พัฒนาการเด็ก 3 ขวบ พร้อมวิธีส่งเสริมพัฒนาการลูกน้อย

พัฒนาการเด็ก 3 ขวบ พร้อมวิธีส่งเสริมพัฒนาการลูกน้อย

บทความ
พ.ย. 24, 2025

พัฒนาการเด็ก 3 ขวบ คือก้าวสำคัญที่เต็มไปด้วยความท้าทายและความน่าตื่นเต้น พวกเขาเริ่มมีจินตนาการสูงขึ้น แต่ก็อาจมีเรื่องที่ทำให้รู้สึกกลัวได้เช่นกัน บทความนี้จะชวนคุณพ่อคุณแม่มาทำความเข้าใจ พัฒนาการเด็ก 3 ขวบ ที่สำคัญในทุกด้าน เพื่อเตรียมพร้อมที่จะสนับสนุนและร่วมเดินทางไปกับทุกก้าวที่เปลี่ยนแปลงของลูกรักอย่างมีความสุข

พัฒนาการเด็ก 3 ขวบ พร้อมวิธีส่งเสริมพัฒนาการลูกน้อย

คำถามที่พบบ่อย

ควรให้ลูกเข้าเรียนอนุบาลตอนอายุ 3 ขวบหรือไม่?

เป็นเรื่องที่คุณพ่อคุณแม่หลายคนกังวลและไม่มีคำตอบที่ตายตัว เพราะเด็กแต่ละคนมีความพร้อมไม่เท่ากัน แต่โดยทั่วไปแล้ว เด็กสามารถเข้าโรงเรียนได้ตั้งแต่อายุ 2-3 ขวบขึ้นไป สิ่งที่ควรพิจารณาเพื่อประเมินความพร้อมของลูก

  • ภาษา ลูกควรสื่อสารความต้องการของตัวเองได้ เช่น อยากได้อะไร หรือรู้สึกอย่างไร
  • กล้ามเนื้อ ลูกควรเคลื่อนไหวร่างกายได้อย่างคล่องแคล่ว
  • สังคม ลูกควรเริ่มปรับตัวเข้ากับเพื่อนวัยเดียวกันได้ หรือสามารถเล่นกับเพื่อนได้
  • การช่วยเหลือตัวเอง ลูกควรฝึกกินข้าว เข้าห้องน้ำ และนอนหลับได้เองบ้าง เพื่อให้ปรับตัวที่โรงเรียนได้ง่ายขึ้น

หากลูกมีความพร้อมทั้งสี่ด้าน การเข้าเรียนอนุบาลตอน 3 ขวบก็เป็นตัวเลือกที่ดี เพราะจะช่วยให้ลูกได้เรียนรู้และพัฒนาทักษะต่าง ๆ ได้เร็วขึ้น อย่างไรก็ตาม หากไม่มั่นใจ ควรปรึกษาคุณครูที่โรงเรียนและกุมารแพทย์ เพื่อช่วยประเมินความพร้อมของลูกอย่างละเอียดอีกครั้งค่ะ

การให้ลูกดูหน้าจอ (มือถือ, แท็บเล็ต) ส่งผลเสียต่อพัฒนาการเด็ก 3 ขวบอย่างไร?

การให้เด็กวัย 3 ขวบดูหน้าจอ (มือถือ, แท็บเล็ต) ส่งผลเสียโดยตรงต่อพัฒนาการของสมอง ซึ่งเป็นช่วงวัยที่สำคัญที่สุดในการเรียนรู้ การปล่อยให้เด็กใช้เวลาอยู่กับหน้าจอมากเกินไปจะขัดขวางการเรียนรู้จากสิ่งแวดล้อมรอบตัว ทำให้เด็กขาดปฏิสัมพันธ์กับผู้อื่น ขาดจินตนาการ และส่งผลเสียต่อการทำงานของสมองในระยะยาว

ลูกตัวเล็กและน้ำหนักน้อยกว่าเกณฑ์ ควรทำอย่างไร?

เมื่อลูกมีน้ำหนักน้อยกว่าเกณฑ์ปกติ สิ่งสำคัญที่สุดคือการปรึกษากุมารแพทย์ เพื่อตรวจหาสาเหตุที่แท้จริง เพราะสาเหตุอาจมาจากหลายปัจจัย เช่น การได้รับสารอาหารไม่เพียงพอ ปัญหาสุขภาพ หรือการนอนหลับพักผ่อนที่ไม่เพียงพอ เป็นต้น

การได้รับคำปรึกษาจากแพทย์จะช่วยให้คุณแม่เข้าใจปัญหาและแก้ไขได้อย่างตรงจุด พร้อมรับคำแนะนำด้านโภชนาการที่เหมาะสม เพื่อส่งเสริมให้ลูกเจริญเติบโตอย่างสมวัยและแข็งแรง

สรุป

  • พัฒนาการของเด็กวัย 3 ขวบประกอบด้วย 4 ด้านหลักที่สำคัญ ได้แก่ ด้านร่างกาย ซึ่งเด็กจะสามารถวิ่ง กระโดด ปีนป่าย และควบคุมการขับถ่ายได้เอง ด้านอารมณ์และสังคม ที่เด็กเริ่มเห็นอกเห็นใจผู้อื่น ด้านภาษาและการสื่อสาร ซึ่งสามารถพูดคำศัพท์ง่าย ๆ ได้ประมาณ 200-300 คำ และด้านสติปัญญาและการเรียนรู้ ที่เริ่มมีจินตนาการ ความคิดสร้างสรรค์ ความจำดี และรู้จักความแตกต่างของสิ่งต่าง ๆ ได้
  • คุณแม่สามารถส่งเสริม พัฒนาการเด็ก 3 ขวบ ให้ลูกได้ผ่านการเล่นและกิจกรรมต่าง ๆ โดยเปลี่ยนงานบ้านง่าย ๆ ให้เป็นเกมสนุก ๆ เช่น ชวนลูกเก็บของเล่นเข้าที่ หรือกวาดบ้าน ซึ่งการทำกิจกรรมเหล่านี้จะช่วยฝึกวินัย ความรับผิดชอบ และฝึกกล้ามเนื้อมัดเล็กให้แข็งแรงได้อีกด้วย
  • ในช่วง พัฒนาการเด็ก 3 ขวบ ร่างกายมีความต้องการพลังงานประมาณ 1,200 กิโลแคลอรีต่อวัน เพื่อใช้ในการทำกิจกรรมและส่งเสริมการเจริญเติบโต นอกจากนี้ยังต้องการโปรตีนประมาณ 25 กรัมต่อวัน ซึ่งส่วนใหญ่จะได้รับจากอาหารหลัก 3 มื้อ
  • สำหรับการประเมินพัฒนาการเด็ก 3 ขวบในเบื้องต้น คุณแม่สามารถใช้เครื่องมือจากภาครัฐได้ เช่น แบบประเมินพัฒนาการ 3 ขวบ ด้านร่างกาย ของกองกิจกรรมทางกายภาพ กระทรวงสาธารณสุข และ แบบประเมินพัฒนาการความฉลาดทางอารมณ์ ของสถาบันราชานุกูล กรมสุขภาพจิต หากผลการประเมินบ่งชี้ว่าพัฒนาการของลูกอาจล่าช้ากว่าวัยที่ควรจะเป็น ขอแนะนำให้รีบพาลูกไปปรึกษากุมารแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญ เพื่อรับการตรวจประเมินอย่างละเอียดและวางแผนการกระตุ้นพัฒนาการที่เหมาะสมต่อไป

