เลือดล้างหน้าเด็ก วิธีแยกความแตกต่าง และสัญญาณแรกของการตั้งครรภ์
"เลือดล้างหน้าเด็ก" จะเกิดขึ้นในช่วงอายุครรภ์ประมาณกี่สัปดาห์คะ?
โดยส่วนใหญ่แล้ว หากคุณมีเลือดล้างหน้าเด็กออกมาและมีการตรวจยืนยันแล้วว่าเกิดการตั้งครรภ์จริง แสดงว่าตอนนี้คุณมีอายุครรภ์ราว 4 สัปดาห์ ถึง 4 สัปดาห์ครึ่งค่ะ โดยเลือดล้างหน้าเด็กจากการฝังตัวของตัวอ่อนนี้มักเกิดขึ้นช่วงเดียวกับรอบเดือนปกติ หรืออาจเกิดก่อนช่วงวันที่มีประจำเดือนในรอบถัดไปเล็กน้อยค่ะ
ถ้าหนูมี "เลือดล้างหน้าเด็ก" แล้ว แบบนี้แปลว่าท้องแน่นอน 100% เลยไหมคะ?
ยังไม่ 100% ค่ะ แต่เป็นสัญญาณที่มีความเป็นไปได้สูงมาก! เลือดล้างหน้าเด็กเป็นหนึ่งในสัญญาณแรกสุดของการตั้งครรภ์ แต่การมีเลือดออกกะปริบกะปรอยในช่วงนี้ก็อาจเกิดจากสาเหตุอื่นได้เช่นกัน เช่น การอักเสบติดเชื้อบริเวณอุ้งเชิงกราน และโรคทางระบบสืบพันธุ์อย่าง PCOS หากสงสัยว่าอาจเป็นเลือดล้างหน้าเด็กสามารถใช้ที่ตรวจครรภ์มาทดสอบได้ค่ะ ถ้าขึ้น 2 ขีด แสดงว่าตั้งครรภ์ชัวร์ แต่ถ้าไม่พบการตั้งครรภ์และเลือดที่ออกมาไม่ใช้ประจำเดือนควรไปพบแพทย์นะคะ
หนูไม่มี "เลือดล้างหน้าเด็ก" เลยค่ะ แบบนี้ผิดปกติไหมคะ หรือแปลว่าตัวอ่อนฝังตัวไม่ดี?
ไม่ผิดปกติเลยค่ะ! แม้ว่าเลือดล้างหน้าเด็กจะเกิดจากการฝังตัวอ่อนที่เยื่อบุมดลูก แต่อาการเลือดล้างหน้าเด็กไหลออกจากทางช่องคลอดอาจไม่ได้เกิดขึ้นกับทุกคนค่ะ หากว่าที่คุณแม่กังวลว่าตัวอ่อนจะฝังตัวไม่ดีสามารถปรึกษาแพทย์เพื่อขอคำแนะนำได้นะคะ
สรุป
- เลือดล้างหน้าเด็ก คือ เลือดที่เกิดจากการฝังตัวของตัวอ่อนเข้ากับเยื่อบุมดลูกแล้วมีเลือดออก ส่วนใหญ่มักเกิดในช่วงที่มีประจำเดือนหรือก่อนเป็นประจำเดือนเล็กน้อย ทำให้คนส่วนใหญ่สับสนได้
- ลักษณะของเลือดล้างหน้าเด็กและเลือดประจำเดือนที่เห็นได้ชัด คือ สีของเลือดล้างหน้าเด็กจะออกเป็นสีชมพู ไหลออกมาเล็กน้อย เพียง 1-2 วันเท่านั้น ส่วนเลือดประจำเดือนมักจะมีสีแดง ในช่วงวันแรกประจำเดือนอาจมาน้อย แต่พอวันที่ 2 เป็นต้นไปประจำเดือนจะมาเพิ่มขึ้น โดยมีระยะเวลาไม่เกิน 7 วันเลือดก็จะหายไป
- หากเลือดที่ออกมาไม่ใช่เลือดประจำเดือน และสงสัยว่าใช่เลือดล้างหน้าเด็กหรือไม่ แนะนำให้ใช้ที่ตรวจครรภ์ทดสอบการตั้งครรภ์ได้ ถ้าตรวจแล้วไม่พบการตั้งครรภ์แนะนำให้เข้าพบแพทย์เพื่อตรวจซ้ำรวมถึงหาสาเหตุที่ทำให้เกิดเลือดออกจากช่องคลอด
เลือกอ่านตามหัวข้อ
- เช็กให้ชัด! ตารางเปรียบเทียบ "เลือดล้างหน้าเด็ก" vs "ประจำเดือน"
- แล้ว "เลือดล้างหน้าเด็ก" เกิดจากอะไรกันแน่?
