ลูทีน (Lutein) คืออะไร? ฮีโร่ตัวจิ๋วที่ทุกบ้านต้องรู้เพื่อลูกรัก
คำถามที่พบบ่อย
ลูทีน คืออะไร และสำคัญต่อลูกน้อยอย่างไร?
ลูทีน (Lutein) คือสารอาหารในกลุ่มแคโรทีนอยด์ ทำหน้าที่เหมือน 'แว่นกันแดดธรรมชาติ' ช่วยปกป้องจอประสาทตาของทารกจากแสงสีฟ้าและอนุมูลอิสระ ทั้งยังเป็นส่วนประกอบสำคัญในสมองที่ช่วยเสริมสร้างพัฒนาการด้านการเรียนรู้และความจำ ซึ่งร่างกายของทารกไม่สามารถสร้างเองได้ ต้องได้รับจากนมแม่หรือนมเด็ก 1 ปีขึ้นไปค่ะ
สรรพคุณหลักของลูทีน ช่วยอะไรลูกน้อยได้บ้าง?
สรรพคุณหลักของลูทีนสำหรับทารกและเด็กเล็ก ได้แก่
- ปกป้องและบำรุงจอประสาทตา (Macula)
- กรองแสงสีฟ้า (Blue Light) ที่เป็นอันตรายต่อดวงตา
- เสริมสร้างพัฒนาการทางสมองส่วนที่เกี่ยวกับการมองเห็น การเรียนรู้ และความจำ
- เป็นสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยปกป้องเซลล์สมองและดวงตาไม่ให้ถูกทำลาย
ลูทีนปลอดภัยสำหรับทารกหรือไม่?
ลูทีนเป็นสารอาหารที่มีความปลอดภัยและจำเป็นสำหรับทารก โดยเฉพาะลูทีนที่ได้รับจากแหล่งธรรมชาติ เช่น ในน้ำนมแม่ ซึ่งมีบทบาทสำคัญต่อการพัฒนาสายตาและสมองของทารกในช่วงแรกของชีวิต ถือเป็นส่วนหนึ่งของโภชนาการที่ช่วยส่งเสริมการเจริญเติบโตและพัฒนาการที่ดี
สรุป
- ลูทีน มีบทบาทสำคัญมากในการช่วยพัฒนาและทำให้ดวงตาและสมองของลูกน้อยเติบโตอย่างสมบูรณ์ที่สุด
- ลูทีน คือสารสีในกลุ่ม แคโรทีนอยด์ ซึ่งเป็นสารธรรมชาติที่มี สีเหลือง ลูทีน อยู่ในตระกูลเดียวกับเบต้าแคโรทีนที่พบในแครอทหรือมะละกอ ซึ่งเป็นกลุ่มสารสีที่ให้เฉดสีหลากหลาย เช่น สีส้มและสีเหลือง
- ลูทีน ทำงานร่วมกับ ซีแซนทีน ซึ่งเป็นสารในกลุ่ม แคโรทีนอยด์ เหมือนกันทั้งสองเป็นองค์ประกอบหลักที่สำคัญที่สุดใน จุดรับภาพของจอประสาทตา และมีหน้าที่ร่วมกันในการ ดูแลและปกป้องดวงตาของลูกน้อย
- ลูกน้อยสามารถได้รับ ลูทีน จากแหล่งอาหารหลากหลาย เช่น นมแม่ อาหารตามวัย ที่ประกอบด้วย ไข่แดง ผักใบเขียวเข้มต่าง ๆ (เช่น ผักปวยเล้ง ตำลึง คะน้า) ข้าวโพด ฟักทอง แครอท อะโวคาโด มะเขือเทศ องุ่น เป็นต้น รวมถึงจากนมเด็กอายุ 1 ขวบขึ้นไป
เลือกอ่านตามหัวข้อ
- ทำความรู้จัก "ลูทีน" คืออะไร? ทำไมร่างกายลูกสร้างเองไม่ได้
- ลูทีน สรรพคุณ ที่คุณแม่ต้องรู้ ทำไมถึงสำคัญต่อลูกน้อยที่สุด?
