อายุครรภ์ 14 สัปดาห์ คุณแม่ท้อง 14 สัปดาห์ เกิดอะไรขึ้นบ้าง

อายุครรภ์ 14 สัปดาห์ คุณแม่ท้อง 14 สัปดาห์ เกิดอะไรขึ้นบ้าง

04.03.2020

ช่วงเวลาอายุครรภ์ 14 สัปดาห์ ถือว่าเป็นช่วงไตรมาสที่ 2 ของการตั้งครรภ์ ร่างกายของคุณแม่จะมีการเปลี่ยนแปลงจากในช่วง 3 เดือนแรกอย่างชัดเจน โดยทั่วไปแล้ว อายุครรภ์ 14 สัปดาห์นั้น คุณแม่จะมีหน้าท้องที่ขยายใหญ่ขึ้นจนสามารถมองเห็นได้แล้ว และอาการแพ้ท้องก็จะเบาบางลงจนหมดไป พร้อมกับการเจริญเติบโตของลูกน้อยที่มีขนาดประมาณ 8-10 เซนติเมตร ใหญ่เพียงประมาณลูกพีชเท่านั้นเอง

headphones

PLAYING: อายุครรภ์ 14 สัปดาห์ คุณแม่ท้อง 14 สัปดาห์ เกิดอะไรขึ้นบ้าง

อ่าน 6 นาที

 

สรุป

  • คุณแม่อายุครรภ์ 14 สัปดาห์ ร่างกายจะมีการเปลี่ยนแปลงอย่างชัดเจนหลายประการ เช่น ท้องที่เริ่มขยายใหญ่ขึ้น
  • ลูกน้อยในครรภ์มีขนาดใหญ่เพียงราว 10 เซนติเมตร และมีอวัยวะสำคัญพัฒนาครบแล้ว
  • อาการต่าง ๆ ของคุณแม่อายุครรภ์ 14 สัปดาห์ เช่น หน้าอกขยายขนาดใหญ่ขึ้น ท้องผูก และอยากอาหารมากขึ้น
  • หากคุณแม่พบอาการผิดปกติ ควรปรึกษาแพทย์
  • คุณแม่ท้อง 14 สัปดาห์ ต้องดูแลตัวเอง

 

เลือกอ่านตามหัวข้อ

 

เมื่อคุณแม่มีอายุครรภ์เข้าสู่ช่วงสัปดาห์ที่ 14 เป็นการเข้าสู่ช่วงไตรมาสที่ 2 ของการตั้งครรภ์ หน้าท้องของคุณแม่จะขยายใหญ่ออกมาจนสามารถมองเห็นได้ ทั้งนี้ก็อาจขึ้นอยู่กับปัจจัยต่าง ๆ เช่น สรีระ หรือรูปทรงร่างกายของคุณแม่ เป็นต้น ดังนั้นแล้วคุณแม่จะค่อนข้างวางใจได้มากขึ้น เพราะความเสี่ยงที่จะแท้งบุตรจะต่ำกว่าในช่วงสามเดือนแรกของการตั้งครรภ์เป็นอย่างมาก อาการคลื่นเหียนจากการแพ้ท้องจะหายไปแล้วในตอนนี้

 

อายุครรภ์ 14 สัปดาห์ ลูกน้อยจะมีการเติบโตอย่างไรบ้าง

ตัวอ่อนในครรภ์จะมีขนาดประมาณ 4 นิ้ว หรือราว 10 เซนติเมตร และหนักประมาณ 43.09 กรัม ตัวอ่อนจะมีการพัฒนาของอวัยวะหลัก ๆ ครบถ้วนแล้ว สามารถแสดงสีหน้าได้ อวัยวะภายใน เช่น ตับ ม้าม และไต ของตัวอ่อนจะเริ่มทำงานแล้ว จนในบางครั้งเราอาจจะเห็นตัวอ่อนกำลังดูดนิ้วอยู่ในครรภ์ด้วย

 

