ไข่ไม่ตก ประจำเดือนจะมาไหม ไขข้อสงสัยทำไมไข่ไม่ตกว่าเกิดจากอะไร

ไข่ไม่ตก หนึ่งในสาเหตุที่ทำให้มีบุตรยาก ไขข้อสงสัยรักษา แก้ไขยังไง

ไข่ไม่ตก ประจำเดือนจะมาไหม การที่ประจำเดือนมาช้าหรือขาดหายไปอาจเป็นผลมาจากไข่ไม่ตก ซึ่งในบางครั้งอาจทำให้เกิดความเข้าใจผิดว่าตั้งครรภ์ เกิดอาการมโนว่าท้องได้ อย่างไรก็ตาม การที่ไข่ไม่ตก ถือเป็นสาเหตุสำคัญของภาวะมีบุตรยากในผู้หญิง ยิ่งไข่ตกน้อยลง โอกาสตั้งครรภ์ก็จะยิ่งลดลง บทความนี้จะช่วยไขข้อสงสัยเกี่ยวกับสาเหตุของไข่ไม่ตก รวมถึงแนวทางการดูแลและป้องกันเพื่อให้การตกไข่เป็นปกติ และเพิ่มโอกาสในการตั้งครรภ์

ไข่ไม่ตก หนึ่งในสาเหตุที่ทำให้มีบุตรยาก ไขข้อสงสัยรักษา แก้ไขยังไง

สรุป

  • การตกไข่เป็นกระบวนการสำคัญในระบบสืบพันธุ์หญิง ซึ่งภาวะมีบุตรยากในผู้หญิง สาเหตุที่พบได้บ่อยที่สุดก็คือ “ภาวะไข่ไม่ตก” ทำให้ไข่ไม่สามารถเดินทางไปพบกับอสุจิที่ท่อนำไข่ได้นั่นเอง
  • ไข่ไม่ตก ประจำเดือนจะมาไหม? ผู้หญิงที่มีการตกไข่เป็นประจำ มักจะมีรอบประจำเดือนที่สม่ำเสมอ โดยเฉลี่ยคือทุก ๆ 28 วัน หากไข่ไม่ตก ประจำเดือนอาจยังมาได้ แต่ไม่สม่ำเสมอ ซึ่งเป็นสัญญาณว่าในรอบเดือนนั้นไม่มีการตกไข่เกิดขึ้น
  • สาเหตุของไข่ไม่ตก เกี่ยวข้องกับการทำงานประสานกันของอวัยวะต่าง ๆ ต่อม และฮอร์โมนหลายชนิด จึงอาจเกิดขึ้นได้จากหลายปัจจัย เช่น ฮอร์โมนไม่สมดุล ความเครียด น้ำหนักตัว อายุ ภาวะความผิดปกติของมดลูกที่มีถุงน้ำรังไข่หลายใบ (Polycystic Ovarian Syndrome : PCOS) เป็นต้น
  • การดูแลภาวะไข่ไม่ตก จะเน้นไปที่การปรับสมดุลของฮอร์โมนที่เป็นสาเหตุของภาวะนี้ โดยแนวทางอาจแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับสาเหตุของปัญหา บางคนอาจเพียงปรับเปลี่ยนไลฟ์สไตล์ ในขณะที่บางคนแพทย์อาจพิจารณาให้ใช้ยา หรือการผ่าตัด

 

เลือกอ่านตามหัวข้อ

 

ไข่ไม่ตกคืออะไร?