 

เลือกอ่านตามหัวข้อ

 

พัฒนาการเด็ก 3 ขวบใน 4 ด้านหลัก

การเลี้ยงดูลูกวัย 3 ขวบเป็นช่วงเวลาที่น่าตื่นเต้นและเต็มไปด้วยความสุข เพราะเป็นวัยที่พัฒนาการของลูกน้อยจะก้าวหน้าอย่างก้าวกระโดดในทุกด้านราวกับดอกไม้ที่กำลังเบ่งบาน การทำความเข้าใจพัฒนาการในแต่ละด้านจะช่วยให้คุณพ่อคุณแม่สามารถดูแลและส่งเสริมลูกได้อย่างเต็มที่ที่สุดค่ะ

1. พัฒนาการทางกายภาพ

 

เด็กกำลังเล่นสไลเดอร์

 

  • การเคลื่อนไหว: เด็กวัย 3 ขวบจะกลายเป็นนักสำรวจตัวจิ๋วที่คล่องแคล่วและมั่นใจมากขึ้น คุณพ่อคุณแม่จะเห็นลูกวิ่ง กระโดด ปีนป่ายได้อย่างคล่องแคล่ว และทรงตัวได้ดีขึ้นอย่างน่าทึ่ง บางคนอาจเริ่มหัดปั่นจักรยานสามล้อได้อย่างสนุกสนาน การปล่อยให้ลูกได้เคลื่อนไหวอย่างอิสระจะช่วยสร้างกล้ามเนื้อและความมั่นใจในตัวเองได้เป็นอย่างดีค่ะ
  • การใช้มือและนิ้วมือ: กล้ามเนื้อมัดเล็กของลูกก็พัฒนาขึ้นเช่นกัน จากที่เคยขีดเขียนแบบไร้ทิศทาง ลูกจะเริ่มจับดินสอได้ถนัดขึ้นและวาดวงกลมหรือสี่เหลี่ยมได้เอง นอกจากนี้ยังสามารถใช้กรรไกรตัดกระดาษและปั้นดินน้ำมันสร้างสรรค์ผลงานชิ้นเล็ก ๆ ได้อีกด้วยค่ะ

 

2. พัฒนาการทางสังคมและอารมณ์

  • การสื่อสารและการแสดงออก: ลูกจะเริ่มแสดงออกทางความรู้สึกและความต้องการได้ชัดเจนขึ้น จากคำพูดสั้น ๆ ก็จะกลายเป็นประโยคที่ยาวและซับซ้อนขึ้นอย่างน่าประหลาดใจ พวกเขาสามารถพูดคุยและแสดงความเห็นได้อย่างเข้าใจ ทำให้การสื่อสารระหว่างคุณพ่อคุณแม่กับลูกเป็นไปอย่างราบรื่นขึ้น
  • การเล่นร่วมกับผู้อื่น: โลกของลูกไม่ได้มีแค่คุณพ่อคุณแม่อีกต่อไป พวกเขาเริ่มอยากมีเพื่อน อยากเล่นด้วยกัน และเรียนรู้ที่จะแบ่งปันของเล่น รวมถึงการรอคอยคิวได้ดีขึ้นด้วย การเล่นบทบาทสมมติจะกลายเป็นกิจกรรมสุดโปรดที่ช่วยให้พวกเขาเข้าใจสังคมรอบตัวมากขึ้นค่ะ
  • การแสดงอารมณ์: ลูกในวัยนี้จะเข้าใจและจัดการกับอารมณ์ของตัวเองได้ดีขึ้น คุณจะเห็นพวกเขาเริ่มแสดงความเห็นอกเห็นใจผู้อื่น และรู้จักวิธีปลอบใจเมื่อเห็นคนเศร้าหรือเสียใจ ซึ่งเป็นสัญญาณที่ดีของการมีวุฒิภาวะทางอารมณ์ที่เพิ่มขึ้น

 

3. พัฒนาการทางสติปัญญา

  • การเรียนรู้และการจดจำ: เด็กวัย 3 ขวบคือฟองน้ำที่พร้อมซึมซับทุกสิ่ง พวกเขามีความสามารถในการจดจำสิ่งต่าง ๆ ได้ดีขึ้น ไม่ว่าจะเป็นสี รูปทรง ขนาด หรือจำนวน และยังสามารถแยกแยะสิ่งของตามคุณสมบัติได้อีกด้วย
  • การเล่น: ของเล่นไม่ได้เป็นแค่ของเล่นอีกต่อไป แต่เป็นเครื่องมือสำหรับฝึกทักษะการคิด พวกเขาจะชอบตัวต่อ จิ๊กซอว์ และของเล่นที่ต้องใช้การแก้ไขปัญหา ซึ่งช่วยกระตุ้นการคิดเชิงเหตุผลได้อย่างยอดเยี่ยม

 

4. พัฒนาการทางภาษา

  • การเข้าใจภาษา: ลูกจะเข้าใจคำสั่งที่ซับซ้อนและมีหลายขั้นตอนได้ดีขึ้นมาก เช่น หยิบถ้วยวางบนโต๊ะ แล้วหยิบตุ๊กตามาให้คุณแม่ หรือ "หยิบลูกบอลสีแดงมาให้แม่ แล้วเอาไปใส่ในกล่อง" ซึ่งแสดงให้เห็นว่าพวกเขาสามารถประมวลผลคำสั่งและทำตามได้อย่างยอดเยี่ยม
  • การพูด: คลังคำศัพท์ของลูกจะเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว เริ่มใช้ประโยคที่ยาวขึ้น พูดเป็นวลี 3-4 คำหรือประโยคสั้น ๆ มีคำถาม เช่น ใคร อะไร ที่ไหน ทำไม รวมถึงใช้คำคุณศัพท์และคำเชื่อมต่าง ๆ เพื่อสร้างประโยคที่สื่อสารได้ซับซ้อนมากขึ้น

การสนับสนุนจากคุณพ่อคุณแม่คือปัจจัยสำคัญที่สุดในช่วงวัยนี้ การให้โอกาสลูกได้เล่น ได้เรียนรู้ และได้มีปฏิสัมพันธ์กับผู้อื่น จะช่วยเสริมสร้างพัฒนาการที่สมบูรณ์แบบให้กับพวกเขา ขอให้คุณพ่อคุณแม่มีความสุขกับการร่วมเดินทางในก้าวสำคัญของลูกรักนะคะ

 

