สีอึทารก บอกอะไร? เช็กลิสต์สีอุจจาระทารก แบบไหนปกติ แบบไหนต้องหาหมอ
คำถามที่พบบ่อย
ทารกควรถ่ายวันละกี่ครั้งถึงจะเรียกว่าปกติ?
ความถี่ในการถ่ายอุจจาระของทารกตามปกติ จะแตกต่างกันตามชนิดของอาหารที่ได้รับ ทารกที่กินนมแม่มักจะถ่ายบ่อย โดยอาจถ่ายทุกครั้งหลังจากกินนมเลยก็ได้ แต่เมื่ออายุครบประมาณ 6 สัปดาห์ จำนวนครั้งจะลดลงเหลือประมาณ 3-5 ครั้งต่อวัน ส่วนทารกที่กินนมผงดัดแปลง มักจะถ่ายน้อยกว่าทารกที่กินนมแม่ ในช่วงแรกอาจถ่ายได้ถึงวันละ 5 ครั้ง แต่หลังจากอายุ 2-3 เดือน จำนวนครั้งจะลดลงเหลือวันละ 1-2 ครั้ง
อึทารกมีเม็ด ๆ สีขาวคล้ายเมล็ดงา ปกติหรือไม่?
เป็นเรื่องปกติ เม็ดสีขาวในอึทารกมักเป็นไขมันนมที่ย่อยไม่หมด ทั้งจากน้ำนมแม่หรือนมผง และอาจเกิดจากการเริ่มให้ทานอาหารเสริมด้วย โดยพบได้บ่อยในทารกกินนมแม่เพราะไขมันสูง
สรุปแล้ว สีอึทารกแบบไหนที่ต้องไปหาหมอทันที?
ถ้าคุณแม่สังเกตว่าอุจจาระของลูกมี สีอึทารกแบบนี้ อย่าชะล่าใจ เพราะอาจเป็นสัญญาณของปัญหาสุขภาพร้ายแรง ควรรีบพาลูกไปพบคุณหมอเพื่อให้ตรวจและรักษาอย่างทันท่วงที
- สีแดง – อาจมาจากรอยแผลเล็ก ๆ จากการถ่ายแข็งหรือท้องผูก แต่ถ้าไม่พบแผล อาจเกิดจากบาดแผลในลำไส้ การติดเชื้อ การแพ้นม
- สีขาวซีด – อาจเกิดจากน้ำดีไม่เพียงพอหรือท่อน้ำดีอุดตัน ซึ่งเกี่ยวข้องกับตับและถุงน้ำดี
- สีดำ – หากลูกอายุมากกว่า 3 วันแล้วยังถ่ายสีดำ หรือมีมากผิดปกติ อาจมีเลือดออกในระบบทางเดินอาหาร
สรุป
- สีและลักษณะของอุจจาระทารกบ่งบอกถึงชนิดอาหารที่ได้รับและพัฒนาการของระบบย่อยอาหารที่เปลี่ยนไปตามวัย ซึ่งถือเป็นเรื่องปกติที่ไม่ควรกังวล อุจจาระสีเหลืองมักพบในทารกที่กินนมแม่ ส่วนทารกที่กินนมผงจะมีอุจจาระสีเข้มและข้นกว่า อุจจาระสีส้มเกิดจากอาหารเสริม เช่น ผักหรือผลไม้ เมื่อทารกเริ่มกินอาหารหลากหลาย อุจจาระจะเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาล ซึ่งแสดงว่าระบบย่อยอาหารทำงานได้ดีขึ้น ส่วนอุจจาระสีเขียวมีหลายเฉด ตั้งแต่เขียวอ่อนจากการที่แม่กินผัก เขียวเข้มจากอาหารเสริมธาตุเหล็ก และเขียวดำซึ่งเป็นขี้เทาในทารกแรกเกิด
- หากสังเกตว่าอุจจาระของลูกมี สีแดง สีขาวซีด หรือสีดำ อย่าชะล่าใจ เพราะอาจเป็นสัญญาณของปัญหาสุขภาพร้ายแรง เช่น เลือดออกในลำไส้ การติดเชื้อ การแพ้นม หรือความผิดปกติของตับและถุงน้ำดี ควรรีบพาลูกไปพบคุณหมอทันที เพื่อให้ตรวจหาสาเหตุและรักษาอย่างทันท่วงทีค่ะ
- ลักษณะอุจจาระของทารกช่วยบ่งบอกสุขภาพได้ดี หากทารกถ่ายเหลวสีเหลืองและถี่เกินไป อาจเป็นสัญญาณของท้องเสียซึ่งเสี่ยงต่อการขาดน้ำ ส่วนอุจจาระแข็งเป็นก้อนเล็กมักเกิดจากท้องผูกที่อาจทำให้เจ็บเวลาถ่าย หากพบมูกในอุจจาระ หรือมีอาการถ่ายเหลว ซึม ไม่กินนม ควรระมัดระวังเพราะอาจเกิดจากการติดเชื้อหรือแพ้อาหาร เมื่อลูกมีอาการผิดปกติ ควรสังเกตอย่างใกล้ชิดและรีบพาไปพบแพทย์เพื่อความปลอดภัย
เลือกอ่านตามหัวข้อ
- สีอึทารก บอกอะไรได้บ้าง?
