ที่ตรวจครรภ์ แบบไหนดีกับการตรวจครรภ์ ใช้งานง่าย แม่นยำ รู้ผลเร็ว
ความตื่นเต้นน่ายินดีของคู่รักแต่งงานคือการได้รับข่าวดีว่ากำลังมีลูก และความสะดวกในปัจจุบันสามารถที่จะเช็กการตั้งครรภ์เบื้องต้นได้ด้วยตัวเอง เพียงแค่ใช้ที่ตรวจครรภ์ก็จะทราบผลเบื้องต้นทันที สำหรับที่ตรวจครรภ์หาซื้อได้จากร้านขายยา มีให้เลือกใช้ในหลากหลายรูปแบบ ได้แก่ ที่ตรวจครรภ์แบบปัสสาวะแบบปล่อยผ่าน ที่ตรวจครรภ์แบบหยด หรือแบบตลับ และที่ตรวจครรภ์แบบแถบจุ่ม
PLAYING: ที่ตรวจครรภ์ แบบไหนดีกับการตรวจครรภ์ ใช้งานง่าย แม่นยำ รู้ผลเร็ว
สรุป
- ที่ตรวจครรภ์นิยมใช้กันในปัจจุบันมีทั้งหมด 3 แบบ ได้แก่ ที่ตรวจครรภ์แบบปัสสาวะแบบปล่อยผ่าน ที่ตรวจครรภ์แบบหยดหรือแบบตลับ และที่ตรวจครรภ์แบบแถบจุ่ม
- การตรวจการตั้งครรภ์ด้วยที่ตรวจครรภ์ ควรใช้ปัสสาวะช่วงเช้าหลังตื่นนอน และไม่รับประทานอาหารก่อนตรวจการตั้งครรภ์
- การแสดงผลการตั้งครรภ์ คือ หากขึ้นขีดที่ตัว C เพียงขีดเดียว ผลเป็นลบ ไม่น่าจะมีการตั้งครรภ์ และหากขึ้นขีดที่ตัว C และ T ผลเป็นบวก มีแนวโน้มการตั้งครรภ์
- ที่ตรวจครรภ์ขึ้น 2 ขีด อาจเป็นผลบวกลวง ไม่มีการตั้งครรภ์ก็ได้เช่นกัน
ที่ตรวจครรภ์ คืออะไร
ที่ตรวจครรภ์ (Pregnancy Test ) คือชุดทดสอบการตั้งครรภ์ที่สามารถทำได้ด้วยตัวเอง ซึ่งจะใช้ปัสสาวะของผู้หญิงในการทดสอบหาค่าฮอร์โมนเอชซีจี (hCG) หลังจากที่มีเพศสัมพันธ์ฮอร์โมนเอชซีจี (hCG) จะมีการหลั่งจากรกออกมาเมื่อมีการปฏิสนธิขึ้นได้ประมาณ 6 วัน
ที่ตรวจครรภ์ มีกี่ประเภท
การตรวจการตั้งครรภ์สามารถทำได้ด้วยตัวเองเพื่อให้ทราบผลในเบื้องต้นจากการใช้ ที่ตรวจครรภ์ (Pregnancy Test) ปัจจุบันมีอยู่ 3 ประเภท ได้แก่ ที่ตรวจครรภ์แบบปัสสาวะแบบปล่อยผ่าน ที่ตรวจครรภ์แบบหยดหรือแบบตลับ และที่ตรวจครรภ์แบบแถบจุ่ม
ที่ตรวจครรภ์แต่ละประเภทมีวิธีการใช้งานอย่างไร?
