ตรวจครรภ์ตอนไหนชัวร์สุด ช่วงเช้าหรือช่วงเย็น ให้ผลแม่นยำกว่ากัน

ตรวจครรภ์ตอนไหนชัวร์สุด เช้าหรือเย็น ให้ผลแม่นยำกว่ากัน

ตรวจครรภ์ตอนไหนชัวร์สุด เช้าหรือเย็น ให้ผลแม่นยำกว่ากัน

คุณแม่ตั้งครรภ์
บทความ
เม.ย. 2, 2024
10นาที

คุณแม่ที่วางแผนตั้งครรภ์มักจะลุ้นกันแทบทุกเดือน ท้อง ไม่ท้อง และตรวจผลตั้งครรภ์ตอนไหน ตอนเช้าหรือตอนเย็นถึงจะแม่นยำที่สุด แล้วต้องตรวจซ้ำหรือไม่ ตรวจซ้ำอีกกี่ครั้ง ถึงมั่นใจ การตรวจการตั้งครรภ์มีทั้งตรวจด้วยตนเอง และการตรวจเลือด สารพัดคำถามที่เกิดขึ้นในใจ ท้องหรือไม่ ใช่หรือมั่ว กับคำถาม “ตรวจครรภ์” ที่ค้างคาใจคนอยากมีลูก

 

สรุป

ตรวจครรภ์ ในตอนเช้าและตรวจครรภ์ตอนเย็น ความเข้มข้นของฮอร์โมนเอชซีจี (hCG ) หรือฮอร์โมนที่เกี่ยวกับการตั้งครรภ์มีความแตกต่างกัน โดยในช่วงเวลาเช้า ปัสสาวะมีความเข้มข้นของฮอร์โมนเอชซีจี (hCG ) สูงสุดในเวลานี้ ควรหลีกเลี่ยงการดื่มน้ำมากเกินไปเพราะมีผลต่อความเข้มข้นของฮอร์โมน

  • ตรวจครรภ์ด้วยตนเอง VS ตรวจเลือด แบบไหนแม่นยำกว่ากัน การตรวจครรภ์ด้วยตนเองต้องตรวจซ้ำกี่ครั้งถึงจะมั่นใจว่าท้องแน่นอน และการตรวจเลือดได้ผลแม่นยำแค่ไหน
  • สังเกตอาการ กำลังตั้งครรภ์หรือไม่ สังเกตได้จากอาการเหล่านี้ ประจำเดือนขาด คัดตึงเต้านม ปัสสาวะบ่อย ท้องผูก และบางคนมีอาการคลื่นไส้อาเจียน

 

เลือกอ่านตามหัวข้อ

 

สำหรับว่าที่คุณแม่ที่ตั้งใจและวางแผนตั้งครรภ์ หากประจำเดือนขาด ประจำเดือนไม่มาตามรอบ มักจะมีข้อสงสัยปะปนกับการ “ลุ้น” ว่าตั้งครรภ์หรือไม่ ซึ่งช่วงเวลาการตรวจการตั้งครรภ์ มีผลต่อความแม่นยำในการตรวจครรภ์ ได้แก่ ช่วงเวลาเช้า เนื่องจากปัสสาวะมีความเข้มข้นของฮอร์โมนเอชซีจี (hCG ) สูงสุดในเวลานี้ ควรหลีกเลี่ยงการดื่มน้ำมากเกินไปเพราะมีผลต่อความเข้มข้นของฮอร์โมน

 

ตรวจครรภ์ตอนไหนชัวร์สุด

สำหรับว่าที่คุณแม่ที่ตั้งใจและวางแผนตั้งครรภ์ หากประจำเดือนขาด ประจำเดือนไม่มาตามรอบ มักจะมีข้อสงสัยปะปนกับการ “ลุ้น” ว่าตั้งครรภ์หรือไม่ ซึ่งช่วงเวลาการตรวจการตั้งครรภ์ มีผลต่อความแม่นยำในการตรวจครรภ์ ได้แก่ ช่วงเวลาเช้า เนื่องจากปัสสาวะมีความเข้มข้นของฮอร์โมนเอชซีจี (hCG ) สูงสุดในเวลานี้ ควรหลีกเลี่ยงการดื่มน้ำมากเกินไปเพราะมีผลต่อความเข้มข้นของฮอร์โมน

 

ควรตรวจครรภ์ตอนไหน ให้ผลแม่นยำมากที่สุด

หากคู่รักมีเพศสัมพันธ์และต้องการมีบุตร กำลังสงสัยว่าตนเองกำลังตั้งครรภ์ เนื่องจากประจำเดือนขาดหรือประจำเดือนไม่มาตามปกติ สามารถตรวจการตั้งครรภ์ได้ด้วยชุดทดสอบการตั้งครรภ์ด้วยตนเองหรือจะไปพบแพทย์เพื่อเข้ารับการตรวจการตั้งครรภ์

