
ลูกดิ้นตอนกี่เดือน? วิธีนับลูกดิ้น และสัญญาณแบบไหนที่อันตราย
คำถามที่พบบ่อย
ลูกดิ้นมากไป อันตรายหรือเปล่า?
โดยทั่วไปแล้ว การที่ลูกดิ้นมากไม่ได้ถือว่าเป็นอันตรายค่ะ เพราะทารกในครรภ์ก็มีช่วงเวลาตื่นและหลับเหมือนผู้ใหญ่ ซึ่งในช่วงที่ตื่นตัวหรือแอ็กทีฟเป็นพิเศษ ก็อาจจะดิ้นมากจนคุณแม่รู้สึกได้ชัดเจน อย่างไรก็ตาม มีเพียงส่วนน้อยเท่านั้นที่การดิ้นมากเกินไปเป็นสัญญาณอันตราย ซึ่งจะสังเกตได้จากอาการที่ผิดปกติไปจากเดิม คือ ลูกดิ้นแรงมากอยู่ช่วงหนึ่งแล้วหยุดดิ้นไปเลย และไม่มีการดิ้นอีกต่อไป หากเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้น ควรรีบไปพบแพทย์ทันทีเพื่อตรวจเช็กสุขภาพของลูกน้อยค่ะ
การนับลูกดิ้น จำเป็นต้องนับทุกวันไหม?
จำเป็นต้องนับทุกวันค่ะ การนับลูกดิ้นเป็นวิธีที่สำคัญในการตรวจสอบสุขภาพและความปลอดภัยของทารกในครรภ์ คุณหมอจึงแนะนำให้คุณแม่เริ่มนับเป็นประจำทุกวันตั้งแต่ อายุครรภ์ 32 สัปดาห์ เป็นต้นไป จนกระทั่งคลอด เพื่อให้แน่ใจว่าลูกน้อยยังแข็งแรงและปลอดภัยดีค่ะ
วิธีการนับลูกดิ้นที่ถูกต้อง
เพื่อให้ได้ผลที่แม่นยำ คุณแม่ควรนับลูกดิ้นตามคำแนะนำต่อไปนี้
- นับหลังมื้ออาหาร: ให้คุณแม่เริ่มนับลูกดิ้นหลังรับประทานอาหารไปแล้วอย่างน้อย 30 นาทีถึง 1 ชั่วโมง และนับต่อเนื่องนาน 1 ชั่วโมงต่อมื้อ
- รวมจำนวนครั้งต่อวัน: ในหนึ่งวัน ควรนับลูกดิ้นหลังมื้ออาหารหลัก 3 มื้อ และเมื่อรวมกันแล้ว ลูกควรดิ้นได้ มากกว่า 10 ครั้ง
สัญญาณที่ต้องรีบพบแพทย์
- ถ้าลูกดิ้นรวมกัน น้อยกว่า 10 ครั้ง ใน 3 มื้ออาหาร
- ถ้านับลูกดิ้นภายใน 12 ชั่วโมงแล้วน้อยกว่า 10 ครั้ง
การนับลูกดิ้นเป็นวิธีที่ดีที่สุดที่ช่วยให้คุณแม่สังเกตความเปลี่ยนแปลงของลูกได้เร็วที่สุด หากมีความผิดปกติเกิดขึ้นจะสามารถไปพบแพทย์เพื่อตรวจดูอาการได้อย่างทันท่วงที
การโก่งตัวของลูกนับเป็นการดิ้นหรือไม่?
