นับวันไข่ตก เทคนิคเพิ่มโอกาสตั้งครรภ์ พร้อมเคล็ดลับเลือกเพศลูก

นับวันไข่ตก เทคนิคเพิ่มโอกาสตั้งครรภ์ พร้อมเคล็ดลับเลือกเพศลูก

สำหรับว่าที่คุณแม่ที่กำลังวางแผนตั้งครรภ์ การทำความเข้าใจเรื่อง 'วันไข่ตก' คือก้าวแรกที่สำคัญ เพราะการนับวันไข่ตกอย่างแม่นยำจะช่วยให้รู้ช่วงเวลาที่เหมาะสมที่สุดสำหรับการมีเพศสัมพันธ์และเพิ่มโอกาสในการตั้งครรภ์ให้สูงขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ

นับวันไข่ตก เทคนิคเพิ่มโอกาสตั้งครรภ์ พร้อมเคล็ดลับเลือกเพศลูก

คำถามที่พบบ่อย

ไม่มีมูกใส หรือไม่ปวดท้อง หมายความว่าไข่ไม่ตกหรือไม่?

ไม่เสมอไป อาการที่ชัดเจนของการตกไข่มักจะไม่เกิดขึ้นกับทุกคน แม้ในช่วงที่ไข่ตกแล้วก็ตาม แม้ว่าบางคนอาจจะมีอาการอย่างมูกใสที่ช่องคลอดหรือปากมดลูกมากขึ้น หรือมีเลือดออกเล็กน้อย รวมถึงอาการปวดท้องหลังการตกไข่ได้บ้าง แต่ก็ไม่ได้เป็นอาการที่เกิดขึ้นกับทุกราย ดังนั้น หากไม่มีอาการเหล่านี้ ไม่ได้หมายความว่าไข่ไม่ตก เพราะร่างกายของแต่ละคนแสดงสัญญาณที่แตกต่างกันไป

จำเป็นต้องมีเพศสัมพันธ์ทุกวันในช่วงไข่ตกหรือไม่?

ไม่จำเป็นต้องมีเพศสัมพันธ์ทุกวันในช่วงไข่ตกค่ะ หลายคนอาจเข้าใจผิดว่าการมีเพศสัมพันธ์บ่อย ๆ จะช่วยเพิ่มโอกาสในการตั้งครรภ์ แต่ความจริงแล้ว หากมีเพศสัมพันธ์ทุกวัน ปริมาณและความแข็งแรงของอสุจิอาจลดลงได้

เพื่อเพิ่มโอกาสในการตั้งครรภ์อย่างเหมาะสม แนะนำให้มีเพศสัมพันธ์แบบวันเว้นวันในช่วงเวลาไข่ตกจะดีกว่า เพราะวิธีนี้จะช่วยให้อสุจิมีปริมาณและคุณภาพที่พร้อมสำหรับการปฏิสนธิได้ดีที่สุด

ไข่ตกหลังมีประจำเดือนกี่วัน?

สำหรับผู้ที่มีรอบเดือนมาสม่ำเสมอ โดยปกติแล้วไข่จะตกประมาณ วันที่ 14 นับจากวันแรกของการมีประจำเดือนค่ะ อย่างไรก็ตาม วันที่ไข่ตกอาจมีการคลาดเคลื่อนได้เล็กน้อยในแต่ละคนและในแต่ละรอบเดือนด้วยค่ะ ดังนั้น โอกาสที่ไข่จะตกหลังจากประจำเดือนหมดไปเพียง 1-2 วัน หรือนับจากวันแรกของรอบเดือนประมาณ 6-7 วันจึงมีน้อย นอกจากนี้ หากเลือดที่ออกมาไม่ใช่ประจำเดือนจริง ๆ การคาดคะเนวันตกไข่ก็จะไม่แม่นยำเช่นกัน