- "สีอึทารก" สีไหนปกติ สีไหนคือสัญญาณอันตราย
- ลักษณะอุจจาระทารกปกติตามวัยเป็นอย่างไร?
- ปัญหาการขับถ่ายอื่น ๆ ที่ควรสังเกต

สีอึทารก บอกอะไรได้บ้าง?
สีอึทารกสามารถสะท้อนสุขภาพและการทำงานของระบบย่อยอาหาร การสังเกตสีอึอย่างสม่ำเสมอช่วยให้คุณแม่เข้าใจว่าร่างกายลูกทำงานปกติหรือไม่ และสามารถดูแลลูกได้อย่างเหมาะสม อุจจาระของทารกมีหลายสี ขึ้นอยู่กับอาหารและกระบวนการย่อยอาหาร การเปลี่ยนแปลงของสีจึงเป็นเรื่องปกติ แต่หากสังเกตอย่างต่อเนื่อง จะช่วยให้คุณแม่รับรู้พัฒนาการของลูกและสังเกตความผิดปกติได้ตั้งแต่เนิ่น ๆ ทำให้สามารถดูแลลูกได้ตรงจุดและเหมาะสมกับแต่ละช่วงวัย

"สีอึทารก" สีไหนปกติ สีไหนคือสัญญาณอันตราย
หากคุณแม่สังเกตดี ๆ จะเห็นว่าสีอึทารกมักเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ สีเหล่านี้ไม่ใช่แค่ความบังเอิญ แต่เป็นสัญญาณที่ช่วยสะท้อนสุขภาพโดยรวมของลูก และคุณแม่ควรใส่ใจหรือดูแลลูกอย่างไร สึอึทารกมีหลายเฉดสี ซึ่งแต่ละสีสามารถบอกได้ถึงสภาวะต่าง ๆ ของร่างกายลูกได้แตกต่างกันไป
ลองมาดูกันว่า สีทารกแบบไหนที่ปกติ และสีไหนที่ควรเป็นสัญญาณเตือนให้คุณแม่ต้องระวังเป็นพิเศษ
สีอึทารกที่ปกติ
สีและลักษณะการขับถ่ายของลูกน้อยจะเปลี่ยนตามอาหาร ระบบย่อยอาหาร และแบคทีเรียในลำไส้ โดยปกติสีอุจจาระจะเปลี่ยนเป็นเหลือง เขียว น้ำตาล หรือส้ม ซึ่งถือเป็นเรื่องปกติที่คุณแม่ไม่ต้องกังวลค่ะ มาดูความหมายของสีอึทารกที่บอกสุขภาพลูกน้อยกันค่ะ
1. อึสีเหลือง
สีเหลืองเป็นสีที่พบได้บ่อยและถือเป็นเรื่องปกติของทารกค่ะ สีเหลืองนี้สามารถมีความเข้มต่างกันได้ ดังนี้นะคะ
- อึสีเหลืองฟักทอง
ลักษณะเหลว เนื้อนุ่มและเนียน มักพบในทารกที่ดื่มนมแม่อย่างเพียงพอ และสุขภาพแข็งแรง
- อึสีเหลืองเข้ม
พบในทารกที่กินนมผง จะมีสีเข้มกว่าและเนื้อข้นกว่าทารกที่กินนมแม่
- อึสีเหลืองมัสตาร์ดอมส้ม
เป็นสัญญาณว่าระบบย่อยอาหารของลูกทำงานได้ดีตามปกติ มักเกิดกับทารกที่ดูดนมแม่ไม่เต็มเต้าหรือดูดไม่ต่อเนื่อง ทำให้ต้องดูดบ่อยครั้งค่ะ
2. อึสีส้ม
เกิดจากเม็ดสีที่สะสมในระบบย่อยอาหารของทารก ซึ่งอาจพบได้ทั้งในทารกที่กินนมแม่และทารกที่กินนมผง นอกจากนี้ สีส้มยังอาจเกิดจากการเริ่มกินอาหารเสริมบางชนิด เช่น ผักหรือผลไม้ที่มีสีส้ม ทำให้อุจจาระมีสีนี้ได้ค่ะ
3. อึสีน้ำตาล
เป็นสีอึทารกปกติที่พบได้เมื่อทารกเริ่มกินอาหารทั่วไปแล้ว โดยมักพบในเด็กวัยหัดเดินที่เริ่มกินอาหารหลากหลายมากขึ้น อุจจาระจะมีลักษณะคล้ายน้ำตาลเหมือนผู้ใหญ่ ซึ่งถือเป็นสัญญาณว่าระบบย่อยอาหารของเด็กพัฒนาและทำงานได้ดีขึ้นตามวัยค่ะ
4. อึสีเขียว
สีอึทารกสีเขียวมักพบได้เมื่อเริ่มให้อาหารเสริม โดยสามารถแบ่งเป็นลักษณะสีเขียวต่าง ๆ ดังนี้
- อึสีเขียว อาจเกิดจากคุณแม่ที่ให้นมลูกทานผักใบเขียวมาก หรือเป็นผลจากการเริ่มให้ลูกดื่มนมผสม