- ลูทีน ช่วยอะไรลูกน้อยบ้าง
- ลูกน้อยจะได้รับลูทีนจากที่ไหน?
- อาหารตามวัย (สำหรับลูกน้อย 6 เดือนขึ้นไป)
- คำถามที่คุณแม่ถามบ่อยเกี่ยวกับลูทีน
ทำความรู้จัก "ลูทีน" คืออะไร? ทำไมร่างกายลูกสร้างเองไม่ได้
คุณแม่เคยสงสัยไหมคะว่า ลูทีน (Lutein) ที่พูดถึงกันบ่อย ๆ คืออะไรกันแน่? เจ้าลูทีน เนี่ยเป็นเหมือนสารสีธรรมชาติที่อยู่ในกลุ่มเดียวกับเบต้าแคโรทีน (Beta-Carotene) ที่เราคุ้นเคยกันดีในแครอทหรือมะละกอนั่นแหละค่ะ มีสีเหลืองส้ม สวยงาม จนได้ฉายาว่าเป็น 'วิตามินของดวงตา' เลยทีเดียว
แต่ลูทีนไม่ใช่แค่วิตามินธรรมดานะคะ แต่สำคัญกว่านั้นเยอะเลย! โดยเฉพาะกับ จอประสาทตา ของลูกน้อย บริเวณที่เรียกว่า จุดรับภาพ (Macula of Lutea) ซึ่งเป็นส่วนสำคัญมาก ๆ ในการมองเห็นที่คมชัด ลูทีนจะทำหน้าที่เหมือน เกราะป้องกัน คอยกรองแสงสีฟ้าที่เป็นอันตราย ไม่ให้เข้ามาทำร้ายจอประสาทตาของลูก แถมยังเป็น สารต้านอนุมูลอิสระตัวสำคัญในดวงตา อีกด้วยค่ะ สิ่งที่สำคัญที่อยากให้คุณแม่รู้ไว้เลยก็คือ ร่างกายของลูกน้อย ไม่สามารถสร้างลูทีน ขึ้นมาเองได้ นะคะ! ลูกจะต้องได้รับลูทีน จากภายนอกเท่านั้น ไม่ว่าจะเป็นจากน้ำนมแม่ หรือจากอาหารที่อุดมไปด้วยลูทีน เช่น ผลไม้และผักต่าง ๆ
และนอกจากลูทีนแล้ว ยังมีเพื่อนซี้ที่ทำงานร่วมกันอย่างขาดไม่ได้เลย นั่นก็คือ ซีแซนทีน (Zeaxanthin) ค่ะ เจ้าซีแซนทีนก็เป็นสารสีในกลุ่มแคโรทีนอยด์ (Carotenoid) เหมือนกัน แม้โครงสร้างจะต่างกันนิดหน่อย แต่ลูทีนกับซีแซนทีนเป็นองค์ประกอบหลักที่สำคัญที่สุดในจุดรับภาพของจอประสาทตา เลยค่ะ ทั้งคู่จะทำงานร่วมกันเพื่อช่วยดูแลและปกป้องดวงตาของลูกน้อยให้แข็งแรง มองเห็นโลกสดใสได้อย่างเต็มที่เลยค่ะ
"ลูทีน สรรพคุณ" ที่คุณแม่ต้องรู้ ทำไมถึงสำคัญต่อลูกน้อยที่สุด?
