พัฒนาการเด็ก 10 เดือน ทารก 10 เดือน พร้อมวิธีเสริมพัฒนาการลูก
คำถามที่พบบ่อย
ทำไมลูกถึงไม่ยอมอยู่นิ่ง ๆ ตอนเปลี่ยนผ้าอ้อม?
เพราะลูกน้อยเริ่มไม่อยากถูกจำกัดให้อยู่นิ่ง ๆ หรือรู้สึกสนุกกับการเล่นอยู่ค่ะ ดังนั้น คุณแม่ลองหาของเล่นเพื่อเบี่ยงเบนความสนใจลูกน้อย หรืออาจเปลี่ยนสถานที่เปลี่ยนผ้าอ้อม และเตรียมของใช้ให้พร้อมเพื่อความสะดวกและรวดเร็วค่ะ นอกจากนี้ ผื่นผ้าอ้อมอาจเป็นสาเหตุให้ลูกไม่ยอมใส่ผ้าอ้อมได้เช่นกัน คุณแม่ควรปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรเพื่อลดอาการระคายเคืองจากผื่นผ้าอ้อมนะคะ
จำเป็นต้องใส่รองเท้าให้ลูกตอนที่เกาะเดินในบ้านหรือไม่?
ไม่จำเป็นค่ะ การให้ลูกเดิน "เท้าเปล่า" ในบ้านจะดีที่สุด เพราะจะช่วยให้เด็กได้ฝึกเดินตามธรรมชาติซึ่งจะดีต่อพัฒนาการของเด็กมากกว่า อีกทั้งการเลือกสวมใส่รองเท้าที่ไม่เหมาะสมอาจเป็นอุปสรรคต่อพัฒนาการของเด็กได้นะคะ
ลูกเริ่มเบื่ออาหารที่เคยกิน ควรทำอย่างไร?
เมื่อลูกมีอาการเบื่ออาหารให้คุณแม่ปรับอาหารเป็นรูปแบบอื่น ๆ เช่น หั่นแครอทเป็นรูปดาว หรือตกแต่งจานให้ดูน่ากินมากขึ้น พร้อมสร้างบรรยากาศในการกินอาหาร ไม่ดุด่า คะยั้นคะยอ หรือบังคับให้ลูกกินข้าว และชมเชยเมื่อลูกกินได้ สังเกตว่าลูกชอบกินอะไร ไม่ชอบอะไร เพื่อจะได้ทำอาหารที่ลูกน้อยชอบนะคะ
สรุป
- พัฒนาการเด็ก 10 เดือน ได้แก่ ลูกน้อยยืนนาน 2 วินาที ใช้นิ้วมือหยิบจับวัตถุชิ้นเล็กได้ สามารถทำตามคำสั่งง่าย ๆ เช่น โบกมือ เลียนเสียงได้อย่างน้อย 1 คำ และเล่นของเล่นตามประโยชน์ได้
- สัญญาณพัฒนาการเด็ก 10 เดือนล่าช้า เช่น ไม่สามารถยืนได้นานถึง 2 วินาที ใช้นิ้วมือหยิบจับสิ่งของชิ้นเล็กไม่ได้ และไม่สามารถทำตามคำสั่งง่าย ๆ เช่น โบกมือ เป็นต้น ให้ปรึกษาแพทย์เพื่อขอคำแนะนำกระตุ้นพัฒนาการเด็กค่ะ
- คุณแม่ควรสอนให้ลูกได้ลองใช้สิ่งของที่ใช้ในชีวิตประจำวัน เช่น การหวีผม ถ้าในช่วงเด็กยังทำไม่ได้ให้คุณแม่จับมือลูกน้อยหวีผมไปก่อน
- ลูกน้อยสามารถกินอาหารได้ 3 มื้อต่อวัน โดยที่อาหารต้องเป็นรสธรรมชาติที่ไม่ผ่านการปรุงรสอาหารเพิ่มเติม ควบคู่กับการกินแม่
- คุณแม่ไม่ควรปล่อยให้ลูกอยู่ตามลำพัง และควรดูแลเรื่องความปลอดภัยภายในบ้านให้เป็นอย่างดี ไม่ว่าจะเป็นปลั๊กไฟ ตู้ เครื่องใช้ไฟฟ้า หรือบ่อน้ำ เพราะเด็กสามารถจมน้ำตื้นได้แม้จะมีขนาดลึกเพียง 5-10 ซม. เท่านั้น
เลือกอ่านตามหัวข้อ
- รู้จักกับพัฒนาการเด็ก 10 เดือน ทั้ง 4 ด้าน
- เช็กให้ชัวร์! พัฒนาการเด็ก 10 เดือน ตามเกณฑ์หรือไม่?
