อาหารบำรุงสมองเด็ก ให้ลูกฉลาด สมองไว เติบโตได้อย่างสมวัย

10 อาหารบำรุงสมองเด็ก ให้ลูกฉลาด สมองไว เติบโตได้อย่างสมวัย

24.04.2020

หลังจากลูกน้อยกินนมแม่มาตลอด 6 เดือน ก็ถึงเวลาทำความรู้จักกับอาหารตามวัยชนิดอื่นๆ ที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย โดยเฉพาะอาหารบำรุงสมองเด็ก ที่อุดมด้วยสารอาหารจำเป็นต่อการพัฒนาระบบประสาท สมอง และร่างกาย ให้ทำงานได้เต็มศักยภาพ โดยเฉพาะในขวบปีแรกๆ ที่เซลล์ประสาทต่างๆ จะพัฒนาประสานเชื่อมโยงกันในอัตราสูงมาก

headphones

PLAYING: 10 อาหารบำรุงสมองเด็ก ให้ลูกฉลาด สมองไว เติบโตได้อย่างสมวัย

อ่าน 13 นาที

 

สรุป

  • ช่วงเวลาทองในวัย 3 ขวบปีแรก ควรใส่ใจดูแลให้ลูกได้รับสารอาหารที่จำเป็นครบถ้วน เพื่อการเจริญเติบโตอย่างสมวัย พัฒนากล้ามเนื้อให้แข็งแรงและสมองทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ มีความฉลาดทางเชาวน์ปัญญา (IQ) ความจำดี อารมณ์ดี ผ่อนคลาย
  • อาหารที่เด็กควรได้รับคือ อาหารหลัก 5 หมู่ที่มีความสำคัญเป็นพื้นฐานต่อการเจริญเติบโตของร่างกายและพัฒนาสมอง นอกจากนี้ยังควรได้รับสารอาหารที่บำรุงสมองโดยเฉพาะเพื่อให้สมองทำงานได้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
  • อาหารบำรุงสมอง พัฒนาการสมองไว ได้แก่ ปลาแซลมอน ไข่ เนย ธัญพืช ข้าวโอ๊ต ผลไม้ตระกูลเบอร์รี่ ถั่ว ผักสีสดนมหรือโยเกิร์ต เนื้อไม่ติดมัน

 

เลือกอ่านตามหัวข้อ

 

ในช่วง 1-3 ปีแรก คุณพ่อคุณแม่ควรใส่ใจดูแลให้ลูกได้รับสารอาหารที่จำเป็นครบถ้วนและพอเหมาะ ช่วยให้ลูกน้อยเจริญเติบโตอย่างสมวัย พัฒนากล้ามเนื้อให้แข็งแรงและสมองทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ มีความฉลาดทางเชาวน์ปัญญา (IQ) ความจำดี อารมณ์ดี ผ่อนคลาย

 

นอกจากนี้ สำนักงานกองทุนสนับสนุนสุขภาพ (สสส.) ได้ให้คำแนะนำเกี่ยวกับวิธีบำรุงสมองเด็กว่า นอกจากจะต้องนอนหลับให้เพียงพอ และออกกำลังกายสม่ำเสมอแล้ว เด็ก ๆ ยังจำเป็นต้อง ทานอาหารบำรุงสมองเด็กที่ดีต่อสมองด้วย

 

อาหารบำรุงสมองเด็กที่สำคัญมีอะไรบ้าง

โดยทั่วไปแล้ว สารอาหารที่ได้จากการรับประทานอาหารหลัก 5 หมู่นั้นสำคัญต่อการเจริญเติบโตของเด็กและพัฒนาการด้านสติปัญญา เนื่องจากในช่วงปีแรกของชีวิต การเจริญเติบโตและพัฒนาการของร่างกายจะเป็นไปอย่างรวดเร็ว และมีข้อมูลว่า ในช่วง 2-3 ปีแรกของเด็ก ร้อยละ 50-75 ของการเผาผลาญพลังงานในร่างกายนำไปใช้เพื่อการพัฒนาสมอง

 