  • โดยคุณหมอยึดตามวันแรกที่ประจำเดือนไม่มา
  • หรือหากไม่มั่นใจช่วงเวลาการมีประจำเดือน สามารถตรวจได้หลังจากมีประจำเดือนแล้ว 21 วัน
  • หากตั้งครรภ์ร่างกายจะผลิตฮอร์โมนเอชซีจี (hCG ) เป็นฮอร์โมนที่ผลิตออกมาจากรก หลังจากที่ไข่ผสมกับอสุจิและเกิดการปฏิสนธิกันเกิดเป็นตัวอ่อนได้ประมาณ 6 วัน
  • ระดับฮอร์โมนนี้จะเพิ่มขึ้น 2 เท่า ในทุก ๆ 2-3 วัน
  • จึงทำให้สามารถตรวจการตั้งครรภ์ในช่วงแรกได้จากน้ำปัสสาวะ

 

ตรวจครรภ์ตอนไหน ให้ผลไม่ค่อยชัวร์

การตรวจการตั้งครรภ์ที่ให้ผลไม่แม่นยำ หรือให้ผลที่ไม่ชัวร์ อาจเกิดจากสาเหตุ ดังนี้

  • ช่วงเวลาที่ตรวจรวดเร็วเกินไป เนื่องจากฮอร์โมนเอชซีจี (hCG ) ในปัสสาวะยังไม่สูงพอที่จะสามารถตรวจได้ ผลการตรวจออกมาเป็นลบ คือ ไม่ตั้งครรภ์ ต้องรอเวลาอีกสักพักจึงตรวจซ้ำใหม่อีกครั้ง
  • ค่าความไวของชุดทดสอบการตั้งครรภ์ ที่ตรวจแต่ละยี่ห้อมีความไวต่อฮอร์โมนเอชซีจี (hCG ) ต่างกัน หากที่ตรวจใดมีค่าความไวในการตรวจจับฮอร์โมนมีน้อย จะทำให้ออกมาเป็นลบได้
  • ความเข้มข้นของน้ำปัสสาวะ หากน้ำปัสสาวะมีความเจือจางจากการดื่มน้ำมากเกินไปก่อนการตรวจ อาจส่งผลต่อความเข้มข้นของฮอร์โมนเอชซีจี (hCG ) ทำให้ประสิทธิภาพในการตรวจการตั้งครรภ์ลดลง
  • การรับประทานยาบางชนิด เช่น ยาขับปัสสาวะ (Diuretics) หรือยาแก้แพ้ (Antihistamines)

 

อุปกรณ์ทดสอบการตั้งครรภ์ด้วยตนเอง

การตรวจครรภ์สามารถทำได้ด้วยตนเอง โดยใช้ชุดทดสอบการตั้งครรภ์ที่จำหน่ายตามร้านขายยาทั่วไป การตรวจการตั้งครรภ์ คือ การทดสอบหาฮอร์โมนเอชซีจี (hCG ) ซึ่งเป็นฮอร์โมนที่บ่งบอกว่ากำลังตั้งครรภ์หรือไม่ ฮอร์โมนเอชซีจี (hCG ) จากรกหลังจากที่ปฏิสนธิไปแล้ว 6 วัน ฮอร์โมนดังกล่าวจะมีความเข้มข้นขึ้นสูงสุดในช่วง 8-12 สัปดาห์ หลังจากมีเพศสัมพันธ์ การตรวจครรภ์ด้วยตนเองมีอุปกรณ์ทดสอบการตั้งครรภ์ แบ่งออกเป็น 3 รูปแบบ มีดังนี้

 

1. แบบแถบจุ่ม (Test Strip)

อุปกรณ์ตรวจการตั้งครรภ์แบบแถบจุ่ม เป็นอุปกรณ์ที่มีราคาถูก ในชุดตรวจการตั้งครรภ์แบบแถบจุ่ม (Test Strip) ประกอบด้วย แผ่นทดสอบตั้งครรภ์ และถ้วยตวง (ถ้วยตวงบางยี่ห้อไม่มีมาให้ในชุดผลิตภัณฑ์) วิธีการใช้งาน เก็บปัสสาวะลงในถ้วย นำแผ่นทดสอบการตั้งครรภ์จุ่มลงในถ้วยตวง ทิ้งไว้ประมาณ 3 วินาที แล้วนำออกจากถ้วยตวงวางทิ้งไว้เพื่อรออ่านผลตั้งครรภ์ ประมาณ 5 นาที ระมัดระวังอย่าให้น้ำปัสสาวะเลยจากขีดลูกศรที่กำหนดไว้ในแผ่นทดสอบ อาจทำให้ผลคลาดเคลื่อนหรือไม่สามารถแสดงผลการทดสอบได้

