
25 อาการคนท้องแรก ๆ พร้อมอาการเตือนคนเริ่มท้อง 1 สัปดาห์
คุณแม่บางคนทราบว่าตัวเองท้องทันทีที่ประจำเดือนขาด แต่สำหรับบางคนอาจไม่รู้เพราะไม่มีสัญญาณชัดเจน อาการเตือนคนเริ่มท้อง 1 สัปดาห์ มักเริ่มแสดงออกหลังการปฏิสนธิไม่นาน หากคุณแม่สังเกตอาการของตัวเองและประจำเดือนขาด อาจรู้ได้ทันทีว่ากำลังตั้งท้อง สำหรับคุณแม่ที่ยังไม่แน่ใจว่าตั้งท้อง อาการคนท้องระยะแรกที่สามารถสังเกตได้มีหลายอย่าง เช่น คลื่นไส้, อ่อนเพลีย, ท้องอืด, ปวดท้องหรือปวดศีรษะ เป็นต้น ลองสังเกตตัวเองเพื่อเข้าใจอาการเตือนเหล่านี้ให้ดีขึ้น
อาการเริ่มต้นของคนที่กำลังตั้งท้องมักแสดงออกหลังการปฏิสนธิได้ไม่นาน หากคุณแม่สังเกตความเปลี่ยนแปลงของตัวเองร่วมกับการขาดประจำเดือน ก็อาจรู้ได้ทันทีว่ากำลังตั้งท้อง สำหรับคุณแม่ที่ยังไม่แน่ใจ
สรุป
- อาการคนท้อง สัญญาณเตือนคนท้องในเดือนแรกมักเริ่มจากการขาดประจำเดือน คัดเต้านม หน้ามืด อาเจียน หงุดหงิดง่าย เหนื่อยง่าย จมูกไว และอาการอื่น ๆ ซึ่งเกิดจากการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนในร่างกายของคนท้อง
- อาการแพ้ท้องต่าง ๆ ทั้งอาเจียน และเวียนหัวจะเริ่มดีขึ้นเมื่อคุณแม่เริ่มตั้งครรภ์เข้าสู่ไตรมาสที่ 2 หรือเดือนที่ 4 ของการตั้งครรภ์ ซึ่งอาการแพ้ท้องของคุณแม่แต่ละคนอาจไม่เหมือนกันบางคนไม่แสดงอาการเลยก็มี
- คุณแม่บางท่านอาจท้องไม่รู้ตัวได้ เพราะประจำเดือนที่มาไม่ปกติ หรือไม่มีอาการบ่งชี้ว่ากำลังตั้งครรภ์ ในบางกรณีคุณแม่ที่ตั้งครรภ์อาจมีประจำเดือนมากระปิดกระปอย ซึ่งมากจากตัวอ่อนที่เข้าไปฝังตัวในมดลูก
- หลังจากคุณแม่ทราบแน่ชัดแล้วว่าตัวเองกำลังตั้งครรภ์แนะนำให้ไปพบคุณหมอเพื่อฝากครรภ์ เพราะคุณหมอจะให้คำแนะนำในการดูแลตนเองของคุณแม่ และจะคอยเช็กพัฒนาการ การเติบโตของลูกน้อยในท้อง รวมถึงการดูแลครรภ์เพื่อลดความเสี่ยงต่ออันตรายของลูกน้อยในท้อง
เลือกอ่านตามหัวข้อ
- 25 อาการคนท้องเริ่มแรก สัญญาณเริ่มต้นว่ากำลังตั้งครรภ์
- อาการคนท้องเริ่มแรก มักจะเริ่มขึ้นเมื่อไหร่
- คุณแม่เพิ่งรู้ตัวว่าท้อง วางแผนอย่างไรดี
- ลักษณะหน้าท้องของคนท้อง 1 สัปดาห์
- อาการคนท้องระยะแรก จะดีขึ้นเมื่อไหร่
- อาการท้องไม่รู้ตัวเป็นแบบไหน
- อาการคนท้องตั้งครรภ์ เหมือนกันทุกคนไหม
