ลูกไม่ยอมเข้าเต้าทำไงดี? รวมสาเหตุและวิธีแก้ปัญหาลูกกินนมน้อย
คำถามที่พบบ่อย
การให้ลูกเข้าเต้า มีประโยชน์อย่างไร?
การให้ลูกน้อยเข้าเต้าตั้งแต่แรกคลอดมีประโยชน์มาก ไม่เพียงช่วยให้ลูกได้รับสารอาหารที่เหมาะสม แต่ยังส่งเสริมความผูกพันระหว่างแม่และลูก รวมถึงการกระตุ้นพัฒนาการด้านต่าง ๆ ของลูกอีกด้วยค่ะ การดูดนมแม่ทันทีหลังคลอดช่วยให้ลูกได้รับสารภูมิคุ้มกันในน้ำนมแม่อย่างรวดเร็ว ซึ่งมีความสำคัญมากสำหรับทารกแรกเกิด นอกจากนี้ การให้ลูกได้ดูดนมจากเต้าด้วยตัวเองตั้งแต่ช่วงแรกยังช่วยให้ลูกเรียนรู้และคุ้นเคยกับการดูดนมแม่ ทำให้การให้นมเป็นไปอย่างราบรื่นมากขึ้นค่ะ
ถ้าลูกไม่ยอมเข้าเต้าเลย น้ำนมแม่จะหดหายไหม?
หากไม่มีการกระตุ้นจากทารกหรือการปั๊มนม ร่างกายจะผลิตน้ำนมน้อยลงและอาจหดหายไปได้ เพื่อรักษาระดับน้ำนมไว้ คุณแม่ควรปั๊มนมออกให้เกลี้ยงเต้าทุก 2-3 ชั่วโมง เพื่อเลียนแบบความถี่ในการดูดของทารกตามปกติ จนกว่าจะสามารถพาลูกกลับมาเข้าเต้าได้สำเร็จ
ทารกแรกเกิดไม่ยอมเข้าเต้า ควรทำอย่างไรเป็นอันดับแรก?
เมื่อลูกแรกเกิดไม่ยอมเข้าเต้า สิ่งแรกที่ควรทำคือการทำ Skin-to-skin หรือการอุ้มลูกแนบเนื้อกับคุณแม่เพื่อให้ลูกรู้สึกคุ้นเคยกับกลิ่นและความอบอุ่นของแม่ ซึ่งช่วยกระตุ้นสัญชาตญาณการดูดนมได้ดีขึ้น หลังจากนั้นให้ประคองศีรษะของลูกโดยใช้มือรองที่ท้ายทอยและต้นคอเบา ๆ เพื่อให้ศีรษะเงยขึ้นเล็กน้อย แล้วค่อย ๆ ขยับลูกเข้าหาเต้านม โดยจัดท่าให้คางของลูกแนบกับส่วนล่างของเต้านมและให้จมูกอยู่ในระดับเดียวกับหัวนม หากลูกยังไม่อ้าปาก สามารถใช้หัวนมเขี่ยเบา ๆ ที่ริมฝีปากล่างเพื่อกระตุ้น เมื่อเห็นว่าลูกอ้าปากกว้างแล้ว ให้รีบนำหัวนมเข้าปากลูกทันที เพื่อให้สามารถเริ่มการดูดนมได้อย่างถูกต้อง
สรุป
- คุณแม่ควรให้ลูกน้อยเข้าเต้าภายใน 1 ชั่วโมงแรกหลังคลอด เพื่อให้ลูกน้อยคุ้นชินกับการดูดนมแม่ ทั้งยังเป็นการกระตุ้นน้ำนมแม่ให้ไหลดี มีปริมาณเพิ่มขึ้นอีกด้วย
- คุณแม่ควรให้ลูกเข้าเต้าบ่อย ๆ ทุก 3 ชั่วโมง หรือตามที่ลูกน้อยต้องการ แต่ไม่ควรให้ลูกน้อยเข้าเต้าถี่เกินไป เพราะอาจทำให้ลูกน้อยได้รับน้ำนมแม่มากเกินไปจนเกิดอาการสำรอกหรืออาเจียนน้ำนมแม่ออกมาได้
- สาเหตุที่ลูกไม่ยอมเข้าเต้า เกิดขึ้นได้จากทั้งตัวของคุณแม่และลูกน้อย เช่น ปัญหาหัวนมแตก ท่อน้ำนมอุดตันของคุณแม่ ทำให้น้ำนมไหลไม่สะดวก ไม่ทันใจลูกน้อย หรือจากการที่เด็กเริ่มอาหารตามวัย ทำให้กินนมน้อยลง