 

2. แบบปัสสาวะแบบปล่อยผ่าน (Pregnancy Midstream Tests)

อุปกรณ์ตรวจสอบการตั้งครรภ์แบบปัสสาวะปล่อยผ่าน ในชุดอุปกรณ์ตรวจครรภ์แบบนี้ จะมีเพียงแท่งตรวจครรภ์ที่ใช้ในการทดสอบเพียงเท่านั้น วิธีการใช้ คือ ถอดฝาครอบออกแล้วถือแท่งตรวจโดยให้หัวลูกศรชี้ลงพื้น ปัสสาวะผ่านสังเกตบริเวณที่ต่ำกว่าลูกศรให้เปียกชุ่มประมาณ 30 วินาที จากนั้นนำมาวางไว้ รอผลตรวจการตั้งครรภ์ประมาณ 3-5 นาที

 

3. แบบหยด หรือแบบตลับ (Pregnancy Test Cassette)

อุปกรณ์ตรวจสอบการตั้งครรภ์แบบหยดหรือแบบตลับ (Pregnancy Test Cassette) ในชุดอุปกรณ์ตรวจครรภ์แบบนี้ ประกอบด้วย หลอดหยด ตลับตรวจครรภ์ และถ้วยตวงปัสสาวะ วิธีการใช้ คือ เก็บปัสสาวะที่ได้ลงในถ้วยตวง จากนั้นนำหลอดดูดปัสสาวะแล้วหยดลงในตลับตรวจครรภ์ประมาณ 3-4 หยด วางตลับทิ้งไว้ประมาณ 5 นาที แล้วจึงอ่านผลตรวจครรภ์

 

สาเหตุที่ผลตรวจครรภ์คลาดเคลื่อนมีอะไรบ้าง

การตรวจการตั้งครรภ์ด้วยชุดทดสอบการตั้งครรภ์ ซึ่งมีความแตกต่างกันไป ส่งผลต่อความแม่นยำในการตรวจครรภ์ นอกจากนี้ยังมีปัจจัยอื่น ๆ ที่ส่งผลให้การตรวจครรภ์คลาดเคลื่อน ได้แก่

 

1. ระยะเวลาที่ตรวจรวดเร็วเกินไป

ระยะเวลาที่เหมาะสมสำหรับการตรวจหาการตั้งครรภ์ ฮอร์โมนเอชซีจี (hCG ) จะเกิดขึ้นหลังจากที่ปฏิสนธิไปแล้ว 6 วัน หากตรวจตั้งครรภ์เร็วเกินไป ผลที่ออกมามีโอกาสเป็นผลลบคือ ไม่ตั้งครรภ์ ดังนั้น ควรรอเวลาค่อยตรวจซ้ำ หรือตรวจในช่วงที่ประจำเดือนขาดไปแล้ว 10-14 วัน

 

2. ปัสสาวะเจือจาง

หากปัสสาวะมีความเจือจาง เท่ากับความเข้มข้นของฮอร์โมนเอชซีจี (hCG ) ลดลงเช่นกัน ส่งผลให้ผลตรวจการตั้งครรภ์ผิดพลาดหรือคลาดเคลื่อนได้

 

3. ประสิทธิภาพของชุดทดสอบการตั้งครรภ์

ชุดตรวจการตั้งครรภ์บางยี่ห้อ เพื่อตรวจหาความไวของฮอร์โมนเอชซีจี (hCG ) นั้นมีความแตกต่างกันไป บางยี่ห้อตรวจจับค่าฮอร์โมนได้น้อย หรืออุปกรณ์ตรวจบางชิ้นเสื่อมคุณภาพ หรือหมดอายุ ทำให้ผลตรวจมีความคลาดเคลื่อนหรือได้ผลลบ หรือผลตรวจที่แสดงออกมา คือ ไม่ตั้งครรภ์

 

ตรวจครรภ์ด้วยตัวเอง รอนานไหม

การตรวจการตั้งครรภ์ด้วยตนเอง หรือการตรวจการตั้งครรภ์โดยแพทย์ ควรเริ่มต้นตรวจได้ตั้งแต่วันแรกที่ประจำเดือนขาดหรือภายใน 14-21 วัน หลังจากมีเพศสัมพันธ์ เพราะระดับฮอร์โมนเอชซีจี (hCG ) จะมีความเข้มข้นในระดับสูงที่สามารถตรวจหาการตั้งครรภ์ได้

 

