พัฒนาการเด็ก 3 เดือน ทารก 3 เดือน พร้อมวิธีเสริมพัฒนาการลูก
คำถามที่พบบ่อย
จำเป็นต้องเริ่มอาหารเสริมตอน 3 เดือนเลยหรือไม่?
ยังไม่แนะนำค่ะ องค์การอนามัยโลก (WHO) และยูนิเซฟ แนะนำให้ทารกกินนมแม่เพียงอย่างเดียวในช่วง 6 เดือนแรก เนื่องจากระบบย่อยอาหารของทารกยังไม่พร้อมเต็มที่ การให้ลูกได้รับอาหารที่ไม่สัมพันธ์กับช่วงวัย เสี่ยงทำให้ลำไส้อุดตัน และอาจติดเชื้อในระบบทางเดินอาหารได้ค่ะ
ลูกชอบอมมือจนเปื่อย ควรทำอย่างไร?
เด็ก ๆ มักจะ อมมือหรือดูดนิ้ว เป็นเรื่องปกติในวัยทารกและเด็กเล็ก พฤติกรรมนี้ช่วยให้เด็กรู้สึก ปลอดภัยและผ่อนคลาย รวมถึงเป็นการสำรวจสิ่งต่าง ๆ รอบตัวค่ะ คุณพ่อคุณแม่อย่าเพิ่งเป็นกังวลใจไปนะคะ ยังไม่ควรห้ามลูกในตอนนี้ แต่ควรดูแลเรื่องความสะอาดมือของลูกให้ดี
โดยปกติแล้ว พฤติกรรมนี้จะ หายไปเองเมื่อลูกอายุ 2-4 ปี ค่ะ แต่ถ้าลูกยังดูดนิ้วหลังจากช่วงวัยนี้ไปแล้ว ควร ปรึกษากุมารแพทย์ เพื่อขอคำแนะนำที่เหมาะสมนะคะ
ควรเลือกของเล่นแบบไหนให้เด็ก 3 เดือน?
การเลือกของเล่นให้ลูกน้อยวัย 3 เดือน ควรเน้นของเล่นที่ช่วยกระตุ้นประสาทสัมผัสต่าง ๆ ค่ะ ของเล่นที่เสริมพัฒนาการเด็ก 3 เดือน ควรมีลักษณะดังนี้
- สีสันสดใส หรือ มีสีที่ตัดกันชัดเจน เช่น โมบายแขวน หรือของเล่นเขย่ามือกรุ๊งกริ๊ง
- พื้นผิวหลากหลาย ให้ลูกได้สัมผัส เช่น ลูกบอลผ้า หรือตุ๊กตาผ้านิ่ม ๆ
นอกจากนี้ สิ่งสำคัญที่สุดคือ ความปลอดภัย ของเล่นต้องทำจากวัสดุปลอดสารพิษ (Non-toxic) และไม่มีชิ้นส่วนเล็ก ๆ ที่หลุดง่ายและเป็นอันตรายกับลูกได้ค่ะ
สรุป
- พัฒนาการเด็ก 3 เดือน จะเริ่มแสดงออกทางอารมณ์และโต้ตอบกับคนรอบข้างมากขึ้น โดยลูกจะ ยิ้มตอบ ยิ้มทัก และหัวเราะ ได้อย่างชัดเจน นอกจากนี้ยังเริ่มส่งเสียงอ้อแอ้ ส่งเสียงร้อง เสียงแหลม และหันตามเสียงได้ดีขึ้น ในด้านการมองเห็นสามารถ มองตามสิ่งของได้กว้างถึง 180 องศา และเริ่มใช้มือ คว้าของที่อยู่ใกล้ตัว ส่วนพัฒนาการด้านร่างกาย เมื่ออยู่ใน ท่าคว่ำจะยกศีรษะชันคอได้ 90 องศา และใช้แขนยันอกพ้นพื้นได้ ซึ่งทั้งหมดนี้คือสัญญาณที่บ่งบอกว่าลูกน้อยกำลังเติบโตอย่างสมวัย
