ตอบข้อสงสัย เรื่องการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่

1. ทำไมให้ลูกกินแต่นม จนถึง 6 เดือน

ทำไมให้ลูกกินแต่นม จนถึง 6 เดือน

 

จริงๆแล้ว กระเพาะของทารกแรกเกิด มีขนาดเล็กมากค่ะ โดยในช่วงแรกเกิด ขนาดกระเพาะของทารกจะมีขนาดเท่ากับลูกเชอร์รี่ และขนาดของกระเพาะจะค่อยๆขยายขึ้นช้าๆ เท่ากับขนาดของ ไข่ไก่ ประมาณ 1 เดือน หลังคลอด

ตารางขนาดกระเพาะเด็กทารกหลังคลอด

นอกจากนี้ ตับอ่อนของทารกยังทำงานไม่สมบูรณ์ ทำให้การหลั่งน้ำย่อยไม่สมบูรณ์เช่นกัน แปลง่ายๆคือ ย่อยไม่เก่ง ธรรมชาติจึงสร้าง นมแม่ ให้เหมาะกับระบบย่อยของทารกตั้งแต่แรกเกิด ทั้งย่อยง่าย ดูดซึมง่าย และ มีปริมาณน้ำและสารอาหารครบถ้วน พอเหมาะกับความต้องการของทารก

นมแม่มีคุณสมบัติ Hypo-Allergenic (H.A.) ที่อ่อนโยนต่อระบบภูมิคุ้มกันของทารก นมแม่ อุดมไปด้วยสารเสริมภูมิคุ้มกันตามธรรมชาติ ที่ช่วยให้ระบบป้องกันโรคของลูกแข็งแรงขึ้น มีโปรตีนบางส่วนที่ถูกย่อยให้มีขนาดเล็กลงตามธรรมชาติ หรือ PHP (Partially Hydrolyzed Proteins) ที่ช่วยลดภาระงานของระบบย่อยอาหาร ทำให้ลูกสบายท้องและย่อยโปรตีนได้ดีขึ้น พร้อมกันนี้ นมแม่ยังเป็นแหล่งของจุลินทรีย์สุขภาพอย่าง โพรไบโอติก บีแล็กทิส (B. lactis) ที่ช่วยสร้างสมดุลจุลินทรีย์ในลำไส้ ทำให้ระบบย่อยอาหารและภูมิคุ้มกันลำไส้ทำงานร่วมกันได้อย่างเหมาะสม ลดโอกาสการเกิดภูมิแพ้ และช่วยให้ลูกเจ็บป่วยน้อยลงในวัยทารก

และที่สำคัญ นมแม่อุดมด้วยสารอาหารกว่า 200 ชนิด มีสารอาหารสำคัญต่อพัฒนาการสมอง เช่น ดีเอชเอ (DHA), โอเมก้า 3,6,9 (Omega 3,6,9) และ แอลฟาแล็ค สฟิงโกไมอีลิน (Alphalac Sphingomyelin) ซึ่งมีบทบาทในการสร้างปลอกประสาทไมอีลิน ช่วยให้การส่งสัญญาณประสาทของสมองเป็นไปอย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ ทำให้ลูกเรียนรู้ จดจำ และพัฒนาทักษะต่าง ๆ ได้ดีขึ้นตั้งแต่ช่วงเริ่มต้นของชีวิต
 

ในทางกลับกัน บางคนที่มีความเชื่อผิดๆว่า ทารกกินแต่นมไม่น่าอิ่ม และพยายามหาป้อนอาหารอื่นๆให้ทารก ทั้งที่กระเพาะยังไม่สามารถจุปริมาณได้เพียงพอ เมื่อป้อนอาหารอื่นๆ เช่น กล้วย หรือข้าว ที่มีสารอาหารต่ำกว่านมแม่ ทำให้กระเพาะเต็มเร็ว ทั้งที่สารอาหารยังไม่พอ อาจทำให้ทารกขาดสารอาหารได้

นอกจากนี้ การป้อนอาหารอื่นๆ ที่ทารกยังไม่พร้อมจะย่อย เนื่องจากน้ำย่อยยังทำงานได้ไม่เต็มที่ ทำให้อาหารเหล่านี้ไม่ ย่อย เกิดลำไส้อุดตันได้ ทำให้ทารกมีอาการท้องอืด ปวดท้อง ลำไส้อักเสบ ซึ่งสามารถเสียชีวิตได้ จากที่เคยมีข่าวปรากฎอยู่ โดยตับอ่อนจะเริ่มหลั่งน้ำย่อยตอนประมาณ 4 เดือน ดังนั้น จึงเป็นที่มาว่า ทำไมปัจจุบัน เราควรให้ทารกกินแต่นม จนถึง 6 เดือนค่ะ

 

