คุณแม่ท้อง 4 เดือน ลูกดิ้นหรือยัง อายุครรภ์ 4 เดือน ลูกอยู่ตรงไหน
เมื่อคุณแม่อายุครรภ์ได้ 4 เดือน เด็กในครรภ์จะเริ่มมีขนาดตัวประมาณ 16 เซนติเมตร และมีน้ำหนักตัวประมาณ 100 กรัม ในส่วนของคุณแม่นั้นก็จะมีน้ำหนักเพิ่มขึ้น 1-2 กิโลกรัม ระบบย่อยอาหารมีการเปลี่ยนแปลงเช่น อาการท้องผูก ท้องอืดและท้องเฟ้อเป็นต้น คุณแม่ควรดื่มน้ำวันละ 6-8 แก้ว และรับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ โดยเน้นไปที่โปรตีนเพราะช่วงอายุครรภ์ 4 เดือน ร่างกายต้องการโปรตีนสูง และควรเลี่ยงอาหารจำพวกแป้งและน้ำตาล เนื่องจากไม่มีความจำเป็นต่อร่างกายของคุณแม่มากนัก และควรพักผ่อนให้เพียงพอเพื่อพัฒนาการที่ดีของเด็กในครรภ์
สรุป
- การเปลี่ยนแปลงที่เกิดกับคุณแม่อายุครรภ์ 4 เดือนมีหลากหลายอาการ เช่น ท้องอืด ท้องเฟ้อ เป็นตะคริว ท้องผูก อ่อนเพลีย เวียนศีรษะ และอื่น ๆ ในช่วงนี้คุณแม่อาจจะต้องหมั่นสังเกตอาการต่าง ๆ เหล่านี้ที่เกิดขึ้น และรักษาสุขภาพให้ดีที่สุดเพื่อสุขภาพของคุณแม่เองและเด็กในครรภ์
- เมื่ออายุครรภ์เข้าสู่เดือนที่ 4 ทารกในครรภ์เริ่มมีขยับตัว และมีการเตะ ต่อย การพลิกตัวไปมาบ่อยครั้งจนคุณแม่รู้สึกได้ชัดเจนมากขึ้น ซึ่งการขยับตัว การดิ้นอย่างมากของทารกในครรภ์ไม่ได้เป็นความผิดปกติแต่อย่างใด โดยเด็กจะขยับตัวและดิ้นไปเรื่อย ๆ จนถึงอายุครรภ์ 8 เดือน หลังจากนั้นจะเริ่มคงที่ต่อไป
เลือกอ่านตามหัวข้อ
- คุณแม่ท้อง 4 เดือน น้ำหนักควรเพิ่มกี่กิโลกรัม เมื่อเทียบกับก่อนตั้งครรภ์
- คุณแม่ท้อง 4 เดือน มีอาการอย่างไร
- ท้อง 4 เดือนลูกจะเริ่มดิ้นหรือยัง
- ท้อง 4 เดือน จะรู้เพศของลูกชัวร์หรือไม่
- คุณแม่ท้อง 4 เดือน ควรดูแลตัวเองให้ครบทุกข้อ
ในช่วงอายุครรภ์ 4 เดือน ทารกจะมีน้ำหนักตัวราว 100 กรัม ร่างกายเริ่มมีการเจริญเติบโตเป็นรูปเป็นร่างมากขึ้น โดยมีลำตัวยาวประมาณ 16 เซนติเมตร
คุณแม่ท้อง 4 เดือน น้ำหนักควรเพิ่มกี่กิโลกรัม เมื่อเทียบกับก่อนตั้งครรภ์
คุณแม่อายุครรภ์ 4 เดือน หรือ ท้อง 17 สัปดาห์ จะมีน้ำหนักตัวที่เพิ่มขึ้น 4-5 กิโลกรัม เมื่อนับตั้งแต่เริ่มตั้งครรภ์
คุณแม่ท้อง 4 เดือน จะมีอาการอย่างไร
- มีอาการอาหารไม่ย่อย ท้องอืด ท้องเฟ้อ อาการนี้พบมากในคุณแม่อายุครรภ์ 4 เดือน เกิดจากระบบย่อยอาหารที่มีการเปลี่ยนแปลงตามอายุครรภ์ คุณแม่ควรรับประทานอาหารสำหรับคนท้องให้ครบ 5 หมู่ โดยเน้นรับประทานจำพวกอาหารที่มีกากใยสูง เช่นผักและผลไม้ที่มีกากใยช่วยในการทำงานของระบบย่อยอาหารให้ดียิ่งขึ้น
