พัฒนาการตั้งครรภ์สัปดาห์ที่ 33

พัฒนาการตั้งครรภ์สัปดาห์ที่ 33

พัฒนาการการตั้งครรภ์ 40 สัปดาห์  พัฒนาการตั้งครรภ์สัปดาห์ที่ 33

headphones
อ่าน 3 นาที

พัฒนาการตั้งครรภ์สัปดาห์ที่ 33

 

คุณแม่ท้องจัดว่ามีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อต่างๆ ได้ง่ายและหายยาก เนื่องจากภูมิต้านทานที่ต่ำลง  ดังนั้น ในช่วงที่อากาศเปลี่ยนแปลง จึงเป็นหวัดได้ง่าย และบางครั้งก็จะยังมีน้ำมูกหรือไอเรื้อรังเป็นสัปดาห์ ไม่เว้นแม้แต่ระบบทางเดินอาหาร ก็ง่ายต่อการเกิดลำไส้อักเสบ อาหารเป็นพิษ
การรับประทานอาหารจึงต้องระวัง ล้างมือให้สะอาดก่อนหยิบจับอาหารเข้าปาก ไม่ทานอาหารสุกๆ ดิบๆ และเมื่อมีอาการอาหารเป็นพิษ ควรพักผ่อนให้เพียงพอ รวมถึงดื่มน้ำหรือน้ำเกลือแร่ หรือหากมีอาการเพลีย ขาดน้ำ ควรรีบมาโรงพยาบาลเพื่อรับน้ำเกลือ เพราะหากมีอาการขาดน้ำรุนแรงหรือช็อก อาจส่งผลต่อลูกในครรภ์หรือเจ็บครรภ์คลอดก่อนกำหนดได้


พัฒนาการลูก

ลูกมีน้ำหนักประมาณ 1,800-1,900 กรัม มีผมและเล็บยาวขึ้น และมีไขมันหุ้มเคลือบตัวลูกหนามากขึ้น และระบบทางเดินหายใจพัฒนาศักยภาพใกล้เต็มที่
 

พัฒนาการตั้งครรภ์สัปดาห์ที่ 33

Tips

คุณแม่ควรระวังเรื่องของการติดเชื้อ ไม่ว่าจะเป็นทางระบบไหน ได้แก่

  • นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอวันละ 8-10 ชม. ซึ่งมักจะต้องมีเวลาหลับช่วงกลางวันสัก 30 นาทีเป็นอย่างน้อย
  • ดื่มน้ำสะอาดให้เพียงพอ
  • รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ เช่น โปรตีนคุณภาพ จากปลา เนื้อสัตว์ ไข่ นม ถั่วคุณภาพ เช่น อัลมอนด์ ซึ่งช่วยในการเสริมสร้างสารในระบบภูมิคุ้มกัน
  • รักษาร่างกายให้อบอุ่นอยู่เสมอ และในช่วงที่มีการระบาดของโรค เช่น ไข้หวัด คุณแม่ควรหลีกเลี่ยงการอยู่ในที่ชุมชนแออัด หรือถ้าจำเป็นก็ต้องสวมหน้ากากอนามัยป้องกัน
  • สารอาหารที่ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน เช่น วิตามิน C พบในผลไม้ เช่น ส้ม มะนาว บร็อคโคลี่ มะเขือเทศ, Beta-Carotene พบในแครอท ฟักทอง ผักใบเขียวสดๆ แคนตาลูป มะละกอสุก, วิตามิน E พบในน้ำมันมะกอก ข้าวโพด, วิตามิน B6 พบในกล้วย นม ตับ ธัญพืช เป็นต้น
  • หากเป็นหวัดหรือไข้หวัดเรื้อรัง มีการศึกษาว่าการทานวิตามิน C วันละ 2,000 มิลลิกรัม ช่วยลดระยะเวลาการป่วย, ต้านการหลั่งสาร Histamine จึงลดอาการคัดจมูก จาม น้ำมูกไหลและลดสารก่อภูมิแพ้ลงได้  ร้อยละ 38 ในหนึ่งสัปดาห์

       นอกจากนี้ แคลเซียมยังช่วยเพิ่มการดูดซึมธาตุเหล็กซึ่งจำเป็นสำหรับคุณแม่ท้องอีกด้วย

 