- วิธีกระตุ้นและส่งเสริมพัฒนาการเด็ก 10 เดือน
- โภชนาการสำคัญสำหรับเด็ก 10 เดือน
- เคล็ดลับในการดูแลเด็ก 10 เดือน
รู้จักกับพัฒนาการเด็ก 10 เดือน ทั้ง 4 ด้าน
ลูกน้อยมีอายุ 10 เดือนแล้ว คุณแม่สังเกตไหมว่าพัฒนาการของลูกน้อยเป็นอย่างไรมีอะไรเปลี่ยนแปลงไปบ้าง เจ้าตัวเล็กขึ้นแค่ไหน เรามาดูพัฒนาการเด็ก 10 เดือนทั้ง 4 ด้านกันดีกว่าค่ะ
1. ด้านการเคลื่อนไหว
ตอนนี้ลูกน้อยคลานเก่งขึ้น ลุกนั่งได้เอง ทั้งยังสามารถเอี้ยวตัว เกาะเดิน และยืนได้นานถึง 2 วินาที เด็ก 10 เดือนยังคงมีพัฒนาการอย่างต่อเนื่อง พ่อแม่จึงต้องส่งเสริมพัฒนาการให้ลูกน้อยได้เคลื่อนไหวและใช้กล้ามเนื้อส่วนต่าง ๆ ของร่างกายที่เหมาะสมตามวัย หลีกเลี่ยงไม่ให้เด็กใช้รถหัดเดินเพราะอาจทำให้ลูกน้อยมีพัฒนาการด้านกล้ามเนื้อมัดใหญ่ที่ล่าช้า และเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุด้วย
2. ด้านการใช้กล้ามเนื้อมัดเล็กและสติปัญญา
เด็ก 10 เดือนสามารถใช้นิ้วเขี่ยวัตถุชิ้นเล็ก ๆ เข้ามาอยู่ในฝ่ามือของตัวเองได้ ทั้งยังจีบนิ้วมือเพื่อหยิบจับสิ่งของชิ้นเล็ก ๆ และนำวัตถุ 2 ชิ้นมาเคาะกันได้ ช่วงวัยนี้คุณแม่ต้องคอยระวังไม่ให้ลูกน้อยหยิบวัตถุชิ้นเล็กเข้าปากเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการสำลักและเป็นอันตรายต่อลูกน้อยได้ค่ะ
3. ด้านการเข้าใจภาษา และการใช้ภาษา
ลูกรู้จักคำถามง่าย ๆ รวมทั้งทำตามคำสั่งของคุณแม่ที่มีท่าทางประกอบ เช่น ปรบมือ สามารถแสดงท่าทางปฏิเสธให้คุณแม่รู้ได้ ส่งเสียงที่มีความหมายอย่างน้อย 1 คำ เช่น หม่ำ จ๋า และจ๊ะ ยิ่งไปกว่านั้น ลูกจะสามารถเรียกพ่อแม่ได้แล้วด้วย วิเศษไปเลยใช่ไหมล่ะคะ
4. ด้านการช่วยเหลือตัวเองและสังคม
เจ้าหนูน้อยสามารถโบกมือ เล่นตบมือกับพ่อแม่ และยังใช้นิ้วหยิบจับอาหารขึ้นมากินเองได้ เมื่อลูกเริ่มช่วยเหลือตัวเองได้คุณแม่จึงต้องคอยส่งเสริมให้ลูกช่วยเหลือตัวเองตามวัยจนสามารถทำได้อย่างคล่องแคล่ว เช่น ให้ลูกมีส่วนร่วมในการกินอาหารเอง หากพ่อแม่ละเลยจะทำให้ลูกขาดความมั่นใจ และความภูมิใจในตัวเอง จนต้องพึ่งพาแต่พ่อแม่จึงกลายเป็นเด็กขาดความรับผิดชอบในเรื่องอื่น ๆ ได้ในอนาคตค่ะ
เช็กให้ชัวร์! พัฒนาการเด็ก 10 เดือน ตามเกณฑ์หรือไม่?
