
อาการคนท้องไม่รู้ตัว สังเกตได้อย่างไร พร้อมวิธีตรวจครรภ์
อาการคนท้องไม่รู้ตัว เรื่องที่อาจเกิดขึ้นได้กับคุณแม่ท้องแรก แม้ว่าอาการในระยะแรกของการตั้งครรภ์จะคล้ายคลึงกับอาการคนท้องทั่วไป แต่การเปลี่ยนแปลงของร่างกายในแต่ละบุคคลก็อาจมีความแตกต่างกัน การสังเกตอาการเปลี่ยนแปลงของร่างกายอย่างสม่ำเสมอ จึงเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้รู้ทันการตั้งครรภ์
สรุป
- อาการท้องไม่รู้ตัว พบได้ในผู้หญิงที่ตั้งครรภ์เป็นท้องแรก หรือประจำเดือนมาไม่สม่ำเสมอ ทำให้ไม่รู้ตัวว่าท้อง
- วิธีสังเกตอาการระยะแรกของการตั้งครรภ์ เช่น ประจำเดือนขาด น้ำหนักตัวเพิ่ม วิงเวียนศีรษะ และคลื่นไส้อาเจียน
- หากรู้สึกถึงความเปลี่ยนแปลงในร่างกาย ควรซื้อชุดทดสอบการตั้งครรภ์มาตรวจอย่างน้อย 1 ครั้ง
อาการท้องไม่รู้ตัว เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นได้ เพราะร่างกายคนท้องแต่ละคนแตกต่างกัน ผู้หญิงบางคนตั้งครรภ์แต่แทบจะไม่เกิดอาการแพ้ท้องเลย ส่วนรูปร่างที่เปลี่ยนไป น้ำหนักตัวที่มากขึ้น ก็อาจคิดไปได้ว่า อ้วนขึ้น ซึ่งอาการท้องไม่รู้ตัวเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ
เลือกอ่านตามหัวข้อ
- 10 สัญญาณ อาการท้องไม่รู้ตัว อาการคนท้องแรกๆ ของการตั้งครรภ์
- วิธีสังเกตอาการเตือนคนเริ่มท้อง
- ชุดทดสอบการตั้งครรภ์ ตรวจเองได้ รู้ผลไว
- การอ่านผลตรวจชุดทดสอบการตั้งครรภ์
10 สัญญาณ อาการท้องไม่รู้ตัว อาการคนท้องช่วงแรกๆ ของการตั้งครรภ์
10 สัญญาณอาการท้องไม่รู้ตัวที่อาจเกิดขึ้นได้ในช่วงแรกของการตั้งครรภ์ เพื่อให้ผู้หญิงสังเกตความเปลี่ยนแปลงของร่างกายตัวเอง และเตรียมตัวรับมือกับการตั้งครรภ์ได้อย่างเหมาะสม
- ไม่รู้สึกถึงความผิดปกติ: คุณแม่มือใหม่บางท่านอาจไม่ทราบว่าตนเองกำลังตั้งครรภ์ เนื่องจากไม่มีอาการแพ้ท้องที่เด่นชัด หรือไม่เคยมีประสบการณ์การตั้งครรภ์มาก่อน จึงอาจไม่ตระหนักถึงการเปลี่ยนแปลงของร่างกาย
- ประจำเดือนขาด แต่ไม่คิดว่าตั้งครรภ์: ผู้หญิงบางคนมีรอบเดือนไม่สม่ำเสมอ ทำให้เมื่อประจำเดือนขาด อาจคิดว่าเป็นเรื่องปกติ ไม่ได้เกิดจากการตั้งครรภ์เสมอไป โดยอาจมีสาเหตุอื่นๆ เช่น ความเครียด การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน หรือปัญหาสุขภาพอื่นๆ
