัปดาห์ เกิดอะไรขึ้นบ้าง ลูกตัวใหญ่แค่ไหน สัญญาณอะไรที่บอกว่าคุณแม่ตั้งครรภ์ 14 สัปดาห์แล้ว พร้อมวิธีดูแลครรภ์

อาหารบํารุงครรภ์ไตรมาส 3 โภชนาการสำหรับแม่ท้อง
บทความ
คู่มือคุณแม่มือใหม่ สำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์ พร้อมเคล็ดลับดูแลตัวเอง

อาหารบํารุงครรภ์ไตรมาส 3 โภชนาการสำหรับแม่ท้อง

อาหารบํารุงครรภ์ไตรมาส 3 คุณแม่ตั้งครรภ์ควรกินอะไรให้ลูกแข็งแรงและมีโภชนาการที่ดี อาหารบํารุงครรภ์ไตรมาส 3 มีเมนูไหนเหมาะกับคุณแม่ท้องบ้าง ไปดูกัน