อาหารเพิ่มภูมิคุ้มกันแม่จ๋ารีบหาให้ลูกทาน สร้างภูมิคุ้มกันให้ลูกกันเถอะ

อาหารเพิ่มภูมิคุ้มกันแม่จ๋ารีบหาให้ลูกทาน สร้างภูมิคุ้มกันให้ลูกกันเถอะ

เด็กๆ ควรได้รับสารอาหารครบทั้ง 5 หมู่ และทานอาหารที่มีประโยชน์ เพื่อให้ร่างกายได้รับสารอาหารครบถ้วน ได้รับพลังงาน เสริมสร้างความแข็งแรงของกล้ามเนื้อและเพื่อให้เจริญเติบโตสมวัยเพื่อการพัฒนาการของลูกน้อยที่ดีนั่นเองค่ะ  นอกจากจะมีประโชน์กับเด็กๆ ดังที่ได้กล่าวมาแล้วนั้น  คุณแม่รู้ไหมคะว่าสารอาหารบางชนิดยังช่วยสร้างภูมิคุ้มกัน ป้องกันการเกิดโรคภัยไข้เจ็บให้กับเด็กๆ ได้ด้วยนะ ส่วนจะเป็นสารอาหารตัวไหนและพบในอาหารชนิดใดไปดูกันเลยค่ะ 

headphones
อ่าน 6 นาที

อาหารเพิ่มภูมิคุ้มกันแม่จ๋ารีบหาให้ลูกทาน

สร้างภูมิคุ้มกันให้ลูกกันเถอะ

เด็กๆ ควรได้รับสารอาหารครบทั้ง 5 หมู่ และทานอาหารที่มีประโยชน์ เพื่อให้ร่างกายได้รับสารอาหารครบถ้วน ได้รับพลังงาน เสริมสร้างความแข็งแรงของกล้ามเนื้อและเพื่อให้เจริญเติบโตสมวัยนั่นเองค่ะ  นอกจากจะมีประโชน์กับเด็กๆ ดังที่ได้กล่าวมาแล้วนั้น  คุณแม่รู้ไหมคะว่าสารอาหารบางชนิดยังช่วยสร้างภูมิคุ้มกัน ป้องกันการเกิดโรคภัยไข้เจ็บให้กับเด็กๆ ได้ด้วยนะ ส่วนจะเป็นสารอาหารตัวไหนและพบในอาหารชนิดใดไปดูกันเลยค่ะ 


•    เบต้าแคโรทีน มีมากในผักและผลไม้ที่มีสีเหลืองหรือส้มจัด ผักใบเขียวจัด เช่น ผักบุ้ง ฟักทอง แครอท มะละกอ มะม่วงสุก มะเขือเทศ
•    วิตามินซี พบในผักใบสีเขียวต่างๆ และผลไม้ที่มีรสเปรี้ยว เช่น ส้ม มะนาว ฝรั่ง
•    วิตามินอี พบในน้ำมันพืชประเภทน้ำมันดอกทานตะวัน น้ำมันรำข้าว งา ถั่วเปลือกแข็ง เมล็ดพืชต่างๆ ข้าวกล้อง จมูกข้าวสาลี ผักใบเขียว

•    วิตามินบี พบในผักใบเขียว นม เนื้อสัตว์ ถั่วต่าง ๆ ตับ ไข่ และธัญพืชไม่ขัดสี เช่น ข้าวซ้อมมือ
•    ซีลีเนียม พบในอาหารทะเล ตับ ไต เนื้อสัตว์ กระเทียม ไข่ และธัญพืช
•    สังกะสี พบในเนื้อวัว นม และถั่วต่าง ๆ
•    กรดโอเมก้า 3 เป็นกรดไขมันที่จำเป็นสำหรับการสร้างเม็ดเลือดขาว และแอนติบอดี พบมากในปลาทะเล เช่น แซลมอน ทูน่า แมคเคอเรล ซาร์ดีน และธัญพืชบางชนิด เช่น ถั่ววอลนัท เมล็ดปอ รวมทั้งพืชผักใบเขียว

 

age อาหารเพิ่มภูมิคุ้มกันแม่จ๋ารีบหาให้ลูกทาน สร้างภูมิคุ้มกันให้ลูกกันเถอะ

 

5 อาหารเพิ่มภูมิคุ้มกัน รีบหาให้ลูกทานเลยแม่จ๋า 

 

•    เนื้อปลา 
คุณแม่รู้ไหมเอ่ยว่าในเนื้อปลานั้น เต็มไปด้วยสารอาหารที่เรียกว่าโอเมก้า 3 ซึ่งเป็นไขมันดี มีประโยชน์ต่อร่างกาย มีสารต้านการอักเสบ ช่วยปกป้องและซ่อมแซมร่างกายจากความเสียหาย เสริมสร้างภูมิคุ้มกัน ช่วยให้ร่างกายต่อสู้กับเชื้อโรคได้อย่างมีประสิทธิภาพ เนื้อปลาที่มีโอเมก้า 3 สูง ก็มีด้วยกันหลายชนิดค่ะ เช่น แซลมอน ทูน่า รวมไปถึงเนื้อปลาชนิดอื่น ๆ 