การโก่งตัวของลูกนับเป็นการดิ้นค่ะ โดยการนับลูกดิ้นจะรวมการเคลื่อนไหวที่ชัดเจน เช่น การเตะ การกระทุ้ง หรือการหมุนตัว แต่จะไม่นับการเคลื่อนไหวเบา ๆ อย่างการตอด การสะอึก หรือการขยับตัวเล็กน้อย
หากลูกดิ้นอย่างต่อเนื่องเป็นชุด เช่น เตะติดต่อกันหลายครั้งในคราวเดียว ให้นับเป็น 1 ครั้ง ค่ะ คุณแม่สามารถเริ่มนับการดิ้นของลูกน้อยได้ตั้งแต่อายุครรภ์ 24 สัปดาห์ เป็นต้นไป
สรุป
- ลูกดิ้นตอนกี่เดือน คุณแม่ตั้งครรภ์ จะเริ่มรู้สึกว่าลูกดิ้นครั้งแรกในช่วงสัปดาห์ที่ 16-20 ของการตั้งครรภ์ค่ะ โดยอาจรู้สึกเหมือนมีปลาตอดหรือเส้นประสาทกระตุกเบา ๆ ในช่วงแรก
- ลูกดิ้นตอนกี่เดือน คุณแม่ตั้งครรภ์เข้าสู่ช่วงไตรมาสสุดท้ายของการตั้งครรภ์ หรือประมาณเดือนที่ 7-9 การดิ้นของทารกจะชัดเจนและถี่ขึ้น คุณแม่จะรู้สึกได้ว่าลูกขยับตัวบ่อยขึ้นเรื่อย ๆ แต่ด้วยขนาดตัวของทารกที่ใหญ่ขึ้นทำให้มีพื้นที่ในครรภ์น้อยลง โดยในช่วงนี้ลูกอาจขยับตัวได้มากถึง 30 ครั้งต่อชั่วโมง
- ลูกดิ้นบ่อยช่วงเย็นถึงกลางคืน ทารกในครรภ์จะดิ้นบ่อยในช่วง 21.00-01.00 น. เพราะเป็นช่วงที่ระดับน้ำตาลในเลือดของคุณแม่เปลี่ยนแปลงหลังมื้อเย็น ทำให้ทารกรู้สึกตื่นตัวและขยับตัวบ่อย
- วิธีนับลูกดิ้น นับจำนวนการดิ้นของลูกตั้งแต่เช้าถึงเย็น (10-12 ชั่วโมง) ถ้าลูกดิ้นมากกว่า 10 ครั้ง ถือว่ายังปกติ แต่ถ้าลูกดิ้นน้อยกว่า 10 ครั้ง ควรรีบไปพบคุณหมอทันที
เลือกอ่านตามหัวข้อ
- ลูกดิ้นตอนกี่เดือน?
- การดิ้นของลูกในแต่ละไตรมาส
- ความรู้สึกเมื่อลูกดิ้นครั้งแรกเป็นอย่างไร?
- ลูกดิ้นตอนกี่เดือน และช่วงไหนที่ลูกดิ้นมากที่สุด?
- การนับลูกดิ้น วิธีเช็กสุขภาพลูกน้อยจากในครรภ์
- ลูกดิ้นแบบไหนอันตราย? สัญญาณเตือนความผิดปกติที่คุณแม่ต้องใส่ใจ
- ลูกไม่ดิ้น หรือดิ้นน้อย เกิดจากอะไร
- วิธีกระตุ้นให้ลูกดิ้น
ลูกดิ้นตอนกี่เดือน?
สำหรับคุณแม่มือใหม่ การได้สัมผัสถึงการเคลื่อนไหวของเจ้าตัวเล็กในครรภ์เป็นหนึ่งในความรู้สึกที่น่าอัศจรรย์และอบอุ่นที่สุดในชีวิตเลยค่ะ การดิ้นของลูกน้อยเป็นสัญญาณสำคัญที่บ่งบอกถึงสุขภาพของเขาระหว่างอยู่ในครรภ์ ลูกดิ้นตอนกี่เดือน ส่วนใหญ่แล้วคุณแม่จะเริ่มรู้สึกถึงการดิ้นของลูกน้อยในช่วงสัปดาห์ที่ 16-20 ของการตั้งครรภ์ หรือประมาณเดือนที่ 4-5 ค่ะ
ในตอนแรก การดิ้นของลูกอาจจะไม่ได้ชัดเจนอย่างที่คิด บางทีอาจจะรู้สึกเหมือนปลาตอดอยู่ในท้องเบา ๆ หรือเหมือนมีเส้นประสาทกระตุกเล็กน้อย ซึ่งเป็นสัญญาณแรกที่น่าตื่นเต้นว่าลูกน้อยกำลังบอกให้คุณแม่รู้ว่า “หนูอยู่นี่นะ!”