- อึสีเขียวเข้มพบได้บ่อย โดยเฉพาะในทารกที่เริ่มทานอาหารเสริมที่มีผักเขียว เช่น ผักโขม ถั่วลันเตา หรืออาจเกิดจากการได้รับอาหารเสริมธาตุเหล็ก หรือนมผงที่เสริมธาตุเหล็ก
- อึสีเขียวดำ หรือขี้เทา เป็นอุจจาระก้อนแรกของทารกมักจะมีลักษณะเหนียว มีสีเขียวดำคล้ายน้ำมันดิน เรียกว่า เมโคเนียม (Meconium) ซึ่งประกอบด้วยเมือก เซลล์ผิวหนัง และน้ำคร่ำที่ลูกกลืนเข้ามา ถือเป็นเรื่องปกติที่อึสีเขียวดำแบบนี้ โดยจะเป็นไม่เกิน 2 - 3 วันหลังคลอดนะคะ แต่ถ้าสีอึทารกยังคงเป็นสีเข้มหลังจากนั้น อาจเกิดจากคุณแม่รับกินอาหารที่มีธาตุเหล็กมากเกินไป หรือบางครั้งอาจเป็นสัญญาณว่ามีเลือดออกในระบบทางเดินอาหารของลูก ทำให้อึทารกมีเลือดปนออกมาได้ค่ะ
สีอุจจาระทารกผิดปกติ
การสังเกตสีอึทารกของลูกน้อยเป็นเรื่องที่คุณแม่ไม่ควรมองข้าม เพราะบางครั้งการเปลี่ยนแปลงของสีอึอาจบ่งบอกถึงปัญหาสุขภาพที่ซ่อนอยู่ หากพบว่าสีมีความผิดปกติ ควรรีบพาลูกไปพบคุณหมอโดยเร็ว เพื่อให้ได้รับการตรวจวินิจฉัยและดูแลอย่างเหมาะสม ก่อนที่อาการจะลุกลามหรือรุนแรงมากขึ้น
1. อึสีแดง
อึทารกที่มีสีแดงสดปน อาจเกิดจากการฉีกขาดเล็กน้อยบริเวณรูทวารหนัก ซึ่งมักพบในเด็กที่ถ่ายแข็งหรือท้องผูกบ่อย แต่หากตรวจไม่พบรอยแผลภายนอก อาจเป็นสัญญาณจากบาดแผลภายในลำไส้ การติดเชื้อ การแพ้นม หรือภาวะอื่น ๆ นอกจากนี้ อาหารหรือเครื่องดื่มสีแดงเข้ม เช่น น้ำมะเขือเทศหรือหัวบีทรูท ก็อาจทำให้สีอึทารกเปลี่ยนได้เช่นกัน ดังนั้น หากคุณแม่ไม่มั่นใจ ควรพาลูกไปพบคุณหมอเพื่อตรวจวินิจฉัยอย่างละเอียด เพื่อให้ได้รับการดูแลอย่างถูกต้องและทันท่วงทีค่ะ
2. อึสีขาว
สีอึทารกสีขาวซีดหรือไม่มีสี อาจเป็นสัญญาณบ่งบอกถึงความผิดปกติของการทำงานของท่อน้ำดี หรือการที่ร่างกายผลิตน้ำดีจากตับไม่เพียงพอ น้ำดีมีหน้าที่สำคัญในการช่วยย่อยอาหารและทำให้อุจจาระมีสีตามปกติ หากขาดน้ำดี สีอึทารกจะมีลักษณะซีด ขาว หรือขุ่น ซึ่งเป็นภาวะที่ไม่ควรมองข้าม เพราะอาจเกี่ยวข้องกับปัญหาสำคัญของตับหรือถุงน้ำดี หากคุณแม่สังเกตเห็นอาการเช่นนี้ ควรรีบพาลูกไปพบคุณหมอเพื่อตรวจวินิจฉัยและดูแลอย่างถูกต้องทันท่วงทีค่ะ
3. อึสีดำ
ในช่วง 2-3 วันแรกหลังคลอด ทารกจะมีการขับถ่ายสีดำเหนียวคล้ายน้ำมันดิน ซึ่งเป็นเรื่องปกติ อุจจาระชนิดนี้เป็นของเสียที่สะสมในลำไส้ตั้งแต่ในท้องแม่ แต่ถ้าลูกน้อยอายุมากกว่า 3 วันแล้วยังขับถ่ายสีดำเข้มแบบนี้ หรือถ่ายออกมามากผิดปกติ อาจเป็นสัญญาณว่ามีเลือดไหลออกในระบบทางเดินอาหาร ซึ่งอาจเกิดจากปัญหาสุขภาพที่ต้องได้รับการดูแลอย่างเร่งด่วน
ถ้าคุณแม่เห็นเลือดปนในอึของลูก ควรรีบพาไปพบคุณหมอทันที เพื่อให้ตรวจวินิจฉัยและดูแลรักษาอย่างถูกต้องค่ะ
สีอุจจาระทารกที่ผิดปกติ
| สีอุจจาระ | ความหมาย / ความเสี่ยง |
| แดง | อาจเกิดจากเลือดภายในลำไส้ การติดเชื้อ หรือแพ้นม |
| ขาว / ซีด | บ่งบอกปัญหาตับ หรือน้ำดี ทำงานผิดปกติ |
| ดำ (หลัง 3 วันแรก) | อาจมีเลือดไหลในระบบทางเดินอาหาร |
ลักษณะอุจจาระทารกปกติตามวัยเป็นอย่างไร?