คุณแม่สามารถเช็กพัฒนาการลูกน้อยได้ด้วยการใช้เครื่องมือประเมินพัฒนาการ DSPM หากลูกดูเหมือนจะมีปัญหาทางด้านทักษะต่าง ๆ ดังต่อไปนี้ ควรปรึกษาแพทย์นะคะ
- การเคลื่อนไหว: ไม่สามารถยืนได้นานถึง 2 วินาที
- การใช้กล้ามเนื้อมัดเล็กและสติปัญญา: ใช้นิ้วมือหยิบจับสิ่งของชิ้นเล็กไม่เป็น
- การเข้าใจภาษา: ไม่สามารถทำตามคำสั่งง่าย ๆ เช่น โบกมือ ได้
- การใช้ภาษา: ไม่สามารถทำท่าหรือเปล่งเสียงเพื่อแสดงความต้องการของตัวเองได้
- การช่วยเหลือตัวเองและสังคม: ยังเล่นของตามประโยชน์ไม่เป็น เช่น ของเล่นที่มีปุ่มกดมีเสียงแต่ลูกกดเล่นไม่ได้
เมื่อคุณแม่สังเกตเห็นว่าลูกน้อยมีพัฒนาการที่ไม่เป็นไปตามเกณฑ์ หรือมีพัฒนาการด้านไหนที่ลูกยังทำไม่ได้ แนะนำให้ปรึกษาบุคคลากรทางการแพทย์เพื่อเข้ารับการแก้ไขตั้งแต่เนิ่น ๆ ค่ะ

วิธีกระตุ้นและส่งเสริมพัฒนาการเด็ก 10 เดือน
พ่อแม่ควรช่วยส่งเสริมพัฒนาการของลูกน้อย เพื่อเปิดโอกาสให้เขาได้พัฒนาการความสามารถด้านต่าง ๆ ฝึกทักษะที่ใช้ในชีวิตประจำวัน เกิดการเรียนรู้ที่ต่อเนื่องจนสามารถทำทักษะที่ซับซ้อนขึ้นได้ เรามีวิธีการกระตุ้นพัฒนาการเด็ก 10 เดือน มาฝากกันค่ะ คุณพ่อคุณแม่สามารถนำไปปรับใช้กันได้นะคะ
1. ด้านการเคลื่อนไหว
ให้คุณแม่พาลูกน้อยยืนเกาะเฟอร์นิเจอร์โดยที่คุณแม่ยืนเว้นระยะห่างอยู่ข้างหลัง หยิบของเล่นกรุ๊งกริ๊งขึ้นมาในระดับสายตาลูกน้อยเมื่อลูกเริ่มสนใจแล้วให้คุณแม่วางของเล่นลงบนพื้น จากนั้นพูดคุยชักชวนให้ลูกหย่อนตัวลงมาเล่นของเล่นที่พื้นกับคุณแม่ หากลูกน้อยยังทรงตัวไม่ดีให้คุณแม่พยุงตัวลูกนั่งลงกับพื้นนะคะ
2. ด้านการใช้กล้ามเนื้อมัดเล็กและสติปัญญา
เริ่มจากนำอาหารของลูกน้อยมาแบ่งเป็นชิ้นเล็ก ๆ ประมาณ 1 ซม. ไว้ในจาน จากนั้นให้คุณแม่ใช้นิ้วหัวแม่มือและนิ้วชี้หยิบอาหารให้ลูกดูแล้วบอกให้ลูกน้อยทำตามค่ะ ถ้าเขายังทำไม่ได้ให้คุณแม่ช่วยโดยการรวบนิ้วกลาง นิ้วนาง และนิ้วก้อยเข้าหาฝ่ามือจนเหลือแค่นิ้วชี้กับนิ้วหัวแม่มือเพื่อให้ลูกน้อยได้ใช้สองนิ้วมือในการหยิบอาหาร
3. ด้านการเข้าใจภาษา และการใช้ภาษา
