พัฒนาการเด็ก 3 ขวบ พร้อมวิธีส่งเสริมพัฒนาการลูกน้อย

พัฒนาการเด็ก 3 ขวบ พร้อมวิธีส่งเสริมพัฒนาการลูกน้อย

29.04.2020

เมื่อลูกน้อยเข้าสู่วัย 3 ขวบ เป็นวัยที่กำลังน่ารัก พร้อมไปกับการเปลี่ยนแปลงหลายอย่าง ทั้งการเติบโตของร่างกาย ความคิดความอ่าน และพัฒนาการด้านจิตใจ รวมไปถึงทักษะทางสังคม ลูกน้อยเริ่มได้ใช้ชีวิตกับโลกใหม่นอกบ้าน เพราะเข้าสู่วัยอนุบาล ที่พร้อมเรียนรู้อย่างสนุกสนาน หากคุณพ่อคุณแม่เข้าใจพัฒนาการของลูกในวัยนี้ ก็ช่วยส่งเสริมและเตรียมพร้อมให้ลูกเติบโตอย่างแข็งแรงและมีความสุขสมวัย

headphones

PLAYING: พัฒนาการเด็ก 3 ขวบ พร้อมวิธีส่งเสริมพัฒนาการลูกน้อย

อ่าน 7 นาที

 

สรุป

  • เด็กวัย 3 ขวบ มีความเปลี่ยนแปลงมากมายเกิดขึ้น ทั้งร่างกาย พัฒนาการ รวมถึง มีการเรียนรู้และรับรู้อยู่ตลอดเวลา ลูกน้อยจึงมีความรู้สึกและความคิดตามแบบของตัวเอง คุณพ่อคุณแม่จึงควรใส่ใจ สังเกตพฤติกรรม และคอยพูดคุยกับลูกน้อยอยู่เสมอ เพื่อให้เข้าใจความคิดและอารมณ์ของลูก
  • เด็กในวัยนี้สามารถช่วยเหลือตัวเองได้เบื้องต้น ช่วยคุณพ่อคุณแม่ทำงานที่ง่ายๆ ได้ เข้าสังคมได้มากขึ้น เล่นเป็นกลุ่ม และทำตามกฎเกณฑ์ง่ายๆ ได้

 

พัฒนาการเด็ก 3 ขวบ ด้านร่างกาย

พัฒนาการทางร่างกายมีการเติบโตอย่างเห็นได้ชัดเจน ทั้งน้ำหนักตัวและความสูง

  • น้ำหนักเด็ก 3 ขวบ ค่าเฉลี่ยอยู่ที่ 13-13.5 กิโลกรัม โดยน้ำหนักของเด็กชายและเด็กผู้หญิงอาจมีค่าเฉลี่ยต่างไปจากข้างต้นเล็กน้อย เนื่องจากเด็กชายนั้นจะมีแนวโน้มน้ำหนักมากกว่าผู้หญิงไปจนถึงอายุ 5 ปี ก่อนที่อัตราการเพิ่มของน้ำหนักเด็กจะเริ่มปรับเปลี่ยนอีกครั้ง
  • ส่วนสูงเด็ก 3 ขวบ ค่าเฉลี่ยอยู่ที่ 88 – 100 เซนติเมตร โดยส่วนสูงของ เด็กชายและเด็กผู้หญิงอาจมีความแตกต่างกันเล็กน้อย

 

ด้านพัฒนาการทางกาย เด็กวัยนี้มักควบคุมกล้ามเนื้อและการทรงตัวได้ดีขึ้น สามารถเล่นซุกซน ยืนขาเดียว กระโดดสูง กระโดดไกล เขย่งเท้าได้ อาจชอบปีนป่าย จับโยนลูกบอล ถีบจักรยาน 3 ล้อได้ ส่วนกล้ามเนื้อมัดเล็กนั้น เด็กวัย 3 ขวบสามารถจับดินสอ หัดลากเส้นต่างๆ ได้ ต่อแท่งบล็อก หรือใช้กรรไกรสำหรับเด็กตัดกระดาษ นอกจากนี้คุณแม่ยังสามารถให้ลูกฝึกพัฒนากล้ามเนื้อมัดเล็ก ด้วยการให้ลูกฝึกเล่นของเล่นเสริมพัฒนาการเด็กได้เช่นกัน

 