สรุป

  • การตกไข่ หรือ ไข่ตก คือการที่ไข่ที่สุก ที่สุดหลุดออกจากรังไข่และเคลื่อนมาที่ท่อนำไข่ เพื่อรอการปฏิสนธิ ในแต่ละรอบเดือนจะมีการตกไข่เพียง 1 ครั้ง และไข่จะมีชีวิตอยู่ได้เพียง 12-24 ชั่วโมงเท่านั้น ช่วงนี้จึงเป็นโอกาสทองสำหรับการตั้งครรภ์หากมีการมีเพศสัมพันธ์
  • ในช่วงที่ไข่ใกล้ตก ร่างกายจะแสดงสัญญาณให้เราทราบได้หลายอย่าง เช่น มูกปากมดลูกเปลี่ยนไป โดยจะใสและยืดคล้ายไข่ขาวดิบ อุณหภูมิร่างกายสูงขึ้นเล็กน้อย และบางคนอาจ มีความต้องการทางเพศเพิ่มขึ้น
  • การนับวันไข่ตกด้วยตัวเองวิธีนี้เหมาะสำหรับผู้ที่มีรอบเดือนสม่ำเสมอ โดยปกติรอบเดือนจะอยู่ที่ประมาณ 28 วัน ให้นับวันแรกของการมีประจำเดือนเป็นวันที่ 1 และ วันที่ 14 จะเป็นวันที่ไข่ตก ช่วงเวลาที่ดีที่สุดสำหรับการมีเพศสัมพันธ์คือ 1-2 วันก่อนวันไข่ตก เนื่องจากอสุจิสามารถมีชีวิตอยู่ในร่างกายได้นานประมาณ 2 วัน ซึ่งจะช่วยเพิ่มโอกาสในการปฏิสนธิและตั้งครรภ์

 

เลือกอ่านตามหัวข้อ

 

ไข่ตกคืออะไร และสำคัญอย่างไรกับการตั้งครรภ์?

ทุกเดือนร่างกายของผู้หญิงจะเข้าสู่กระบวนการที่แสนมหัศจรรย์ นั่นคือ การตกไข่ ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของการตั้งครรภ์ กระบวนการนี้จะเกิดขึ้นอย่างสม่ำเสมอในแต่ละรอบเดือนของคุณแม่ จนกระทั่งถึงช่วงวัยหมดประจำเดือน

การตกไข่เกิดขึ้นได้อย่างไร?

การตกไข่เป็นส่วนหนึ่งของวงจรประจำเดือนตามธรรมชาติ โดยปกติแล้วหนึ่งรอบเดือนจะใช้เวลาประมาณ 28-35 วัน นับจากวันแรกที่มีประจำเดือน ในช่วงเวลาที่เหมาะสม รังไข่จะปล่อยไข่ที่สุกที่สุดหนึ่งใบออกมา และเดินทางไปรออยู่ที่บริเวณท่อนำไข่ ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่สำคัญที่สุด หากมีการปฏิสนธิในช่วงนี้ โอกาสในการตั้งครรภ์ก็จะมีสูงขึ้น

 

ทำไมช่วงเวลาตกไข่จึงสำคัญ?

เมื่อไข่ถูกปล่อยออกมาแล้ว จะมีชีวิตและพร้อมสำหรับการปฏิสนธิเพียง 12-24 ชั่วโมงเท่านั้น หากอสุจิเดินทางมาพบและผสมกับไข่ได้สำเร็จ ตัวอ่อนที่เกิดขึ้นจะเคลื่อนตัวไปฝังที่ผนังมดลูกและเจริญเติบโตเป็นการตั้งครรภ์ แต่ถ้าหากไข่ไม่ได้รับการปฏิสนธิ หลังจากนั้นประมาณ 14 วัน ไข่ก็จะสลายตัวไปและกลายเป็นประจำเดือนตามปกติค่ะ

การทำความเข้าใจเรื่องการตกไข่จึงเป็นเหมือนการเปิดประตูสู่การตั้งครรภ์ และช่วยให้คุณแม่สามารถวางแผนเพื่อสร้างครอบครัวได้อย่างเหมาะสมค่ะ

 

นับวันไข่ตกอย่างไรให้ได้ผลและเพิ่มโอกาสตั้งครรภ์?