อาหารบำรุงสมองเด็ก จากอาหารหลัก 5 หมู่

  • คาร์โบไฮเดรต ข้าวซ้อมมือ ข้าวโอ๊ต ฟักทอง ข้าวโพด ควรทานในช่วงเช้า เพราะเป็นอาหารที่ให้พลังงาน 
  • โปรตีน มีความจำเป็นต่อการซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอ และช่วยให้ร่างกายเจริญเติบโตได้ดี แม่ควรเลือกให้เด็ก ๆ กินโปรตีนที่ดี อย่าง ไข่ไก่ วันละ 1-2 ฟอง เพราะในไข่แดงมีเลซิตินที่มีประโยชน์ต่อสมองมาก ๆ หลีกเลี่ยงเนื้อสัตว์ที่มีไขมันสูง เพื่อป้องกันไม่ให้ร่างกายมีคอเลสเตอรอลสะสมมากจนเป็นอันตราย
  • ไขมัน เป็นแหล่งของ DHA (ดีเอชเอ) และ โอเมก้า-3 พบใน ปลาแซลมอน ปลาทู ปลาช่อน น้ำมันปลา รวมถึง ไข่แดง ถั่วเหลือง อัลมอนด์ น้ำมันมะกอก น้ำมันงา เป็นอาหารมีประโยชน์มาก ๆ ในการบำรุงระบบประสาทและสมอง  
  • แร่ธาตุจากพืชผัก แม่ควรให้เด็กกินผักหลากหลายสี เพื่อให้ได้รับวิตามินและแร่ธาตุจำเป็นต่อการพัฒนาสมองอย่างครบถ้วน 
  • วิตามินจากผักผลไม้ การกินผลไม้เป็นประจำอย่างน้อย 1 จานเล็ก ๆ จะช่วยบำรุงสมอง ชะลอความเสื่อมของสมอง และช่วยสร้างภูมิต้านทานโรคให้ร่างกายแข็งแรง

 

อาหารบำรุงสมองเด็ก จากอาหารหลัก 5 หมู่

 

อาหารบำรุงสมองและร่างกายตามวัย

นอกเหนือจากการรับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่แล้ว การเสริมอาหารบำรุงสมองตามวัยก็มีความสำคัญ เพื่อให้ร่างกายและสมองมีพัฒนาการที่ดีในแต่ละช่วงวัย ควรรับประทานอาหารบำรุงสมอง พร้อมคำแนะนำที่มีประโยชน์ ดังนี้ 

อาหารบำรุงสมองและร่างกายลูก อายุ 6 - 8 เดือน

  • กินนมเป็นหลักและกินอาหารตามวัยวันละ 1 มื้อ และค่อย ๆ เพิ่ม เป็น 2 มื้อช่วงเดือนที่ 8  
  • เน้นกิน ข้าว ไข่ไก่ ปลา ตับ รวมกับผักหลากสี เพื่อบำรุงสมอง และช่วยให้ขับถ่ายได้ดี
  • เหยาะน้ำมันพืช น้ำมันงา น้ำมันมะกอก ลงในอาหารประมาณ ½ ช้อนชา เพื่อช่วยให้ร่างกายดูดซึมวิตามินที่ช่วยละลายไขมัน และเพิ่มความเข้มข้นของพลังงาน

 

อาหารบำรุงสมองและร่างกายลูก อายุ 9 – 12 เดือน

  • ลูกน้อยยังคงกินนมเป็นหลัก แล้วเสริมด้วยอาหาร 3 มื้อ
  • กินอาหารครบ 5 หมู่ ต้องเป็นอาหารปรุงสุก และไม่ปรุงแต่งรสชาติ 
  • เน้นทาน ข้าว ไข่ไก่ ปลา ตับ รวมกับผักหลากสี เพื่อบำรุงสมอง และช่วยให้ขับถ่ายได้ดี
  • เหยาะน้ำมันพืช น้ำมันงา น้ำมันมะกอก ลงในอาหารประมาณ ½ ช้อนชา เพื่อช่วยให้ร่างกายดูดซึมวิตามินที่ช่วยละลายไขมัน และเพิ่มความเข้มข้นของพลังงาน
  • สามารถดื่มน้ำเปล่าได้บ้างแล้ว เพื่อช่วยในการกลืนและย่อยอาหาร แต่ไม่ควรมากเกินไป

 