- อาการคนเริ่มท้อง จะมาหลังปฏิสนธิกี่วัน
- อาการเหมือนคนท้องแต่ไม่ท้อง เป็นเพราะอะไร
- อาการเหมือนคนท้อง แต่มีประจําเดือน
- ตรวจครรภ์หลังมีอะไรกับแฟน 1 อาทิตย์ มีโอกาสตรวจเจอไหม
25 อาการคนท้องเริ่มแรก สัญญาณเริ่มต้นว่ากำลังตั้งครรภ์
อาการคนท้องระยะแรกและอาการเตือนคนเริ่มท้อง 1 สัปดาห์เป็นยังไง อาการแบบไหนที่บอกว่าคุณแม่กำลังตั้งครรภ์อยู่
1. ประจำเดือนขาด
เป็นสัญญาณอาการเตือนคนเริ่มท้องที่บอกว่าคุณแม่กำลังตั้งครรภ์ หากคุณแม่เป็นคนที่ประจำเดือนมาตรงเวลาแต่ประจำเดือนคลาดเคลื่อน หรือขาดไปหลายวันแสดงว่ากำลังจะได้เป็นว่าที่คุณแม่แล้ว
2. เต้านมขยาย หรือมีอาการคัดเต้านม
อาการคนท้องระยะแรก 1-2 สัปดาห์ของการตั้งครรภ์ ว่าที่คุณแม่จะรู้สึกถึงการเปลี่ยนแปลงของเต้านมได้หลังจากประจำเดือนขาด ทั้งเต้านมขยาย คัดตึงเต้านม หรือรู้สึกเสียว
3. ตกขาวมากกว่าปกติ
เมื่อคุณแม่เริ่มตั้งครรภ์หรือเริ่มมีอาการคนท้องเริ่มแรก ฮอร์โมนในร่างกายจะค่อย ๆ เปลี่ยนแปลง ทำให้มีน้ำขาว ๆ ไหลออกมาทางช่องคลอดจึงเป็นสาเหตุให้มีตกขาวมากขึ้นกว่าปกติ
4. ปัสสาวะบ่อย
อาการปัสสาวะบ่อยของคนท้องเกิดจากการที่มดลูกเกิดการขยายตัวทำให้ไปกดกระเพาะปัสสาวะ จึงทำให้คุณแม่อยากเข้าห้องน้ำบ่อย ๆ หนึ่งในอาการคนท้องระยะแรกสำหรับว่าที่คุณแม่
5. อุณหภูมิร่างกายเปลี่ยนแปลง
ในช่วงแรกของการตั้งครรภ์คุณแม่อาจไม่ทันได้สังเกต คิดว่าตัวเองอาจป่วย ซึ่งจากการเปลี่ยนแปลงฮอร์โมนในร่างกายนี้ ทำให้คุณแม่บางคนอาจมีการตัวร้อนเหมือนเป็นไข้ได้
6. รู้สึกเหนื่อยล้าง่าย
อาการเหนื่อยล้า อ่อนเพลีย บางครั้งก็รู้สึกง่วงอยู่บ่อย ๆ อาการเตือนคนเริ่มท้องที่มักเกิดขึ้นกับคุณแม่ที่กำลังตั้งครรภ์ในช่วงแรก เนื่องจากฮอร์โมนของร่างกายที่ค่อย ๆ เปลี่ยนไป
7. จมูกได้กลิ่นไว
อาการคนท้องเริ่มแรก คนท้องมักมีจมูกที่รับรู้ได้ไวกว่าคนปกติอันเป็นผลมาจากฮอร์โมนเอนโตรเจนที่เพิ่มมากขึ้น จนบางครั้งคุณแม่รู้สึกอยากอาเจียนเลยก็มี
8. เลือดออกทางช่องคลอด
คุณแม่หลายคนอาจคิดว่าเลือดที่ออกมาเป็นประจำเดือน ความจริงแล้วเลือดที่ออกมากะปริดกะปรอย อาจมาจากตัวอ่อนที่เข้าไปฝังตัวอยู่ในผนังมดลูกของคุณแม่นั่นเอง
9. โมโห หงุดหงิดได้ง่าย
