คุณแม่ปวดท้องน้อยหลังคลอด อันตรายหรือไม่ ควรรับมืออย่างไรบ้าง

คุณแม่ปวดท้องน้อยหลังคลอด อันตรายไหม แม่มือใหม่รับมืออย่างไรดี

09.04.2024

นับจากช่วงเวลาหลังคลอด คุณแม่ก็ได้ย่างเข้าสู่การเป็นคุณแม่มือใหม่อย่างเต็มตัว นอกจากจะต้องดูแลเจ้าตัวน้อยแล้ว ร่างกายของคุณแม่หลังคลอดควรต้องได้รับการพักฟื้นและการดูแลด้วยเช่นกัน เพราะการเปลี่ยนแปลงจากการตั้งครรภ์ทำให้การทำงานของระบบต่าง ๆ ภายในร่างกายของคุณแม่เปลี่ยนไป ในช่วงเวลาหลังคลอดนี้จึงเป็นช่วงที่ร่างกายกำลังปรับสภาพให้เข้าสู่สภาวะปกติ อย่างไรก็ตาม ภายหลังคลอดคุณแม่อาจมีอาการปวดท้องหลังคลอดหรือปวดท้องน้อยหลังคลอดขึ้นได้

headphones

PLAYING: คุณแม่ปวดท้องน้อยหลังคลอด อันตรายไหม แม่มือใหม่รับมืออย่างไรดี

อ่าน 5 นาที

 

สรุป

  • อาการปวดท้องหลังคลอด เป็นภาวะที่อาจเกิดขึ้นได้กับคุณแม่ในระยะ 2-3 วันแรกหรือช่วงสัปดาห์แรกหลังคลอดลูก
  • ในขณะที่คุณแม่กำลังให้นมลูก ก็อาจเกิดอาการปวดท้องหลังคลอดได้มากกว่าปกติ
  • อาการปวดท้องหลังคลอดหรือปวดท้องน้อยหลังคลอด เป็นอาการที่เกิดขึ้นได้กับคุณแม่ที่คลอดแบบธรรมชาติและคลอดแบบผ่าตัดคลอด
  • มดลูกจะเข้าสู่สภาวะปกติหรือที่เรียกว่ามดลูกเข้าอู่ประมาณ 4-6 สัปดาห์ อาการปวดท้องหลังคลอดที่มีสาเหตุมาจากการบีบรัดตัวของมดลูกอาจบรรเทาลง

 

เลือกอ่านตามหัวข้อ

 

โดยทั่วไปแล้วระบบการทำงานในส่วนต่าง ๆ หลาย ๆ ส่วนของร่างกายคุณแม่หลังคลอดจะกลับเข้าสู่สภาวะปกติในช่วง 6-8 สัปดาห์ รวมถึงแผลที่เกิดจากการคลอดลูกก็จะสมานตัวในช่วงนี้ด้วย อย่างไรก็ตาม ในช่วงระยะแรก ๆ คุณแม่อาจมีอาการผิดปกติอื่น ๆ ที่อาจเกิดขึ้นหลังคลอด รวมถึงอาการปวดท้องหลังคลอดตามมาได้ เมื่อต้องเจอกับอาการปวดท้องหลังคลอดควรรับมืออย่างไร ปวดท้องน้อยหลังคลอดแบบไหนที่ควรไปหาคุณหมอ มาหาคำตอบเพื่อให้คุณแม่มือใหม่คลายกังวลกัน

 

