พัฒนาการเด็ก 2 เดือน พร้อมวิธีเสริมพัฒนาการเด็ก
คำถามที่พบบ่อย
ลูก 2 เดือนแล้ว แต่ยังชันคอไม่ได้เลย ผิดปกติไหม?
โดยทั่วไปพัฒนาการเด็ก 2 เดือน เด็กควรจะเริ่มยกศีรษะได้ 45 องศาเมื่อนอนคว่ำ หากลูกยังไม่สามารถยกศีรษะได้เลยควรปรึกษาแพทย์เพื่อประเมินพัฒนาการและรับคำแนะนำที่ถูกต้อง
ทำไมลูกถึงชอบอมมือ ดูดนิ้ว?
เป็นพฤติกรรมปกติและเป็นส่วนสำคัญของการเรียนรู้ในวัยนี้ค่ะ การอมมือหรือดูดนิ้วนอกจากเป็นการบอกว่าลูกหิวแล้ว ยังทำให้ลูกน้อยได้เรียนรู้ส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย และสิ่งต่าง ๆ รอบตัวด้วย พ่อแม่ควรดูแลรักษาความสะอาดมือของลูกให้ดี ควรปรึกษาแพทย์หากผิวหนังของลูกมีการระคายเคืองจากการดูดนิ้วมาก
ลูกไม่ยอมนอนคว่ำ (Tummy Time) เลย ทำอย่างไรดี?
เด็กหลายคนไม่ชอบนอนคว่ำในช่วงแรกค่ะ คุณแม่ลองหาผ้าที่ไม่หนามากรองที่หน้าอกลูกเพื่อให้เด็กสามารถชันคอได้ง่ายขึ้น พรอ้มกับนำของเล่นสีสันสดใสมาหลอกล่อเพื่อดึงดูดความสนใจลูกน้อย และควรปรึกษาแพทย์หากลูกร้องไห้รุนแรงทุกครั้งที่จับนอนคว่ำ
สรุป
- พัฒนาการเด็ก 2 เดือน คือ ลูกน้อยสามารถยกศีรษะได้นาน 3 นาทีเมื่อนอนคว่ำ มองหน้าพ่อแม่ได้นาน 5 วินาที และทำเสียงในลำคอ เช่น “อู” “อา” หรือ “อือ” ได้อย่างชัดเจนแล้วด้วย
- วิธีกระตุ้นพัฒนาการเด็ก 2 เดือน ทำได้โดยการพูดคุยกับลูก หรือแสดงท่าทางอย่างการทำตาโต ยิ้ม หัวเราะ หรือทำเสียง “อู” หรือ “อือ” ในลำคอ เพื่อให้ลูกสนใจและเกิดการโต้ตอบกลับค่ะ
- เด็กวัยนี้อาจมีพฤติกรรมชอบดูดมือเวลาหิว คุณแม่ไม่ต้องดึงมือลูกออกจากปากนะคะ เพราะอาจทำให้พัฒนาการเด็ก 2 เดือนและการเรียนรู้ของเด็กถูกชะงักและอาจส่งผลให้ลูกเกิดความเครียดหรือหงุดหงิดได้
- เด็กบางคนไม่ชอบนอนคว่ำตั้งแต่แรก คุณแม่จึงต้องช่วยลูกน้อยด้วยการหาผ้าที่ไม่หนามากเกินไปมารองที่อกเพื่อทำให้ลูกสามารถชันคอได้ง่ายขึ้น
เลือกอ่านตามหัวข้อ
- รู้จักกับพัฒนาการเด็ก 2 เดือน ทั้ง 4 ด้าน
- วิธีการกระตุ้นและเสริมพัฒนาการเด็ก 2 เดือน
- สัญญาณเตือนพัฒนาการช้า ที่พ่อแม่ควรสังเกต
- เคล็ดลับเสริมสร้างพัฒนาการเด็ก 2 เดือนสำหรับคุณแม่
รู้จักกับพัฒนาการเด็ก 2 เดือน ทั้ง 4 ด้าน
ตอนนี้ลูกน้อยเริ่มมีการเจริญเติบโตเพิ่มขึ้น โดยที่น้ำหนักยังคงเพิ่มวันละ 30 กรัม ความยาวของเด็กจะยาวเพิ่มอีก 2.5 ซม. และศีรษะของลูกน้อยใหญ่ขึ้นอีก 1.5 ซม. ทั้งยังเริ่มสนใจสิ่งต่าง ๆ รอบตัว และแสดงออกทางอารมณ์ให้คุณแม่ได้รับรู้ด้วยการแสดงออกทางสีหน้า รวมถึงการปัดแขนไปมา ส่วนด้านพัฒนาการเด็ก 2 เดือน ทั้ง 4 ด้าน มีการเปลี่ยนแปลง ดังต่อไปนี้
