นมผงเด็ก 1 ขวบขึ้นไป แต่ละสูตรต่างกันยังไง สูตรไหนเหมาะกับลูกน้อย

นมผงเด็ก 1 ขวบขึ้นไป แต่ละสูตรต่างกันยังไง สูตรไหนเหมาะกับลูกน้อย

10.03.2020

นมแม่เป็นนมที่ดีที่สุดสำหรับเด็กและทารก เพราะในนมแม่มีสารอาหารมากมายที่เป็นประโยชน์ต่อสุขภาพของลูกน้อย คุณแม่จึงควรให้ลูกได้กินนมแม่เพียงอย่างเดียวอย่างน้อย 6 เดือน และควรให้นมแม่อย่างต่อเนื่อง ควบคู่กับอาหารตามวัยตั้งแต่เดือนที่ 6 ไปจนถึงลูกอายุ 2 ขวบ หรือนานกว่า เมื่อลูกน้อยอายุ 1 ขวบขึ้นไป ก็เริ่มต้องการสารอาหารที่หลากหลายมากขึ้น นอกจากอาหารหลัก 3 มื้อแล้ว คุณพ่อคุณแม่สามารถเสริม นมสูตร 3 ที่พัฒนาขึ้นสำหรับเด็กวัย 1 ปีขึ้นไปโดยเฉพาะ เพื่อให้ลูกน้อยได้รับสารอาหารหลากหลาย พร้อมพัฒนาสมองให้ดีไปตามพัฒนาการตามช่วงวัย โดยสามารถขอคำปรึกษาจากคุณหมอด้านโภชนาการ เพื่อให้ลูกรักได้รับโภชนาการที่ดี เหมาะสมกับช่วงวัยของลูกน้อย

headphones

PLAYING: นมผงเด็ก 1 ขวบขึ้นไป แต่ละสูตรต่างกันยังไง สูตรไหนเหมาะกับลูกน้อย

อ่าน 8 นาที

สรุป

  • นมผง ผลิตจากนมวัวที่ผ่านการดัดแปลงให้เป็นรูปแบบผง มีทั้งหมด 3 สูตรด้วยกัน คือ นมผงเด็ก 1 ขวบสูตร 1 มีโปรตีนต่ำสุด แต่มีสัดส่วนของเวย์โปรตีน (โปรตีนที่ย่อยง่าย) มากที่สุด ส่วนนมผงเด็ก 1 ขวบสูตร 2 เป็นสูตรที่มีการเติมสารอาหารอื่น ๆ และเพิ่มปริมาณโปรตีนให้มากขึ้น สุดท้ายนมผงเด็ก 1 ขวบสูตร 3 เป็นสูตรที่มีปริมาณโปรตีนสูงสุด และมีสัดส่วนของเคซีนโปรตีน (โปรตีนที่ย่อยได้ยาก) มากขึ้น
  • วิธีเปลี่ยนสูตรนมสำหรับเด็ก  คุณแม่ทำได้โดยการผสมนมสูตรใหม่และสูตรเก่าของลูกแบบค่อยเป็นค่อยไปเพื่อให้ลูกค่อย ๆ ปรับตัวกับสารอาหารที่เปลี่ยนไป และรสชาติใหม่ ๆ อีกทั้งยังช่วยให้ร่างกายของลูกน้อยค่อย ๆ ปรับตัวเพื่อเตรียมพร้อมรับนมสูตรใหม่ด้วย แต่หากมีปัญหาใด ๆ คุณแม่ควรปรึกษาคุณหมอเพื่อขอคำแนะนำเพิ่มเติม
  • หากคุณแม่จำเป็นต้องให้นมผงเด็ก 1 ขวบ  ควรพิจารณา สารอาหารพื้นฐานสำหรับเด็ก และการเติมสารอาหารเพิ่มเติมที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาสมอง รวมถึงลักษณะของกล่องหรือกระป๋องนมว่ามีการบุบ หรือรอยแตกหรือไม่ เพื่อให้ได้รับนมผงเด็ก 1 ขวบที่เหมาะสมกับเจ้าตัวเล็ก

 

เลือกอ่านตามหัวข้อ

 

นมผงเด็ก 1 ขวบ คืออะไร

นมผงสำหรับเด็ก 1 ขวบ คือ นมวัวที่ผ่านการดัดแปลงโปรตีนในนมวัว ทั้งยังมีการเติมสารอาหารที่จำเป็นต่อการเจริญเติบโตของเด็กในแต่ละช่วงวัย อย่างไรก็ตาม นมผงเด็ก 1 ขวบ แต่ละสูตรมีปริมาณสารอาหารที่ถูกออกแบบมาให้เหมาะสมกับความต้องการของเด็กแต่ละช่วงวัย โดยนมสูตร 3 นั้นเหมาะสำหรับเด็กอายุตั้งแต่ 1 ปีขึ้นไป มีคุณค่าทางสารอาหารที่เหมาะสมกับเด็กวัย 1 ขวบมากกว่าเมื่อเปรียบเทียบกับนมวัว ส่งผลดีต่อพัฒนาการรอบด้าน 