การตกไข่เป็นกระบวนการสำคัญในระบบสืบพันธุ์หญิง ซึ่งภาวะมีบุตรยากในผู้หญิง สาเหตุที่พบได้บ่อยที่สุดก็คือ “ภาวะไข่ไม่ตก”

ภาวะไข่ไม่ตก คือ ภาวะที่รังไข่ไม่สามารถสร้างไข่ที่โตเต็มที่ได้ตามปกติ ซึ่งโดยปกติแล้ว ในช่วงกลางของรอบเดือน เมื่อไข่โตเต็มที่จะสร้างฮอร์โมนเอสตราไดออล (Estradiol) และกระตุ้นต่อมใต้สมองให้หลั่งฮอร์โมน Luteinizing (LH) ออกมาเพื่อช่วยให้ไข่ตกตามธรรมชาติ

เมื่อไข่ไม่โตเต็มที่ ก็จะไม่สามารถสร้างฮอร์โมนเอสตราไดออลได้ ทำให้ไม่มีการกระตุ้นต่อมใต้สมองให้หลั่งฮอร์โมน LH และผลที่ตามมาคือไม่มีการตกไข่เกิดขึ้น ทำให้ไข่ไม่สามารถเดินทางไปพบกับอสุจิที่ท่อนำไข่ได้นั่นเอง

 

ไข่ไม่ตก ประจำเดือนจะมาไหม?

หลายคนเข้าใจผิดว่า การมีประจำเดือนทุกเดือนหมายถึงการตกไข่เป็นปกติเสมอไป แต่ในความเป็นจริงแล้ว การมีประจำเดือนไม่ได้เป็นตัวบ่งชี้ว่ามีการตกไข่ทุกครั้ง ผู้หญิงที่มีการตกไข่เป็นประจำ มักจะมีรอบประจำเดือนที่สม่ำเสมอ โดยเฉลี่ยคือทุก ๆ 28 วัน หากไข่ไม่ตก ประจำเดือนอาจยังมาได้ แต่ไม่สม่ำเสมอ เช่น รอบเดือนสั้นหรือยาวเกินไป หรือมีเลือดออกกะปริดกะปรอย มักจะเป็นสัญญาณว่าในรอบเดือนนั้นไม่มีการตกไข่เกิดขึ้น

ดังนั้นอธิบายได้ว่า ผู้หญิงที่ประจำเดือนมาสม่ำเสมอ อาจเกิดขึ้นได้ทั้งในรอบเดือนที่มีการตกไข่และไม่มีการตกไข่ ส่วนผู้หญิงที่ประจำเดือนมาไม่สม่ำเสมอ หรือประจำเดือนไม่มา มักจะเกิดจากรอบเดือนที่ไม่มีการตกไข่

 

สาเหตุของไข่ไม่ตก

สาเหตุของไข่ไม่ตก เกี่ยวข้องกับการทำงานประสานกันของอวัยวะต่าง ๆ ต่อมใต้สมอง และฮอร์โมนหลายชนิด จึงอาจเกิดขึ้นได้จากหลายปัจจัย เช่น

  • ฮอร์โมนไม่สมดุล

    โดยทั่วไป สาเหตุของภาวะไข่ไม่ตก คือ ความไม่สมดุลของฮอร์โมนชนิดใดชนิดหนึ่งหรือหลายชนิด โดยเฉพาะฮอร์โมนที่เกี่ยวข้องโดยตรงกับกระบวนการตกไข่ ได้แก่ ฮอร์โมน Gonadotropin-releasing (GnRH) ที่เกิดจากไฮโปทาลามัส กระตุ้นให้ต่อมใต้สมองหลั่งฮอร์โมน Follicle-stimulating (FSH) และฮอร์โมน Luteinizing (LH) ทำให้เกิดการตกไข่
    การที่ฮอร์โมนเหล่านี้ไม่สมดุล เช่น ฮอร์โมน GnRH ต่ำ ทำให้ต่อมใต้สมองไม่หลั่งฮอร์โมน FSH และ LH อย่างเพียงพอ อาจส่งผลให้ไข่ไม่ตก และเนื่องจากการตกไข่จำเป็นต่อการตั้งครรภ์ ภาวะไข่ไม่ตกจึงเป็นสาเหตุหลักของภาวะมีบุตรยาก

     

  • ภาวะถุงน้ำในรังไข่หลายใบ (PCOS)