1. ด้านการเคลื่อนไหว
- ร่างกายของหนูน้อยเริ่มยืดตรงมากขึ้น และสามารถชันคอได้เล็กน้อย
- เมื่อจับลูกนอนคว่ำจะสามารถยกศีรษะตั้งขึ้น 45 องศา ได้นานถึง 3 วินาที
2. ด้านการใช้กล้ามเนื้อมัดเล็กและสติปัญญา
- ตอนนี้ลูกน้อยสามารถมองผ่านกลางลำตัวได้แล้ว
3. ด้านการเข้าใจภาษา และการใช้ภาษา
- ทารก 2 เดือนสามารถมองหน้าพ่อแม่ได้นาน 5 วินาที
- สามารถทำเสียงในลำคอ เช่น “อู” “อา” หรือ “อือ” ได้อย่างชัดเจน
4. ด้านการช่วยเหลือตัวเองและสังคม
- ลูกน้อยสามารถจ้องหน้า แล้วยิ้มหรือส่งเสียงโต้ตอบได้แล้ว
- เมื่อได้ยินเสียงพ่อแม่พูดลูกน้อยจะหันหา และส่งเสียงโต้ตอบทันที
เด็กวัยนี้อาจมีพฤติกรรมชอบดูดมือ หรืออมมือ หรือดูดนิ้วเวลาหิว ซึ่งเป็นหนึ่งในลำดับขั้นพัฒนาการของเด็ก คุณแม่ไม่ต้องดึงมือลูกน้อยออกจากปากนะคะ เพราะอาจทำให้การเรียนรู้ของเด็กถูกชะงักและลูกอาจเกิดความเครียดหรือหงุดหงิดได้ค่ะ

วิธีการกระตุ้นและเสริมพัฒนาการเด็ก 2 เดือน
ทารกเป็นช่วงวัยที่มีการเจริญเติบโตและพัฒนาการที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว คุณแม่จึงต้องส่งเสริมพัฒนาการเด็ก 2 เดือนทุกวัน เพื่อให้ลูกน้อยได้เรียนรู้และมีพัฒนาการที่ดีอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ยังเล็ก สำหรับวิธีกระตุ้นพัฒนาการเด็ก 2 เดือน มีดังนี้
1. ด้านการเคลื่อนไหว
ให้คุณแม่จัดลูกน้อยนอนคว่ำ จากนั้นนำของเล่นกรุ๊งกริ๊งมาเขย่าตรงหน้าลูก พอลูกมองก็ให้เคลื่อนของเล่นขึ้นข้างบนแล้วนับ 1-2 จากนั้นเคลื่อนของเล่นมาอยู่ตรงหน้าก่อนจะเขย่าให้ลูกสนใจแล้วเคลื่อนของเล่นขึ้นของบนอีกครั้ง คราวนี้นับ 1-3 เสร็จแล้วค่อย ๆ เคลื่อนมาวางไว้ตรงหน้าเหมือนเดิมค่ะ
2. ด้านการใช้กล้ามเนื้อมัดเล็กและสติปัญญา
เริ่มจากให้ลูกน้อยนอนหงาย นำของเล่นแขวนสีสันสดใสแต่ไม่มีเสียงมาถือไว้ห่างจากจุดกึ่งกลางใบหน้าลูกน้อยไปทางซ้ายเล็กน้อยประมาณ 30 ซม. จากนั้นแกว่งของเล่นเพื่อให้ลูกสนใจ แล้วค่อย ๆ เคลื่อนของเล่นผ่านจุดกึ่งกลางไปหน้าไปทางขวา จากนั้นทำแบบเดียวกันโดยสลับมาทางซ้าย หากลูกน้อยไม่มองตามคุณแม่อาจใช้แม่ช่วยประคองใบหน้าให้ลูกมองตามของเล่นได้นะคะ
3. ด้านการเข้าใจภาษา และการใช้ภาษา
จัดท่าให้ลูกนอนหงายหรืออุ้มลูกขึ้นมาโดยให้หน้าคุณแม่ห่างจากลูกน้อยประมาณ 60 ซม. จากนั้นมองสบตาลูกน้อยแล้วพยายามพูดคุยเพื่อให้น้องสนใจ เช่น ทำตาโต ยิ้ม หัวเราะ หรือทำเสียง “อู” หรือ “อือ” ในลำคอ แล้วรอฟังเสียงลูก หากเจ้าตัวเล็กออกเสียง “อู” ได้ ให้แม่ลองทำเสียง “อือ” เพื่อให้น้องได้ฝึกออกเสียงตามค่ะ
4. ด้านการช่วยเหลือตัวเอง และสังคม