อาการคนท้องเริ่มแรก คุณแม่ตั้งครรภ์จะอารมณ์แปรปรวนไม่ทราบสาเหคุ เดี๋ยวดีเดี๋ยวร้าย ซึ่งเป็นผลมาจากฮอร์โมนโปรเจสเตอโรนที่เพิ่มขึ้น ทำให้คุณแม่อารมณ์เสียได้ง่าย
10. หน้ามืดบ่อย
อาการคนท้องระยะแรก คุณแม่จะมีอาการหน้ามืดจะเป็นลม เป็นอาการที่พบได้บ่อยของคนท้อง เนื่องจากฮอร์โมนในร่างกายกำลังปรับตัวและความดันในร่างกายของคุณแม่เปลี่ยนแปลงไป คุณแม่จึงรู้สึกหน้ามืดหรือเวียนหัวอยู่บ่อยครั้ง
11. เบื่ออาหาร
คุณแม่ตั้งครรภ์หลายคนอาจมีความชอบในการรับประทานอาหารเปลี่ยนไป บางคนอาจอยากลองอาหารแปลกใหม่ที่ไม่เคยกินมาก่อน ขณะที่บางคนกลับรู้สึกเบื่ออาหารที่เคยชอบ นอกจากนี้ ยังมีคุณแม่จำนวนไม่น้อยที่รู้สึกอยากกินอาหารรสเปรี้ยวมากขึ้น
12. คลื่นไส้และอาเจียน
อาการคลื่นไส้และอาเจียนมักปรากฏภายในช่วงเดือนแรกหลังตั้งครรภ์ ซึ่งถือเป็นหนึ่งในสัญญาณของอาการแพ้ท้องที่พบได้บ่อย โดยเกิดขึ้นกับคุณแม่ตั้งครรภ์ประมาณ 50% อย่างไรก็ตาม ในบางคนอาจไม่แสดงอาการนี้เลย หรือเริ่มมีอาการช้ากว่า โดยอาจเกิดขึ้นในช่วงเดือนที่ 3 ถึง 4 ของการตั้งครรภ์
13. ปวดศีรษะ
ในช่วงตั้งครรภ์ โดยเฉพาะในไตรมาสแรก คุณแม่ตั้งครรภ์อาจมีอาการเวียนศีรษะ ปวดศีรษะเล็กน้อย หรือรู้สึกหน้ามืดเป็นลม ซึ่งสาเหตุหนึ่งมักเกิดจากการไหลเวียนของเลือดที่ไม่สะดวก เนื่องจากหลอดเลือดใหญ่ที่นำเลือดกลับไปยังหัวใจถูกกดทับ จึงส่งผลให้เลือดไปเลี้ยงสมองได้น้อยลง ทำให้เกิดอาการปวดศีรษะขึ้นได้
14. ปวดหลัง
อาการปวดหลังมักเกิดขึ้นได้ตั้งแต่ช่วงเริ่มตั้งครรภ์ไปจนถึงใกล้คลอด โดยมีสาเหตุมาจากการเปลี่ยนแปลงของมดลูก ซึ่งจะขยายตัวและมีน้ำหนักเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ส่งผลให้หลังต้องรองรับน้ำหนักมากกว่าปกติ จึงทำให้คุณแม่ตั้งครรภ์รู้สึกปวดหลังในระหว่างตั้งครรภ์
15. ปวดหน่วงท้องน้อย
คุณแม่ตั้งครรภ์บางคนอาจรู้สึกปวดหรือเกร็งเล็กน้อยบริเวณมดลูกในช่วงเริ่มต้นของการตั้งครรภ์ ซึ่งมักเกิดขึ้นประมาณ 1–2 สัปดาห์หลังการปฏิสนธิ โดยจะรู้สึกเจ็บหรือปวดหน่วงบริเวณท้องน้อยใกล้กับมดลูก ลักษณะคล้ายกับอาการปวดประจำเดือน อาการเหล่านี้เกิดจากการที่ร่างกายเริ่มผลิตฮอร์โมนมากขึ้นเพื่อรองรับการฝังตัวของตัวอ่อน และมดลูกเริ่มขยายตัวเพื่อเตรียมรองรับการเจริญเติบโตของทารก ซึ่งอาการนี้มักจะคงอยู่เพียง 2–3 วันก่อนจะค่อย ๆ ทุเลาลง