    ภาวะถุงน้ำในรังไข่หลายใบ หรือ Polycystic Ovarian Syndrome (PCOS) เป็นภาวะที่พบได้บ่อยในผู้หญิง และเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้ไข่ไม่ตก โดยพบว่า PCOS เป็นสาเหตุของการไม่ตกไข่ถึง 70% ของผู้หญิงที่มีปัญหานี้ ซึ่งภาวะ PCOS จะทำให้ร่างกายผลิตฮอร์โมนแอนโดรเจนมากเกินไป และไปรบกวนการเจริญเติบโตของไข่ในรังไข่ ทำให้ไข่ไม่โตเต็มที่ จึงไม่สามารถตกไข่ได้ตามปกติ
     

    นอกจากนี้ PCOS มักจะเกี่ยวข้องกับระดับฮอร์โมนเทสโทสเตอโรนสูงเกินไป และอาจทำให้เกิดอาการต่าง ๆ เช่น ผมร่วงมากกว่าปกติ และเป็นสิว

     

  • น้ำหนักตัวมากหรือน้อยเกินไป

    น้ำหนักตัวที่มากหรือน้อยเกินไปสามารถส่งผลกระทบต่อการตกไข่ได้ ดังนี้

    • หากน้ำหนักมากเกินไป อาจทำให้ร่างกายผลิตฮอร์โมนแอนโดรเจนมากเกินไป ทำให้รังไข่ไม่สามารถผลิตไข่ที่โตเต็มที่ได้
    • หากน้ำหนักน้อย หรือ ออกกำลังกายมากเกินไป ดัชนีมวลกายต่ำอาจส่งผลกระทบต่อการทำงานของต่อมใต้สมอง ทำให้ต่อมใต้สมองอาจผลิตฮอร์โมน LH และ/หรือฮอร์โมน FSH ไม่เพียงพอ ส่งผลให้ไข่ไม่ตกอย่างสม่ำเสมอ

     

  • ความเครียด

    ความเครียดที่มากเกินไปสามารถส่งผลให้ฮอร์โมนในร่างกาย เช่น ฮอร์โมน GnRH ฮอร์โมน LH และฮอร์โมน FSH ไม่สมดุล ซึ่งฮอร์โมนเหล่านี้มีความสำคัญต่อกระบวนการตกไข่

     

  • อายุ

    เมื่อผู้หญิงเข้าสู่วัยหมดประจำเดือน โดยทั่วไปอายุประมาณ 50 ปี การทำงานของรังไข่จะลดลงตามธรรมชาติ ทำให้ระดับฮอร์โมนเปลี่ยนแปลง และเป็นสาเหตุหลักของการไม่ตกไข่ ผู้หญิงบางคนอาจมีอาการอื่น ๆ ร่วมด้วย เช่น อาการร้อนวูบวาบ นอนไม่หลับ และอารมณ์แปรปรวน

     

ไข่ไม่ตก ทำยังไงดี?

การดูแลภาวะไข่ไม่ตก แพทย์จะเน้นไปที่การปรับสมดุลของฮอร์โมนที่เป็นสาเหตุของภาวะนี้ โดยแนวทางอาจแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับสาเหตุของปัญหา บางคนอาจเพียงปรับเปลี่ยนไลฟ์สไตล์ ในขณะที่บางคนแพทย์อาจพิจารณาให้ใช้ยา หรือการผ่าตัด