อาการของคุณแม่อายุครรภ์ 14 สัปดาห์

  1. มีความอยากอาหารเพิ่มขึ้น
    แน่นอนว่าการมีอีกชีวิตน้อยๆ ที่กำลังเติบโตอยู่ในครรภ์ ย่อมทำให้คุณแม่ต้องการพลังงานและสารอาหารมาเพื่อดูแลลูกในท้องเพิ่มขึ้น
  2. มีอาการปวดบริเวณสีข้าง เพราะมดลูกกำลังขยายตัว
    การที่ทารกในครรภ์เติบโตขยายขนาดขึ้น ย่อมทำให้มดลูกต้องขยายตามด้วย ทำให้ภาระตกอยู่ที่หลังและสีข้างที่ต้องรองรับการเปลี่ยนแปลงสรีระของคุณแม่
  3. เส้นผมหนาขึ้น
  4. ท้องผูก
    เพราะมดลูกที่ขยายตัวไปเบียดอยู่กับอวัยวะอื่น เช่น ลำไส้ จึงทำให้คุณแม่ที่กำลังตังครรภ์จะมีอาการท้องผูกบ่อย
  5. หน้าอกขยายใหญ่ขึ้น และอาจมีอาการคัดหน้าอก
  6. อาจจะมีอาการติดเชื้อเกิดขึ้นได้ง่าย
    เพราะภูมิคุ้มกันของคุณแม่ในช่วงตั้งครรภ์อ่อนแอลง จึงทำให้คุณแม่อาจจะป่วย ด้วยอาการติดเชื้อได้ง่าย

 

อาการของคุณแม่อายุครรภ์ 14 สัปดาห์

 

คุณแม่มีอาการที่ผิดปกติ ควรรีบปรึกษาคุณหมอ

1. นอนไม่หลับ

อาจเกิดจากการที่ต้องลุกเข้าห้องน้ำบ่อย ๆ ในเวลากลางคืน และท่านอนไม่สะดวก ไม่สบายตัว ซึ่งควรปรึกษาแพทย์เพื่อแก้ปัญหา เนื่องจากการนอนหลับให้เพียงพอมีความสำคัญต่อสุขภาพ โดยเฉพาะในระหว่างตั้งครรภ์

 

2. มีเลือดออกจากช่องคลอด

อาการนี้อาจจะเป็นสัญญาณของภาวะแทรกซ้อนในการตั้งครรภ์ จึงควรรีบปรึกษาแพทย์ เพื่อหาสาเหตุและแก้ไขตั้งแต่เนิ่น ๆ

 

3. มีอาการแพ้ท้อง

เนื่องจากในช่วงอายุครรภ์ 14 สัปดาห์ ฮอร์โมนในร่างกายคุณแม่ปรับสมดุลได้แล้ว จึงมักจะไม่มีอาการแพ้ท้องปรากฏขึ้นแล้ว แต่หากคุณแม่ยังมีอาการแพ้ท้องรุนแรง จนไม่สามารถทานอาหารได้ หรือมีน้ำหนักตัวลดลง ควรไปปรึกษาคุณหมอเพราะอาจเป็นอีกสาเหตุของอาการขาดสารอาหารของคุณแม่และเด็กได้

 

4. มีอาการน้ำเดิน

หรือน้ำคร่ำแตกก่อนกำหนด เนื่องจากอาการน้ำเดิน หรือน้ำคร่ำแตก เป็นสัญญาณหนึ่งของกระบวนการคลอด อาการนี้ปกติจะเกิดขึ้นเมื่ออายุครรภ์ครบกำหนดคลอด โดยเป็นสัญญาณของการเริ่มคลอด แต่หากมีอาการน้ำเดินก่อนอายุครรภ์ที่เหมาะสม คุณแม่ควรมาปรึกษาแพทย์เพื่อความปลอดภัย

 

5. อาการอื่น ๆ

คุณแม่อาจมีอาการอื่น ๆ แทรกเข้ามาได้ เช่น มีไข้ ไอธรรมดา คุณแม่ก็ควรไปปรึกษาแพทย์เช่นกัน เนื่องจากหลายอาการสามารถกระตุ้นให้เกิดอาการเจ็บท้องคลอดได้เช่นกัน ซึ่งหากเกิดขึ้นก่อนเวลาที่เหมาะสม อาจจะเป็นสัญญาณของภาวะผิดปกติในการตั้งครรภ์ได้ และที่สำคัญคือไม่ควรหาซื้อยามาทานเอง เพราะยาบางตัวอาจมีผลข้างเคียงกับทารกในครรภ์ได้ด้วย

 