- เลือดล้างหน้าเด็ก: เลือดล้างหน้าเด็ก หรือ Implantation Bleeding เป็นหนึ่งในสัญญาณแรกเริ่มของการตั้งครรภ์แต่ก็อาจสร้างความสับสนให้กับผู้หญิงหลายๆ คนได้เช่นกัน เพราะอาจเข้าใจผิดว่าเป็นประจำเดือน เลือดล้างหน้าเด็ก คือ เลือดที่ออกมาจากช่องคลอดในปริมาณน้อย ๆ เกิดจากไข่ที่ได้รับการผสมแล้วเข้าไปฝังตัวที่ผนังมดลูก ซึ่งมักเกิดขึ้นประมาณ 10-14 วันหลังการปฏิสนธิ เลือดล้างหน้าเด็กจะเป็นสีชมพูอ่อนๆ สีน้ำตาล และออกมาเพียงเล็กน้อยมาแค่ 1-2 วัน
- ชุดทดสอบการตั้งครรภ์ ผลเป็นลบ: ผลตรวจการตั้งครรภ์เป็นลบ ไม่ได้หมายความว่าไม่ตั้งครรภ์เสมอไป หากตรวจเร็วเกินไป ฮอร์โมนการตั้งครรภ์อาจยังไม่สูงพอให้ชุดทดสอบตรวจพบได้ ควรเว้นระยะแล้วตรวจซ้ำอีกครั้ง
- การคุมกำเนิดไม่มีประสิทธิภาพมากพอ: การคุมกำเนิดใดๆ ไม่มีประสิทธิภาพพอที่จะป้องกันได้ 100 เปอร์เซ็นต์ อาจเป็นสาเหตุที่ทำให้ท้องไม่รู้ตัวได้
- ไม่ทันสังเกตความเปลี่ยนของร่างกาย: การตั้งครรภ์ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางร่างกายที่แตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล ทำให้บางครั้งอาจไม่ทันสังเกตถึงสัญญาณของการตั้งครรภ์
- ขนาดท้องเล็กมาก: ขนาดท้องของคนท้องอาจมีขนาดที่เล็กมาก แม้ว่าจะตั้งครรภ์แล้วหลายเดือน อาจทำให้คิดว่า น้ำหนักขึ้นหรืออ้วนขึ้นมากกว่า
- คิดว่าโอกาสตั้งครรภ์ได้ยาก เพราะอายุเยอะ: เมื่ออายุมากขึ้น หลายคนอาจคิดว่าโอกาสตั้งครรภ์ลดลง ทำให้ละเลยการสังเกตการเปลี่ยนแปลงของร่างกายที่อาจเป็นสัญญาณของการตั้งครรภ์ได้
- ท้องผูก: อาการท้องผูกเป็นหนึ่งในสัญญาณที่พบได้ในช่วงเริ่มต้นของการตั้งครรภ์ ซึ่งหากเดิมทีมีอาการท้องผูกอยู่แล้ว ก็อาจทำให้เข้าใจว่าไม่เกี่ยวกับการตั้งครรภ์ สำหรับอาการท้องผูก เกิดจากฮอร์โมนในร่างกายที่เปลี่ยนแปลงจึงผลกระทบต่อระบบขับถ่ายทำให้ทำงานได้ช้าลง
- รู้สึกเบื่ออาหาร: อาการเบื่ออาหารเป็นอีกหนึ่งสัญญาณที่อาจบ่งบอกถึงการตั้งครรภ์ โดยลักษณะการเปลี่ยนแปลงของความอยากอาหารอาจแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล บางคนอาหารที่เคยโปรดปรานอาจกลายเป็นสิ่งที่ไม่น่ารับประทานไปเลย หรือบางคนอาจมีความต้องการอาหารที่ไม่เคยกินมาก่อน หรืออาหารที่มีรสชาติแปลก ๆ