การดิ้นของทารกในแต่ละไตรมาส
การดิ้นของลูกน้อยจะเปลี่ยนแปลงไปเรื่อย ๆ ตามการเจริญเติบโตในแต่ละช่วงไตรมาส คุณแม่ควรทำความเข้าใจรูปแบบการดิ้นเพื่อสังเกตความผิดปกติได้ง่ายขึ้นค่ะ
- ไตรมาสที่ 1 (สัปดาห์ที่ 1-12): ในช่วงนี้ทารกยังมีขนาดเล็กมากและด้วยพื้นที่ในมดลูกกว้างขวาง ทำให้คุณแม่ยังไม่สามารถรู้สึกถึงการดิ้นได้ชัดเจน คุณแม่ยังไม่จำเป็นต้องเฝ้าสังเกตความสม่ำเสมอของการดิ้นในไตรมาสนี้ค่ะ
- ไตรมาสที่ 2 (สัปดาห์ที่ 13-27): ทารกจะเริ่มมีขนาดใหญ่ขึ้น การเคลื่อนไหวจะชัดเจนและมีรูปแบบมากขึ้น คุณแม่จะรู้สึกถึงการดิ้นได้บ่อยขึ้น โดยเฉพาะในช่วงกลางวันและช่วงเย็น ซึ่งเป็นช่วงที่ลูกจะแอ็กทีฟเป็นพิเศษ
- ไตรมาสที่ 3 (สัปดาห์ที่ 28-การคลอด): ในช่วงนี้ทารกมีขนาดใหญ่ขึ้นมากและด้วยมดลูกของคุณแม่มีพื้นที่จำกัด ทำให้รูปแบบการดิ้นของลูกเปลี่ยนไป เช่น การดิ้นอาจไม่รุนแรงเท่าเดิม เพราะมีพื้นที่ให้ขยับน้อยลง
การจดบันทึกการดิ้นของลูกน้อยอย่างสม่ำเสมอเป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยให้คุณแม่สามารถสังเกตความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นได้ หากมีความกังวลเกี่ยวกับการดิ้นของลูก ควรปรึกษาคุณหมอที่ดูแลครรภ์คุณแม่เพื่อความสบายใจนะคะ
ความรู้สึกเมื่อลูกดิ้นครั้งแรกเป็นอย่างไร?
สำหรับคุณแม่มือใหม่ การสัมผัสถึงการดิ้นครั้งแรกของลูกอาจเป็นเรื่องที่น่าประหลาดใจและยากจะอธิบายใช่ไหมคะ หลายคนบอกว่าความรู้สึกในช่วงแรกนั้นเหมือนมี ปลาตอด เบา ๆ หรือเหมือนมีผีเสื้อกระพือปีก อยู่ในท้อง บางครั้งก็รู้สึกเหมือนเส้นประสาทกระตุกเล็กน้อย ซึ่งอาจทำให้คุณแม่สับสนระหว่างการดิ้นของลูกกับอาการปวดท้องหรืออาการอื่น ๆ ได้
แต่สำหรับคุณแม่ที่เคยตั้งครรภ์มาแล้ว มักจะคุ้นเคยกับความรู้สึกนี้มากกว่า จึงแยกแยะได้ง่ายว่านี่คือการเคลื่อนไหวของลูกน้อยจริง ๆ ไม่ใช่อาการของท้องอืดท้องเฟ้อและอาการอื่น ๆ ในร่างกาย
เมื่อเข้าสู่ไตรมาสที่สองและสาม การดิ้นของลูกจะชัดเจนและแข็งแรงขึ้นอย่างเห็นได้ชัด คุณแม่จะเริ่มรับรู้ได้ถึงการเตะ ต่อย การใช้ศอก และการพลิกตัวไปมาของเจ้าตัวเล็กได้อย่างชัดเจนในทุก ๆ วันค่ะ
การได้สัมผัสการเคลื่อนไหวของลูกในครรภ์เป็นช่วงเวลาที่มหัศจรรย์และพิเศษอย่างยิ่ง อย่างเช่นประสบการณ์จากต่างประเทศของคุณแม่รายหนึ่งที่ได้ให้กำเนิดลูกชาย เธอได้แชร์ประสบการณ์ที่ได้สัมผัสถึงช่วงเวลาที่ลูกดิ้น ซึ่งได้แบ่งปันคำเปรียบเทียบที่ทำให้คุณแม่หลายคนรู้สึกเข้าใจทันทีว่า “มันเหมือนกับตอนที่คุณเอามือทาบบนแก้ม แล้วลองขยับลิ้นช้า ๆ แต่มั่นคง ความรู้สึกที่มือของคุณสัมผัสได้นั่นแหละคือความรู้สึกที่ได้จากการดิ้นของลูก” คำอธิบายนี้ช่วยให้คุณแม่หลายคนเข้าใจความรู้สึกเมื่อลูกดิ้นได้ชัดเจนขึ้น

ลูกดิ้นตอนกี่เดือน และช่วงไหนที่ลูกดิ้นมากที่สุด?
