เลือดล้างหน้าเด็กคืออะไร? สัญญาณเริ่มต้นของคุณแม่มือใหม่

เลือดล้างหน้าเด็ก วิธีแยกความแตกต่าง และสัญญาณแรกของการตั้งครรภ์

ก.พ. 17, 2024
8นาที

ความแตกต่างของอาการเลือดล้างหน้าเด็ก กับเลือดประจำเดือนต่างกันอย่างไร เพราะอาการเลือดล้างหน้าเด็กก็มีเลือดออกกะปริบกะปรอยคล้ายกับการมีรอบเดือนมาก ลักษณะของเลือดออกแบบไหนที่แสดงว่าตั้งท้อง ถ้ามีเลือดออกแต่ไม่ใช่เลือดประจำเดือน และเลือดล้างหน้าเด็กจากการตั้งครรภ์อันตรายไหม และควรสังเกตตัวเองอย่างไร คำถามเหล่านี้สามารถหาคำตอบได้จากบทความนี้เลยค่ะ

เลือดล้างหน้าเด็ก วิธีแยกความแตกต่าง และสัญญาณแรกของการตั้งครรภ์

"เลือดล้างหน้าเด็ก" จะเกิดขึ้นในช่วงอายุครรภ์ประมาณกี่สัปดาห์คะ?

โดยส่วนใหญ่แล้ว หากคุณมีเลือดล้างหน้าเด็กออกมาและมีการตรวจยืนยันแล้วว่าเกิดการตั้งครรภ์จริง แสดงว่าตอนนี้คุณมีอายุครรภ์ราว 4 สัปดาห์ ถึง 4 สัปดาห์ครึ่งค่ะ โดยเลือดล้างหน้าเด็กจากการฝังตัวของตัวอ่อนนี้มักเกิดขึ้นช่วงเดียวกับรอบเดือนปกติ หรืออาจเกิดก่อนช่วงวันที่มีประจำเดือนในรอบถัดไปเล็กน้อยค่ะ

ถ้าหนูมี "เลือดล้างหน้าเด็ก" แล้ว แบบนี้แปลว่าท้องแน่นอน 100% เลยไหมคะ?

ยังไม่ 100% ค่ะ แต่เป็นสัญญาณที่มีความเป็นไปได้สูงมาก! เลือดล้างหน้าเด็กเป็นหนึ่งในสัญญาณแรกสุดของการตั้งครรภ์ แต่การมีเลือดออกกะปริบกะปรอยในช่วงนี้ก็อาจเกิดจากสาเหตุอื่นได้เช่นกัน เช่น การอักเสบติดเชื้อบริเวณอุ้งเชิงกราน และโรคทางระบบสืบพันธุ์อย่าง PCOS หากสงสัยว่าอาจเป็นเลือดล้างหน้าเด็กสามารถใช้ที่ตรวจครรภ์มาทดสอบได้ค่ะ ถ้าขึ้น 2 ขีด แสดงว่าตั้งครรภ์ชัวร์ แต่ถ้าไม่พบการตั้งครรภ์และเลือดที่ออกมาไม่ใช้ประจำเดือนควรไปพบแพทย์นะคะ

หนูไม่มี "เลือดล้างหน้าเด็ก" เลยค่ะ แบบนี้ผิดปกติไหมคะ หรือแปลว่าตัวอ่อนฝังตัวไม่ดี?

ไม่ผิดปกติเลยค่ะ! แม้ว่าเลือดล้างหน้าเด็กจะเกิดจากการฝังตัวอ่อนที่เยื่อบุมดลูก แต่อาการเลือดล้างหน้าเด็กไหลออกจากทางช่องคลอดอาจไม่ได้เกิดขึ้นกับทุกคนค่ะ หากว่าที่คุณแม่กังวลว่าตัวอ่อนจะฝังตัวไม่ดีสามารถปรึกษาแพทย์เพื่อขอคำแนะนำได้นะคะ

 