เข้าใจพัฒนาการเด็ก 3 ขวบ ก้าวใหม่ที่น่าภาคภูมิใจ

เมื่อลูกน้อยก้าวเข้าสู่วัย 3 ขวบ พวกเขาไม่ได้เป็นเพียงเด็กเล็ก ๆ อีกต่อไปแล้วค่ะ แต่กำลังเติบโตเป็นนักสำรวจตัวจิ๋วที่พร้อมจะเรียนรู้และทำสิ่งใหม่ ๆ ด้วยตัวเอง ความสามารถที่เพิ่มขึ้นอย่างน่าทึ่งเหล่านี้คือสัญญาณว่าลูกกำลังเติบโตอย่างสมวัย มาดูกันว่าทักษะอะไรบ้างที่น่าชื่นชมในวัยนี้ค่ะ

พัฒนาการด้านร่างกายและทักษะช่วยเหลือตนเอง

ลูกในวัยนี้จะมีความสามารถด้านร่างกายที่แข็งแรงขึ้นอย่างเห็นได้ชัด พวกเขาจะเริ่ม ยืนขาเดียวได้ 2-3 วินาที และสามารถ เดินขึ้นบันไดโดยใช้เท้าสลับกัน ได้อย่างคล่องแคล่ว นอกจากนี้ยังสนุกกับการ ขี่รถสามล้อเด็ก ได้เอง เป็นการฝึกกล้ามเนื้อขาและการทรงตัวที่ดีเยี่ยม

นอกจากความแข็งแรงแล้ว ลูกยังเริ่มช่วยเหลือตัวเองได้มากขึ้นด้วย คุณแม่อาจจะเซอร์ไพรส์ที่ลูกสามารถถอดรองเท้าและเสื้อผ้าได้ด้วยตัวเอง และยังสามารถ ช่วยทำงานบ้านง่าย ๆ ได้อีกด้วย เช่น เก็บของเล่น หรือช่วยหยิบจับสิ่งของเล็ก ๆ น้อย ๆ ค่ะ

 

พัฒนาการด้านสติปัญญาและการสื่อสาร

โลกความคิดของเด็กวัย 3 ขวบเริ่มซับซ้อนขึ้น ลูกจะชอบเล่นสมมติเป็นเรื่องราวที่ซับซ้อนขึ้น เช่น เล่นเป็นคุณหมอรักษาตุ๊กตา หรือเป็นเชฟทำอาหารให้คุณแม่ทาน นอกจากนี้ยังสามารถ ต่อของเล่นในแนวตั้งได้ถึง 8 ชิ้น และเลียนแบบการวาดรูปวงกลมได้อีกด้วย

ความเข้าใจของลูกก็พัฒนาไปมากจนสามารถ ทำตามคำสั่งต่อเนื่องได้ 2 ขั้นตอน เช่น "หยิบถ้วยวางบนโต๊ะ แล้วหยิบตุ๊กตามาด้วย" ด้านการสื่อสาร ลูกจะเริ่ม บอกชื่อและเพศของตัวเองได้ และสามารถบอกความต้องการในการขับถ่ายได้แล้วค่ะ พวกเขามีคลังคำศัพท์ที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว และจะเริ่มเล่าเรื่องราวที่เจอมาให้ผู้อื่นฟังได้ แม้อาจจะยังไม่ครบถ้วนทั้งหมด แต่ก็จะสื่อสารด้วยวลีหรือประโยคสั้น ๆ ที่เข้าใจง่าย และมักจะถามคำถามว่า ใคร อะไร ที่ไหน ทำไม อยู่เสมอค่ะ

 

พัฒนาการด้านสังคม

ลูกในวัยนี้เริ่มเรียนรู้การอยู่ร่วมกับผู้อื่น ลูกจะเริ่มทำตามกฎง่าย ๆ ในการเล่นเป็นกลุ่มได้ หากมีผู้ใหญ่คอยแนะนำ ซึ่งแสดงให้เห็นว่ากำลังเรียนรู้ที่จะปรับตัวเข้าหาผู้อื่นและเข้าใจสังคมรอบตัวมากขึ้น

การพัฒนาในทุก ๆ ด้านของลูกในวัยนี้เป็นสิ่งที่น่าภาคภูมิใจอย่างยิ่ง ขอให้คุณพ่อคุณแม่มีความสุขกับการได้เห็นการเติบโตของลูกรักในทุก ๆ วันนะคะ

 

การส่งเสริมพัฒนาการเด็ก 3 ขวบ พลังแห่งการเรียนรู้จากความสนุก

การสนับสนุนพัฒนาการเด็ก 3 ขวบไม่ใช่เรื่องยากเลยค่ะ เพราะสิ่งที่สำคัญที่สุดคือการใช้เวลาคุณภาพร่วมกัน และเปลี่ยนทุกกิจกรรมให้กลายเป็นโอกาสแห่งการเรียนรู้ คุณพ่อคุณแม่สามารถช่วยส่งเสริมลูกได้ง่าย ๆ ดังนี้ค่ะ

1. สร้างทักษะผ่านกิจกรรมในชีวิตประจำวัน

  • ชวนทำงานบ้านง่าย ๆ: ลองเปลี่ยนงานบ้านให้เป็นเกมสนุก ๆ เช่น ชวนลูกเก็บของเล่นเข้าที่ หรือ ช่วยคุณแม่กวาดบ้าน การทำกิจกรรมง่าย ๆ เหล่านี้จะช่วยฝึกวินัย ความรับผิดชอบ และฝึกกล้ามเนื้อมัดเล็กไปในตัว
  • การเล่นที่ไม่ต้องใช้ของเล่นราคาแพง: เกมพื้นบ้านอย่าง มอญซ่อนผ้า หรือ ซ่อนหา ก็สามารถช่วยฝึกทักษะการเคลื่อนไหวและการเข้าสังคมได้ดีมากค่ะ นอกจากนี้การ ให้ลูกได้เล่นกับเพื่อน ๆ และคอยดูแลอยู่ห่าง ๆ จะช่วยให้เขาได้เรียนรู้การแบ่งปันและทำความเข้าใจผู้อื่น

 

2. กระตุ้นการเรียนรู้ผ่านการสื่อสาร

  • ตั้งคำถามและชวนคุย: ใช้โอกาสในทุก ๆ วัน ตั้งคำถามให้ลูกตอบบ่อย ๆ เช่น "นี่อะไร?" "ร้องเพลงอะไร?" หรือ อ่านนิทานแล้วถามคำถามจากเนื้อเรื่อง เพื่อกระตุ้นให้ลูกได้คิดและแสดงออกอย่างเป็นอิสระ
  • ส่งเสริมการเล่นบทบาทสมมติ: การเล่นสมมติเป็นโลกแห่งการเรียนรู้ที่ไม่สิ้นสุดค่ะ ลองร่วมเล่นบทบาทสมมติที่ซับซ้อนกับลูก เช่น เล่นเป็นคุณครูและนักเรียน หรือเป็นนักบินอวกาศที่จะไปสำรวจดาวอังคาร พร้อมกับ ตั้งคำถาม เพื่อต่อยอดจินตนาการ เช่น "ยานอวกาศเรากำลังจะไปที่ไหน?" การทำแบบนี้จะช่วยพัฒนาความคิดสร้างสรรค์และทักษะการเล่าเรื่องของลูกได้อย่างยอดเยี่ยม