สำหรับคุณแม่ที่กำลังวางแผนจะมีเจ้าตัวน้อย การทำความเข้าใจช่วงเวลาที่เหมาะสมที่สุดจะช่วยเพิ่มโอกาสในการตั้งครรภ์ได้อย่างมากค่ะ เรามี 2 วิธีง่าย ๆ ที่สามารถนำไปปรับใช้ได้ โดยคำแนะนำจากกรมอนามัยค่ะ

1. การนับวันไข่ตกด้วยตัวเอง

วิธีนี้เหมาะสำหรับคุณแม่ที่มีรอบเดือนสม่ำเสมอค่ะ ปกติแล้วรอบเดือนของผู้หญิงจะอยู่ที่ประมาณ 28 วัน โดยนับวันแรกของการมีประจำเดือนเป็น "วันที่ 1" จากนั้นวันที่ 14 จะเป็นวันที่ไข่ตกพอดี ช่วงเวลาทองที่คุณหมอแนะนำให้มีเพศสัมพันธ์คือ 1-2 วันก่อนวันไข่ตก เนื่องจากสเปิร์มสามารถมีชีวิตอยู่ในร่างกายคุณแม่เพื่อรอปฏิสนธิได้ประมาณ 2 วัน ซึ่งจะพอดีกับวันที่ไข่ตก ทำให้โอกาสในการตั้งครรภ์สูงขึ้นค่ะ

 

2. การใช้ชุดตรวจการตกไข่

วิธีนี้เหมาะสำหรับคุณแม่ที่มีรอบเดือนไม่สม่ำเสมอ หรือต้องการความแม่นยำมากขึ้น ชุดตรวจการตกไข่จะช่วยให้คุณแม่คาดคะเนวันไข่ตกได้อย่างแม่นยำกว่าการนับวันด้วยตัวเองค่ะ
ชุดตรวจนี้ทำงานคล้ายกับที่ตรวจครรภ์ โดยจะตรวจหาฮอร์โมน LH ( Luteinizing Hormone) ซึ่งเป็นฮอร์โมนที่กระตุ้นให้เกิดการตกไข่

วิธีใช้ที่แนะนำ

  1. ให้เริ่มตรวจหลังจากมีประจำเดือนประมาณ 10-12 วัน
  2. ช่วงเวลาที่เหมาะสมที่สุดในการตรวจคือช่วง 13.00 น. ถึง 20.00 น. เพราะเป็นช่วงที่ฮอร์โมน LH ในปัสสาวะมีความเข้มข้นสูงสุด ทำให้ผลตรวจแม่นยำที่สุดค่ะ

 

ชุดตรวจการตกไข่มีหลายรูปแบบให้เลือกใช้ ไม่ว่าจะเป็นแบบจุ่ม แบบหยด หรือแบบปัสสาวะผ่านชุดตรวจ ซึ่งล้วนให้ผลที่เข้าใจง่ายเป็นขีด 2 ขีดเหมือนกันค่ะ การวางแผนอย่างรอบคอบจะช่วยให้คุณแม่และคุณพ่อมั่นใจและสบายใจมากขึ้นในการเตรียมพร้อมสู่การมีลูกน้อยค่ะ หากมีข้อสงสัยเพิ่มเติม สามารถปรึกษาคุณหมอได้ค่ะ

 

อาการไข่ตกเป็นแบบไหน?

นอกจากการนับวันตามรอบเดือนแล้ว ร่างกายก็สามารถส่งสัญญาณต่าง ๆ เพื่อบอกให้รู้ว่าช่วงเวลาสำคัญกำลังจะมาถึง ซึ่งสามารถสังเกตอาการไข่ตกได้จากสัญญาณเหล่านี้

1.ลักษณะของมูกที่ปากมดลูก (Cervical mucus)

ลองสังเกตลักษณะของมูกที่ออกมาจากช่องคลอดค่ะ ในช่วงที่ไข่ใกล้ตก มูกจะเปลี่ยนเป็นสีใส คล้ายกับไข่ขาวดิบ มีความเหนียวและยืดหยุ่นมากขึ้น ซึ่งลักษณะแบบนี้ช่วยนำพาอสุจิให้เดินทางไปหาไข่ได้สะดวกขึ้นค่ะ

2. อารมณ์ทางเพศที่เพิ่มขึ้น

เป็นเรื่องธรรมชาติที่ฮอร์โมนจะส่งผลให้ว่าที่คุณแม่รู้สึกมีอารมณ์ทางเพศสูงขึ้น รวมถึงร่างกายจะหลั่งสารหล่อลื่นออกมามากขึ้น เพื่อให้การมีเพศสัมพันธ์เป็นไปอย่างง่ายดาย