- หากลูกไม่ยอมเข้าเต้า คุณแม่สามารถแก้ปัญหาได้หลายวิธี เช่น พยายามหาของเล่นที่ลูกชอบมาหลอกล่อ และ สร้างบรรยากาศก่อนให้ลูกเข้าเต้า รวมถึงเปลี่ยนท่าให้นมลูก เป็นต้น
เลือกอ่านตามหัวข้อ
- การเข้าเต้าคืออะไร
- ทำไมลูกไม่ยอมเข้าเต้า? เช็ก 7 สาเหตุที่พบบ่อยทั้งจากแม่และลูก
- 9 เคล็ดลับแก้ปัญหาลูกไม่ยอมกินนมและไม่ยอมเข้าเต้า
- 6 ท่าให้นมที่ถูกต้อง ช่วยให้ลูกเข้าเต้าได้ง่ายขึ้น
- สังเกตอย่างไรว่าลูกน้อยกินนมแม่อิ่ม
- สัญญาณเตือน! เมื่อลูกน้อยได้รับนมแม่ไม่เพียงพอ
- คำถามที่คุณแม่พบเจอบ่อยเกี่ยวกับปัญหาลูกไม่ยอมเข้าเต้า และไม่ยอมกินนม
การเข้าเต้าคืออะไร
การเข้าเต้า คือ การที่คุณแม่ให้ลูกน้อยกินนมแม่โดยตรงจากเต้านมแม่ค่ะ ซึ่งเป็นช่วงเวลาพิเศษที่ทำให้เกิดความรัก ความผูกพันระหว่างแม่กับลูก คุณแม่ควรให้ลูกน้อยเข้าเต้าภายใน 1 ชั่วโมงแรกหลังคลอด เพื่อกระตุ้นน้ำนมแม่ และเป็นการช่วยให้ลูกน้อยได้คุ้นเคยกับการดูดนมแม่ ในขณะที่แม่จะได้เรียนรู้ความต้องการของลูกน้อยจากความใกล้ชิดนี้ไปด้วย หากคุณแม่ให้ลูกน้อยกินนมแม่จากขวดเด็กจะคุ้นเคยกับการดูดนมจากขวดที่ไหลเร็ว เมื่อพาลูกมากินนมแม่จากเต้าอาจทำให้ลูกไม่ยอมเข้าเต้าได้ค่ะ
ให้ลูกเข้าเต้าบ่อยแค่ไหนถึงจะดี?
โดยปกติแล้วคุณแม่ควรให้ลูกเข้าเต้าทุก 3 ชั่วโมง หรือตามความต้องการที่ลูกหิวทุกครั้งค่ะ แต่ในช่วง 2-3 วันแรกหลังคลอด น้ำนมคุณแม่อาจยังมาไม่มากนัก ช่วงนี้จึงควรพาลูกเข้าเต้าบ่อย ๆ ทุก 2 ชั่วโมง หรืออย่างน้อยวัยละ 9 ครั้ง เพื่อเป็นการกระตุ้นน้ำนมแม่ให้มาเร็วยิ่งขึ้นนะคะ เมื่อน้ำนมแม่ไหลมากขึ้นแล้วคุณแม่สามารถพาลูกเข้าเต้าได้ตามความต้องการของลูกน้อยเลยค่ะ
อย่างไรก็ตาม ในช่วง 3 เดือนแรก คุณแม่ต้องระวังไม่ควรพาลูกเข้าเต้าถี่เกินไป เพราะเด็กวัยนี้นอกจากดูดนมแม่เพราะหิวแล้วยังดูดนมแม่เพื่อให้ตัวเองผ่อนคลายด้วย เมื่อลูกดูดนมแม่ในขณะที่อิ่มอาจทำให้เด็กเกิดอาเจียนหรือสำรอกขึ้นมาได้ ดังนั้น คุณแม่จึงต้องเว้นระยะเวลาเข้าเต้าประมาณ 2 ½ - 3 ชั่วโมงนะคะ เพื่อป้องกันไม่ให้ลูกกินนมมากเกินไปค่ะ
ทารกควรกินนมแม่ปริมาณเท่าไหร่ใน 1 วัน
คุณแม่หลายคนกลัวว่าจะให้ลูกกินนมน้อยเกินไปจึงให้ลูกเข้าเต้าบ่อย ๆ แต่กลายเป็นว่าลูกกลับกินนมแม่จนมีอาการอาเจียน แหวะนม หรือสำรอกนมออกมา จนเกิดภาวะที่เรียกว่า Over breastfeeding ดังนั้น คุณแม่ต้องให้ลูกน้อยกินนมแม่ในปริมาณที่เหมาะสมกับวัย โดยมีปริมาณน้ำนมที่แนะนำดังนี้ค่ะ
อายุเด็ก | ปริมาณน้ำนม | จำนวน |
| 1-2 วัน | 1 ช้อนชาหรือ 5 ซีซี | 8-10ครั้ง/วัน |
| 3 วัน ถึง 1 เดือน | 1-1.5 ออนซ์ | 8-10 ครั้ง/วัน |