2. หลังฉีดวัคซีน ต้องปั๊มนมทิ้งไหม

หลังฉีดวัคซีน ต้องปั๊มนมทิ้งไหม

หลังฉีดวัคซีนใดๆ ไม่ว่าจะเป็น วัคซีน Covid19 หรือวัคซีนอื่นๆ เช่น วัคซีนไข้หวัดใหญ่ ไม่ต้องปั๊มนม ทิ้งค่ะ เนื่องจากเชื้อที่นำมาทำ วัคซีน เป็นเชื้อที่ทำให้อ่อนฤทธิ์อยู่แล้ว ก่อโรคไม่ได้ เมื่อแม่ฉีดวัคซีน และให้นมลูก จะไม่ส่งผ่านเชื้อ ก่อโรคไปยังลูกแน่นอน

 

Covid 19 Vaccine

 

ถึงแม้ว่า หลังฉีดวัคซีนอาจมีอาการไม่สบายตัว มีไข้ ปวดบวมแดงบริเวณที่ฉีด ก็ยังสามารถให้นมแม่ได้ค่ะ ทารกจะไม่ติดไข้จากแม่ เนื่องจากไข้ของแม่เกิดจากปฏิกิริยาของ ภูมิต้านทานโรคที่กำลังทำงาน และไข้นี้ไม่สามารถส่งผ่านทางน้ำนม ไปสู่ลูกได้

 

3. แม่ไม่สบายให้นมได้ไหม

แม่ไม่สบายให้นมได้ไหม

ตามปกติแล้ว ไม่ว่าคุณแม่จะมีอาการไม่สบาย เป็นหวัด มีไข้ ท้องเสีย เชื้อเหล่านี้ ไม่ได้ผ่าน ทางน้ำนมดังนั้น เมื่อแม่ไม่สบายด้วยอาการทั่วๆ ไปเหล่านี้ยังสามารถให้นมแม่ได้ค่ะ แต่ควรระวังการติดลูกทางอื่นแทนค่ะ เช่น หวัด ไม่ได้ติดทางการให้นม แต่ลูกอาจติดจากการไอจามหายใจรดกัน ดังนั้นขณะให้นมควรล้างมือให้สะอาด หรือใส่หน้ากากอนามัย ป้องกันการไอจามใส่ลูก หรือหากแม่เป็นเริม / สุกใส ก็ยังสามารถให้นมได้ เพราะเชื้อไม่ผ่านน้ำนม แต่ลูกอาจติดได้ทางการสัมผัส ดังนั้นควรระวังลูกสัมผัสโดนตุ่มน้ำของเรา ต้องล้างมือก่อน ให้นม อาจใช้การปั๊มนมให้ลูกกินแทนการกินจากเต้าก็ได้ค่ะ หากมีตุ่มขึ้นบริเวณใกล้กับเต้านมด้วย หากคุณแม่ให้นมจำเป็นต้องกินยา แนะนำให้ปรึกษา บุคลากรทางการแพทย์

 

4. นมแม่ใส แปลว่า ไม่มีสารอาหาร?

ในนมแม่ ทุกๆครั้งที่หลั่งออกมา จะมี 2 ส่วน คือ ส่วนหน้า กับส่วนหลัง ซึ่งรู้ไหมคะ ว่า ส่วนประกอบไม่เหมือนกัน

น้ำนมส่วนหน้าของคุณแม่

นมแม่ส่วนหน้า (foremilk)

มีส่วนประกอบของน้ำเป็นหลัก ดังนั้นจึงดูใส แต่จริงๆแล้วมีสารอาหารเต็มเปี่ยม ทั้งน้ำตาลแลคโตสที่เป็นสารอาหาร ที่สำคัญของสมอง โปรตีน วิตามิน และแร่ธาตุที่จำเป็น สำหรับการเติบโต

 

นมส่วนหลังของคุณแม่

นมส่วนหลัง (hindmilk)

มีส่วนประกอบหลักเป็นไขมัน ทำให้ข้นหนืดกว่า แต่คุณแม่หลายคนที่ปั๊มไม่เกลี้ยงเต้า หรือให้ลูกกินจากเต้าจะไม่เห็นว่ามีนมส่วนนี้ จึงทำให้เข้าใจ ผิดว่านมแม่มีแต่ใสๆได้ค่ะ

 

นอกจากนี้สารอาหารหลายตัว เป็นสารอาหารที่ละลายในน้ำ ดังนั้นจึงใส และไม่จำเป็นต้องเป็นตะกอนให้เห็นด้วยตาเปล่า ซึ่งสารอาหารหนึ่งที่สำคัญมาก และมองไม่ เห็นด้วยตาเปล่าจริงๆ นั่นคือ ภูมิต้านทานจากแม่ค่ะ ที่ส่งผ่านทางน้ำนมสู่ลูก ดังนั้น หมอจึงยืนยันว่า นมแม่ที่ใส ก็มีสารอาหารครบถ้วน แน่นอนค่ะ

 

5. หลัง 6 เดือน นมแม่มีสารอาหาร น้อยลงจริงหรือ?