สรุป

  • เลือดล้างหน้าเด็ก คือ เลือดที่เกิดจากการฝังตัวของตัวอ่อนเข้ากับเยื่อบุมดลูกแล้วมีเลือดออก ส่วนใหญ่มักเกิดในช่วงที่มีประจำเดือนหรือก่อนเป็นประจำเดือนเล็กน้อย ทำให้คนส่วนใหญ่สับสนได้
  • ลักษณะของเลือดล้างหน้าเด็กและเลือดประจำเดือนที่เห็นได้ชัด คือ สีของเลือดล้างหน้าเด็กจะออกเป็นสีชมพู ไหลออกมาเล็กน้อย เพียง 1-2 วันเท่านั้น ส่วนเลือดประจำเดือนมักจะมีสีแดง ในช่วงวันแรกประจำเดือนอาจมาน้อย แต่พอวันที่ 2 เป็นต้นไปประจำเดือนจะมาเพิ่มขึ้น โดยมีระยะเวลาไม่เกิน 7 วันเลือดก็จะหายไป
  • หากเลือดที่ออกมาไม่ใช่เลือดประจำเดือน และสงสัยว่าใช่เลือดล้างหน้าเด็กหรือไม่ แนะนำให้ใช้ที่ตรวจครรภ์ทดสอบการตั้งครรภ์ได้ ถ้าตรวจแล้วไม่พบการตั้งครรภ์แนะนำให้เข้าพบแพทย์เพื่อตรวจซ้ำรวมถึงหาสาเหตุที่ทำให้เกิดเลือดออกจากช่องคลอด 
     

เลือกอ่านตามหัวข้อ

 

เช็กให้ชัด! ตารางเปรียบเทียบ "เลือดล้างหน้าเด็ก" vs "ประจำเดือน"

เลือดล้างหน้าเด็ก เกิดขึ้นในคนที่กำลังตั้งครรภ์เท่านั้น

ตารางเปรียบเทียบ "เลือดล้างหน้าเด็ก" vs "ประจำเดือน"

 เลือดล้างหน้าเด็กประจำเดือน
สีของเลือดสีน้ำตาลหรือสีชมพูสีแดงค่อนข้างสด
ลักษณะของเลือดเลือดออกมาในปริมาณเล็กน้อยวันแรกจะมาไม่ค่อยเยอะ แต่พอวันถัดไปจะมีปริมาณเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ
ระยะเวลาที่เลือดออกประมาณ 1-2 วันประมาณ 3-5 วัน
ลักษณะอาการไม่ค่อยมีอาการอื่นร่วมมีอาการร่วมอื่น ๆ ด้วย เช่น ปวดท้องน้อย

1. เลือดประจำเดือน

ประจำเดือน เกิดจากไข่ที่ตกหลุดออกจากเยื่อบุผนังมดลูกหลังจากไม่ได้ผสมกับอสุจิ แล้วสลายกลายเป็นเลือดประจำเดือน ลักษณะของเลือดประจำเดือน คือ

  • สีเลือดประจำเดือนจะมีสีแดงค่อนข้างสด ช่วงวันแรกๆ รอบเดือนจะมาไม่ค่อยเยอะ แต่พอเข้าวันที่ 2 ปริมาณเลือดประจำเดือนจะเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ
  • ระยะเวลาในการเป็นรอบเดือนแต่ละครั้งจะอยู่ที่ประมาณ 3-5 วัน แต่ไม่ควรนานเกิน 7 วัน
  • เมื่อมีประจำเดือนมักจะมีอาการร่วมอื่นๆ ร่วมด้วย เช่น ปวดท้องน้อยช่วงวันที่เริ่มมีรอบเดือน สาเหตุเกิดจากมดลูกบีบตัว ในผู้หญิงบางคนอาจมีอาการนำก่อนการมีประจำเดือน เช่น ปวดหลัง คัดหน้าอก อ่อนเพลีย เหนื่อย หรือหงุดหงิดได้ 