ปวดท้องน้อยหลังคลอด มักเกิดขึ้นจากสาเหตุนี้

โดยปกติอาการปวดท้องหลังคลอด หรือปวดท้องน้อยหลังคลอด เป็นภาวะที่อาจเกิดขึ้นได้กับคุณแม่ในช่วงสัปดาห์แรกหลังคุณแม่คลอดลูก เนื่องจากช่วงระยะการตั้งครรภ์มดลูกได้ขยายตัวใหญ่ขึ้นมากกว่าปกติ ภายหลังคลอดกลไกธรรมชาติของมดลูกจะมีการหดรัดตัวลงเพื่อกลับเข้าสู่สภาวะปกติหรือกลับมามีขนาดเท่าเดิมและกลับเข้าที่บริเวณอุ้งเชิงกราน ในจังหวะที่มดลูกบีบตัวก็จะทำให้คุณแม่รู้สึกปวดท้องหลังคลอดได้ โดยเฉพาะในช่วงที่คุณแม่กำลังให้นมเจ้าตัวน้อย ซึ่งอาจจะทำให้คุณแม่ปวดท้องได้มากขึ้นหรือปวดเป็นพัก ๆ เป็นผลมาจากการหลั่งฮอร์โมนที่มีส่วนช่วยให้มดลูกหดรัดตัวดีขึ้น ทั้งนี้กลไกการหดรัดตัวของมดลูกยังเป็นการช่วยหยุดการไหลของเลือดในโพรงมดลูกให้ไหลน้อยลง ยับยั้งไม่ให้เกิดภาวะตกเลือดหลังคลอด ช่วยขับน้ำคาวปลา และยังช่วยทำให้มดลูกเข้าที่เร็วขึ้น หรือที่มักเรียกกันว่า มดลูกเข้าอู่

 

อาการปวดท้องน้อยหลังคลอด เป็นแบบไหน

ภาวะปวดท้องหลังคลอด อันเนื่องจากการบีบและหดรัดตัวของมดลูก อาจส่งผลให้คุณแม่รู้สึกปวด เจ็บ หรือชา บริเวณหน้าท้องหรือบริเวณมดลูก โดยอาการปวดท้องน้อยหลังคลอดมักจะเกิดขึ้นในระยะเวลา 2-3 วัน แรกหลังคลอดลูก อย่างไรก็ตาม หากคุณแม่สังเกตพบอาการผิดปกติ เช่น รู้สึกปวดท้องมากกว่าปกติในขณะที่ไม่ได้ให้นมลูก มีไข้ น้ำคาวปลามีกลิ่นเหม็นและไหลมากผิดปกติ หรือพบลิ่มเลือดไหลออกมามากบริเวณช่องคลอด คุณแม่ควรรีบเข้าพบคุณหมอเพื่อตรวจวินิจฉัยอาการทันที

 

ปวดท้องน้อยหลังคลอด เป็นเฉพาะคุณแม่ที่คลอดธรรมชาติหรือเปล่า?

อาการปวดท้องหลังคลอดหรือปวดท้องน้อยหลังคลอด เป็นอาการที่เกิดขึ้นได้กับคุณแม่ที่คลอดแบบธรรมชาติและคลอดแบบผ่าตัดคลอด เนื่องจากการหดรัดตัวของมดลูก และอาจจะปวดมากเป็นครั้งคราวในขณะที่คุณแม่กำลังให้นมลูกน้อย กรณีที่คุณแม่คลอดลูกคนที่ 2 จะมีโอกาสปวดท้องหลังคลอดได้มากกว่าครรภ์แรกด้วย

 

ปวดท้องน้อยหลังคลอด หายได้เองภายในกี่วัน

อาการปวดท้องหลังคลอดที่เกิดขึ้นได้กับคุณแม่ในช่วง 2-3 วันแรก หรือปวดในขณะให้นมลูกน้อย เป็นผลมาจากกลไกธรรมชาติของมดลูกที่มีการหดรัดตัวให้เล็กลงกลับเท่าขนาดเดิมปกติ ซึ่งโดยทั่วไปแล้วมดลูกจะเข้าสู่สภาวะปกติหรือมดลูกเข้าอู่ประมาณ 4-6 สัปดาห์ อาการปวดท้องที่มีสาเหตุมาจากการบีบรัดตัวของมดลูกอาจบรรเทาลง รวมถึงร่างกายของคุณแม่หลังคลอดจะฟื้นตัวกลับมาสู่สภาวะปกติประมาณ 6-8 สัปดาห์ อย่างไรก็ตามในระยะหลังคลอดนี้ คุณแม่ควรหลีกเลี่ยงกิจกรรมเพื่อลดความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้นต่อร่างกายได้ เช่น หลีกเลี่ยงการขึ้นลงบันไดบ่อย ๆ หลีกเลี่ยงการยกของหนักที่มีน้ำหนักมากกว่าลูกน้อย ไม่ควรออกแรงเบ่งเวลาขับถ่าย และงดการออกกำลังกายหลังคลอดที่ต้องใช้แรงเยอะ เป็นต้น ทั้งนี้ในช่วง 4-6 สัปดาห์แรกหลังคลอด คุณแม่ควรไปตรวจสุขภาพตามที่คุณหมอนัดเสมอ หากคุณแม่ดูแลตัวเองหลังคลอดเป็นอย่างดี ร่างกายของคุณแม่จะกลับเข้าสู่สภาวะปกติเหมือนก่อนตั้งครรภ์ได้อย่างแข็งแรง