- พัฒนาการเด็ก 3 เดือน สามารถส่งเสริมได้ด้วยการกระตุ้นกล้ามเนื้อมือและสายตาไปพร้อมกัน คุณพ่อคุณแม่ควรหา โมบายสีสันสดใส มาแขวนในระยะที่ลูกเอื้อมถึง เพื่อให้ลูกพยายามคว้าจับ ซึ่งเป็นการฝึกการประสานการทำงานระหว่างมือและตา นอกจากนี้ การหา ของเล่นที่จับถนัดมือและน้ำหนักเบา เช่น ตุ๊กตาผ้านิ่ม ลูกบอลผ้า หรือของเล่นเขย่ากรุ๊งกริ๊งที่ปลอดภัย ก็จะช่วยให้ลูกได้หัดใช้มือหยิบจับได้อย่างคล่องแคล่วมากขึ้น
- พัฒนาการเด็ก 3 เดือน ควรเฝ้าระวังหากลูกมีสัญญาณพัฒนาการล่าช้าบางอย่าง เช่น ไม่ยิ้มตอบเมื่ออายุ 8 สัปดาห์ ไม่สงบลงเมื่อได้รับการปลอบโยน หรือ ไม่มีปฏิกิริยาต่อเสียงดัง นอกจากนี้ หากพบว่า กล้ามเนื้อไม่สมดุล โดยใช้ร่างกายเพียงข้างเดียว มือยังกำแน่น ตัวอ่อนปวกเปียก หรือแข็งเกร็ง เกินไป หรือมีปัญหาเรื่องการกิน เช่น ไม่ยอมดูดนม ก็ควรปรึกษากุมารแพทย์เพื่อประเมินและขอคำแนะนำเพิ่มเติม
เลือกอ่านตามหัวข้อ
- พัฒนาการเด็ก 3 เดือนใน 4 ด้านหลัก
- พัฒนาการเด็ก 3 เดือน การนอนของลูกน้อย
- พัฒนาการเด็ก 3 เดือน ลูกโตขึ้นแค่ไหน
- พัฒนาการเด็ก 3 เดือน อาหารที่ดีที่สุดของลูกน้อย
- เช็กให้ชัวร์! พัฒนาการเด็ก 3 เดือน ตามเกณฑ์หรือไม่?
- วิธีส่งเสริมและกระตุ้นพัฒนาการเด็ก 3 เดือน
- สิ่งที่พ่อแม่ควรระมัดระวัง ในการเลี้ยงเด็ก 3 เดือน
พัฒนาการเด็ก 3 เดือนใน 4 ด้านหลัก
มาดูพัฒนาการเด็ก 3 เดือนไปพร้อม ๆ กันค่ะ บอกเลยว่าช่วงนี้เป็นช่วงเวลาที่คุณพ่อคุณแม่จะได้เห็นความเปลี่ยนแปลงที่น่าทึ่งในทุก ๆ ด้านของลูกรักเลยทีเดียวค่ะ
ด้านร่างกายและการเคลื่อนไหว
ลูกน้อยของคุณแม่จะเริ่มใช้กล้ามเนื้อแขนและมือได้ดีขึ้น จึงเริ่มเอื้อมคว้าสิ่งของและนำเข้าปาก ซึ่งเป็นวิธีสำรวจโลกของพวกเขา นอกจากนี้ คอของลูกน้อยจะแข็งแรงขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
เด็ก 3 เดือนจะชันคอได้มั่นคงขึ้นเมื่ออุ้มนั่ง และเมื่อถึงเวลาคว่ำหน้า ลูกอาจจะเริ่มพลิกตัวจากคว่ำเป็นหงาย ชันคอขึ้น หรือใช้มือยันหน้าอกขึ้นได้ด้วยเช่นกัน ในช่วงวัยนี้คุณแม่จะสังเกตเห็นว่าลูกโบกแขนและเตะขาได้แรงขึ้น หากคุณจับลูกตั้งตรงโดยให้เท้าแตะพื้นหรือบนตัก ลูกจะพยายามดันขาลงไป นอกจากนี้ ลูกจะเริ่มใช้กำปั้นตีของเล่นที่ห้อยอยู่ตรงหน้า และก็สามารถกางนิ้วเพื่อจับของได้แล้วค่ะ ที่สำคัญคือลูกน้อยวัย 3 เดือนส่วนใหญ่จะสามารถนำมือทั้งสองข้างมาชนกันได้ด้วยแล้วค่ะ