- พาลูกน้อยเล่นโดยใช้คำสั่งง่าย ๆ พร้อมทำท่าทางประกอบ เช่น โบกมือ ตบมือ เป็นต้น ถ้าลูกไม่ทำตามแนะนำให้คุณแม่จับมือลูกทำและค่อย ๆ ลดการช่วยเหลือลงนะคะ จากที่จับมือให้เปลี่ยนไปเป็นแตะข้อศอกแทน พอลูกเริ่มตบมือเองได้ก็ให้เหลือเป็นออกคำสั่งเพียงอย่างเดียวค่ะ
- ให้คุณแม่นำของเล่นของลูกออกมาวางข้างหน้าลูกประมาณ 2-3 ชิ้น แล้วถามว่า “หนูเอาไหม” จากนั้นรอให้ลูกน้อยแสดงความต้องการก่อนแล้วคุณแม่ให้ของเล่นค่ะ แนะนำให้คุณแม่ถามคำถามแบบนี้เมื่อต้องการให้ของเล่นหรืออาหารกับลูกทุกครั้งนะคะ
4. ด้านการช่วยเหลือตัวเองและสังคม
คุณแม่ควรสอนให้ลูกได้ลองใช้สิ่งของที่ใช้ในชีวิตประจำวัน เช่น การหวีผม ถ้าในช่วงแรก ๆ เขายังทำไม่ได้ให้คุณแม่จับมือลูกน้อยหวีผมไปก่อนค่ะ เพื่อเป็นการฝึกให้เด็กรู้จักช่วยเหลือตัวเองนะคะ
โภชนาการสำคัญสำหรับเด็ก 10 เดือน
ตอนนี้ลูกน้อยสามารถกินอาหารได้ 3 มื้อต่อวันควบคู่กับการกินนมแม่ได้แล้วนะคะ ลูกน้อยของคุณแม่กินเก่งขึ้นแล้วจึงจำเป็นต้องได้รับปริมาณอาหารเพิ่มขึ้นตามไปด้วย เพื่อให้ได้รับสารอาหารที่เพียงพอต่อการเจริญเติบโตของเด็ก 10 เดือน โดยที่คุณแม่สามารถปรับเปลี่ยนวัตถุดิบที่คุณแม่ต้องการเพื่อให้ได้เมนูเด็ดใหม่ ๆ ที่โดนใจลูกน้อย สำหรับตารางปริมาณอาหารที่เด็ก 10 เดือน ควรได้รับมีรายละเอียดดังนี้ค่ะ
ตารางปริมาณอาหารตามวัยเด็ก 10 เดือน
ประเภทของอาหาร | ปริมาณ (ช้อนกินข้าว) |
| ข้าวต้มสุก | ค่อย ๆ เพิ่มจาก 15 เป็น 18 ช้อนกินข้าว |
| เนื้อสัตว์อ่อนนุ่มหั่นเป็นชิ้นเล็ก เช่น หมูบด ไก่ | เนื้อสัตว์ 2 ช้อนกินข้าว สลับกับตับ 1 ช้อนกินข้าว ร่วมกับไข่ทั้งฟองคือไข่ขาวและไข่แดงอย่างน้อยวันละครึ่งฟอง |
| ผักกลิ่นไม่แรงหั่นเป็นชิ้นเล็ก | 1 ½ ช้อนกินข้าวต่อวัน โดยแบ่งเป็นมื้อละ ½ ช้อนกินข้าว |
| ผลไม้หั่นเป็นชิ้นเล็ก เช่น มะละกอ กล้วย | 4 ชิ้น (กินเป็นอาหารว่าง) |
ข้อแนะนำเพิ่มเติม:
- อาหารสำหรับเด็กต้องเป็นรสธรรมชาติที่ไม่ผ่านการปรุงรสอาหารเพิ่มเติม
- วัตถุดิบต้องมีความสะอาดและปลอดภัย รวมถึงภาชนะและอุปกรณ์ที่ใช้ในการปรุงอาหารและใส่อาหารให้ลูกน้อยนะคะ
- จัดอาหารให้น่าทาน และควรตักอาหารให้พอดีกับปริมาณที่ลูกน้อยควรได้รับและกินได้หมดไม่เหลือทิ้ง พร้อมทั้งชมเชยลูกน้อยทุกครั้งเมื่อลูกกินอาหารหมด