- มีเลือดล้างหน้าเด็ก จะตรวจครรภ์เจอไหม
- เลือดล้างหน้าเด็ก เสี่ยงต่อการตั้งครรภ์หรือไม่?
- ข้อควรระวัง: สัญญาณเลือดออกที่ "ไม่ใช่" เลือดล้างหน้าเด็กและต้องรีบพบแพทย์
เช็กให้ชัด! ตารางเปรียบเทียบ "เลือดล้างหน้าเด็ก" vs "ประจำเดือน"
เลือดล้างหน้าเด็ก เกิดขึ้นในคนที่กำลังตั้งครรภ์เท่านั้น
ตารางเปรียบเทียบ "เลือดล้างหน้าเด็ก" vs "ประจำเดือน"
| เลือดล้างหน้าเด็ก | ประจำเดือน | |
|---|---|---|
| สีของเลือด | สีน้ำตาลหรือสีชมพู | สีแดงค่อนข้างสด |
| ลักษณะของเลือด | เลือดออกมาในปริมาณเล็กน้อย | วันแรกจะมาไม่ค่อยเยอะ แต่พอวันถัดไปจะมีปริมาณเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ |
| ระยะเวลาที่เลือดออก | ประมาณ 1-2 วัน | ประมาณ 3-5 วัน |
| ลักษณะอาการ | ไม่ค่อยมีอาการอื่นร่วม | มีอาการร่วมอื่น ๆ ด้วย เช่น ปวดท้องน้อย |
1. เลือดประจำเดือน
ประจำเดือน เกิดจากไข่ที่ตกหลุดออกจากเยื่อบุผนังมดลูกหลังจากไม่ได้ผสมกับอสุจิ แล้วสลายกลายเป็นเลือดประจำเดือน ลักษณะของเลือดประจำเดือน คือ
- สีเลือดประจำเดือนจะมีสีแดงค่อนข้างสด ช่วงวันแรกๆ รอบเดือนจะมาไม่ค่อยเยอะ แต่พอเข้าวันที่ 2 ปริมาณเลือดประจำเดือนจะเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ
- ระยะเวลาในการเป็นรอบเดือนแต่ละครั้งจะอยู่ที่ประมาณ 3-5 วัน แต่ไม่ควรนานเกิน 7 วัน
- เมื่อมีประจำเดือนมักจะมีอาการร่วมอื่นๆ ร่วมด้วย เช่น ปวดท้องน้อยช่วงวันที่เริ่มมีรอบเดือน สาเหตุเกิดจากมดลูกบีบตัว ในผู้หญิงบางคนอาจมีอาการนำก่อนการมีประจำเดือน เช่น ปวดหลัง คัดหน้าอก อ่อนเพลีย เหนื่อย หรือหงุดหงิดได้
2. เลือดล้างหน้าเด็ก
เลือดล้างหน้าเด็ก คือ เลือดที่เกิดจากการฝังตัวของตัวอ่อนเข้ากับเยื่อบุมดลูกแล้วมีเลือดออก หลังจากที่ไข่ได้รับการผสมกับอสุจิจึงเกิดการตั้งครรภ์ขึ้น ซึ่งเลือดล้างหน้าเด็กจะออกก่อนหรือใกล้เคียงกับรอบประจำเดือนถัดไปที่ควรจะมาค่ะ โดยเลือดล้างหน้าเด็กนี้อาจเกิดขึ้นกับบางคนเท่านั้น
- เลือดล้างหน้าเด็กจะมีสีน้ำตาลหรือสีชมพู คล้ายเลือดเก่า ๆ เป็นรอยเปื้อนที่กางเกงใน หรือปริมาณเลือดที่มาน้อยกว่าที่เคยเป็นประจำเดือนค่ะ
- จะมีระยะเวลาที่เลือดออกประมาณ 1-2 วัน เท่านั้น
- ส่วนใหญ่ไม่ค่อยมีอาการอื่นร่วม
แล้ว "เลือดล้างหน้าเด็ก" เกิดจากอะไรกันแน่?