อุปกรณ์ที่ใช้ในการตรวจการตั้งครรภ์ด้วยตนเอง สามารถทำได้ 3 วิธี ได้แก่ แบบแถบจุ่ม (Test Strip) แบบปัสสาวะปล่อยผ่าน (Pregnancy Midstream Tests) แบบหยด หรือแบบตลับ (Pregnancy Test Cassette) อุปกรณ์ตรวจสอบการตั้งครรภ์ด้วยตนเอง วิธีการตรวจการตั้งครรภ์ด้วยตนเองทราบผลการตรวจได้รวดเร็วประมาณ 5-10 นาที เริ่มต้นจากการเก็บตัวอย่างปัสสาวะในช่วงเช้า หรือปัสสาวะแรกของวัน ซึ่งเป็นช่วงที่ฮอร์โมนเอชซีจี (hCG ) มีความเข้มข้นสูงสุด การทดสอบโดยชุดทดสอบต้องใช้อย่างถูกต้อง เช่น

  • ใช้กระดาษทดสอบจุ่มปัสสาวะต้องไม่เกินขีดที่กำหนด ระยะเวลาประมาณ 5-10 วินาที
  • ชุดแบบปัสสาวะผ่าน ต้องให้ปัสสาวะผ่านที่ดูดซับปัสสาวะให้ชุ่มแต่อย่าเกินขีดที่กำหนด
  • ชุดปัสสาวะแบบหยด นำหลอดดูดปัสสาวะ แล้วหยดลงบนตลับพลาสติกที่มีตัว S จำนวน 3-6 หยด จากนั้นวางตลับไว้บนพื้นผิวที่แห้งและสะอาด ประมาณ 5 นาที

 

วิธีการอ่านผลการทดสอบ

  • เมื่อครบตามกำหนดเวลา ผลลัพธ์ที่ปรากฏจะเป็นขีดสีแดงเข้มชัด ตรงกับตัวอักษร C หรือ T
  • หากขึ้น 1 ขีด ตรงกับตัว C มีความหมายว่า ไม่ตั้งครรภ์
  • หากขึ้น 2 ขีด ตรงกับตัว C และ T มีความหมายว่า ตั้งครรภ์
  • ข้อควรสังเกต หากชุดตรวจตั้งครรภ์ไม่มีมาตรฐานหรือหมดอายุ และไม่สามารถแปลผลได้ คือ จะไม่ปรากฏขีดขึ้นที่ตัวอักษร C เลย

 

ตรวจครรภ์ด้วยการเจาะเลือด แม่นยำแค่ไหน

การตรวจการตั้งครรภ์ ทำได้หลายวิธี เช่น ตรวจครรภ์ด้วยตนเอง ตรวจครรภ์โดยห้องปฏิบัติการ ตรวจครรภ์โดยการอัลตราซาวด์ และตรวจการตั้งครรภ์ด้วยการเจาะเลือด ซึ่งวิธีการตรวจการตั้งครรภ์ด้วยการเจาะเลือดเป็นวิธีการที่ได้ผลแม่นยำที่สุด ระยะเวลาในการตรวจเจาะเลือดเพื่อตรวจหาการตั้งครรภ์ สามารถตรวจได้ตั้งแต่ 2 สัปดาห์หลังจากที่มีเพศสัมพันธ์และมีการปฏิสนธิเกิดขึ้น ต่างจากการตรวจปัสสาวะซึ่งผลการตรวจอาจยังไม่แสดง แต่การตรวจด้วยการเจาะเลือดจะมีค่าใช้จ่ายสูงกว่าการตรวจแบบอื่น ๆ

 

ตรวจครรภ์กี่ครั้ง ถึงจะมั่นใจผลได้

การตรวจครรภ์ด้วยตนเองเพียงครั้งเดียวอาจได้ผลไม่แน่นอนหรือผลมีความคลาดเคลื่อน เนื่องจากระดับฮอร์โมนเอชซีจี (hCG ) หรือฮอร์โมนที่เกี่ยวกับการตั้งครรภ์ยังมีระดับฮอร์โมนอยู่ในระดับต่ำกว่าความไวของชุดทดสอบการตั้งครรภ์ (ต่ำกว่า 20 mIU/ml.) ดังนั้น ตรวจการตั้งครรภ์ควรทำการตรวจซ้ำเป็นครั้งที่ 2 ในอีก 2-3 วันถัดมา เพื่อรอให้ฮอร์โมนมีความเข้มข้นมากขึ้นและแสดงผลได้แม่นยำมากขึ้น

 

ตรวจครรภ์ตอนไหน ช่วงเช้าหรือช่วงเย็นแม่นยำที่สุด สำหรับแม่ท้อง

 

อาการคนท้องระยะแรก เป็นยังไง

นอกจากการตรวจการตั้งครรภ์แล้ว ข้อสังเกตว่าเรากำลังตั้งครรภ์หรือกำลังท้องอยู่หรือไม่ มีวิธีการสังเกตเบื้องต้น ดังนี้