 

นมผงเด็ก 1 ขวบ คืออะไร ทำไมคุณแม่ต้องรู้

 

ความแตกต่างของนมผงสำหรับเด็กแต่ละสูตร

นมผงเด็ก 1 ขวบ แบ่งออกเป็น 3 ช่วง คือ นมผงดัดแปลงสำหรับทารก นมผงสูตรต่อเนื่อง และนมผงสูตร 3

1. นมผงเด็ก 1 ขวบ สูตร 1 หรือนมผงดัดแปลงสำหรับทารก 

นมผงสำหรับเด็กสูตร 1 เป็นสูตรที่มีปริมาณโปรตีนต่ำที่สุด จึงเหมาะกับเด็กแรกเกิดถึง 1 ปี เป็นสูตรที่มีการดัดแปลงสารอาหารให้เหมาะกับทารก ทั้งด้านปริมาณและคุณภาพของโปรตีน คาร์โบไฮเดรต วิตามิน เกลือแร่ต่างๆ และมีสัดส่วนของไขมันที่มากกว่า ซึ่งเหมาะกับความต้องการของเด็กในวัยนี้ และยังเหมาะสมต่อระบบการย่อยและการดูดซึมของร่างกายที่กำลังพัฒนาของเด็กอีกด้วย

 

2. นมผงเด็ก 1 ขวบ สูตร 2 หรือนมผงสูตรต่อเนื่อง

  • นมผงดัดแปลงสูตรต่อเนื่องสำหรับทารกและเด็กเล็กอายุ 6 เดือน - 3 ปี (นมผงเด็กสูตร 2) นมผงดัดแปลงสูตรต่อเนื่องสำหรับทารกและเด็กเล็ก (นมผงเด็กสูตร 2) เป็นนมผงเด็กที่ เหมาะสำหรับเด็กที่อายุ 6 เดือนถึง 3 ปี
  • นมผงสำหรับเด็กสูตร 2 มีปริมาณโปรตีนเพิ่มขึ้นจากนมผงเด็กสูตร 1 โดยอาจมีสัดส่วนของโปรตีนเคซีนที่ย่อยยากเพิ่มขึ้น แคลเซียมและฟอสฟอรัส โซเดียม ก็เพิ่มขึ้นจากนมผงเด็กสูตร 1

 

3. นมผงเด็ก 1 ขวบ สูตร 3 หรือนมผงครบส่วน

เด็กในวัย 1-3 ปี เป็นช่วงวัยที่ได้รับสารอาหารจากการทานอาหารเป็นหลักแทนการดื่มนม คุณแม่สามารถให้ลูกน้อยเสริมนมอย่างต่อ เนื่องด้วยนมสูตร 3 สำหรับเด็กอายุ 1 ปีขึ้นไป ซึ่งเป็นนมสูตรที่มีปริมาณโปรตีนและแคลเซียมที่ใกล้เคียงกับนมวัว ทั้งยังมีการเติมสาร อาหาร วิตามิน และแร่ธาตุบางชนิดที่เหมาะกับพัฒนาการทางร่างกาย และสมองของลูกน้อยในช่วงวัยนี้

 

ประโยชน์จากนมผงสำหรับเด็ก

ในนมผงมีสารอาหารที่เหมาะสำหรับเด็ก เช่น โปรตีน ไขมัน คาร์โบไฮเดรต แคลเซียม วิตามินต่าง ๆ ฟอสฟอรัส โพแทสเซียม สังกะสี ซีลีเนียม แมกนีเซียม รวมถึงพลังงาน ที่เป็นประโยชน์ต่อการเติบโต การเสริมสร้างกระดูกและฟันให้แข็งแรง และการพัฒนาสมอง

 

 

ข้อควรรู้ เมื่อให้ลูกเริ่มกินนมผงเด็ก 1 ขวบ

เนื่องจากนมผงแต่ละสูตรมีการดัดแปลงเพื่อให้เหมาะสมกับเด็กแต่ละช่วงวัย หากคุณแม่จำเป็นต้องให้ลูกกินนมผงเด็ก 1 ขวบ หลังจากขอคำปรึกษาจากคุณหมอแล้ว สิ่งสำคัญที่สุดที่คุณแม่ควรพิจารณา คือ