หลัง 6 เดือน นมแม่มีสารอาหาร น้อยลงจริงหรือ

หลัง 6 เดือน นมแม่ ยังมีประโยชน์เหมือนเดิมค่ะ ไม่ได้ลดคุณค่าทางสารอาหารลง แต่เด็กหลัง 6 เดือน ต้องการสารอาหารที่มากขึ้น เพื่อใช้ในการเจริญเติบโต และพัฒนาการที่มากขึ้น โดยเฉพาะธาตุเหล็ก ที่ต้องการมากขึ้น จึงเป็นเหตุผลที่เด็กต้อง “กินเพิ่ม” เริ่มกินอาหารตามวัยเมื่ออายุครบ 6 เดือน แต่ไม่ได้แปลว่า นมแม่ “มีสารอาหารน้อยลง”

มันไม่เกี่ยวกันเลยค่ะ นมแม่ยังคงมีสารอาหารครบถ้วน และมีสิ่งที่จำเป็นสำหรับ ลูกเช่นเคย นั่นคือ ภูมิต้านทานที่ส่งผ่านจากนมแม่สู่ลูก ดังนั้น หลัง 6 เดือน แม่ท่านไหนที่ยังมีนมแม่อยู่ ยังไม่จำเป็นต้องเลิกนะคะ ยังสามารถให้นมลูกต่อได้ยาวๆ ตราบที่แม่ยังไหว ได้เลยค่ะ

 

6. แม่ให้นม กินกาแฟได้ไหม

โดยทั่วไปแล้ว คุณแม่ให้นมสามารถดื่มกาแฟได้ในปริมาณที่ไม่มากเกินไปได้ค่ะ โดยดูจากปริมาณของคาเฟอีนในเครื่องดื่ม เป็นหลัก แต่นอกจากกาแฟแล้ว ชาและช็อคโกแลตก็เป็นเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีนเช่นกัน ต้องอย่าลืมจำกัดปริมาณด้วยเช่นกันค่ะ

ปริมาณคาเฟอีนที่แนะนำคือ ไม่เกิน 200 มก.ต่อวัน ซึ่งเทียบเท่ากับ (โดยประมาณ เนื่องจากปริมาณคาเฟอีนขึ้นกับหลายปัจจัย)

คาเฟอีนมีผลต่อทารกอย่างไร-1
กาแฟ 2 แก้ว

 

คาเฟอีนมีผลต่อทารกอย่างไร-2

กาแฟชองพร้อมชง 3 ซอง

 

คาเฟอีนมีผลต่อทารกอย่างไร-3

น้ำอัดลมสีดำ 6 กระป๋อง

 

คาเฟอีนมีผลต่อทารกอย่างไร-4

อเมริกาโน่ 1 แก้ว

 

คาเฟอีนมีผลต่อทารกอย่างไร-5

ลาเต้ 3 แก้ว

 

คาเฟอีนมีผลต่อทารกอย่างไร

คาเฟอีนในปริมาณที่มากเกินไป อาจทำให้ทารกกระสับกระส่าย ร้องกวน งอแง หัวใจเต้นเร็ว หรือนอนไม่หลับได้ค่ะ โดยคาเฟอีนสามารถอยู่ในร่างกายคุณแม่ได้ 4-6 ชั่วโมง สูงสุดในช่วง 1-2 ชั่วโมงหลังดื่ม และความไวต่อคาเฟอีนของทารกแต่ละคน อาจไม่เท่ากัน ดังนั้นนอกจากจำกัดปริมาณคาเฟอีนต่อวันแล้ว คุณแม่อาจสังเกตอาการของลูกหากกระสับกระส่ายมาก ควรปั๊มนมทิ้งในช่วง 4-6 ชั่วโมงหลังดื่มเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีนทิ้งได้ค่ะ

 

7. โด๊ปอะไรดี ให้มีน้ำนมเยอะๆ

จริงๆแล้วสูตรการเพิ่มน้ำนม มีเยอะมาก แต่หมอขอแนะนำ “ตัวช่วย” มาให้แม่ๆเช็กลิสต์ตัวเองกันดูค่ะ

คุณแม่มือใหม่โด๊ปอะไรดี ให้มีน้ำนมเยอะ

 

1. ต้องดื่มน้ำให้เพียงพอ

อันนี้เป็นสิ่งสำคัญที่สุดของคนที่ให้นมค่ะ เนื่องจากถ้าปริมาณน้ำในร่างกายไม่เพียงพอ บำรุงด้วยอย่างอื่นยังไง นมแม่ก็มา น้อยได้เพราะปริมาณน้ำในร่างกายไม่เพียงพอ นอกจากนี้การฝืนปั๊มนมเยอะทั้งที่ดื่มน้ำไม่พอ จะทำให้ร่างกายของแม่ขาดน้ำ และยิ่งทำให้สุขภาพของแม่ทรุดโทรมเร็วขึ้นด้วยค่ะ โดยปริมาณที่แนะนำคือ มากกว่า 2-3 ลิตรต่อวันค่ะ

 

