อาหารที่คนท้องควรหลีกเลี่ยง

อาหารสำหรับคนท้อง สิ่งที่คนท้องห้ามกิน คุณแม่ควรเลี่ยง

โภชนาการหญิงตั้งครรภ์เป็นสิ่งสำคัญที่ส่งผลต่อการเจริญเติบโตและพัฒนาการของทารกในครรภ์ ตลอดช่วงเวลาของการตั้งครรภ์ คุณแม่จำเป็นต้องเลือกทานอาหารให้ได้พลังงานและสารอาหารที่เหมาะสมกับร่างกาย หากได้รับสารอาหารมากเกินไปหรือน้อยไปย่อมส่งผลไม่ดีต่อตัวคุณแม่เองและลูกน้อยในครรภ์เอาได้ การเลือกอาหารสำหรับคนท้องจึงเป็นสิ่งที่ต้องคำนึงถึงเป็นอย่างแรก แล้วแบบนี้คนท้องควรหลีกเลี่ยงอะไรบ้าง

headphones
อ่าน 7 นาที

 

อาหารที่คนท้องควรหลีกเลี่ยง 

อาหารและพฤติกรรมการกินของคุณแม่ระหว่างตั้งครรภ์ ล้วนเป็นหนึ่งในตัวกำหนดการเจริญเติบโตและสุขภาพร่างกายทั้งของลูกน้อยในท้องและคุณแม่ อาหารบางอย่างคุณแม่สามารถทานได้อย่างเอร็ดอร่อยในช่วงก่อนตั้งครรภ์ แต่พอตั้งครรภ์แล้วอาหารเหล่านั้นอาจเกิดผลเสียอย่างคาดไม่ถึง สำหรับอาหารที่คนท้องควรหลีกเลี่ยง มีดังนี้

 

คนท้องควรเลี่ยงอาหารรสเค็ม

 

  1. เนื้อสัตว์ติดมัน
    แม้ว่าในเนื้อสัตว์ติดมัน เช่น หมูสามชั้น ขาหมู คอหมู หนังไก่ เป็นต้น จะเป็นอาหารที่ให้พลังงานสูงแต่กลับเต็มไปด้วยไขมันอิ่มตัวที่ไม่มีประโยชน์ต่อร่างกาย หากคนท้องทานมากเกินไปจะทำให้เกิดการสะสมไขมันในร่างกายและในหลอดเลือดจนทำให้คุณแม่กลายเป็นคนรูปร่างอ้วนท้วมหรือมีน้ำหนักตัวเกินเกณฑ์ และอาจเกิดความเสี่ยงต่ออาการครรภ์เป็นพิษ ลูกตัวใหญ่เกินไปทำให้คลอดยาก ส่วนลูกน้อยอาจเสี่ยงต่อการเป็นโรคอ้วนในอนาคตอีกด้วย

  2. อาหารรสหวาน
    คงเป็นเรื่องที่น่าหนักใจสำหรับคุณแม่ที่ติดทานหวานไม่ว่าจะเป็นลูกอม ช็อกโกแลต หรือชอบเติมน้ำตาลในอาหารทุกครั้ง แต่เมื่อคุณแม่ตั้งครรภ์การหลีกเลี่ยงอาหารหวาน ๆ ย่อมดีกว่า เพราะหากคนท้องทานน้ำตาลในปริมาณมาก ๆ จะทำให้คุณแม่เสี่ยงต่อโรคอ้วนและโรคเบาหวานที่เป็นอันตรายต่อหญิงตั้งครรภ์ อีกทั้งน้ำตาลที่มากเกินความต้องการ ก็ไม่ได้ช่วยเพิ่มคุณค่าทางอาหารแต่อย่างใด แถมยังได้รับพลังงานที่ไม่มีประโยชน์ต่อร่างกายอีกด้วย

  3. อาหารรสเค็ม
    รสเค็มเป็นอีกหนึ่งรสชาติที่คนท้องหลายคนติดทานบ่อย ๆ จากการปรุงรสโดยใช้ น้ำปลา ซีอิ๊ว หรือเครื่องปรุงรสเค็มอื่น ๆ  ซึ่งพฤติกรรมการกินแบบนี้เองที่อาจทำให้คุณแม่เกิดโรคไต และโรคความดันโลหิตสูงโดยไม่รู้ตัวจนอาจทำให้เกิดผลกระทบต่อทารกในครรภ์ได้ ถ้าเลี่ยงได้ควรเลี่ยงดีกว่า