อุจจาระของทารกแรกเกิดมีการเปลี่ยนแปลงไปตามช่วงวัยและชนิดอาหารที่ได้รับ การรู้จักลักษณะอุจจาระในแต่ละช่วงจะช่วยให้คุณแม่มั่นใจว่าสุขภาพของลูกน้อยปกติดี เรามาดูกันว่าลักษณะอุจจาระที่พบได้ทั่วไปมีอะไรบ้าง
ทารกแรกเกิด 0 - 3 วัน : ขี้เทา (Meconium)
ขี้เทาคืออุจจาระแรกของทารกแรกเกิด มีลักษณะเหนียวข้น สีเขียวเข้มจนถึงดำคล้ายน้ำมันเครื่อง เกิดจากการสะสมของน้ำคร่ำ เมือก เซลล์ผิวหนังที่ลอกออก และของเหลวอื่น ๆ ที่ทารกกลืนเข้าไปขณะอยู่ในครรภ์ โดยทั่วไปทารกจะเริ่มถ่ายขี้เทาภายใน 24 ชั่วโมงหลังคลอด อุจจาระชนิดนี้จะไม่มีกลิ่นเหม็นเหมือนอุจจาระปกติ เพราะเป็นของเสียที่สะสมอยู่ในร่างกายตั้งแต่อยู่ในครรภ์
ทารกแรกเกิด 2 - 4 วัน : อุจจาระเปลี่ยนผ่าน
เมื่อทารกมีอายุประมาณ 2 - 4 วัน ลักษณะอุจจาระจะเริ่มเปลี่ยนไปจากขี้เทาเป็นสีเขียวอมเหลืองและเหนียวน้อยลง ช่วงนี้เรียกว่า อุจจาระเปลี่ยนผ่าน ซึ่งถือเป็นสัญญาณที่ดีว่าลูกน้อยเริ่มย่อยนมแม่หรือนมผสมได้ ระบบย่อยอาหารกำลังปรับตัวและทำงานได้อย่างราบรื่น
ทารกอายุ 3 วัน - 6 เดือน : อึของทารกกินนมแม่
ลักษณะอุจจาระทารกปกติ ของทารกที่กินนมแม่ มักจะนิ่มคล้ายน้ำแป้งเปียก หรือบางครั้งดูเหมือนท้องเสีย สีมีตั้งแต่เหลืองมัสตาร์ด เขียว หรือบางครั้งน้ำตาลเล็กน้อย โดยประมาณ 3 วันหลังคลอด สึอึทารกจะเปลี่ยนจากขี้เทาสีเขียวเข้มเหนียวข้น เป็นสีเขียวที่เหนียวน้อยลง และเมื่อทารกดูดนมแม่มากขึ้น สีจะเปลี่ยนเป็นเหลืองมัสตาร์ด มีความเหนียวเล็กน้อย ซึ่งเป็นเรื่องปกติ สึอึทารกมีหลายเฉดสีรวมถึงสีเขียวอ่อนที่อาจเกิดจากอาหารแม่ ถ้าลูกไม่มีอาการผิดปกติอื่น ๆ ก็ไม่ต้องกังวล แต่ถ้าเห็นอึสีเขียวสดเป็นฟองคล้ายสาหร่าย อาจแสดงว่าทารกได้รับนมส่วนหน้า (Foremilk) ซึ่งนมส่วนหน้ามีแคลอรีต่ำ ทำให้ยังไม่อิ่ม แนะนำควรให้นมลูกครั้งต่อไปด้วยเต้าเดิม เพื่อให้ได้รับนมส่วนหลัง (Hindmilk) อย่างเพียงพอ โดยนมส่วนหลังจะมีไขมันและคุณค่าทางโภชนาการสูงและบางครั้งทารกที่ดูดซึมน้ำนมแม่ได้ดี อาจถ่ายน้อยลงเป็นเวลาหลายวัน
ทั้งนี้ สีและลักษณะของอุจจาระของลูก เกิดจากอาหารและโภชนาการที่แม่ได้รับ เพราะสารอาหารสำคัญจะส่งผ่านน้ำนมแม่ไปสู่ลูกน้อย ซึ่งนมแม่อุดมด้วยสารอาหารมากกว่า 200 ชนิด รวมถึงสารสำคัญอย่าง แอลฟาแล็ค สฟิงโกไมอีลิน (Alphalac Sphingomyelin) ที่ช่วยส่งเสริมการพัฒนาสมอง สติปัญญา และการเจริญเติบโตของลูกน้อย โดยเฉพาะในช่วงที่สมองกำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว นอกจากนี้ นมแม่ยังมี PHP (Partially Hydrolyzed Proteins) หรือโปรตีนที่ถูกย่อยบางส่วน ช่วยลดภาระการย่อยในลำไส้เล็กของลูก ช่วยให้ขับถ่ายนุ่มและสบายขึ้น รวมถึงมีจุลินทรีย์ที่มีประโยชน์หลากหลายสายพันธุ์ เช่น บีแล็กทิส (B. lactis) ซึ่งช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันและดูแลระบบทางเดินอาหาร ส่งผลดีต่อสุขภาพลำไส้และการขับถ่ายของลูกน้อยโดยตรง