ด้านสติปัญญาและการเรียนรู้
พัฒนาการด้านการเรียนรู้ของเด็ก 3 เดือน แม้จะยังประสานงานระหว่างมือกับตาได้ไม่สมบูรณ์ แต่ประสาทสัมผัสของลูกจะเริ่มไวขึ้นกว่าเดิมมาก พวกเขาจึงสนใจสิ่งของต่าง ๆ ได้นานขึ้น คุณพ่อคุณแม่จะสังเกตเห็นว่า ลูกจะสามารถจ้องมองวัตถุได้นานขึ้น และยังชอบเขย่าของเล่นเพื่อสำรวจอีกด้วยค่ะ
ด้านภาษาและการสื่อสาร
ลูกน้อยจะเริ่มส่งเสียงอ้อแอ้มากขึ้นกว่าเดิม และพยายามจะตอบกลับเมื่อคุณพ่อคุณแม่พูดคุยกับลูก ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นที่น่ารักของการสื่อสารเลยค่ะ
ด้านสังคมและอารมณ์
สมองของลูกกำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว ทำให้เริ่มจดจำผู้คนได้ทั้งจากการมองเห็น กลิ่น และน้ำเสียง ตอนนี้ลูกน้อยเริ่มรู้แล้วว่าใครคือพ่อและแม่ นอกจากนี้ ลูกน้อยยังเริ่มส่งยิ้มให้คนแปลกหน้าอีกด้วย จะเริ่มแสดงอารมณ์และสื่อสารได้อย่างชัดเจนขึ้น พวกเขาจะตอบสนองต่อการแสดงออกทางสีหน้าของพ่อแม่ จดจำเสียงของคุณได้ และหันมองหาเมื่อได้ยินเสียง คุณแม่อาจได้ยินเสียงหัวเราะดัง ๆ จากลูกน้อยเป็นครั้งแรก และจะเห็นว่าลูกมองสิ่งรอบตัวอย่างสงสัยใคร่รู้ โดยเฉพาะนิ้วมือและนิ้วเท้าของตัวเองค่ะ
การเติบโตของลูกน้อยเป็นเรื่องมหัศจรรย์จริง ๆ ค่ะ อย่าลืมใช้ช่วงเวลาเหล่านี้ทำความเข้าใจและสนับสนุนพัฒนาการของลูกอย่างใกล้ชิดนะคะ
พัฒนาการเด็ก 3 เดือนการนอนของลูกน้อย
การนอนของลูกน้อยในช่วง 3-4 เดือนแรก ลูกน้อยของคุณต้องการนอนหลับพักผ่อนมากถึง 14-16 ชั่วโมงต่อวัน โดยจะตื่นทุก ๆ 2-4 ชั่วโมงเพื่อกินนมเป็นปกติ ซึ่งเมื่อลูกอายุครบ 3-4 เดือนเต็ม ๆ แล้ว จะเริ่มนอนได้นานขึ้นในช่วงปลายของช่วงวัยนี้ค่ะ ทั้งนี้เวลาการนอนของเด็กแต่ละคนอาจแตกต่างกันไปบ้างนะคะ คุณแม่ไม่ต้องกังวลไปค่ะ
พัฒนาการเด็ก 3 เดือน ลูกโตขึ้นแค่ไหน
มาดูกันค่ะว่าลูกรักของคุณพ่อคุณแม่เติบโตขึ้นตามเกณฑ์หรือไม่ โดยเฉลี่ยแล้วในเด็ก 3 เดือนจะมีน้ำหนักและส่วนสูงโดยประมาณดังนี้ค่ะ
- เด็กผู้ชาย น้ำหนักประมาณ 5.5 กิโลกรัม และส่วนสูงประมาณ 58 เซนติเมตร
- เด็กผู้หญิง น้ำหนักประมาณ 5 กิโลกรัม และส่วนสูงประมาณ 60 เซนติเมตร
