แผลผ่าคลอดกี่วันหาย พร้อมวิธีดูแลรอยแผลผ่าคลอดให้เนียนสวย
แผลผ่าคลอดกี่วันหาย มักเป็นหนึ่งคำถามกังวลใจของคุณแม่ผ่าคลอด เพราะกลัวว่าแผลผ่าคลอดจะไม่สวยและทิ้งรอยนูนที่อาจทำให้เสียความมั่นใจ ปัจจุบันแผลผ่าคลอดมีขนาดเล็ก และถ้าคุณแม่ดูแลแผลผ่าคลอดอย่างถูกวิธีจะทำให้แผลผ่าคลอดเป็นเพียงรอยจาง ๆ ตามขอบบิกินี่เท่านั้น โดยเคล็ดลับการดูแลแผลผ่าคลอดคุณแม่สามารถทำตามคำแนะนำเหล่านี้ได้เลย
สรุป
- โดยปกติแล้วแม่ผ่าคลอดมักทิ้งร่องรอยของแผลผ่าคลอดไว้ที่บริเวณหน้าท้อง ส่วนใหญ่จะอยู่แถว ๆ ขอบบิกินี่หรือขอบกางเกงใน มีความยาวประมาณ 4-6 นิ้ว
- หากคุณแม่ต้องการให้แผลผ่าคลอดหายเร็ว ๆ ต้องหลีกเลี่ยงการสัมผัสกับน้ำเพื่อไม่ให้แผลอักเสบและติดเชื้อ ในกรณีที่แผลโดนน้ำให้คุณแม่นำผ้ามาซับที่แผลผ่าคลอดอย่างเบามือ แล้วเปลี่ยนพลาสเตอร์ปิดแผลใหม่ และไม่ควรยกของหนักของออกแรงที่เกร็งหน้าท้องมากเกินไปเพื่อป้องกันแผลปริหรืออักเสบได้
- แผลผ่าคลอดชั้นนอกจะเริ่มสมานเมื่อคุณแม่ผ่าคลอดได้ 1 สัปดาห์ ส่วนชั้นในจะเริ่มสมานตัวหลังจากคุณแม่ผ่าคลอดได้ 2-4 สัปดาห์ และแผลผ่าคลอดจะหายสนิทหลังจากนั้นอีก 6 เดือน
เลือกอ่านตามหัวข้อ
- แผลผ่าคลอด ลักษณะเป็นอย่างไร
- เรื่องควรรู้เกี่ยวกับแผลผ่าคลอด
- แผลผ่าคลอดกี่วันหาย รอยผ่าคลอดจะหายดีเมื่อไหร่
- หลังผ่าคลอดจะเกิดแผลเป็นนูนหรือคีลอยด์ไหม
- อาการแบบนี้แผลผ่าคลอด เสี่ยงติดเชื้อ
- วิธีดูแลแผลผ่าคลอดให้หายไว แผลสวย
- เคล็ดลับดูแลแผลผ่าคลอด ช่วงพักฟื้น สำหรับแม่ผ่าคลอด
- ปัจจัยที่ทำให้แผลผ่าคลอดหายช้า
- อาหารที่แม่มีแผลผ่าคลอด ควรหลีกเลี่ยง
แผลผ่าคลอด ลักษณะเป็นอย่างไร
แผลผ่าคลอดจะมีความยาวประมาณ 4-6 นิ้ว สามารถเกิดขึ้นได้ 2 รูปแบบ คือ
1. แผลผ่าตัดตามแนวบิกินี่
เป็นจากผ่าคลอดเป็นแนวขวางจากด้านหนึ่งไปอีกด้านหนึ่งของมดลูก เป็นวิธีที่พบบ่อยมากที่สุด ส่วนใหญ่จะอยู่ในแนวบิกินี่หรือขอบกางเกงชั้นใน
2. แผลผ่าตัดตามแนวตั้ง
เป็นการผ่าตัดขึ้นและลงในการเปิดมดลูกในแนวตั้งใต้สะดือ
เรื่องควรรู้เกี่ยวกับแผลผ่าคลอด