2. สมุนไพรที่มีฤทธิ์กระตุ้นน้ำนม

ที่นิยมนำมาใช้ เช่น ลูกซัด หัวปลี น้ำขิง ฯลฯ สามารถใช้ร่วมกันได้ค่ะ แต่ควรควบคู่กับการดื่มน้ำให้เพียงพอ กระตุ้นเต้านมสม่ำเสมอทุก 3 ชั่วโมง และพักผ่อนให้เพียงพอ ถึงจะเห็นผลค่ะ

สิ่งสำคัญคือ คุณแม่ต้องอย่าลืมดูแลตัวเองควบคู่ไปด้วย ด้วยการปรับสภาพอารมณ์ พยายามไม่เครียด พักผ่อนให้เพียงพอ เนื่องจากสุขภาพที่ทรุดโทรมและฮอร์โมนความเครียดก็ทำให้น้ำนมมาน้อยได้ค่ะ และสุดท้าย หากคุณแม่ยังกังวลใจเรื่องน้ำนมน้อยควรปรึกษาแพทย์เพื่อขอคำแนะนำเพิ่มเติมได้ค่ะ

 

8. สูตรปั๊มให้น้ำนมแม่ ไหลมาเทมา

สำหรับแม่ๆสายปั๊ม ที่อยากให้น้ำนมมาเยอะๆ วิธีคือ

 

1. ปั๊มนมทุก 3 ชั่วโมง

คุณแม่ปั๊มนมทุก 3 ชั่วโมง

เพื่อกระตุ้นการหลั่งฮอร์โมน oxytocin ให้สม่ำเสมอ ทำให้น้ำนมแม่ไหลดี ต่อเนื่องได้ค่ะ

 

2. ปั๊มทีละ 2 ข้าง พร้อมกัน

คุณแม่ปั๊มทีละ 2 ข้าง พร้อมกัน

หรือกรณีที่ให้ ลูกเข้าเต้า อาจใช้เครื่อง ปั๊มนมปั๊มอีกข้างพร้อมกัน เพื่อหลอกร่างกายว่า มีลูกแฝด ทำให้ร่างกาย ต้องเพิ่มการผลิตน้ำนม

 

3. สูตรปั๊ม แบบ Power Pump (20-10-10-10-10)

วิธีทำคือ ปั๊มนมทีละ 2 ข้าง ปั๊มแล้วพักเป็นรอบๆ โดยปั๊ม 20 นาที - พัก 10 นาที - ปั๊ม10นาที - พัก 10 นาที - ปั๊ม 10 นาที นับเป็น 1 เซ็ต ทำ Power Pump วันละ 1-2 เซ็ต

แต่ที่สำคัญที่สุดคือ การเลือกเครื่องปั๊มนมให้เหมาะกับเราด้วยค่ะ เลือกกรวยปั๊มนมที่มีขนาดเหมาะสม เนื่องจากถึงใช้สูตร ปั๊มทุกสูตรแล้ว แต่หากกรวยปั๊มนมขนาดไม่เหมาะสม หรือเครื่องปั๊มเบาไป/แรงไป ปั๊มแล้วเจ็บ ก็ทำให้น้ำนมมาน้อย ได้เช่นกันค่ะ

 

9. ลูกกินนมแม่จากเต้า จะรู้ได้อย่างไรว่า ได้รับน้ำนมเพียงพอ

ลูกกินนมแม่จากเต้า จะรู้ได้อย่างไรว่า ได้รับน้ำนมเพียงพอ

ในกรณีกินนมจากเต้า คุณแม่หลายคนสงสัยว่า น้ำนมแม่ ไหลดีไหม? ลูกได้รับนมพอไหม? จะดูอย่างไร ในขณะให้นม วิธีสังเกตว่า ลูกได้รับน้ำนมพอหรือไม่ ให้ดูว่าที่เต้า นมอีกข้างมีน้ำนมไหลซึมออกมาหรือไม่ค่ะ

ซึ่งอาการที่น้ำนมอีกข้างไหลออกมาด้วยนี้ เรียกว่า Led down reflex เนื่องจากเป็นการตอบสนองของฮอร์โมนหลั่งน้ำนม ทำให้น้ำนมอีกข้างไหลออกมาด้วย ช่วยให้แม่ ๆ มั่นใจได้ค่ะว่าข้างที่ลูกดูด มีน้ำนมไหลออกมาแน่นอน

ส่วนปริมาณนม การดูว่าลูกได้รับปริมาณนมเพียงพอไหม ให้ดูการขับถ่ายของลูกค่ะ โดยเด็กทารกแรกเกิด เมื่อได้รับ น้ำนมเพียงพอ จะปัสสาวะวันละ 6 ครั้งขึ้นไป อุจจาระ 4 ครั้ง ขึ้นไป (นับรวมกันใน 24 ชั่วโมง) นอกจากนี้ ยังสามารถดูได้จาก น้ำหนักของลูก โดยเด็กทารกควรมีน้ำหนักขึ้นตามนี้