เมื่อเข้าสู่ช่วงไตรมาสสุดท้ายของการตั้งครรภ์ การดิ้นของลูกจะชัดเจนและถี่ขึ้นอย่างเห็นได้ชัดค่ะ คุณแม่จะรู้สึกได้ว่าลูกขยับตัวบ่อยขึ้นเรื่อย ๆ เพราะขนาดตัวของทารกที่ใหญ่ขึ้นทำให้มีพื้นที่ในครรภ์น้อยลง โดยในช่วงนี้ลูกอาจขยับตัวได้มากถึง 30 ครั้งต่อชั่วโมง เลยทีเดียว
ช่วงเวลาไหนที่ลูกดิ้นบ่อยที่สุด?
คุณแม่หลายคนอาจสงสัยว่าทำไมลูกน้อยถึงดูเหมือนจะคึกคักเป็นพิเศษในบางช่วงเวลา นั่นเป็นเพราะว่าทารกในครรภ์มักจะแอ็กทีฟที่สุดในช่วงเย็นและกลางคืนค่ะ โดยเฉพาะช่วงเวลา 21.00-01.00 น. เพราะเป็นช่วงที่ระดับน้ำตาลในเลือดของคุณแม่มีการเปลี่ยนแปลงหลังจากรับประทานอาหารเย็น ทำให้ลูกตื่นตัวและขยับตัวบ่อยเป็นพิเศษนั่นเองค่ะ
การนับลูกดิ้น วิธีเช็กสุขภาพลูกน้อยจากในครรภ์
การนับลูกดิ้นเป็นวิธีที่ง่ายและสำคัญที่สุดวิธีหนึ่งที่ช่วยให้คุณแม่ตรวจเช็กสุขภาพและความปลอดภัยของลูกน้อยในครรภ์ได้ด้วยตัวเองค่ะ คุณหมอจะแนะนำให้คุณแม่เริ่มนับลูกดิ้นเป็นประจำทุกวันตั้งแต่ อายุครรภ์ 32 สัปดาห์ หรือประมาณ 8 เดือน เป็นต้นไป จนกระทั่งคลอด เพื่อให้แน่ใจว่าลูกน้อยยังแข็งแรงดี เพราะการที่ลูกดิ้นน้อยลงอาจเป็นสัญญาณเตือนของภาวะขาดออกซิเจนเรื้อรัง หรือภาวะผิดปกติอื่น ๆ ที่เป็นอันตรายได้ค่ะ
วิธีนับลูกดิ้นที่ถูกต้อง ทำอย่างไร?
คุณแม่สามารถเริ่มนับลูกดิ้นได้ตั้งแต่อายุครรภ์เข้าสู่ไตรมาสที่ 3 หรือตั้งแต่ 28 สัปดาห์ เป็นต้นไป โดยทำตามขั้นตอนง่าย ๆ ดังนี้ค่ะ
1. นับลูกดิ้นอย่างไร?
- นับทุกครั้งที่ลูกกระแทกหรือขยับตัวแรง ๆ โดยนับเป็น 1 ครั้งต่อการดิ้น 1 ครั้ง
2. นับตอนไหน?