3. อุณหภูมิร่างกายที่สูงขึ้น

หลังจากที่ไข่ตกแล้ว ฮอร์โมนโปรเจสเตอโรน (Progesterone) จะสูงขึ้น ส่งผลให้อุณหภูมิร่างกาย สูงขึ้นเล็กน้อยประมาณ 0.5 องศาเซลเซียส ลองวัดอุณหภูมิด้วยเทอร์โมมิเตอร์ทุกเช้าหลังตื่นนอนก่อนทำกิจกรรมใด ๆ และจดบันทึกไว้ 2-3 เดือน ก็จะเห็นแนวโน้มที่ชัดเจนขึ้นค่ะ

4. ตำแหน่งของปากมดลูก

ในช่วงที่ไข่ตก ปากมดลูกจะเลื่อนตำแหน่งขึ้นไปสูงกว่าปกติและรู้สึกนุ่มขึ้น

5. อาการเจ็บคัดตึงเต้านม

แม้จะไม่ใช่อาการที่บอกได้แม่นยำที่สุด แต่ผู้หญิงหลายคนก็อาจมีอาการเจ็บหรือคัดตึงที่เต้านมในช่วงนี้ได้เช่นกัน

6. ลักษณะผลึกน้ำลาย

หากนำน้ำลายไปส่องด้วยกล้องจุลทรรศน์และทิ้งไว้ให้แห้ง จะเห็นผลึกน้ำลายมีลักษณะคล้ายใบเฟิร์นที่สวยงาม ซึ่งเป็นสัญญาณหนึ่งที่บ่งบอกว่าคุณกำลังอยู่ในช่วงไข่ตก

7. อาการปวดท้องน้อยข้างเดียว

คุณผู้หญิงอาจรู้สึกปวดหน่วง ๆ บริเวณท้องน้อยเพียงข้างเดียว ซึ่งเป็นอาการที่เกิดจากการที่รังไข่ปล่อยไข่ออกมาค่ะ

 

นับวันไข่ตก ไข่ช่วงไหนมีโอกาส 'ติด' สูงที่สุด?

การนับวันไข่ตกเป็นวิธีที่ช่วยเพิ่มโอกาสในการตั้งครรภ์ได้ค่ะ จากการศึกษาในปี 2000 ที่เก็บข้อมูลจากผู้หญิง 881 คน พบว่าโอกาสในการตั้งครรภ์จะแตกต่างกันไปตามช่วงเวลาที่มีเพศสัมพันธ์เมื่อเทียบกับวันไข่ตก ดังนี้

  • 5 วันก่อนไข่ตก มีโอกาสสำเร็จในการตั้งครรภ์ 5%
  • 4 วันก่อนไข่ตก มีโอกาสสำเร็จในการตั้งครรภ์ 18%
  • 3 วันก่อนไข่ตก มีโอกาสสำเร็จในการตั้งครรภ์ 24%
  • 2 วันก่อนไข่ตก มีโอกาสสำเร็จในการตั้งครรภ์ 26%
  • 1 วันก่อนไข่ตก มีโอกาสสำเร็จในการตั้งครรภ์ 21%
  • วันไข่ตก มีโอกาสสำเร็จในการตั้งครรภ์ 10%

 

อย่างไรก็ตาม โอกาสในการตั้งครรภ์ยังขึ้นอยู่กับปัจจัยอื่น ๆ ด้วย เช่น อายุ ความถี่ในการมีเพศสัมพันธ์ และลักษณะรอบเดือนของแต่ละคนค่ะ

 

ผู้หญิงถือปฏิทินและเครื่องมือนับวันตกไข่

 

ประจำเดือนมาไม่ปกติ นับวันไข่ตกได้ไหม?

สำหรับคุณผู้หญิงที่ประจำเดือนมาไม่ปกติ มาบ้างไม่มาบ้าง การนับวันไข่ตกด้วยตัวเองอาจทำได้ยากค่ะ การที่ประจำเดือนมาไม่สม่ำเสมออาจมีหลายสาเหตุ เช่น ความผิดปกติของฮอร์โมน หรือโรคบางอย่างที่ควรได้รับการรักษา ดังนั้น เพื่อให้การวางแผนตั้งครรภ์เป็นไปอย่างเหมาะสมและปลอดภัย แนะนำให้เข้ารับการตรวจและปรึกษาแพทย์ เพื่อหาสาเหตุที่แท้จริงและรับคำแนะนำที่ถูกต้องต่อไปค่ะ

 

ทำไมการนับวันไข่ตกถึงใช้ไม่ได้กับทุกคน?