 

บรรเทาอาการปวดท้องน้อยหลังคลอด วิธีไหนทำได้บ้าง

ช่วงระยะ 2-3 วันแรกหลังคลอด คุณแม่อาจจะเกิดอาการปวดท้องน้อยหลังคลอดขึ้นได้ วิธีที่จะช่วยบรรเทาอาการปวดท้องหลังคลอดและการดูแลตัวเองง่าย ๆ เพื่อให้ร่างกายหลังคลอดลูกฟื้นตัวเร็ว เช่น

  1. ประคบร้อน นำถุงประคบร้อนบริเวณหน้าท้อง ความร้อนจะช่วยทำให้เลือดหมุนเวียนดีขึ้น และทำให้มดลูกคลายตัว
  2. แช่น้ำอุ่น ลงแช่ในน้ำอุ่นประมาณ 30 นาที ช่วยให้การหมุนเวียนเลือดภายในร่างกายดีขึ้น ทำให้ร่างกายรู้สึกผ่อนคลาย บรรเทาอาการปวดท้อง ทั้งนี้ก่อนลงแช่น้ำควรทำความสะอาดร่างกายและอ่างอาบน้ำ เพื่อระมัดระวังเชื้อโรคเข้าไปทางปากช่องคลอดและอาจลุกลามเข้าไปในโพรงมดลูก เป็นผลทำให้เกิดการติดเชื้อได้
  3. ฝึกหายใจเข้าลึก ๆ และช้า ๆ ใช้วิธีการนั่งสมาธิหรือเล่นโยคะเพื่อกำหนดลมหายใจเข้าและออกอย่างช้า ๆ
  4. นอนหลับในท่าที่สบาย หรืออาจใช้หมอนช่วยพยุงเพื่อให้นอนได้สบายขึ้น ช่วยให้คุณแม่ผ่อนคลายจากอาการปวด ซึ่งในช่วงกลางคืนคุณแม่ควรได้นอนพักเต็มที่ให้ได้อย่างน้อยวันละ 6-8 ชั่วโมงและงีบหลับในขณะที่ลูกน้อยหลับในช่วงกลางวันบ้าง เพื่อป้องกันไม่ให้ร่างกายอ่อนเพลีย
  5. รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ คุณแม่หลังคลอดควรรับประทานอาหารให้เทียบเท่ากับช่วงเวลาตั้งครรภ์ การรับประทานอาหารที่มีสารอาหารครบถ้วนจะช่วยฟื้นฟูร่างกายคุณแม่ให้แข็งแรง ยังส่งผ่านถึงน้ำนมให้มีคุณภาพดีส่งผลดีต่อลูกน้อยด้วย
  6. ดื่มน้ำสะอาดอย่างน้อย 6-8 แก้ว เพื่อช่วยลดอาการท้องผูกในระยะหลังคลอด ซึ่งคุณแม่อาจจะออกแรงเบ่งหรือใช้เวลานานในการขับถ่ายอันจะส่งผลต่ออาการปวดท้องน้อยหลังคลอด

 

คุณแม่ควรรู้วิธีบรรเทาอาการปวดท้องน้อยหลังคลอด

 