  4. เบเกอรี่ และขนมขบเคี้ยว
    เบเกอรี่ เช่น เค้ก พาย โดนัท หรือขนมขบเคี้ยวอย่างขนมถุงกรุบกรอบ ขนมปังแท่ง เป็นของว่างสุดโปรดของคุณแม่หรือเปล่านะ ในความเป็นจริงอาหารพวกเบเกอรี่ล้วนมีส่วนผสมที่เต็มไปด้วยแป้ง ไขมัน น้ำตาล และโซเดียมในปริมาณที่สูง  ถึงแม้จะให้พลังงานมาก แต่มีคุณค่าทางโภชนาการต่ำ ถ้าคุณแม่ทานบ่อย ๆ จะทำให้ได้รับสารอาหารที่จำเป็นต่อคนท้องได้น้อย เช่น โปรตีน วิตามิน และแร่ธาตุ ทำให้ส่งผลต่อเจริญเติบโตของทารกในครรภ์ในอนาคต

  5. อาหารแปรรูป และอาหารกระป๋อง
    อาหารแปรรูป เช่น ไส้กรอก ลูกชิ้น หมูยอ แหนม หรืออาหารกระป๋อง เป็นอาหารแปรรูปที่ผ่านกระบวนการผลิตจากการเติมสารเคมี และสารปรุงแต่งต่าง ๆ มากมาย เช่น โซเดียมไนเตรต โซเดียมฟอสเฟต บอแรกซ์ และผงชูรส หากคุณแม่ได้รับผงชูรสนปริมาณมาก ๆ อาจให้เกิดอาการขาดน้ำ วิงเวียนศีรษะ หรืออาการคลื่นไส้ได้

  6. อาหารหมัก อาหารดอง
    อาหารหมักดอง เป็นอาหารที่มีโซเดียมจากเกลือสูง มีวิตามินที่น้อยกว่าปกติเพราะสูญเสียไปกับกระบวนการหมักแล้ว ส่วนผลไม้ดอง มักมีการใช้สารแซคารีนหรือที่เรียกว่าขัณฑสกร ซึ่งเป็นสารสังเคราะห์ที่ใช้ในการทำอาหาร เมื่อคนท้องทานอาหารหมักดองเข้าไปมาก ๆ อาจทำให้เกิดอาการบวม และเกิดความเสี่ยงต่อโรคความดันโลหิตสูงในหญิงตั้งครรภ์ แล้วอาจส่งผลให้คนท้องเกิดอาการชัก หรือทำให้ทารกในครรภ์โตช้าผิดปกติจากการที่ปริมาณเลือดไหลผ่านรกมายังทารกในครรภ์ลดน้อยลง

  7. ปลาบางชนิด
    แม้ว่าปลา จะเป็นเนื้อสัตว์ที่เหมาะกับโภชนาการหญิงตั้งครรภ์ เป็นอาหารสำหรับคนท้อง เพราะเป็นโปรตีนที่ทานแล้วย่อยง่าย มีกรดไขมันที่มีประโยชน์ต่อพัฒนาการทางสมองของทารกในครรภ์แต่ไม่ใช่ปลาทุกชนิดที่คุณแม่ตั้งครรภ์จะทานได้ เนื่องจากปลาจากบางแหล่งอาจมีการปนเปื้อนของโลหะหนัก

  8. อาหารทะเลดิบ
    สำหรับอาหารทะเลที่ไม่มีการปรุงสุก โดยเฉพาะอาหารจำพวกสัตว์เปลือกแข็ง เช่น กุ้ง ปู หอย ไม่แนะนำให้ทานแบบดิบ หรือกึ่งสุกกึ่งดิบ เพราะในอาหารทะเลเหล่านี้มีโอกาสปนเปื้อนจากเชื้อแบคทีเรียนอกเหนือจากพยาธิ ทำให้คุณแม่อาจเกิดอาการอาหารเป็นพิษ และท้องเสียได้ง่าย จึงไม่เหมาะเป็นอาหารสำหรับคนท้อง