แม้ว่าการนับวันไข่ตกจะเป็นวิธีที่ดีสำหรับหลาย ๆ คู่ที่ต้องการมีลูก แต่ก็ไม่ใช่ผู้หญิงทุกคนที่จะสามารถใช้วิธีนี้ได้อย่างแม่นยำ ซึ่งมีสาเหตุดังนี้ค่ะ

ปัจจัยภายในร่างกายที่ส่งผลต่อการตกไข่

  • ปัญหาไข่ไม่ตก: ส่วนใหญ่มักเกิดจากความเครียด ไม่ว่าจะเป็นเรื่องงาน เรื่องเรียน หรือเรื่องอื่น ๆ ที่ส่งผลกระทบต่อระบบภายในร่างกาย
  • ความผิดปกติของฮอร์โมน: ฮอร์โมนที่ควบคุมการทำงานของรังไข่อาจทำงานไม่ปกติ เช่น ฮอร์โมนไทรอยด์, ฮอร์โมนจากต่อมใต้สมอง หรือฮอร์โมนน้ำนม
  • ภาวะไข่ไม่ตกเรื้อรัง: ภาวะนี้พบได้บ่อยในผู้หญิงที่มีประจำเดือนไม่สม่ำเสมอ โดยเฉพาะในผู้ที่มีภาวะ ถุงน้ำรังไข่หลายใบ หรือ Polycystic Ovary Syndrome (PCOS) ซึ่งเกิดจากการทำงานที่ผิดปกติของรังไข่เอง

 

สาเหตุอื่น ๆ ที่อาจทำให้เข้าใจผิดว่าเป็นประจำเดือน

บางครั้งอาการที่ดูเหมือนประจำเดือนอาจไม่ใช่ประจำเดือนจริง ๆ ค่ะ แต่อาจเป็น อาการเลือดออกที่ผิดปกติ ซึ่งมีหลายสาเหตุ เช่น

  • มดลูกหรือปากมดลูกอักเสบ
  • มีติ่งเนื้อที่ปากมดลูก
  • การใช้ยาคุมกำเนิดแบบไม่สม่ำเสมอ เช่น การลืมกินยาในบางวัน อาจทำให้มีเลือดออกกะปริบกะปรอยระหว่างรอบเดือนได้

การทำความเข้าใจสาเหตุเหล่านี้จะช่วยให้คุณผู้หญิงวางแผนดูแลสุขภาพตัวเองได้อย่างเหมาะสม หากมีข้อสงสัยหรือไม่แน่ใจในอาการ ควรปรึกษาคุณหมอเพื่อรับการวินิจฉัยที่ถูกต้องและหาทางแก้ไขที่เหมาะสมที่สุดนะคะ

 

ภาวะไข่ไม่ตก สังเกตได้อย่างไร?

คุณแม่หลายท่านอาจเคยได้ยินหรือกังวลเกี่ยวกับภาวะไข่ไม่ตก ซึ่งเป็นภาวะที่สำคัญที่ควรทำความเข้าใจค่ะ ภาวะไข่ไม่ตก หรือ Anovulation หมายถึง ภาวะที่รังไข่ไม่สามารถสร้างไข่ให้เจริญเติบโตเต็มที่และปล่อยออกมาสู่ท่อนำไข่ได้ตามปกติ ทำให้ไม่มีไข่พร้อมสำหรับการปฏิสนธิ ซึ่งเป็นสาเหตุหนึ่งของภาวะมีบุตรยาก อาการไข่ไม่ตกที่สังเกตได้บ่อย มีดังนี้