วิธีสังเกตอาการเตือนคนเริ่มท้อง
ท้องไม่รู้ตัวเกิดจากการเปลี่ยนแปลงของร่างกายในช่วงแรกที่ยังไม่ค่อยชัดเจน อาจทำให้อาการผิดปกติที่เกิดขึ้นอาจถูกมองข้าม และไม่คิดว่าตนเองนั้นกำลังตั้งครรภ์ ดังนั้นเพื่อให้แน่ใจ คุณแม่สามารถดูได้จากสัญญาณเตือนอาการคนท้องระยะแรกที่พบได้ ดังนี้
- ประจำเดือนขาด: เป็นสัญญาณที่ชัดเจนที่สุดของการตั้งครรภ์ เมื่อร่างกายเกิดการปฏิสนธิ ประจำเดือนจะขาดหายไป หรือมาคลาดเคลื่อนไปหลายวัน
- อ่อนเพลีย: ระดับฮอร์โมนโปรเจสเตอโรนที่เพิ่มขึ้น และการทำงานหนักของอวัยวะต่างๆ เช่น หัวใจ ปอด และไต เพื่อบำรุงตัวอ่อน ทำให้รู้สึกอ่อนเพลีย เหนื่อยง่าย
- คลื่นไส้ อาเจียน: อาการแพ้ท้อง มักเกิดขึ้นภายใน 1 เดือนหลังการตั้งครรภ์ บางรายอาจไม่มีอาการ หรือมีอาการในช่วงเดือนที่ 3-4
- วิงเวียนศีรษะ: การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนและความดันโลหิต ทำให้รู้สึกวิงเวียนศีรษะ หน้ามืด ตาลาย
- อุณหภูมิร่างกายสูงขึ้น: ร่างกายจะสร้างฮอร์โมนโปรเจสเตอโรนเพิ่มขึ้น ทำให้รู้สึกตัวร้อนรุมๆ คล้ายจะเป็นไข้
- เจ็บหน้าอกหรือคัดตึงเต้านม: เต้านมและหัวนมมีการเปลี่ยนแปลง อาจรู้สึกคัดตึงหรือเจ็บจี๊ดๆ อาการนี้จะเกิดขึ้นหลังจากประจำเดือนขาดประมาณ 1 สัปดาห์
- หงุดหงิดง่าย มีอารมณ์แปรปรวน: ระดับฮอร์โมนโปรเจสเตอโรนที่เปลี่ยนแปลง ทำให้เกิดอารมณ์แปรปรวน หงุดหงิดง่าย
- ปัสสาวะบ่อยขึ้น: มดลูกที่โตขึ้นไปกดกระเพาะปัสสาวะ ทำให้ปวดปัสสาวะบ่อย อาการจะดีขึ้นเมื่อมดลูกขยายเข้าในท้อง
- มีอาการปวดหลัง: มดลูกที่มีขนาดใหญ่และน้ำหนักมากขึ้น ทำให้หลังต้องแบกน้ำหนักเพิ่ม จึงเกิดอาการปวดหลังได้
- ไวต่อกลิ่น: ระดับฮอร์โมนเอสโตรเจนที่เพิ่มขึ้น ทำให้ไวต่อกลิ่นต่างๆ มากกว่าปกติ
ชุดทดสอบการตั้งครรภ์ ตรวจเองได้ รู้ผลไว
หากสังเกตร่างกายของตัวเองว่ามีความผิดปกติไปจากเดิม มีสัญญาณบ่งบอกว่า อาจกำลังตั้งครรภ์อยู่ ควรซื้อที่ตรวจครรภ์หรือชุดทดสอบการตั้งครรภ์มาตรวจ เพื่อป้องกันอาการท้องไม่รู้ตัว การตั้งครรภ์จะได้ปลอดภัยทั้งแม่และลูก โดยอุปกรณ์ตรวจการตั้งครรภ์สามารถหาซื้อได้ง่ายตามร้านขายยา แต่ควรเลือกชุดทดสอบการตั้งครรภ์ที่มีคุณภาพ ตามที่เภสัชกรแนะนำ โดยแบ่งได้เป็น 3 ประเภท