อาหารบำรุงสมองและร่างกายลูก อายุ 1 – 2 ปี

  • กินอาหารได้ทุกชนิด หมุนเวียนให้ครบทั้ง 5 หมู่ วันละ 3 มื้อ และทานนมเสริม 2 - 3 แก้วต่อวัน
  • เน้นอาหารบำรุงสมอง ได้แก่ เนื้อปลา โปรตีนคุณภาพ อุดมด้วยกรดไขมันจำเป็น มี DHA สูง ไข่ ให้วิตามินและแร่ธาตุสำคัญ ที่ช่วยสร้างสารสื่อประสาท ตับ แหล่งธาตุเหล็ก ช่วยในการสร้างเม็ดเลือดแดง สร้างภูมิต้านทานโรค และป้องกันภาวะโลหิตจาง 
  • กินผักและผลไม้ หลากหลายสีสัน เพื่อให้ได้รับวิตามินและแร่ธาตุครบถ้วน ทั้งยังช่วยป้องกันไม่ให้ท้องผูกได้ดี
  • ไม่ควรกินอาหารรสจัด เช่น หวานจัด เค็มจัด และเนื้อสัตว์ติดมัน เช่น ขาหมู หมูสามชั้น เพื่อป้องกันการสะสมของไขมันในร่างกายและหลอดเลือดในอนาคต 
  • ไม่ควรกินขนม ที่มีแป้ง ไขมัน น้ำตาล เกลือสูง และไม่มีคุณค่าทางโภชนาการ เช่น ขนมขบเคี้ยว มันฝรั่งทอด หรือขนมหวาน มากเกินไป เพื่อป้องกันภาวะผอม อ้วน และฟันผุ

 

อาหารบำรุงสมองและร่างกายลูก อายุ 2 – 5 ปี

  • กินอาหารครบทั้ง 5 หมู่ วันละ 3 มื้อ เสริมด้วยนมสำหรับเด็ก 1 ขวบขึ้นไป วันละ 3 แก้ว 
  • หลีกเลี่ยงการปรุงอาหารรสจัด เช่น หวาน เปรี้ยว เค็ม เผ็ด อาหารทอด ปิ้งย่าง และอาหารไขมันสูง เพื่อป้องกันการเกิดโรคไต ความดันสูง โรคอ้วน ได้ในอนาคต
  • เลือกกินอาหารว่างที่มีประโยชน์ และให้พลังงาน เช่น ขนมปังโฮลวีท ธัญพืชอบ เป็นต้น
  • กินโยเกิร์ต ช่วยในการพัฒนาสมองได้อย่างมีประสิทธิภาพ และยังช่วยรักษาสมดุลในลำไส้ ลดปัญหาอาการท้องผูกในเด็ก
  • กินผลไม้ตระกูลเบอร์รี่ เช่น สตรอเบอร์รี บลูเบอร์รี ช่วยในเรื่องของการมองเห็น ระบบประสาทและสมอง เพิ่มศักยภาพการเรียนรู้ให้ดียิ่งขึ้น

 

สารอาหารบำรุงสมองเด็ก ช่วยพัฒนาสมองลูกน้อย

การที่ลูกน้อยได้รับสารอาหารจำเป็นอย่างครบถ้วน เพื่อเสริมสร้างพัฒนาการทางด้านร่างกายควบคู่ไปกับสมอง คุณแม่อาจใส่ใจสารอาหารที่ช่วยบำรุงพัฒนาสมองเป็นพิเศษ ซึ่งสารอาหารบำรุงสมองเด็ก มีดังต่อไปนี้

ธาตุเหล็ก

อาหารบำรุงสมองเด็กอย่างดี เป็นส่วนประกอบของเอนไซม์ที่เกี่ยวข้องกับสารสื่อประสาท ช่วยในการพัฒนาสมอง เพิ่มศักยภาพในกระบวนการคิดและเรียนรู้ ธาตุเหล็กมีอยู่ใน เนื้อสัตว์ เครื่องในสัตว์ ปลา ธัญพืช ผัก และผลไม้ โดยเด็กวัย 1 – 3 ปี ควรได้รับโปรตีนประมาณวันละ18 กรัมต่อวัน ส่วนเด็กอายุ 4 – 5 ปี ควรได้รับโปรตีนวันละ 22 กรัมต่อวัน หากเด็กมีอาการขาดธาตุเหล็กจะส่งผลเสียต่อการพัฒนาสมองในระยะยาว