 

น้ำหนักตามเกณฑ์ของเด็กทารก

 

  • 0-3 เดือน น้ำหนักทารก ขึ้นเดือนละ 600-800 กรัม
  • 4-6 เดือน น้ำหนักทารก ขึ้นเดือนละ 400-600 กรัม

ควรติดตามน้ำหนักลูกทุกครั้งที่ไปฉีดวัคซีน โดยเทียบกับกราฟมาตรฐานการเจริญเติบโตเกณฑ์ปกติค่ะ เพื่อดูว่าน้ำหนัก ของลูก ขึ้นตามเกณฑ์หรือไม่ เนื่องจากการดูด้วยตาเปล่าอาจทำให้คลาดเคลื่อนได้

 

10. ทำไมห้ามอุ่นนมแม่ ด้วยไมโครเวฟ

ทำไมห้ามอุ่นนมแม่ ด้วยไมโครเวฟ

 

ในกรณีที่แม่ๆที่ทำนมสต็อกให้ลูกกิน การเอานมสต็อกมาอุ่น ควรอุ่นในชามน้ำร้อน ไม่ควรอุ่นในไมโครเวฟค่ะ เนื่องจาก การอุ่นในไมโครเวฟ ความร้อนในนมไม่สม่ำเสมอ ทำให้เกิดการไหม้ในบางจุดได้ ในขณะที่บางจุดยังเย็น เมื่อทารกกินอาจทำให้บางจุดที่ความร้อนสูง ลวกปากและลิ้นของ ทารกได้

นอกจากนี้ การอุ่นในไมโครเวฟ ยังทำลายสารภูมิต้านทานและสารอาหารในนมแม่อีกด้วย ดังนั้นจึงไม่ควรอุ่นนมแม่ในไมโครเวฟ วิธีการที่ถูกต้องคือ

1. ย้ายถุงนมแม่แช่แข็งจากช่องฟรีส ลงมาช่องธรรมดา ให้ละลายเองในตู้เย็นข้ามคืน 

2. ก่อนให้ลูกกิน ใช้วิธีแช่ถุงนมในชามน้ำอุ่น

การอุ่นนมที่ถูกวิธี นอกจากไม่ลวกปากและลิ้นของลูก ยังช่วย รักษาคุณค่าและสารอาหารของนมแม่ให้ได้มากที่สุดอีกด้วยค่ะ

All articles

คนท้องยืดผมได้ไหม อันตรายกับลูกในท้องหรือเปล่า
บทความ
คู่มือคุณแม่มือใหม่ สำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์ พร้อมเคล็ดลับดูแลตัวเอง

คนท้องยืดผมได้ไหม อันตรายกับลูกในท้องหรือเปล่า

คุณแม่ตั้งครรภ์ที่มีผมชี้ฟู อยากยืดผม คงมีคำถามในใจว่าคนท้องยืดผมได้ไหม สารเคมีที่ใช้ยืดผมจะเป็นอันตรายกับลูกหรือเปล่า เสริมสวยยังไงให้ปลอดภัย ไปดูกัน

6นาที อ่าน

ยาบำรุงครรภ์คนท้อง จำเป็นแค่ไหนสำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์
บทความ
รวมบทความการตั้งครรภ์ ตั้งแต่สัญญาณการตั้งครรภ์ ไปจนก่อนคลอด

ยาบำรุงครรภ์คนท้อง จำเป็นแค่ไหนสำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์

ยาบำรุงคนท้อง จำเป็นแค่ไหนสำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์ คนท้องอยากบำรุงร่างกาย สามารถกินยาบำรุงครรภ์ได้ไหม อยากกินยาบำรุงคนท้อง ควรรู้อะไรบ้าง ไปดูกัน

6นาที อ่าน

คนท้องเท้าบวมหลังคลอด คุณแม่มือเท้าบวม รับมือยังไงดี
บทความ
คู่มือคุณแม่มือใหม่ สำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์ พร้อมเคล็ดลับดูแลตัวเอง

คนท้องเท้าบวมหลังคลอด คุณแม่มือเท้าบวม รับมือยังไงดี

คนท้องเท้าบวมหลังคลอด อาการมือเท้าบวมหลังคลอด เกิดจากสาเหตุอะไรได้บ้าง คุณแม่เท้าบวมหายเองได้ไหม หากหายช้าจะเป็นอันตรายหรือเปล่า พร้อมวิธีรับมือ

6นาที อ่าน

ท้อง 7 เดือนเจ็บท้องจี๊ด ๆ ตรงกลาง เจ็บท้องเตือนแบบไหนอันตราย
บทความ

ท้อง 7 เดือนปวดมดลูกจี๊ดๆตรงกลาง เจ็บท้องเตือนแบบไหนอันตราย

ท้อง 7 เดือนเจ็บท้องจี๊ด ๆ ตรงกลาง เกิดจากอะไร ทำไมคุณแม่ท้องไตรมาส 3 ถึงมีอาการปวดท้องจี๊ด ๆ ตรงกลาง คุณแม่ปวดท้องบ่อย จะอันตรายกับลูกน้อยในครรภ์ไหม

