แผลฝีเย็บหลังคลอดของคุณแม่ ดูแลแผลฝีเย็บอย่างไรให้ปลอดภัย
คุณแม่ที่คลอดธรรมชาติมักมีความกังวลเรื่องแผลฝีเย็บหลังคลอดที่เกิดขึ้นจากกระบวนการคลอด เพราะอาจทำให้การขับถ่ายที่ไม่สะดวกหรือเกิดอาการเจ็บปวดขึ้นได้ แม้ว่าแผลฝีเย็บจะหายสนิทโดยใช้เวลาไม่นานแต่เพื่อหลีกเลี่ยงการติดเชื้อที่เป็นหนึ่งในสาเหตุของแผลฝีเย็บหายช้า คุณแม่หลังคลอดจะต้องให้ความสำคัญกับการทำความสะอาดและการดูแลแผลฝีเย็บหลังคลอด
สรุป
- แผลฝีเย็บเกิดจากกระบวนการคลอดธรรมชาติ โดยคุณหมอจะทำการกรีดผิวหนังบริเวณช่องคลอดเพื่อให้ลูกน้อยคลอดได้สะดวกมากยิ่งขึ้น
- ปกติแผลฝีเย็บจะเริ่มหายสนิทภายใน 1 สัปดาห์ แต่คุณแม่อาจมีอาการเจ็บแผลฝีเย็บอยู่นานถึง 2-3 สัปดาห์ ในระหว่างนั้นคุณแม่สามารถทานยาตามคำแนะนำของคุณหมอได้
- คุณแม่หลังคลอดควรปฏิบัติตัวตามคำแนะนำของคุณหมอโดยไม่แช่ในอ่างอาบน้ำ ทำความสะอาดแผลฝีเย็บหลังจากอุจจาระหรือปัสสาวะทุกครั้งโดยเช็ดทำความสะอาดจากด้านหน้าไปทางด้านหลังเสมอ เพื่อป้องกันการติดเชื้อ
- หากคุณแม่รู้สึกว่ามีไข้ แผลฝีเย็บมีการอักเสบ ปวด บวมแดง มีน้ำหนองหรือเลือดสีแดงสดไหลมากกว่าปกติ แนะนำให้คุณแม่ไปพบแพทย์ทันที เพราะแผลฝีเย็บอาจเกิดการติดเชื้อได้
เลือกอ่านตามหัวข้อ
- รู้จัก ’แผลฝีเย็บ’ แผลคลอดธรรมชาติ คืออะไร?
- ลักษณะของแผลฝีเย็บ เป็นอย่างไร
- แผลฝีเย็บ แผลคลอดธรรมชาติ กี่วันหาย
- อาการแผลฝีเย็บแยกเป็นยังไง
- คุณแม่ควรดูแลแผลเย็บหลังคลอดอย่างไร
- อาการแบบไหนที่ควรไปพบแพทย์ทันที
- จะรู้ได้ยังไงว่าแผลฝีเย็บใกล้หายแล้ว
- ลักษณะอาการของแผลฝีเย็บติดเชื้อ
- วิธีช่วยบรรเทาอาการปวดแผลฝีเย็บ
- คันแผลฝีเย็บ คุณแม่ควรทำยังไงดี
- ไขข้อข้องใจเรื่องการดูแลแผลฝีเย็บ
รู้จัก แผลฝีเย็บ แผลคลอดธรรมชาติ คืออะไร?