คุณแม่คงพอจะทราบกันแล้วใช่ไหมคะว่า ลูทีน เป็นสารอาหารสุดพิเศษที่สำคัญมาก ๆ ต่อพัฒนาการของลูกน้อย โดยเฉพาะเรื่อง ดวงตาและสมอง การที่ลูกได้รับลูทีนอย่างเพียงพอตั้งแต่ยังเป็นเบบี๋ตัวเล็ก ๆ จึงเป็นสิ่งสำคัญสุด ๆ สำหรับการเติบโตที่สมบูรณ์แบบของเขาค่ะ เราจะมาทำความรู้จักกับลูทีนให้มากขึ้น พร้อมเจาะลึกว่า ลูทีนมีประโยชน์โดดเด่นอะไรบ้าง กับลูกน้อยของเรา เพื่อที่คุณพ่อคุณแม่จะได้ดูแลเจ้าตัวเล็กได้อย่างเต็มศักยภาพ ให้เขามีพัฒนาการที่ดีเยี่ยมรอบด้านเลยค่ะ
1. เกราะป้องกันดวงตา ทำหน้าที่เป็น "แว่นกันแดดธรรมชาติ"
คุณแม่รู้ไหมคะว่าในดวงตาเล็ก ๆ ของลูกน้อย มีสิ่งที่เรียกว่า "แว่นกันแดดธรรมชาติ" คอยปกป้องดวงตาที่บอบบางจากแสงอันตรายต่าง ๆ อยู่ด้วยค่ะ และเจ้าแว่นกันแดดธรรมชาตินี้ก็คือ ลูทีนนั่นเอง! ลูทีนเป็นสารแคโรทีนอยด์ ที่พบมากในเนื้อเยื่อตา โดยเฉพาะที่ จอประสาทตา (Retina) ตรงบริเวณที่เรียกว่า จุดภาพชัด (Macula) ค่ะ เจ้าจุดเล็ก ๆ นี้มีขนาดแค่ประมาณ 5.5 มม. เท่านั้นเอง แต่เป็นส่วนที่สำคัญที่สุดในการช่วยให้มองเห็นภาพได้คมชัดที่สุดเลยล่ะค่ะ ในใจกลางของจุดภาพชัดยังมีรอยบุ๋มเล็ก ๆ ที่เรียกว่า โฟเวีย (Fovea) (ขนาดประมาณ 1.55 มม.) ซึ่งเป็นจุดที่มีเซลล์สำคัญสำหรับการมองเห็นอยู่หนาแน่นมาก ๆ และมีซีแซนทีน ซึ่งเป็นคู่หูของลูทีน อยู่สูงกว่าบริเวณอื่น ๆ ส่วนบริเวณรอบ ๆ จุดภาพชัดก็จะมีเม็ดสีลูทีนอยู่มากกว่าค่ะ
ด้วยความที่จุดภาพชัดมีสีเหลืองจากเม็ดสีลูทีน และซีแซนทีนนี่แหละค่ะ ที่ทำให้ทำหน้าที่สำคัญในการดูดซับแสงสีฟ้า (Blue Light) และรังสียูวีที่เข้ามาในดวงตา มันเหมือนเป็น แว่นกันแดดธรรมชาติ ที่ช่วยปกป้องเซลล์ประสาทตาที่บอบบางของลูกน้อยจากแสงอันตรายต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นแสงสีฟ้าจากหน้าจออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ แสงแดดจ้า หรือแม้กระทั่งแสงจากหลอดไฟที่เราใช้ในชีวิตประจำวันค่ะ
ลองคิดดูนะคะคุณแม่ ถ้าดวงตาของลูกน้อยขาดเกราะป้องกันสำคัญอย่างลูทีน ซึ่งทำหน้าที่เหมือนแว่นกันแดดธรรมชาติไป จะเกิดอะไรขึ้น? แสงสีฟ้าซึ่งมีอยู่ในแสงแดดถึง 25-30% และมีความยาวคลื่นที่มีพลังงานสูงมาก จะสามารถสร้างอนุมูลอิสระภายในดวงตาของลูก และทำลายเซลล์ที่อยู่ชั้นนอกสุดของจอตา (Retinal Pigment Epithelium, RPE) ได้ค่ะ เมื่อเซลล์เหล่านี้ถูกทำลายไปเรื่อย ๆ อาจนำไปสู่ภาวะจอตาเสื่อมในที่สุด ซึ่งเป็นเรื่องที่เราไม่อยากให้เกิดขึ้นกับลูกน้อยของเราเลยใช่ไหมคะ ดังนั้น การดูแลให้ลูกน้อยได้รับลูทีน อย่างเพียงพอจึงเป็นเรื่องที่คุณแม่ไม่ควรมองข้ามเลยค่ะ
2. เสริมสร้างการทำงานของสมอง