อายุครรภ์ 14 สัปดาห์ ลูกในครรภ์จะตัวใหญ่แค่ไหน

ทารกอายุ 14 สัปดาห์ ที่ยังเป็นตัวอ่อนภายในครรภ์ จะมีขนาดตัวประมาณ 8 – 10 เซนติเมตร และมีน้ำหนักเพียง 43.09 กรัมเท่านั้นเอง ขนาดประมาณนี้ หากจะเปรียบเทียบให้เห็นภาพได้ง่าย ลูกน้อยของคุณในช่วงอายุครรภ์ 14 สัปดาห์ จะมีขนาดประมาณลูกพีชลูกหนึ่งเท่านั้นเอง

 

ในช่วงสัปดาห์ที่ 14 นี้ ลูกน้อยในครรภ์อาจจะเริ่มเตะท้องคุณแม่บ้างแล้ว ซึ่งคุณแม่บางส่วนเท่านั้นที่อาจจะรู้สึกได้ในตอนนี้ และลูกน้อยก็เริ่มจะปัสสาวะได้แล้ว เนื่องจากไตของทารกพัฒนาและเริ่มใช้งานได้แล้วอีกด้วย

 

พัฒนาการโดยรวมของทารกในครรภ์อายุ 14 สัปดาห์

  • ลูกน้อยจะขยับตัว หรือเตะท้องคุณแม่เบา ๆ บ้างแล้ว ซึ่งคุณแม่ส่วนหนึ่งที่จะรู้สึกได้
  • เด็กทารกจะเริ่มมีไตที่พัฒนาสมบูรณ์และใช้งานได้แล้ว
  • ตับของทารกจะเริ่มผลิตน้ำดีได้แล้ว
  • ม้ามของทารกเริ่มผลิตเซลล์เม็ดเลือดแดงได้เองแล้ว

 

การดูแลตัวเอง สำหรับคุณแม่ท้อง 14 สัปดาห์

1. ออกกำลังกายเบาๆ

คุณแม่สามารถออกกำลังกายเบา ๆ ได้ เช่น โยคะ หรือ การออกกำลังกายในน้ำ เนื่องจากเป็นการออกกำลังกายที่ไม่อันตราย และมีความเสี่ยงที่จะกระทบกระเทือนบริเวณหน้าท้องได้ยาก จึงเหมาะจะเป็นการออกกำลังกายสำหรับคุณแม่ในช่วงไตรมาสแรก

 

2. การแช่น้ำร้อน ผ่อนคลาย

การแช่น้ำร้อนช่วยให้คุณแม่ผ่อนคลายได้ เนื่องเป็นการกระตุ้นการไหลเวียนของโลหิตและช่วยคลายกล้ามเนื้อหลายส่วนร่างกาย นอกจากนี้ยังมีส่วนช่วยให้หลับสบายด้วย แต่ไม่ควรแช่น้ำร้อนจัด หรือแช่น้ำร้อนนานเกินไป เพราะอาจจะเป็นอันตรายต่อคุณแม่และเด็กได้ เช่น อาจทำให้เกิดอาการความดันต่ำ วิงเวียนศีรษะและหน้ามืดได้

 

สำหรับคุณแม่ที่มีอายุครรภ์ 14 สัปดาห์ จะมีการเปลี่ยนแปลงของร่างกายที่แตกต่างจากช่วงอายุครรภ์ 3 เดือนแรกอย่างชัดเจน คุณแม่จึงควรรับรู้อาการที่เกิดขึ้นได้บ่อย ๆ ในช่วงสัปดาห์ที่ 14 นี้ พร้อมทั้งดูแลตัวเองให้มีสุขภาพที่ดี เช่น ออกกำลังกายเบา ๆ และรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ รวมถึงต้องระมัดระวังอาการผิดปกติหรืออาการแทรกซ้อนซึ่งอาจจะนำไปสู่อันตรายของคุณแม่และลูกน้อยในครรภ์ได้ หากไม่มั่นใจควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อความปลอดภัยของคุณแม่และลูกน้อยในครรภ์

 

บทความแนะนำสำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์

 

 

อ้างอิง:

  1. Week 14, NHS
  2. 14 Weeks Pregnant, American Pregnancy Association
  3. พัฒนาการทารกในครรภ์ สัปดาห์ที่ 14 ของการตั้งครรภ์, hellokhunmor
  4. 14 Weeks Pregnant: Symptoms, Tips, and More, healthline
  5. สัญญานอันตรายที่แม่ตั้งครรภ์ต้องรีบไปพบแพทย์ : พบหมอรามาฯ, คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี
  6. ขนาดทารกในครรภ์ ในช่วงสัปดาห์ต่าง ๆ เปรียบเทียบกับขนาดผักและผลไม้, hellokhunmor