| 1 เดือน | 2-4 ออนซ์ | 7-8 ครั้ง/วัน |
| 2-6 เดือน | 4-6 ออนซ์ | 5-6 ครั้ง/วัน |
| 6-12 เดือน | 6-8 ออนซ์ | 4-5 ครั้ง |
| 1 ขวบขึ้นไป | 6-8 ออนซ์ | 3-4 ครั้ง |
ทำไมลูกไม่ยอมเข้าเต้า? เช็ก 7 สาเหตุที่พบบ่อยทั้งจากแม่และลูก
ลูกไม่ยอมเข้าเต้า ปัญหานี้เกิดขึ้นได้ทั้งกับคุณแม่มือใหม่และคุณแม่มือโปรเลยค่ะ และทำเอาแม่ ๆ หลายคนกลุ้มใจไม่น้อย ซึ่งสาเหตุที่ทำให้ลูกไม่ยอมกินนม ปฏิเสธการเข้าเต้าบ่อย ๆ มีดังต่อไปนี้ค่ะ
1. ปัญหาหัวนมแตก
สาเหตุหลักของหัวนมแตกมาจากการที่คุณแม่ให้ลูกเข้าเต้าไม่ถูกวิธี เมื่อลูกน้อยดูดนมแม่ไม่ได้จึงเคี้ยวหัวนมแม่ส่งผลให้หัวนมแม่แตกเกิดบาดแผลจนบางครั้งอาจมีเลือดซึมออกมา
วิธีป้องกันและรับมือ
- ให้ลูกดูดนมอย่างถูกวิธี: อุ้มลูกให้ชิดแนบท้อง โดยให้แก้ม จมูก และคางของลูกสัมผัสกับเต้านม เพื่อให้ลูกอมหัวนมและลานนมได้ลึกพอ
- ไม่ดึงหัวนมออกจากปากลูกขณะลูกดูดนม: หากคุณแม่ต้องการนำลูกออกจากเต้า ให้ใช้นิ้วค่อย ๆ สอดเข้าแทนที่แล้วจึงค่อยดึงหัวนมออกนะคะ
2. ท่อน้ำนมอุดตัน
เกิดจากท่อน้ำนมบางส่วนอุดตันทำให้มีน้ำนมค้างอยู่ในเต้านม คุณแม่จะคลำพบก้อนแข็ง ๆ ที่เต้านม กดแล้วเจ็บ หรืออาจบวมแดงได้ หรือมีเส้นเลือดปูนขึ้นที่เต้านม นอกจากนี้บางครั้งอาจมีจุดสีขาวเล็ก ๆ ที่หัวนม เรียกว่า "White Dot"
วิธีป้องกันและรับมือ
- ประคบเต้านมด้วยผ้าอุ่น: ประคบประมาณ 5-10 นาที ก่อนให้ลูกเข้าเต้า
- ให้ลูกดูดจากเต้าที่อุดตันก่อน: เนื่องจากช่วงที่ลูกหิวจะมีแรงดูดมาก จะช่วยระบายน้ำนมที่อุดตันได้ดี
- ให้ลูกดูดนมบ่อยขึ้น: ควรให้ลูกดูดนมวันละ 8-12 ครั้ง ครั้งละประมาณ 15-20 นาที และควรให้ลูกน้อยดูดจนเกลี้ยงเต้า
- นวดเต้าระหว่างให้นม: ขณะที่ให้ลูกดูดนมคุณแม่ควรนวดเต้านมเบา ๆ เพื่อให้เต้านมนิ่มลง โดยไล่จากบริเวณที่อุดตันไปจนถึงหัวนมนะคะ
3. เต้านมอักเสบ
เต้านมอักเสบมักเริ่มต้นจากการคัดตึงเต้านม คลำแล้วเจอก้อนแข็งและเจ็บปวด จากนั้นเต้านมจะเริ่มบวมแดงและมีอาการปวดกระจายไปทั่ว ทำให้คุณแม่ไม่สบายตัวและอาจมีไข้สูงถึง 38 องศาเซลเซียสเลยทีเดียว
วิธีป้องกันและรับมือ
- ให้ลูกดูดนมนานขึ้น: โดยให้ลูกดูดนมข้างละ 15-20 นาที อย่างสม่ำเสมอ วันละ 8-12 ครั้ง เพื่อไม่ให้มีน้ำนมค้างในเต้านม
- ให้ลูกดูดจากเต้าที่มีปัญหาก่อน: แรงดูดของลูกขณะหิวจะช่วยให้น้ำนมในเต้าที่มีปัญหาระบายออกมาได้ดี
- ปั๊มนมสลับกับให้ลูกดูด: ในช่วงที่เจ็บมาก อาจใช้วิธีปั๊มนมป้อนลูกแทนประมาณ 3-4 มื้อ เพื่อให้เต้านมได้พัก แล้วค่อยกลับมาให้ลูกเข้าเต้าเมื่อรู้สึกดีขึ้น