- แนะนำให้นับวันละ 1-2 ครั้ง ในช่วงเวลาที่ลูกดิ้นบ่อยที่สุด เช่น หลังมื้ออาหาร หรือช่วงที่กำลังพักผ่อน
3. เกณฑ์ที่ควรจำ:
- ลูกควรดิ้นอย่างน้อย 4 ครั้ง ภายใน 1 ชั่วโมง
- หากในชั่วโมงแรกนับได้น้อยกว่า 4 ครั้ง ให้ลองนับต่อในชั่วโมงที่ 2
- ถ้าในชั่วโมงที่ 2 ลูกยังดิ้นไม่ถึง 4 ครั้ง ควรรีบไปพบแพทย์ทันที
การทำความคุ้นเคยกับพฤติกรรมและรูปแบบการดิ้นของทารกในครรภ์เป็นประจำเป็นวิธีที่ดีในการเริ่มต้นกระบวนการสร้างความผูกพัน และช่วยให้คุณแม่สังเกตความผิดปกติได้เร็วขึ้น หากเมื่อไหร่ที่รู้สึกว่าลูกดิ้นน้อยลงกว่าปกติ หรือไม่มั่นใจในความถี่ของการดิ้น อย่าลังเลที่จะไปโรงพยาบาล เพื่อความปลอดภัยของลูกน้อยนะคะ
สมาคมสูตินรีแพทย์และนรีเวชศาสตร์แห่งอเมริกา (ACOG) แนะนำให้คุณแม่จดบันทึกการจับเวลาว่าใช้เวลานานแค่ไหนในการรู้สึกถึงการดิ้นของลูกน้อย โดยทั่วไปแล้ว คุณแม่ควรรู้สึกถึงการดิ้นอย่างน้อย 10 ครั้งภายใน 2 ชั่วโมง หากลูกดิ้นน้อยลงหรือไม่ถึง 10 ครั้งใน 2 ชั่วโมง ควรปรึกษาสูตินรีแพทย์ทันทีค่ะ
- ตัวอย่างการบันทึกการนับลูกดิ้น (Kick Counts)
แนะนำให้คุณแม่ตั้งครรภ์เริ่มบันทึก “การนับลูกดิ้น” ตั้งแต่สัปดาห์ที่ 28 เป็นต้นไป
วัน | เวลาเริ่มนับ | เวลาลูกดิ้นครบ 10 ครั้ง | ระยะเวลาที่ใช้ |
จันทร์ | 9:00 น. | 9:32 น. | 32 นาที |
อังคาร | 12:00 น. | 12:45 น. | 45 นาที |
พุธ | 9:00 น. | 10:00 น. | 1 ชั่วโมง |
พฤหัสบดี | 9:00 น. | 11:15 น. | 2 ชั่วโมง 15 นาที |
ลูกดิ้นแบบไหนอันตราย? สัญญาณเตือนความผิดปกติที่คุณแม่ต้องใส่ใจ
แม้ว่าการดิ้นของลูกจะเปลี่ยนแปลงไปในแต่ละช่วงวัย แต่การดิ้นที่ผิดปกติก็เป็นสัญญาณเตือนสำคัญที่คุณแม่ไม่ควรมองข้ามเลยค่ะ หากลูกเคยดิ้นแรงมากอยู่พักหนึ่ง แล้วจู่ ๆ ก็หยุดดิ้นไปเฉย ๆ อาจเป็นสัญญาณอันตรายที่บ่งบอกว่าทารกอาจมีภาวะผิดปกติบางอย่าง ซึ่งมักจะเกิดขึ้นในคุณแม่ที่มีโรคประจำตัวอยู่ก่อนแล้ว หรือในทางกลับกัน การที่ลูกดิ้นน้อยลงก็เป็นสัญญาณเตือนได้เช่นกันค่ะ
วิธีสังเกตความผิดปกติจากการนับลูกดิ้น
เพื่อความสบายใจของคุณแม่ สามารถใช้เทคนิคการนับลูกดิ้นที่เรียกว่า "Count to Ten" ได้ดังนี้ค่ะ
- แบบที่ 1 (นับทั้งวัน): นับจำนวนการดิ้นของลูกตั้งแต่เช้าถึงเย็น (10-12 ชั่วโมง) ถ้าลูกดิ้นมากกว่า 10 ครั้ง ถือว่ายังปกติ แต่ถ้าลูกดิ้นน้อยกว่า 10 ครั้ง คุณแม่ควรรีบไปโรงพยาบาลพบคุณหมอค่ะ
- แบบที่ 2 (นับเป็นชั่วโมง): หากคุณแม่กังวลและไม่อยากรอถึง 10 ชั่วโมง ให้นับภายใน 1 ชั่วโมง ถ้าลูกดิ้นตั้งแต่ 3 ครั้งขึ้นไป แสดงว่ายังปกติ แต่ถ้านับแล้วลูกดิ้นน้อยกว่า 3 ครั้ง ให้ลองนับต่ออีก 1 ชั่วโมง เนื่องจากลูกอาจกำลังหลับอยู่
หากนับต่อเนื่องกัน 2 ชั่วโมงแล้วลูกยังคงดิ้นน้อยกว่า 3 ครั้ง ควรรีบไปพบคุณหมอทันที เพราะจำนวนการดิ้นที่ลดลงอาจเป็นผลมาจากความผิดปกติบางอย่างที่ส่งผลกระทบต่อลูกน้อยค่ะ
ลูกดิ้น อาการผิดปกติแบบไหนที่ต้องรีบไปหาหมอ?