คุณแม่พาลูกนอนหงาย โดยให้แม่นั่งข้าง ๆ พร้อมกับยื่นหน้าเข้าไปสบตากับลูกน้อย จากนั้นพูดกับลูกเป็นคำสั้น ๆ ช้า ๆ และซ้ำ ๆ เช่น “แม่รักลูกนะ” “เด็กดี” “ยิ้มซิ” หรือเอ่ยชื่อลูก เช่น (ชื่อลูก)ลูกรัก (ชื่อลูก)คนเก่ง เป็นต้น แล้วคุณแม่ก็รอให้ลูกน้อยยิ้มหรือส่งเสียงโต้ตอบนะคะ
สัญญาณเตือนพัฒนาการช้า ที่พ่อแม่ควรสังเกต
พัฒนาการเด็ก 2 เดือนแต่ละคนมีพัฒนาการช้าเร็วที่แตกต่างกัน ซึ่งวิธีที่จะทำให้พ่อแม่รู้ว่าลูกน้อยเป็นเด็กที่มีพัฒนาการช้าหรือไม่ สามารถสังเกตได้จากสัญญาณเตือนพัฒนาการช้า ดังนี้
- ไม่ชันคอขณะนอนคว่ำ: เพราะโดยปกติแล้วเด็ก 2 เดือนจะสามารถชันคอขณะนอนคว่ำได้เล็กน้อย
- ไม่ตอบสนองต่อเสียง: ทารกในวัยนี้จะสามารถตอบสนองต่อเสียงคนรอบข้างได้แล้ว เช่น เมื่อได้ยินเสียงพ่อแม่จะเริ่มมองหา และโต้ตอบทันที
- ไม่มองตามคนอื่น หรือวัตถุที่เคลื่อนที่: เพราะลูกน้อยสามารถมองพ่อแม่ผ่านช่วงกลางลำตัวได้แล้ว
- ไม่ยอมตอบคนรอบข้าง: เด็กสามารถยิ้มตอบหรือส่งเสียงโต้ตอบแม่ได้ แต่ถ้าลูกไม่มีการโต้ตอบอาจมีปัญหาด้านพัฒนาการได้ค่ะ
- ไม่มีการเอามือเข้าปาก: การเอามือเข้าปากเป็นหนึ่งในพัฒนาการเด็ก 2 เดือน หากลูกไม่ได้เอามือเข้าปากอาจเป็นสัญญาณเตือนพัฒนาการของเด็กวัยนี้
- มีปัญหาในการกินนมแม่: เมื่อกินนมแม่ ลูกน้อยประกบปากกับเต้านมแม่ไม่ได้ และน้ำนมแม่ไหลออกจากมุมปากปริมาณมาก
หลังจากคุณแม่ลองเช็กพัฒนาการเด็ก 2 เดือนแล้วพบว่าลูกน้อยอาจทำได้ไม่ดีหรือทำไม่ได้ในบางข้อ ไม่ต้องกังวลเกินไปนะคะ แนะนำให้ปรึกษาแพทย์ก่อนเพื่อเข้ารับการตรวจพัฒนาการเด็กอย่างละเอียด เพราะลูกน้อยอาจมีพัฒนาการช้ากว่าเด็กคนอื่นแต่ไม่ได้หมายความว่าเป็นเด็กพัฒนาการช้าที่ผิดปกติก็ได้ค่ะ อีกทั้ง หากลูกมีพัฒนาการที่ผิดปกติจริงการเข้าพบแพทย์ทันทีอาจช่วยให้เด็กได้รับการดูแลพัฒนาการด้านต่าง ๆ ได้อย่างทันท่วงทีนะคะ
เคล็ดลับเสริมสร้างพัฒนาการเด็ก 2 เดือนสำหรับคุณแม่
คุณแม่มือใหม่คงเริ่มคุ้นเคยกับการดูแลทารกน้อยวัย 2 เดือนแล้ว แม้ว่าเด็กจะโตขึ้นจากเดือนที่แล้วแต่ยังคงต้องการการดูแลอย่างใกล้ชิดไม่ต่างจากเดิม โดยมีคำแนะนำสำหรับคุณแม่ ดังนี้
- สุขภาพช่องปาก: ทารกวัย 2 เดือนฟันยังไม่ขึ้น คุณแม่จึงต้องทำความสะอาดด้วยการใช้ผ้าชุบน้ำต้มสุกที่เย็นแล้วเช็ดบริวเณเหงือก กระพุ้งแก้ม และลิ้น อย่างน้อยวันละ 2 ครั้ง
- การรับวัคซีน: คุณแม่ควรพาลูกน้อยไปรับวัคซีนตามที่กำหนด เพื่อสร้างภูมิต้านทานให้กับเจ้าตัวเล็ก โดยวัคซีนหลักที่เด็กวัย 2 เดือนควรได้รับ เช่น คอตีบ บาดทะยัก ไอกรน ตับอักเสบบี ฮิบ โปลิโอ โรต้า และวัคซีนเสริมอื่น ๆ อย่างไรก็ตาม คุณแม่ควรปรึกษาแพทย์ก่อนให้ลูกรับวัคซีนใด ๆ ก่อนทุกครั้ง