4. ปัญหาน้ำนมน้อย
ปัญหาน้ำนมน้อยเกิดขึ้นได้จากหลายปัจจัย เช่น ให้ลูกดูดนมแม่หลังคลอดช้าเกินกว่าที่ควรจะเป็น ลูกดูดนมไม่ถูกวิธี หรือให้ลูกเข้าเต้าน้อยกว่า 8 ครั้งต่อวัน ทำให้การกระตุ้นน้ำนมไม่เพียงพอ
วิธีป้องกันและรับมือ
- พาลูกเข้าเต้าหลังคลอดทันที: ควรให้ลูกดูดนมเลยใน 30 นาทีแรก เพื่อกระตุ้นการสร้างน้ำนม
- ให้ลูกเข้าเต้าอย่างถูกวิธี: โดยให้ลูกอมหัวนมได้ลึกพอ เพื่อให้มีแรงดูดที่เหมาะสม
- เพิ่มความถี่ในการให้นม: ให้ลูกดูดนมนานขึ้นและบ่อยขึ้น โดยไม่ควรน้อยกว่าวันละ 8 ครั้ง
- ปั๊มนมสม่ำเสมอ: หากคุณแม่ต้องออกไปทำงาน ควรปั๊มนมออกให้หมดเต้าทุก ๆ 3 ชั่วโมง เพื่อกระตุ้นการสร้างน้ำนมให้เพียงพอ
5. ลูกน้อยอยู่ในช่วงเริ่มอาหารตามวัย
เมื่อลูกน้อยเข้าสู่ช่วงเริ่มอาหารตามวัย ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่ลูกน้อยไม่สามารถกินนมแม่ได้อย่างเดียวแล้วแต่จำเป็นต้องได้รับสารอาหารที่ครบถ้วนจากอาหารตามวัยด้วย ทำให้ลูกน้อยกินนมน้อยลง เพราะเด็กกำลังอยู่ในช่วงวัยเปลี่ยนผ่านจากนมแม่ที่เคยเป็นอาหารมื้อหลักกลายไปเป็นมื้ออาหารรองค่ะ คุณแม่จึงต้องส่งเสริมให้ลูกผ่านกระบวนการนี้ให้สำเร็จโดยการลดจำนวนมื้อนมลงแต่คงปริมาณน้ำนมเท่าเดิม งดมื้อดึก และเพิ่มมื้ออาหารตามวัยค่ะ
6. ลูกน้อยไม่สบาย
ความเจ็บป่วยเป็นหนึ่งสาเหตุสำคัญที่ทำให้ลูกกินนมน้อยหรือลูกไม่ยอมเข้าเต้า เช่น เป็นหวัด มีน้ำมูก หายใจไม่สะดวก หรือฟันกำลังขึ้น คุณแม่ควรสังเกตอย่างใกล้ชิดว่ามีสาเหตุจากสิ่งไหนที่ทำให้ลูกไม่ยอมกินนม แล้วควรพาลูกน้อยไปพบแพทย์เพื่อตรวจหาความผิดปกตินะคะ
7. ปัจจัยบางอย่าง ทำให้ลูกไม่ยอมเข้าเต้า
อาจเป็นไปได้ว่ามีสิ่งอื่นที่เบี่ยงเบนความสนใจของลูกน้อย เช่น เสียงดังรบกวน หรือกลิ่นของคุณแม่ที่เปลี่ยนไปทำให้ลูกน้อยไม่คุ้นเคย เช่น สบู่ แชมพู ทำให้ทารกไม่คุ้นชินจนเป็นสาเหตุที่ทำให้ลูกไม่ยอมเข้าเต้าได้เช่นกันค่ะ รวมถึงการที่คุณแม่บังคับให้ลูกน้อยกินนมแม่มากเกินไป ทำให้เด็กรู้สึกเครียดจนไม่ยอมกินนมแม่

9 เคล็ดลับแก้ปัญหาลูกไม่ยอมกินนมและไม่ยอมเข้าเต้า
หากคุณแม่บ้านไหนที่กำลังเผชิญปัญหาลูกไม่ยอมเข้าเต้า ไม่ยอมกินนม ลองเปลี่ยนมาทำตามวิธีเหล่านี้ดูได้นะคะ เพื่อให้ลูกได้รับนมแม่เพียงพอต่อความต้องการในแต่ละวัน ลูกน้อยจะได้เติบโตขึ้นอย่างแข็งแรงค่ะ
1. ชวนลูกเล่นก่อนเริ่มให้นม