- อายุครรภ์น้อยกว่า 28 สัปดาห์: ทารกไม่ดิ้นเลยแม้แต่ครั้งเดียวติดต่อกัน 12 ชั่วโมง
- อายุครรภ์มากกว่า 28 สัปดาห์: ทารกดิ้นน้อยกว่า 3-4 ครั้งต่อชั่วโมง เป็นเวลา 2 ชั่วโมงติดต่อกัน
การฝากครรภ์และตรวจสุขภาพอย่างสม่ำเสมอจึงเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยป้องกันและรับมือกับสถานการณ์ไม่คาดฝันได้ดีที่สุดค่ะ
ลูกไม่ดิ้น หรือดิ้นน้อย เกิดจากอะไร
การดิ้นของลูกน้อยเป็นสัญญาณสำคัญของพัฒนาการทารกในครรภ์และสุขภาพที่ดี แต่ก็เป็นเรื่องธรรมดาที่คุณแม่จะรู้สึกกังวลเมื่อลูกไม่ขยับตัว หรือดิ้นน้อยลงกว่าปกติค่ะ ซึ่งมีสาเหตุดังนี้
สาเหตุปกติที่ลูกไม่ดิ้นหรือดิ้นน้อย
ไม่ต้องตกใจไปนะคะ หากลูกไม่ดิ้นเป็นเพราะอาจกำลังอยู่ในช่วงหลับอยู่ก็ได้ค่ะ ช่วงที่ทารกหลับจะเป็นช่วงที่ขยับตัวน้อยที่สุด นอกจากนี้ เมื่ออายุครรภ์เข้าสู่ช่วง 32 สัปดาห์ เป็นต้นไป ทารกจะมีขนาดตัวที่ใหญ่ขึ้นจนทำให้พื้นที่ในมดลูกลดน้อยลง ทำให้การขยับตัวไม่สะดวกเหมือนช่วงแรก ๆ ค่ะ
เมื่อไหร่ที่ควรต้องระวัง
หากคุณแม่ลองกระตุ้นให้ลูกดิ้นแล้วแต่ยังไม่มีการตอบสนอง นั่นอาจเป็นสัญญาณของความผิดปกติค่ะ วิธีการกระตุ้นง่าย ๆ เช่น
- รับประทานของว่าง
- ดื่มน้ำเย็น หรือเครื่องดื่มหวาน ๆ
- ขยับร่างกายเบา ๆ
- เปิดเพลงเสียงดัง
หากลองทำวิธีเหล่านี้แล้วลูกยังไม่ตอบสนอง ควรรีบไปพบคุณหมอทันที เพื่อตรวจสุขภาพอย่างละเอียดนะคะ เพราะอาจเป็นสัญญาณบ่งบอกถึงปัญหาสุขภาพของลูกน้อยในครรภ์ได้ค่ะ
เรื่องเล่าจากพยาบาลผดุงครรภ์ เมื่อความรู้สึกแม่สำคัญกว่าความรู้ทางการแพทย์
เรื่องราวของคุณแม่รายหนึ่ง ซึ่งมีอาชีพเป็นพยาบาลผดุงครรภ์ เป็นตัวอย่างที่ชัดเจนว่า แม้แต่ผู้ที่มีความรู้ความเข้าใจอย่างลึกซึ้งเกี่ยวกับการตั้งครรภ์ ก็ยังมีความรู้สึกกังวลและลังเลที่จะไปโรงพยาบาลเมื่อลูกในครรภ์ดิ้นน้อยลง
คุณแม่รายนี้เล่าว่าเธอมีภาวะลูกดิ้นน้อยลงสองครั้ง ครั้งแรกตอนอายุครรภ์ 29 สัปดาห์ เธอตัดสินใจโทรหาโรงพยาบาลและไปตรวจ หลังจากที่ลองกระตุ้นแล้วลูกยังคงนิ่งอยู่ ผลการตรวจทุกอย่างปกติดี ทำให้เธอรู้สึกสบายใจขึ้น