แผลฝีเย็บ เป็นแผลที่เกิดจากการคลอดลูกธรรมชาติบริเวณช่องคลอด โดยคุณหมอจะทำการกรีดผิวหนังที่อยู่ระหว่างอวัยวะเพศกับทวารหนักเพื่อให้สะดวกต่อการคลอดลูกจากนั้นคุณหมอจะเย็บติดฝีเย็บไว้
ลักษณะของแผลฝีเย็บ เป็นอย่างไร
แผลฝีเย็บเกิดขึ้นได้ทั้งจากการกระบวนการคลอดตามธรรมชาติและการตัดฝีเย็บเพื่อให้คุณแม่สามารถคลอดลูกน้อยได้สะดวกยิ่งขึ้น ทำให้ลักษณะของแผลฝีเย็บมีระดับการฉีกขาดที่แตกต่างกัน โดยแบ่งออกเป็น 4 ระดับ คือ
- ระดับ 1 : เป็นการฉีกขาดที่เล็กน้อยไม่เกิน 1 เซนติเมตร และไม่มีเลือดออก
- ระดับ 2 : เป็นการฉีกขาดบริเวณผิวผนังช่องคลอดและกล้ามเนื้อฝีเย็บ
- ระดับ 3 : เป็นการฉีกขาดตั้งแต่ผิวผนังช่องคลอดไปจนถึงกล้ามเนื้อหูรูดของทวารหนัก
- ระดับ 4 : เป็นการฉีกขาดตั้งแต่ผิวผนังช่องคลอดไปไปจนถึงเยื่อบุทวารหนักด้านใน ซึ่งเป็นการฉีกขาดที่รุนแรงมากที่สุด
แผลฝีเย็บ แผลคลอดธรรมชาติ กี่วันหาย
โดยปกติแล้วแผลฝีเย็บจะเริ่มหายหลังจากคุณแม่คลอดลูกใน 3 วัน หลังจากนั้นอีก 5-7 วันแผลฝีเย็บจะเริ่มติดสนิท และจะหายสนิทภายใน 2 สัปดาห์ ซึ่งคุณแม่จะมีอาการปวดแผลฝีเย็บประมาณ 2-3 สัปดาห์ โดยที่ไหมฝีเย็บจะละลายหายไปประมาณ 3 สัปดาห์
อาการแผลฝีเย็บแยกเป็นยังไง
อาการของแผลฝีเย็บแยกหรือปริ คือ อาการที่มีเลือดไหลหรือหนองไหลออกมาจากบริเวณแผลฝีเย็บ พร้อมกับอาการเจ็บปวดบริเวณแผลฝีเย็บ บางครั้งคุณแม่อาจเห็นเป็นไหมเย็บหลุดออกมาจากบริเวณแผลฝีเย็บด้วย ทำให้คุณแม่ทราบทันทีว่าแผลเปิดหรือแผลฝีเย็บแยกออกแล้ว เมื่อคุณแม่พบว่าแผลฝีเย็บปริหรือแยกออกให้รีบไปพบแพทย์ทันที
คุณแม่ควรดูแลแผลเย็บหลังคลอดอย่างไร
การดูแลแผลฝีเย็บหลังคลอด คุณแม่สามารถดูแลตัวเองได้ ดังต่อไปนี้
- คุณแม่ควรทำความสะอาดแผลฝีเย็บด้วยสบู่หรือน้ำสะอาดจากด้านหน้าไปด้านหลัง และควรหลีกเลี่ยงการล้างย้อนมาด้านหน้าเพราะอาจทำให้เชื้อโรคจากบริเวณทวารหนักเข้าสู่แผลฝีเย็บและช่องคลอดได้ จากนั้นซับให้แห้ง
- หากต้องการอาบน้ำแนะนำให้ตักน้ำอาบหรืออาบน้ำจากฝักบัว ไม่ควรแช่น้ำในอ่างหรือลำคลองเพื่อป้องกันเชื้อโรคที่อาจทำให้เกิดการติดเชื้อเข้าสู่มดลูกได้เพราะปากมดลูกยังปิดไม่สนิท