คุณแม่รู้ไหมคะว่าร่างกายของเราฉลาดมากเลยนะ! โดยเฉพาะในช่วงที่คุณแม่ตั้งครรภ์ไปจนถึงลูกน้อยแรกเกิด ร่างกายจะเลือกดูดซึมและเก็บสะสมลูทีนกับซีแซนทีนไว้ที่จอประสาทตาและสมองเป็นพิเศษเลยค่ะ เมื่อเจ้าสารอาหารเหล่านี้เข้าสู่ร่างกาย มันก็จะถูกนำไปใช้ในส่วนที่สำคัญต่อการทำงานและโครงสร้างของดวงตาและสมองได้อย่างมีประสิทธิภาพเต็มที่เลยค่ะ
สิ่งที่น่าทึ่งกว่านั้นคือในสมองของลูกน้อย ลูทีนมีสัดส่วนสูงถึงประมาณ 60% ของแคโรทีนอยด์ทั้งหมดที่พบในสมองเลยนะคะ ทั้ง ๆ ที่ลูกได้รับลูทีนจากอาหารเพียงแค่ 12% ของแคโรทีนอยด์ทั้งหมดเท่านั้นเอง นี่แสดงให้เห็นชัดเลยค่ะว่าธรรมชาติให้ความสำคัญกับการสะสมลูทีนในสมองของทารกมากขนาดไหน เหมือนเป็นของขวัญชิ้นสำคัญจากธรรมชาติที่ช่วยส่งเสริมพัฒนาการสมองของลูกน้อยให้ก้าวหน้าอย่างเต็มที่เลยค่ะ พอรู้แบบนี้แล้ว คุณแม่คงจะยิ่งมั่นใจและอยากให้ลูกได้รับลูทีนอย่างเพียงพอใช่ไหมคะ?
3. สุดยอดสารต้านอนุมูลอิสระ
ลูทีนและซีแซนทีนไม่ได้เป็นแค่ชื่อสารอาหารทั่วไปนะคะ แต่เปรียบเสมือน ฮีโร่ตัวจิ๋ว ที่คอยช่วยปกป้องดวงตาของลูกน้อยเลยล่ะค่ะ สารทั้งสองชนิดนี้มีคุณสมบัติเด่นในการต้านอนุมูลอิสระ ซึ่งเปรียบเสมือน เกราะป้องกัน ที่ช่วยให้เซลล์ในดวงตาไม่ถูกทำร้าย เพราะในดวงตา โดยเฉพาะที่จอประสาทตาของเราเนี่ย มีอนุมูลอิสระอยู่เยอะมาก ๆ เลยค่ะ และเจ้าอนุมูลอิสระนี่แหละคือตัวการสำคัญที่ทำลายเซลล์รับภาพ และเป็นสาเหตุของโรคเกี่ยวกับจอประสาทตาต่าง ๆ ได้ ดังนั้น ลูทีน และซีแซนทีนจึงเข้ามาช่วยป้องกันไม่ให้เซลล์ในจอประสาทตาเสื่อม โดยเฉพาะในเด็ก ซึ่งเป็นวัยที่ดวงตากำลังพัฒนาอย่างต่อเนื่อง การได้รับสารเหล่านี้อย่างเพียงพอจึงสำคัญมาก ๆ ต่อสุขภาพตาที่ดีของลูกน้อย เพื่อให้เขามีดวงตาที่สดใสและมองเห็นโลกได้อย่างชัดเจนไปอีกนานเลยค่ะ
ลูทีน ช่วยอะไรลูกน้อยบ้าง
เพื่อที่คุณพ่อคุณแม่จะได้เห็นภาพชัดเจนถึงความสำคัญของ ลูทีนเรามาดูกันดีกว่าค่ะว่า เจ้าสารอาหารมหัศจรรย์นี้จะช่วยอะไร หรือให้ประโยชน์ในเรื่องไหนกับลูกน้อยบ้าง
- ปกป้องจอประสาทตา: ลูทีนจะเข้าไปช่วยดูแลจุดรับภาพ ซึ่งเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้ลูกน้อยมองเห็นได้ชัดเจน เหมือนเป็น แผ่นกรองแสง ที่คอยช่วยกรองแสงสีฟ้าที่เป็นอันตราย ไม่ให้เข้ามาทำลายจอประสาทตาของลูกค่ะ
- พัฒนาสมอง: ไม่ใช่แค่ดวงตานะคะ แต่ลูทีนยังมีบทบาทสำคัญต่อการทำงานและโครงสร้างของทั้งดวงตาและ สมอง ช่วยให้ระบบต่าง ๆ พัฒนาได้อย่างมีประสิทธิภาพเต็มที่เลยค่ะ
- ต้านอนุมูลอิสระ: ลูทีนยังเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ ที่มีประสิทธิภาพสูงมากค่ะ มันจะช่วยปกป้องเซลล์ต่าง ๆ ในร่างกายของลูกไม่ให้ถูกทำลาย โดยเฉพาะเซลล์ที่บอบบางในดวงตาค่ะ
เห็นไหมคะว่าลูทีน มีประโยชน์รอบด้านจริง ๆ คุณแม่มั่นใจได้เลยว่าการดูแลให้ลูกได้รับลูทีนอย่างเพียงพอคือการมอบสิ่งที่ดีที่สุดให้กับเขาค่ะ
ลูกน้อยจะได้รับ ลูทีน จากที่ไหน?