ทารกอายุ 3 วัน - เดือน : อึทารกกินนมผง
อุจจาระของทารกที่กินนมผงจะเปลี่ยนจากขี้เทาสีดำเหนียวไปเป็นสีน้ำตาลเข้มหรือสีแทน ซึ่งมีลักษณะข้นเหนียวคล้ายเนยถั่วและมีสีเหลืองปนน้ำตาลอ่อน สีอึทารกจะอยู่ในช่วงน้ำตาลอ่อนถึงน้ำตาลอมเหลือง หรือบางครั้งน้ำตาลอมเขียว
นมผงมีความเข้มข้นสูงกว่านมแม่เล็กน้อย ทำให้ระบบย่อยอาหารของทารกต้องทำงานหนักขึ้น ส่งผลให้อุจจาระมีกลิ่นแรงกว่าทารกที่กินนมแม่ แต่ยังไม่ฉุนเท่าทารกที่เริ่มกินอาหารแข็ง ทารกที่กินนมผงมักถ่ายอุจจาระน้อยกว่า แต่มีขนาดใหญ่และมีกลิ่นแรงกว่า โดยบางครั้งอุจจาระอาจแข็งและใหญ่ขึ้น และทารกอาจถ่ายวันละครั้งหรือมากกว่านั้น ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องปกติ
ทารกอายุ 6 เดือนขึ้นไป : อึทารกเมื่อเริ่มทานอาหารตามวัย
เมื่อลูกน้อยเริ่มทานอาหารเสริม เช่น ข้าวบด กล้วยบด หรือผักผลไม้บด สึอึทารกจะเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาลหรือน้ำตาลเข้ม เนื้อข้นขึ้นแต่นิ่ม และมีกลิ่นแรงกว่าตอนกินแต่นมแม่ อาจมีทั้งแบบก้อนเล็กคล้ายกรวด หรือเหลวคล้ายอึของทารกที่กินนมแม่ ซึ่งถือว่าปกติ เว้นแต่ว่าลูกเบ่งมากหรือไม่ถ่ายเกิน 2 – 3 วัน
บางครั้งอาจเห็นเศษอาหารย่อยไม่หมดหรือสีสันแปลก เช่น สีแดงจากบีทรูท สีส้มจากแครอท หรือสีน้ำเเงินเข้มจากบลูเบอร์รี มักไม่ใช่เรื่องน่ากังวล แต่หากพบเศษอาหารในการขับถ่ายอย่างต่อเนื่อง ควรปรึกษาแพทย์เพื่อตรวจการดูดซึมสารอาหารของลูกน้อย
ลักษณะอุจจาระทารกปกติตามวัย
วัยของทารก | ลักษณะอุจจาระ | สี | ข้อสังเกต |
| ทารกแรกเกิด 0 - 3 วัน | ขี้เทา (Meconium) เหนียว ข้น | เขียวเข้ม - ดำ | เป็นอุจจาระแรกหลังคลอด ไม่มีกลิ่นเหม็น |
| ทารกแรกเกิด 2 - 4 วัน | อุจจาระเปลี่ยนผ่าน เหนียวน้อยลง | เขียวอมเหลือง | ระบบย่อยอาหารเริ่มทำงาน |
| ทารกอายุ 3 วัน - 6 เดือน (กินนมแม่) | นิ่ม คล้ายน้ำแป้งเปียก | เหลืองมัสตาร์ด / เขียว /น้ำตาลเล็กน้อย | กลิ่นไม่แรง สีเปลี่ยนได้ตามอาหารที่แม่กิน และปริมาณนมแม่ที่ได้รับ |
| ทารกอายุ 3 วัน - 6 เดือน (กินนมผง) | ข้นเหนียว คล้ายเนยถั่ว | น้ำตาลอ่อน / น้ำตาลอมเหลือง / น้ำตาลอมเขียว | ถ่ายน้อยกว่าทารกกินนมแม่ แต่ปริมาณต่อครั้งมากกว่า มีกลิ่นแรงกว่า |