 

โคลีน

สารอาหารสำคัญที่มีผลต่อระบบความจำ และความสามารถในการเรียนรู้ เป็นหนึ่งในอาหารบำรุงสมองเด็ก เพราะทำหน้าที่เป็นสารสื่อประสาท สื่อสารข้อมูลระหว่างเซลล์ต่าง ๆ ในสมอง โคลีนพบได้ใน น้ำนมแม่ นม ตับ เนื้อไก่ ไข่แดง และจมูกข้าวสาลี และกล่าวได้ว่าน้ำนมแม่มีสารสำคัญนี้อย่างมากทีเดียว

 

สารต้านอนุมูลอิสระ

ช่วยป้องกันการเสียหายของสมองจาก อนุมูลอิสระ ต่าง ๆ ที่เกิดจาก สารพิษ อาหารที่ไม่ถูกสุขลักษณะ และ มลภาวะรอบตัว โดยแหล่งอาหารที่มีสารต้านอนุมูลอิสระ พบได้ใน ผักและผลไม้สีต่าง ๆ โดยเนื้อผลไม้ที่สุกและมีสีเข้มจะมีสารต้านอนุมูลอิสระในปริมาณมาก นอกจากนี้ยังมี เนื้อแดง ปลาทูน่า ไข่ และ ธัญพืชต่าง ๆ อย่างไรก็ดีสารต้านอนุมูลอิสระบางชนิด เช่น วิตามินซีสามารถละลายน้ำหรือถูกทำลายโดยความร้อนได้ ดังนั้น จึงควรล้างผักและผลไม้ก่อนหั่น รวมถึงการใช้ความร้อนที่ไม่สูงมากในการประกอบอาหารประเภทนี้

 

ไอโอดีน

เป็นสารประกอบของไทรอยอ์ฮอร์โมน มีความสำคัญต่อการเจริญเติบโต และช่วยเรื่องพัฒนาการทางสมอง โดยเฉพาะเซลล์สมองของทารกตั้งแต่ในครรภ์จนถึงอายุ 2-3 ปี ไอโอดีนพบได้ในเกลือสมุทร และเกลือเสริมสารไอโอดีน หากขาดไอโอดีน จะทำให้โตช้า เฉื่อยชา และมีระดับสติปัญญาต่ำกว่าเกณฑ์

 

10 อาหารบำรุงสมอง ช่วยพัฒนาการลูกน้อย

 

10 อาหารบำรุงสมอง ช่วยพัฒนาการลูกน้อย

อาหารหลายชนิดที่หาได้ง่าย มีสารที่จำเป็นต่อการพัฒนาสมองของลูกน้อย อีกทั้งยังช่วยเสริมสร้างความฉลาดและความจำให้ดียิ่งขึ้นไปตามพัฒนาการในแต่ละช่วงวัย อาหารบำรุงสมองที่ดี มีดังนี้ 

1.ปลาแซลมอน

ปลาแซลมอนเป็นปลาแม่น้ำที่เป็นที่นิยมและหาได้ง่าย อุดมด้วยกรดไขมันจำเป็นต่อสมอง โดยเป็นแหล่งโอเมก้า-3 กรดไขมัน EPA และ DHA (ดีเอชเอ)สูง สารอาหารสำคัญนี้จำเป็นอย่างยิ่งต่อการเสริมสร้างและพัฒนาสมองของลูกน้อย โดยเสริมสร้างผนังเซลล์ประสาทในสมองให้แข็งแรง ช่วยเรื่องความจำให้ดีขึ้น นอกจากนี้โอเมก้า-3 ยังช่วยลดโอกาสสมาธิสั้นในเด็กได้อีกด้วย

 