สิ่งสำคัญที่ต้องจำไว้ก็คือตัวเลขเหล่านี้เป็นเพียงค่าเฉลี่ยเท่านั้น หากลูกน้อยมีน้ำหนักและส่วนสูงที่ต่างจากนี้เล็กน้อยก็ไม่ใช่เรื่องที่ต้องกังวลค่ะ เพราะการเติบโตของเด็กแต่ละคนนั้นแตกต่างกันได้ค่ะ หากคุณแม่มีข้อสงสัยใด ๆ เกี่ยวกับพัฒนาการการเจริญเติบโตของลูกสามารถปรึกษากุมารแพทย์เพิ่มเติมได้ค่ะ
พัฒนาการเด็ก 3 เดือน อาหารที่ดีที่สุดของลูกน้อย
สำหรับลูกน้อยในวัย 3 เดือน อาหารที่ดีที่สุดก็คือ "นมแม่" นั่นเองค่ะ นมแม่เปรียบเสมือนวัคซีนหยดแรกที่มีสารอาหารครบถ้วนกว่า 200 ชนิด และมีสารอาหารที่เหมาะสมกับพัฒนาการของลูกในแต่ละช่วงวัยอีกด้วยค่ะ
คุณแม่ทราบไหมคะว่า ตามคำแนะนำขององค์การอนามัยโลก (WHO) และยูนิเซฟ ควรให้ลูกได้กินนมแม่ตั้งแต่ชั่วโมงแรกหลังคลอด และให้กินนมแม่เพียงอย่างเดียวต่อเนื่องไปจนถึง 6 เดือน จากนั้นจึงให้กินนมแม่ควบคู่กับอาหารตามวัยจนถึงอายุ 2 ปีหรือนานกว่านั้นค่ะ
ที่เป็นเช่นนี้ก็เพราะนมแม่มีสารอาหารที่สำคัญต่อสมองของลูกน้อยอย่างดีเอชเอ (DHA) และเออาร์เอ (ARA) รวมถึง แอลฟาแล็ค สฟิงโกไมอีลิน (Alphalac sphingomyelin) ที่มีส่วนสำคัญทำให้การทำงานของสมองในเด็กเจนใหม่มีประสิทธิภาพ ช่วยให้ลูกเรียนรู้ได้อย่างรวดเร็ว และมีสมาธิค่ะ

เช็กให้ชัวร์! พัฒนาการเด็ก 3 เดือน ตามเกณฑ์หรือไม่?
มาดูวิธีง่าย ๆ ในการเช็กว่าพัฒนาการของลูกน้อยในช่วงวัย 3 เดือนเป็นไปตามวัยหรือไม่กันค่ะ คุณแม่สามารถสังเกตจากพฤติกรรมของลูกได้เลยนะคะ
พัฒนาการตามเกณฑ์
ในช่วงวัยนี้คุณแม่จะเริ่มเห็นความเปลี่ยนแปลงที่น่ารักของลูกหลายอย่างเลยค่ะ ลองสังเกตดูนะคะว่าลูกมีพัฒนาการเหล่านี้หรือเปล่า
- มีปฏิสัมพันธ์กับคนรอบข้าง: ลูกจะยิ้มตอบ ยิ้มทัก และทำท่าดีใจเวลาเห็นพ่อแม่หรือคนที่เลี้ยงดูค่ะ
- สื่อสารด้วยเสียง: จะเริ่มส่งเสียงอ้อแอ้ โต้ตอบ หัวเราะ หรือส่งเสียงแหลม ๆ รัว ๆ เวลาที่รู้สึกดีใจ
- การมองเห็น: สามารถมองตามสิ่งของที่เคลื่อนที่ในแนวซ้าย-ขวาได้กว้างถึง 180 องศาเลยค่ะ
- การใช้มือ: เริ่มใช้มือคว้าสิ่งของที่อยู่ใกล้ตัวได้
- การได้ยิน: หันตามเสียงที่ได้ยินได้ดี
- กล้ามเนื้อคอแข็งแรงขึ้น: เมื่ออยู่ในท่าคว่ำ ลูกจะสามารถยกศีรษะและชันคอได้สูงถึง 90 องศา และใช้แขนยันหน้าอกขึ้นจากพื้นได้ นอกจากนี้เมื่อคุณแม่อุ้มนั่ง ลูกจะยกศีรษะตั้งตรงได้เองค่ะ