  • วันหมดอายุ หรือ วันที่ควรบริโภคก่อน สังเกตฉลากวันหมดอายุที่ปรากฏอยู่บนผลิตภัณฑ์เป็นสิ่งที่คุณแม่ควรพิจารณาเป็นอันดับแรก เพราะนมผงที่หมดอายุเป็นนมที่เสื่อมสภาพและอาจไม่เหลือคุณค่าทางโภชนาการตามที่ระบุไว้
  • สภาพของภาชนะต้องสมบูรณ์ ภาชนะหรือกระป๋องนมต้องไม่มีสนิม รูรั่ว หรือรอยฉีดขาด ยกเว้นอาจมีรอยบุบหรือรอยกระแทกจากการขนส่ง เพราะอาจทำให้นมผงที่อยู่ข้างในภาชะเสื่อมคุณภาพลงได้ 
  • สังเกตที่ช่วงอายุสำหรับเด็ก นมผงแต่ละสูตรมีการจัดแบ่งตามช่วงอายุ คุณแม่ต้องตรวจสอบให้แน่ใจก่อนว่านมผงที่เลือกนั้นตรงกับช่วงอายุของลูกน้อยหรือไม่ เพื่อให้ลูกน้อยได้รับสารอาหารที่จำเป็นต่อการเจริญเติบโตของร่างกาย พัฒนาการสมองและสติปัญญา
  • เลือกนมผงเด็ก 1 ขวบ ให้เหมาะกับสุขภาพของลูกน้อย ในกรณีที่เจ้าตัวเล็กมีปัญหาสุขภาพบางอย่าง เช่น น้ำหนักแรกเกิดน้อย แพ้แลคโตส หรือแพ้นมวัว คุณแม่ควรปรึกษาแพทย์เกี่ยวกับโภชนาการสำหรับปัญหาสุขภาพดังกล่าวของลูกน้อยโดยเฉพาะ
  • ตรวจเช็กสารอาหารในฉลากนมผง สารอาหารในนมผงส่วนใหญ่ประกอบด้วยโปรตีน คาร์โบไฮเดรต และไขมัน คุณแม่ควรตรวจสอบให้แน่ใจว่าโปรตีนที่ใช้ในนมเป็นโปรตีนแบบไหน เพราะส่งผลต่อระบบย่อยอาหารของทารก รวมถึงสารอาหารอื่น ๆ ที่มีประโยชน์ช่วยพัฒนาสมองของเด็ก เช่น DHA โอเมก้า 3,6,9 สฟิงโกไมอีลิน และทอรีน  เป็นต้น 

 

ข้อควรรู้ 'นมแม่' มีคุณค่าทางโภชนาการสูงที่สุด คุณแม่ควรให้ลูกน้อยได้กินนมแม่ไปอย่างน้อย 6 เดือน ควรให้นมแม่ต่อเนื่อง ควบคู่กับอาหารเสริมที่ปลอดภัย มีคุณค่าและเหมาะกับอายุ ตั้งแต่เดือนที่ 6 ไปจนถึงลูกอายุ 2 ขวบ หรือนานกว่า คุณพ่อคุณแม่ควรดูแลในเรื่องโภชนาการและสารอาหารต่างๆ ที่ สอดคล้องกับความต้องการของลูกในแต่ละช่วงวัย เพื่อให้ลูกได้รับคุณค่าทางโภชนาการที่เหมาะสมกับความต้องการ ซึ่งช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน ให้ลูกมีร่างกายที่แข็งแรง เจริญเติบโตสมวัย และพร้อมสำหรับการเรียนรู้    

 

คุณแม่ทำอย่างไร เมื่อลูกน้อยมีอาการท้องผูก

อาการท้องผูกในเด็ก เป็นภาวะที่เด็กขับถ่ายน้อยกว่า 2 ครั้งต่อสัปดาห์ เมื่อถ่ายออกมาแล้วอุจจาระมีก้อนที่แข็งหรือใหญ่ หรือเป็นเม็ดกระสุนต้องใช้แรงในการเบ่งมากกว่าปกติ โดยสาเหตุที่ลูกท้องผูกกว่า 90% มาจากพฤติกรรมของเด็กที่เกิดจากประสบการณ์ไม่ดีกับการถ่าย หรือการเปลี่ยนแปลงบางอย่าง เช่น การเปลี่ยนอาหาร การเปลี่ยนสภาพแวดล้อมใหม่ ๆ ทำให้ลูกน้อยเกิดการอั้นอุจจาระ รวมถึงพฤติกรรมการกินทั้งการทานผักและผลไม้น้อย ทานอาหารมากเกินไป  ดื่มน้ำได้น้อย และการกินนมมากเกินไป

 