2.ไข่

ไข่ อาหารหาง่ายที่เป็นแหล่งสำคัญของโปรตีนชั้นดี มีส่วนช่วยในการสร้างและซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอในร่างกาย แต่นอกจากโปรตีนแล้วนั้น ไข่ยังอุดมไปด้วยสารอาหารที่มีประโยชน์อีกมากมาย หนึ่งในอาหารตามวัยให้ลูกน้อยฉลาด ทั้งโคลีน ที่ช่วยในการพัฒนาและบำรุงสมองในส่วนของความทรงจำ ซึ่งในไข่ไก่ 1 ฟองจะมีโคลีนมากถึง 20% นอกจากนี้ ไข่นั้นยังเป็นแหล่งของสารอาหารสมองอันสำคัญอย่าง สฟิงโกไมอีลิน อีกด้วย

 

3.เนย

อุดมไปด้วยสารอาหารที่ช่วยบำรุงสมองและเพิ่มความจำให้กับเด็ก โดยมีสารเลซิติน และวิตามินอีที่มีศักยภาพในการต่อต้านอนุมูลอิสระ ช่วยปกป้องระบบประสาท ช่วยในการบำรุงสมองและเพิ่มความจำได้

 

4.ธัญพืช

ธัญพืช เช่น เมล็ดทานตะวัน เมล็ดงา มีโปรตีนสูง มีไขมันดี และวิตามินเอสูง ขณะเดียวกันก็มีสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยเพิ่มสารอาหารกระตุ้นสมองอย่าง แมกนีเซียม ทำให้เลือดไปหล่อเลี้ยงสมองได้ดี มีวิตามินบี ที่มีส่วนช่วยในความจำ บำรุงสมองของเด็ก รวมทั้งยังมีโอเมก้าสูง และใยอาหารสูง จึงเหมาะเป็นอาหารเช้า เพื่อเพิ่มพลังและบำรุงสมองและร่างกายไปพร้อมกัน

 

5.ข้าวโอ๊ต

แหล่งรวมใยอาหารที่อุดมไปด้วย วิตามินอี วิตามินบี โพแทสเซียม และสังกะสี เพิ่มพลังงานให้ร่างกายไปพร้อมกับบำรุงสมอง และระบบประสาท หากลูกน้อยได้รับประทานข้าวโอ๊ตเป็นประจำจะยิ่งกระตุ้นการทำงานของสมอง โดยในข้าวโอ๊ตมีไฟเบอร์สูงทำให้การทำงานของระบบย่อยอาหารช้าลง ส่งผลให้ร่างกายใช้เชื้อเพลิงเพื่อเผาผลาญอาหารไปยังสมองมากขึ้น

 

6.ผลไม้ตระกูลเบอร์รี่

ผลไม้ตระกูลเบอร์รี ได้แก่ ได้แก่ บลูเบอร์รี่ สตรอเบอร์รี เชอร์รี่ เป็นอาหารกลุ่มที่มีสารต้านอนุมูลอิสระสูง ช่วยเพิ่มความสามารถในการคิด ช่วยเพิ่มจำนวนเซลล์ประสาทที่ทำหน้าที่รับผิดชอบโดยตรงต่อความทรงจำ ป้องกันการสูญเสียความจำระยะสั้น นอกจากนี้ยังอุดมด้วยวิตามินซี และโอเมก้า 3 เพิ่มศักยภาพการเรียนรู้ให้ดียิ่งขึ้น

  

7.ถั่ว

ถั่วเป็นแหล่งของโปรตีนและคาร์โบไฮเดรต ช่วยเพิ่มระดับพลังงานให้ร่างกาย และช่วยเสริมความจำ บำรุงสมอง โดยเฉพาะถั่วลิสงอุดมไปด้วยวิตามินบี3 หรือไนอะซินสูงมาก ซึ่งสารอาหารชนิดนี้มีความสำคัญต่อการบำรุงสมอง นอกจากนี้ยังอุดมไปด้วยวิตามินอี ที่ช่วยในการบำรุงสายตาและสมอง ช่วยบำรุงให้ลูกน้อยแข็งแรงทั้งสมองและร่างกาย

 

8.ผักสีสด

ผักสีสด เช่น มะเขือเทศ ฟักทอง แครอท ปวยเล้ง เป็นต้น อุดมไปด้วยสารต่อต้านอนุมูลอิสระ วิตามินต่าง ๆ รวมถึงแร่ธาตุที่มีประโยชน์จำนวนมาก ช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงให้แก่เซลล์สมองของลูกน้อยได้เป็นอย่างดี พร้อมพัฒนาระบบภูมิคุ้มกันโรคอีกด้วย