พัฒนาการอาจล่าช้า
แม้พัฒนาการของเด็กแต่ละคนจะไม่เท่ากัน แต่หากลูกน้อยวัย 3 เดือนมีสัญญาณเหล่านี้ คุณแม่ควรปรึกษาคุณหมอเพื่อความสบายใจค่ะ
- ไม่ยิ้มเมื่ออายุ 8 สัปดาห์: สังเกตว่าลูกยิ้มตอบหรือยิ้มทักทายกับคุณแม่หรือไม่
- ไม่สงบลงเมื่อได้รับการปลอบโยน: ลองอุ้มกอดหรือปลอบโยนแล้วลูกยังคงร้องไห้ไม่หยุด
- กล้ามเนื้อไม่สมดุล: ดูเหมือนว่าลูกจะใช้ร่างกายข้างใดข้างหนึ่งมากกว่าอีกข้างอย่างเห็นได้ชัด
- มือยังกำแน่นหรือตัวอ่อนปวกเปียก หรือแข็งเกร็ง: มือลูกยังกำเป็นกำปั้นแน่นตลอดเวลา หรือร่างกายรู้สึกอ่อนปวกเปียก หรือแข็งเกร็งมากผิดปกติ
- ไม่มีปฏิกิริยาต่อเสียงดัง: ไม่สะดุ้งตกใจหรือไม่แสดงท่าทีตอบสนองเมื่อได้ยินเสียงดัง
- มีปัญหาเรื่องการกิน: ลูกไม่ยอมดูดนม หรือไม่สามารถกินได้อย่างเหมาะสม
อย่างไรก็ตาม หากคุณแม่มีข้อสงสัยหรือไม่แน่ใจในพัฒนาการของลูกน้อย อย่ารีรอหรือชะล่าใจ ควรปรึกษากุมารแพทย์ หรือ ผู้เชี่ยวชาญด้านพัฒนาการเด็ก เพื่อให้ได้รับการดูแลและกระตุ้นพัฒนาการที่เหมาะสมได้อย่างทันท่วงทีค่ะ
วิธีส่งเสริมและกระตุ้นพัฒนาการเด็ก 3 เดือน
การใช้เวลาคุณภาพกับลูกน้อยในช่วงวัย 3 เดือนเป็นสิ่งสำคัญที่สุดเลยค่ะ การกระตุ้นพัฒนาการทำได้ไม่ยากเลย เพียงแค่คุณแม่ใช้กิจกรรมง่าย ๆ ในชีวิตประจำวันมาเล่นกับลูกค่ะ
พูดคุยกับลูกบ่อย ๆ
- พูดคุยและสัมผัส: การอุ้มกอด พูดคุย ร้องเพลง หรือส่งเสียงอ้อแอ้เล่นกับลูก จะช่วยสร้างความผูกพันและกระตุ้นพัฒนาการด้านภาษาได้ดีเลยค่ะ
- สบตาและทำท่าทาง: การสบตา ยิ้ม หัวเราะ หรือทำท่าทางสนุก ๆ จะทำให้ลูกสนใจและอยากมีปฏิสัมพันธ์กับคุณแม่มากขึ้น
กระตุ้นกล้ามเนื้อมือและสายตา
- ของเล่นในระยะเอื้อม: ลองหาโมบายสีสันสดใสมาแขวนในระยะที่ลูกสามารถเอื้อมคว้าได้ จะช่วยกระตุ้นให้ลูกพยายามใช้มือเพื่อคว้าจับ
- หาของเล่นที่จับถนัดมือ: ของเล่นที่น้ำหนักเบาและจับง่าย เช่น ตุ๊กตาผ้านิ่ม ๆ ลูกบอลผ้าเล็ก ๆ หรือของเล่นกรุ๊ง กริ๊งที่ทำจากพลาสติกหรือผ้าที่ปลอดภัย จะช่วยฝึกให้ลูกน้อยได้หัดใช้มือหยิบจับ
จัดเวลาให้ลูกได้ฝึกคว่ำ