การใช้งานที่ตรวจครรภ์แต่ละประเภทจะใช้ปัสสาวะของผู้หญิงในการตรวจหาค่าฮอร์โมนเอชซีจี (hCG) ซึ่งเป็นฮอร์โมนการตั้งครรภ์ การตรวจการตั้งครรภ์ด้วยที่ตรวจครรภ์ จะทราบผลเบื้องต้นว่าท้องหรือไม่ จะเป็นกลไกการทำงานของน้ำยาที่อยู่ในชุดตรวจครรภ์ ในการตรวจจับฮอร์โมนเอชซีจี (hCG) ที่อยู่ในปัสสาวะ สำหรับที่ตรวจครรภ์ทั้ง 3 ประเภทจะมีวิธีการใช้งาน ดังนี้
1. ที่ตรวจครรภ์แบบปัสสาวะแบบปล่อยผ่าน
อุปกรณ์จะมีเพียงแท่งตรวจครรภ์
วิธีใช้:
เปิดฝาครอบออกจากแท่งตรวจครรภ์ จากนั้นถือแท่งตรวจครรภ์โดยให้ตรงหัวลูกศรชี้ลงพื้น แล้วปัสสาวะผ่านตรงส่วนที่ต่ำกว่าลูกศรจนเปียกชุ่ม 30 วินาที จากนั้นให้รออ่านผล 3-5 นาที
2. ที่ตรวจครรภ์แบบหยด หรือแบบตลับ
อุปกรณ์จะมีหลอดหยด ตลับตรวจครรภ์ และถ้วยตวงปัสสาวะ
วิธีใช้:
ปัสสาวะเก็บลงในถ้วยตวง ใช้หลอดหยดดูดปัสสาวะจากถ้วยตวงแล้วหยดลงในตลับตรวจครรภ์ 3-4 หยด จากนั้นให้รออ่านผล 5 นาที
3. ที่ตรวจครรภ์แบบแถบจุ่ม
อุปกรณ์จะมีแผ่นทดสอบการตั้งครรภ์ และถ้วยตวงสำหรับเก็บปัสสาวะ
วิธีใช้:
ปัสสาวะเก็บลงในถ้วยตวง นำแผ่นทดสอบการตั้งครรภ์จุ่มปัสสาวะในถ้วยตวง 3 วินาที แล้วนำแผ่นทดสอบออกมารออ่านผล 5 นาที
นอกจากนี้ยังอาจพบ ที่ตรวจครรภ์แบบดิจิทัล
อุปกรณ์จะมีแท่งตรวจครรภ์ คล้ายกับที่ตรวจครรภ์แบบปัสสาวะแบบปล่อยผ่าน ต่างกันแค่ตรงบริเวณที่ใช้ในการอ่านค่าจะเป็นหน้าจอแสดงผลแบบดิจิทัล
วิธีใช้:
มีวิธีการใช้แบบเดียวกันกับที่ตรวจครรภ์แบบปัสสาวะแบบปล่อยผ่าน ในส่วนแสดงผลการตั้งครรภ์จะใช้เวลาเพียง 3 วินาที
ที่ตรวจครรภ์ แต่ละประเภท มีข้อดี-ข้อเสียอย่างไร
1. ที่ตรวจครรภ์แบบปัสสาวะแบบปล่อยผ่าน
- ข้อดี: ใช้งานง่ายและสะดวก ไม่ต้องเก็บน้ำปัสสาวะในถ้วย มีขั้นตอนการทดสอบเพียงขั้นตอนเดียว
- ข้อเสีย: ราคาแพง
2. ที่ตรวจครรภ์แบบหยด หรือแบบตลับ
- ข้อดี: แผ่นชุดทดสอบไม่ค่อยเสื่อมสภาพจากการดูดซับปัสสาวะ
- ข้อเสีย: ราคาแพง
3. ที่ตรวจครรภ์แบบแถบจุ่ม
- ข้อดี: ราคาไม่แพง
- ข้อเสีย: แผ่นทดสอบอาจเสื่อมสภาพได้ง่ายจากการดูดซับปัสสาวะ ข้อควรระวังคือต้องไม่ให้น้ำปัสสาวะสูงกว่าขีดที่กำหนด
ที่ตรวจครรภ์ราคาเท่าไหร่
คุณผู้หญิงสามารถหาซื้อที่ตรวจครรภ์ได้จากร้านขายยาทั่วไป ซึ่งจะมีเภสัชกรให้คำแนะนำวิธีการใช้ที่ตรวจครรภ์อย่างละเอียด สำหรับราคาที่ตรวจครรภ์ทั้ง 3 ประเภทจะมีราคาที่แตกต่างกัน ดังนี้ค่ะ
- ที่ตรวจครรภ์แบบปัสสาวะแบบปล่อยผ่าน ราคาอยู่ที่ประมาณ 180-200 บาท