 

3. ฝึกฝนทักษะเฉพาะด้านด้วยความรัก

  • ฝึกวาดภาพและการทรงตัว: ลองหาอุปกรณ์วาดเขียนให้ลูกได้ ฝึกวาดวงกลม เพราะนี่คือพื้นฐานของการเขียนในอนาคต และยังสามารถเปลี่ยนการฝึกกล้ามเนื้อให้เป็นเกมสนุก ๆ เช่น เล่นยืนขาเดียว โดยคุณพ่อคุณแม่ช่วยประคองไว้ก่อนในช่วงแรก แล้วค่อย ๆ ปล่อยให้ลูกได้ลองทรงตัวด้วยตัวเอง

ทั้งหมดนี้คือเคล็ดลับง่าย ๆ ที่จะช่วยให้คุณพ่อคุณแม่สามารถเป็นส่วนหนึ่งในก้าวสำคัญที่แสนพิเศษของลูกได้ ขอให้มีความสุขกับการสร้างประสบการณ์ดี ๆ ร่วมกับลูกรักในทุก ๆ วันนะคะ

 

พัฒนาการเด็ก 3 ขวบ เล่นของเล่นอะไรดีเพื่อส่งเสริมการเรียนรู้

 

เด็กกำลังเล่นของเล่น

 

การเลือกของเล่นเด็กที่เหมาะสมเป็นสิ่งสำคัญ แต่สิ่งที่สำคัญยิ่งกว่านั้นคือการใช้เวลาคุณภาพร่วมกันในการเล่น เพราะการมีปฏิสัมพันธ์ระหว่างพ่อแม่กับลูกคือกุญแจสำคัญที่จะช่วยปลดล็อกศักยภาพของพวกเขาได้อย่างเต็มที่

จากงานวิจัยของ กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข และสำนักงานพัฒนาสุขภาพระหว่างประเทศไทย (IHPP) ที่ร่วมกับหน่วยงานอื่น ๆ พบว่า การที่เด็กอายุ 3-4 ปี มีปฏิสัมพันธ์ในกิจกรรมต่าง ๆ ร่วมกับพ่อ จะส่งผลต่อพัฒนาการสมวัยอย่างรอบด้าน ทั้งด้านสติปัญญา ภาษา ร่างกาย สังคม และอารมณ์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งด้านสติปัญญาและภาษา ซึ่งพัฒนาการเหล่านี้จะเกิดขึ้นได้อย่างมีประสิทธิภาพเมื่อพ่อแม่เข้าไปมีส่วนร่วมในกิจกรรมเหล่านี้ค่ะ

เมื่อเข้าใจถึงความสำคัญของการเล่นร่วมกันแล้ว เรามาดูกันว่าของเล่นแบบไหนที่เหมาะกับพัฒนาการเด็ก 3 ขวบ และคุณพ่อคุณแม่จะสามารถมีส่วนร่วมได้อย่างไรบ้าง

1. ของเล่นเพื่อพัฒนาทักษะการคิด

เมื่อลูกเริ่มมีทักษะการคิดที่ซับซ้อนขึ้น ของเล่นอย่าง จิ๊กซอว์ และ ตัวต่อ ที่มีชิ้นส่วนมากขึ้นหรือรูปทรงที่หลากหลายจะช่วยฝึกการแก้ปัญหาและการคิดเชิงตรรกะได้อย่างดีเยี่ยมค่ะ นอกจากนี้ บล็อกไม้ที่มีสีสันและรูปทรงต่าง ๆ จะช่วยให้ลูกได้สร้างสรรค์ผลงานที่ซับซ้อนตามจินตนาการของเขาได้อีกด้วย

 

2. ของเล่นเพื่อพัฒนาภาษาและการเล่าเรื่อง

ลูกในวัยนี้ชื่นชอบการฟังและเล่าเรื่องราวที่ยาวขึ้น หนังสือนิทานที่มีเนื้อหาที่ซับซ้อนขึ้นตามวัย จึงเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดในการเรียนรู้ภาษา การอ่านนิทานและชวนลูกพูดคุยเกี่ยวกับเรื่องราวในหนังสือจะช่วยเพิ่มคลังคำศัพท์และพัฒนาทักษะการสื่อสารของเขาให้ดียิ่งขึ้น

 

3. ของเล่นเพื่อพัฒนาทักษะทางสังคมและอารมณ์

การเล่นบทบาทสมมติเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้สำหรับเด็กวัย 3 ขวบ ชุดการเล่นบทบาทสมมติในเรื่องต่าง ๆ เช่น ชุดคุณหมอ ชุดพ่อครัว หรือชุดช่าง จะช่วยให้ลูกเข้าใจบทบาททางสังคมและเรียนรู้การอยู่ร่วมกับผู้อื่นได้ดีขึ้นค่ะ นอกจากนี้ ตุ๊กตาคนหรือสัตว์ ก็เป็นเพื่อนเล่นที่ช่วยให้ลูกได้แสดงออกถึงความรู้สึกต่าง ๆ และเรียนรู้ที่จะแสดงความรักและความห่วงใยค่ะ

การเล่นกับลูกด้วยของเล่นเหล่านี้อย่างสม่ำเสมอจะช่วยส่งเสริมกิจกรรมพัฒนาการเด็ก 3 ขวบ ในทุกด้านของลูกได้อย่างสมบูรณ์ ขอให้คุณพ่อคุณแม่มีความสุขกับการใช้เวลาดี ๆ ในการเล่นกับลูกนะคะ

 

พัฒนาการเด็ก 3 ขวบ ลูกโตขึ้นแค่ไหน

การเจริญเติบโตของลูกเป็นสิ่งที่คุณพ่อคุณแม่ทุกคนภาคภูมิใจเสมอ เมื่อลูกเข้าสู่วัย 3 ขวบ พวกเขาจะโตขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ทั้งน้ำหนักและส่วนสูงที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง การติดตามการเจริญเติบโตจะช่วยให้คุณมั่นใจว่าลูกมีสุขภาพแข็งแรงและเติบโตสมวัย โดยข้อมูลที่เรานำมาให้เป็นค่าเฉลี่ยตามกราฟมาตรฐานการเจริญเติบโตเด็กไทยจากสำนักโภชนาการ กรมอนามัย

  • เด็กผู้ชาย: จะมีน้ำหนักตัวเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 14.5 กิโลกรัม และส่วนสูงเฉลี่ยประมาณ 96 เซนติเมตร
  • เด็กผู้หญิง: จะมีน้ำหนักตัวเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 14 กิโลกรัม และส่วนสูงเฉลี่ยประมาณ 95 เซนติเมตร