ปวดท้องน้อยหลังคลอดแบบไหน ต้องรีบไปพบแพทย์

โดยปกติแล้วอาการปวดท้องหลังคลอด อาจเกิดขึ้นได้กับคุณแม่มือใหม่ในช่วงหลังคลอดแรก ๆ หากมีอาการปวดท้องน้อยหลังคลอดไม่รุนแรง คุณแม่สามารถดูแลตัวเองและรับมือเบื้องต้น อย่างไรก็ตาม หากคุณแม่พบว่ามีอาการปวดท้องหรืออาการผิดปกติหลังคลอดอื่น ๆ ดังต่อไปนี้ ควรรีบไปหาคุณหมอเพื่อตรวจวินิจฉัยอาการทันที

  • ปวดท้องรุนแรงมากกว่าปกติ หรือปวดท้องน้อยในขณะที่ไม่ได้ให้นมลูก
  • มีน้ำคาวปลาไหลออกมาเยอะกว่าปกติและมีกลิ่นเหม็น
  • มีอาการไข้สูง
  • มีลิ่มเลือดออกมาจากช่องคลอดมาก
  • มีเลือดออกทางช่องคลอดในปริมาณมากจนผ้าอนามัย 1 ผืนเปียกชุ่มภายในหนึ่งชั่วโมง
  • หลังคลอดในระยะ 2 สัปดาห์แรก ไม่มีน้ำคาวปลาไหล
  • มีน้ำคาวปลาสีแดงสดไหลออกมากกว่า 4 วัน
  • รู้สึกปวดท้องน้อย แสบหรือขัดเวลาที่ปัสสาวะ
  • ปวดหัวรุนแรง
  • รวมถึงอาการอื่น ๆ เช่น เต้านมอักเสบ บวมแดง หรือแผลผ่าตัดเกิดอาการบวมแดงอักเสบ มีหนอง มีน้ำเหลืองไหลซึม เป็นต้น

 

ภาวะปวดท้องหลังคลอดหรือปวดท้องน้อยหลังคลอด เป็นอาการที่พบได้ทั้งคุณแม่ที่คลอดแบบธรรมชาติและแบบผ่าตัดคลอด หากคุณแม่เข้าใจและดูแลสุขภาพตัวเองภายหลังคลอดได้เป็นอย่างดี ก็จะช่วยลดความกังวลจากอาการปวดท้องที่เกิดขึ้นได้ รวมถึงยังช่วยฟื้นฟูร่างกายให้แข็งแรงกลับสู่สภาวะปกติได้โดยเร็ว และมีความพร้อมที่จะเลี้ยงดูลูกน้อยได้อย่างเต็มที่

 

บทความแนะนำสำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์

 

 

อ้างอิง:

  1. "โรคหลังคลอด" ที่คุณแม่ต้องเตรียมรับมือ, โรงพยาบาลกรุงเทพ
  2. การดูแลตัวเองหลังคลอดที่คุณแม่ต้องรู้, โรงพยาบาลเปาโล
  3. 10 ความเชื่อ...จริง และ ไม่จริง กับคุณแม่หลังคลอด, โรงพยาบาลขอนแก่น ราม
  4. รวมข้อสงสัยหลังคลอด, โรงพยาบาลเปาโล
  5. ปวดมดลูกหลังคลอด...อันตรายไหม อาการแบบไหนควรรีบพบแพทย์, โรงพยาบาลพญาไท
  6. คำแนะนำการปฏิบัติตัวหลังคลอด, โรงพยาบาลวิภาวดี
  7. 13 อาการผิดปกติหลังคลอด, โรงพยาบาลเปาโล

อ้างอิง ณ วันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2567

บทความแนะนำ

คุณแม่ปวดท้องข้างขวา บอกอะไรบ้าง ปวดท้องแบบไหนต้องไปหาหมอ

คุณแม่ปวดท้องข้างขวา บอกอะไรบ้าง ปวดท้องแบบไหนต้องไปหาหมอ

ว่าที่คุณแม่ปวดท้องข้างขวา มีอาการปวดท้องน้อยหน่วง ๆ เกิดจากอะไร อาการแบบนี้เกิดกับคุณแม่ท้องทุกคนหรือไม่ คุณแม่มีอาการปวดท้องข้างขวา ควรดูแลตัวเองยังไง ไปดูกัน