บทความอื่นๆ ที่สนใจ 

พัฒนาการตั้งครรภ์สัปดาห์ที่ 32

พัฒนาการตั้งครรภ์สัปดาห์ที่ 34

 

 

บทความแนะนำ

หลังผ่าคลอดกินอะไรได้บ้าง  แม่หลังคลอดทานอะไรให้แผลหายเร็ว

หลังผ่าคลอดกินอะไรได้บ้าง แม่หลังคลอดทานอะไรให้แผลหายเร็ว

หลังผ่าคลอดกินอะไรได้บ้าง  คำถามหลังผ่าคลอดที่คุณแม่มือใหม่มักกังวลใจ หลังผ่าคลอดกินอะไรได้บ้าง  เมนูอาหารแบบไหนที่คุณแม่ผ่าคลอดกินได้ และควรหลีกเลี่ยงหลังผ่าคลอด

12 เมนูคนท้อง อาหารคนท้องบำรุงคุณแม่ท้อง ดีต่อลูกในครรภ์

12 เมนูอาหารคนท้องบำรุงคุณแม่ อาหารคนท้อง ดีต่อลูกในครรภ์

รวมเมนูคนท้อง อาหารคนท้อง ช่วยบำรุงครรภ์คุณแม่ให้แข็งแรงและสมบูรณ์ เพื่อให้ลูกน้อยในครรภ์ได้รับโภชนาการที่ดีและครบถ้วน ไปดูเมนูคนท้องและอาหารคนท้องที่ดีกับลูกกัน

วันตกไข่ คืออะไร คุณแม่นับวันตกไข่อย่างไรให้แม่นยำ ไม่มีพลาด

วันตกไข่ คืออะไร คุณแม่นับวันตกไข่อย่างไรให้แม่นยำ ไม่มีพลาด

วันตกไข่ คืออะไร อาการแบบไหนที่บอกว่าคุณแม่อยู่ในช่วงวันตกไข่ พร้อมวิธีนับวันตกไข่ให้แม่นยำสำหรับคุณแม่มือใหม่ ช่วยเพิ่มโอกาสในการตั้งครรภ์ ให้คุณแม่ที่อยากมีลูก

6 วิธีนับอายุครรภ์ คำนวณอายุครรภ์ด้วยตัวเอง ก่อนคลอด

6 วิธีนับอายุครรภ์ คำนวณอายุครรภ์ด้วยตัวเอง ก่อนคลอด

วิธีการนับอายุครรภ์คืออะไร ทำไมคุณแม่ต้องรู้และวิธีคำนวณอายุครรภ์ที่ถูกต้อง นับแบบไหนได้บ้าง เพื่อให้คุณแม่วางแผนการคลอดและติดตามพัฒนาการของลูกในครรภ์ได้อย่างแม่นยำ

แผลฝีเย็บหลังคลอด คุณแม่ดูแลอย่างไรให้ปลอยภัย ฝีเย็บหายไว ไม่ติดเชื้อ

แผลฝีเย็บหลังคลอด คุณแม่ดูแลอย่างไรให้ปลอดภัย ฝีเย็บหายไว ไม่ติดเชื้อ

รู้จักกับแผลฝีเย็บ คุณแม่หลังคลอด ดูแลแผลฝีเย็บอย่างไรให้หายไว ปลอดภัยและไม่ติดเชื้อ พร้อมวิธีดูแลแผลฝีเย็บให้แห้งเร็ว ลดความเสี่ยงการติดเชื้อ สำหรับคุณแม่มือใหม่

ผ่าคลอดดีไหม ผ่าคลอดเจ็บไหม ดูแลแผลผ่าคลอดอย่างไร

ผ่าคลอดดีไหม ผ่าคลอดเจ็บไหม ดูแลแผลผ่าคลอดอย่างไร

ไขข้อสงสัยเกี่ยวกับการ ผ่าคลอด พร้อมคำแนะนำต่างๆ เพื่อเตรียมพร้อมให้คุณแม่มั่นใจเมื่อผ่าคลอด

แม่ท้องพร้อม เข้าใจอาการคนท้อง

แม่ท้องพร้อม! วิธีดูแลครรภ์ จัดการกับความกังวล เข้าใจอาการคนท้อง

เคล็ดลับการดูแลครรภ์ วิธีจัดการกับความกังวล รวมไปถึงการรับมือกับอาการคนท้อง