- ท่าคว่ำพร้อมพูดคุย: จัดให้ลูกนอนคว่ำโดยให้ศอกงอ จากนั้นพูดคุยกับลูก เมื่อลูกมองมาที่หน้าคุณแม่ ให้ค่อย ๆ เคลื่อนหน้าขึ้นช้า ๆ เพื่อให้ลูกเงยศีรษะมองตาม ซึ่งเป็นการฝึกให้กล้ามเนื้อคอแข็งแรงขึ้นค่ะ
การเล่นกับลูกเป็นวิธีที่ดีที่สุดในการส่งเสริมพัฒนาการในทุก ๆ ด้านค่ะ และที่สำคัญคือช่วงเวลาเหล่านี้จะทำให้คุณพ่อคุณแม่กับลูกน้อยได้สร้างความทรงจำที่อบอุ่นร่วมกันด้วยนะคะ
สิ่งที่พ่อแม่ควรระมัดระวัง ในการเลี้ยงเด็ก 3 เดือน
ในช่วงที่ลูกน้อยกำลังเติบโตและเรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ การดูแลอย่างใส่ใจในทุกรายละเอียดเป็นสิ่งสำคัญมากค่ะ มาดูคำแนะนำง่าย ๆ ที่จะช่วยให้คุณพ่อคุณแม่ดูแลลูกน้อยในช่วงวัย 3 เดือนได้อย่างปลอดภัยและมีความสุขกันนะคะ
1. หลีกเลี่ยงแป้งเด็ก
- ไม่ควรใช้แป้งฝุ่น: ไม่แนะนำให้ใช้แป้งเด็กโดยเด็ดขาด เพราะแป้งบางชนิดอาจมีใยหินที่เป็นอันตราย หากลูกหายใจเข้าไปอาจทำให้ไม่สบายได้ค่ะ หากคุณแม่กังวลเรื่องผื่นผ้าอ้อม ควรปรึกษากุมารแพทย์เพื่อการดูแลปกป้องผิวลูกน้อยจากผื่นผ้าอ้อมได้อย่างเหมาะสมแทนการทาแป้งนะคะ
2. หลีกเลี่ยงแสงแดด
- หลีกเลี่ยงแสงแดดโดยตรง: เด็กทารกที่อายุต่ำกว่า 6 เดือน ควรหลีกเลี่ยงการถูกแสงแดดโดยตรงค่ะ แต่หากจำเป็นจริง ๆ สมาคมกุมารแพทย์แห่งสหรัฐอเมริกา (The American Academy of Pediatrics - APP) แนะนำให้ใช้ครีมกันแดดสำหรับเด็กในบริเวณเล็ก ๆ เช่น ใบหน้า หากไม่มีเสื้อผ้าป้องกันหรือที่ร่ม
3. ทำความสะอาดบริเวณซอกผิวหนัง
- ทำความสะอาดเป็นประจำ: ซอกผิวหนังของลูกน้อยอาจเป็นแหล่งสะสมของสิ่งสกปรกได้ค่ะ ควรใช้ผ้าชุบน้ำหมาด ๆ ทำความสะอาดบริเวณซอกต่าง ๆ เช่น คอ ข้อพับแขนและขา แล้วเช็ดให้แห้งสนิททุกครั้ง เพราะความชื้นอาจทำให้เกิดเชื้อราและปัญหาผิวหนังตามมาได้ค่ะ
4. ความปลอดภัยในคาร์ซีท
- ตรวจสอบการติดตั้ง: ก่อนใช้งาน ให้ตรวจสอบการติดตั้งคาร์ซีทให้ถูกต้องตามคู่มือของทั้งรถยนต์และคาร์ซีท ควรติดตั้งไว้ที่เบาะหลัง และควรให้หันหน้าไปทางด้านหลังรถ เพราะเป็นท่าที่ปลอดภัยที่สุดสำหรับทารกค่ะ
- ปรับเบาะและเข็มขัด: ปรับเบาะให้เอนลงเล็กน้อยเพื่อป้องกันศีรษะลูกน้อยห้อยไปด้านหน้า และก่อนวางลูกลงในคาร์ซีท ควรถอดเสื้อผ้าหนา ๆ ออก เพื่อให้สามารถรัดเข็มขัดนิรภัยให้กระชับพอดีกับตัวลูกได้ค่ะ