แต่ในการดิ้นน้อยลงครั้งที่สองตอนอายุครรภ์ 38 สัปดาห์ เธอมีอาการลูกดิ้นน้อยตั้งแต่กลางดึก แต่กลับรอจนกระทั่งสามีกลับจากที่ทำงานตอน 5 โมงเย็น เธอรู้สึกว่าในตอนนั้นไม่ได้คิดแบบพยาบาล แต่คิดแบบคนเป็นแม่ที่ไม่อยากไปรบกวนใคร และต้องการสามีอยู่ข้าง ๆ เพื่อเป็นกำลังใจ
โชคดีที่สามีของคุณแม่รายนี้ช่วยเตือนสติโดยถามว่า "ถ้าเป็นคนไข้ คุณจะแนะนำให้ทำอย่างไร?" ทำให้เธอตัดสินใจไปโรงพยาบาลในที่สุด และได้รับการตรวจอย่างละเอียด ซึ่งผลการตรวจพบว่าทารกมีขนาดเล็กกว่าปกติและหัวใจเต้นไม่สม่ำเสมอ คุณหมอจึงตัดสินใจเร่งคลอดเพื่อให้ลูกปลอดภัย
จากประสบการณ์นี้ คุณแม่รายนี้ได้เรียนรู้ว่า การดิ้นของลูกเป็นวิธีที่ลูกใช้สื่อสารกับแม่ และคุณแม่เท่านั้นที่จะรู้สึกถึงความเปลี่ยนแปลงได้ดีที่สุด เธอจึงอยากฝากถึงคุณแม่ทุกคนว่า หากมีความกังวลเกี่ยวกับการดิ้นของลูก อย่าลังเลที่จะไปพบคุณหมอทันที เพราะการดูแลสุขภาพของแม่และลูกคือหน้าที่ของทีมแพทย์และพยาบาล และการไปตรวจก็เป็นการทำตามสัญชาตญาณของคนเป็นแม่ที่รักและเป็นห่วงลูกที่สุด
วิธีกระตุ้นให้ลูกดิ้น
หากคุณแม่รู้สึกว่าลูกเงียบไป หรืออยากกระตุ้นให้ลูกขยับตัวเพื่อเช็กความปลอดภัย สามารถทำตามวิธีง่าย ๆ ที่ปลอดภัยได้เลยค่ะ เพราะหลังอายุครรภ์ 24 สัปดาห์เป็นต้นไป คุณแม่สามารถกระตุ้นการเคลื่อนไหวของลูกได้แล้วค่ะ
1. ใช้มือกดเบา ๆ
ลองใช้มือของคุณกดลงไปบนหน้าท้องเบา ๆ สักพักแล้วสังเกตปฏิกิริยาของลูก บางครั้งการสัมผัสเล็ก ๆ น้อย ๆ จากคุณแม่ก็ทำให้ลูกน้อยตอบสนองกลับมาได้แล้วค่ะ
2. หลังรับประทานอาหาร
เมื่อคุณแม่ทานอาหารเข้าไปสักพัก โดยเฉพาะเมื่อได้รับน้ำตาลจากอาหาร ลูกน้อยในครรภ์ก็จะรู้สึกกระปรี้กระเปร่าและเริ่มดิ้นราวกับว่ากำลังมีความสุข (แต่ระวังอย่าทานของหวานมากเกินไปนะคะ เพราะอาจเสี่ยงต่อภาวะเบาหวานขณะตั้งครรภ์ได้)
3. เปิดเพลงหรือคุยกับลูก
ทารกในครรภ์เริ่มได้ยินเสียงต่าง ๆ ได้ตั้งแต่สัปดาห์ที่ 24 ค่ะ ลองเปิดเพลงที่จังหวะสนุก ๆ หรือเพลงกล่อมเด็กที่เปิดเป็นประจำ หรือแม้แต่เสียงของคุณพ่อคุณแม่ที่พูดคุยกัน ก็สามารถกระตุ้นให้ลูกขยับตัวได้เช่นกันค่ะ
4. เปลี่ยนท่านอน