| ทารกอายุ 6 เดือนขึ้นไป (เริ่มอาหารตามวัย) | เนื้อข้นขึ้น มีก้อน หรือเหลว | น้ำตาล / น้ำตาลเข้ม หรือ สีเปลี่ยนจากอาหารที่กิน | อาจมีเศษอาหารปน มีกลิ่นแรงกว่ากินนมแม่ อาจเป็นก้อนเล็กหรือเหลว ถือว่าปกติ ยกเว้นลูกเบ่งมากหรือไม่ถ่ายเกิน 2 - 3 วัน |
ปัญหาการขับถ่ายอื่น ๆ ที่ควรสังเกต
1. สีอึทารก สำคัญอย่างไรกับสุขภาพลูกน้อย
สีและลักษณะของอึทารกเป็นตัวชี้วัดสำคัญที่ช่วยสะท้อนสุขภาพระบบทางเดินอาหารและการย่อยอาหารของลูกน้อย หากสีหรือเนื้ออุจจาระเปลี่ยนไปในทางผิดปกติ อาจเป็นสัญญาณของภาวะติดเชื้อ แพ้อาหาร หรือปัญหาทางเดินอาหารบางอย่าง โดยเฉพาะในช่วงแรกเกิดที่ระบบทางเดินอาหารยังพัฒนาไม่เต็มที่ การดูแลและสังเกตสีอึทารกอย่างใกล้ชิด จะช่วยให้คุณแม่รู้ทันสัญญาณผิดปกติ และช่วยป้องกันปัญหาสุขภาพ หรือภาวะแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้นได้ในระยะยาวค่ะ
ทำไมต้องเช็กสีอึทารกอยู่เสมอ
สีอึของทารกสามารถเปลี่ยนแปลงได้ตามอาหารที่กิน การพัฒนาของระบบทางเดินอาหาร และสุขภาพโดยรวม การเปลี่ยนแปลงจากนมแม่ไปนมผง หรือเริ่มอาหารเสริม มักส่งผลต่อสีและลักษณะของการขับถ่าย สีอุจจาระทารกผิดปกติ เช่น สีขาว สีแดง หรือสีดำ อาจเป็นสัญญาณเตือนถึงโรคหรือปัญหาที่ต้องได้รับการวินิจฉัยและดูแลอย่างเร่งด่วน ดังนั้น การตรวจเช็กสีอึทารกอย่างสม่ำเสมอจึงเป็นวิธีง่าย ๆ ที่ช่วยให้คุณแม่สังเกตความผิดปกติและช่วยให้คุณหมอวินิจฉัยได้เร็วขึ้น
ลักษณะอึทารก แบบไหนที่พ่อแม่ต้องระวัง
นอกจากสีอึทารกแล้ว การสังเกตลักษณะก็สำคัญ เพราะความเปลี่ยนแปลงของลักษณะอึทารกอาจบ่งบอกถึงสุขภาพของลูกน้อยได้ ดังนี้
1. ถ่ายเหลว
การถ่ายเหลวอาจเป็นสัญญาณของอาการท้องเสียในทารกได้ โดยทั่วไปอึของทารกจะมีลักษณะเหลวกว่าผู้ใหญ่ เนื่องจากระบบทางเดินอาหารยังพัฒนาไม่เต็มที่ แต่ถ้าทารกถ่ายเหลวสีเหลืองเป็นน้ำมาก และเกิดขึ้นบ่อยครั้งหลังให้นม อาจแสดงว่ากำลังท้องเสีย ซึ่งอาจเกิดจากการติดเชื้อและเสี่ยงทำให้ลูกขาดน้ำได้ คุณแม่จึงควรสังเกตอาการอื่น ๆ ร่วมด้วย และรีบพาลูกไปพบคุณหมอทันทีเพื่อความปลอดภัย
2. ถ่ายเป็นก้อนแข็ง
ทารกอาจมีอาการท้องผูกได้ หากขับถ่ายมีลักษณะแข็งและเป็นก้อนเล็ก ๆ คล้ายลูกกระสุน ซึ่งมักพบในทารกที่ได้รับนมผสม หรือได้รับนมที่ชงไม่ตรงสัดส่วน รวมถึงการให้นมผงที่ไม่เหมาะสมกับวัย เช่น นมผงสำหรับเด็กโตแทนที่จะเป็นสำหรับทารก อาการท้องผูกนี้อาจทำให้ลูกรู้สึกไม่สบายเวลาถ่าย และบางครั้งอาจมีเลือดปนออกมาจากการระคายเคืองบริเวณทวารหนัก นอกจากนี้ ท้องผูกยังเป็นเรื่องปกติที่พบได้เมื่อทารกเริ่มกินอาหารเสริม หรือได้รับใยอาหารไม่เพียงพอ คุณแม่ควรพาลูกไปพบคุณหมอเพื่อรับคำแนะนำและดูแลอย่างเหมาะสม
3. ถ่ายเป็นมูก หรือมูกเลือด