- พ่อแม่ควรเป็นตัวอย่างให้กับลูก ไม่ควรเลือกกินอาหาร
- คอยกระตุ้นให้ลูกน้อยกินอาหารแทนการบังคับลูก และพยายามให้เด็กกินอาหารภายในระยะเวลา 30 นาที
- ฝึกนิสัยการกินของลูกน้อยโดยที่ให้ลูกนั่งกินอาหารเป็นที่เป็นทาง นั่งกินบนโต๊ะอาหาร กินข้าวเป็นเวลา ไม่ควรกินไปเล่นไป ไม่ตามป้อนอาหารลูกน้อย และลดการดูจอไม่ว่าจะเป็นโทรทัศน์ โทรศัพท์ หรือแท็บเล็ต รวมถึงให้ลูกฝึกใช้ช้อนกินอาหารเอง
เด็ก 10 เดือนควรทานอาหารตามวัยคู่กับนมแม่อย่างต่อเนื่อง เพราะในนมแม่อุดมไปด้วยสารอาหารมากกว่า 200 ชนิดอย่างโปรตีน คาร์โบไฮเดรต ไขมัน วิตามิน เกลือแร่ รวมถึงแอลฟาแล็ค สฟิงโกไมอีลิน (Alphalac Sphingomyelin)ที่ช่วยเด็กเจนใหม่ สร้างสมองไว ได้มากกว่าที่แม่คิด คุณแม่จึงต้องส่งเสริมให้ลูกได้รับสารอาหารในนมแม่อย่างครบถ้วนเพื่อพัฒนาการทางสมองและร่างกายที่ดีสำหรับเจ้าตัวเล็ก
เคล็ดลับในการดูแลเด็ก 10 เดือน
เด็กเล็กเป็นวัยที่ต้องดูแลเอาใจใส่เรื่องความปลอดภัยเป็นพิเศษ พ่อแม่ไม่ควรปล่อยลูกน้อยไว้ตามลำพัง และควรคอยสังเกตและส่งเสริมพัฒนาการลูกน้อยในด้านต่าง ๆ

วิธีทำให้ลูกอยู่นิ่งตอนเปลี่ยนผ้าอ้อม
เด็กบางคนเริ่มเปลี่ยนไปเมื่อโตขึ้นจากเดิมที่เคยอยู่เฉยให้แม่เปลี่ยนผ้าอ้อมกลับกลายเป็นซนไม่ยอมให้แม่เปลี่ยนผ้าอ้อมง่าย ๆ เกิดได้จากหลายสาเหตุ เช่น ไม่อยากออกจากเวลาเล่น หรืออาจจะกำลังรู้สึกเหนื่อย หิว และรู้สึกไม่สบายอยู่ เป็นต้น หากคุณแม่กำลังเผชิญปัญหานี้อยู่สามารถแก้ปัญหาได้ด้วยวิธีการดังต่อไปนี้ค่ะ
- เตรียมผ้าอ้อมและของใช้จำเป็นให้พร้อมทุกครั้ง รวมถึงเตรียมเสื้อผ้าไว้เผื่อกรณีที่ชุดเปียกหรือเปื้อนล่วงหน้าด้วย
- ให้คุณพ่อหรือคนรอบข้างช่วย
- หาสถานที่ใหม่ในการเปลี่ยนผ้าอ้อม หรือให้ลูกยืนเปลี่ยนผ้าอ้อมดูค่ะ
- ใช้ของเล่นหรือหนังสือเพื่อเบี่ยงเบนความสนใจลูกน้อย
- หากลูกน้อยเกิดการระคายเคืองหรือมีผื่นผ้าอ้อมให้คุณแม่ปรึกษาเภสัชกรหรือแพทย์เพื่อลดการระคายเคืองเวลาใส่ผ้าอ้อมของลูกน้อยค่ะ
จำเป็นต้องใส่รองเท้าให้ลูกตอนที่เกาะเดินในบ้านหรือไม่?