หากลูกไม่ยอมเข้าเต้า ให้คุณแม่ลองหาของเล่นที่ลูกชอบมาหลอกล่อ หรืออุ้มลูกแนบอกและโยกตัวเบา ๆ เพื่อให้ลูกสงบลง เมื่อลูกอารมณ์ดีแล้วค่อยลองให้ลูกดูดนมอีกครั้งนะคะ หรือลองให้ลูกเข้าเต้าตอนที่ลูกเริ่มง่วงนอน อาจทำให้ยอมดูดนมได้ง่ายขึ้นค่ะ
2. บีบน้ำนมเรียกน้ำย่อย
ก่อนคุณแม่ให้นม ลองบีบน้ำนมออกมาสัก 2-3 หยดให้มีกลิ่นและรสชาติติดอยู่ที่หัวนม กลิ่นหอม ๆ ของนมแม่จะช่วยกระตุ้นความอยากอาหารของลูกได้ดีค่ะ
3. สร้างบรรยากาศที่เงียบสงบ
ลูกไม่ยอมเข้าเต้าอาจเป็นเพราะมีสิ่งรบกวนมากเกินไป คุณแม่ควรเปลี่ยนสถานที่ให้นมโดยไปอยู่ในที่ที่เงียบสงบ ไม่มีเสียงรบกวนจากทีวีหรือคนรอบข้าง จะช่วยให้ลูกมีสมาธิกับการดูดเต้านมมากขึ้น และไม่ถูกดึงความสนใจไปจากเต้านมของคุณแม่ค่ะ
4. ลองเปลี่ยนท่าให้นม
บางครั้งลูกอาจไม่ชอบท่าเดิม ๆ คุณแม่ลองเปลี่ยนท่าให้นมเป็นท่าใหม่ ๆ ดู เช่น ท่านอนตะแคง ท่าเอนหลัง หรือท่าอุ้มฟุตบอล การเปลี่ยนท่าจะช่วยให้ลูกรู้สึกสบายขึ้นและยอมดูดนมได้ง่ายขึ้นค่ะ
5. เช็กให้ชัวร์ว่าลูกดูดถูกวิธี
คุณแม่ควรสังเกตให้แน่ใจว่าลูกงับเต้านมได้ถูกต้องหรือไม่ โดยวิธีเข้าเต้าที่ถูกต้อง คือ ทารกต้องอ้าปากกว้างพอที่จะงับหัวนมและลานนมจนมิด ไม่มีเสียงดูดแจ๊บ ๆ (ซึ่งเป็นสัญญาณว่าลูกอมไม่ลึกพอ) หากลูกดูดถูกวิธีคุณแม่จะได้ยินเสียงกลืนนมเป็นจังหวะค่ะ
6. หลีกเลี่ยงการใช้จุกหลอกเร็วเกินไป
ควรรออย่างน้อย 1 เดือนหลังจากคลอดเพื่อให้ลูกคุ้นเคยกับการดูดเต้านมคุณแม่ก่อน การใช้จุกหลอกเร็วเกินไปอาจทำให้ลูกเกิดภาวะสับสนหัวนม (Nipple Confusion) คือ สับสนว่าระหว่างเต้านมแม่และจุกหลอกค่ะ ซึ่งทำให้ลูกไม่ยอมเข้าเต้าค่ะ
7. ล้างจมูกลูกให้โล่งก่อนกินนม
หากลูกมีอาการไม่สบาย เช่น คัดจมูก คุณแม่ควรล้างจมูกลูกน้อยด้วยน้ำเกลือ ตามคำแนะนำของแพทย์หรือบุคลากรทางการแพทย์ เพื่อชะล้างน้ำมูกในโพรงให้ไหลออก ลูกน้อยจะได้หายใจคล่องขึ้นและดูดนมจากเต้าได้สะดวกยิ่งขึ้นค่ะ
8. สังเกตกลิ่นกายและรสชาติของนม
หากลูกไม่ยอมเข้าเต้าทั้งที่ไม่เคยเป็นมาก่อน ลองสังเกตว่าคุณแม่ได้เปลี่ยนสบู่ น้ำหอม หรืออาหารที่รับประทานหรือไม่ เพราะกลิ่นและรสชาติที่เปลี่ยนไปอาจทำให้ลูกไม่คุ้นเคยและไม่อยากดูดนมค่ะ
9. ทำตัวลูกให้แนบเนื้อคุณแม่
ลองวางตัวลูกให้สัมผัสกับผิวของคุณแม่แบบเนื้อแนบเนื้อ หรือที่เรียกว่า "Skin-to-Skin" จะช่วยให้ลูกรู้สึกอบอุ่นและปลอดภัยมากขึ้น ซึ่งอาจช่วยให้ลูกดูดเต้าได้ง่ายขึ้นค่ะ
6 ท่าให้นมที่ถูกต้อง ช่วยให้ลูกเข้าเต้าได้ง่ายขึ้น