คุณแม่คงพอจะทราบกันแล้วใช่ไหมคะว่า ลูทีนและซีแซนทีน เป็นสารอาหารธรรมชาติที่เราหาได้ไม่ยากเลยค่ะ โดยเฉพาะใน ไข่แดง และ ผักใบเขียว หลากชนิด เช่น ผักคะน้า ปวยเล้ง บรอกโคลี นอกจากนี้ยังเจอได้ในผลไม้บางอย่างอย่าง กีวี องุ่น รวมถึง ซูกินี และ ข้าวโพด ด้วยนะคะ แต่คุณพ่อคุณแม่คงสงสัยใช่ไหมคะว่า แล้วลูกน้อยของเราจะได้รับลูทีนจากที่ไหนได้บ้าง? มาดูกันค่ะว่าแหล่งที่ดีที่สุดสำหรับเจ้าตัวเล็กคืออะไร!
อันดับ 1 น้ำนมแม่ ของขวัญจากธรรมชาติ
คุณแม่รู้ใช่ไหมคะว่า น้ำนมแม่ คือสุดยอดอาหารสำหรับลูกน้อยตั้งแต่แรกเกิด เพราะอุดมไปด้วยสารอาหารกว่า 200 ชนิด ไม่ว่าจะเป็นแคลเซียม ดีเอชเอ (DHA) แอลฟาแล็ค สฟิงโกไมอีลิน (Alphalac Sphingomyelin) ซึ่งสารอาหารเหล่านี้ล้วนมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อพัฒนาการทางสมอง สติปัญญา และการเจริญเติบโตของลูกน้อย น้ำนมแม่ยังอุดมไปด้วย “ลูทีน” นี่จึงเป็นอีกหนึ่งเหตุผลสำคัญที่ทำให้นมแม่เป็นแหล่งลูทีน ที่ดีที่สุดสำหรับทารก
ลูทีน สำคัญอย่างไรกับลูกน้อย?