หลังจากคุณแม่ผ่าคลอดควรเริ่มขยับตัวตั้งแต่วันแรก ๆ ของการผ่าคลอด เพื่อให้คุณแม่ฟื้นตัวได้เร็ว ทั้งยังเป็นการลดการเกิดพังพืดบริเวณช่องท้อง และลดความเสี่ยงต่อการเกิดลิ่มเลือดอุดตันหลังคลอดได้ด้วย ในระยะแรกหลังคลอดคุณแม่อาจรู้สึกปวดแผลอยู่บ่อย ๆ จากมดลูกหดตัว และอาจรู้สึกเจ็บมากขึ้นในขณะให้นมลูก
- วันแรก หลังผ่าคลอด คุณแม่ควรเคลื่อนไหวร่างกายอยู่บ่อย ๆ ไม่ว่าจะเป็นการเดิน หรือการนั่ง เพื่อป้องกันอาการท้องอืดและยังช่วยให้ลำไส้กลับมาทำงานได้ปกติเร็วยิ่งขึ้น ในช่วงนี้หากคุณแม่รู้สึกหน้ามืด ให้ค่อย ๆ นอนราบกับเตียงแล้วค่อย ๆ ขยับตัว
- วันที่ 2 เป็นต้นไป คุณแม่ยังคงมีอาการเจ็บแผลผ่าคลอดอยู่ หากมีอาการไอ ให้ใช้หมอนกดที่แผลก่อน จากนั้นหายใจลึก ๆ ก่อนไอ เพื่อลดอาการเจ็บที่แผล
แผลผ่าคลอดกี่วันหาย รอยผ่าคลอดจะหายดีเมื่อไหร่
โดยทั่วไปแล้วแผลผ่าคลอดชั้นนอกจะเริ่มสมานกันหลังจากคุณแม่ผ่าคลอดได้ประมาณ 1 สัปดาห์ ส่วนแผลผ่าคลอดชั้นในจะเริ่มสมานตัวกันหลังจากคุณแม่คลอดลูกได้ 2-4 สัปดาห์ หลังจากนั้นอีก 6 เดือน แผลผ่าคลอดของคุณแม่จะค่อย ๆ ปิดสนิท แผลที่เคยเป็นสีแดงอมม่วงคล้ายการฟกช้ำจะค่อย ๆ จางเป็นสีขาวจนเหลือแต่รอยแผลผ่าคลอดจาง ๆ
หลังผ่าคลอดจะเกิดแผลเป็นนูนหรือคีลอยด์ไหม
หลังผ่าคลอดเมื่อแผลเริ่มแห้งสนิท คุณหมอจะนำพลาสเตอร์ปิดแผลออกแล้วจะเปลี่ยนมาใช้แผ่นซิลิโคนที่ช่วยลดการเกิดรอยนูนหรือแผลคีลอยด์ และเพื่อป้องกันการเกิดแผลเป็นนูนหรือคีลอยด์ คุณแม่ไม่ควรยกของหนักหรือออกแรงเกร็งหน้าท้องมากจนทำให้แผลเกิดฉีกขาด เพราะอาจทำให้เกิดแผลคีลอยด์ได้ หากคุณแม่กังวลเรื่องแผลผ่าคลอด สามารถป้องกันได้ด้วยการไม่แกะแผล การใช้ผ้ารัดแผล การใช้เจลทารักษาแผลเป็น รวมถึงการฉายรังสีตามคำแนะนำของแพทย์ได้
อาการแบบนี้แผลผ่าคลอด เสี่ยงติดเชื้อ
คุณแม่หลังผ่าคลอดควรดูแลทำความสะอาดแผลผ่าคลอดให้ดี ระวังอย่าให้โดนน้ำเพื่อเลี่ยงแผลผ่าคลอดติดเชื้อ แต่ถ้าเมื่อไหร่ที่คุณแม่รู้สึกปวดบริเวณแผล แผลผ่าคลอดมีอาการบวมแดง อักเสบ แผลผ่าคลอดมีหนองหรือมีกลิ่น หรือแผลปริ ให้รีบไปพบแพทย์เพราะแผลผ่าคลอดคุณแม่อาจเกิดการติดเชื้อได้
วิธีดูแลแผลผ่าคลอดให้หายไว แผลสวย
การดูแลแผลผ่าคลอดให้ถูกวิธี นอกจากจะช่วยให้แผลผ่าคลอดของคุณแม่หายไวแล้ว ยังเป็นการป้องการการติดเชื้อของแผลผ่าตัดด้วย ในช่วงที่แผลผ่าคลอดยังไม่หายสนิทคุณแม่ควรดูแลแผลผ่าคลอด ดังนี้