 

9.นมหรือโยเกิร์ต

นมอุดมไปด้วยสารอาหารสำคัญต่างๆ ที่จำเป็นต่อการเจริญเติบโตของเด็ก เช่น โปรตีน แคลเซียม รวมถึงวิตามินต่าง ๆ ที่มีส่วนช่วยในการเจริญเติบโตของร่างกายและสมอง มีความจำเป็นต่อการเจริญเติบโตของเนื้อเยื่อสมองและเอนไซม์ ที่สำคัญ ในนมและผลิตภัณฑ์จากนมอย่างเช่น ชีส โยเกิร์ต ยังเป็นแหล่งของสฟิงโกไมอีลิน ซึ่งเป็นหนึ่งในสารอาหารสำคัญ ในการพัฒนาสมองโดยช่วยสร้างไมอีลิน ปลอกหุ้มประสาทที่ช่วยให้สมองของลูกส่งกระแสสัญญาณประสาทได้รวดเร็วยิ่งขึ้น และสารอาหารในโยเกิร์ตยังช่วยให้การส่งและรับข้อมูลของเซลล์สมองทำงานได้ดีขึ้นอีกด้วย

 

10.เนื้อไม่ติดมัน

เนื้อสัตว์ไม่ติดมันอุดมไปด้วยโปรตีนคุณภาพดี ช่วยเสริมสร้างพัฒนาการต่างๆ ของร่างกาย และในเนื้อสัตว์อย่างเช่น เนื้อวัว หรือ เนื้อหมูที่ไม่ติดมันนั้น จะช่วยให้ร่างกายสามารถดูดซับธาตุเหล็กได้ดียิ่งขึ้น ทำให้ลูกมีสมาธิจดจ่อต่อการเรียนได้ดี มีประสิทธิภาพ  นอกจากนี้ยังมีเกลือแร่ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยพัฒนาความจำของลูกน้อยเช่นกัน

 

การรับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ พร้อมเสริมอาหารบำรุงสมอง จะช่วยให้ลูกน้อยมีพัฒนาการตามวัยที่ดี มีสมองไว ที่สำคัญไม่แพ้กันคือ ลูกน้อยควรได้ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอเพื่อให้มีร่างกายแข็งแรง ส่งผลให้สมองมีการพัฒนาอย่างเต็มที่ พร้อมเจริญเติบโตอย่างเต็มศักยภาพ

 

บทความแนะนำสำหรับพัฒนาการลูกน้อย

 

 

อ้างอิง

  • การเสริมสร้างสมองที่ดีกว่า ขยายขอบเขตของความรู้ใหม่เพื่อพัฒนาการเด็กปฐมวัย, Unicef Thailand
  • สารไอโอดีนช่วยสมองเจริญเติบโตเต็มที่, โรงพยาบาลราชวิถี
  • ฟิตสมองให้เฟรช! รวม 5 อาหารบำรุงสมอง, nautilus
  • รู้หรือไม่? กินไข่ทุกวัน ดีต่อสุขภาพ
  • สุดยอดอาหารบำรุงสมอง, โรงพยาบาลกรุงเทพ
  • บทที่ 4 อาหารและโภชนาการสำหรับบุคคลในวัยต่างๆ, มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงใหม่ 
  • แนะนำอาหารบำรุงสมองสำหรับลูกน้อย, สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.)
  • ประโยชน์ของโอเมก้า 3 ในเด็ก สารอาหารจำเป็นเพื่อสุขภาพที่ดี, POPPAD.com

อ้างอิง ณ วันที่ 12 พฤศจิกายน 2566

บทความแนะนำ

โรคซางในเด็กเล็กมีจริงไหม เกิดจากอะไร ดูแลและป้องกันได้หรือเปล่า

โรคซางในเด็กเล็กมีจริงไหม เกิดจากอะไร ดูแลและป้องกันได้หรือเปล่า

โรคซางในเด็กเล็ก เกิดจากสาเหตุอะไร หากลูกของคุณแม่มีอาการเหมือนจะเป็นโรคซาง มีไข้ เบื่ออาหาร หรือน้ำหนักลด คุณแม่ควรเฝ้าดูอาการและรีบพาไปพบแพทย์ทันที