ลูทีน เป็นสารอาหารกลุ่มแคโรทีนอยด์ที่เราได้รับจากอาหารทั่วไปนี่แหละค่ะ แต่สิ่งที่พิเศษคือร่างกายจะเลือกสะสมไว้มากเป็นพิเศษที่ ดวงตาและสมอง ของลูกน้อยตั้งแต่เริ่มต้นชีวิตในครรภ์ไปจนถึงตลอดช่วงอายุเลยนะคะ
การที่ลูทีนไปอยู่ในบริเวณที่มีการเผาผลาญสูงและเกิดอนุมูลอิสระมากอย่างดวงตาและสมอง ยิ่งตอกย้ำว่าสารอาหารนี้มีบทบาทสำคัญมาก ๆ ในการพัฒนาและเติบโตของอวัยวะทั้งสองส่วนนี้เลยค่ะ ซึ่งจริง ๆ แล้ว ดวงตาและสมองของเราสร้างมาจากเซลล์ต้นกำเนิดเดียวกันด้วยนะคะ
ลูทีนจะถูกส่งไปให้ลูกน้อยในครรภ์ผ่านทางสายสะดือ และหลังจากลูกคลอดออกมา ก็ยังได้รับต่อเนื่องจากนมแม่อีกด้วยค่ะ จากนั้นลูกน้อยก็จะได้รับลูทีนจากอาหารสำหรับทารกต่อไป ปริมาณลูทีนที่ร่างกายลูกจะได้รับก็ขึ้นอยู่กับการบริโภคผักและผลไม้เป็นหลักเลยค่ะ และที่สำคัญคือ ลูทีนจากนมแม่มีการดูดซึมไปใช้ได้ดีเยี่ยมเลยนะคะ เห็นไหมคะว่าธรรมชาติจัดสรรมาให้ลูกน้อยได้รับลูทีนตั้งแต่แรกเริ่ม เพื่อการพัฒนาที่ดีที่สุดเลยค่ะ
ลูทีน สารอาหารสำคัญในนมที่คุณแม่ต้องใส่ใจ
นมแม่ถือเป็นแหล่งสารอาหารธรรมชาติที่ดีที่สุดสำหรับลูกน้อย เพราะอุดมไปด้วยสารอาหารมากกว่า 200 ชนิด หนึ่งในนั้นคือ “ลูทีน” ซึ่งมีบทบาทสำคัญต่อพัฒนาการของดวงตาและสมองตั้งแต่ช่วงแรกของชีวิต การที่ลูกได้รับลูทีน อย่างเพียงพอจึงเป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่จะช่วยวางรากฐานการมองเห็นและศักยภาพการเรียนรู้ที่ดีในอนาคต
อาหารตามวัย (สำหรับลูกน้อย 6 เดือนขึ้นไป)
พอเจ้าตัวเล็กเข้าสู่ช่วง 6 เดือน ขึ้นไป ก็ถึงเวลาที่ต้องเริ่มอาหารตามวัยเพื่อเสริมพัฒนาการที่สมบูรณ์แล้วใช่ไหมคะ นอกจากสารอาหารหลักต่าง ๆ ที่จำเป็น คุณพ่อคุณแม่ทราบไหมคะว่า "ลูทีน" ก็เป็นสารอาหารสำคัญต่อดวงตาและสมองของลูกน้อยไม่แพ้กันเลยล่ะค่ะ มาดูกันว่า อาหารตามวัยที่อุดมไปด้วยลูทีนมีอะไรบ้างที่คุณแม่สามารถเตรียมให้ลูกรักได้ง่าย ๆ เพื่อเสริมสร้างพัฒนาการที่ดีรอบด้านให้ลูกน้อยค่ะ
แหล่งอาหารที่มีลูทีน และซีแซนทีน
- ผักใบเขียวเข้ม: ผักโขม คะน้า บรอกโคลี ตำลึง ผักกาดขาว ผักบุ้ง ผักเคล
- ผัก/ผลไม้สีเหลืองส้ม: ข้าวโพด ฟักทอง แครอท มันเทศ มะเขือเทศ
- ผลไม้ตระกูลเบอร์รี่: โกจิเบอร์รี่
- อื่น ๆ: ไข่แดง อะโวคาโด
เมนูอาหารสำหรับเด็ก 6 เดือนขึ้นไป ( อุดมด้วยลูทีน) | ||
เมนูที่ 1 | ข้าวบดไข่แดง ตำลึง | ส่วนประกอบ |
| ข้าวต้มสุกบดละเอียด 2 ช้อนกินข้าว | ||
| ไข่แดงต้มสุก ½ ฟอง | ||