  • จัดการความเครียดด้วยการทำสมาธิหรือโยคะ หากแพทย์สงสัยว่าความเครียดเป็นสาเหตุของการไม่ตกไข่ แพทย์อาจแนะนำให้ ลดปัจจัยที่ก่อให้เกิดความเครียด และคลายเครียดด้วยวิธีต่าง ๆ เช่น ทำสมาธิ ฝึกโยคะ และฝึกหายใจลึก ๆ เป็นต้น
  • ลดน้ำหนักหรือเพิ่มน้ำหนักให้อยู่ในเกณฑ์ปกติ การมีน้ำหนักที่เหมาะสมส่งผลต่อการตกไข่เป็นปกติ แพทย์อาจแนะนำให้ลดน้ำหนักหรือเพิ่มน้ำหนัก เพื่อช่วยให้การตกไข่กลับมาปกติ ควรปรึกษาแพทย์หรือนักโภชนาการ เพื่อขอคำแนะนำในการปรับเปลี่ยนอาหาร เพื่อควบคุมน้ำหนักอย่างปลอดภัย และเหมาะสมกับตนเอง
  • ออกกำลังกายน้อยลง หากสงสัยว่า การออกกำลังกายมากเกินไปอาจเป็นสาเหตุของการไม่ตกไข่ แพทย์อาจแนะนำให้ออกกำลังกายน้อยลง โดยการลดเวลาที่ใช้ในการออกกำลังกายแต่ละครั้ง และลดระดับความหนักของการออกกำลังกาย
  • ใช้ยากระตุ้นการตกไข่ แพทย์อาจพิจารณาให้ใช้ยากระตุ้นการตกไข่เพื่อรักษาภาวะไข่ไม่ตก หรือใช้เพื่อเพิ่มโอกาสตั้งครรภ์ในผู้หญิงที่มีการตกไข่ตามปกติ ซึ่งโดยทั่วไปจะสามารถตั้งครรภ์สำเร็จภายใน 3 รอบของการรักษาด้วยวิธีนี้
  • ผ่าตัด สำหรับภาวะถุงน้ำในรังไข่หลายใบ (PCOS) หากใช้วิธีอื่นแล้วไม่ได้ผล แพทย์อาจพิจารณาการผ่าตัดที่เรียกว่า "การเจาะรังไข่" วิธีนี้จะช่วยลดปริมาณฮอร์โมนเทสโทสเตอโรนที่ผลิตจากรังไข่ ซึ่งจะช่วยให้รังไข่ผลิตไข่ได้เดือนละ 1 ฟอง และทำให้ประจำเดือนมาเป็นปกติ
  • ปรึกษาแพทย์เพื่อวางแผนการรักษาเฉพาะบุคคล หากคุณกำลังอยู่ในวัยก่อนหมดประจำเดือน ภาวะไข่ไม่ตกจะรักษาได้ยากกว่า เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนถือเป็นธรรมชาติของการเข้าสู่วัยหมดประจำเดือน อย่างไรก็ตาม การปรึกษาแพทย์เพื่อวางแผนรักษาเฉพาะบุคคลยังเป็นอีกทางเลือกที่ช่วยคุณได้

 

ไข่ไม่ตกส่งผลต่อสุขภาพอย่างไร?

ไข่ไม่ตกอาจเกิดผลกระทบต่อสุขภาพได้ แต่ไม่ใช่ทุกคนที่จะประสบกับภาวะแทรกซ้อนเหล่านี้ โดยผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นเมื่อไข่ไม่ตก ได้แก่

  • ภาวะมีบุตรยาก การที่ไข่ไม่ตกเป็นสาเหตุสำคัญของภาวะมีบุตรยาก
  • อาการประจำเดือนผิดปกติ เช่น การหยุดมีประจำเดือน หรือประจำเดือนมาไม่ปกติ
  • ฮอร์โมนไม่สมดุล ไข่ไม่ตกหรือประจำเดือนมาไม่ปกติ เป็นสัญญาณหนึ่งของฮอร์โมนไม่สมดุล ซึ่งอาจรวมถึงอาการอื่น ๆ เช่น น้ำหนักขึ้น ผมร่วง