- ในช่วง 7 วันแรกหลังผ่าคลอด คุณแม่ควรระวังไม่ให้แผลโดนน้ำ เพราะอาจทำให้แผลผ่าคลอดเสี่ยงต่อการอักเสบและติดเชื้อได้ ในกรณีที่แผลผ่าคลอดไม่ได้ปิดแผลแบบกันน้ำแนะนำให้คุณแม่ใช้ผ้าชุบน้ำเช็ดตัว
- หากแผลผ่าคลอดถูกปิดด้วยพลาสเตอร์กันน้ำเป็นอย่างดีคุณแม่ก็สามารถอาบน้ำได้ แต่ไม่ควรแช่น้ำเด็ดขาด และถ้าพบว่าแผลเริ่มเปียกน้ำให้รีบซับน้ำให้แห้งอย่างเบามือ แล้วเปลี่ยนพลาสเตอร์ใหม่ทันที
- ในกรณีที่แผลสมานกันสนิทแล้ว คุณแม่สามารถอาบน้ำได้โดยที่ไม่ติดพลาสเตอร์ปิดแผลผ่าคลอด และควรทำความสะอาดแผลผ่าคลอดหลังจากอาบน้ำโดยใช้น้ำเกลือเช็ดอย่างเบามือแล้วใช้สำลีซับให้แห้งอีกที
- หลังจากคุณแม่ตัดไหมผ่าคลอดเรียบร้อยแล้ว พยายามไม่เกาหรือแกะแผล เพราะอาจทำให้แผลหายช้าและเสี่ยงต่อการติดเชื้อได้ หากคุณแม่รู้สึกคันแนะนำให้ปรึกษาคุณหมอเพื่อให้คุณหมอจ่ายยาลดอาการคันจากแผลผ่าตัดให้
- คุณแม่หลังผ่าคลอดในช่วง 3 เดือนแรก ไม่ควรยกของหนักที่ออกแรงเยอะหรือเกร็งหน้าท้องจนเกินไป เพราะอาจทำให้แผลผ่าคลอดตึงและอาจทำให้แผลฉีกขาดจนนำไปสู่การเกิดแผลเป็นนูนหรือคีลอยด์ได้
เคล็ดลับดูแลแผลผ่าคลอด ช่วงพักฟื้น สำหรับแม่ผ่าคลอด
ในช่วงที่คุณแม่ผ่าคลอดกำลังฟื้นตัวคุณแม่ควรดูแลตัวเอง ดังนี้
- ช่วงแรกหลังผ่าคลอดคุณอาจควรเริ่มทานอาหารใส ๆ ซุป หรือน้ำแกง แล้วค่อยเปลี่ยนเป็นอาหารเหลวที่ย่อยง่าย
- หากคุณแม่มีอาการเจ็บแผลผ่าคลอดสามารถใช้ผ้ารัดพยุงหน้าท้อง เพื่อพยุงไม่ให้แผลผ่าคลอดถูกดึงหรือกดทับจากการเดิน นั่ง หรือขยับตัวในระหว่างวัน
- หลังจากแผลแห้งสนิทแล้วคุณแม่สามารถใช้ครีมบำรุงผิว ออยล์ มอสเจอร์ไรเซอร์ หรือยาลดรอยแผลเป็นบริเวณแผลผ่าคลอด เพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นให้แก่ผิวและช่วยให้
- รอยแผลผ่าคลอดจางและอ่อนนุ่มลง
- เมื่อต้องลุก นั่ง หรือเดิน คุณแม่ควรทำอย่างช้า ๆ ไม่ต้องรีบ เพื่อไม่ให้แผลผ่าคลอดตึงเกินไป
- ทานอาหารที่เน้นโปรตีน เช่น เนื้อ นม ไข่ โยเกิร์ต และธัญพืชต่าง ๆ เพราะโปรตีนมีประโยชน์ในการช่วยสร้างเนื้อเยื่อ ซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอ จะช่วยให้แผลหายคลอดฟื้นฟูได้เร็วยิ่งขึ้น ทานอาหารจำพวกเหล็กและสังกะสี เช่น ปลา ผักใบเขียว และถั่วเหลืองที่ช่วยสังเคราะห์โปรตีน ผลิตเซลล์ใหม่ และทำให้แผลสมานตัวเร็ว รวมถึงอาหารจำพวกวิตามินซีจากผักและผลไม้ที่ช่วยลดอาการบวมซ้ำ การอักเสบ และช่วยให้ร่างกายดูดซึมธาตุเหล็กได้ดียิ่งขึ้น