| ตำลึงต้มเปื่อย ½ ช้อนกินข้าว | ||
| น้ำมันพืช ½ ช้อนชา | ||
เมนูที่ 2 | ข้าวบดตับไก่ ผักหวาน | ส่วนประกอบ |
| ข้าวต้มสุกบดละเอียด 2 ช้อนกินข้าว | ||
| ตับไก่ต้มสุก 1 ช้อนกินข้าว | ||
| ผักหวานต้มเปื่อย ½ ช้อนกินข้าว | ||
| น้ำมันพืช ½ ช้อนชา | ||
เมนูที่ 3 | ข้าวบดปลาทู ฟักทอง | ส่วนประกอบ |
| ข้าวต้มสุกบดละเอียด 2 ช้อนกินข้าว | ||
| ปลาทูนึ่งสุก 1 ช้อนกินข้าว | ||
| ฟักทองต้มเปื่อย ½ ช้อนกินข้าว | ||
| น้ำมันพืช ½ ช้อนชา | ||
เมนูที่ 4 | ข้าวบดปลาช่อน แครอท | ส่วนประกอบ |
| ข้าวต้มสุกบดละเอียด 2 ช้อนกินข้าว | ||
| ปลาช่อนนึ่งสุก 1 ช้อนกินข้าว | ||
| แครอทต้มเปื่อย ½ ช้อนกินข้าว | ||
| น้ำมันพืช ½ ช้อนชา | ||
เมนูที่ 5 | ข้าวบดตับไก่ ผักกาดขาว | ส่วนประกอบ |
| ข้าวต้มสุกบดละเอียด 2 ช้อนกินข้าว | ||
| ตับไก่ต้มสุก 1 ช้อนกินข้าว | ||
| ผักกาดขาวปลีต้มเปื่อย ½ ช้อนกินข้าว | ||
| น้ำมันพืช ½ ช้อนชา | ||
เมนูที่ 6 | ข้าวบดไข่แดง ฟักทอง | ส่วนประกอบ |
| ข้าวต้มสุกบดละเอียด 2 ช้อนกินข้าว | ||
| ไข่แดงต้มสุก ½ ช้อนกินข้าว | ||
| ฟักทองต้มเปื่อย ½ ช้อนกินข้าว | ||
| น้ำมันพืช ½ ช้อนชา | ||
เมนูที่ 7 | ข้าวบดปลาทู ปวยเล้ง | ส่วนประกอบ |
| ข้าวต้มสุกบดละเอียด 2 ช้อนกินข้าว | ||
| ปลาทูนึ่งสุก 1 ช้อนกินข้าว | ||
| ปวยเล้งต้มเปื่อย ½ ช้อนกินข้าว | ||
| น้ำมันพืช ½ ช้อนชา | ||
เมนูอาหารอ้างอิงตาม สำนักโภชนาการ กระทรวงสาธารณสุข
คำถามที่คุณแม่ถามบ่อยเกี่ยวกับลูทีน
คุณแม่หลายคนคงมีคำถามเกี่ยวกับ ลูทีนสารอาหารสำคัญที่มีประโยชน์กับลูกน้อย เราจะมาไขทุกข้อสงสัยที่คุณแม่พบบ่อย พร้อมคำตอบที่เข้าใจง่าย เพื่อให้คุณแม่มั่นใจว่าลูกน้อยจะได้รับการดูแลที่ดีที่สุดในทุก ๆ วันค่ะ
Q1: ปริมาณลูทีน ที่ทารกควรได้รับ
A: คุณแม่คงสงสัยใช่ไหมคะว่าลูกน้อยของเราควรได้รับ ลูทีนในปริมาณเท่าไหร่? ปัจจุบันยังไม่มีการกำหนดปริมาณลูทีนที่แนะนำอย่างเป็นทางการเฉพาะสำหรับทารก อย่างไรก็ตาม การได้รับลูทีนจากแหล่งธรรมชาติ เช่น ในน้ำนมแม่ถือว่าเพียงพอต่อความต้องการของร่างกายในช่วงวัยแรกเกิดแล้วค่ะ เพื่อให้คุณแม่มั่นใจว่าลูกน้อยได้รับสารอาหารที่จำเป็นต่อพัฒนาการในแต่ละช่วงวัยอย่างครบถ้วน แนะนำให้ปรึกษากุมารแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญด้านโภชนาการเพิ่มเติมค่ะ
Q2: คุณแม่ตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร ควรกินลูทีนเสริมหรือไม่?