  • ประจำเดือนขาด ประจำเดือนมาล่าช้า เนื่องจากร่างกายกำลังเกิดการปฏิสนธิหลังจากการมีเพศสัมพันธ์
  • ผลจากการทำงานของฮอร์โมนโปรเจสเตอโรนในร่างกายที่เพิ่มขึ้น ส่งผลให้แม่กำลังตั้งครรภ์เกิดอาการเหนื่อยล้า อ่อนเพลีย เพราะอวัยวะหลายส่วนในร่างกายทำงานหนักขึ้นเพื่อบำรุงตัวอ่อนที่ฝังตัวในมดลูก เช่น หัวใจ ปอด ไต
  • เวียนศีรษะ หน้ามืด ได้ง่าย เพราะระดับฮอร์โมนในร่างกายและความดันเลือดเริ่มมีการเปลี่ยนแปลง เมื่อร่างกายมีการสร้างฮอร์โมนโปรเจสเตอโรนเพิ่มขึ้น ส่งผลให้อุณหภูมิภายในร่างกายสูงขึ้นตามไปด้วย อาจทำให้แม่ท้องมีความรู้สึกคล้ายจะเป็นไข้
  • มีตกขาวมากผิดปกติ เพราะระดับฮอร์โมนเอสโตรเจนมีการเปลี่ยนแปลง
  • มีอาการตึงคัดเต้านม หัวนม คล้าย ๆ ช่วงก่อนที่จะมีประจำเดือนหรือมีอาการเสียวจี๊ด ๆ มักพบอาการดังกล่าวหลังจากที่ประจำเดือนเริ่มขาดไปประมาณ 1 สัปดาห์
  • ระดับฮอร์โมนโปรเจสเตอโรนที่มีการเปลี่ยนแปลง ส่งผลต่อสภาพจิตใจแม่ท้อง ทำให้มีอารมณ์หงุดหงิดง่ายแบบไม่มีสาเหตุได้
  • ปัสสาวะบ่อยและมีอาการท้องผูก
  • มีเลือดออกกะปริบกะปรอย คล้ายช่วงวันที่ประจำเดือนใกล้หมด เกิดขึ้นในระหว่างที่ตัวอ่อนฝังตัวในมดลูก

 

หากทราบผลการตรวจการตั้งครรภ์แล้ว พบว่า กำลังตั้งครรภ์ การดูแลสุขภาพตนเองนับตั้งแต่ตั้งครรภ์ไปจนไตรมาสสุดท้ายมีผลต่อการคลอด ซึ่งการคลอดเองตามธรรมชาติ ส่งผลดีต่อคุณแม่และทารก เพราะการคลอดแบบธรรมชาติทำให้ทารกได้รับจุลินทรีย์สุขภาพหลายสายพันธุ์จากคุณแม่ตั้งแต่แรกคลอด อาทิ B. lactis ที่เป็นจุลินทรีย์ในกลุ่มบิฟิโดแบคทีเรียมที่ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้ทารกหลังคลอด

 

บทความแนะนำสำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์

 

 

อ้างอิง:

  1. ท้องไม่ท้อง รู้ให้แน่ ด้วยการตรวจครรภ์หาค่าเอชซีจี (hCG), โรงพยาบาลนครธน
  2. Pregnancy Test, โรงพยาบาลเพชรเวช
  3. ผลจากที่ตรวจครรภ์แม่นยำแค่ไหนกันนะ, โรงพยาบาลเปาโล
  4. ตรวจตั้งครรภ์ เร็วสุดกี่วัน จึงจะทราบผล, hellokhunmor
  5. 4 วิธีตรวจการตั้งครรภ์ ที่ผู้หญิงควรรู้, โรงพยาบาลจุฬารัตน์ 9 แอร์พอร์ต
  6. ตรวจครรภ์ : 7 วิธีการตรวจครรภ์ & ราคาและวิธีใช้ที่ตรวจครรภ์ !!, Medthai
  7. อาการคนท้องเดือนแรก สัญญาณเริ่มต้นว่ากำลังตั้งครรภ์, โรงพยาบาลศิครินทร์
  8. ตรวจครรภ์ตอนไหน, hellokhunmor
  9. ที่ตรวจครรภ์ให้คำตอบชัวร์หรือไม่, pobpad

อ้างอิง ณ วันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2567

บทความที่เกี่ยวข้อง

View details น้ำคร่ำ คืออะไร น้ำคร่ำรั่ว อาการแบบไหน สัญญาณใกล้คลอดที่ต้องรู้
บทความ
น้ำคร่ำ คืออะไร น้ำคร่ำรั่ว อาการแบบไหน สัญญาณใกล้คลอดที่ต้องรับมือ