  1. ประจำเดือนผิดปกติ: อาจมีรอบเดือนที่ไม่สม่ำเสมอ หรือประจำเดือนมาแบบกะปริบกะปรอย บางครั้งอาจมานานผิดปกติหรือมีปริมาณมากจนน่าตกใจ
  2. ภาวะขาดประจำเดือน: หากประจำเดือนขาดหายไปนานกว่าปกติโดยไม่มีสาเหตุอื่น ๆ ก็อาจเป็นสัญญาณสำคัญ
  3. ความเปลี่ยนแปลงของผิวพรรณ: ฮอร์โมนที่แปรปรวนอาจทำให้เกิดสิวขึ้นผิดปกติ ผิวมันขึ้น หรือมีขนขึ้นดกในบริเวณที่ไม่เคยมีมาก่อน
  4. มีบุตรยาก: นี่คือสัญญาณที่พบบ่อยที่สุดและชัดเจนที่สุดที่บ่งบอกว่าอาจมีภาวะไข่ไม่ตก

หากคุณกำลังวางแผนที่จะมีน้องและสังเกตเห็นอาการเหล่านี้ ควรปรึกษาคุณหมอเพื่อรับการตรวจวินิจฉัยและคำแนะนำที่เหมาะสม การดูแลอย่างถูกวิธีแต่เนิ่น ๆ จะช่วยเพิ่มโอกาสในการตั้งครรภ์ได้ค่ะ

 

นับวันไข่ตกแล้วแต่ยังไม่ท้องสักที เมื่อไหร่ควรปรึกษาแพทย์?

หากคุณแม่และสามีพยายามวางแผนมีน้องแล้วแต่ยังไม่สำเร็จ อย่าเพิ่งหมดกำลังใจนะคะ เข้าใจดีว่าความรู้สึกนี้อาจสร้างความกังวลใจได้ค่ะ โดยทั่วไปแล้ว หากแต่งงานและมีเพศสัมพันธ์อย่างสม่ำเสมอโดยไม่มีการคุมกำเนิดมาเป็นเวลา 1 ปีแล้วยังไม่ตั้งครรภ์ แนะนำให้ลองปรึกษาคุณหมอเพื่อตรวจหาสาเหตุค่ะ แต่ถ้าคุณแม่อายุ 35 ปีขึ้นไป อาจพิจารณาปรึกษาคุณหมอได้เร็วขึ้นที่ 6 เดือน ค่ะ จากสถิติทางการแพทย์เกี่ยวกับภาวะมีบุตรยาก พบว่าสาเหตุสามารถเกิดได้จากหลายปัจจัย

  1. สาเหตุจากฝ่ายชาย (40%): ส่วนใหญ่เกิดจากความผิดปกติของการผลิตสเปิร์ม
  2. สาเหตุจากฝ่ายหญิง (40%): สาเหตุที่พบได้บ่อยคือการตกไข่ที่ผิดปกติหรือไม่มีการตกไข่, ท่อนำไข่ผิดปกติ, หรือมีโรคในอุ้งเชิงกราน
  3. สาเหตุจากทั้งสองฝ่าย (20%): เกิดจากปัจจัยทั้งของฝ่ายชายและฝ่ายหญิงร่วมกัน

การปรึกษาคุณหมอจะเป็นก้าวสำคัญที่ช่วยให้คุณแม่ทราบสาเหตุที่แท้จริงและหาแนวทางแก้ไขที่เหมาะสมที่สุด เพื่อให้ความฝันในการมีลูกน้อยเป็นจริงในเร็ววันค่ะ

 

2 นับวันไข่ตก เลือกเพศลูกจริงหรือไม่?

โดยทั่วไปเชื่อว่าการนับวันไข่ตกและกำหนดช่วงเวลาการมีเพศสัมพันธ์ อาจจะช่วยเพิ่มโอกาสในการเลือกเพศลูกได้ ซึ่งเพศของลูกถูกกำหนดในช่วงที่เกิดการปฏิสนธิระหว่าง อสุจิของพ่อ และ ไข่ของแม่ อสุจิของพ่อมี โครโมโซมเพศ 2 ชนิด คือ X และ Y ไข่ของแม่มี โครโมโซมเพศชนิดเดียว คือ X เมื่อตัวอสุจิผสมกับไข่ ผลที่ได้จะเป็นเพศหญิงหรือเพศชาย ขึ้นอยู่กับโครโมโซมของอสุจิที่เข้าปฏิสนธิ

  • ถ้าอสุจิที่มีโครโมโซม X ผสมกับไข่ (X) จะได้ลูกเพศหญิง (XX)
  • ถ้าอสุจิที่มีโครโมโซม Y ผสมกับไข่ (X) จะได้ลูกเพศชาย (XY)