  9. ผงชูรส 
    อาหารที่มีส่วนประกอบของผงชูรส หรืออาหารกึ่งสำเร็จรูป มักมีโซเดียมจำนวนมาก หากทานผงชูรสมากจนเกินไปจะส่งผลต่อความดันโลหิตที่สูงขึ้น รวมถึงอาจทำให้เกิดโรคหัวใจ และโรคไตเรื้อรัง ทำให้เกิดผลข้างเคียงต่อร่างกาย เช่น ปากแห้ง คอแห้ง กระหายน้ำ ลิ้นชา มีอาการอ่อนเพลีย คลื่นไส้ ถึงแม้ในปัจจุบันยังไม่มีรายงานระบุว่าผลชูรสจะส่งผลกระทบต่อทารกในครรภ์หรือไม่ เพื่อความปลอดภัยคุณแม่ควรหลีกเลี่ยงอาหารที่มีผงชูรสเป็นส่วนประกอบ รวมถึงหลีกเลี่ยงน้ำจิ้มด้วยเช่นกัน เพราะในเครื่องปรุงเหล่านั้นมักใส่ผงชูรสในปริมาณมากๆ

  10. ผักบางชนิด
    ผักหลายชนิดมีประโยชน์สำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์ แต่ก็มีบางชนิด ที่คุณแม่ควรหลีกเหลี่ยง เช่น ผักเครือเถา เคยมีคำโบราณกล่าวไว้ว่าการทานผักเครือเถาจะทำให้คลอดยาก ซึ่งความจริงแล้วผักชนิดนี้จะมีสาร Purine สูง และเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เกิดโรคเกาต์ ซึ่งอันตรายต่อคุณแม่ตั้งครรภ์ 

 

เครื่องดื่มที่อาจส่งผลต่อพัฒนาการทารกในครรภ์

 

เครื่องดื่มที่อาจส่งผลต่อพัฒนาการทารกในครรภ์  แม่ตั้งครรภ์ควรระวังไว้

นอกจากอาหารแล้วคนท้องยังต้องระมัดระวังเครื่องดื่มที่อาจส่งผลกระทบต่อทารกในครรภ์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งแอลกอฮอล์ อย่างไรก็ตามการดื่มเครื่องดื่มที่มีปริมาณน้ำตาลสูง หรือเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีน หรือเครื่องดื่มชูกำลังเป็นประจำอาจส่งผลเสียต่อลูกน้อยในท้องได้

  1. แอลกอฮอล์
    การดื่มแอลกอฮอล์จำพวกเหล้า เบียร์ ไวน์ หรือเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ผสมในปริมาณเล็กน้อย อาจมีผลกระทบต่อพัฒนาการทางสมองของทารกในครรภ์ ทำให้เด็กที่ลูกน้อยเกิดมาปัญญาอ่อน ในขณะที่คุณแม่ที่ดื่มแอลกอฮอล์เป็นประจำในปริมาณที่มากจะทำให้ลูกน้อยเสี่ยงต่อการเกิดความผิดปกติแต่กำเนิด (Fetal Alcohol Syndrome : FAS) โดยมีลักษณะอาการทางร่างกายที่ผิดปกติ เช่น ช่องตาสั้น จมูกแบน ริมฝีปากบนยาวและบาง ส่วนกลางบริเวณใบหน้ามีพัฒนาน้อยกว่าปกติ เซลล์ประสาทถูกทำลาย และเกิดความผิดปกติทางสมอง เป็นต้น

  2. ชา กาแฟ
    เครื่องดื่มที่มีคาเฟอีน เช่น ชา กาแฟ เป็นเครื่องดื่มที่คนท้องหลายคนทานเป็นประจำ แต่คุณแม่รู้หรือไม่คาเฟอีนมีสารขับปัสสาวะ ส่งผลให้ร่างกายของคุณแม่มีการถ่ายปัสสาวะอยู่บ่อย ๆ ในทางกลับกันหากทารกในครรภ์ได้รับสารคาเฟอีนจากคุณแม่ในปริมาณมาก อาจทำให้ลูกน้อยมีการเจริญเติบโตที่ช้า หรือน้ำหนักต่ำกว่าเกณฑ์ได้ จึงไม่แนะนำสำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์

  3. น้ำอัดลม
    น้ำอัดลม เครื่องดื่มรสหวานให้พลังงานสูงประกอบไปด้วย น้ำ น้ำตาล และคาเฟอีน แต่ให้คุณค่าทางโภชนาการน้อยหรือแทบไม่มีเลย การดื่มน้ำอัดลมทำให้คุณแม่รู้สึกสดชื่นแต่อาจมาพร้อมกับโรคอ้วนได้ หากเป็นไปควรหลีกเลี่ยงและทานน้ำผลไม้คั้นสดหรือน้ำเปล่าจะดีกว่า

