วิธีเก็บนมแม่ที่ถูกต้อง พร้อมการเก็บนมแม่ให้ปลอดภัยและมีคุณภาพ

วิธีการเก็บนมแม่ที่ถูกต้อง สต็อกนมแม่อย่างไรให้มีคุณภาพและปลอดภัย

คุณแม่ให้นมบุตร
บทความ
ก.ย. 25, 2019

การเก็บนมแม่ที่ถูกวิธี ทำให้การสต๊อกนมแม่มีคุณค่าและปลอดภัยสูงสุดต่อลูกน้อย เชื่อว่าคุณแม่ทุกคนต้องอยากให้ลูกได้รับสิ่งที่ดีที่สุดด้วยคุณค่าจากน้ำนมแม่ เพราะนมแม่มีสารอาหารมากกว่า 200 ชนิด เช่น ดีเอชเอ วิตามิน แคลเซียม โดยเฉพาะสารอาหารที่สำคัญอย่าง แอลฟาแล็ค สฟิงโกไมอีลิน ซึ่งช่วยในการพัฒนาการสมอง   และยังเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้การทำงานของสมองในเด็กเจนใหม่มีประสิทธิภาพ โดยการสร้างสารสื่อประสาทที่ทำหน้าที่ส่งต่อข้อมูลระหว่างเซลล์ประสาทในสมอง ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของการส่งสัญญาณประสาทให้เป็นไปแบบก้าวกระโดดที่ดียิ่งขึ้น  อีกทั้งการใส่ใจในเรื่องความสะอาดของอุปกรณ์ต่าง ๆ ทั้งเครื่องปั๊มน้ำนม ภาชนะสำหรับจัดเก็บน้ำนม อุณหภูมิที่เหมาะสมต่อการเก็บนมแม่ และวิธีการเก็บรักษานมแม่ให้ได้นานที่สุด เหล่านี้ล้วนเป็นสิ่งสำคัญต่อการคงคุณค่าที่คุณแม่จะสามารถส่งต่อให้แก่ลูกได้ผ่านน้ำนมแม่

วิธีการเก็บนมแม่ที่ถูกต้อง สต็อกนมแม่อย่างไรให้มีคุณภาพและปลอดภัย

สรุป

  • การเก็บรักษานมแม่ให้มีคุณภาพที่ดี และอยู่ได้นานที่สุด มีความสำคัญที่คุณแม่ต้องใส่ใจ ในเรื่องความสะอาดของอุปกรณ์ต่าง ๆ อุณหภูมิที่เหมาะสมต่อการเก็บนมแม่ ปริมาณนมสต๊อก และวิธีการเก็บรักษานมแม่ เพราะน้ำนมแม่มีสารอาหารมากกว่า 200 ชนิด ช่วยในพัฒนาการสมอง สติปัญญา และการเจริญเติบโตของลูก โดยแอลฟาแล็ค สฟิงโกไมอีลิน ที่พบมากในน้ำนมแม่ ถือเป็นสารอาหารที่สำคัญต่อการพัฒนาสมองส่วนที่เกี่ยวข้องกับการทำงานที่รวดเร็วของสมอง (FAST Processing Brain) , สมองที่คิดพลิกแพลง (FLEXIBLE Brain) และ สมองมีสมาธิ (Brain FOCUS) ดังนั้น แอลฟาแล็ค สฟิงโกไมอีลิน จึงถือเป็นสารอาหารที่สำคัญในขวบปีแรก
  • คุณแม่ที่ต้องกลับไปทำงานหรือต้องทำธุระข้างนอก ควรคำนวณปริมาณน้ำนมที่ต้องการสต๊อกให้เพียงพอต่อลูกรับประทานในแต่ละวัน และเมื่อกลับมาถึงบ้านควรปั๊มนมเพื่อทำสต๊อกสำหรับวันถัดไป วิธีการเช่นนี้จะช่วยให้คุณแม่มีนมให้ลูกรับประทานได้ยาวนานที่สุด
  • ควรหลีกเลี่ยงการเก็บนมแม่ในตู้เย็นปะปนกับอาหารต่าง ๆ เพื่อลดการปนเปื้อนในนมแม่ รวมถึงอุณหภูมิที่เหมาะจะส่งผลต่อระยะเวลาในการเก็บรักษานมแม่ได้

 

เลือกอ่านตามหัวข้อ

 