 

เคล็ดลับเพิ่มโอกาสมีลูกชาย

การมีเพศสัมพันธ์ในช่วงวันไข่ตกที่แม่นยำ พร้อมทั้งปรับสภาวะช่องคลอดให้เหมาะสม อาจช่วยเพิ่มโอกาสในการให้กำเนิดลูกชายได้ตามความต้องการค่ะ

  1. กำหนดเวลาการมีเพศสัมพันธ์: ควรมีเพศสัมพันธ์ในวันที่ใกล้ไข่สุกที่สุด เพื่อให้อสุจิโครโมโซม Y ซึ่งเคลื่อนที่เร็วกว่า มีโอกาสปฏิสนธิก่อน
  2. ปรับสภาพความเป็นด่างในช่องคลอด: เชื่อกันว่าสภาพแวดล้อมที่เป็นด่างจะส่งเสริมการอยู่รอดของอสุจิ Y ดังนั้น ก่อนมีเพศสัมพันธ์ประมาณ 1 ชั่วโมง อาจใช้น้ำสะอาด 1 ลิตร ผสมโซดาไบคาร์บอเนต (เบกกิ้งโซดา) 2ช้อนโต๊ะ ล้างช่องคลอด (ควรปรึกษาแพทย์เพิ่มเติมก่อนใช้วิธีนี้)
  3. กระตุ้นการหลั่งสารที่เป็นด่าง: แนะนำให้ฝ่ายหญิงถึงจุดสุดยอดก่อนหรือพร้อมกับฝ่ายชาย เพื่อช่วยให้มีการหลั่งน้ำเมือกบริเวณปากมดลูกที่มีฤทธิ์เป็นด่างออกมาตามธรรมชาติ
  4. เพิ่มโอกาสการเข้าถึงปากมดลูก: ในขณะที่มีเพศสัมพันธ์ ฝ่ายชายควรสอดอวัยวะเพศให้ลึกที่สุดเมื่อถึงจุดสุดยอด เพื่อให้อสุจิสัมผัสกับมูกที่ปากมดลูกโดยตรงและลดระยะทางในการเดินทาง
  5. งดเว้นการมีเพศสัมพันธ์: ควรงดการมีเพศสัมพันธ์ไว้ก่อนจนกว่าจะถึงวันไข่สุก เพื่อให้มีจำนวนอสุจิที่แข็งแรงและมีปริมาณมากที่สุดในวันสำคัญ

 

เคล็ดลับเพิ่มโอกาสมีลูกสาว

การกำหนดให้มีเพศสัมพันธ์ก่อนวันไข่ตก และการปรับสภาพช่องคลอดให้มีความเป็นกรด จะช่วยส่งเสริมให้โครโมโซม X มีโอกาสอยู่รอดและปฏิสนธิกับไข่ได้สูงขึ้น เพื่อให้ได้ลูกสาวสมใจ

  1. กำหนดเวลาการมีเพศสัมพันธ์: ควรมีเพศสัมพันธ์ก่อนวันไข่สุกประมาณ 2-3 วัน
  2. ปรับสภาพความเป็นกรดในช่องคลอด: เชื่อกันว่าสภาพแวดล้อมที่เป็นกรดจะส่งเสริมการอยู่รอดของโครโมโซม X ดังนั้น ก่อนมีเพศสัมพันธ์ประมาณ 1 ชั่วโมง อาจใช้น้ำสะอาด 1 ลิตร ผสมน้ำส้มสายชู 2 ช้อนโต๊ะ ล้างช่องคลอด (ควรปรึกษาแพทย์เพิ่มเติมก่อนใช้วิธีนี้)
  3. หลีกเลี่ยงการเกิดสภาพเป็นด่างตามธรรมชาติ: ฝ่ายหญิงควรกลั้นไม่ให้ถึงจุดสุดยอด หรือถึงจุดสุดยอดหลังจากที่ฝ่ายชายหลั่งน้ำอสุจิออกมาแล้ว เพื่อป้องกันการหลั่งน้ำเมือกบริเวณปากมดลูกซึ่งมีฤทธิ์เป็นด่าง
  4. เพิ่มความท้าทายให้แก่อสุจิ: ขณะที่มีเพศสัมพันธ์ ฝ่ายชายควรสอดอวัยวะเพศเพียงตื้น ๆ เพื่อให้ตัวอสุจิว่ายผ่านสภาวะที่เป็นกรดในช่องคลอดเข้าไปหาปากมดลูก
  5. มีเพศสัมพันธ์: ไม่จำเป็นต้องงดการร่วมเพศนอกเหนือจากช่วงระยะเวลา 2-3 วันก่อนวันไข่ตก