คนท้องกินยาพาราได้ไหม ทำไมก่อนกินยาคนท้องต้องปรึกษาหมอทุกครั้ง

คนท้องกินยาพาราได้ไหม ทำไมก่อนกินยาคนท้องต้องปรึกษาหมอทุกครั้ง

คุณแม่ตั้งครรภ์มีอาการปวดหัว ปวดตัวและปวดหลังขณะตั้งครรภ์ อาการแบบนี้คนท้องกินยาพาราได้ไหม ทำไมก่อนกินยาแต่ละครั้งคนท้องต้องปรึกษาหมอทุกครั้งก่อนรับประทานยา

คุณแม่ปวดท้องข้างซ้าย บอกอะไรได้บ้าง ปวดท้องแบบไหนต้องไปหาหมอ

คุณแม่ปวดท้องข้างซ้าย บอกอะไรได้บ้าง ปวดท้องแบบไหนต้องไปหาหมอ

คุณแม่ปวดท้องข้างซ้าย มีอาการปวดท้องน้อยด้านซ้าย อาการแบบนี้เกิดกับคุณแม่ท้องทุกคนหรือไม่ คุณแม่มีอาการปวดท้องข้างซ้าย ควรดูแลตัวเองยังไง ไปดูกัน

พาหะธาลัสซีเมีย อันตรายไหม ทำไมควรตรวจธาลัสซีเมียก่อนแต่งงาน

พาหะธาลัสซีเมีย อันตรายไหม ทำไมควรตรวจธาลัสซีเมียก่อนแต่งงาน

พาหะธาลัสซีเมีย คืออะไร โรคธาลัสซีเมีย อันตรายไหม ทำไมควรตรวจหาธาลัสซีเมียก่อนแต่งงานและก่อนวางแผนตั้งครรภ์ ไปดูอาการโรคธาลัสซีเมียและวิธีการตรวจเบื้องต้น

คนท้องกินกาแฟได้ไหม ตั้งครรภ์แต่ติดกาแฟอันตรายหรือไม่ ทำอย่างไรดี

คนท้องกินกาแฟได้ไหม ท้องอยู่แต่ติดกาแฟอันตรายกับลูกหรือเปล่า

คนท้องกินกาแฟได้ไหม คุณแม่ท้องติดกาแฟมาก กินกาแฟช่วงตั้งครรภ์ได้ไหม จะเป็นอันตรายกับลูกในครรภ์หรือเปล่า ควรกินเท่าไหร่ถึงไม่อันตรายกับลูกน้อย

เช็กน้ำหนักทารกในครรภ์ ลูกน้ำหนักตัวเท่าไหร่ คุณแม่ควรรู้อะไรบ้าง

ตารางน้ำหนักทารกในครรภ์ น้ำหนักลูกในครรภ์ที่แม่ควรรู้

ตารางน้ำหนักทารกในครรภ์ น้ำหนักลูกในครรภ์ เรื่องสำคัญที่คุณพ่อคุณแม่ต้องรู้ เพราะน้ำหนักทารกในครรภ์ ช่วยบอกถึงพัฒนาการตามวัยของลูกน้อยในท้องได้

ปากมดลูกเปิดมีอาการยังไง กระตุ้นปากมดลูกนานแค่ไหน กว่าจะคลอด

กระตุ้นปากมดลูก ปากมดลูกเปิดมีอาการยังไง นานแค่ไหนกว่าจะคลอด

เมื่อคุณแม่ใกล้คลอด ปากมดลูกจะเริ่มเปิดมากขึ้น อาการปากมดลูกเปิดเป็นยังไง คุณแม่ใกล้คลอดต้องกระตุ้นปากมดลูกไหม พร้อมอาการใกล้คลอดที่คุณแม่ควรรู้

เลือกระยะการตั้งครรภ์และพัฒนาการเด็ก