 

อาหารที่จำเป็นสำหรับคนท้อง เพื่อพัฒนาการที่ดีของลูกน้อยในครรภ์

คนท้องควรทานอาหารจำพวกโปรตีนและพลังงานสูง เช่น นม ไข่ ถั่วลิสง เป็นต้น โดยควรจัดอาหารให้ได้พลังงานวันละ 2,000 - 2,300 กิโลแคลอรี่ต่อวัน โภชนาการหญิงตั้งครรภ์ มีดังนี้

  • โปรตีน มีมากในเนื้อสัตว์ ถั่วเมล็ดแห้ง ผลิตภัณฑ์จากนม และไข่ เป็นหนี่งในสารอาหารที่สำคัญเพราะถ้าคุณแม่ได้รับพลังงานไม่พอ ร่างกายจะดึงโปรตีนมาใช้แทน หากคุณแม่ได้รับโปรตีนไม่เพียงพออาจทำให้การพัฒนาสมองของทารกในครรภ์ไม่สมบูรณ์ได้
  • ธาตุเหล็ก มักพบในอาหารจำพวกผักใบเขียว เนื้อหมู เนื้อวัว ถั่ว และธัญพืช มีส่วนช่วยในการสร้างเม็ดเลือดแดงให้เกิดการหมุนเวียนภายในร่างกายของคุณแม่และเกิดการส่งผ่านสู่ทารกในครรภ์ หากคุณแม่มีธาตุเหล็กน้อยอาจส่งผลต่อการพัฒนาสมองของลูกน้อย 
  • ไอโอดีน ส่วนใหญ่จะอยู่ในอาหารทะเล สำหรับคุณแม่ที่ไม่ทานอาหารทะเลสามารถเสริมไอโอดีนด้วยเกลือหรือเครื่องปรุงรสเสริมไอโอดีน เพราะไอโอดีนเป็นแร่ธาตุที่ช่วยในเรื่องของการเจริญเติบโตและสติปัญหาของทารก
  • แคลเซียม สามารถพบได้ในผลิตภัณฑ์จากนม และผักใบเขียว คุณแม่ควรรับแคลเซียมให้เพียงพอต่อร่างกาย เพราะลูกน้อยมักจะดึงเอาแคลเซียมจากแม่เพื่อไปเสริมสร้างพัฒนาการของกระดูกและฟันของตนเอง หากตัวคุณแม่ขาดแคลเซียมจะทำให้เกิดตะคริวได้ง่าย

 

อาหารที่จำเป็นสำหรับคนท้อง

 

  • โฟเลต พบมากในผักใบเขียว เช่น ถั่วชนิดต่าง ๆ ขนมปัง ธัญพืช ซึ่งมีส่วนสำคัญที่ช่วยในการเสริมสร้างพัฒนาของระบบประสาทและสมองของทารกในครรภ์ ทั้งยังช่วยลดความพิการทางสมองในทารกอีกด้วย
  • วิตามินซี มักอยู่ในผักและผลไม้สด โดยเฉพาะผลไม้รสเปรี้ยว มีส่วนช่วยในการเสริมสร้างภูมิต้านทานทั้งของคุณแม่และลูกน้อยในท้อง รวมถึงการดูดซึมธาตุเหล็กอีกด้วย
  • วิตามินดี พบมากในนม และผลิตภัณฑ์จากนม แต่ร่างกายของคุณแม่สามารถสร้างเองได้ เพียงแค่เดินกลางแสงแดดยามเช้าวันละ 30 นาที ก็เพียงพอต่อร่างกาย เพื่อให้ร่างกายนำไปส่วนช่วยในการดูดซึมแคลเซียม

 

อย่างไรก็ตาม คุณแม่ควรขอรับคำแนะนำหรือคำปรึกษาเกี่ยวกับโภชนาการหญิงตั้งครรภ์กับคุณหมอที่ฝากครรภ์หรือบุคลากรสาธารณสุขแบบรายบุคคล เพื่อที่คุณหมอจะได้ทำการประเมินภาวะโภชนาการ แล้วให้คำแนะนำพฤติกรรมการกิน และอาหารสำหรับคนท้องให้เหมาะสมกับคุณแม่ได้ เพื่อเป็นการป้องกัน และลดภาวะแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้นในระหว่างการตั้งครรภ์