น้ำคร่ำ คืออะไร น้ำคร่ำรั่ว อาการแบบไหน สัญญาณใกล้คลอดที่ต้องรู้

น้ำคร่ำ คืออะไร น้ำคร่ำรั่ว อาการแบบไหน คุณแม่ต้องระวังหรือไม่ ขณะตั้งครรภ์หากน้ำคร่ำน้อยจะมีผลต่อทารกในครรภ์อย่างไร ไปดูอาการน้ำคร่ำรั่วที่แม่ควรรู้กัน

1นาที อ่าน

View details คุณแม่ท้อง 2 เดือน อายุครรภ์ 2 เดือน เป็นแบบไหน พร้อมวิธีรับมือ
บทความ
คุณแม่ท้อง 2 เดือน อายุครรภ์ 2 เดือน เป็นแบบไหน พร้อมวิธีรับมือ

คุณแม่ท้อง 2 เดือน อายุครรภ์ 2 เดือน เป็นแบบไหน พร้อมวิธีรับมือ

คุณแม่ท้อง 2 เดือน อายุครรภ์ 2 เดือน มีอาการแบบไหน ลูกอยู่ตรงไหน พัฒนาการทารกในครรภ์ 2 เดือน เป็นอย่างไร พร้อมวิธีรับมือและวิธีดูแลทารกในครรภ์

2นาที อ่าน

View details อาการคนท้อง 3 สัปดาห์ คุณแม่ท้อง 3 สัปดาห์ เกิดอะไรขึ้นบ้าง
บทความ
อาการคนท้อง 3 สัปดาห์ คุณแม่ท้อง 3 สัปดาห์ เกิดอะไรขึ้นบ้าง

อาการคนท้อง 3 สัปดาห์ คุณแม่ท้อง 3 สัปดาห์ เกิดอะไรขึ้นบ้าง

อาการคนท้อง 3 สัปดาห์ คุณแม่ท้อง 3 สัปดาห์ เกิดอะไรขึ้นบ้าง ลูกตัวใหญ่แค่ไหน สัญญาณอะไรที่บอกว่าคุณแม่อายุครรภ์ 3 สัปดาห์แล้ว พร้อมวิธีดูแลครรภ์

2นาที อ่าน

View details ท่านอนคนท้อง ท่าที่คนท้องไม่ควรทำ ท่าไหนที่แม่ท้องควรเลี่ยง
บทความ
ท่านอนคนท้อง ท่าที่คนท้องไม่ควรทำ ท่าไหนที่แม่ท้องควรเลี่ยง

ท่านอนคนท้อง ท่าที่คนท้องไม่ควรทำ ท่าไหนที่แม่ท้องควรเลี่ยง

ท่าที่คนท้องไม่ควรทำ ท่านอนคนท้อง-ท่านั่งคนท้องแบบไหนดีกับคุณแม่ ท่าไหนที่คุณแม่ท้องควรหลีกเลี่ยง เพื่อสุขภาพที่ดีและป้องกันการปวดเมื่อยไม่สบายตัว

5นาที อ่าน

View details วิธีดูลักษณะท้องของคนท้อง ดูยังไงว่าท้องหรือพุง มองออกเลยไหม
บทความ
วิธีดูลักษณะท้องของคนท้อง ดูยังไงว่าท้องหรือพุง มองออกเลยไหม

วิธีดูลักษณะท้องของคนท้อง ดูยังไงว่าท้องหรือพุง มองออกเลยไหม

ไขข้อข้องใจ พุงคนท้องระยะแรกเป็นแบบไหน ลักษณะท้องของคนท้องกับคนทั่วไปต่างกันยังไง มีวิธีสังเกตยังไง ไปดูลักษณะท้องของคนท้องและพุงคนท้องกัน

5นาที อ่าน

View details คนท้องมีเพศสัมพันธ์ได้ไหม แบบไหนไม่อันตราย
บทความ
คนท้องมีเพศสัมพันธ์ได้ไหม แบบไหนไม่อันตราย

คนท้องมีเพศสัมพันธ์ได้ไหม แบบไหนไม่อันตราย

มีเพศสัมพันธ์ตอนท้อง คนท้องมีเพศสัมพันธ์ได้ไหม หลั่งในตอนท้องอันตรายไหมสำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์ มีอะไรที่คุณแม่ควรรู้เกี่ยวกับการมีเพศสัมพันธ์ตอนท้องบ้าง

7นาที อ่าน

View details ภาวะครรภ์เป็นพิษ อาการครรภ์เป็นพิษเริ่มแรก อันตรายไหม
บทความ
ภาวะครรภ์เป็นพิษ อาการครรภ์เป็นพิษเริ่มแรก อันตรายไหม