เด็ก 10 เดือนเป็นวัยที่เริ่มใช้มือยึดเกาะเฟอร์นิเจอร์เพื่อเริ่มเดินอย่างช้า ๆ ในระยะนี้คุณแม่ไม่จำเป็นต้องให้ลูกใส่รองเท้าเพื่อหัดเดินค่ะแต่ควรปล่อยให้ลูกเดินเท้าเปล่าจะดีที่สุด เพราะจะทำให้เด็กรู้สึกคุ้นเคยกับการเดินแบบธรรมชาติซึ่งจะดีต่อพัฒนาการของเด็กมากกว่า อีกทั้งการเลือกสวมใส่รองเท้าที่ไม่เหมาะสมกับลูกน้อยอาจเป็นอุปสรรคต่อพัฒนาการของเด็กได้
ลูกเริ่มเบื่ออาหารที่เคยกินควรทำอย่างไร?
เด็กควรกินอาหารที่เหมาะสมกับวัยในปริมาณที่เหมาะสม คุณแม่หลายคนให้ลูกกินอาหารควบคู่กับนมแม่แต่อาจพบปัญหาว่าลูกไม่ยอมกินข้าวทำให้พ่อแม่กังวลใจ หากลูกบ้านไหนเริ่มเบื่ออาหารหรือไม่ยอมทานข้าวสามารถทำตามคำแนะนำได้ ดังนี้
- คุณแม่ลองหาสาเหตุที่ลูกน้อยเบื่ออาหารชนิดนั้นหรือลองปรับอาหารเป็นรูปแบบอื่น ๆ เช่น หั่นแครอทเป็นรูปดาว หรือตกแต่งจานให้ดูน่ากินมากขึ้น
- สังเกตว่าลูกชอบกินอะไร ไม่ชอบอะไร เพื่อจะได้ทำอาหารที่ลูกน้อยชอบ
- สร้างบรรยากาศในการกินอาหาร ไม่ดุด่า คะยั้นคะยอ หรือบังคับให้ลูกกินข้าว พร้อมชมเชยเมื่อลูกกินได้
- ให้ลูกนั่งกินข้าวร่วมโต๊ะกับผู้ใหญ่
ระวังความปลอดภัยภายในบ้าน
เด็กวัยนี้เริ่มมีควบคุมการใช้มือและเริ่มเกาะเดินได้แล้วแถมยังอยากรู้อยากเห็นอีก พ่อแม่จึงต้องระวังความปลอดภัยภายในบ้านอยู่เสมอ และไม่ควรปล่อยให้เด็กอยู่ตามลำพังที่อาจเสี่ยงต่ออุบัติเหตุค่ะ โดยเฉพาะจุดเสี่ยงที่ก่อให้เกิดอันตรายต่อเด็ก ดังต่อไปนี้
- เด็กมักจะชอบเอามือจับหรือเอาของเล่นมาแหย่ปลั๊กไฟ ดังนั้น ที่บ้านควรติดตั้งที่ครอบปลั๊กไฟในระยะที่เด็กเอื้อมถึง รวมถึงเก็บสายไฟให้เรียบร้อย
- เครื่องใช้ไฟฟ้าอย่างเตารีด หม้อหุงข้าว อาจเกิดอันตรายต่อเด็กได้ ควรหลีกเลี่ยงไม่ให้เด็กอยู่ใกล้กับเครื่องใช้ไฟฟ้าร้อน ๆ และไม่วางไว้ใกล้มือเด็ก
- บริเวณบันไดต้องระวังเป็นพิเศษเพราะเด็กอาจพลาดตกบันไดได้ หากเป็นไปได้ให้ติดตั้งประตูกั้นบันไดไว้ รวมทั้งใช้แผ่นกันลื่นที่บันไดและปิดขอบมุมกั้นกระแทกด้วยยางกันกระแทก
- ควรยึดเฟอร์นิเจอร์กับผนังไว้ให้มั่นคง ไม่วางของหนักไว้บนตู้ และปิดประตูตู้ให้สนิทเสมอ