2. เลือดล้างหน้าเด็ก

เลือดล้างหน้าเด็ก คือ เลือดที่เกิดจากการฝังตัวของตัวอ่อนเข้ากับเยื่อบุมดลูกแล้วมีเลือดออก หลังจากที่ไข่ได้รับการผสมกับอสุจิจึงเกิดการตั้งครรภ์ขึ้น ซึ่งเลือดล้างหน้าเด็กจะออกก่อนหรือใกล้เคียงกับรอบประจำเดือนถัดไปที่ควรจะมาค่ะ โดยเลือดล้างหน้าเด็กนี้อาจเกิดขึ้นกับบางคนเท่านั้น

  • เลือดล้างหน้าเด็กจะมีสีน้ำตาลหรือสีชมพู คล้ายเลือดเก่า ๆ เป็นรอยเปื้อนที่กางเกงใน หรือปริมาณเลือดที่มาน้อยกว่าที่เคยเป็นประจำเดือนค่ะ
  • จะมีระยะเวลาที่เลือดออกประมาณ 1-2 วัน เท่านั้น
  • ส่วนใหญ่ไม่ค่อยมีอาการอื่นร่วม  

แล้ว "เลือดล้างหน้าเด็ก" เกิดจากอะไรกันแน่?

เลือดล้างหน้าเด็ก (Implantation Bleeding) คือ อาการเลือดออกจากช่องคลอด ที่อาจเกิดขึ้นในช่วงตั้งครรภ์ระยะแรกมักเกิดขึ้นหลังจากการปฏิสนธิแล้วประมาณ 17 วัน หรือ 4 สัปดาห์ครึ่ง นับจากวันแรกของประจำเดือนครั้งสุดท้าย  โดยเลือดที่เกิดจากการฝังตัวของตัวอ่อนเข้ากับเยื่อบุมดลูก หลังจากที่ไข่และอสุจิเกิดการปฏิสนธิทำให้มีเลือดออกมา ซึ่งหลังจากที่ไข่ถูกผสมแล้วที่ปีกมดลูกประมาณวันที่ 5-6 จากนั้นจะเดินทางไปฝังตัวจนติดสมบูรณ์อีกประมาณ 1 สัปดาห์  แล้วกลายเป็นตัวอ่อนฝังตัวในมดลูก ภายในระยะเวลา 10-14 วัน ทำให้มีเลือดไหลออกจากช่องคลอดเป็นสีชมพูหรือสีน้ำตาลเล็กน้อยแบบกะปริบกะปรอย ประมาณ 1-2 วัน และอาจมีอาการปวดเกร็งบริเวณท้องน้อย ซึ่งเกิดจากมดลูกบีบตัว 

ลักษณะอาการของ “เลือดล้างหน้าเด็ก”


เลือดล้างหน้าเด็กมีความแตกต่างจากเลือดประจำเดือนอย่างเห็นได้ชัด โดยมีลักษณะอาการที่สังเกตได้ดังต่อไปนี้ค่ะ 

  1. มีเลือดออกเล็กน้อยกะปริบกะปรอยจนแทบไม่ต้องใช้ผ้าอนามัย
  2. สีของเลือดล้างหน้าเด็กมีตั้งแต่สีชมพูอ่อนไปจนถึงสีน้ำตาล หรือสีสนิม  
  3. ไม่ค่อยมีอาการอื่น ๆ ร่วมด้วย    
  4. มีอาการตั้งครรภ์ร่วมด้วย เช่น คลื่นไส้ อาเจียน คัดตึงเต้านม อ่อนเพลีย และสามารถตรวจพบการตั้งครรภ์ได้จากการตรวจปัสสาวะหรือตรวจเลือดค่ะ 

 