- ควรเปลี่ยนผ้าอนามัยทุก 3 ชั่วโมง หรือทุกครั้งที่คุณแม่รู้สึกผ้าอนามัยชุ่ม และควรดึงจากด้านหน้ามาทางด้านหลังเพื่อป้องกันการติดเชื้อในช่องคลอด และไม่ควรใช้ผ้าอนามัยแบบสอด
- หลีกเลี่ยงการมีเพศสัมพันธ์และการสวนล้างช่องคลอดโดยเฉพาะในช่วง 6 สัปดาห์หลังคลอด เนื่องจากปากมดลูกยังปิดไม่สนิทซึ่งอาจเป็นสาเหตุให้แผลฝีคลอดเกิดการติดเชื้อได้ง่าย
- ในช่วง 2 สัปดาห์แรกหลังคลอด คุณแม่ไม่ควรยกของหนัก ๆ หรือออกแรงมาก ๆ ไม่ควรเดินขึ้นลงบันไดบ่อย ๆ เพราะอาจกระทบกระเทือนต่ออวัยวะช่วงอุ้งเชิงกราน
อาการแบบไหนที่ควรไปพบแพทย์ทันที
คุณแม่หลังคลอดธรรมชาติ ควรมาพบแพทย์ทันทีเมื่อคุณแม่มีอาการเหล่านี้
- มีเลือดหรือน้ำหนองไหลจากแผลฝีเย็บ
- ปัสสาวะแล้วมีอาการแสบขัดและเจ็บ
- มีก้อนเลือดออกขนาดใหญ่ออกจากบริเวณช่องคลอด หรือผ้าอนามัยชุ่มเร็วภายใน 1 ชั่วโมง
- น้ำคาวปลามีกลิ่นหรือสีแดงจัดตลอด 3 สัปดาห์หลังคลอดธรรมชาติ เพราะปกติแล้วน้ำคาวปลาจะมีสีแดงในช่วง 3 วันแรก หลังจากนั้นจะเปลี่ยนเป็นสีชมพูก่อนจะกลายเป็นสีน้ำตาลแล้วค่อย ๆ จางลง และจะหมดไปหลังจากวันที่ 10 ของการคลอดลูก
- มีไข้สูง และมีอาการอักเสบร่วมด้วย
- หลังคลอดลูกได้ 2 สัปดาห์แล้วยังคลำเจอมดลูกได้จากบริเวณด้านหน้าท้องของคุณแม่
จะรู้ได้ยังไงว่าแผลฝีเย็บใกล้หายแล้ว
ในช่วง 1-3 วันแรกหลังจากคลอดลูกธรรมชาติ คุณแม่จะรู้สึกเจ็บปวดบริเวณแผลฝีเย็บ ส่วนบริเวณแผลจะมีอาการบวมพร้อมมีเลือดซึมออกมา หลังจากนั้นคุณแม่จะรู้สึกตึง ๆ ในช่วง 3-4 วันแรก และจะหายสนิทภายใน 1 สัปดาห์หรือภายใน 7-10 วัน โดยไม่ต้องตัดไหมออก หากเลย 7 วันไปแล้วแผลฝีเย็บยังไม่แห้งแสดงว่าแผลฝีเย็บอาจเกิดการติดเชื้อและอักเสบได้
ลักษณะอาการของแผลฝีเย็บติดเชื้อ
หากแผลฝีเย็บเกิดการติดเชื้อ ร่างกายจะเริ่มแสดงอาการผิดปกติ คือ เป็นไข้ แผลฝีเย็บจะอักเสบ บวมแดง บางครั้งอาจเป็นหนองไหลซึมออกมา เวลาปัสสาวะจะลำบากหรือปัสสาวะไม่ออก และอาจเกิดแผลปริหรือแยกออกจากกันได้
วิธีช่วยบรรเทาอาการปวดแผลฝีเย็บ
หลังคลอดธรรมชาติใหม่ ๆ คุณแม่จะรู้สึกปวดแผลฝีเย็บได้ หากมีอาการปวดมาก ๆ คุณแม่สามารถบรรเทาอาการปวดแผลฝีเย็บได้ดังนี้