16. ท้องผูก
การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนในช่วงตั้งครรภ์ส่งผลต่อการทำงานของระบบขับถ่าย ทำให้การเคลื่อนไหวของลำไส้ช้าลง จนทำให้เกิดท้องผูก
17. ท้องอืด
คุณแม่ตั้งครรภ์อาจมีอาการท้องอืดได้ ซึ่งเกิดจากฮอร์โมนโปรเจสเตอโรนที่เพิ่มขึ้นระหว่างตั้งครรภ์ ส่งผลต่อการทำงานของระบบย่อยอาหาร ทำให้มีแก๊สสะสมในกระเพาะอาหารมากขึ้น จนรู้สึกแน่นท้อง มีลมในท้อง หรือท้องอืดคล้ายกับช่วงก่อนมีประจำเดือน และอาจมีการผายลมบ่อยร่วมด้วย
18. เลือดออกกะปริบกะปรอย
อาจเป็นสัญญาณแรกของการตั้งครรภ์ ซึ่งเรียกว่า “เลือดล้างหน้าเด็ก” เกิดจากไข่ที่ปฏิสนธิฝังตัวในเยื่อบุโพรงมดลูก ซึ่งมักเกิดประมาณ 10–14 วันหลังการปฏิสนธิ และอาจเกิดขึ้นในช่วงเวลาเดียวกับที่ประจำเดือนจะมา แต่อาการนี้ไม่ได้เกิดขึ้นกับผู้หญิงทุกคน
19. แสบร้อนกลางอก
อาการแสบร้อนกลางอกในช่วงตั้งครรภ์มักเกิดจากระดับฮอร์โมนโปรเจสเตอโรนที่เพิ่มสูงขึ้น ทำให้ระบบย่อยอาหารทำงานช้าลง และกล้ามเนื้อหูรูดระหว่างหลอดอาหารกับกระเพาะอาหารคลายตัว ส่งผลให้น้ำย่อยไหลย้อนกลับขึ้นสู่หลอดอาหาร เมื่อเข้าสู่ช่วงอายุครรภ์มากขึ้น มดลูกที่ขยายใหญ่จะกดทับกระเพาะอาหาร ดันให้กระเพาะอยู่ในตำแหน่งที่สูงขึ้น ส่งผลให้คุณแม่ตั้งครรภ์รู้สึกแสบร้อนกลางอก เรอเปรี้ยว คลื่นไส้ ระคายคอ หรือในบางรายอาจเกิดภาวะหลอดอาหารอักเสบได้
20. หายใจไม่อิ่ม
ในช่วงเริ่มต้นของการตั้งครรภ์ ระดับฮอร์โมนโปรเจสเตอโรนที่สูงขึ้น ซึ่งช่วยให้ปอดรับออกซิเจนได้มากขึ้นเพื่อส่งต่อสู่ทารก พร้อมกับขับคาร์บอนไดออกไซด์ออกจากร่างกายได้เร็วขึ้น เมื่ออายุครรภ์มากกขึ้นทารกอาจกดเบียดกระบังลม ทำให้คุณแม่ตั้งครรภ์รู้สึกหายใจลำบาก ต้องหายใจถี่หรือหายใจลึกมากกว่าปกติ
21. เป็นสิว
สิวเป็นอาการที่พบบ่อยระหว่างตั้งครรภ์ มักเกิดจากฮอร์โมนโปรเจสเตอโรนที่เพิ่มขึ้นหลังการปฏิสนธิ ซึ่งจะกระตุ้นต่อมไขมันให้ผลิตน้ำมันมากขึ้น จนน้ำมันส่วนเกินอุดตันรูขุมขน เกิดเป็นสิวบนใบหน้า หรือบริเวณที่มีต่อมไขมันจำนวนมาก
22. อาการชาหรือเสียวซ่าที่มือ (Carpal Tunnel Syndrome)
อาการชาหรือเสียวซ่าที่มือระหว่างตั้งครรภ์ หรือที่เรียกว่า Carpal Tunnel Syndrome พบได้ในคุณแม่ตั้งครรภ์ถึงประมาณ 60% สาเหตุเกิดจากของเหลวในร่างกายที่เพิ่มขึ้นไปกดทับเส้นประสาทมีเดียน (Median nerve) บริเวณข้อมือ