1. ที่ตรวจครรภ์แบบจุ่ม
ที่ตรวจครรภ์แบบจุ่ม จะมีแผ่นทดสอบการตั้งครรภ์และถ้วยตวง ให้เก็บปัสสาวะในถ้วยตวง นำแผ่นทดสอบการตั้งครรภ์จุ่มลงไปตามคำแนะนำและวิธีใช้ จุ่มทิ้งไว้ประมาณ 3 นาที โดยจุ่มปัสสาวะไม่ให้เกินขีดลูกศร แล้วนำออกมาวางรออีก 5 นาที
2. ที่ตรวจครรภ์แบบหยด
อุปกรณ์ที่มีในที่ตรวจครรภ์แบบหยด จะมีตลับตรวจครรภ์ หลอดหยด และถ้วยตวงปัสสาวะ ให้เก็บปัสสาวะในถ้วยตวง ก่อนจะนำหลอดหยดมาดูดน้ำปัสสาวะ แล้วหยดลงตลับตรวจครรภ์ ตามคำแนะนำและวิธีใช้ ราว 3-4 หยด โดยใช้เวลาในการรอผลตรวจครรภ์ประมาณ 5 นาที
3. ที่ตรวจครรภ์แบบปัสสาวะผ่าน
อุปกรณ์ที่ใช้ในการตรวจครรภ์มีเพียงอย่างเดียว คือ แท่งตรวจครรภ์ วิธีการทดสอบให้นำฝาครอบออก แล้วปัสสาวะผ่าน ตามคำแนะนำและวิธีใช้ ประมาณ 30 วินาที และรออ่านผลประมาณ 5 นาที
การอ่านผลตรวจชุดทดสอบการตั้งครรภ์
ที่ตรวจครรภ์จะมีแถบวัดที่หน้าแสดงผล โดยมีตัวอักษรสำคัญ 2 ตัว ได้แก่ C (Control Line) และ T (Test Line) ควรอ่านผลหลังจากรอประมาณ 5 นาที เพื่อความแม่นยำ ซึ่งจะแสดงผลออกมา
- ท้อง 2 ขีด: เรียกว่า ผลบวก การแสดงผลจะขึ้นทั้งอักษร C และ T แม้ว่าจะขึ้นเป็นขีดจาง ๆ ก็มีแนวโน้มว่ากำลังตั้งครรภ์ หากขึ้น 2 ขีดไม่ชัด ควรรอประมาณ 2-3 วัน จึงทำการตรวจซ้ำอีกครั้ง
- ไม่ท้อง 1 ขีด: เรียกว่า ผลลบ การแสดงผลจะขึ้นที่อักษร C เพียง 1 ขีด แสดงว่าไม่น่าจะมีการตั้งครรภ์ อาจรอเวลาเพื่อทำการตรวจซ้ำอีกครั้งให้แน่ใจ
ชุดทดสอบการตั้งครรภ์ เป็นการตรวจหาฮอร์โมน hCG (Human Chorionic Gonadotropin) ซึ่งเป็นฮอร์โมนที่แสดงว่ากำลังตั้งครรภ์ หลั่งจากรกหลังเกิดการปฏิสนธิแล้วประมาณ 6 วัน ฮอร์โมนชนิดนี้จะมีปริมาณสูงขึ้นในช่วง 8-12 สัปดาห์หลังมีเพศสัมพันธ์ ควรตรวจเมื่อเลยรอบประจำเดือนแล้วประมาณ 7 วัน และควรตรวจอย่างน้อย 2 ครั้ง เว้นประมาณ 2-3 วันในแต่ละครั้ง โดยอ่านวิธีใช้และปฏิบัติตามคำแนะนำ เพื่อความแม่นยำควรใช้อุปกรณ์ตรวจตอนเช้าหรือก่อนทานอาหาร หากใช้แล้วไม่ขึ้นขีด ไม่มีการแสดงผลทดสอบแต่ยังไม่มั่นใจ สามารถซื้อที่ตรวจครรภ์ชิ้นใหม่มาใช้ตรวจอีกครั้ง