เพื่อให้ลูกน้อยได้รับสิ่งที่ดีที่สุด เสริมสร้างการเจริญเติบโตให้ลูกน้อยได้อย่างสมบูรณ์ และเพื่อพัฒนาการที่ดีทางสมอง อารมณ์ และจิตใจ เมื่อคุณแม่ต้องกลับไปทำงาน หรือต้องออกไปธุระข้างนอก ต้องการที่จะทำสต๊อกน้ำนม เพื่อให้ลูกน้อยได้รับนมแม่ให้ยาวนานที่สุด คุณแม่หลาย ๆ ท่านอาจมีข้อสงสัยว่าจะเริ่มทำสต็อกน้ำนมได้เมื่อไหร่ และมีวิธีการเก็บรักษานมแม่ที่สต็อกไว้อย่างไร เพราะการเก็บรักษานมแม่ให้ได้คุณภาพและปลอดภัย เป็นเรื่องสำคัญที่จะทำให้ลูกได้รับคุณค่าของนมแม่ที่ครบถ้วนอย่างต่อเนื่อง S-Mom Club จึงได้รวบรวมข้อมูลที่มีประโยชน์แก่คุณแม่ทุกท่านในการเก็บนมแม่ให้ได้คุณภาพและปลอดภัย ไว้แล้ว

 

การเก็บนมแม่ สำคัญอย่างไร

น้ำนมแม่ มีมีความสำคัญ เพราะมีสารอาหารที่มีคุณค่ามากกว่า 200 ชนิด การเก็บน้ำนมแม่ที่ถูกวิธีจึงเป็นเรื่องสำคัญที่จะคงคุณค่าของสารอาหารต่าง ๆ ได้อย่างยาวนานและปลอดภัยแก่ลูกน้อย

นอกจากนี้ ยังช่วยให้คุณแม่มีน้ำนมเพียงพอในการเลี้ยงดูลูกน้อยได้อย่างต่อเนื่อง เมื่อคุณแม่ต้องกลับไปทำงาน หรือออกไปธุระข้างนอก หรือไปต่างประเทศเป็นระยะเวลานาน

 

วิธีการเก็บนมแม่ที่ถูกต้องให้คงคุณค่าได้ยาวนานที่สุด

การเก็บรักษานมแม่ให้มีคุณภาพที่ดี และอยู่ได้นานที่สุด คุณแม่ต้องให้ความใส่ใจและระมัดระวัง เพราะนมแม่ถือเป็นสารอาหารหลักที่สำคัญต่อลูก โดยการเก็บรักษาให้ได้นานและปลอดภัยมีหลักการง่าย ๆ ดังนี้

  1. ก่อนเริ่มปั๊มนมและเก็บรักษานมแม่ คุณแม่ต้องทำความสะอาดด้วยการล้างมือด้วยน้ำสะอาดและสบู่ทุกครั้งก่อนสัมผัสภาชนะหรืออุปกรณ์ต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการเก็บนมแม่ รวมถึงทำความสะอาดบริเวณหน้าอกและลานนมก่อนเริ่มปั๊มนม เพราะเป็นบริเวณที่สัมผัสโดยตรงกับอุปกรณ์ปั๊มนม
  2. อุปกรณ์ปั๊มนมควรผ่านการทำความสะอาด พร้อมนึ่งฆ่าเชื้อ รวมถึงถุงเก็บน้ำนมแม่ที่ต้องสะอาดและใช้ถุงใหม่ทุกครั้ง เพื่อป้องกันเชื้อโรคต่าง ๆ
  3. คุณแม่ควรหามุมสงบ นั่งเก้าอี้ในท่าที่ผ่อนคลายและรู้สึกสบาย ซึ่งจะช่วยให้น้ำนมมีการหลั่งที่ดีขึ้นได้
  4. หากคุณแม่ต้องกลับไปทำงานหรืออาจต้องไปธุระข้างนอก คุณแม่ควรคำนวณการสต๊อกนมแม่ไว้ให้สำหรับลูกรับประทานให้เพียงพอตามจำนวนชั่วโมงที่จะไม่ได้อยู่กับลูก และเมื่อกลับมาถึงบ้านควรปั๊มนมคืนเพื่อให้ปริมาณน้ำนมในสต๊อกมีพร้อมสำหรับในวันถัดไป โดยการเตรียมความพร้อมของปริมาณน้ำนมแบบนี้ จะทำให้คุณแม่มีน้ำนมเพียงพอต่อการเลี้ยงลูกได้นานที่สุด
  5. การจัดเก็บนมแม่ในสต๊อกควรมีการจดบันทึกวันเวลาที่ปั๊มนม และจัดเรียงตามระยะเวลาที่มีการปั๊มนมครั้งแรกหรือนานที่สุด โดยนำมาให้ลูกรับประทานก่อน และไล่ไปเรื่อย ๆ จนถึงนมที่ปั๊มล่าสุด เพื่อความสะดวกในการนำมาใช้
  6. การเก็บนมแม่ควรจัดเก็บในตู้เย็นหรือตู้แช่โดยเฉพาะ ไม่ปะปนกับอาหารหรือสิ่งของต่าง ๆ เพราะอาจทำให้มีสารปนเปื้อนในนมแม่ได้ และเพื่อเป็นการควบคุมอุณหภูมิในตู้เย็นให้คงที่มากที่สุดได้อีกด้วย