มีเลือดล้างหน้าเด็ก จะตรวจครรภ์เจอไหม

การตรวจอัลตราซาวด์เพื่อยืนยันการตั้งครรภ์

มีโอกาสตรวจครรภ์เจอสูงค่ะ เมื่อคุณตรวจสอบแล้วพบว่าเลือดที่ไหลออกมาไม่ใช่เลือดประจำเดือน แต่น่าจะเป็นเลือดล้างหน้าเด็ก สามารถใช้ที่ทดสอบการตั้งครรภ์ตรวจดูด้วยตัวเองได้ค่ะ หากตรวจการตั้งครรภ์แล้วผลออกมาว่าไม่ได้ตั้งครรภ์แต่มีเลือดไหลกะปริบกะปรอยแนะนำให้ปรึกษาแพทย์เพื่อตรวจซ้ำอีกครั้ง  เพื่อให้แพทย์ตรวจประเมินอาการว่าเลือดที่ออกมาเกิดจากการฝังตัวหรือสัญญาณความผิดปกติของร่างกายอื่นๆ  แต่ถ้าผลออกมาว่าตั้งครรภ์ให้รีบเข้าพบแพทย์ว่าใช่เลือดล้างหน้าเด็กหรือไม่ และควรฝากครรภ์ทันที
 

เลือดล้างหน้าเด็ก เสี่ยงต่อการตั้งครรภ์หรือไม่?

เลือดล้างหน้าเด็ก เป็นสัญญาณแรกของการตั้งครรภ์ค่ะ เพราะเลือดที่ออกมาช่วงนี้เกิดจากการฝังตัวของตัวอ่อนนั่นเอง  หากคุณสงสัยว่าเลือดที่ออกมาเป็นเลือดล้างหน้าเด็กสามารถใช้เครื่องตรวจการตั้งครรภ์ตรวจดูเบื้องต้นก่อนได้ค่ะ ถ้าพบว่ามีการตั้งครรภ์เกิดขึ้นควรเข้าพบแพทย์เพื่อตรวจซ้ำ และให้แพทย์ประเมินว่าเลือดดังกล่าวคือเลือดที่เกิดจากการฝังตัวของตัวอ่อนจริง หรือเป็นสัญญาณเตือนความผิดปกติของร่างกายอื่นๆ ที่เสี่ยงต่อการตั้งครรภ์ เช่น การตั้งครรภ์นอกมดลูก และการแท้งลูก เป็นต้นค่ะ

 

ข้อควรระวัง: สัญญาณเลือดออกที่ "ไม่ใช่" เลือดล้างหน้าเด็กและต้องรีบพบแพทย์

เลือดล้างหน้าเด็ก มักมีอาการไม่เกิน 1-2 วัน แต่ถ้าหากว่าที่คุณแม่มีเลือดออกนานกว่า 2 วัน และเลือดที่ออกมากลับมีสีแดงสดหรือสีแดงเข้มในปริมาณมาก พร้อมกับมีอาการปวดท้องน้อยร่วมด้วยให้รีบพบแพทย์ทันที เพราะอาจเป็นสัญญาณอันตรายเหล่านี้

1. อาการแท้ง (Miscarriage):

สัญญาณแท้งคุกคาม ได้แก่ มีเลือดหรือมูกเลือดออกทางช่องคลอดทั้งปริมาณมากและน้อย โดยสีของเลือดมีทั้งสีแดงและสีน้ำตาล มีอาการปวดท้องน้อยเป็นๆ หายๆ ร่วมด้วย บางคนอาจปวดร้าวลามไปถึงหลัง บางคนอาจไม่มีอาการปวดท้องแต่มีเลือดออกหลายวันหรือหลายสัปดาห์ หากคุณแม่กำลังตั้งครรภ์อ่อนๆ แต่มีเลือดออกควรรีบไปพบแพทย์ให้เร็วที่สุด

 

2. อาการตั้งครรภ์นอกมดลูก (Ectopic pregnancy):

มักมีอาการปวดท้องน้อย ร่วมกับการมีเลือดออกทางช่องคลอด เกิดจากการแตกของถุงตั้งครรภ์ทำให้เกิดการตกเลือดในช่องท้องค่ะ มีอาการซีด ความดันต่ำและเกิดภาวะช็อกซึ่งอาจเป็นอันตรายถึงชีวิตได้ ถ้าไม่ได้รับการรักษาทันท่วงที ดังนั้น หากคุณแม่ที่กำลังตั้งครรภ์มีเลือดออกทางช่องคลอดพร้อมกับปวดท้องน้อยควรรีบพบแพทย์ทันทีนะคะ