8นาที อ่าน

ปล่อยในกี่วันถึงท้อง อยากมีลูกปล่อยในวันตกไข่จะท้องไหม
บทความ
คู่มือคุณแม่มือใหม่ สำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์ พร้อมเคล็ดลับดูแลตัวเอง

ปล่อยในกี่วันถึงท้อง อยากมีลูกปล่อยในวันตกไข่จะท้องไหม

ปล่อยในกี่วันถึงท้อง ปล่อยในวันไข่ตกจะท้องไหม อยากมีลูกแต่ยังไม่ท้องสักที ทำอย่างไรได้บ้าง คำถามเหล่านี้คือคำถามที่คุณพ่อคุณแม่มือใหม่อยากมีลูกมักถามบ่อย

6นาที อ่าน

ท้องลูกแฝด เกิดจากอะไร ตั้งครรภ์แฝดเสี่ยงอันตรายจริงไหม
บทความ
คู่มือคุณแม่มือใหม่ สำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์ พร้อมเคล็ดลับดูแลตัวเอง

ท้องลูกแฝด เกิดจากอะไร ตั้งครรภ์แฝดเสี่ยงอันตรายจริงไหม

ลูกแฝด เกิดจากอะไร คุณพ่อคุณแม่อยากมีลูกแฝดด้วยวิธีธรรมชาติ ต้องทำอย่างไร ตั้งครรภ์แฝดอันตรายไหม มีเรื่องอะไรบ้างที่คุณแม่ต้องระวังเป็นพิเศษ

9นาที อ่าน

เข็มกลัดคนท้องจำเป็นไหม ทำไมคนท้องติดเข็มกลัดคนท้อง
บทความ
คู่มือคุณแม่มือใหม่ สำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์ พร้อมเคล็ดลับดูแลตัวเอง

เข็มกลัดคนท้องจำเป็นไหม ทำไมคนท้องติดเข็มกลัดคนท้อง

เข็มกลัดคนท้องสำคัญแค่ไหนสำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์ ติดเข็มกลัดคนท้องช่วยป้องกันลูกน้อยจากสิ่งชั่วร้ายได้จริงไหม ไปดูประโยชน์ของเข็มกลัดคนท้องที่คุณแม่ควรรู้กัน

5นาที อ่าน

มดลูกหย่อน อันตรายไหม พร้อมวิธีดูแลตัวเองเมื่อมดลูกต่ำ
บทความ
คู่มือคุณแม่มือใหม่ สำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์ พร้อมเคล็ดลับดูแลตัวเอง

มดลูกหย่อน อันตรายไหม พร้อมวิธีดูแลตัวเองเมื่อมดลูกต่ำ

มดลูกหย่อน คืออะไร อาการมดลูกหย่อนเป็นแบบไหน มีทั้งหมดกี่ระยะ เกิดขึ้นกับช่วงวัยไหนบ้าง รักษาให้หายขาดได้ไหม พร้อมวิธีป้องกันมดลูกหย่อนในผู้หญิง

6นาที อ่าน

ตกขาวสีน้ำตาลคนท้องบอกอะไร แม่ท้องมีตกขาวสีน้ำตาลไม่มีกลิ่นไม่คัน
บทความ
คู่มือคุณแม่มือใหม่ สำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์ พร้อมเคล็ดลับดูแลตัวเอง

ตกขาวสีน้ำตาลคนท้องบอกอะไรบ้าง อันตรายกับแม่ท้องไหม

ตกขาวสีน้ำตาลไม่มีกลิ่นไม่คัน เกิดจากอะไร อาการตกขาวสีน้ำตาลคนท้อง อันตรายกับคุณแม่ตั้งครรภ์ไหม ตกขาวแบบไหนผิดปกติ พร้อมวิธีสังเกตตกขาวสีน้ำตาลไม่มีกลิ่นไม่คัน

7นาที อ่าน

ผักที่คนท้องควรกินมีอะไรบ้าง ผักชนิดไหนช่วยบำรุงครรภ์คุณแม่ท้อง
บทความ
รวมบทความอาหารสำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์ไตรมาสที่ 1-3

ผักที่คนท้องควรกินมีอะไรบ้าง ผักชนิดไหนช่วยบำรุงครรภ์คุณแม่ท้อง

ผักที่คนท้องควรกินมีอะไรบ้าง คนท้องกินถั่วฝักยาวได้ไหม ผักใบเขียวชนิดไหนที่คนท้องสามารถกินได้และดีต่อสุขภาพร่างกาย ไม่เป็นอันตรายกับลูกน้อยในครรภ์

6นาที อ่าน

ผักที่คนท้องห้ามกินมีอะไรบ้าง ผักชนิดไหนที่คุณแม่ห้ามกิน
บทความ
รวมบทความอาหารสำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์ไตรมาสที่ 1-3