พัฒนาการเด็ก 3 ขวบ ด้านสติปัญญา

เด็กอายุ 3 ขวบเป็นวัยอยากรู้อยากเห็นทุกอย่างรอบตัว สำรวจสิ่งต่างๆ ที่เหมือนกันและต่างกันได้ เรียนรู้จากการสังเกตและเลียนแบบผู้อื่น โดยจำแนกสิ่งต่างๆ ด้วยประสาทสัมผัสทั้งห้า เด็กวัยนี้จึงสามารถบอกรูปร่าง สี และขนาดได้ สามารถเขียนกากบาทและวงกลมได้ตามตัวอย่าง รวมถึงการรู้จักจำนวน 1-3 ชิ้น และจับคู่ แบ่งกลุ่มอธิบายรูปภาพต่างๆ ในหนังสือได้

 

เด็กๆ จะเริ่มสนใจนิทานและสิ่งต่างๆ รอบตัว โดยชอบเล่นแบบมีจินตนาการ สามารถเลียนแบบท่าทาง ร้องเพลง ท่องคำกลอนง่ายๆ ได้ ตอบคำถามง่ายๆ ได้โดยการพูดหรือชี้ในขณะฟังนิทาน นอกจากนี้ยังเริ่มจดจำและบอกชื่อจริง นามสกุลเต็มของตนเองได้ บอกเพศของตนเองได้ พูดคำที่มีความหมายตรงข้ามได้ ชอบวันพิเศษต่างๆ เช่น วันเกิด แต่หากมีปัญหา ก็สามารถร้องขอความช่วยเหลือได้เช่นกัน

 

สิ่งสำคัญในการเสริมสร้างพัฒนาการด้านสติปัญญาคือ เสริมสร้างสมาธิ ให้จดจ่ออยู่กับกิจกรรมตรงหน้าได้มากขึ้น เช่น คุณพ่อคุณแม่ชวนเปิดดูหนังสือนิทาน หรือชวนเล่นให้ทำกิจกรรมต่อเนื่องได้นาน 5-10 นาที ซึ่งเป็นการกระตุ้นการเรียนรู้ และพัฒนาสมองได้อีกด้วย

 

พัฒนาการเด็ก 3 ขวบ ด้านอารมณ์ และจิตใจ

เด็กในวัยนี้จะยึดตัวเองเป็นศูนย์กลาง มีความเป็นตัวของตัวเองสูง ยังไม่เข้าใจเหตุผลต่าง ๆ ได้อย่างลึกซึ้ง พวกเขาแสดงอารมณ์และสื่อสารสิ่งที่เขารู้สึกได้อย่างชัดเจน เช่น อารมณ์โกรธ หรือมีความสุข สามารถปฏิเสธด้วยคำว่า ไม่ และแสดงอาการต่อต้านเมื่อถูกบังคับอยู่บ้าง แต่พวกเขาสามารถสอนให้รู้จักคำว่าอดทน และรอคอยได้

 

พัฒนาการเด็ก 3 ขวบ ด้านสังคม

เด็กในวัยนี้โตพอที่จะเข้าโรงเรียนได้แล้ว ซึ่งเด็กจะรู้จักการแยกจากพ่อแม่ มีความเป็นตัวของตัวเองมากขึ้น เรียนรู้ที่จะอยู่ร่วมกับคนอื่น ๆ ได้ รู้จักช่วยเหลืองานบ้านเล็ก ๆ น้อย ๆ เช่น เก็บของเล่น ยกของ กวาดบ้าน รู้จักเล่นเป็นกลุ่ม รู้จักกฎเกณฑ์ในสังคมและทำตามได้

 

วิธีส่งเสริมและกระตุ้นพัฒนาการ 3 ขวบ

 