แม่เป็นโรคภูมิแพ้ ลูกน้อยจะเป็นโรคภูมิแพ้ในเด็กด้วยหรือไม่

แม่เป็นโรคภูมิแพ้ ลูกน้อยจะเป็นโรคภูมิแพ้ในเด็กด้วยหรือไม่

คุณแม่ตั้งครรภ์หลายคนที่เป็นโรคภูมิแพ้ มักมีความกังวลว่า แม่เป็นโรคภูมิแพ้แล้วลูกจะเป็นโรคภูมิแพ้ในเด็กด้วยหรือเปล่า ไปดูสาเหตุพร้อมวิธีป้องกันเบื้องต้นกัน

สังเกตอาการลูกน้อย ภูมิแพ้ในเด็ก ลูกคัดจมูกหรืออาการโควิด 19

สังเกตอาการลูกน้อย ภูมิแพ้ในเด็ก ลูกคัดจมูกหรืออาการโควิด 19

อาการลูกคัดจมูก ลูกเป็นหวัดง่าย ไม่สบายบ่อย พบได้บ่อยในเด็กเป็นภูมิแพ้และอาจเกิดจากการติดเชื้อ คุณพ่อคุณแม่ควรสังเกตอาการลูกน้อย พร้อมวิธีป้องกันภูมิแพ้ในเด็ก

สังเกตภูมิแพ้ในเด็ก อาการภูมิแพ้อากาศ พร้อมวิธีให้ลูกห่างจากอาการแพ้

สังเกตภูมิแพ้ในเด็ก อาการภูมิแพ้อากาศ พร้อมวิธีให้ลูกห่างจากอาการแพ้

ภูมิแพ้ในเด็กหรือเด็กแก้อากาศในวัยบอบบางเสี่ยงต่อโรคภูมิแพ้ได้ง่าย พ่อแม่สามารถรับมือและคัดกรองความเสี่ยงให้ลูกห่างจากอาการแพ้อากาศ พร้อมเสริมสร้างเกราะคุ้มกัน

อาการภูมิแพ้ในเด็ก คืออะไร เด็กเป็นภูมิแพ้ คุณแม่ป้องกันได้แค่ไหน

อาการภูมิแพ้ในเด็ก คืออะไร เด็กเป็นภูมิแพ้ คุณแม่ป้องกันได้แค่ไหน

ภูมิแพ้ในเด็ก คืออะไร เด็กเป็นภูมิแพ้ เกิดจากหลายปัจจัยอะไรบ้าง คุณแม่ควรหมั่นสังเกตอาการภูมิแพ้ในเด็กของลูกน้อย พร้อมวิธีป้องกันและหลีกเลี่ยงสารกระตุ้นภูมิแพ้

รู้ทันโรคภูมิแพ้ในเด็ก เด็กแพ้ฝุ่น ภูมิแพ้อาหาร ที่แม่ป้องกันได้

รู้ทันโรคภูมิแพ้ในเด็ก เด็กแพ้ฝุ่น ภูมิแพ้อาหาร ที่แม่ป้องกันได้

โรคภูมิแพ้ในเด็ก เกิดจากอะไร ลูกเป็นภูมิแพ้ฝุ่น ขนสัตว์หรือเด็กแพ้อาหาร คุณแม่ควรสังเกตสารก่อภูมิแพ้ในเด็ก พร้อมวิธีป้องกันอาการเด็กแพ้ฝุ่นและเด็กแพ้อาหาร

รวมแคปชั่นลูกสาว แคปชั่นรักลูกสาว อวดลูกในโซเชียล

รวมแคปชั่นลูกสาว แคปชั่นรักลูกสาว อวดลูกในโซเชียล

ไอเดียแคปชั่นลูกสาว โพสอวดลูกสาวได้ไม่ซ้ำวัน แคปชั่นลูกสาวโดนใจ ให้คุณแม่เลือกใช้ได้ง่าย ๆ แคปชั่นรักลูกสาวบอกรักลูก ช่วยเรียกเสียงหัวเราะในโซเชียลให้ลูกรัก