ตัวเลขเหล่านี้เป็นเพียงค่าเฉลี่ยโดยประมาณเท่านั้นค่ะ สิ่งสำคัญที่สุดคือการที่ลูกมีพัฒนาการที่สมวัยและมีสุขภาพที่แข็งแรง หากคุณพ่อคุณแม่มีข้อสงสัยหรือต้องการทราบข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการเจริญเติบโตของลูก ควรปรึกษาคุณหมอเพื่อรับคำแนะนำที่ถูกต้องและเหมาะสมสำหรับลูกรักนะคะ

 

พัฒนาการเด็ก 3 ขวบ การนอนหลับที่แสนสำคัญ

การนอนหลับคือช่วงเวลาสำคัญที่ช่วยให้ลูกได้พักผ่อนและฟื้นฟูกายใจอย่างเต็มที่ คุณพ่อคุณแม่หลายคนอาจสงสัยว่าลูกวัย 3 ขวบควรนอนนานแค่ไหน และจะช่วยให้ลูกหลับง่ายได้อย่างไร มาทำความเข้าใจไปพร้อมกันค่ะ

ลูกวัย 3 ขวบควรนอนกี่ชั่วโมง?

โดยทั่วไปแล้ว เด็กวัย 3 ขวบต้องการการนอนหลับรวมประมาณ 11-13 ชั่วโมงต่อวัน ในจำนวนนี้อาจจะรวมถึงการงีบหลับสั้น ๆ ในช่วงกลางวันด้วย แต่ก็เป็นเรื่องปกติที่เด็กบางคนจะเริ่มไม่ยอมนอนกลางวันเมื่อเข้าสู่วัยนี้ค่ะ สิ่งที่สำคัญไม่ใช่การบังคับให้ลูกนอนตามเวลาที่กำหนดเป๊ะ ๆ แต่เป็นการสร้างนิสัยการนอนที่ดีและสม่ำเสมอให้กับลูกค่ะ

 

สร้างกิจวัตรก่อนนอนเพื่อช่วยให้ลูกหลับง่าย

การมีกิจวัตรก่อนนอนจะช่วยให้ลูกรู้สึกผ่อนคลายและเตรียมพร้อมสำหรับการพักผ่อน ซึ่งคุณสามารถทำได้ง่าย ๆ ด้วยคำแนะนำเหล่านี้ค่ะ

  1. งดอาหารและเครื่องดื่ม: จำกัดปริมาณอาหารและเครื่องดื่มในช่วงก่อนนอน โดยเฉพาะเครื่องดื่มที่มีน้ำตาล เพราะจะทำให้ลูกตื่นตัวและหลับยาก
  2. สร้างช่วงเวลาผ่อนคลาย: จัดช่วงเวลาผ่อนคลายประมาณครึ่งชั่วโมงก่อนถึงเวลานอนจริง เช่น อ่านนิทานเล่มโปรด เปิดเพลงเบา ๆ หรือพูดคุยถึงเรื่องราวที่น่าสนใจในวันนี้
  3. สร้างบรรยากาศที่เหมาะสม: อาจจะเปิดไฟสลัว ๆ เพื่อให้ลูกรู้สึกว่าใกล้ถึงเวลาพักผ่อนแล้ว และจัดเตียงนอนให้สบาย

การให้ความสำคัญกับการนอนของลูกคือการมอบสุขภาพที่ดีให้กับเขาในระยะยาว ขอให้คุณมีความสุขกับการสร้างช่วงเวลาแสนอบอุ่นก่อนเข้านอนร่วมกันกับลูกรักในทุก ๆ คืนนะคะ

 

เช็กให้ชัวร์! ลูกมีพัฒนาการตามวัยหรือไม่?

การได้เห็นลูกเติบโตขึ้นในทุกวันคือความสุขที่ยิ่งใหญ่ของคนเป็นพ่อแม่ค่ะ เพื่อให้มั่นใจว่าลูกรักของเรากำลังเติบโตอย่างสมวัย สามารถสังเกตพฤติกรรมต่าง ๆ ของลูกวัย 3 ขวบได้ดังนี้ค่ะ

พัฒนาการเด็ก 3 ขวบตามเกณฑ์

ลูกน้อยในวัยนี้จะมีความสามารถที่เพิ่มขึ้นอย่างน่าทึ่งในหลาย ๆ ด้าน หากลูกของคุณสามารถทำสิ่งเหล่านี้ได้ แสดงว่าพวกเขากำลังมีพัฒนาการที่เหมาะสมกับวัยค่ะ

  • ทักษะการเคลื่อนไหว: ลูกจะเริ่มมีความสามารถในการทรงตัวที่ดีขึ้นจนสามารถ ยืนขาเดียวได้ 2-3 วินาที และใช้มือได้อย่างคล่องแคล่วพอที่จะ วาดวงกลม หรือรูปทรงง่าย ๆ ได้
  • ทักษะการช่วยเหลือตนเอง: ลูกจะเริ่มพยายามทำสิ่งต่าง ๆ ด้วยตัวเองมากขึ้น เช่น ใส่กางเกงเองได้ และสามารถ ช่วยตัวเองในกิจวัตรประจำวัน อื่น ๆ ที่ง่าย ๆ ได้อีกด้วย
  • ทักษะการสื่อสาร: ลูกจะเริ่มพูดเป็นประโยคที่ซับซ้อนขึ้นได้ประมาณ 3-4 คำติดกัน บอกชื่อตัวเองได้ และสามารถ บอกความต้องการของตัวเอง ได้อย่างชัดเจน
  • ทักษะการทำตามคำสั่ง: ลูกจะเริ่มเข้าใจและสามารถ ทำตามคำสั่งต่อเนื่องได้ 2 ขั้นตอน กับวัตถุ 2 ชิ้น เช่น "หยิบลูกบอล แล้วเอาไปใส่ในกล่อง"
  • ทักษะทางอารมณ์: ลูกจะเริ่มเรียนรู้ที่จะ แสดงออกทางอารมณ์ ทั้งดีใจ เสียใจ หรือไม่พอใจได้อย่างชัดเจน

 

เมื่อไหร่ที่ควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ? (สัญญาณพัฒนาการล่าช้า)

แม้พัฒนาการของเด็กแต่ละคนจะไม่เท่ากัน แต่หากคุณพ่อคุณแม่สังเกตเห็นว่าลูกมีพฤติกรรมที่แตกต่างไปจากเกณฑ์อย่างชัดเจนในด้านใดด้านหนึ่งเป็นเวลานาน อาจเป็นสัญญาณเตือนที่ควรปรึกษากุมารแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญเพื่อขอคำแนะนำเพิ่มเติมค่ะ