วิธีส่งเสริมและกระตุ้นพัฒนาการเด็ก 3 ขวบ

  1. ส่งเสริมกล้ามเนื้อ และการเคลื่อนไหว คุณพ่อคุณแม่ควรให้ลูกได้เล่น หยิบจับสิ่งของ ได้ออกกำลังกายเคลื่อนไหวกล้ามเนื้อมัดใหญ่และมัดเล็ก ซึ่งประกอบด้วย แขน ขา มือ และนิ้วมือ รวมไปถึงการประสานกันของกล้ามเนื้อส่วนต่าง ๆ เพื่อการทรงตัวที่ดี เช่น พาไปวิ่งเล่น หรือเล่นเครื่องเล่นที่ได้ปีนป่าย กระโดด ขึ้นบันได โดยที่ดูแลอย่างใกล้ชิดไม่ให้เกิดอุบัติเหตุ
  2. ส่งเสริมพัฒนาการเรียนรู้ ให้ลูกอารมณ์ดี คุณพ่อคุณแม่มีส่วนสำคัญให้ลูกน้อยเติบโตอย่างมีความสุข เด็กวัยนี้รักการเรียนรู้ ชอบถามคำถามถึงสิ่งรอบตัว คุณพ่อคุณแม่ควรใส่ใจตอบคำถามสั้นๆ ง่ายๆ รวมไปถึงการอ่านหนังสือ ใช้หนังสือภาพเพื่อกระตุ้นการเรียนรู้และเกิดความเข้าใจที่ง่ายขึ้น ในด้านอารมณ์นั้น อาจเริ่มสอนให้ลูกน้อยได้รู้จักคำพูดที่บอกอารมณ์ของตัวเองและผู้อื่นได้ พร้อมไปกับส่งเสริมให้ลูกน้อยบอกอารมณ์ของตัวเอง เช่น “หนูเสียใจที่ทำของเล่นพังใช่ไหม” เพื่อให้ลูกกล้าที่จะสื่อสารความรู้สึกมากขึ้น ที่สำคัญคือการให้ความรักความเข้าใจ สร้างความผูกพัน เลี้ยงแบบไม่บังคับจนเกินไป ให้ลูกรู้สึกผ่อนคลาย ก็จะทำให้ลูกน้อยเติบโตอย่างอารมณ์ดีและมีความสุขได้ตามวัย
  3. ส่งเสริมการสื่อสาร เด็กวัยอนุบาลมีความเข้าใจในการใช้ภาษาและสื่อสารได้มากขึ้น คุณแม่สามารถฝึกลูกพูด โดยพูดประโยคง่ายๆ ได้ และรู้จักตั้งคำถามเพราะอยากรู้ข้อมูลให้คลายสงสัย คุณพ่อคุณแม่ส่งเสริมพัฒนาการด้านการสื่อสารให้ลูกน้อยด้วยการชวนพูดคุยในเรื่องที่ลูกสนใจ เป็นผู้ฟังที่ดี หรือลองถามคำถามปลายเปิด ให้ลูกได้กล้าพูดกล้าเล่า นอกจากนี้ยังอาจชวนร้องเพลง หรืออ่านนิทาน เพื่อกระตุ้นจินตนาการ รวมถึงเรียนรู้คำศัพท์ใหม่ๆ ไปพร้อมกับการออกเสียงให้คล่องแคล่วมากยิ่งขึ้น

 

โภชนาการที่เหมาะสมสำหรับพัฒนาการเด็ก 3 ขวบ

เด็กวัยอนุบาลเริ่มมีกิจกรรมที่ต้องใช้พลังงานเยอะขึ้น ร่างกายจึงต้องการอาหารที่เหมาะสม ถูกต้องตามหลักโภชนาการ เพื่อการเจริญเติบโตอย่างแข็งแรง และมีพัฒนาการตามวัยที่ดี ต่อเนื่อง ดังนั้นพวกเขาจึงควรรับประทานอาหารที่ดีต่อสุขภาพ เช่น

  • ธัญพืช เช่น ข้าว ข้าวโอ๊ต ข้าวบาร์เลย์ ซึ่งเป็นอาหารที่ให้พลังงานได้ดี โดยแนะนำให้ลูกกินข้าวกล้อง เพราะมีกากใยอาหาร ช่วยในเรื่องของการขับถ่าย
  • ผัก ควรเลือกผักหลากสีหลากหลายชนิดให้ลูกน้อยได้รับประทาน เพื่อให้ได้รับสารอาหารที่หลากหลาย และเป็นการฝึกให้ลูกไม่เลือกกิน
  • ผลไม้ เป็นแหล่งของวิตามินและสารอาหารสำคัญ ที่ช่วยบำรุงสุขภาพและช่วยระบบภูมิคุ้มกันของลูก โดยแนะนำว่า ให้ลูกรับประทานผลไม้สด จะดีกว่าน้ำผลไม้ที่มักมีปริมาณของน้ำตาลที่สูงมาก หากรับประทานเยอะเกินไป จะส่งผลเสียต่อสุขภาพได้
  • นมกล่องสำหรับเด็ก 1 ขวบขึ้นไป อาหารเสริมสำคัญของลูกน้อยที่แหล่งอุดมไปด้วยสารอาหารอันสำคัญมากมาย ที่ช่วยเสริมพัฒนาการและการเจริญเติบโตของลูกเช่น โปรตีน วิตามิน แคลเซียม เป็นต้น
  • โปรตีน สารอาหารสำคัญที่ช่วยในการสร้างและซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอในร่างกาย แหล่งของโปรตีนที่ดีนั้น ได้แก่ นม, ไข่, เนื้อสัตว์, ปลา ถั่วต่าง ๆ และผักบางชนิด