•    ไข่  
ไข่เป็นแหล่งอาหาร ที่อุดมไปด้วยสังกะสีและซีลีเนียม ซึ่งช่วยเพิ่มระบบภูมิคุ้มกัน นอกจากนี้ ไข่ยังอุดมไปด้วยโปรตีน รวมไปถึงคอเลสเตอรอลด้วย หากคุณแม่บ้านไหน กังวลในเรื่องปริมาณของคอเลสเตอรอล ให้จำกัดปริมาณไข่แดง ไว้ที่ 4 ฟองต่อสัปดาห์ค่ะ

 

•    ถั่วหลากชนิด 
ถั่ว ถือเป็นแหล่งอาหารชั้นยอด เต็มไปด้วยสารอาหารที่จำเป็นต่อร่างกายมากมายเลยล่ะค่ะ นอกจากโปรตีนแล้ว ถั่วเป็นแหล่งอาหาร ที่อุดมไปด้วยวิตามินอี อันเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ ซึ่งวิตามินนี้ จะช่วยกระตุ้นการสร้างเซลล์ที่ทำลายเชื้อโรค สำหรับเด็กเล็ก คุณแม่สามารถลองบดถั่วให้เป็นผง แล้วใส่ลงในพวกอาหารเหลว ๆ เช่น ซุป มันฝรั่งบด เพื่อให้เด็กทานได้ง่ายขึ้นได้


•    แคร์รอต 
แคร์รอต  ถือเป็นผักอีกชนิดที่ทานง่าย สำหรับลูกน้อยบ้านไหน ที่ไม่ยอมกินผักใบเขียว แคร์รอตไม่ถึงกับว่าใช้ทนแทนผักใบเขียวได้ แต่ก็เป็นอาหารอีกชนิดที่มีประโยชน์ อุดมไปด้วยเบต้าแคโรทีน ซึ่งมีส่วนช่วยในการเสริมวิตามินเอ ที่เป็นสิ่งจำเป็นสำหรับผิวสุขภาพดี เวลาร่างกายได้รับบาดเจ็บ ก็จะสามารถรักษาได้อย่างรวดเร็ว ช่วยเสริมภูมิคุ้มกัน ป้องกันไม่ให้เชื้อโรคเข้าสู่ร่างกาย สำหรับอาหารอื่น ๆ ที่อุดมไปด้วยเบต้าแคโรทีนเช่นเดียวกัน ก็มี มันฝรั่ง มันหวาน พริกแดง เป็นต้น


•    กีวี่ 
กีวี่ เป็นผลไม้ที่อุดมไปด้วยวิตามินซี ซึ่งมีส่วนช่วยในการเสริมสร้างภูมิคุ้มกันในเด็กได้ด้วย การที่จะทำให้ลูกมีภูมิต้านทาน ควรได้รับวิตามินซีที่เพียงพอต่อความจำเป็นของร่างกาย ให้ลูกน้อยรับประทานผลไม้ที่มีวิตามินซีทุกวัน นอกจากกีวี่แล้ว ผลไม้อื่น ๆ เช่น ส้ม มะละกอ ฝรั่ง ก็เป็นผลไม้ที่มีวิตามิน สูง สามารถรับประทานเพิ่มเสริมภูมิต้านทานได้เช่นเดียวกัน


•    บรอกโคลี 
บรอกโคลี ถือเป็นผักอีกชนิด ที่ควรให้เด็ก ๆ ทาน เนื่องจากบรอกโคลี  เป็นผักที่อุดมไปด้วยกลูโคซิเนต ซึ่งเป็นไฟโตเคมิคอล ชนิดหนึ่ง นอกจากบรอกโคลีแล้ว ยังมีผักชนิดอื่น ๆ อีก ที่ใกล้เคียง และสามารถส่งเสริมภูมิคุ้มกันในเด็กได้เหมือนกัน เช่น กะหล่ำดอก กะหล่ำปลี 

 

ผัก และ ผลไม้เหล่านี้เสริมสร้างภูมิคุ้มกันแล้ว ยังที่จะช่วยป้องกันไม่ให้ลูกท้องผูก หรือ เด็กทารกถ่ายแข็งด้วยนะค่ะ

 


บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ 

นมแม่สร้างภูมิคุ้มกันให้ลูกได้ด้วยนะ 

คำแรกทั้งที่ต้องมีสฟิงโกไมอีลิน

อ้างอิง

 อ้างอิงวันที่ 26 มีนาคม 2563

บทความแนะนำ

นมสูตร 3 เพื่อการเจริญเติบโต นมสำหรับเด็กอายุ 1 ปีขึ้นไป

นมสูตร 3 เพื่อการเจริญเติบโต นมสำหรับเด็กอายุ 1 ปีขึ้นไป

นมสูตร 3 นมสำหรับเด็ก 1 ปีขึ้นไป มีสารอาหารที่สำคัญ และมีประโยชน์เพื่อการเจริญเติบโตได้อย่างสมวัย ทำความเข้าใจความแตกต่างของนมผงเด็กและนม UHT ต่างกันอย่างไร

นมสำหรับเด็ก 1 ขวบขึ้นไป แบบไหนดีกับลูก ช่วยให้เด็กสมองไว พัฒนาการดี

นมสำหรับเด็ก 1 ขวบขึ้นไป แบบไหนดีกับลูกในแต่ละช่วงวัย ให้ลูกสมองไว พัฒนาการดี

นมสำหรับเด็ก 1 ขวบขึ้นไป แบบไหนดีกับลูกในแต่ละช่วงวัย ให้ลูกมีพัฒนาการที่ดี ฉลาด สมองไว ระหว่างนมผง นม uht สำหรับเด็ก 1 ขวบ และนมวัว ให้ลูกได้รับสารอาหารที่ครบถ้วน

ส่งเสริมพัฒนาการตามวัย 1-4 ปีแรก พร้อมวิธีกระตุ้นพัฒนาการ

ส่งเสริมพัฒนาการตามวัย 1-4 ปีแรก พร้อมวิธีกระตุ้นพัฒนาการ

ส่งเสริมพัฒนาการตามวัยของลูกน้อย 1-4 ปีแรก ด้วยวิธีกระตุ้นพัฒนาการทางด้านร่างกาย เสริมทักษะด้วยการเล่นของเล่นที่ช่วยส่งเสริมพัฒนาการตามวัยเพิ่มการเรียนรู้ให้ลูกน้อย

นมกล่องเด็ก เลือก นม UHT สำหรับเด็ก แบบไหน ช่วยเสริมพัฒนาการทางสมองลูก

นมกล่องเด็ก เลือก นม UHT สำหรับเด็ก แบบไหน ข่วยเสริมพัฒนาการทางสมองลูก

นมกล่องเด็ก นม UHT สำหรับเด็ก 1 ขวบขึ้นไป ควรมีสารอาหารอะไรบ้าง ที่ช่วยให้ลูกน้อยมีพัฒนาการทางสมองที่ดี เติบโตได้สมวัย ไปดูข้อมูลนม UHT เด็กที่เหมาะกับลูกกัน

เสริมความฉลาด เพิ่มโอกาสการเรียนรู้ ให้ลูกรักได้ด้วย นมแม่

เสริมความฉลาด เพิ่มโอกาสการเรียนรู้ ให้ลูกรักได้ด้วย นมแม่

จากหลายการศึกษา พบว่า ค่า IQ เฉลี่ยของเด็กที่กินนมแม่ จะมีไอคิวสูง เนื่องจากนมแม่มีสารอาหารที่สำคัญหลากหลาย ในการพัฒนาสมอง รวมทั้ง สฟิงโกไมอีลิน, DHA, ARA เป็นต้น 

โภชนาการลูกวัย 1-2 ขวบ ลูกวัยนี้ต้องอาหารอะไรนะ

โภชนาการลูกวัย 1-2 ขวบ ลูกวัยนี้ต้องอาหารอะไรนะ

เมื่อลูกเข้าสู่วัย 1 ขวบเป็นต้นไปแล้ว ถือว่าลูกได้เข้าสู่ช่วงวัยเตาะแตะอย่างเต็มตัว โภชนาการของลูกในวัยนี้สำคัญมาก เพราะลูกต้องการสารอาหารต่าง ๆ เพื่อการเจริญเติบโตและเสริมพัฒนาการในด้านต่าง ๆ และคุณพ่อคุณแม่ควรคำนึง

 โภชนาการลูก วัย 2 - 3 ขวบ

โภชนาการลูก วัย 2 - 3 ขวบ เด็กวัยนี้ต้องกินอะไรให้ฉลาดและแข็งแรง

หนึ่งในหลายปัญหาที่พ่อแม่ต้องเผชิญเมื่อลูกรักเข้าสู่วัย 2 – 3 ปี คือ ปัญหาด้านโภชนาการ เด็กวัยนี้เริ่มมีความเป็นตัวเองมากขึ้น รู้ว่าตัวเองชอบหรือไม่ชอบอะไร จึงค่อนข้างเลือกกิน และกินยาก ทำเอาพ่อแม่ต่างเป็นกังวลว่า ลูกจะกลายเป็นเด็กตัวเล็ก รูปร่างแคระแกร็น น้ำหนักต่ำกว่าเกณฑ์ มีพัฒนาการทางด้านร่างกายและสติปัญญาด้อยกว่าเพื่อนวัยเดียวกัน