  • ด้านการรู้คิด: ลูกมีปัญหาในการทำความเข้าใจสิ่งต่าง ๆ หรือไม่สามารถ ปฏิบัติตามคำสั่งง่าย ๆ ได้ และไม่แสดงออกถึงความเข้าใจในการแก้ปัญหา
  • ด้านอารมณ์และการเข้าสังคม: ลูกไม่มองหน้าสบตา หรือมีปัญหาในการแสดงออกถึงความรู้สึกของตนเอง และไม่เข้าใจการแสดงออกทางอารมณ์ของผู้อื่น
  • ด้านการพูดและภาษา: ลูกยังสื่อสารเป็นคำพูดไม่ได้ หรือไม่สามารถทำความเข้าใจบทสนทนาที่ง่าย ๆ ได้
  • ด้านการใช้กล้ามเนื้อมัดเล็กและมัดใหญ่: ลูกยังไม่สามารถพลิกตัว นั่ง เดิน หรือถือสิ่งของต่าง ๆ ได้ตามเกณฑ์อายุ

หากคุณแม่มีข้อสงสัยหรือไม่สบายใจ ควรปรึกษาคุณหมอเพื่อประเมินพัฒนาการของลูกอย่างละเอียด การทำความเข้าใจและให้ความรักที่เหมาะสมคือสิ่งสำคัญที่สุดในการดูแลลูกน้อยให้เติบโตอย่างแข็งแรงและมีความสุขค่ะ

 

พัฒนาการเด็ก 3 ขวบ โภชนาการสำคัญสำหรับนักสำรวจตัวน้อย

เมื่อลูกรักก้าวเข้าสู่วัย 3 ขวบ โภชนาการถือเป็นเรื่องสำคัญมากค่ะ เพราะการกินที่ถูกต้องจะช่วยให้ลูกมีพลังงานเพียงพอต่อการเรียนรู้และทำกิจกรรมต่าง ๆ ได้อย่างเต็มที่ มาดูกันว่าลูกวัยนี้ต้องการสารอาหารอะไรบ้างและควรจัดเมนูอาหารแบบไหนให้เหมาะสมค่ะ

ทำความเข้าใจความต้องการพลังงานและสารอาหาร

โดยเฉลี่ยแล้ว เด็กวัย 3 ขวบต้องการพลังงานประมาณ 1,200 กิโลแคลอรีต่อวัน เพื่อให้เพียงพอสำหรับการวิ่งเล่นและทำกิจกรรมต่าง ๆ รวมถึงการเจริญเติบโตของร่างกาย นอกจากนี้ยังต้องการโปรตีนประมาณ 1.2 กรัมต่อน้ำหนักตัวหนึ่งกิโลกรัมต่อวัน หรือประมาณ 25 กรัมต่อวัน ซึ่งส่วนใหญ่จะได้รับจากอาหารหลัก 3 มื้อ

เพื่อให้ลูกได้รับสารอาหารครบถ้วนตามต้องการ คุณแม่สามารถจัดอาหารให้ลูกได้ง่าย ๆ ดังนี้ค่ะ

  1. ข้าว: วันละ 4 ทัพพี
  2. เนื้อสัตว์หรือไข่: วันละ 6 ช้อนโต๊ะ และไข่วันละ 1 ฟอง
  3. น้ำมันสำหรับปรุงอาหาร: วันละ 1.5 ช้อนชา
  4. นมกล่องสำหรับเด็ก 1 ขวบขึ้นไป: คุณแม่สามารถเสริมด้วยนมกล่องวันละ 2 แก้ว เพื่อให้ลูกได้รับแคลเซียมและสารอาหารที่จำเป็นหลากหลายชนิด

 

อย่างไรก็ตาม หากคุณพ่อคุณแม่กังวลว่าลูกมีน้ำหนักเด็ก 3 ขวบที่ต่ำกว่าเกณฑ์ ควรพาไปปรึกษากุมารแพทย์เพื่อรับคำแนะนำที่เหมาะสมเพิ่มเติมนะคะ การใส่ใจเรื่องโภชนาการจะช่วยให้ลูกน้อยเติบโตได้อย่างสมบูรณ์และมีความสุขค่ะ

 

แบบประเมินพัฒนาการเด็ก 3 ขวบ ด้านร่างกายและอารมณ์

การได้เห็นลูกเติบโตขึ้นในทุกวันคือความสุขที่ยิ่งใหญ่ของคนเป็นพ่อแม่ค่ะ เพื่อให้มั่นใจว่าลูกรักที่กำลังเติบโตอย่างสมวัย คุณแม่สามารถใช้แบบประเมินง่าย ๆ นี้เพื่อเป็นแนวทางในการสังเกตพัฒนาการทางด้านร่างกายและอารมณ์ของลูกน้อยในวัย 3 ขวบได้ตามนี้ค่ะ

แบบประเมินพัฒนาการเด็ก 3 ขวบ ด้านร่างกาย

แบบประเมินพัฒนาการเด็ก 3 ขวบ สำหรับพัฒนาการด้านร่างกายจะแบ่งออกเป็น

  1. ด้านการเคลื่อนไหว
  2. ด้านการใช้กล้ามเนื้อมัดเล็กและสติปัญญา

 

สำหรับเด็กในช่วง 25 - 48 เดือน ซึ่งยึดตามแบบบันทึกการเฝ้าระวังและส่งเสริมพัฒนาการเด็กปฐมวัย จากกองกิจกรรมทางกายภาพ กระทรวงสาธารณสุข เพื่อให้คุณพ่อคุณแม่ได้ทราบถึงพัฒนาการของลูกในช่วงวัย 3 ขวบได้ในเบื้องต้นค่ะ

การประเมิน หากลูกทำได้ ให้ใส่เครื่องหมาย ☑️ (ผ่าน)ในช่องสี่เหลี่ยม หากลูกทำไม่ได้ ให้ใส่เครื่องหมาย ☑️ (ไม่ผ่าน)ในช่องสี่เหลี่ยม

แบบประเมินพัฒนาการด้านร่างกาย สำหรับเด็ก 3 ขวบ
ช่วงอายุด้านการเคลื่อนไหว
(Gross Motor)
ด้านการใช้กล้ามเนื้อมัดเล็กและสติปัญญา
(Fine Motor)
25 – 30 เดือนกระโดดเท้าพ้นพื้นทั้ง 2 ข้าง
◻️ ผ่าน ◻️ ไม่ผ่าน
แก้ปัญหาง่าย ๆ โดยใช้เครื่องมือได้
◻️ ผ่าน ◻️ ไม่ผ่าน
31 – 36 เดือนยืนขาเดียว 1 วินาที
◻️ ผ่าน ◻️ ไม่ผ่าน
เลียนแบบลากเส้นเป็นวงต่อเนื่องกัน
◻️ ผ่าน ◻️ ไม่ผ่าน
37 – 42 เดือนยืนขาเดียว 3 วินาที
◻️ ผ่าน ◻️ ไม่ผ่าน
เลียนแบบวาดรูปวงกลม
◻️ ผ่าน ◻️ ไม่ผ่าน
43 – 48 เดือนกระโดดขาเดียวได้อย่างน้อย 2 ครั้ง
◻️ ผ่าน ◻️ ไม่ผ่าน