5. ไม่ควรเขย่าตัวลูกน้อย
แม้การเล่นกับลูกจะเป็นเรื่องสนุก แต่สิ่งที่คุณพ่อคุณแม่ต้องระมัดระวังเป็นพิเศษคือ การอุ้มลูกโยนขึ้น-ลง หรือการเขย่าตัวลูก เพราะเป็นอันตรายอย่างยิ่งโดยเฉพาะกับทารกที่อายุน้อยกว่า 3-4 เดือนค่ะ
เนื่องจากศีรษะของทารกมีขนาดใหญ่ และกล้ามเนื้อคอยังไม่แข็งแรง การโยนหรือเขย่าตัวลูกอย่างแรงจะทำให้ศีรษะและลำคอแกว่งไปมาอย่างรุนแรง ส่งผลให้สมองซึ่งบอบบางมากเคลื่อนที่ไปกระแทกกับกะโหลกศีรษะ ทำให้เนื้อสมองได้รับบาดเจ็บ นอกจากนี้เส้นเลือดในสมองของทารกยังเปราะบางและฉีกขาดได้ง่าย ซึ่งอาจนำไปสู่ภาวะเลือดออกในเยื่อหุ้มสมอง และในกรณีที่รุนแรงที่สุดอาจถึงขั้นเสียชีวิตได้ค่ะ
พัฒนาการของลูกน้อยวัย 3 เดือนมีความสำคัญอย่างยิ่ง หากคุณพ่อคุณแม่สังเกตเห็นว่าลูกมีการพัฒนาที่ช้ากว่าปกติ สิ่งที่ควรทำเป็นอันดับแรกคือการพาลูกไปพบกุมารแพทย์ หรือผู้เชี่ยวชาญด้านพัฒนาการเด็ก เพื่อตรวจประเมินอย่างละเอียดและรับคำแนะนำที่ถูกต้อง การทำเช่นนี้จะช่วยให้ทราบวิธีการกระตุ้นพัฒนาการที่ตรงจุดและมีประสิทธิภาพสูงสุดเพื่อให้ลูกน้อยเติบโตได้อย่างเต็มที่ตามวัยค่ะ
บทความแนะนำสำหรับคุณแม่มือใหม่
- พัฒนาการเด็ก 8 เดือน พร้อมวิธีเสริมพัฒนาการลูก
- พัฒนาการเด็ก 9 เดือน พร้อมวิธีเสริมพัฒนาการลูก
- พัฒนาการเด็ก 10 เดือน พร้อมวิธีเสริมพัฒนาการลูก
- พัฒนาการเด็ก 11 เดือน พร้อมวิธีเสริมพัฒนาการลูก
- พัฒนาการเด็ก 1 ขวบ พร้อมวิธีเสริมพัฒนาการลูก
อ้างอิง:
- เช็คพัฒนาการเจ้าตัวน้อยวัยแรกเกิด, โรงพยาบาลนนทเวช
- พัฒนาการเด็ก แต่ละช่วงวัย (เด็กแรกเกิด - 6 ปี), โรงพยาบาลสมิติเวช
- Your baby's growth and development - 3 months old, Pregnancy Birth Baby
- 3-Month-Old Baby, What to expect
- ตารางน้ำหนัก-ส่วนสูงมาตราฐานเด็กไทย ทั้งชายหญิง, โรงพยาบาลเชียงใหม่ราม
- นมแม่มีประโยชน์ กรมอนามัย แนะ ทารก ตั้งแต่แรกเกิดถึง 6 เดือน กินนมแม่อย่างเดียว, กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข
- 3-Month-Old Baby, the BUMP
- เขย่าทารก อันตรายต่อสมอง บาดเจ็บถึงขั้นพิการ เสียชีวิต, โรงพยาบาล MedPark
- ลูกชอบดูดนิ้ว ทำอย่างไรดี…??, โรงพยาบาลเด็กสินแพทย์
อ้างอิง ณ วันที่ 19 กันยายน 2568