- เป็นตะคริว อาการเป็นตะคริวอาจเกิดจากร่างกายมีภาวะแคลเซียมในเลือดต่ำ หรือภาวะร่างกายขาดน้ำและความผิดปกติของเกลือแร่ในร่างกาย คุณแม่ควรรับประทานอาหารที่มีแคลเซียมสูง เช่น นม และควรดื่มน้ำในปริมาณที่แนะนำคือ 6-8 แก้วต่อวัน ก็สามารถช่วยลดอาการเป็นตะคริวลงได้
- ท้องผูก คุณแม่ควรรับประทานอาหารจำพวกผักและผลไม้ อาหารที่มีกากใยสูง และดื่นน้ำวันละ 6-8 แก้ว เพื่อช่วยให้ระบบย่อยอาหารดีขึ้น สามารถลดอาการท้องผูกลงได้
- อ่อนเพลีย เวียนศีรษะ อาจเกิดจากระดับฮอร์โมนในร่างกายมีการเปลี่ยนแปลง หลอดเลือดเกิดการหย่อนตัวและไม่สามารถส่งเลือดไปเลี้ยงอวัยวะสำคัญได้มากพอ ทำให้ความดันเลือดต่ำจนอาการอ่อนเพลียและความเครียดสะสมเป็นเวลานาน ก็เป็นอีกหนึ่งสาเหตุที่ทำให้เกิดอาการ อ่อนเพลีย วิงเวียนศีรษะ ได้เช่นกัน
- ผิวคล้ำขึ้นอย่างเห็นได้ชัด บริเวณใบหน้า คอ ลำตัว รักแร้ อาการทั้งหมดเกิดจากการเปลี่ยนแปลงของระดับฮอร์โมนที่คอยกระตุ้นให้สีผิวเข้มขึ้นกว่าเดิม ซึ่งสามารถแก้ปัญหาได้ด้วยการหลีกเลี่ยงการตากแดดกลางแจ้ง และการใช้ครีมบำรุงผิวเพื่อให้ผิวหนังชุ่มชื่นอยู่เสมอและปรับสภาพผิวให้กลับสู่สภาพเดิม
- มีเส้นดำขึ้นเป็นทางยาวกลางท้อง อาการเส้นดำขึ้นเป็นทางยาวกลางท้องตั้งแต่สะดือไปจนถึงหัวหน่าว พบได้มากกว่า 80 เปอร์เซ็นต์ ของคุณแม่ตั้งครรภ์ อาการดังกล่าวไม่เป็นอันตรายต่อเด็กในครรภ์แต่อย่างใด ส่วนสาเหตุเกิดมาจากระดับฮอร์โมนในร่างกายที่มีการเปลี่ยนแปลง ซึ่งอาการเส้นดำขึ้นเป็นทางยาวกลางท้องจะหายไปตามเองหลังจากคุณแม่คลอดแล้ว ดังนั้นไม่มีความจำเป็นต้องรักษาหรือดูแลเป็นพิเศษแต่อย่างใด
ท้อง 4 เดือนลูกจะเริ่มดิ้นหรือยัง
คุณแม่อายุครรภ์ขึ้นเดือนที่ 4 จะรับรู้ได้ถึงการดิ้นของลูกในครรภ์ หากลูกในครรภ์ดิ้นมากและดิ้นแรงก็เป็นอาการปกติ ไม่ต้องกังวลแต่อย่างใด แต่หากลูกดิ้นแรงและหยุดไปเลย อาการนี้อาจเกิดความผิดปกติของลูกในครรภ์ คุณแม่ควรรีบเข้าพบแพทย์โดยทันที และควรมีการตรวจสุขภาพของทารกในครรภ์อย่างต่อเนื่องเช่น การตรวจอัลตราซาวด์ การตรวจสุขภาพทารกในครรภ์ และการตรวจวัดความเร็วของเลือดในหลอดเลือดทารกในครรภ์ เป็นต้น
ท้อง 4 เดือน จะรู้เพศของลูกชัวร์หรือไม่
หลังจากทราบว่าตั้งครรภ์ แล้วคุณแม่ส่วนใหญ่จะต้องอยากรู้ว่าได้ลูกชายหรือลูกสาวกันแน่ ซึ่งในช่วงระยะครรภ์ 4 เดือน คุณแม่สามารถตรวจเพศของลูกได้ด้วย 3 วิธี ดังนี้
- อัลตราซาวด์ แต่วิธีนี้มีข้อจำกัดที่ว่าลูกน้อยในท้องต้องให้ความร่วมมือกับคุณหมอด้วยการอยู่ในท่าที่เหมาะสม ไม่หนีบขา ส่วนความแม่นยำนั้นต้องอาศัยประสบการณ์และความเชี่ยวชาญของคุณหมอที่ตรวจด้วย