อาการอาจเริ่มจากรู้สึกชาหรือปวดเป็นระยะ ๆ ไปจนถึงรู้สึกอ่อนแรงที่นิ้วหัวแม่มือ หรือสูญเสียความรู้สึกบางส่วน โดยส่วนใหญ่อาการเหล่านี้จะค่อย ๆ ดีขึ้นและหายไปเองหลังคลอด หากคุณแม่ตั้งครรภ์มีอาการชาหรือเสียวซ่าที่มือ ควรแจ้งให้สูติแพทย์ทราบ เพื่อให้ได้รับการวินิจฉัยและดูแลอย่างเหมาะสม
23. ตะคริวที่ขา
เป็นอาการที่พบได้บ่อยในคุณแม่ตั้งครรภ์ เกิดจากการสะสมของกรดในกล้ามเนื้อ ทำให้กล้ามเนื้อหดเกร็งโดยไม่ตั้งใจ มักเกิดในตอนกลางคืน และพบได้มากขึ้นในช่วงไตรมาสที่ 2 และ 3 ของการตั้งครรภ์
24. เส้นเลือดขอดและอาการบวมที่ขา
เส้นเลือดขอดที่ขาในช่วงตั้งครรภ์เกิดจากหลายปัจจัยร่วมกัน เช่น ปริมาณเลือดที่ไหลเวียนในร่างกายเพิ่มขึ้น และมดลูกที่ขยายตัวกดทับหลอดเลือดดำขนาดใหญ่ ทำให้เลือดไหลเวียนกลับได้ยาก จึงเกิดอาการบวมที่ขาตามมา
25. คัดจมูก
ระดับฮอร์โมนและการผลิตเลือดที่เพิ่มขึ้นระหว่างตั้งครรภ์ อาจทำให้เยื่อบุโพรงจมูกบวม แห้ง และมีเลือดออกได้ง่าย ส่งผลให้คุณแม่ตั้งครรภ์มีอาการคัดจมูกหรือมีน้ำมูกไหลได้

อาการคนท้องเริ่มแรก มักจะเริ่มขึ้นเมื่อไหร่
อาการเตือนคนเริ่มท้อง คือ การที่ประจำเดือนขาดหรือประจำเดือนไม่มา สำหรับคนที่รอบเดือนมาไม่สม่ำเสมออาจจะสังเกตได้ยาก และบ่อยครั้งหลังจากตั้งครรภ์อาจมีเลือดออกกะปริดกะปรอย รวมถึงมีอาการอื่นร่วมด้วย เช่น คลื่นไส้ อาเจียน เหนื่อยล้าง่าย และหงุดหงิดอยู่บ่อย ๆ เป็นต้น เพื่อให้แน่ใจว่าคุณกำลังตั้งครรภ์สามารถซื้อชุดทดสอบการตั้งครรภ์หรือที่ตรวจครรภ์คนท้อง มาตรวจเบื้องต้นก่อน
คุณแม่เพิ่งรู้ตัวว่าท้อง วางแผนอย่างไรดี
ไปตรวจครรภ์
หลังจากที่คุณแม่ลองตรวจครรภ์ด้วยตัวเองและทราบแน่ชัดแล้วว่ากำลังตั้งครรภ์ คุณแม่ควรไปตรวจครรภ์กับแพทย์อีกครั้ง เพราะการตรวจครรภ์ในห้องปฏิบัติการณ์จะมีความแม่นยำที่มากกว่า ทั้งยังช่วยให้คุณแม่สามารถวางแผนการบำรุงดูแลครรภ์เพื่อป้องกันการแท้งบุตรด้วย
ไปฝากครรภ์