เลือดล้างหน้าเด็ก (Implantation Bleeding) คือ อาการเลือดออกจากช่องคลอด ที่อาจเกิดขึ้นในช่วงตั้งครรภ์ระยะแรกมักเกิดขึ้นหลังจากการปฏิสนธิแล้วประมาณ 17 วัน หรือ 4 สัปดาห์ครึ่ง นับจากวันแรกของประจำเดือนครั้งสุดท้าย โดยเลือดที่เกิดจากการฝังตัวของตัวอ่อนเข้ากับเยื่อบุมดลูก หลังจากที่ไข่และอสุจิเกิดการปฏิสนธิทำให้มีเลือดออกมา ซึ่งหลังจากที่ไข่ถูกผสมแล้วที่ปีกมดลูกประมาณวันที่ 5-6 จากนั้นจะเดินทางไปฝังตัวจนติดสมบูรณ์อีกประมาณ 1 สัปดาห์ แล้วกลายเป็นตัวอ่อนฝังตัวในมดลูก ภายในระยะเวลา 10-14 วัน ทำให้มีเลือดไหลออกจากช่องคลอดเป็นสีชมพูหรือสีน้ำตาลเล็กน้อยแบบกะปริบกะปรอย ประมาณ 1-2 วัน และอาจมีอาการปวดเกร็งบริเวณท้องน้อย ซึ่งเกิดจากมดลูกบีบตัว
ลักษณะอาการของ “เลือดล้างหน้าเด็ก”
เลือดล้างหน้าเด็กมีความแตกต่างจากเลือดประจำเดือนอย่างเห็นได้ชัด โดยมีลักษณะอาการที่สังเกตได้ดังต่อไปนี้ค่ะ
- มีเลือดออกเล็กน้อยกะปริบกะปรอยจนแทบไม่ต้องใช้ผ้าอนามัย
- สีของเลือดล้างหน้าเด็กมีตั้งแต่สีชมพูอ่อนไปจนถึงสีน้ำตาล หรือสีสนิม
- ไม่ค่อยมีอาการอื่น ๆ ร่วมด้วย
- มีอาการตั้งครรภ์ร่วมด้วย เช่น คลื่นไส้ อาเจียน คัดตึงเต้านม อ่อนเพลีย และสามารถตรวจพบการตั้งครรภ์ได้จากการตรวจปัสสาวะหรือตรวจเลือดค่ะ
มีเลือดล้างหน้าเด็ก จะตรวจครรภ์เจอไหม

มีโอกาสตรวจครรภ์เจอสูงค่ะ เมื่อคุณตรวจสอบแล้วพบว่าเลือดที่ไหลออกมาไม่ใช่เลือดประจำเดือน แต่น่าจะเป็นเลือดล้างหน้าเด็ก สามารถใช้ที่ทดสอบการตั้งครรภ์ตรวจดูด้วยตัวเองได้ค่ะ หากตรวจการตั้งครรภ์แล้วผลออกมาว่าไม่ได้ตั้งครรภ์แต่มีเลือดไหลกะปริบกะปรอยแนะนำให้ปรึกษาแพทย์เพื่อตรวจซ้ำอีกครั้ง เพื่อให้แพทย์ตรวจประเมินอาการว่าเลือดที่ออกมาเกิดจากการฝังตัวหรือสัญญาณความผิดปกติของร่างกายอื่นๆ แต่ถ้าผลออกมาว่าตั้งครรภ์ให้รีบเข้าพบแพทย์ว่าใช่เลือดล้างหน้าเด็กหรือไม่ และควรฝากครรภ์ทันที
เลือดล้างหน้าเด็ก เสี่ยงต่อการตั้งครรภ์หรือไม่?