ภาวะครรภ์เป็นพิษ อาการครรภ์เป็นพิษเริ่มแรก อันตรายไหม

รู้จักกับอาการครรภ์เป็นพิษ อาการครรภ์เป็นพิษเริ่มแรกเป็นอย่างไร ภาวะอันตรายที่คุณแม่ท้องต้องระวัง พร้อมวิธีดูแลครรภ์ให้ปลอดภัยสำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์

4นาที อ่าน

View details คนท้องปวดหลัง เกิดจากอะไร พร้อมวิธีรับมือคนท้องปวดหลัง
บทความ
คนท้องปวดหลัง เกิดจากอะไร พร้อมวิธีรับมือคนท้องปวดหลัง

คนท้องปวดหลัง เกิดจากอะไร พร้อมวิธีรับมือคนท้องปวดหลัง

คนท้องปวดหลัง เกิดจากอะไร หากคนท้องปวดหลังบ่อย จะเป็นอันตรายกับคุณแม่ขณะตั้งครรภ์ไหม ไปดูวิธีลดอาการปวดหลังของคุณแม่ พร้อมวิธีดูแลตัวเองกัน

7นาที อ่าน

View details ไข่ตกอยู่ได้กี่วัน นับวันตกไข่แบบไหน ช่วยเพิ่มโอกาสตั้งครรภ์
บทความ
ไข่ตกอยู่ได้กี่วัน นับวันตกไข่แบบไหน ช่วยเพิ่มโอกาสตั้งครรภ์

ไข่ตกอยู่ได้กี่วัน นับวันตกไข่แบบไหน ช่วยเพิ่มโอกาสตั้งครรภ์

ไข่ตกอยู่ได้กี่วัน นับวันตกไข่แบบไหนเพิ่มโอกาสตั้งครรภ์สำหรับคนอยากมีลูกด้วยวิธีธรรมชาติ การนับวันตกไข่ช่วยให้คุณแม่มีลูกได้ง่ายขึ้นจริงไหม ไปดูกัน

7นาที อ่าน

View details คุณแม่ปวดท้องน้อยหลังคลอด อันตรายไหม รับมืออย่างไรดี
บทความ
คุณแม่ปวดท้องน้อยหลังคลอด อันตรายไหม รับมืออย่างไรดี

คุณแม่ปวดท้องน้อยหลังคลอด อันตรายไหม รับมืออย่างไรดี

อาการปวดท้องขณะตั้งครรภ์อ่อน ๆ อันตรายไหม เกิดจากอะไรได้บ้าง คุณแม่ปวดหน่วงท้องน้อยและมีอาการปวดท้องขณะตั้งครรภ์อ่อน ๆ จะสังเกตได้อย่างไรบ้าง

5นาที อ่าน

View details คนท้องกินแตงโมได้ไหม อันตรายกับลูกในท้องหรือเปล่า
บทความ
คนท้องกินแตงโมได้ไหม อันตรายกับลูกในท้องหรือเปล่า

คนท้องกินแตงโมได้ไหม อันตรายกับลูกในท้องหรือเปล่า

คนท้องกินแตงโมได้ไหม ในแตงโมมีสารอาหารอะไรบ้างที่เป็นประโยชน์กับร่างกายของคุณแม่และลูกในครรภ์ ต้องกินเท่าไหร่ถึงพอดี ไม่เป็นอันตรายกับลูกน้อย

5นาที อ่าน

View details คนท้องกินสับปะรดได้ไหม อันตรายกับลูกในครรภ์หรือเปล่า
บทความ
คนท้องกินสับปะรดได้ไหม อันตรายกับลูกในครรภ์หรือเปล่า

คนท้องกินสับปะรดได้ไหม อันตรายกับลูกในครรภ์หรือเปล่า

คนท้องกินสับปะรดได้ไหม คุณแม่กินสับปะรดมากเกินไปเสี่ยงแท้งจริงหรือเปล่า กินเท่าไหร่ถึงพอดีและไม่เป็นอันตรายกับลูกในท้อง พร้อมวิธีดูแลครรภ์แม่ท้อง

5นาที อ่าน

View details คนท้องกินวิตามินซีได้ไหม อันตรายกับลูกในท้องหรือเปล่า
บทความ
คนท้องกินวิตามินซีได้ไหม อันตรายกับลูกในท้องหรือเปล่า

คนท้องกินวิตามินซีได้ไหม อันตรายกับลูกในท้องหรือเปล่า

คนท้องกินวิตามินซีได้ไหม คุณแม่อยากบำรุงครรภ์และร่างกายให้แข็งแรง ควรกินในปริมาณเท่าไหร่ถึงเหมาะสม หากกินมากเกินจะส่งผลเสียต่อการตั้งครรภ์ไหม