บางครั้งการขับถ่ายของลูกมีมูกปน ไม่ได้แปลว่าผิดปกติเสมอไปค่ะ เพราะมูกมีหน้าที่เหมือนสารหล่อลื่น ช่วยให้ขับถ่ายออกมาได้ง่ายขึ้น ช่วงที่ลูกเริ่มเปลี่ยนจากนมแม่ล้วนไปเป็นอาหารเสริม เช่น ผักบด ผลไม้นึ่ง หรือโจ๊กปลา ก็อาจทำให้มีมูกมากขึ้นได้ค่ะ อย่างไรก็ตาม ถ้าสังเกตเห็นว่าลูกขับถ่ายมีมูกมากผิดปกติ หรือมีอาการอื่นร่วมด้วย ก็ควรพาไปพบคุณหมอนะคะ นอกจากนี้ คุณแม่อาจสังเกตเห็นว่าลูกขับถ่ายมีเลือดปนมากับอุจจาระ ซึ่งอาจทำให้ตกใจ แต่ส่วนใหญ่ไม่ร้ายแรง มักเกิดจาก รอยฉีกที่ทวารหนักจากการขับถ่าย หรือ การแพ้นมวัวค่ะ
อย่างไรก็ตาม การขับถ่ายมีมูกปน อาจบอกว่ามีปัญหาสุขภาพบางอย่างของลูก คุณแม่อาจต้องสังเกตอาการอื่น ๆ ร่วมด้วย เช่น
- ติดเชื้อในลำไส้ เช่น ไวรัส แบคทีเรีย หรือพยาธิ อาจทำให้ลูกมีมูกปนในอึ พร้อมกับถ่ายเหลวหรือถ่ายน้ำบ่อย ๆ
- ท้องเสีย ลูกจะถ่ายบ่อยขึ้น มีมูกปน อาจงอแง ไม่สบายตัว หรือฉี่น้อยลง
- ท้องผูก อึแข็ง สีเข้ม และมีมูกเคลือบ บางครั้งถ้าท้องผูกมากอาจมีเลือดปนออกมาด้วย
- แพ้อาหารบางชนิด เช่น โปรตีนถั่วเหลือง ธาตุเหล็ก หรือแลคโตส (Lactose) อาจทำให้มีมูกร่วมกับท้องเสีย
ถ้าลูกยังร่าเริง กินนมได้ดี น้ำหนักขึ้นตามเกณฑ์ มูกเพียงเล็กน้อยมักไม่ใช่เรื่องน่ากังวลค่ะ แต่ถ้าคุณแม่สังเกตเห็นว่าลูกมีอาการอื่นร่วมด้วย เช่น ถ่ายเหลวมาก ถ่ายบ่อยผิดปกติ ซึมลง หรือไม่ยอมกินนม ควรพาไปพบคุณหมอทันที เพื่อให้ได้รับการวินิจฉัยและดูแลอย่างปลอดภัยนะคะ
ลักษณะอึทารกท้องเสีย เป็นแบบไหน
ลักษณะการขับถ่ายของทารกที่มีอาการท้องเสีย มักถ่ายเหลวใสเกิน 3 ครั้งต่อวัน มีลักษณะเป็นน้ำ มีสีเหลืองหรือเขียวอ่อน พร้อมกับอาการอื่น ๆ เช่น ปวดท้อง ร้องไห้งอแง ซึม หรือกินนมได้น้อย ในบางราย อุจจาระอาจมีน้ำมากกว่าส่วนกาก หรือพบมูกปนเลือดอย่างน้อยหนึ่งครั้ง และอาจมีไข้หรืออาเจียน โดยเฉพาะท้องเสียจากไวรัสโรต้า (Rotavirus) ซึ่งมักมีอาการอาเจียนรุนแรง หากอาการรุนแรงขึ้น สีอึทารกอาจเปลี่ยนเป็นสีขาวขุ่น คล้ายน้ำซาวข้าว ซึ่งเป็นสัญญาณที่ต้องระวังและรีบไปพบคุณหมอทันทีค่ะ
คุณแม่ควรสังเกตอาการลูกอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะเมื่อทารกถ่ายเหลวบ่อย หรือมีลักษณะที่ผิดปกติ เช่น มีมูกหรือเลือดปน หากลูกซึมหรือกินนมได้น้อย รวมถึงมีไข้ ควรรีบพาไปพบคุณหมอทันทีเพื่อรับการวินิจฉัยและดูแลรักษาอย่างเหมาะสม ไม่ควรปล่อยให้อาการลุกลาม เพราะอาจเสี่ยงภาวะแทรกซ้อนหรือขาดน้ำ ซึ่งเป็นอันตรายต่อสุขภาพลูกค่ะ
ลูกถ่ายเหลวสีเหลือง แบบนี้ปกติไหม