เลือดล้างหน้าเด็ก เป็นสัญญาณแรกของการตั้งครรภ์ค่ะ เพราะเลือดที่ออกมาช่วงนี้เกิดจากการฝังตัวของตัวอ่อนนั่นเอง หากคุณสงสัยว่าเลือดที่ออกมาเป็นเลือดล้างหน้าเด็กสามารถใช้เครื่องตรวจการตั้งครรภ์ตรวจดูเบื้องต้นก่อนได้ค่ะ ถ้าพบว่ามีการตั้งครรภ์เกิดขึ้นควรเข้าพบแพทย์เพื่อตรวจซ้ำ และให้แพทย์ประเมินว่าเลือดดังกล่าวคือเลือดที่เกิดจากการฝังตัวของตัวอ่อนจริง หรือเป็นสัญญาณเตือนความผิดปกติของร่างกายอื่นๆ ที่เสี่ยงต่อการตั้งครรภ์ เช่น การตั้งครรภ์นอกมดลูก และการแท้งลูก เป็นต้นค่ะ
ข้อควรระวัง: สัญญาณเลือดออกที่ "ไม่ใช่" เลือดล้างหน้าเด็กและต้องรีบพบแพทย์
เลือดล้างหน้าเด็ก มักมีอาการไม่เกิน 1-2 วัน แต่ถ้าหากว่าที่คุณแม่มีเลือดออกนานกว่า 2 วัน และเลือดที่ออกมากลับมีสีแดงสดหรือสีแดงเข้มในปริมาณมาก พร้อมกับมีอาการปวดท้องน้อยร่วมด้วยให้รีบพบแพทย์ทันที เพราะอาจเป็นสัญญาณอันตรายเหล่านี้
1. อาการแท้ง (Miscarriage):
สัญญาณแท้งคุกคาม ได้แก่ มีเลือดหรือมูกเลือดออกทางช่องคลอดทั้งปริมาณมากและน้อย โดยสีของเลือดมีทั้งสีแดงและสีน้ำตาล มีอาการปวดท้องน้อยเป็นๆ หายๆ ร่วมด้วย บางคนอาจปวดร้าวลามไปถึงหลัง บางคนอาจไม่มีอาการปวดท้องแต่มีเลือดออกหลายวันหรือหลายสัปดาห์ หากคุณแม่กำลังตั้งครรภ์อ่อนๆ แต่มีเลือดออกควรรีบไปพบแพทย์ให้เร็วที่สุด
2. อาการตั้งครรภ์นอกมดลูก (Ectopic pregnancy):
มักมีอาการปวดท้องน้อย ร่วมกับการมีเลือดออกทางช่องคลอด เกิดจากการแตกของถุงตั้งครรภ์ทำให้เกิดการตกเลือดในช่องท้องค่ะ มีอาการซีด ความดันต่ำและเกิดภาวะช็อกซึ่งอาจเป็นอันตรายถึงชีวิตได้ ถ้าไม่ได้รับการรักษาทันท่วงที ดังนั้น หากคุณแม่ที่กำลังตั้งครรภ์มีเลือดออกทางช่องคลอดพร้อมกับปวดท้องน้อยควรรีบพบแพทย์ทันทีนะคะ
3. อาการตั้งครรภ์ไข่ปลาอุก (molar pregnancy/hydatidiform mole):
คือ ภาวะการตั้งครรภ์ที่ไม่สมบูรณ์ เพราะตัวอ่อนของทารกและรกไม่เจริญขึ้นตามภาวะปกติ ทำให้ตัวอ่อนกลายเป็นเนื้องอกชนิดไม่ร้ายแรงในมดลูกแทน และเกิดถุงน้ำที่มีลักษณะคล้ายพวงองุ่นสีขาวหรือไข่ปลา ลักษณะอาการ คือ มีอาการเลือดออกกะปริบกะปรอยหรือออกมากเหมือนเป็นประจำเดือน หรือเลือดล้างหน้าเด็ก บางคนอาจมีอาการตกเลือดที่เป็นอันตรายได้ นอกจากนี้ยังมีอาการอื่นๆ คล้ายอาการเริ่มตั้งครรภ์ เช่น อาการแพ้ท้อง คัดตึงเต้านม และขนาดของมดลูกโตเร็ว