ลูกไม่ยอมเข้าเต้า เพราะแม่ให้นมลูกผิดวิธีหรือเปล่านะ หากคุณแม่ให้นมลูกน้อยผิดวิธี ให้นมผิดท่า นอกจากจะทำให้คุณแม่เสี่ยงต่ออาการเจ็บเต้านมต่าง ๆ แล้ว ยังอาจทำให้ลูกกินนมน้อย ได้รับนมแม่ไม่เพียงพอด้วยนะคะ เรามาดูท่าให้นมของคุณแม่ทั้ง 6 วิธีที่ช่วยให้คุณแม่ให้นมลูกน้อยได้สะดวกและสบายยิ่งขึ้นกันดีกว่าค่ะ

1. ท่าอุ้มนอนขวางบนตัก (Cradle Hold)
ให้คุณแม่อุ้มลูกน้อยนอนขวางบนตัก โดยที่ศีรษะของลูกอยู่บนแขนของคุณแม่ ส่วนปลายแขนช้อนไปที่หลังและก้นของลูก จากนั้นตะแคงตัวลูกเข้าหาเต้านมให้หน้าอกลูกและคุณแม่ชิดกัน มืออีกข้างใช้ประคองเต้านมเพื่อให้ลูกเข้าเต้าได้ง่ายขึ้นค่ะ
2. ท่านอนขวางบนตักแบบประยุกต์ (Modified/Cross Cradle Hold)
เริ่มจากอุ้มลูกน้อยนอนขวางบนตัก โดยใช้มือด้านตรงข้ามกับเต้านมที่คุณจะให้ลูกดูด ช้อนบริเวณท้ายทอยและคอของลูกแทน จากนั้นใช้มืออีกข้างประคองเต้านมให้ลูกเข้าเต้า ท่านี้จะช่วยประคองศีรษะของลูกน้อยได้ดียิ่งขึ้นค่ะ
3. ท่าอุ้มลูกฟุตบอล (Clutch Hold/Football Hold)
ท่านี้ให้คุณแม่วางหมอนหนา ๆ ไว้ด้านข้างลำตัว จากนั้นจัดตำแหน่งให้ลำตัวลูกอยู่ใต้แขนของคุณแม่นะคะ แล้วใช้มือประคองที่ท้ายทอยและคอของลูกคล้ายกับการประคองลูกฟุตบอลไว้ข้างลำตัว ซึ่งท่านี้จะช่วยให้คุณแม่เห็นปากของลูกได้ชัดเจนขึ้นค่ะ
4. ท่านอนตะแคง (Side Lying Position)
ท่านี้ให้คุณแม่นอนตะแคงเข้าหาลูกน้อย โดยจัดให้ศีรษะของคุณแม่อยู่ในระดับที่สูงขึ้นเล็กน้อย วางลูกโดยให้ปากตรงกับหัวนม มือด้านบนประคองเต้านมให้เข้าปากลูก เมื่อลูกดูดได้ดีแล้วก็สามารถขยับมือมาประคองต้นคอและหลังได้ค่ะ
5. ท่าเอนตัว (Laid-back Hold)
ให้คุณแม่นอนเอนตัวสบาย ๆ แล้ววางลูกไว้บนหน้าอก จากนั้นใช้มือโอบลูกไว้เบา ๆ จัดศีรษะของลูกให้เอียงเล็กน้อยเพื่อป้องกันการหายใจติดขัด ท่านี้จะทำให้ทั้งคุณแม่และลูกน้อยรู้สึกผ่อนคลายที่สุดค่ะ
6. ท่าตั้งตรง (Upright or Standing Baby)
คุณแม่อุ้มลูกน้อยตั้งตรง โดยให้ขาลูกคร่อมบนต้นขาของคุณแม่ แล้วให้ศีรษะและลำตัวของลูกเอนเล็กน้อย จากนั้นใช้มือประคองศีรษะและเต้านมค่ะ ไม่ยากเลยใช่ไหมคะ
สังเกตอย่างไรว่าลูกน้อยกินนมแม่อิ่ม
สัญญาณว่าลูกน้อยกินนมแม่อิ่มแล้วสามารถสังเกตได้จากเต้านมของคุณแม่ และอาการของลูกน้อยหลังกินนมแม่ค่ะ โดยมีลักษณะดังต่อไปนี้
สัญญาณจากเต้านมของคุณแม่
- หลังให้นมลูกแล้ว เต้านมของคุณแม่นิ่มลงเมื่อเทียบกับตอนก่อนที่ลูกจะดูดนม หรือมีน้ำนมไหลออกมาจากเต้านมอีกข้างที่ลูกไม่ได้ดูดค่ะ
- ถ้าลูกน้อยกินนมแม่จนเกลี้ยงเต้า คุณแม่จะรู้สึกว่าไม่เจ็บเต้า และเมื่อบีบเต้าน้ำนมแม่จะออกมาเป็นหยด ไม่พุ่งออกมาเป็นสายค่ะ
สัญญาณจากลูกน้อย