นอกจากนี้ การที่ไข่ไม่ตกอาจเพิ่มความเสี่ยงต่อภาวะสุขภาพต่อไปนี้ได้

  • ภาวะเยื่อบุโพรงมดลูกหนาผิดปกติ เมื่อเยื่อบุโพรงมดลูกไม่หลุดลอกออกตามปกติ เนื่องจากขาดฮอร์โมนโปรเจสเตอโรน ส่งผลให้เยื่อบุโพรงมดลูกหนาผิดปกติ
  • โรคกระดูกพรุน เกิดจากการมีฮอร์โมนเอสโตรเจนไม่เพียงพอ ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญในการรักษาความแข็งแรงของกระดูก
  • โรคหลอดเลือดหัวใจ การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนอาจเพิ่มความเสี่ยงต่อปัจจัยที่นำไปสู่โรคหลอดเลือดหัวใจ ตัวอย่างเช่น ระดับฮอร์โมนเอสโตรเจนที่ต่ำอาจเพิ่มภาวะดื้อต่ออินซูลิน ซึ่งเป็นปัจจัยเสี่ยงของโรคเบาหวาน

 

วิธีป้องกันภาวะไข่ไม่ตก

แม้ว่าจะไม่สามารถป้องกันภาวะไข่ไม่ตกได้โดยตรง แต่คุณสามารถจัดการปัจจัยบางอย่างที่ส่งผลให้ประจำเดือนมาไม่ปกติได้ ดังนี้

  • ดูแลสุขภาพ นอนหลับให้เพียงพอ รับประทานอาหารที่มีประโยชน์หลากหลาย ออกกำลังกายอย่างเหมาะสม และจัดการความเครียด สิ่งเหล่านี้จะช่วยควบคุมสมดุลฮอร์โมนซึ่งส่งผลดีสุขภาพโดยรวม
  • สังเกตและจดบันทึกรอบประจำเดือน การจดบันทึกรายละเอียดเกี่ยวกับรอบประจำเดือนจะช่วยให้คุณสามารถระบุความผิดปกติได้ เช่น วันที่มีประจำเดือนและปริมาณเลือดที่ออกมา อาการที่เกิดขึ้นระหว่างมีประจำเดือน และลักษณะของตกขาว ข้อมูลเหล่านี้จะเป็นประโยชน์อย่างมากเมื่อคุณไปพบแพทย์ เพื่อให้แพทย์สามารถวินิจฉัยและวางแผนการรักษาได้อย่างถูกต้อง
  • ควบคุมฮอร์โมนให้สมดุล การรักษาภาวะต่าง ๆ ที่ส่งผลต่อสมดุลฮอร์โมน เช่น ภาวะถุงน้ำในรังไข่หลายใบ (PCOS) หรือความผิดปกติของต่อมไทรอยด์ ด้วยยาหรือวิธีการรักษาอื่น ๆ ตามคำแนะนำของแพทย์ จะช่วยเพิ่มโอกาสในการตกไข่ได้

 

คลายข้อสงสัยกันไปแล้วเกี่ยวกับ ไข่ไม่ตก ประจำเดือนจะมาไหม ซึ่งการที่ประจำเดือนมา ๆ หาย ๆ นั้นเกิดจากรอบเดือนนั้นไม่มีการตกไข่เกิดขึ้นนั่นเอง หากต้องการให้ไข่ตกเป็นปกติสม่ำเสมอ โดยทั่วไปแล้ว สามารถทำได้โดยปรับเปลี่ยนไลฟ์สไตล์ให้เหมาะสมภายได้การดูแลของแพทย์

 

บทความแนะนำอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง

อ้างอิง:

  1. 3 สาเหตุสำคัญ ของภาวะมีบุตรยากในผู้หญิง, โรงพยาบาลพญาไท ศรีราชา
  2. สาว ๆ รู้ไว้ ประจำเดือนมาไม่ปกติอาจเสี่ยง “มีลูกยาก”, โรงพยาบาลพญาไท ศรีราชา
  3. What Is Anovulation?, webmd
  4. Anovulation, Cleveland Clinic

อ้างอิง ณ วันที่ 7 เมษายน 2568