ตัดกระดาษรูปสี่เหลี่ยมจัตุรัสขนาด 10 ซม. ออกเป็น 2 ชิ้น (โดยใช้กรรไกรปลายมน)
◻️ ผ่าน ◻️ ไม่ผ่าน

เลียนแบบวาดรูป + (กากบาท)
◻️ ผ่าน ◻️ ไม่ผ่าน

หมายเหตุ: เป็นเพียงการทำแบบประเมินพัฒนาการเบื้องต้นเท่านั้น คุณพ่อคุณแม่สามารถขอคำปรึกษาจากกุมารแพทย์เพื่อทำแบบประเมินพัฒนาการตามช่วงวัยของลูกอย่างละเอียดได้อีกครั้ง พร้อมการวิเคราะห์ผลที่ชัดเจนของพัฒนาการเด็กในช่วงวัย 3 ขวบค่ะ

 

แบบประเมินพัฒนาการเด็ก 3 ขวบ ด้านอารมณ์

แบบประเมินพัฒนาการความฉลาดทางอารมณ์ เด็กอายุ 3 ปี ฉบับย่อสำหรับผู้ปกครอง เป็นการทำแบบประเมินที่ยึดตามข้อมูลจากสถาบันราชานุกูล กรมสุขภาพจิต กระทรวงสาธารณสุข สำหรับการทำประเมินนี้เป็นการประเมินความฉลาดทางอารมณ์เด็ก ซึ่งแบ่งการประเมินคุณลักษณะ 3 ด้าน คือ

1. ด้านดี

เป็นความพร้อมทางอารมณ์ที่จะอยู่ร่วมกับผู้อื่นได้อย่างราบรื่นโดยประเมินจากการรู้จักอารมณ์ตนเองและผู้อื่น แสดงความเห็นใจหรือปลอบใจผู้อื่น อดทนรอคอยได้ มีนํ้าใจ รู้จักให้ รู้จักแบ่งปัน รู้ว่าทำผิดหรือยอมรับผิด

2. ด้านเก่ง

เป็นความพร้อมทางอารมณ์ที่จะพัฒนาตนไปสู่ความสำเร็จโดยประเมินจากความกระตือรือร้น สนใจใฝ่รู้และการปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลง

3. ด้านสุข

เป็นความพร้อมทางอารมณ์ที่จะทําให้ตนเองเกิดความสุข โดยประเมินจากการมีความพอใจ ความอบอุ่นใจ และความสนุกสนานร่าเริง

 

คำอธิบายก่อนทำแบบประเมิน

ให้คุณพ่อคุณแม่ ตอบคำถามที่เกี่ยวกับลูกในช่วง 4 เดือนที่ผ่านมา โดยเลือกคำตอบที่ใกล้เคียงกับตัวลูกที่เป็นอยู่จริงมากที่สุดนะคะ ข้อคำถามแต่ละข้อ มีคำตอบที่เป็นไปได้ 4 คำตอบคือ

  1. ไม่เป็นเลย หมายถึง ไม่เคยปรากฏ
  2. เป็นบางครั้ง หมายถึง นาน ๆ ครั้งหรือทำบ้างไม่ทำบ้าง
  3. เป็นบ่อยครั้ง หมายถึง ทำบ่อย ๆ หรือเกือบทุกครั้ง
  4. เป็นประจำหมายถึง ทำทุกครั้งเมื่อเกิดสถานการณ์นั้น

 

การให้คะแนนแบ่งเป็น 2 กลุ่ม

กลุ่มที่ 1 ให้คะแนนแต่ละข้อดังนี้กลุ่มที่ 2 ให้คะแนนแต่ละข้อดังนี้
ไม่เป็นเลย ให้ 1 คะแนนไม่เป็นเลย ให้ 4 คะแนน
เป็นบางครั้ง ให้ 2 คะแนนเป็นบางครั้ง ให้ 3 คะแนน
เป็นบ่อยครั้ง ให้ 3 คะแนนเป็นบ่อยครั้ง ให้ 2 คะแนน
เป็นประจำ ให้ 4 คะแนนเป็นประจำ ให้ 1 คะแนน
ข้อ 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 15ข้อ 14

 

การแปลผลจากการให้คะแนน

องค์ประกอบคะแนนเทียบกับเกณฑ์ปกติ
ต่ำกว่าเกณฑ์ปกติปกติสูงกว่าปกติ
ด้านดี (เต็ม 20 คะแนน)

1-11

12-19

20

ด้านเก่ง (เต็ม 20 คะแนน)

1-12

13-19

20

ด้านสุข (เต็ม 20 คะแนน)

1-12

13-18

19-20

ความฉลาดทางอารมณ์ (EQ) (เต็ม 60 คะแนน)

1-39

40-55

56-60

 

แบบประเมินความฉลาดทางอารมณ์ พัฒนาการเด็ก 3 ขวบ

สำหรับการให้คะแนนให้ใส่เครื่องหมาย ✔️ ไว้ในช่องที่ตรง กับตัวของลูกมากที่สุด

1.ด้านดี ไม่เป็นเลยเป็นบางครั้งเป็นบ่อยครั้งเป็นประจำคะแนน
1. แสดงความเห็นใจเมื่อเห็นเพื่อนหรือผู้อื่นทุกข์ร้อน เช่น บอกว่าสงสาร เข้าไปปลอบหรือเข้าไปช่วย     
2. หยุดการกระทําที่ไม่ดีเมื่อผู้ใหญ่ห้าม     
3. แบ่งปันสิ่งของให้คนอื่น ๆ เช่น ขนม ของเล่น     
4. บอกขอโทษหรือแสดงท่าทียอมรับผิดเมื่อรู้ว่าทําผิด     
5. อดทน และรอคอยได้     
      
2.ด้านเก่ง     
6. อยากรู้อยากเห็นกับของเล่นหรือสิ่งแปลกใหม่     
7. สนใจ รู้สึกสนุกกับงานหรือกิจกรรมใหม่ ๆ     
8. ซักถามในสิ่งที่อยากรู้     
9. เมื่อไม่ได้ของเล่นที่อยากได้ก็สามารถเล่นของอื่นแทน     
10. ยอมรับกฎเกณฑ์หรือข้อตกลง แม้จะผิดหวัง/ไม่ได้สิ่งที่ต้องการ     
      
3.ด้านสุข      
11. แสดงความภาคภูมิใจเมื่อได้รับคําชมเชย เช่น บอกเล่าให้ผู้อื่นรู้     
12. รู้จักหาของเล่น หรือกิจกรรมเพื่อสร้างความสนุกสนานเพลิดเพลิน     
13. แสดงอารมณ์สนุกหรือร่วมสนุกตามไปกับสิ่งที่เห็น เช่น ร้องเพลง กระโดดโลดเต้น หัวเราะเฮฮา     
14. เก็บตัว ไม่เล่นสนุกสนานกับเด็กคนอื่น ๆ     
15. ไม่กลัวเมื่อต้องอยู่กับคนที่ไม่สนิทสนม     
รวม      

 