การฝากครรภ์มีความสำคัญสำหรับคุณแม่และลูกน้อยในท้องมาก เพราะการฝากครรภ์กับคุณหมอตลอดระยะเวลา 9 เดือนนั้น แพทย์จะคอยให้คำแนะนำในการดูแลตัวเองและลูกน้อยในท้อง รวมถึงพยายามลดความเสี่ยงที่อาจส่งผลเสียต่อคุณแม่และทารกในครรภ์ด้วย โดยในช่วงไตรมาสแรกของการตั้งครรภ์หากคุณแม่ตั้งครรภ์ปกติ คุณหมอจะนัดตรวจเดือนละครั้ง แต่ถ้ามีอาการผิดปกติคุณหมอจะนัดตรวจถี่ขึ้น ซึ่งในระหว่างที่คุณแม่ฝากครรภ์คุณหมอจะตรวจอัลตร้าซาวน์ดูพัฒนาการของลูกในท้อง คำนวณอายุครรภ์ และสามารถกำหนดวันคลอดได้
ลักษณะหน้าท้องของคนท้อง 1 สัปดาห์
อาการเตือนคนเริ่มท้อง 1 สัปดาห์แรกของการตั้งครรภ์ คุณแม่ท้อง 1 สัปดาห์ อาจจะยังไม่รู้สึกถึงขนาดหน้าท้องเท่าไหร่นัก คุณแม่บางคนอาจเห็นหน้าท้องขยายขึ้นเล็กน้อย มีพุงยื่นออกมาด้านหน้า ส่วนสะดือจะนูนออกมา ในทางตรงกันข้ามบางคนอาจไม่มีการเปลี่ยนแปลงเลย เนื่องจากว่าทารกในท้องแม่ยังมีขนาดเล็กจิ๋ว แต่คุณแม่จะรู้สึกได้ถึงอาการอื่น ๆ หรือมีอาการแพ้ท้อง เช่น คลื่นไส้ หน้ามืด อ่อนเพลีย เป็นต้น

อาการคนท้องระยะแรก จะดีขึ้นเมื่อไหร่
อาการเตือนคนเริ่มท้อง 1 สัปดาห์ ส่วนใหญ่แล้วคุณแม่จะมีอาการคลื่นไส้ อาเจียน หรือที่เราเรียกว่า “อาการแพ้ท้อง” อาการนี้มักเกิดขึ้นหลังจากที่ตัวอ่อนปฏิสนธิได้ประมาณ 1 เดือน ทำให้คุณแม่รู้สึกคลื่นไส้อยู่บ่อย ๆ แล้วจะค่อย ๆ ดีขึ้นเมื่อคุณแม่ตั้งครรภ์เข้าสู่ไตรมาสที่ 2 หรือเดือนที่ 4 ของการตั้งครรภ์ ซึ่งสาเหตุของการแพ้ก็มาจากฮอร์โมนที่เปลี่ยนแปลงไป อย่างไรก็ตามอาการแพ้ท้องบางคนอาจเป็นมาก บางคนเป็นน้อย หรือบางคนอาจมาเป็นเอาช่วงเดือนสุดท้ายก่อนคลอดก็ได้
อาการท้องไม่รู้ตัวเป็นแบบไหน
อาการท้องไม่รู้ของคุณแม่สามารถเกิดขึ้นได้ในผู้หญิงที่มีปัญหาประจำเดือนมาไม่ปกติ หรือมาไม่สม่ำเสมอ เมื่อประจำเดือนขาดทำให้คุณแม่ไม่รู้ว่าตัวเองกำลังตั้งครรภ์ รวมถึงคุณแม่ที่ไม่มีอาการของคนท้อง เช่น อาการแพ้ท้อง เหนื่อยล้า คัดเต้านม หงุดหงิดง่าย เป็นต้น หรือในผู้หญิงที่มีน้ำหนักตัวเกินทำให้ไม่ได้สังเกตถึงความเปลี่ยนแปลงในร่างกาย พอมารู้ตัวอีกทีก็ตั้งครรภ์ได้หลายสัปดาห์แล้ว
อาการคนท้องตั้งครรภ์ เหมือนกันทุกคนไหม
อาการคนท้องของคุณแม่แต่ละคนไม่เหมือนกันแต่ส่วนใหญ่มีอาการที่คล้ายคลึงกันค่ะ คุณแม่บางคนอาจมีอาการคนท้องหลายอาการ ในขณะที่คุณแม่บางคนแทบไม่มีอาการของคนท้องเลย หากคุณแม่มั่นใจว่าตั้งครรภ์แนะนำให้คุณแม่ฝากครรภ์เพื่อรับคำแนะนำในการดูแลตัวเองและทารกน้อยในท้องตลอดระยะเวลาตั้งครรภ์ค่ะ