 

ข้อควรระวัง พัฒนาการและการเลี้ยงดูเด็ก 3 ขวบ

ผู้ใหญ่มักคิดว่าเด็กยังไม่เข้าใจเรื่องราวรอบตัวมากนัก แต่กลับเป็นความคิดที่ไม่ถูกต้องนัก เพราะเด็กวัยนี้มีการเรียนรู้และรับรู้อยู่ตลอดเวลา ลูกน้อยจึงมีความรู้สึกและความคิดตามแบบของตัวเองแล้ว อย่างไรก็ดีเด็กวัยนี้อาจจะสื่อสารหรือถ่ายทอดความรู้สึกเป็นคำพูดไม่ได้ทั้งหมด คุณพ่อคุณแม่จึงควรสังเกตพฤติกรรม และใส่ใจพูดคุยกับลูกน้อยให้มาก เช่น ลูกอาจมีพฤติกรรมเปลี่ยนไปหรือมีอาการวัยทองเด็ก เช่น ซนมากขึ้น งอแงติดแม่ เรียกร้องต่างๆ นั่นอาจเป็นเพราะลูกรู้สึกว่าถูกทอดทิ้ง มีความกลัว ไม่สบายใจ ถ้าคุณพ่อคุณแม่สามารถเข้าใจอารมณ์ จิตใจและความรู้สึกนึกคิดของลูกได้ ก็จะสามารถช่วยเหลือในเรื่องต่างๆ ได้ดียิ่งขึ้น

 

คำแนะนำสำหรับคุณแม่

พ่อแม่และคนในครอบครัว ควรทำกิจกรรมหลายๆ อย่างไปพร้อมกับเด็ก เพื่อคอยกระตุ้นพัฒนาการในเด็กและฝึกทักษะในด้านต่างๆ ให้แก่เด็ก ดังนี้

  • ให้ลูกได้เล่นอย่างอิสระ เพื่อให้ได้กล้าแสดงออก มีความมั่นใจ และเป็นตัวของตัวเอง
  • ไม่บังคับหรือตามใจจนเกินไป ให้เขาทำในสิ่งที่ไม่ชอบ แต่ก็ไม่ตามใจ และตักเตือนเมื่อลูกทำในสิ่งที่ไม่ถูกต้อง
  • ฝึกลูกให้รับผิดชอบตัวเอง เช่น สอนให้รับประทานอาหารด้วยตัวเอง แต่งตัวเอง และฝึกให้เขาเข้าห้องน้ำเพื่อขับถ่ายอย่างถูกต้อง โดยมีคุณพ่อคุณแม่คอยช่วยเหลือในเวลาเริ่มฝึก
  • ฝึกสมองเด็ก ด้วยการชวนทำกิจกรรมต่าง ๆ ที่มีความหลากหลาย เพื่อให้เกิดพัฒนาการด้านสมองอย่างรอบด้าน

 

ในช่วงวัย 3 ปีแรกนับเป็นเวลาทองของพัฒนาการ การที่คุณพ่อคุณแม่มีความเข้าใจในการเลี้ยงดูและส่งเสริมพัฒนาการเด็ก 3 ขวบอย่างรอบด้าน จะทำให้ลูกน้อยเติบโตได้อย่างแข็งแรง ฉลาดสมวัยและมีความสุข พร้อมก้าวสู่โลกกว้างได้อย่างมั่นใจ

บทความแนะนำ

โรคซางในเด็กเล็กมีจริงไหม เกิดจากอะไร ดูแลและป้องกันได้หรือเปล่า

โรคซางในเด็กเล็กมีจริงไหม เกิดจากอะไร ดูแลและป้องกันได้หรือเปล่า

โรคซางในเด็กเล็ก เกิดจากสาเหตุอะไร หากลูกของคุณแม่มีอาการเหมือนจะเป็นโรคซาง มีไข้ เบื่ออาหาร หรือน้ำหนักลด คุณแม่ควรเฝ้าดูอาการและรีบพาไปพบแพทย์ทันที