ผักที่คนท้องห้ามกินมีอะไรบ้าง ผักชนิดไหนที่ห้ามกิน

ผักที่คนท้องห้ามกินมีอะไรบ้าง คนท้องกินชะอมได้ไหม ผักชนิดไหนที่คนท้องควรหลีกเลี่ยง เพราะอาจส่งผลเสียกับร่างกายของคุณแม่ได้ ไปดูผักที่คนท้องห้ามกินกัน

7นาที อ่าน

คลอดลูกในน้ำ ทางเลือกการคลอดลูก ด้วยวิธีธรรมชาติ
บทความ
รวมบทความการตั้งครรภ์ ตั้งแต่สัญญาณการตั้งครรภ์ ไปจนก่อนคลอด

คลอดลูกในน้ำ ทางเลือกการคลอดลูก ด้วยวิธีธรรมชาติ

คลอดลูกในน้ำ ทางเลือกใหม่ของการคลอดด้วยวิธีธรรมชาติ ช่วยลดความเจ็บปวดให้คุณแม่ การคลอดลูกในน้ำดีกว่าการคลอดปกติอย่างไร ไปดูข้อดีที่คุณแม่ควรรู้กัน

5นาที อ่าน

ฮอร์โมน hCG คืออะไร อาการแพ้ท้องที่เกิดจาก hCG ที่คุณแม่ควรรู้
บทความ
คู่มือคุณแม่มือใหม่ สำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์ พร้อมเคล็ดลับดูแลตัวเอง

ฮอร์โมน hCG คืออะไร อาการแพ้ท้องที่เกิดจาก hCG ที่คุณแม่ควรรู้

ฮอร์โมน hCG คืออะไร hCG สร้างจากอะไร สำคัญอย่างไรกับการตั้งครรภ์ของคุณแม่ สามารถใช้ hCG ตรวจหาการตั้งครรภ์ของแม่ท้องได้จริงไหม hCG มีประโยชน์อย่างไร ไปดูกัน

11นาที อ่าน

รก คืออะไร หน้าที่ของรกมีอะไรบ้าง รกผิดปกติ อันตรายกับคุณแม่แค่ไหน
บทความ
คู่มือคุณแม่มือใหม่ สำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์ พร้อมเคล็ดลับดูแลตัวเอง

รก คืออะไร หน้าที่ของรกมีอะไรบ้าง รกแบบไหนถือว่าผิดปกติ

รก คืออะไร หน้าที่ของรกสำคัญแค่ไหน เมื่อคุณแม่เริ่มตั้งครรภ์ พร้อมวิธีสังเกตความผิดปกติของรก ที่คุณแม่ควรรู้ เพื่อป้องกันอันตรายที่จะเกิดกับทารกในครรภ์

6นาที อ่าน

หลังคลอดกี่เดือนถึงท้องได้ อยากมีลูกหัวปีท้ายปี แบบไหนปลอดภัย
บทความ
คู่มือคุณแม่มือใหม่ สำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์ พร้อมเคล็ดลับดูแลตัวเอง

หลังคลอดกี่เดือนถึงท้องได้ อยากมีลูกหัวปีท้ายปี แบบไหนปลอดภัย

หลังคลอดกี่เดือนถึงท้องได้ ประจำเดือนหลังคลอดมา ๆ หาย ๆ สามารถตั้งครรภ์ได้อีกหรือไม่ คุณแม่อยากมีลูกหัวปีท้ายปี ต้องทำอย่างไร แบบไหนไม่อันตราย ไปดูกัน

6นาที อ่าน

นอนท่าไหนมดลูกเข้าอู่เร็ว อยากให้มดลูกเข้าอู่เร็ว ต้องทำยังไง
บทความ
คู่มือคุณแม่มือใหม่ สำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์ พร้อมเคล็ดลับดูแลตัวเอง

นอนท่าไหนมดลูกเข้าอู่เร็ว อยากให้มดลูกเข้าอู่เร็ว ต้องทำยังไง

คุณแม่หลังคลอดนอนท่าไหนมดลูกเข้าอู่เร็ว อยากให้มดลูกเข้าอู่เร็วต้องทำยังไงบ้าง ไปดูวิธีที่ช่วยให้มดลูกเข้าอู่เร็ว พร้อมวิธีดูแลตัวเองหลังคลอด

6นาที อ่าน

ลูก 6 เดือนไม่ยอมกินข้าวทำยังไงดี พร้อมวิธีรับมือลูกไม่กินข้าว
บทความ
รวมบทความการตั้งครรภ์ ตั้งแต่สัญญาณการตั้งครรภ์ ไปจนก่อนคลอด

ลูก 6 เดือนไม่ยอมกินข้าวทำยังไงดี พร้อมวิธีรับมือลูกไม่กินข้าว

ลูก 6 เดือนไม่ยอมกินข้าว เพราะอะไร หากลูก 7 เดือนแล้ว ลูก 7 เดือนไม่ยอมกินข้าวเหมือนกันไหม ทารก 6 เดือนไม่ยอมกินข้าว จะมีผลเสียกับลูกอย่างไร พร้อมวิธีรับมือ