อาการเลือดล้างหน้าเด็ก และเลือดประจำเดือนมีลักษณะคล้ายกันมาก สามารถสังเกตได้ที่สีเลือดและระยะเวลาของเลือดที่ออกค่ะ หากสงสัยว่าเป็นเลือดล้างหน้าเด็กและคิดว่าตัวเองมีการตั้งครรภ์สามารถใช้ที่ตรวจครรภ์ลองทดสอบดูได้นะคะ ถ้าพบว่าตั้งครรภ์ให้ไปพบแพทย์เพื่อตรวจซ้ำอีกครั้งและเริ่มฝากครรภ์ทันที เพื่อที่แพทย์จะได้แนะนำวิธีการดูแลตัวเองและลูกน้อยในท้อง และควรเข้าพบแพทย์อย่างต่อเนื่องจนถึงช่วงโค้งสุดท้ายก่อนคลอด คุณแม่จะได้มีร่างกายที่แข็งแรงและมีน้ำนมพร้อมสำหรับลูกน้อย เพราะในนมแม่มีสารอาหารมากกว่า 200 ชนิด ที่ช่วยเด็กเจนใหม่ สร้างสมองไว ได้มากกว่าที่แม่คิดไม่ว่าจะเป็นโปรตีน คาร์โบไฮเดรต ไขมัน โคลีน โอเมก้า 3 6 9 และแอลฟาแล็ค สฟิงโกไมอีลิน (Alphalac Sphingomyelin) รวมถึงสารอาหารอื่นๆ ที่จำเป็นต่อสมองของลูกน้อย
บทความแนะนำสำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์
- พัฒนาการทารกในครรภ์ 1-40 สัปดาห์ ที่แม่มือใหม่ห้ามพลาด
- อาการแพ้ท้องของคุณแม่ แพ้ท้องพะอืดพะอม แก้ยังไง พร้อมวิธีรับมือ
- น้ำคร่ำ คืออะไร น้ำคร่ำรั่ว อาการแบบไหน สัญญาณใกล้คลอดที่ต้องรับมือ
- อาการท้องแข็งบ่อย ลูกโก่งตัวบ่อย อันตรายหรือไม่ ทำไมคุณแม่ต้องรู้
- เลือดล้างหน้าเด็กสีอะไร เลือดล้างหน้าเด็กสัญญาณแรกของการตั้งครรภ์
- ตั้งครรภ์ มีเลือดออก ไม่ปวดท้อง คืออะไร อันตรายไหม สำหรับแม่ตั้งครรภ์
- อาการคนท้องระยะแรก สัญญาณการตั้งครรภ์เป็นแบบนี้
- เมนูคนท้อง อาหารคนท้องบำรุงคุณแม่ท้อง ดีต่อลูกในครรภ์
- คนท้องห้ามกินอะไร อาหารที่ส่งผลเสียต่อคุณแม่ตั้งครรภ์
- อาหารคนท้องไตรมาสแรก โภชนาการที่สำคัญสำหรับคุณแม่และทารกในครรภ์
- วิธีนับอายุครรภ์ คำนวณอายุครรภ์ด้วยตัวเอง ก่อนคลอด
- สัญญาณอาการใกล้คลอด เจ็บท้องคลอด อาการก่อนคลอดของคุณแม่
- ของใช้เตรียมคลอด ที่คุณแม่มือใหม่ควรเตรียมของไปคลอด
- ภาวะซึมเศร้าหลังคลอดเกิดจากอะไร พร้อมวิธีรับมืออาการซึมเศร้าหลังคลอด
- ฤกษ์คลอด ฤกษ์ผ่าคลอด วันมงคล เวลาดี สำหรับลูกรัก
อ้างอิง:
- ประจำเดือน VS เลือดล้างหน้าเด็ก ต่างกันยังไงนะ, สสส.
- เลือดล้างหน้า สัญญาณเตือนที่บอกว่ากำลังตั้งครรภ์, hellokhunmor
- สัญญาณแรกของการตั้งครรภ์ที่ควรรู้ เลือดล้างหน้าเด็กสีอะไร, โรงพยาบาลพีเอ็มจี
- “เลือดล้างหน้าเด็ก” คืออะไร มาจากไหน ต่างอย่างไรกับเลือดประจำเดือน?, โรงพยาบาลเวิลด์เมดิคอล
- ภาวะแท้งคุกคาม, โรงพยาบาลพญาไท 2
- ภาวะแท้งคุกคาม อาการและการป้องกันอย่างถูกวิธี โรงพยาบาลสินแพทย์ กาญจนบุรี
- ครรภ์ไข่ปลาอุก, โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์
อ้างอิง ณ วันที่ 15 พฤศจิกายน 2568