ภาวะท้องผูก ลูกถ่ายไม่ออก อาจเป็นปัญหาต่อลูกน้อยได้ เช่น ลูกกินอาหารได้น้อยลง ปวดท้องบ่อย ๆ น้ำหนักไม่ขึ้น เบ่งอุจจาระนาน ร้องไห้มากเวลาเบ่งอุจจาระ ดังนั้น พ่อแม่ควรปรับพฤติกรรมของลูกน้อย โดยการส่งเสริมให้ลูกกินผลและผลไม้ให้มากขึ้น กินนมและอาหารในปริมาณที่เหมาะสม ฝึกให้ลูกขับถ่ายเป็นเวลา สังเกตสีอุจจาระทารก และควรพบแพทย์เมื่อลูกน้อยถ่ายไม่ออกหลายวัน ถ่ายอุจจาระก้อนแข็งใหญ่และมีเลือดปน ลูกร้องมากเวลาเบ่งถ่าย ปวดท้องบ่อย เด็กอุจจาระเลอะกางเกง และชอบยืนบิดเกร็ยงตามมุมห้อง

 

บทความแนะนำสำหรับพัฒนาการลูกน้อย

 

 

อ้างอิง:

  • นมสด และ นมผง แบบไหนมีประโยชน์กว่ากัน, hellokhunmor
  • คู่มืออาหารตามวัยสำหรับทารกและเด็กเล็ก, สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ

บทความแนะนำ

6 อาหารเสริมภูมิคุ้มกันให้ลูกสุขภาพดี อาหารเสริมภูมิคุ้มกันเด็ก

6 อาหารเสริมภูมิคุ้มกันให้ลูกสุขภาพดี อาหารเสริมภูมิคุ้มกันเด็ก

รวมอาหารเสริมภูมิคุ้มกันให้ลูกสุขภาพดี มีประโยชน์ ได้สารอาหารครบ 5 หมู่ เสริมภูมิคุ้มกันให้ลูกน้อย ไปดูเมนูอาหารเสริมภูมิคุ้มกันให้ลูกที่คุณแม่ควรรู้กัน

41 เคล็ดไม่ลับวิธีสร้างสมอง สู่พรสวรรค์ของลูกน้อยวัย 5 ปี

41 เคล็ดไม่ลับวิธีสร้างสมอง สู่พรสวรรค์ของลูกน้อยวัย 5 ปี

รวมเคล็ดลับพัฒนาสมองลูกน้อยให้ฉลาด แข็งแรงและมีพัฒนาการที่ดี สู่พรสวรรค์ที่เหมาะสมกับเด็กวัย 5 ปี พร้อมวิธีพัฒนาเด็กสมองไว ให้ลูกเรียนรู้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ 

50 เคล็ดไม่ลับ วิธีสร้างสมอง… สู่พรสวรรค์ของลูกน้อยวัย 4ปี

43 เคล็ดไม่ลับ "วิธีสร้างสมอง… สู่พรสวรรค์ของลูกน้อยวัย 4 ปี"

“ทำไมของชิ้นนั้นถึงเป็นแบบนี้” “นอกจากทำวิธีนี้เราทำวิธีไหนได้อีก” การตั้งคำถามชวนให้ลูกคิดในแง่มุมต่างๆ เป็นการฝึกทักษะทางการคิดที่ดี การกระตุ้นให้ลูกตอบโดยใช้ประโยคที่ยาวขึ้นเพื่ออธิบาย ก็เป็นการฝึกความสามารถในการถ่ายทอดสิ่งที่ตัวเองคิดออกมา เป็นสิ่งที่ผู้อื่นเข้าใจได้ง่าย ซึ่งก็เป็นทักษะสำคัญอย่างหนึ่งที่เด็กจำเป็นต้องใช้ในการสื่อสารสิ่งที่คิด

50 เคล็ดไม่ลับ วิธีสร้างสมอง… สู่พรสวรรค์ของลูกน้อยวัย 3ปี

53 เคล็ดไม่ลับ "วิธีสร้างสมอง… สู่พรสวรรค์ของลูกน้อยวัย 3ปี"

สมองที่เฉียบคมต้องอาศัยร่างกายที่แข็งแรง การเรียนรู้ไม่ควรจำกัดอยู่แต่ในห้องเรียนแต่เกิดได้   จากการทำสิ่งต่างๆ ในชีวิตประจำวัน การปลูกฝังแนวคิดที่ว่าการเรียนรู้เกิดขึ้นรอบตัวและเป็นเรื่องที่  สนุกไม่น่าเบื่อจะช่วยสร้างนิสัยใฝ่รู้ให้กับลูกไปตลอดชีวิต ความสามารถในการใฝ่หาความรู้และ ความอยากรู้อยากเห็นเป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญที่ทำให้เราโดดเด่นขึ้นมา