อาการคนเริ่มท้อง จะมาหลังปฏิสนธิกี่วัน
โดยปกติแล้วอาการคนท้องที่สามารถสังเกตได้ จะเกิดขึ้นภายใน 10 วัน หลังจากการปฏิสนธิเริ่มขึ้น เนื่องจากจะเกิดการแบ่งเป็นเซลล์เล็กเซลล์น้อยอย่างรวดเร็ว ก่อนที่เซลล์เหล่านี้จะเคลื่อนตัวเข้าไปฝังตัวในผนังมดลูก ทำให้คุณแม่มีเลือดออกซึมมาเล็กน้อยคล้ายเลือดประจำเดือน
อาการเหมือนคนท้องแต่ไม่ท้อง เป็นเพราะอะไร
อาการนี้อาจเกิดกับผู้หญิงที่มีประจำเดือนขาด คลื่นไส้ อาเจียน บางคนรู้สึกเหมือนมีลูกดิ้นในท้องด้วย แต่พอไปตรวจกับคุณหมอ กลับคลำมดลูกไม่ได้ อัลตร้าซาวน์ก็ไม่พบการตั้งครรภ์ อาการท้องแต่ไม่ท้องนี้เรียกว่า “ท้องหลอก” สาเหตุมากจากสภาพจิตใจของผู้หญิงที่อาจมีความเครียดที่ต้องการมีลูกนั่นเอง
อาการเหมือนคนท้อง แต่มีประจําเดือน
อาการที่ผู้หญิงมีอาการคล้ายคนท้อง แต่มีประจำเดือนด้วย อาจเกิดขึ้นกับหญิงที่กำลังตั้งครรภ์ได้ เพราะว่าในช่วงที่มีการฝังตัวในมดลูกจะทำให้มีเลือดออกเล็กน้อยคล้ายประจำเดือนหรือที่คนสมัยก่อนเรียกว่า “เลือดล้างหน้าเด็ก” ในคนท้องบางรายเลือดที่ไหลออกมาอาจเป็นประจำเดือนจริง ๆ ได้ แต่มีจำนวนแค่กะปริดกะปรอยเพราะความเครียดของคุณแม่
ตรวจครรภ์หลังมีอะไรกับแฟน 1 อาทิตย์ มีโอกาสตรวจเจอไหม
การตรวจครรภ์เป็นการตรวจหาฮอร์โมน HCG ในปัสสาวะ ซึ่งฮอร์โมนนี้จะเกิดขึ้นหลังจากมีการปฏิสนธิไปแล้ว 6 วัน หากคุณต้องการตรวจครรภ์สามารถทำได้แต่โอกาสที่ตรวจแล้วเจอผลเป็นลบหรือไม่พบการตั้งครรภ์มีสูง ดังนั้นเพื่อความแม่นยำแนะนำให้คุณตรวจครรภ์ในช่วงที่ประจำเดือนขาดไปแล้วระยะเวลา 10-14 วันจะดีที่สุด
การเตรียมความพร้อมก่อนและระหว่างตั้งครรภ์ ไม่ได้หมายถึงแค่การดูแลสุขภาพของคุณแม่เท่านั้น แต่ยังรวมถึงการวางแผนเพื่อส่งเริมพัฒนาการของลูกน้อยในระยะยาว โดยเฉพาะในช่วงขวบปีแรก ซึ่งถือเป็นช่วงเวลาทองของการพัฒนาสมอง หนึ่งในปัจจัยสำคัญที่ช่วยสมองลูกน้อยเติบโตได้อย่างเต็มศักยภาพ คือการได้รับนมแม่อย่างเพียงพอ เนื่องจากนมแม่มีสารอาหารมากกว่า 200 ชนิด ซึ่งส่งผลโดยตรงต่อการทำงานของสมอง โดยเฉพาะแอลฟาแล็ค สฟิงโกไมอีลิน ซึ่งช่วยเพิ่มความเร็วและประสิทธิภาพในการส่งสัญญาณประสาท สนับสนุนการทำงานของสมองในด้านต่างๆ เช่น การทำงานที่รวดเร็วของสมอง (FAST Processing Brain) , สมองที่คิดพลิกแพลง (FLEXIBLE Brain) และ สมองมีสมาธิ (Brain FOCUS) จึงนับว่าเป็นสารอาหารจำเป็นอย่างยิ่งในขวบปีแรกของชีวิต งานวิจัยยังพบว่า ทารกที่ได้รับนมแม่ มีแนวโน้มจะมี IQ สูงกว่า และมีพัฒนาการทางภาษาและการสื่อสารดีกว่าเมื่อเทียบกับทารกที่ไม่ได้รับนมแม่
บทความแนะนำสำหรับคุณแม่มือใหม่
- Health check แบบประเมินสุขภาพของคุณแม่และพัฒนาการของลูกน้อย
- ที่ตรวจครรภ์ขึ้น 2 ขีดจาง แบบนี้ท้องไหม ตรวจแบบไหนถึงจะรู้ผลแม่นยำ
- ที่ตรวจครรภ์แบบไหนดีกับการตรวจครรภ์ ใช้งานง่าย แม่นยำ รู้ผลเร็ว
- ตรวจครรภ์ตอนไหนชัวร์สุด ช่วงเช้าหรือช่วงเย็น ให้ผลแม่นยำกว่ากัน
- ตั้งครรภ์มีเลือดออกไม่ปวดท้อง อันตรายไหม สำหรับแม่ตั้งครรภ์
- ประจำเดือนไม่มา 1 เดือน ประจำเดือนมาช้า เมนไม่มากี่วันถึงท้อง
- มีประจำเดือนแต่ท้อง เป็นไปได้ไหม ใช่เลือดล้างหน้าเด็กหรือเปล่า
- มูกไข่ตก มีเมือกใส ๆ ออกมาจากช่องคลอด สัญญาณดีสำหรับว่าที่คุณแม่
- อาการปวดท้องขณะตั้งครรภ์อ่อน ๆ ปวดหน่วงท้องน้อยตั้งครรภ์ อันตรายไหม
- แผลฝีเย็บหลังคลอดของคุณแม่ ดูแลแผลฝีเย็บอย่างไรให้ปลอดภัย
- คนท้องห้ามกินอะไรบ้าง อาหารคนท้องอ่อนห้ามกินที่แม่ตั้งครรภ์ควรรู้
อ้างอิง:
- อาการคนท้องเดือนแรก สัญญาณเริ่มต้นว่ากำลังตั้งครรภ์, โรงพยาบาลศิครินทร์
- Your first trimester guide, unicef
- พุงคนท้องระยะแรก มีลักษณะอย่างไร, Hellokhunmor
- 4 วิธีตรวจการตั้งครรภ์ ที่ผู้หญิงควรรู้, โรงพยาบาลจุฬารัตน์ 9 แอร์พอร์ต
- อาการคนท้องไม่รู้ตัว เกิดจากอะไร และวิธีดูแลตัวเองเมื่อรู้ว่าท้อง, Hellokhunmor
- สุขใจ ได้เป็นแม่, กรมอนามัย
- แบบนี้สิท้องแล้ว, โรงพยาบาลสมิติเวช
- ท้องลม ท้องหลอก, คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล
- ตั้งครรภ์แน่ๆ หรือแค่จะมีประจำเดือน, โรงพยาบาลสมิติเวช
- ผลจากที่ตรวจครรภ์...แม่นยำแค่ไหนกันนะ? โรงพยาบาลเปาโล
- Symptoms of pregnancy: What happens first , mayoclinic
- 18 อาการคนท้องเริ่มแรก ข้อสังเกต วิธียืนยันการตั้งครรภ์ , โรงพยาบาลเมดพาร์ค
- Pregnancy - signs and symptoms , betterhealth
- Symptoms of pregnancy: What happens first , mayoclinic
อ้างอิง ณ วันที่ 18 เมษายน 2568