- ลูกปล่อยหัวนมแม่ออกเองระหว่างที่แม่ให้ลูกเข้าเต้า
- หลังจากผ่านช่วงเดือนแรกไป ลูกน้อยนอนหลับได้ดี ไม่มีการตื่นขึ้นมากินนมทุก 2-3 ชั่วโมงค่ะ
- ลูกน้อยน้ำหนักตัวเพิ่มขึ้น
- ลูกน้อยมีการขับถ่ายทั้งปัสสาวะ และอุจจาระเป็นปกติ (ตามตาราง)
ตารางการขับถ่ายอุจจาระและปัสสาวะทารก
อายุลูกน้อย | ปัสสาวะ (วัน) | อุจจาระ (วัน) |
| 1-2 วัน | 1-2 ครั้ง หรือมากกว่า | 1 ครั้ง หรือมากกว่า / อุจจาระเป็นขี้เทา หรือสีเขียวเข้ม |
| 3-4 วัน | 3 ครั้ง หรือมากกว่า / ปัสสาวะสีใส ลักษณะชุ่มผ้าอ้อม | 2 ครั้ง หรือมากกว่า / อุจจาระเริ่มเปลี่ยนเป็นสีเหลืองมัสตาร์ด |
| 7 วันขึ้นไป | 6-8 ครั้ง / ปัสสาวะสีเหลืองอ่อน ลักษณะชุ่มผ้าอ้อม | 3-4 ครั้ง หรือมากกว่า / อุจจาระเป็นสีเหลืองมัสตาร์ดนุ่มหรือเป็นน้ำ |
| 4 สัปดาห์ | อย่างน้อยวันละ 6 ครั้ง | อาจถ่ายห่าง 1-7 วันต่อครั้ง / อุจจาระปริมาณมาก เป็นสีเหลือง |
สัญญาณเตือน! เมื่อลูกน้อยได้รับนมแม่ไม่เพียงพอ
หากลูกกินนมน้อย กินไม่อิ่ม หรือได้รับนมไม่เพียงพอ ให้คุณแม่สังเกตจากการกินนมของลูกน้อยค่ะที่ลูกจะมีอาการดูดนมแบบสั้น ๆ ถี่ ๆ หรือดูดนานมากกว่า 30 นาทีค่ะ ถ้าลูกน้อยแสดงอาการเหล่านี้ให้คุณแม่ลองปรับท่าให้นม หรือจับลูกเข้าเต้าใหม่นะคะ ถ้าลองทำแล้วยังไม่ดีขึ้น ลูกยังมีอาการเหมือนได้รับน้ำนมแม่ไม่เพียงพอ แนะนำให้ปรึกษาแพทย์ค่ะ
คำถามที่คุณแม่พบเจอบ่อยเกี่ยวกับปัญหาลูกไม่ยอมเข้าเต้า และไม่ยอมกินนม
ลูกไม่ยอมเข้าเต้าปัญหาใหญ่ของคุณแม่ให้นม เพราะการที่ลูกไม่ยอมกินนมเท่ากับว่าลูกอาจได้รับสารอาหารไม่เพียงพอ และอาจนำไปสู่ปัญหาสุขภาพและการเจริญเติบโตในอนาคตได้ หากคุณแม่ยังมีคำถามคาใจเราลองมาหาคำตอบไปด้วยกันค่ะ
ทำไมต้องกำหนดเวลาให้ลูกเข้าเต้าอย่างสม่ำเสมอ?
การที่คุณแม่ให้ลูกเข้าเต้าอย่างสม่ำเสมอเป็นการช่วยกระตุ้นน้ำนมแม่ค่ะ โดยเฉพาะช่วง 2-3 วันหลังคลอด คุณแม่ยิ่งต้องให้ลูกเข้าเต้าบ่อย ๆ ทุก 2 ชั่วโมง หรือตามความต้องการที่ลูกหิวทุกครั้งนะคะ น้ำนมแม่ก็จะไหลเร็วมากขึ้น มีปริมาณน้ำนมเพิ่มขึ้น ส่วนลูกน้อยก็จะดูดนมแม่ได้เก่งขึ้นด้วย
สังเกตอย่างไรเมื่อลูกเข้าเต้าอย่างถูกต้อง
วิธีสังเกตง่าย ๆ ว่าลูกเข้าเต้าได้ถูกต้อง คือ
- ลูกอมได้ลึกถึงลานนม
- ปากลูกอ้ากว้าง และคางลูกชิดแนบสนิทกับเต้านมแม่
- ริมฝีปากล่างของลูกบานออกเหมือนปากปลา ไม่ได้เม้มเข้าหากัน
- ในระหว่างที่ดูดนมแม่จะได้ยินเสียงกลืนน้ำนมเป็นจังหวะเบา ๆ และแก้มจะป่องทั้งสองข้าง
หลังให้นมเสร็จ ต้องอุ้มเรอทุกครั้งหรือไม่?