- การให้นมแม่: ลูกน้อยยังอยู่ในช่วงที่เติบโตอย่างรวดเร็วจึงต้องการนมแม่บ่อย ๆ ทำให้ใน 24 ชั่วโมงเด็กอาจมีอาการหิวนมแม่มากถึง 8-12 ครั้งเลยทีเดียว และตามองค์การอนามัยโลกเด็กควรได้รับนมแม่เพียงอย่างเดียวเป็นระยะเวลา 6 เดือนและต่อเนื่องไปจนอายุ 2 ปี หรือนานกว่านั้น
- ลูกไม่ยอมนอนคว่ำ: เด็กบางคนไม่ชอบนอนคว่ำตั้งแต่แรก คุณแม่จึงต้องช่วยลูกน้อยด้วยการหาผ้าที่ไม่หนามากมารองที่อกเพื่อทำให้ลูกสามารถชันคอได้ง่ายขึ้น หากลูกยังทำไม่ได้หรือปฏิเสธอาจพักไปก่อนสัก 2-3 วันแล้วค่อยพาลูกเริ่มนอนคว่ำใหม่นะคะคุณแม่
ทารกแรกเกิดถึง 6 เดือน ควรกินนมแม่เพียงอย่างเดียวโดยไม่ต้องให้อาหารอื่น แม้แต่น้ำและควรได้รับนมแม่ต่อเนื่องไปจนถึงอายุ 2 ปีหรือนานกว่านั้น เพราะในนมแม่มีสารอาหารที่มีประโยชน์และครบถ้วนที่จำเป็นสำหรับทารกไม่ว่าจะเป็น โปรตีน คาร์โบไฮเดรต ไขมัน รวมถึงแอลฟาแล็ค สฟิงโกไมอีลิน (Alphalac Sphingomyelin) และใยอาหารชนิด 2'-FL ที่ช่วยเด็กเจนใหม่ สร้างสมองไว ได้มากกว่าที่แม่คิด ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการเจริญเติบโตของร่างกาย ระบบประสาท และสมอง นอกจากนี้ คุณแม่ควรติดตามพัฒนาการเด็ก 2 เดือนอย่างใกล้ชิด ดูแลเรื่องสุขภาพช่องปาก และพาลูกไปฉีดวัคซีนตามคำแนะนำของแพทย์ เพื่อสุขภาพที่ดีของลูกน้อย
บทความแนะนำสำหรับคุณแม่มือใหม่
- พัฒนาการเด็ก 1 เดือน พร้อมวิธีเสริมพัฒนาการลูก
- พัฒนาการเด็ก 2 เดือน พร้อมวิธีเสริมพัฒนาการลูก
- พัฒนาการเด็ก 3 เดือน พร้อมวิธีเสริมพัฒนาการลูก
- พัฒนาการเด็ก 4 เดือน พร้อมวิธีเสริมพัฒนาการลูก
- พัฒนาการเด็ก 5 เดือน พร้อมวิธีเสริมพัฒนาการลูก
- พัฒนาการเด็ก 6 เดือน พร้อมวิธีเสริมพัฒนาการลูก
- พัฒนาการเด็ก 7 เดือน พร้อมวิธีเสริมพัฒนาการลูก
- พัฒนาการเด็ก 8 เดือน พร้อมวิธีเสริมพัฒนาการลูก
อ้างอิง:
- สมุดบันทึกสุขภาพแม่และเด็ก ปี 2568, กรมอนามัย
- คู่มือนักส่งเสริมพัฒนาการเด็กปฐมวัย ประจำสถานบริการสาธารณสุข (หลักสูตรเร่งรัด), กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข
- คู่มือนักส่งเสริมพัฒนาการเด็กปฐมวัย ประจำสถานบริการสาธารณสุข (หลักสูตรเร่งรัด), กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข
- คู่มือส่งเสริมพัฒนาการเด็กแรกเกิด – 5 ปี สำหรับผู้ปกครอง, กรมสุขภาพจิต กระทรวงสาธารณสุข
- พัฒนาการของลูกน้อยเมื่ออายุ 2 เดือน, unicef
- ชวนคุณพ่อ คุณแม่ มาเล่น TUMMY TIME กับลูกน้อยกันเถอะ,
อ้างอิง ณ วันที่ 14 กันยายน 2568