 

บทความแนะนำ

วันตกไข่ คืออะไร นับวันตกไข่อย่างไรให้แม่นยำ ไม่มีพลาด

วันตกไข่ คืออะไร นับวันตกไข่อย่างไรให้แม่นยำ ไม่มีพลาด

ใครอยากมีลูกต้องอ่าน วันตกไข่ คืออะไร ทำไมถึงสำคัญ อาการแบบไหนถึงรู้ว่าตัวเองอยู่ในช่วงวันตกไข่ และนับวันตกไข่แบบไหน ช่วยเพิ่มโอกาสในการตั้งครรภ์ให้คนที่อยากมีลูก

วิธีนับอายุครรภ์ คำนวณอายุครรภ์ด้วยตัวเอง ก่อนคลอด

วิธีนับอายุครรภ์ คำนวณอายุครรภ์ด้วยตัวเอง ก่อนคลอด

วิธีการนับอายุครรภ์คืออะไร ทำไมคุณแม่ต้องรู้และวิธีคำนวณอายุครรภ์ที่ถูกต้อง นับแบบไหนได้บ้าง เพื่อให้คุณแม่วางแผนการคลอดและติดตามพัฒนาการของลูกในครรภ์ได้อย่างแม่นยำ

แผลฝีเย็บหลังคลอด ดูแลอย่างไรให้ปลอดภัย แผลหายเร็ว

แผลฝีเย็บหลังคลอด ดูแลอย่างไรให้ปลอดภัย แผลหายเร็ว

แผลฝีเย็บหลังคลอด ดูแลอย่างไรให้ปลอดภัย แผลหายเร็ว

ฤกษ์ดีผ่าคลอด ปี 2565

ฤกษ์ผ่าคลอด 2565 ฤกษ์คลอด ฤกษ์มงคล เสริมดวงลูกรัก

ฤกษ์ดีผ่าคลอด ปี 2565 การกำหนด ฤกษ์ผ่าคลอด หรือ ฤกษ์คลอด ควรทำควบคู่ไปกับการขอรับคำปรึกษาจากแพทย์ผู้ทำคลอดด้วย เพราะหากผู้ปกครองดื้อรั้นกำหนดวันคลอดเองโดยไม่ได้รับความเห็นชอบจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ นอกจากจะไม่ได้รับอนุญาตให้คลอดในวันดังกล่าวแล้ว ยังอาจมีผลกระทบต่อสุขภาพของคุณแม่และทารกในครรภ์ไปตลอดชีวิตอีกด้วย

ผ่าคลอดดีไหม ผ่าคลอดเจ็บไหม ดูแลแผลผ่าคลอดอย่างไร

ผ่าคลอดดีไหม ผ่าคลอดเจ็บไหม ดูแลแผลผ่าคลอดอย่างไร

ไขข้อสงสัยเกี่ยวกับการ ผ่าคลอด พร้อมคำแนะนำต่างๆ เพื่อเตรียมพร้อมให้คุณแม่มั่นใจเมื่อผ่าคลอด

แม่ท้องพร้อม เข้าใจอาการคนท้อง

แม่ท้องพร้อม! วิธีดูแลครรภ์ จัดการกับความกังวล เข้าใจอาการคนท้อง

เคล็ดลับการดูแลครรภ์ วิธีจัดการกับความกังวล รวมไปถึงการรับมือกับอาการคนท้อง

ฤกษ์ผ่าคลอด ฤกษ์คลอด ปี 2566

ฤกษ์ผ่าคลอด 2566 ฤกษ์คลอด วัน เวลาดี เสริมดวงลูกรัก

สำหรับลูกน้อยที่เกิดในปี 2566 ตรงกับนักษัตรเถาะ มักเป็นคนที่นุ่มนวล มารยาทงาม มีสัมมาคารวะ เป็นที่รักของผู้ใหญ่และคนรอบข้าง คุณพ่อคุณแม่ที่กำลังกำลังวางแผนการตั้งครรภ์ หรือหาฤกษ์คลอด ฤกษ์ผ่าคลอดมหามงคล เพื่อส่งเสริมดวงให้ลูกน้อยในปีนี้ S-Mom Club มีฤกษ์ผ่าคลอดสุดเฮงสำหรับปีนี้มาแนะนำค่ะ