คำแนะนำสำหรับคุณพ่อคุณแม่ในการส่งเสริมความฉลาดทางอารมณ์ของลูกน้อยวัย 3 ขวบ

1. ลูกมีความฉลาดทางอารมณ์สูงกว่าปกติ

หากผลการประเมินชี้ว่าลูกมีความฉลาดทางอารมณ์สูงกว่าปกติ ถือเป็นเรื่องที่น่ายินดีอย่างยิ่ง คุณพ่อคุณแม่ควรส่งเสริมและรักษาคุณลักษณะนี้ให้คงอยู่กับลูกต่อไป ด้วยการเปิดโอกาสให้ลูกได้แสดงออกและฝึกฝนทักษะทางอารมณ์อย่างสม่ำเสมอ เช่น การให้ลูกได้ช่วยเหลือผู้อื่น หรือให้ลูกเป็นผู้นำในการเล่นสนุกต่าง ๆ

2. ลูกมีความฉลาดทางอารมณ์ในระดับปกติ

ในกรณีที่ลูกมีระดับความฉลาดทางอารมณ์อยู่ในเกณฑ์ปกติ คุณพ่อคุณแม่สามารถช่วยให้ลูกพัฒนาทักษะในด้านนั้น ๆ ได้ดียิ่งขึ้น ควรเน้นการส่งเสริมและฝึกฝนอย่างต่อเนื่องในทุกด้าน เช่น การสอนให้ลูกรู้จักอารมณ์ต่าง ๆ ทั้งของตัวเองและผู้อื่น หรือการชวนลูกพูดคุยถึงความรู้สึกหลังทำกิจกรรมต่าง ๆ เพื่อให้ลูกเข้าใจและจัดการกับอารมณ์ของตัวเองได้ดีขึ้น

3. ลูกมีความฉลาดทางอารมณ์ในระดับที่ควรได้รับการพัฒนา

หากผลการประเมินพบว่าลูกควรได้รับการพัฒนาในด้านความฉลาดทางอารมณ์ ขอแนะนำให้คุณพ่อคุณแม่พาลูกเข้าปรึกษากุมารแพทย์เพื่อขอรับคำแนะนำเพิ่มเติม คุณหมออาจมีการทำแบบประเมินซ้ำอย่างละเอียด และจะให้แนวทางที่เหมาะสมและถูกต้องในการส่งเสริมพัฒนาการความฉลาดทางอารมณ์ของลูกน้อยต่อไปค่ะ

ช่วงวัย 3 ขวบเป็นช่วงเวลาสำคัญอย่างยิ่งสำหรับการส่งเสริมพัฒนาการของลูกน้อยในทุกด้าน ทั้งด้านร่างกาย ภาษา สติปัญญา สังคม และอารมณ์ หากคุณพ่อคุณแม่มีข้อสงสัยหรือต้องการประเมินพัฒนาการของลูกอย่างละเอียด สามารถปรึกษากุมารแพทย์ได้ทันที เพื่อให้ลูกได้รับการกระตุ้นพัฒนาการอย่างเหมาะสมและทันท่วงทีหากพบความผิดปกติค่ะ

คุณพ่อคุณแม่คะ การส่งเสริมพัฒนาการของลูกวัย 3 ขวบให้รอบด้านนั้นทำได้ง่าย ๆ ด้วยการให้ลูกได้เล่นของเล่นหรือทำกิจกรรมที่เหมาะสมตามวัย นอกจากนี้โภชนาการที่ดีก็เป็นเรื่องสำคัญไม่แพ้กันค่ะ เพราะสารอาหารที่มีประโยชน์และครบ 5 หมู่ จะช่วยให้ร่างกายและสมองของลูกพัฒนาอย่างเต็มที่ นอกจากนี้ การเสริมด้วยนมกล่องสำหรับเด็กวันละ 1-2 กล่อง คุณแม่ควรพิจารณาสารอาหารสำคัญที่ควรมีในนมกล่องเด็ก เช่น โอเมก้า 3, 6, 9 ดีเอชเอ (DHA), วิตามินบี 12 รวมถึงแอลฟาแล็ค สฟิงโกไมอีลิน (Alphalac Sphingomyelin) ที่มีส่วนสำคัญต่อการพัฒนาสมองของ เด็กเจนใหม่ ตั้งแต่แรกเกิด โดยทำหน้าที่เป็นสารอาหารสำคัญที่ช่วยสร้างสารสื่อประสาทในสมอง พร้อมทั้งเพิ่มความเร็วและประสิทธิภาพในการส่งสัญญาณประสาทให้ดียิ่งขึ้นค่ะ

 

บทความแนะนำสำหรับคุณแม่มือใหม่

อ้างอิง:

  1. Development Milestones for Your 3-Year-Old Child, Ready Children’s health
  2. พัฒนาการวัยเตาะแตะ 1-3 ปี ดูแลอย่างไรให้เด็กเติบโตสมวัยและแข็งแรง, โรงพยาบาลกรุงไทย
  3. พัฒนาการเด็ก แต่ละช่วงวัย (เด็กแรกเกิด - 6 ปี), โรงพยาบาลสมิติเวช
  4. กรมอนามัย เผย ผลวิจัย ชี้ เด็กเล่นกับพ่อส่งเสริมพัฒนาการด้านสติปัญญา ชวนใช้เวลาเล่นกันมากขึ้น สร้างพัฒนาการสมวัย, กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข
  5. ตารางน้ำหนัก-ส่วนสูงมาตราฐานเด็กไทย ทั้งชายหญิง, โรงพยาบาลเชียงใหม่ ราม
  6. กราฟมาตรฐานการเจริญเติบโตเด็กอายุ 0-5 ปี และ 6-19 ปี, สำนักโภชนาการ กรมอนามัย
  7. เรียนรู้พัฒนาการที่สมวัยของน้อง ๆ อายุแรกเกิด –3 ปีกันเถอะ, โรงพยาบาลแพทย์รังสิต
  8. พัฒนาการล่าช้าในเด็ก (Developmental Delay in Children), โรงพยาบาล MedPark
  9. อาหารเสริมลูกน้อยวัยอนุบาล, โรงพยาบาลศิริราช ปิยมหาราชการุณย์
  10. แบบบักทึกการเฝ้าระวังและส่งเสริมพัฒนาการเด็กปฐมวัย, กองกิจกรรมทางกายภาพ กระทรวงสาธารณสุข
  11. แบบประเมินความฉลาดทางอารมณ์ เด็กอายุ 3-5 ปี (ฉบับย่อ) สำหรับครู/ผู้ดูแล, สถาบันราชานุกูล กรมสุขภาพจิต
  12. เด็กอนุบาลเรียนอย่างไรให้มีความสุข, โรงพยาบาลกรุงเทพ สำนักงานใหญ่
  13. พัฒนาการสะดุด ถ้าไม่หยุด สมาร์ทโฟน, กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข
  14. ทำอย่างไรเมื่อลูกน้ำหนักน้อย, โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์

 

อ้างอิง ณ วันที่ 7 กันยายน 2568