อย่างไรก็ตาม การใช้วิธีทางธรรมชาติ เช่น การปรับสมดุลความเป็นกรด-ด่าง เพื่อคัดเลือกเพศบุตรนั้น ยังไม่มีผลการรับรองทางการแพทย์ที่แน่นอน ดังนั้นควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เพื่อรับคำแนะนำที่ถูกต้องและเหมาะสมที่สุดก่อนการนำไปปฏิบัติค่ะ

 

จากการที่ได้เรียนรู้วิธีนับวันไข่ตกและอาการไข่ตกไปแล้ว หวังว่าคุณแม่จะสามารถนำข้อมูลเหล่านี้ไปปรับใช้ในการวางแผนมีน้องได้อย่างมีความสุขและสบายใจนะคะ หากพยายามแล้วแต่ยังไม่สำเร็จ หรือมีข้อสงสัยใด ๆ ไม่ต้องกังวลใจไปค่ะ การปรึกษาคุณหมอคือทางออกที่ดีที่สุด เพราะจะช่วยให้คุณแม่เข้าใจสาเหตุที่แท้จริงและได้รับการดูแลอย่างถูกต้องเหมาะสม เมื่อคุณแม่ตั้งครรภ์ได้สำเร็จแล้ว ก็ถึงเวลาเตรียมพร้อมสำหรับอีกหนึ่งขั้นตอนสำคัญ คือการดูแลตัวเองและทารกในครรภ์ให้ดีที่สุดตลอด 9 เดือน เพื่อให้ลูกน้อยคลอดออกมาแข็งแรงสมบูรณ์และมีพัฒนาการสมวัย สิ่งสำคัญที่สุดคือการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ค่ะ เพราะนมแม่เปรียบเสมือนอาหารมื้อแรกที่ดีที่สุดในชีวิต มีสารอาหารครบถ้วนมากกว่า 200 ชนิด มีสารอาหารสำคัญอย่าง แอลฟาแล็ค สฟิงโกไมอีลิน (Alphalac Sphingomyelin) ที่มีบทบาทสำคัญต่อการพัฒนาสมองการเรียนรู้ให้มีประสิทธิภาพ และยังมีสารภูมิคุ้มกัน จุลินทรีย์สุขภาพ บี แล็กทิส (B. lactis) ที่ช่วยลดความเสี่ยงต่อการเจ็บป่วยให้กับลูกด้วยค่ะ

 

บทความแนะนำสำหรับคุณแม่มือใหม่

อ้างอิง:

  1. นับวันตกไข่ให้เป๊ะ! ช่วยเพิ่มโอกาสการตั้งครรภ์, โรงพยาบาลพญาไท 3
  2. อยากมีลูก...นับวันไข่ตกอย่างไรดี?, โรงพยาบาลพญาไท ศรีราชา
  3. นับวันไข่ตกอย่างไรไม่ให้พลาด, กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข
  4. How long after ovulation can someone get pregnant?, Medical News Today
  5. ทำไมประจำเดือนมาไม่ปกติ ?, คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล
  6. อยากท้อง… ไม่อยากท้อง ?, คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล
  7. ภาวะไข่ไม่ตก เกิดจากอะไร? สัมพันธ์กับ PCOS ยังไง, แพทย์หญิงวรางคณา วิวัลย์ศิริกุล อินทัชเมดิแคร์
  8. มูกตกไข่มากไม่ตรงตามวันที่คาดว่าน่าจะมีการตกไข่ ประจำเดือนจะคลาดเคลื่อนไปไหม, POBPAD
  9. มีโอกาสไหมที่ไข่จะตกหลังประจำเดือนมาประมาณ 5 วัน, POBPAD
  10. เลือกเพศด้วยวิธีธรรมชาติ, โรงพยาบาลสมิติเวช

 

อ้างอิง ณ วันที่ 16 ตุลาคม 2568