ลองเปลี่ยนจากท่านั่งมาเป็นท่านอนหงายดูค่ะ เพราะท่านอนหงายจะทำให้คุณแม่รู้สึกถึงการดิ้นของลูกได้ชัดเจนขึ้น หรือจะนอนตะแคงซ้ายก็ได้เช่นกัน เพราะเป็นท่าที่ช่วยให้เลือดไหลเวียนไปเลี้ยงลูกได้ดีขึ้นค่ะ
ลูกดิ้นตอนกี่เดือน? คุณแม่จะเริ่มรู้สึกว่าลูกน้อยในครรภ์ดิ้นได้ในช่วง สัปดาห์ที่ 16-20 ของการตั้งครรภ์ การดิ้นของลูกเป็นสัญญาณสำคัญที่บ่งบอกถึงสุขภาพ คุณแม่จึงควรนับลูกดิ้นอย่างสม่ำเสมอตามคำแนะนำของคุณหมออย่างเคร่งครัดนะคะ และหากพบสิ่งผิดปกติใด ๆ ควรรีบไปโรงพยาบาลทันที นอกจากนี้เพื่อให้ลูกน้อยมีพัฒนาการและการเจริญเติบโตที่สมบูรณ์แข็งแรง การเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ตั้งแต่แรกเกิดก็เป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง เพราะนมแม่มีสารอาหารครบถ้วนมากกว่า 200 ชนิด ทั้ง แคลเซียม วิตามินดี ดีเอชเอ (DHA) รวมถึงแอลฟาแล็ค สฟิงโกไมอีลิน (Alphalac Sphingomyelin) ซึ่งมีบทบาทสำคัญที่ทำให้การทำงานของสมองในเด็กเจนใหม่มีประสิทธิภาพค่ะ
บทความแนะนำสำหรับคุณแม่มือใหม่
อ้างอิง:
- นับลูกดิ้นอย่างไร...ให้รู้ว่าทารกปลอดภัยนะ, โรงพยาบาลพญาไท 2
- การตรวจสุขภาพของทารกในครรภ์ ดิ้นมากหรือน้อยก็สำคัญ โรงพยาบาลรามคำแหง
- การดิ้นของทารกในครรภ์ สัญญาณที่คุณแม่ควรรู้, โรงพยาบาลบางปะกอก สมุทรปราการ
- Feeling Your Baby Kick, WebMD
- What You Should Know About Fetal Movement but Never Thought to Ask, Inga Zilberstein MD
- การนับลูกดิ้น, กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข
- คุณแม่รู้ไหม ลูกดิ้น..บอกอะไรได้มากกว่าที่คิด, โรงพยาบาลเปาโล
- พัฒนาการทารกในครรภ์ ตลอด 9 เดือน, โรงพยาบาลเปาโล
- การนับลูกดิ้นในครรภ์, โรงพยาบาลอินทรารัตน์
- 3 เทคนิค การนับลูกดิ้น, โรงพยาบาลเอกชัย
- This Mom's Description of Baby's Movements During Pregnancy Is Spot On , thebump
- Counting Baby Kicks, American Pregnancy Association
- Looking back I shouldn’t have waited, I should have gone to hospital as soon as I felt baby’s movement change, Tommy’s The Pregnancy and Baby Charity
อ้างอิง ณ วันที่ 2 สิงหาคม 2568