 

3. อาการตั้งครรภ์ไข่ปลาอุก (molar pregnancy/hydatidiform mole):

คือ ภาวะการตั้งครรภ์ที่ไม่สมบูรณ์ เพราะตัวอ่อนของทารกและรกไม่เจริญขึ้นตามภาวะปกติ ทำให้ตัวอ่อนกลายเป็นเนื้องอกชนิดไม่ร้ายแรงในมดลูกแทน และเกิดถุงน้ำที่มีลักษณะคล้ายพวงองุ่นสีขาวหรือไข่ปลา  ลักษณะอาการ คือ มีอาการเลือดออกกะปริบกะปรอยหรือออกมากเหมือนเป็นประจำเดือน หรือเลือดล้างหน้าเด็ก บางคนอาจมีอาการตกเลือดที่เป็นอันตรายได้ นอกจากนี้ยังมีอาการอื่นๆ คล้ายอาการเริ่มตั้งครรภ์ เช่น อาการแพ้ท้อง คัดตึงเต้านม และขนาดของมดลูกโตเร็ว

 

อาการเลือดล้างหน้าเด็ก และเลือดประจำเดือนมีลักษณะคล้ายกันมาก สามารถสังเกตได้ที่สีเลือดและระยะเวลาของเลือดที่ออกค่ะ หากสงสัยว่าเป็นเลือดล้างหน้าเด็กและคิดว่าตัวเองมีการตั้งครรภ์สามารถใช้ที่ตรวจครรภ์ลองทดสอบดูได้นะคะ ถ้าพบว่าตั้งครรภ์ให้ไปพบแพทย์เพื่อตรวจซ้ำอีกครั้งและเริ่มฝากครรภ์ทันที เพื่อที่แพทย์จะได้แนะนำวิธีการดูแลตัวเองและลูกน้อยในท้อง และควรเข้าพบแพทย์อย่างต่อเนื่องจนถึงช่วงโค้งสุดท้ายก่อนคลอด คุณแม่จะได้มีร่างกายที่แข็งแรงและมีน้ำนมพร้อมสำหรับลูกน้อย เพราะในนมแม่มีสารอาหารมากกว่า 200 ชนิด ที่ช่วยเด็กเจนใหม่ สร้างสมองไว ได้มากกว่าที่แม่คิดไม่ว่าจะเป็นโปรตีน คาร์โบไฮเดรต ไขมัน โคลีน โอเมก้า 3 6 9 และแอลฟาแล็ค สฟิงโกไมอีลิน (Alphalac Sphingomyelin) รวมถึงสารอาหารอื่นๆ ที่จำเป็นต่อสมองของลูกน้อย
 

 

บทความแนะนำสำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์

 

อ้างอิง:

  1. ประจำเดือน VS เลือดล้างหน้าเด็ก ต่างกันยังไงนะ, สสส.
  2. เลือดล้างหน้า สัญญาณเตือนที่บอกว่ากำลังตั้งครรภ์, hellokhunmor
  3. สัญญาณแรกของการตั้งครรภ์ที่ควรรู้ เลือดล้างหน้าเด็กสีอะไร, โรงพยาบาลพีเอ็มจี  
  4. “เลือดล้างหน้าเด็ก” คืออะไร มาจากไหน ต่างอย่างไรกับเลือดประจำเดือน?, โรงพยาบาลเวิลด์เมดิคอล   
  5. ภาวะแท้งคุกคาม, โรงพยาบาลพญาไท 2
  6. ภาวะแท้งคุกคาม อาการและการป้องกันอย่างถูกวิธี โรงพยาบาลสินแพทย์ กาญจนบุรี
  7. ครรภ์ไข่ปลาอุก, โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์

อ้างอิง ณ วันที่ 15 พฤศจิกายน 2568