อาการท้องไม่รู้ตัว อาจเพิ่มความเสี่ยงให้กับแม่และลูกในท้อง จึงควรตรวจร่างกายเป็นประจำ และสังเกตความเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ หากไม่มั่นใจว่า ตั้งครรภ์หรือไม่ ควรเข้ารับการตรวจการตั้งครรภ์โดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ
บทความแนะนำสำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์
- ท้อง 1 สัปดาห์ ตรวจเจอไหม สัญญาณเตือนว่าท้อง 1 สัปดาห์
- อาการมโนว่าท้อง กังวลไปเองว่าท้อง พร้อมวิธีเช็กอาการตัวเอง
- พัฒนาการทารกในครรภ์ 1-40 สัปดาห์ ที่แม่มือใหม่ห้ามพลาด
- อาการแพ้ท้องของคุณแม่ แพ้ท้องพะอืดพะอม แก้ยังไง พร้อมวิธีรับมือ
- น้ำคร่ำ คืออะไร น้ำคร่ำรั่ว อาการแบบไหน สัญญาณใกล้คลอดที่ต้องรับมือ
- อาการท้องแข็งบ่อย ลูกโก่งตัวบ่อย อันตรายหรือไม่ ทำไมคุณแม่ต้องรู้
- เลือดล้างหน้าเด็กสีอะไร เลือดล้างหน้าเด็กสัญญาณแรกของการตั้งครรภ์
- ตั้งครรภ์ มีเลือดออก ไม่ปวดท้อง คืออะไร อันตรายไหม สำหรับแม่ตั้งครรภ์
- อาการคนท้องระยะแรก สัญญาณการตั้งครรภ์เป็นแบบนี้
- เมนูคนท้อง อาหารคนท้องบำรุงคุณแม่ท้อง ดีต่อลูกในครรภ์
- คนท้องห้ามกินอะไร อาหารที่ส่งผลเสียต่อคุณแม่ตั้งครรภ์
- อาหารคนท้องไตรมาสแรก โภชนาการที่สำคัญสำหรับคุณแม่และทารกในครรภ์
- วิธีนับอายุครรภ์ คำนวณอายุครรภ์ด้วยตัวเอง ก่อนคลอด
- สัญญาณอาการใกล้คลอด เจ็บท้องคลอด อาการก่อนคลอดของคุณแม่
- ของใช้เตรียมคลอด ที่คุณแม่มือใหม่ควรเตรียมของไปคลอด
- ภาวะซึมเศร้าหลังคลอดเกิดจากอะไร พร้อมวิธีรับมืออาการซึมเศร้าหลังคลอด
- ฤกษ์คลอด ฤกษ์ผ่าคลอด วันมงคล เวลาดี สำหรับลูกรัก
อ้างอิง:
- “ท้องไม่รู้ตัว” มีอยู่จริง, โรงพยาบาลราชสีมา ฮอสพิทอล
- ท้องหรือไม่ดูอย่างไร (ฉบับ Update ปี 2567), โรงพยาบาลเพชรเวช
- อาการท้องไม่รู้ตัวและสัญญาณเตือน ที่คุณแม่สามารถสังเกตเองได้, โรงพยาบาลศิครินทร์
- ผลจากที่ตรวจครรภ์...แม่นยำแค่ไหนกันนะ?, โรงพยาบาลเปาโล
- อาการคนท้องไม่รู้ตัว สัญญาณเตือนที่คุณแม่ควรสังเกต, POBPAD
- สัญญาณแรกของการตั้งครรภ์ที่ควรรู้ เลือดล้างหน้าเด็กสีอะไร, โรงพยาบาล
- อาการท้องเดือนแรก สัญญาณเริ่มต้นว่ากำลังตั้งครรภ์, โรงพยาบาลศิครินทร์
- อาการคนท้องไม่รู้ตัว เป็นไปได้จริงหรือ มีวิธีสังเกตได้อย่างไร, Rattinan Clinic
อ้างอิง ณ วันที่ 19 มีนาคม 2568