- เจาะเลือดตรวจโครโมโซมหรือที่เรียกกันว่า "NIPT" (Non-Invasive Prenatal Testing) จริง ๆ แล้วเป็นการตรวจเพื่อคัดกรองความผิดปกติของลูกในครรภ์โดยการเก็บตัวอย่างเลือดของคุณแม่ส่งตรวจทางห้องปฏิบัติการ นอกจากนี้ผลการตรวจทำให้สามารถทราบเพศของลูกได้ โดยใช้เวลารอผลตรวจประมาณ 1 สัปดาห์ มีความปลอดภัยและความแม่นยำสูงถึง 99 เปอร์เซ็นต์ แต่ค่าใช้จ่ายก็สูงตามไปด้วย
- การเจาะน้ำคร่ำ วิธีนี้หากไม่มีความเสี่ยงหรือความผิดปกติของลูกในครรภ์ คุณหมอจะไม่แนะนำให้ทำเนื่องจากมีความเสี่ยงที่จะเกิดการแท้งบุตรได้ โดยคุณหมอจะใช้เข็มเล็กและยาวแทงลงไปทางหน้าท้องเข้าไปยังถุงน้ำคร่ำและดูดน้ำคร่ำออกมาตรวจ โดยทั่วไปจะเน้นในการตรวจคัดกรองดาวน์ซินโดรมเป็นหลักแต่ก็สามารถระบุเพศได้เช่นกัน ผลที่ได้มีความแม่นยำสูงไม่ต่างจากวิธีตรวจ NIPT แต่ราคาจะย่อมเยากว่า
คุณแม่ท้อง 4 เดือน ควรดูแลตัวเองให้ครบทุกข้อ
- เน้นรับประทานผักผลไม้ ที่มีกากใยสูง เนื่องจากคนท้องจะมีอาการท้องผูกได้ง่าย กากใยจากผักผลไม้จะช่วยให้ขับถ่ายสะดวกขึ้น อีกทั้งยังได้รับวิตามินและเกลือแร่ที่ส่งผลดีต่อการตั้งครรภ์ของคุณแม่ด้วย เช่น ผักใบเขียว ส้ม กล้วย แอปเปิล เป็นต้น
- เน้นอาหารที่มีธาตุเหล็ก คุณแม่ที่กำลังตั้งครรภ์ควรได้รับธาตุเหล็กเพิ่มขึ้น 2 เท่าจากปกติ หากคุณแม่ได้รับไม่เพียงพอจะเกิดภาวะโลหิตจางซึ่งส่งผลต่อการพัฒนาสมองของทารกในครรภ์ อาหารที่มีธาตุเหล็กสูง เช่น ตับ เนื้อสัตว์ ไข่ ถั่ว ผักใบเขียว เป็นต้น
- ออกกำลังกายเบา ๆ เช่น การเดิน หรือ โยคะ การออกกำลังกายเบา ๆ จะช่วยให้หัวใจ ปอด และร่างกายของคุณแม่แข็งแรง ระบบย่อยอาหารทำงานได้ดี ช่วยเรื่องการนอนหลับ ช่วงอายุครรภ์ 4 เดือนแนะนำการออกกำลังกายด้วยการเดินหรือเล่นโยคะ เพื่อช่วยสร้างกล้ามเนื้อให้พร้อมรองรับน้ำหนักตัวที่จะเพิ่มขึ้น
- ไม่ควรเครียด เพราะจะส่งผลกระทบต่อสุขภาพของคุณแม่ โดยจะมีอาการนอนไม่หลับ อ่อนเพลีย คลื่นไส้ ทำให้ร่างกายมีภูมิต้านทานลดต่ำลง และความเครียดจะส่งผลต่อทารกในครรภ์ หากอายุครรภ์น้อยมีความเสี่ยงที่จะมีภาวะแท้งได้ หรือมีโอกาสที่จะคลอดก่อนกำหนด
- พบคุณหมอตามนัดทุกครั้ง โดยปกติอายุครรภ์ 4 เดือนหมอจะนัดตรวจทุก 4 สัปดาห์ เพื่อติดตามอาการของคุณแม่ ในกรณีที่มีความเสี่ยง สามารถทำอัลตราซาวด์หรือตรวจโครโมโซม เพื่อตรวจหาความผิดปกติของลูกได้
เมื่อคุณแม่อายุครรภ์เดือนที่ 4 คุณแม่จะรับรู้ได้ถึงการเปลี่ยนแปลงทั้งตัวของคุณแม่เองและลูกในครรภ์ ซึ่งอาจจะมีรู้สึกผิดแปลกไปจากเดิมบ้าง คุณแม่ค่อย ๆ ปรับตัวให้เคยชินกับความเปลี่ยนแปลงนี้ และควรหมั่นดูแลสุขภาพกายและสุขภาพจิตให้ดี เพื่อสุขภาพของคุณแม่และการเจริญเติบโต พัฒนาการที่ดีของลูกในครรภ์ต่อไป
บทความแนะนำสำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์
- พัฒนาการทารกในครรภ์ 1-40 สัปดาห์ ที่แม่มือใหม่ห้ามพลาด
- คุณแม่ท้อง 5 เดือน อาการตั้งครรภ์ 5 เดือน เป็นแบบไหน พร้อมวิธีรับมือ
- คุณแม่ท้อง 6 เดือน อาการตั้งครรภ์ 6 เดือน เป็นแบบไหน พร้อมวิธีรับมือ
- คุณแม่ท้อง 7 เดือน อาการตั้งครรภ์ 7 เดือน เป็นแบบไหน พร้อมวิธีรับมือ
- คุณแม่ท้อง 8 เดือน อาการตั้งครรภ์ 8 เดือน เป็นแบบไหน พร้อมวิธีรับมือ
- คุณแม่ท้อง 9 เดือน อาการตั้งครรภ์ 9 เดือน เป็นแบบไหน พร้อมวิธีรับมือ
- อาการแพ้ท้องของคุณแม่ แพ้ท้องพะอืดพะอม แก้ยังไง พร้อมวิธีรับมือ
- น้ำคร่ำ คืออะไร น้ำคร่ำรั่ว อาการแบบไหน สัญญาณใกล้คลอดที่ต้องรับมือ
- อาการท้องแข็งบ่อย ลูกโก่งตัวบ่อย อันตรายหรือไม่ ทำไมคุณแม่ต้องรู้
- เลือดล้างหน้าเด็กสีอะไร เลือดล้างหน้าเด็กสัญญาณแรกของการตั้งครรภ์
- ตั้งครรภ์ มีเลือดออก ไม่ปวดท้อง คืออะไร อันตรายไหม สำหรับแม่ตั้งครรภ์
- อาการคนท้องระยะแรก สัญญาณการตั้งครรภ์เป็นแบบนี้
- เมนูคนท้อง อาหารคนท้องบำรุงคุณแม่ท้อง ดีต่อลูกในครรภ์
- คนท้องห้ามกินอะไร อาหารที่ส่งผลเสียต่อคุณแม่ตั้งครรภ์
- อาหารคนท้องไตรมาสแรก โภชนาการที่สำคัญสำหรับคุณแม่และทารกในครรภ์
- วิธีนับอายุครรภ์ คำนวณอายุครรภ์ด้วยตัวเอง ก่อนคลอด
- สัญญาณอาการใกล้คลอด เจ็บท้องคลอด อาการก่อนคลอดของคุณแม่
- ของใช้เตรียมคลอด ที่คุณแม่มือใหม่ควรเตรียมของไปคลอด
- ภาวะซึมเศร้าหลังคลอดเกิดจากอะไร พร้อมวิธีรับมืออาการซึมเศร้าหลังคลอด
- ฤกษ์คลอด ฤกษ์ผ่าคลอด วันมงคล เวลาดี สำหรับลูกรัก
อ้างอิง:
- พัฒนาการของทารกในครรภ์ตลอด 9 เดือน เป็นอย่างไรบ้างนะ, โรงพยาบาลพญาไท
- คำแนะนำ คุณแม่ตั้งครรภ์ไตรมาส 2 (อายุครรภ์ 4-6 เดือน), โรงพยาบาลเปาโล
- การดิ้นของทารกในครรภ์ สัญญาณที่คุณแม่ควรรู้, โรงพยาบาลบางปะกอกสมุทรปราการ
- ตะคริวระหว่างตั้งครรภ์ สามารถป้องกันดูแลได้, โรงพยาบาลบางปะกอกสมุทรปราการ
- อาการหน้ามืด อ่อนเพลียในคุณแม่ตั้งครรภ์, โรงพยาบาลกรุงเทพสิริโรจน์
- 6 ปัญหาผิวช่วงตั้งครรภ์ ที่คุณแม่ต้องรับมือ, โรงพยาบาลบางปะกอกสมุทรปราการ
- อยากรู้เพศลูกตั้งแต่แรกเพื่อเตรียมความพร้อม, โรงพยาบาลจุฬารัตน์ 9 แอร์พอร์ต
- โภชนาการระหว่างตั้งครรภ์, โรงพยาบาลเปาโล
- เทคนิคดูแลตัวเองระหว่างตั้งครรภ์อย่างมีสุขภาพดีทั้งแม่และทารกในครรภ์, โรงพยาบาลนครธน
- ความเครียดของคุณแม่ตั้งครรภ์..สามารถส่งต่อจากแม่สู่ลูกได้นะ!, โรงพยาบาลพญาไท
- ฝากครรภ์ครั้งแรกต้องทำอย่างไร ตอบข้อสงสัยคุณแม่มือใหม่, โรงพยาบาลนครธน
อ้างอิง ณ วันที่ 4 มกราคม 2567
บทความที่เกี่ยวข้อง