 

การเก็บสต๊อกนมแม่ให้ได้นานและปลอดภัย

  1. คุณแม่ควรตรวจสอบถุงบรรจุนมแม่ว่ามีรอยรั่ว ซึมก่อนใช้งานทุกครั้ง และควรมีซิปล๊อค 2-3 ชั้น เพื่อป้องกันการรั่วซึมกรณีวางแล้วคว่ำหรือทำตกพื้น
  2. ถุงเก็บนมแม่ที่ปลอดภัย ควรเป็นผลิตภัณฑ์แบบ Food Grade และควรปลอดสาร BPA 100% (BPA - Free) เพราะพลาสติกที่มีสาร BPA อาจส่งผลกระทบต่อสุขภาพระยะยาวของลูกน้อย
  3. ถุงเก็บนมแม่ที่ใช้ต้องสะอาดและเป็นถุงใหม่เท่านั้น และคุณแม่ต้องล้างมือฟอกสบู่ก่อนสัมผัสถุงเก็บนมแม่ทุกครั้ง
  4. คุณแม่ควรบันทึกวัน เวลา ที่บรรจุนมใส่ถุงเก็บน้ำนม ก่อนนำไปวางเรียงลำดับในช่องแช่แข็ง และควรจัดวางถุงเก็บน้ำนมแม่แยกจากการแช่อาหารสดต่าง ๆ หรือสามารถแยกตู้เย็นเฉพาะแช่นมแม่เท่านั้นจะเป็นการดีที่สุด
  5. ควรรีดอากาศออกจากถุงเก็บน้ำนมให้มากที่สุดก่อนเก็บ และรีบนำนมเข้าช่องแช่แข็ง เพื่อป้องกันกลิ่นเหม็นหืนของน้ำนมแม่ ซึ่งอาจทำให้ทารกไม่ยอมกินนมได้
  6. ควรวางแช่ถุงเก็บน้ำนมในแนวราบ เพื่อที่จะสามารถเพิ่มพื้นที่ในการเก็บสต๊อกนมแม่มากขึ้น
  7. ถ้าคุณแม่ที่มีน้ำนมในแต่ละรอบที่ปั๊มไม่มากนัก สามารถนำน้ำนมในแต่ละรอบมารวมกันได้ โดยแนะนำให้นำนมไปแช่เย็นให้มีอุณหภูมิใกล้เคียงกันก่อนเทรวมกัน เนื่องจากการเทนมที่มีอุณหภูมิแตกต่างกันรวมกัน อาจทำให้สารอาหารให้นมแม่มีการเปลี่ยนแปลงได้

 

ระยะเวลาการเก็บรักษานมแม่ที่เหมาะสม

  • อุณหภูมิห้อง (27-32 องศาเซลเซียส) เก็บได้นาน 3-4 ชั่วโมง
  • อุณหภูมิห้อง (16-26 องศาเซลเซียส) เก็บได้นาน 4-8 ชั่วโมง
  • กระติกน้ำแข็งที่มีน้ำแข็งตลอดเวลา (15 องศาเซลเซียส) เก็บได้นาน 24 ชั่วโมง
  • ตู้เย็นช่องธรรมดา (0-4 องศาเซลเซียส) เก็บได้นาน 3-5 วัน และควรเก็บไว้ด้านในสุดของตู้เย็น
  • ช่องแช่แข็ง ตู้เย็นแบบประตูเดียว (-15 องศาเซลเซียส) เก็บได้นาน 2 สัปดาห์
  • ช่องแช่แข็ง ตู้เย็นแบบประตูแยก (-18 องศาเซลเซียส) เก็บได้นาน 3-6 เดือน
  • ช่องแช่แข็งเย็นจัด ตู้เย็นชนิดพิเศษ (-20 องศาเซลเซียส) เก็บได้นาน 6-12 เดือน

 