ลูกถ่ายเหลวสีเหลือง ถือว่าเป็นเรื่องปกติในทารกหลายคนค่ะ โดยเฉพาะถ้าเป็นทารกที่ดื่มนมแม่ การขับถ่ายจะมีลักษณะเหลว สีเหลือง และมีกลิ่นอ่อน ๆ แต่ถ้าลูกถ่ายเหลวบ่อยมาก หรือมีอาการอื่นร่วมด้วย เช่น งอแงมาก เบื่ออาหาร มีไข้ หรือถ่ายเป็นน้ำมากจนเสี่ยงขาดน้ำ ควรพาไปพบคุณหมอเพื่อประเมินอาการและดูแลอย่างเหมาะสมค่ะ
การสังเกตสีและลักษณะของอุจจาระเป็นวิธีง่าย ๆ ที่ช่วยให้คุณแม่รู้ถึงสุขภาพของลูกน้อยได้ตั้งแต่เนิ่น ๆ เพราะสีอุจจาระสามารถบ่งบอกถึงภาวะต่าง ๆ เช่น ระบบทางเดินอาหารที่ทำงานปกติ หรือสัญญาณเตือนปัญหาสุขภาพที่ต้องดูแลอย่างใกล้ชิด หากพบความผิดปกติ ควรรีบพาลูกไปพบคุณหมอเพื่อรับการวินิจฉัยและดูแลรักษาอย่างทันท่วงที
การดูแลเรื่องการขับถ่ายจึงมีความสำคัญมาก เพราะส่งผลต่อพัฒนาการทางร่างกายและสุขภาพโดยรวมของลูกน้อย
นอกจากนี้ พัฒนาการในด้านอื่น ๆ ก็สำคัญไม่แพ้กัน หากคุณแม่มีข้อสงสัยหรือกังวลเกี่ยวกับพัฒนาการของลูก สามารถคลิกอ่านข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ โปรแกรม Baby Development เช็คพัฒนาการลูกน้อยแต่ละช่วงวัย
บทความแนะนำสำหรับคุณแม่มือใหม่
อ้างอิง:
- “ลักษณะทั่วไปของทารกแรกเกิด” สิ่งที่พ่อแม่ควรรู้..เพื่อดูความผิดปกติ , โรงพยาบาลพญาไท
- 12 Types of Baby Poop & What They Mean , unitypoint.org
- Baby poop pictures: Which colors and textures are normal? , babycenter.com
- Color Changes in Your Baby's Poop , webmd.com
- The Complete Baby Poop Guide: What's 'Normal' and What's Not , parents.com
- สีของอุจจาระลูกบอกอะไรได้บ้าง , โรงพยาบาลเอกชัย
- What Does Your Baby’s Poop Color Say About Their Health? , healthline.com
- Baby Poop Colors: What Do They Mean? , health.clevelandclinic.org
- Baby poo colour chart , pregnancybirthbaby.org.au
https://www.pregnancybirthbaby.org.au/baby-poo-guide - Baby poop color: Causes and when to see a doctor , medicalnewstoday.com
- อุจจาระของลูกน้อยบอกอะไรคุณแม่ , nakornthon.com
- รู้ไหม… สีอุจจาระทารก ทำนายสุขภาพได้ , โรงพยาบาลรามคำแหง
- ลูกน้อยท้องเสียบ่อย ส่งผลต่อพัฒนาการของเด็ก , โรงพยาบาลบางปะกอก 3
- ท้องเสีย , โรงพยาบาลเมดพาร์ค
- ทารกอุจจาระ มีมูก เกิดจากอะไร เป็นเรื่องปกติหรือไม่ , hellokhunmor.com
- ลูกท้องผูก ปัญหาเรื้อรัง…ที่พ่อแม่ไม่ควรมองข้าม , โรงพยาบาลไทยนครินทร์
- What Are Those White Curds in My Baby’s Poop? , healthline.com
- กรมอนามัย ย้ำ ทารกกินนมแม่อย่างเดียว 6 เดือน ดีที่สุด ก่อนให้อาหารตามวัยควบนมแม่ต่อเนื่องถึง 2 ปี หรือนานกว่านั้น , สื่อมัลดิมีเดียกรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข
อ้างอิง ณ วันที่ 10 สิงหาคม 2568