อ้างอิง ณ วันที่ 11 มกราคม 2567

บทความแนะนำ

ทำลูกแฝดยากไหม คุณแม่อยากมีลูกแฝด ทำอย่างไรได้บ้าง

อยากได้ลูกแฝดต้องอ่าน! วิธีทำลูกแฝด ทั้งทางการแพทย์และวิธีธรรมชาติ

คุณแม่อยากมีลูกแฝด การทำลูกแฝดยากไหมในปัจจุบัน หากอยากทำลูกแฝด มีวิธีไหนบ้าง ไปดูขั้นตอนการทำลูกแฝดทางการแพทย์และความแตกต่างของแฝดแท้และแฝดเทียม

คนท้องกินโซดาได้ไหม อันตรายกับลูกในท้องหรือเปล่า

คนท้องกินโซดาได้ไหม อันตรายกับลูกในท้องหรือเปล่า

คนท้องกินโซดาได้ไหม คำถามที่คุณแม่หลายคนสงสัย คนท้องกินน้ำอัดลมได้ไหม ถ้าอยากกิน ต้องกินปริมาณเท่าไหร่ กินยังไงไม่ให้กระทบกับคุณแม่และทารกในครรภ์ ไปดูกัน

คนท้องกินสับปะรดได้ไหม เสี่ยงแท้งแค่ไหน อันตรายกับคนท้องหรือเปล่า

คนท้องกินสับปะรดได้ไหม เสี่ยงแท้งแค่ไหน อันตรายกับคนท้องหรือเปล่า

คนท้องกินสับปะรดได้ไหม คุณแม่ตั้งครรภ์กินสับปะรดได้หรือเปล่า กินมากไปอันตรายกับทารกในครรภ์ไหม กินแล้วเสี่ยงแท้งจริงหรือเปล่า พร้อมวิธีดูแลครรภ์สำหรับคุณแม่ท้อง

คนท้องเป็นกรดไหลย้อน รับมือแบบไหนดี

คนท้องเป็นกรดไหลย้อน รับมือแบบไหนดี

คนท้องเป็นกรดไหลย้อน คุณแม่ตั้งครรภ์รับมืออย่างไรดี หากมีอาการท้องอืด อาหารไม่ย่อย กรดไหลย้อน ทำให้คุณแม่รู้สึกไม่สบายตัว พร้อมวิธีดูแลครรภ์

คนท้องกินชาเย็นได้ไหม กินได้บ่อยแค่ไหน อันตรายกับคนท้องหรือเปล่า

คนท้องกินชาเย็นได้ไหม กินได้บ่อยแค่ไหน อันตรายกับคนท้องหรือเปล่า

คนท้องกินชาเย็นได้ไหม คำถามที่คุณแม่หลายคนสงสัย ชาไทยมีคาเฟอีนไหม กินทุกวันอันตรายหรือเปล่า ไปดูวิธีดื่มชาเย็นแบบปลอดภัย ไม่เป็นอันตรายสำหรับทารกในครรภ์กัน

ภาวะเเท้งคุกคาม เกิดจากอะไร สังเกตได้อย่างไร พร้อมวิธีป้องกัน

ภาวะเเท้งคุกคาม เกิดจากอะไร สังเกตได้อย่างไร พร้อมวิธีป้องกัน

ภาวะเเท้งคุกคาม เกิดขึ้นจากอะไรได้บ้าง ช่วงไหนที่คุณแม่ตั้งครรภ์ควรระมัดระวัง เพื่อป้องกันภาวะแท้งคุกคาม ไปดูสาเหตุ อาการและวิธีป้องกันภาวะแท้งคุกคามเบื้องต้น

ผลไม้ที่คนท้องควรกิน แม่ลูกอ่อนกินผลไม้อะไรได้บ้าง ช่วยบำรุงครรภ์

ผลไม้ที่คนท้องควรกิน แม่ลูกอ่อนกินผลไม้อะไรได้บ้าง ช่วยบำรุงครรภ์

ผลไม้ที่คนท้องควรกินและช่วยบำรุงครรภ์มีอะไรบ้าง คนท้องกินผลไม้ได้ทุกชนิดไหม คนท้องอ่อนห้ามกินผลไม้อะไรบ้าง ไปดูผลไม้ที่คนท้องควรกินและมีประโยชน์กับสุขภาพกัน