- ช่วงวันแรก ๆ ของการคลอดลูก คุณแม่สามารถประคบเย็นได้ประมาณ 15 นาที เพื่อลดอาการปวดและบวมของแผลฝีเย็บ
- แช่น้ำอุ่นที่ผสมเกร็ดด่างทับทิมประมาณ 15 นาที เพื่อให้เลือดไหลเวียนได้ดียิ่งขึ้น ในกรณีที่คุณแม่รู้สึกปวดแผลฝีเย็บ ควรทำหลังจากคลอดตั้งแต่ 3 วัน เป็นต้นไป
- เมื่อต้องการนั่งให้นั่งที่แก้มก้นข้างใดข้างหนึ่ง หรืออาจหาห่วงยางเล็ก ๆ หรือหมอนกลมที่มีรูตรงกลางคล้ายกับโดนัทมารองนั่ง เพื่อเลี่ยงไม่ให้แผลฝีเย็บถูกกดทับโดยตรง
หากคุณแม่พบว่ายังรู้สึกปวดแผลฝีเย็บมาก ๆ แผลฝีเย็บบวม และไม่สามารถนั่งนาน ๆ ได้ แนะนำให้คุณแม่ไปพบแพทย์เพื่อทำการรักษาต่อไป
คันแผลฝีเย็บ คุณแม่ควรทำยังไงดี
หากคุณแม่หลังคลอดมีอาการคันที่แผลฝีเย็บหรือบริเวณอวัยวะเพศ แนะนำให้คุณแม่ปฏิบัติตามนี้
- หลังจากถ่ายปัสสาวะหรืออุจจาระเสร็จเรียบร้อยแล้ว ให้เช็ดทำความสะอาดจากบริเวณด้านหน้าไปทางด้านหลังเพื่อป้องกันเชื้อโรคจากทวารหนักเข้าไปยังช่องคลอด
- ไม่ควรใช้ผลิตภัณฑ์ส่วนล้างช่องคลอด
- หลีกเลี่ยงการใช้ผ้าอนามัยที่มีกลิ่นหอม หรือสบู่ที่มีกลิ่นหอม
ไขข้อข้องใจเรื่องการดูแลแผลฝีเย็บ
1. ครบเดือนแล้ว แผลฝีเย็บยังไม่หาย คุณแม่ควรทำอย่างไร?
ปกติแผลฝีเย็บจะหายภายใน 1 สัปดาห์หลังจากคลอด ถ้าคุณแม่พบว่าแผลฝีเย็บยังไม่หาย ควรรีบไปพบแพทย์เพื่อขอคำแนะนำทันที
2. แผลฝีเย็บปริ หรือฉีกขาด แม่ควรทำยังไงดี?
ถ้าคุณแม่พบว่าแผลฝีเย็บมีการปริ หรือแยกออกให้รีบไปพบแพทย์ เพราะอาจทำให้เกิดแผลฝีเย็บอักเสบหรือติดเชื้อได้
3. แผลฝีเย็บยังไม่สมาน คุณแม่ควรนอนท่าไหน?
ในช่วงแรกหลังคลอดคุณแม่อาจรู้สึกนอนได้ลำบากเพราะฝีเย็บยังไม่สมาน สำหรับท่านอน ของคุณแม่หลังคลอดที่แนะนำ คือ ให้คุณแม่นอนตะแคงด้านใดด้านหนึ่งแล้วให้ยกช่วงก้นขึ้นเล็กน้อยเพื่อให้นอนได้สบายยิ่งขึ้น
4. ควรดูแลแผลฝีเย็บอย่างไร
แผลฝีเย็บ ปกติแล้วคุณหมอจะเย็บด้วยไหมละลาย ซึ่งหลังคลอดประมาณ 7 วันแผลก็จะหาย แต่อาจจะรู้สึกเจ็บนานประมาณ 2 สัปดาห์ การทำความสะอาดสามารถใช้น้ำและสบู่ล้างจากด้านหน้าไปด้านหลัง และซับให้แห้งทันที
5. แสบแผลฝีเย็บเวลาฉี่ แบบนี้ปกติหรือไม่?