10นาที อ่าน

สีผิวทารกจะเปลี่ยนตอนกี่เดือน สีผิวทารกเปลี่ยนแบบไหนผิดปกติ
บทความ

สีผิวทารกจะเปลี่ยนตอนกี่เดือน สีผิวทารกเปลี่ยนแบบไหนผิดปกติ

สีผิวทารกจะเปลี่ยนตอนกี่เดือน ลูกน้อยสีผิวเปลี่ยนหลังคลอดปกติไหม คุณแม่จะเห็นสีผิวทารกชัดเจนตอนไหน สีผิวแบบไหนปกติและผิดปกติ พร้อมวิธีสังเกตสีผิวทารกเปลี่ยน

5นาที อ่าน

สะดือทารกมีเลือดออกอันตรายไหม สะดือเด็กทารกเลือดออกทำยังไงดี
บทความ
รวมบทความ ทารกแรกเกิด การดูแลเด็กทารกให้ดีที่สุด

สะดือทารกมีเลือดออกอันตรายไหม สะดือเด็กทารกเลือดออกทำยังไงดี

สะดือทารกมีเลือดออกผิดปกติไหม คุณแม่จะรู้ได้อย่างไรว่าสะดือเด็กทารกเลือดออกแบบไหน ต้องรีบพาไปหาหมอ พร้อมวิธีดูแลสะดือทารกมีเลือดออก ที่พ่อแม่ควรรู้

5นาที อ่าน

ลูกหัวโน หัวปูด อันตรายไหม ลูกหัวโนกี่วันหาย พร้อมวิธีดูแล
บทความ
รวมบทความ ทารกแรกเกิด การดูแลเด็กทารกให้ดีที่สุด

ลูกหัวโน หัวปูด อันตรายไหม ลูกหัวโนกี่วันหาย พร้อมวิธีดูแล

ลูกหัวโน ลูกหกล้มจนหัวปูด อันตรายไหม คุณพ่อคุณแม่มีวิธีสังเกตอาการหัวโนของลูกน้อยอย่างไร เมื่อลูกหกล้มหัวโน อาการแบบไหนที่ควรรีบพาลูกไปหาหมอ

5นาที อ่าน

อาการโคลิค คืออะไร รู้จักสาเหตุพร้อมวิธีรับมือเมื่อลูกร้องไห้
บทความ
รวมบทความ ทารกแรกเกิด การดูแลเด็กทารกให้ดีที่สุด

อาการโคลิค คืออะไร รู้จักสาเหตุพร้อมวิธีรับมือเมื่อลูกร้องไห้

อาการโคลิค คืออะไร ทำไมลูกน้อยถึงร้องไห้งอแงแบบไม่มีสาเหตุ โคลิคเกิดจากสาเหตุอะไรได้บ้าง ไปทำความรู้จักกับอาการโคลิคและวิธีรับมือเมื่อลูกน้อยเป็นโคลิค

5นาที อ่าน

การดูแลลูกเมื่อต้องกลับไปทำงาน
บทความ

คุณแม่มือใหม่ดูแลลูกอย่างไร เมื่อต้องกลับไปทำงาน

หลังจากลาคลอด เมื่อถึงเวลาที่คุณแม่ต้องกลับไปทำงาน จะเป็นช่วงที่คุณแม่มีความกังวลมากที่สุด มาดูวิธีช่วยให้คุณแม่จัดการเวลาทั้งการทำงานเเละการดูเเลลูกน้อยกัน

3นาที อ่าน

เด็กทารกเล่นน้ำลาย คุณแม่ควรห้ามไหม มีผลต่อพัฒนาการอย่างไร
บทความ
บทความแนะนำพัฒนาการลูกน้อยตามช่วงวัย 0-12 เดือน

เด็กทารกเล่นน้ำลาย คุณแม่ควรห้ามไหม มีผลต่อพัฒนาการอย่างไร

เด็กทารกเล่นน้ำลาย เกิดจากอะไร เด็กเล่นน้ำลายบ่อย ผิดปกติไหม จะมีผลต่อพัฒนาการของลูกน้อยหรือเปล่า คุณพ่อคุณแม่ควรดูแลลูกน้อยอย่างไร เมื่อลูกชอบเล่นน้ำลาย

6นาที อ่าน

การติดเชื้อในช่องหูของทารก
บทความ

การติดเชื้อในช่องหูของทารก พร้อมวิธีสังเกตอาการลูกน้อย

หูชั้นกลางอักเสบ เป็นหนึ่งในการติดเชื้อที่พบบ่อยที่สุดในเด็กอายุระหว่าง 6 เดือน – 2 ปี คือการติดเชื้อในช่องหูส่วนกลาง หรือที่เรียกกันว่า หูชั้นกลางอักเสบ (otitis media)

2นาที อ่าน