- ที่ตรวจครรภ์แบบหยดหรือแบบตลับ ราคาอยู่ที่ประมาณ 140-180 บาท
- ที่ตรวจครรภ์แบบแถบจุ่ม ราคาอยู่ที่ประมาณ 100-140 บาท
เริ่มตรวจครรภ์ได้ตอนไหน
การตรวจการตั้งครรภ์เบื้องต้นด้วยที่ตรวจครรภ์ แนะนำให้ตรวจหลังจากเลยรอบเดือนไปแล้ว 7 วัน ซึ่งรกจะมีการหลั่งฮอร์โมนเอชซีจี (hCG) ออกมาหลังจากที่มีการปฏิสนธิได้ 6 วัน จากนั้นฮอร์โมนเอชซีจี (hCG) จะสูงขึ้นในระหว่าง 8-12 สัปดาห์
ตรวจครรภ์เวลาไหนชัวร์สุด
การใช้ที่ตรวจครรภ์ แนะนำให้ตรวจปัสสาวะช่วงเช้าหลังจากตื่นนอน ตรวจอย่างน้อย 2 ครั้ง โดยให้เว้นห่างจากการตรวจรอบแรกไปประมาณ 2-3 วัน ทั้งนี้ก็เพื่อผลการตรวจการตั้งครรภ์ที่แม่นยำ
อ่านผลตรวจครรภ์อย่างไร
ที่ตรวจครรภ์ที่แสดงผลการตั้งครรภ์ด้วยขีด C (Control Line) และ T (Test Line)
- หากขึ้นขีดที่ตัว C ผลเป็นลบ อาจจะไม่มีการตั้งครรภ์
- หากขึ้นขีดที่ตัว C และ T ผลเป็นบวก มีแนวโน้มการตั้งครรภ์สูง
- หากไม่ขึ้นทั้ง 2 ขีด อาจเป็นเพราะที่ตรวจครรภ์ชำรุด หมดอายุ เสื่อมสภาพ
- ในบางครั้งที่มีการใช้ที่ตรวจครรภ์แบบดิจิทัล หากมีการตั้งครรภ์จะแสดงผลขึ้นมาว่า Pregnant แต่หากไม่มีการตั้งครรภ์จะแสดงผลขึ้นมาว่า Not Pregnant
ที่ตรวจครรภ์ขึ้น 2 ขีด
การตรวจปัสสาวะเพื่อหาค่าเอชซีจี (hCG) ด้วยที่ตรวจครรภ์ หากแสดงผลบวกขึ้น 2 ขีด มีแนวโน้มว่ามีโอกาสในการตั้งครรภ์สูง
1. ที่ตรวจครรภ์ขึ้น 2 ขีดเข้ม บอกอะไร
การตรวจปัสสาวะเพื่อหาค่าเอชซีจี (hCG) ด้วยที่ตรวจครรภ์ หากผลแสดงขึ้น 2 ขีดเข้ม แสดงว่ามีโอกาสตั้งครรภ์สูง แต่เพื่อความถูกต้องแม่นยำว่าตั้งครรภ์ 100 เปอร์เซ็นต์ แนะนำให้ตรวจเลือดเพื่อเช็กผลโดยแพทย์ที่โรงพยาบาลอีกครั้ง
2. ที่ตรวจครรภ์ขึ้น 1 ขีดเข้ม 1 ขีดจาง บอกอะไร
การตรวจปัสสาวะเพื่อหาค่าเอชซีจี (hCG) ด้วยที่ตรวจครรภ์ หากผลแสดงขึ้น 1 ขีดเข้ม 1 ขีดจาง อาจมาจากระดับฮอร์โมนเอชซีจี (hCG) ที่ยังต่ำอยู่ ทำให้การแสดงผลค่อนข้างคลุมเครือ ดังนั้นเพื่อผลทดสอบการตั้งครรภ์ที่ชัดเจน หากไม่ตรวจซ้ำอีกครั้งใน 2-3 วันถัดไป แนะนำให้ตรวจเลือดเพื่อเช็กผลโดยแพทย์ที่โรงพยาบาลอีกครั้ง
3. ที่ตรวจครรภ์ขึ้น 2 ขีด แต่ไม่ท้อง เป็นไปได้ไหม
การตรวจปัสสาวะเพื่อหาค่าเอชซีจี (hCG) ด้วยที่ตรวจครรภ์ มีการแสดงผลขึ้น 2 ขีด โดยปกติจะบ่งชี้ว่ามีการตั้งครรภ์ แต่ทั้งนี้ก็อาจเป็นผลบวกลวงที่ชี้ว่าไม่ได้มีการตั้งครรภ์ก็ได้เช่นกัน ซึ่งเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ เช่น แผ่นทดสอบการตั้งครรภ์ชำรุด หรือมีการเจ็บป่วยด้วยอาการกระเพาะปัสสาวะอักเสบ เป็นต้น