ในช่วงวันแรก ๆ ของการคลอดคุณแม่จะรู้สึกเจ็บตึง ปวดระบมแผล และแสบบริเวณแผลฝีเย็บ พอเข้าสู่วันที่ 3 แผลฝีเย็บจะค่อย ๆ ดีขึ้น หากคุณแม่พบว่ายังมีอาการแสบแผล ปัสสาวะลำบาก ปัสสาวะไม่ออกรวมถึงมีไข้ด้วยแสดงว่าเป็นอาการที่ผิดปกติแนะนำให้คุณแม่ไปพบคุณหมอเพื่อตรวจและทำการรักษา
สำหรับคุณแม่มือใหม่ที่ไม่สามารถคลอดธรรมชาติเองได้และมีแพลนจะผ่าคลอดเจ้าตัวเล็ก คุณแม่สามารถเข้าไปศึกษาและอ่านบทความ การเตรียมตัวผ่าคลอด และ การดูแลแผลหลังผ่าคลอดที่ถูกต้องสำหรับคุณแม่มือใหม่ได้เลย
บทความแนะนำสำหรับคุณแม่ผ่าคลอด
- แม่มือใหม่เตรียมผ่าคลอด พร้อมขั้นตอนการผ่าคลอด และวิธีดูแลให้แผลหายไว
- แผลฝีเย็บหลังคลอด คุณแม่ดูแลอย่างไรให้ปลอดภัย ฝีเย็บหายไว ไม่ติดเชื้อ
- แผลผ่าคลอด ดูแลแผลหลังผ่าคลอดอย่างไรให้ยุบไว หายเร็ว
- หลังผ่าคลอดกินอะไรได้บ้าง แม่หลังคลอดทานอะไรให้แผลหายเร็ว
- ฤกษ์คลอด ฤกษ์ผ่าคลอด วันมงคล เวลาดี สำหรับลูกรัก
- สฟิงโกไมอีลิน คืออะไร สำคัญต่ออย่างไรต่อสมองของลูกน้อย
- DHA สารอาหารสำคัญ ช่วยพัฒนาสมองของลูกน้อย
- 2’-FL คืออะไร ? รู้จัก 2’-FL โอลิโกแซคคาไรด์ในนมแม่ (HMOs)
- โพรไบโอติก (Probiotics) จุลินทรีย์ที่พบได้ในนมแม่ มีประโยชน์กับลูก
- พรีไบโอติก มีส่วนช่วยพัฒนาสมองในเด็กทารก
- น้ำนมเหลือง ที่มีสฟิงโกไมอีลิน สารอาหารสำคัญ ช่วยพัฒนาสมองจากแม่สู่ลูก
- เทคนิคเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ สุดยอดสารอาหารจากแม่สู่ลูก
- เพิ่มน้ำนมคุณแม่ ด้วยการกระตุ้นน้ำนม จากธรรมชาติ ดีกับคุณแม่และลูก
- นมแม่อยู่ได้กี่ชม น้ำนมแม่เก็บได้นานแค่ไหน เก็บรักษาอย่างไรให้ถูกวิธี
- อาการทารกหิวนม สัญญาณจากลูกน้อย ที่คุณแม่สังเกตเองได้
- เด็กแรกเกิดกินนมกี่ออนซ์ ถึงจะดีที่สุด ปริมาณเท่าไหร่ถึงเรียกว่าพอดี
- วิธีจับลูกเรอ ท่าอุ้มเรอช่วยให้ลูกสบายท้อง หลังลูกอิ่มนม
- คัดเต้านมทำยังไงดี คัดเต้ากี่วันหาย พร้อมวิธีบรรเทาอาการนมคัด
- เจ็บหัวนม หัวนมแตก อาการเจ็บหัวนม ต้องรักษาอย่างไร ให้นมลูกต่อได้ไหม
- ทารกไม่ยอมนอน ลูกงอแงไม่ยอมนอนไม่มีสาเหตุ พร้อมวิธีรับมือ
- วิธีชงนมที่ถูกต้อง พร้อมขั้นตอนการเตรียมน้ำชงนม สำหรับแม่มือใหม่
อ้างอิง
- เช็คหน่อยไหม? สุขภาพหลังคลอด...มีปัญหาอะไรหรือเปล่า, โรงพยาบาลพญาไท
- การดูแลตัวเองหลังคลอดที่คุณแม่ต้องรู้, โรงพยาบาลเปาโล
- 10 ความเชื่อ...จริง และ ไม่จริง กับคุณแม่หลังคลอด, โรงพยาบาลขอนแก่นราม
อ้างอิง ณ วันที่ 15 พฤศจิกายน 2566