หลังจากแม่ให้ลูกเข้าเต้าจนอิ่มแล้ว คุณแม่ควรจับลูกเรอเพื่อไล่ลมทุกครั้ง โดยให้ศีรษะอยู่เหนือกว่ากระเพาะ จากนั้นลูบไล่ลมก่อนจะปล่อยให้ลูกน้อยนอน แต่ในช่วง 1 ชั่วโมงหลังจากที่ลูกดูดนม คุณแม่ไม่ควรให้ลูกนอนคว่ำนะคะ เพราะนมที่อยู่เต็มกระเพาะอาจรบกวนการหายใจของเด็กได้ค่ะ สำหรับท่าอุ้มเรอเด็กที่อยากแนะนำ มี 2 ท่าด้วยกัน คือ
1. ท่าอุ้มพาดบ่า

ท่านี้เป็นท่าที่นิยมมากค่ะ เพียงแค่อุ้มลูกน้อยพาดบ่าโดยให้คางของลูกอยู่บริเวณบ่าของคุณแม่ จากนั้นใช้ฝ่ามือลูบหลังลูกลงเบา ๆ ประมาณ 5-10 นาที หรือจนกว่าจะได้ยินเสียงเรอ ท่านี้จะช่วยให้ลมในท้องลูกถูกดันออกมาได้ง่ายขึ้นค่ะ
2. ท่าอุ้มลูกนั่งบนตัก

สำหรับคุณแม่ที่อยากเปลี่ยนท่า ลองให้ลูกนั่งบนตักดูค่ะ โดยใช้มือข้างหนึ่งประคองคางลูกไว้เบา ๆ เพื่อพยุงศีรษะ โน้มตัวลูกไปด้านหน้าเล็กน้อย แล้วใช้มืออีกข้างลูบหลังลูกลงเบา ๆ ประมาณ 5-10 นาที หรือจนกว่าจะได้ยินเสียงเรอเช่นเดียวกันค่ะ
ตามคำแนะนำขององค์การอนามัยโลก (WHO) และยูนิเซฟ แนะนำให้เด็กได้เข้าเต้าภายใน 1 ชั่วโมงแรกหลังคลอด และควรกินนมแม่เพียงอย่างเดียวตั้งแต่แรกเกิดจนถึง 6 เดือน หลังจากนั้นควรกินนมแม่ควบคู่กับอาหารตามวัยจนถึง 2 ปีหรือนานกว่านั้น เนื่องจากนมแม่อุดมไปด้วยสารอาหารมากกว่า 200 ชนิดทั้งโปรตีน เกลือแร่ คาร์โบไฮเดรต วิตามิน ทั้งยังมีไขมันดีที่เหมาะสมกับการเจริญเติบโตของสมอง เช่น DHA รวมถึงแอลฟาแล็ค สฟิงโกไมอีลิน (Alphalac Sphingomyelin) ที่ช่วยเด็กเจนใหม่ สร้างสมองไว ได้มากกว่าที่แม่คิด หากคุณแม่มีปัญหาเต้านม หรือปัญหาลูกไม่ยอมเข้าเต้า สามารถขอคำแนะนำจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เพื่อให้ลูกน้อยกลับมากินนมแม่ได้อย่างต่อเนื่องนะคะ
บทความแนะนำสำหรับคุณแม่มือใหม่
- โปรแกรม Baby Development เช็คพัฒนาการลูกน้อยแต่ละช่วงวัย
- วิธีจับลูกเรอ ท่าอุ้มเรอเมื่อลูกไม่เรอ ช่วยให้ลูกสบายท้องหลังอิ่มนม
- น้ำนมแม่อยู่ได้กี่ชั่วโมง พร้อมการเก็บน้ำนมแม่ที่ถูกต้อง
- เทคนิคการปั๊มนมให้เกลี้ยงเต้า พร้อมตารางปั๊มนมและวิธีปั๊มนมให้ลูก
- ท่าให้นมลูก ท่านอนให้นม พร้อมท่าจับเรอ ป้องกันลูกน้อยท้องอืด
อ้างอิง:
- นมแม่มีประโยชน์ กรมอนามัย แนะ ทารก ตั้งแต่แรกเกิดถึง 6 เดือน กินนมแม่อย่างเดียว, กรมอนามัย
- สุขใจได้เป็นแม่, กรมอนามัย
- คู่มือสำหรับพ่อแม่ เพื่อเผยแพร่ความรู้ด้านการดูแลและพัฒนาเด็ก ตอน วัยเด็กเล็ก 0-3 ปี, สมาคมกุมารแพทย์แห่งประเทศไทย
- ลูกกินนมแบบไหนเรียก Over breastfeeding, โรงพยาบาลสมิติเวช
- ปัญหาและวิธีแก้ กับเรื่อง “นมแม่” ที่ต้องอ่าน, โรงพยาบาลสมิติเวช
- เวลาเราเริ่มอาหารตามวัยให้ลูก ... เราต้องลดนมลงไหมคะ ?, เลี้ยงลูกตามใจหมอ
- วิธีให้ลูกดูดเต้า ช่วยกระตุ้นน้ำนมแม่ ทำได้อย่างไรบ้าง, hellokhunmor
- เทคนิคการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่, โรงพยาบาลกรุงเทพ ภูเก็ต
- คู่มือ แม่ทำงานเลี้ยงลูกด้วยนมแม่, สสส.
- คลินิกนมแม่, คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี
อ้างอิง ณ วันที่ 20 พฤศจิกายน 2568