ที่ตรวจครรภ์ขึ้น 1 ขีด
การตรวจปัสสาวะเพื่อหาค่าเอชซีจี (hCG) หากขึ้นเพียง 1 ขีด ผลเป็นลบ แสดงว่าไม่น่าจะมีการตั้งครรภ์เกิดขึ้น หากยังไม่มั่นใจสามารถตรวจซ้ำได้
ตรวจครรภ์ 1 ขีดแต่ท้อง เป็นไปได้ไหม
ในกรณีที่มีการตรวจการตั้งครรภ์ด้วยตัวเอง แล้วที่ตรวจครรภ์ขึ้น 1 ขีด ซึ่งปกติจะหมายถึงไม่น่ามีการตั้งครรภ์ แต่ในกรณีที่ผลลบลวงขึ้น 1 ขีด แต่มีการตั้งครรภ์ ก็อาจเกิดได้จากสาเหตุ
- ตรวจการตั้งครรภ์ในช่วงก่อน 6 วัน(ก่อนการปฏิสนธิ)
- น้ำปัสสาวะมีความเจือจาง
- ตรวจช่วงอายุครรภ์เกิน 4 เดือน
ผลตรวจครรภ์สามารถผิดพลาดได้ไหม
ผลตรวจครรภ์จากที่ตรวจครรภ์มีความผิดพลาด หรือคลาดเคลื่อนได้จากหลายสาเหตุ ดังนี้
- ตรวจครรภ์ก่อนที่จะมีฮอร์โมนเอชซีจี (hCG) จะหลั่งออกมา หรือยังไม่ถึง 6 วันหลังการปฏิสนธิ
- ปัสสาวะมีความเจือจาง ส่งผลให้ฮอร์โมนเอชซีจี (hCG) อยู่ในระดับที่น้อยมาก
- ชุดทดสอบการตั้งครรภ์มีการชำรุด หรือไม่ได้มาตรฐาน
ข้อควรรู้ เมื่อใช้ที่ตรวจครรภ์
การใช้ที่ตรวจครรภ์เบื้องต้นด้วยตัวเอง เพื่อให้ได้ผลการตรวจที่ถูกต้อง มีข้อแนะนำดังนี้
- ตรวจช่วงเช้าหลังตื่นนอน
- ยังไม่ควรรับประทานอาหารก่อนตรวจการตั้งครรภ์
- ตรวจทันทีภายใน 1 ชั่วโมง หลังจากเปิดห่อชุดตรวจการตั้งครรภ์
- การตรวจการตั้งครรภ์ด้วยที่ตรวจครรภ์ ควรตรวจหลังเลยรอบเดือน 7 วัน และควรตรวจการตั้งครรภ์ 2 ครั้ง โดยการตรวจครั้งที่ 2 ให้ห่างจากการตรวจรอบแรก 2-3 วัน
สำหรับว่าที่คุณแม่บางคนที่มีอาการท้องไม่รู้ตัว หรือยังไม่แน่ใจว่าตั้งครรภ์แล้วหรือไม่ สามารถใช้ที่ตรวจครรภ์ เพื่อตรวจการตั้งครรภ์ก่อนเบื้องต้นได้ ทั้งนี้การตรวจการตั้งครรภ์เบื้องต้นด้วยที่ตรวจครรภ์อาจไม่ได้ผลทดสอบการตั้งครรภ์ที่ถูกต้อง 100 เปอร์เซ็นต์ แนะนำให้มีการตรวจเลือดที่โรงพยาบาลกับแพทย์อีกครั้งเพื่อผลการตั้งครรภ์ที่แม่นยำกว่า และเมื่อมีการตั้งครรภ์ควรฝากครรภ์ทันที
อ้างอิง:
- ท้องไม่ท้อง รู้ให้แน่ ด้วยการตรวจครรภ์หาค่าเอชซีจี (hCG), โรงพยาบาลนครธน
- ท้องหรือไม่ดูอย่างไร (ฉบับ Update ปี 2567), โรงพยาบาลเพชรเวช
- 4 วิธีตรวจการตั้งครรภ์ ที่ผู้หญิงควรรู้, โรงพยาบาลจุฬารัตน์ 9 แอร์พอร์ต
- ผลจากที่ตรวจครรภ์...แม่นยำแค่ไหนกันนะ?, โรงพยาบาลเปาโล
- ที่ตรวจครรภ์ (Pregnancy Test) ตรวจอย่างไรให้ผลแม่น?, WELLNESS HEALTS CLUB
- ตรวจครรภ์: 7 วิธีการตรวจครรภ์ ราคาและวิธีใช้ที่ตรวจครรภ์!!, Medthai
อ้างอิง ณ วันที่ 2 มกราคม 2567