- ลูกน้อยสามารถจมน้ำตื้นได้แม้จะมีขนาดลึกเพียง 5-10 ซม. ดังนั้น คุณแม่ควรระวังพวกบ่อน้ำ สระน้ำ หากมีการใช้อ่างน้ำควรเทน้ำทิ้งทุกครั้งหลังใช้งาน หรือหาภาชนะมาปิดไว้ให้แน่นหนา
ตอนนี้เด็ก 10 เดือนแล้วลูกน้อยของคุณแม่มีพัฒนาการทั้ง 4 ด้านเป็นยังไงบ้างค่ะ เจ้าตัวเล็กมีพัฒนาการตามเกณฑ์หรือเปล่า เช่น ยืนเกาะเฟอร์นิเจอร์ได้นาน สามารถเกาะเดินได้ดี ใช้นิ้วมือหยิบจับวัตถุชิ้นเล็กได้ และสามารถทำตามคำสั่งง่าย ๆ เช่น โบกมือ ที่สำคัญควรชวนลูกพูดคุยหรือทำกิจกรรมกระตุ้นพัฒนาการเด็ก 10 เดือนเป็นประจำนะคะ ควบคู่กับการกินอาหารตามวัยและกินนมแม่ทุกวัน เพื่อให้ลูกน้อยเติบโตอย่างแข็งแรงและมีพัฒนาการทางร่างกายและสมองที่สมวัยค่ะ
บทความแนะนำสำหรับพัฒนาการลูกน้อย
- พัฒนาการเด็ก 1 เดือน พร้อมวิธีเสริมพัฒนาการลูก
- พัฒนาการเด็ก 2 เดือน พร้อมวิธีเสริมพัฒนาการลูก
- พัฒนาการเด็ก 3 เดือน พร้อมวิธีเสริมพัฒนาการลูก
- พัฒนาการเด็ก 4 เดือน พร้อมวิธีเสริมพัฒนาการลูก
- พัฒนาการเด็ก 5 เดือน พร้อมวิธีเสริมพัฒนาการลูก
- พัฒนาการเด็ก 6 เดือน พร้อมวิธีเสริมพัฒนาการลูก
- พัฒนาการเด็ก 7 เดือน พร้อมวิธีเสริมพัฒนาการลูก
- พัฒนาการเด็ก 8 เดือน พร้อมวิธีเสริมพัฒนาการลูก
- พัฒนาการเด็ก 9 เดือน พร้อมวิธีเสริมพัฒนาการลูก
อ้างอิง:
- คู่มือ นักส่งเสริมพัฒนาการเด็กปฐมวัย หลักสูตรเร่งรัดประจำาโรงพยาบาล, กรมอนามัย
- เช็คพัฒนาการเจ้าตัวน้อยวัยแรกเกิด, โรงพยาบาลนนทเวช
- คู่มือส่งเสริมพัฒนาการเด็กแรกเกิด – 5 ปี สำหรับผู้ปกครอง, กรมสุขภาพจิต กระทรวงสาธารณสุข
- สมุดบันทึกสุขภาพแม่และเด็ก, กรมอนามัย
- คู่มือสำหรับพ่อแม่ เพื่อเผยแพร่ความรู้ด้านการดูแลและพัฒนาเด็ก ตอน วัยเด็กเล็ก 0-3 ปี, ราชวิทยาลัยกุมารแพทย์แห่งประเทศไทยและสมาคมกุมารแพทย์แห่งประเทศไทย
- What to Do When Your Toddler Is Fighting Diaper Changes, what to expect
- When and how to select toddler shoes, NCT
- 10 วิธีแก้ปัญหาลูกเบื่ออาหาร,โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย
- 6 จุดเสี่ยงรอบบ้านที่เด็กเล็กต้องระวัง, มูลนิธิเด็กโสสะแห่งประเทศไทยในพระบรมราชินูปถัมภ์
- อาหารที่เหมาะสมตามวัย ตั้งแต่วัยแรกเกิด - 5 ปี, โรงพยาบาลบี.แคร์ เมติคอลเซ็นเตอร์
อ้างอิง ณ วันที่ 17 กันยายน 2568