A: คุณแม่ที่กำลังตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร การได้รับลูทีนจากอาหารเป็นวิธีที่ดีที่สุดเลยค่ะ การกินอาหารที่มีลูทีนสูง เช่น ผักใบเขียวเข้ม และ ไข่แดง จะช่วยให้คุณแม่ได้รับสารอาหารลูทีนจากธรรมชาติได้อย่างเต็มที่ค่ะ แต่ถ้าคุณแม่กำลังพิจารณาที่จะกินผลิตภัณฑ์เสริมอาหารลูทีน แนะนำให้ปรึกษาแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญด้านโภชนาการก่อนเสมอจะดีที่สุดนะคะ เพื่อความปลอดภัย และเพื่อให้มั่นใจว่าปริมาณที่ได้รับเหมาะสมกับความต้องการของคุณแม่และลูกน้อยค่ะ
Q3: ลูทีน มีผลข้างเคียงกับลูกน้อยไหม?
A: ลูทีนที่ได้รับจากอาหารธรรมชาติ เช่น ในน้ำนมแม่ ถือว่ามีความปลอดภัยสูงสำหรับทารก ปัจจุบันยังไม่มีรายงานผลข้างเคียงที่เป็นอันตรายจากการได้รับลูทีนในปริมาณที่เหมาะสมจากแหล่งอาหารเหล่านี้ โดยลูทีนมีบทบาทสำคัญต่อการพัฒนาสายตาและสมองของทารกในช่วงแรกของชีวิต
ลูทีน เป็นสารอาหารสำคัญที่มีบทบาทต่อพัฒนาการของดวงตา และ สมองของลูกน้อย คุณแม่สามารถเริ่มต้นดูแลให้ลูกน้อยแข็งแรงสมบูรณ์ได้อย่างมีประสิทธิภาพตั้งแต่ช่วงตั้งครรภ์ ผ่านอาหารที่รับประทาน หลังจากคลอดคุณแม่ยังสามารถส่งต่อลูทีน ให้ลูกได้ด้วยนมแม่ตั้งแต่แรกเกิด และเมื่อลูกเริ่มรับประทานอาหารตามวัย คุณแม่ควรดูแลให้ลูกได้รับประทานอาหารที่หลากหลายและมีคุณค่าทางโภชนาการสูง รวมถึงอาหารที่เป็นแหล่งของลูทีน แหล่งอาหารที่อุดมไปด้วยลูทีน ได้แก่ ไข่แดงบรอกโคลี ปวยเล้ง ตำลึง คะน้า ข้าวโพด ฟักทอง แครอท และมะเขือเทศ เป็นต้น การให้ความสำคัญกับสารอาหารเหล่านี้จะช่วยส่งเสริมพัฒนาการที่ดีของลูกน้อยได้อย่างต่อเนื่องค่ะ
บทความที่เกี่ยวข้อง
อ้างอิง:
- Early Pediatric Benefit of Lutein for Maturing Eyes and Brain—An Overview, National Library of Medicine
- เบต้า แคโรทีน, สำนักโภชนาการ
- LUTEIN… สารมหัศจรรย์บำรุงสายตาลูกน้อย, คลิกนิกนมแม่ โรงพยาบาลกรุงเทพ ระยอง
- ลูทีนและซีแซนทีนอาหารของดวงตา, กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.)
- สารบำรุงตาจากพืชมีสี, คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล
- แสงสีฟ้าตัวการร้ายทำลายสายตา, โรงพยาบาลกรุงเทพ
- The Importance of Lutein and Zeaxanthin for Kids, Gina Jaeger, PhD NORDIC Naturals
- สารอาหารสำคัญช่วยป้องกันและบำรุงดวงตา, ศูนย์ศรีพัฒน์ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
- เมนูอาหาร 7 วัน สำหรับเด็กอายุ 6 เดือน, สำนักโภชนาการ กระทรวงสาธารณสุข
- อาหารบำรุงสายตา, โรงพยาบาลกรุงเทพสุขุมวิท
- อาหารบำรุงสายตา ชะลอการเกิดโรคจอประสาทตาเสื่อม, โรงพยาบาลไทยนครินทร์
อ้างอิง ณ วันที่ 5 กรกฎาคม 2568