7นาที อ่าน

View details ตารางน้ำหนักทารกในครรภ์ พร้อมวิธีดูน้ำหนักลูกในครรภ์
บทความ
ตารางน้ำหนักทารกในครรภ์ พร้อมวิธีดูน้ำหนักลูกในครรภ์

ตารางน้ำหนักทารกในครรภ์ พร้อมวิธีดูน้ำหนักลูกในครรภ์

ตารางน้ำหนักทารกในครรภ์ น้ำหนักลูกในครรภ์ เรื่องสำคัญที่คุณพ่อคุณแม่ต้องรู้ เพราะน้ำหนักทารกในครรภ์ ช่วยบอกถึงพัฒนาการตามวัยของลูกน้อยในท้องได้

7นาที อ่าน

View details ทำหมันหญิงอันตรายไหม ทำหมันหลังคลอดทันทีได้หรือเปล่า
บทความ
ทำหมันหญิงอันตรายไหม ทำหมันหลังคลอดทันทีได้หรือเปล่า

ทำหมันหญิงอันตรายไหม ทำหมันหลังคลอดทันทีได้หรือเปล่า

การทำหมันหญิงอันตรายไหม คุณแม่ทำหมันหลังคลอดทันที พักฟื้นนานหรือเปล่า มีข้อดี-ข้อเสียอย่างไรบ้าง พร้อมวิธีดูแลตัวเองหลังการทำหมันหญิงหลังคลอด

5นาที อ่าน

View details อารมณ์คนท้องขึ้น ๆ ลงๆ รับมืออารมณ์คนท้องระยะแรกยังไงดี
บทความ
อารมณ์คนท้องขึ้น ๆ ลงๆ รับมืออารมณ์คนท้องระยะแรกยังไงดี

อารมณ์คนท้องขึ้น ๆ ลงๆ รับมืออารมณ์คนท้องระยะแรกยังไงดี

อารมณ์คนท้องระยะแรกเป็นแบบไหน คุณแม่ท้องอารมณ์ขึ้นๆ ลง เกิดจากอะไรได้บ้าง คุณพ่อมือใหม่มีวิธีรับมือกับอารมณ์คนท้องระยะแรกของคุณแม่ได้อย่างไร ไปดูกัน

6นาที อ่าน

View details หลังคลอด 1 เดือน มีเพศสัมพันธ์ได้ไหม มีเพศสัมพันธ์ได้ตอนไหน
บทความ
หลังคลอด 1 เดือน มีเพศสัมพันธ์ได้ไหม มีเพศสัมพันธ์ได้ตอนไหน

หลังคลอด 1 เดือน มีเพศสัมพันธ์ได้ไหม มีเพศสัมพันธ์ได้ตอนไหน

หลังคลอด 1 เดือน มีเพศสัมพันธ์ได้ไหม คุณแม่หลังคลอดมีเพศสัมพันธ์เลยทันทีจะเป็นอันตรายหรือเปล่า มีเพศสัมพันธ์ตอนไหนปลอดภัยกับคุณแม่ที่สุด ไปดูกัน

6นาที อ่าน

View details ท้องแข็งบ่อยขณะตั้งครรภ์ ลูกโก่งตัวบ่อย อันตรายไหม
บทความ
ท้องแข็งบ่อยขณะตั้งครรภ์ ลูกโก่งตัวบ่อย อันตรายไหม

ท้องแข็งบ่อยขณะตั้งครรภ์ ลูกโก่งตัวบ่อย อันตรายไหม

ท้องแข็งบ่อย ลูกโก่งตัวบ่อย อาการที่พบได้ทั่วไปในช่วงไตรมาส 3 ของการตั้งครรภ์ อาการท้องแข็งบ่อยเป็นอย่างไร ไปดูวิธีป้องกันอาการท้องแข็งบ่อยกัน

5นาที อ่าน

View details คุณแม่ท้อง 7 เดือน ลูกอยู่ตรงไหน ตั้งครรภ์ 7 เดือน ที่แม่ต้องรู้
บทความ
คุณแม่ท้อง 7 เดือน ลูกอยู่ตรงไหน ตั้งครรภ์ 7 เดือน ที่แม่ต้องรู้

คุณแม่ท้อง 7 เดือน ลูกอยู่ตรงไหน ตั้งครรภ์ 7 เดือน ที่แม่ต้องรู้

คุณแม่ท้อง 7 เดือน อายุครรภ์ 7 เดือน มีอาการแบบไหน ทารกในครรภ์ 7 เดือน หัวลูกอยู่ตรงไหน อาการท้องแข็งขณะตั้งครรภ์ 7 เดือน พร้อมวิธีดูแลทารกในครรภ์

7นาที อ่าน