แม่เป็นโรคภูมิแพ้ ลูกน้อยจะเป็นโรคภูมิแพ้ในเด็กด้วยหรือไม่

แม่เป็นโรคภูมิแพ้ ลูกน้อยจะเป็นโรคภูมิแพ้ในเด็กด้วยหรือไม่

คุณแม่ตั้งครรภ์หลายคนที่เป็นโรคภูมิแพ้ มักมีความกังวลว่า แม่เป็นโรคภูมิแพ้แล้วลูกจะเป็นโรคภูมิแพ้ในเด็กด้วยหรือเปล่า ไปดูสาเหตุพร้อมวิธีป้องกันเบื้องต้นกัน

สังเกตอาการลูกน้อย ภูมิแพ้ในเด็ก ลูกคัดจมูกหรืออาการโควิด 19

สังเกตอาการลูกน้อย ภูมิแพ้ในเด็ก ลูกคัดจมูกหรืออาการโควิด 19

อาการลูกคัดจมูก ลูกเป็นหวัดง่าย ไม่สบายบ่อย พบได้บ่อยในเด็กเป็นภูมิแพ้และอาจเกิดจากการติดเชื้อ คุณพ่อคุณแม่ควรสังเกตอาการลูกน้อย พร้อมวิธีป้องกันภูมิแพ้ในเด็ก

สังเกตภูมิแพ้ในเด็ก อาการภูมิแพ้อากาศ พร้อมวิธีให้ลูกห่างจากอาการแพ้

สังเกตภูมิแพ้ในเด็ก อาการภูมิแพ้อากาศ พร้อมวิธีให้ลูกห่างจากอาการแพ้

ภูมิแพ้ในเด็กหรือเด็กแก้อากาศในวัยบอบบางเสี่ยงต่อโรคภูมิแพ้ได้ง่าย พ่อแม่สามารถรับมือและคัดกรองความเสี่ยงให้ลูกห่างจากอาการแพ้อากาศ พร้อมเสริมสร้างเกราะคุ้มกัน

อาการภูมิแพ้ในเด็ก คืออะไร เด็กเป็นภูมิแพ้ คุณแม่ป้องกันได้แค่ไหน

อาการภูมิแพ้ในเด็ก คืออะไร เด็กเป็นภูมิแพ้ คุณแม่ป้องกันได้แค่ไหน

ภูมิแพ้ในเด็ก คืออะไร เด็กเป็นภูมิแพ้ เกิดจากหลายปัจจัยอะไรบ้าง คุณแม่ควรหมั่นสังเกตอาการภูมิแพ้ในเด็กของลูกน้อย พร้อมวิธีป้องกันและหลีกเลี่ยงสารกระตุ้นภูมิแพ้

รู้ทันโรคภูมิแพ้ในเด็ก เด็กแพ้ฝุ่น ภูมิแพ้อาหาร ที่แม่ป้องกันได้

รู้ทันโรคภูมิแพ้ในเด็ก เด็กแพ้ฝุ่น ภูมิแพ้อาหาร ที่แม่ป้องกันได้

โรคภูมิแพ้ในเด็ก เกิดจากอะไร ลูกเป็นภูมิแพ้ฝุ่น ขนสัตว์หรือเด็กแพ้อาหาร คุณแม่ควรสังเกตสารก่อภูมิแพ้ในเด็ก พร้อมวิธีป้องกันอาการเด็กแพ้ฝุ่นและเด็กแพ้อาหาร

รวมแคปชั่นลูกสาว แคปชั่นรักลูกสาว อวดลูกในโซเชียล

รวมแคปชั่นลูกสาว แคปชั่นรักลูกสาว อวดลูกในโซเชียล

ไอเดียแคปชั่นลูกสาว โพสอวดลูกสาวได้ไม่ซ้ำวัน แคปชั่นลูกสาวโดนใจ ให้คุณแม่เลือกใช้ได้ง่าย ๆ แคปชั่นรักลูกสาวบอกรักลูก ช่วยเรียกเสียงหัวเราะในโซเชียลให้ลูกรัก