นมแม่อยู่ได้กี่ชม. สามารถเก็บไว้ได้นานสุดแค่ไหน

นมแม่อยู่ได้กี่ชั่วโมง ภายหลังปั๊มนมเสร็จ น้ำนมแม่จะสามารถอยู่ในอุณหภูมิห้องได้นาน 4-6 ชั่วโมง หรือหากคุณแม่มีการบรรจุใส่ถุงเก็บน้ำนมและแช่ในช่องแช่แข็งที่มีอุณหภูมิ -20 องศาเซลเซียส จะสามารถเก็บน้ำนมได้ยาวนานสูงสุด 1 ปี

 

วิธีละลายนมแม่ การนำน้ำนมแม่ที่แช่เย็นมาใช้

  1. เมื่อต้องการนำนมแม่ที่แช่แข็งมาใช้ ให้นำลงมาแช่ในตู้เย็นช่องธรรมดาล่วงหน้า 1 คืน (12 ชั่วโมง) และสามารถเก็บได้ 24 ชั่วโมง ไม่ควรนำนมแม่ที่ละลายแล้วกลับไปแช่แข็งอีก
  2. น้ำนมที่เหลือจากการป้อนลูก หากต้องการเก็บไว้ป้อนลูกอีก แนะนำให้ใช้ภายใน 1-2 ชั่วโมง
  3. สามารถให้ลูกทานนมที่ละลายแล้วแบบเย็น ๆ ได้เลย เนื่องจากพบว่ามีกลิ่นหืนน้อยกว่า
  4. ในกรณีต้องการอุ่นนมแม่ ไม่ควรนำเข้าไมโครเวฟหรือใช้น้ำร้อนจัด เพราะจะทำให้เม็ดเลือดขาวในน้ำนมแม่ ที่ช่วยเรื่องภูมิคุ้มกันของทารกถูกทำลายได้ คุณค่าสารอาหารในน้ำนมก็จะเสียไปด้วย

 

น้ำนมแม่มีความสำคัญ สำหรับการเลี้ยงลูกน้อยโดยเฉพาะในช่วง 6 เดือนแรก เพราะน้ำนมแม่มีสารอาหารมากกว่า 200 ชนิดที่ช่วยสร้างภูมิคุ้มกัน เสริมสร้างการเจริญเติบโตให้ลูกน้อยได้อย่างสมบูรณ์ เพื่อพัฒนาการที่ดีทั้งทางร่างกายและสมอง ดังนั้นการเก็บรักษาน้ำนมแม่ที่ถูกต้องและปลอดภัย จะทำให้คุณแม่มีน้ำนมที่เพียงพอต่อลูกน้อยได้ต่อเนื่องยาวนานจนถึงวัยที่ลูกน้อยเริ่มทานอาหารได้ตามช่วงวัย

สำหรับคุณแม่คนไหนที่มีน้ำนมน้อย น้ำนมไม่พอ หรือน้ำนมไม่ไหล สามารถศึกษาวิธีเพิ่มน้ำนมแม่  รวมถึงทานอาหารเพิ่มน้ำนม และสารอาหารที่มีประโยชน์ เพื่อเพิ่มปริมาณน้ำนมของคุณแม่มือใหม่ พร้อมเติมเต็ม  สารอาหารที่สำคัญอย่าง แอลฟาแล็ค สฟิงโกไมอีลิน ซึ่งมีโปรตีนคุณภาพ ที่พบมากในนมแม่ ช่วยสร้างสารสื่อประสาทที่ช่วยในการทำงานของสมอง อีกทั้งมีผลวิจัยทางการแพทย์แสดงให้เห็นว่าเด็กที่ได้รับนมแม่มีคะแนน IQ สูงกว่า และมีพัฒนาการทางภาษาที่ดีกว่าทารกที่ไม่ได้รับอีกด้วย  คุณพ่อคุณแม่ควรเริ่มได้ตั้งแต่วันแรก ด้วยสารอาหารที่พัฒนาสมองที่ดีต่อลูกน้อย

 

บทความแนะนำสำหรับคุณแม่ให้นม

 

อ้างอิง:

  1. Proper Storage and Preparation of Breast Milk, CDC
  2. วิธีรักษาน้ำนมแม่ เก็บแบบไหนถึงอยู่ได้นาน, โรงพยาบาลบางปะกอก
  3. คำแนะนำวิธีการเก็บน้ำนมแม่, โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์
  4. วิธีเก็บสต็อกนมแม่ ต้องทำอย่างไร, โรงพยาบาลวิชัยเวช อินเตอร์เนชั่นแนล อ้อมน้อย