ปัจจัยที่ทำให้แผลผ่าคลอดหายช้า
ช่วงที่คุณแม่ผ่าคลอดใหม่ ๆ การเคลื่อนไหวหรือการอาบน้ำทำความสะอาดตัวเป็นเรื่องที่ยากลำบาก หากคุณแม่ต้องการให้แผลผ่าคลอดหายไวไว ต้องระวังไม่ให้แผลโดนน้ำ ถ้าแผลถูกน้ำให้รีบซับน้ำออกแล้วเช็กให้แห้งเพื่อป้องกันการติดเชื้อซึ่งจะทำให้แผลผ่าคลอดของคุณแม่หายช้าลงได้
อาหารที่แม่มีแผลผ่าคลอด ควรหลีกเลี่ยง
สำหรับคุณแม่ผ่าคลอดที่อยากให้แผลหายเร็ว หรือลดโอกาสเสี่ยงต่อการติดเชื้อแนะนำให้คุณแม่ควรหลีกเลี่ยงอาหาร ดังต่อไปนี้
- อาหารกึ่งสุกกึ่งดิบ
- อาหารหมักดอง
- เครื่องดื่มแอลกอฮอล์
- เครื่องดื่มประเภทชา กาแฟ และน้ำอัดลม
- อาหารรสจัด
การทานอาหารที่มีประโยชน์โดยเฉพาะโปรตีน เหล็ก สังกะสี วิตามินและเกลือแร่อื่น ๆ จะทำให้แผลผ่าคลอดฟื้นตัวได้เร็ว รวมถึงการไม่แกะ ไม่เกาแผล พยายามไม่ให้แผลโดนน้ำ และไม่ยกของหนัก ๆ เป็นเคล็ดลับการดูแลแผลผ่าคลอดที่คุณแม่ต้องรู้ ถ้าคุณแม่อยากให้แผลผ่าคลอดหายเร็ว แผลสวย ไม่ทิ้งรอยนูน หรือคีลอยด์มากวนใจ นอกจากนี้คุณแม่ควรศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับข้อห้ามหลังผ่าคลอด และข้อควรรู้เกี่ยวกับคุณแม่ผ่าคลอดได้กี่ครั้ง เตรียมพร้อมสำหรับการตั้งครรภ์ครั้งถัดไป สำหรับคุณแม่ที่อยากมีลูก
บทความแนะนำสำหรับคุณแม่ผ่าคลอด
- แม่มือใหม่เตรียมผ่าคลอด พร้อมขั้นตอนการผ่าคลอด และวิธีดูแลให้แผลหายไว
- แผลฝีเย็บหลังคลอด คุณแม่ดูแลอย่างไรให้ปลอดภัย ฝีเย็บหายไว ไม่ติดเชื้อ
- แผลผ่าคลอด ดูแลแผลหลังผ่าคลอดอย่างไรให้ยุบไว หายเร็ว
- หลังผ่าคลอดกินอะไรได้บ้าง แม่หลังคลอดทานอะไรให้แผลหายเร็ว
- ฤกษ์คลอด ฤกษ์ผ่าคลอด วันมงคล เวลาดี สำหรับลูกรัก
- สฟิงโกไมอีลิน คืออะไร สำคัญต่ออย่างไรต่อสมองของลูกน้อย
- DHA สารอาหารสำคัญ ช่วยพัฒนาสมองของลูกน้อย
- 2’-FL คืออะไร ? รู้จัก 2’-FL โอลิโกแซคคาไรด์ในนมแม่ (HMOs)
- โพรไบโอติก (Probiotics) จุลินทรีย์ที่พบได้ในนมแม่ มีประโยชน์กับลูก
- พรีไบโอติก มีส่วนช่วยพัฒนาสมองในเด็กทารก
- น้ำนมเหลือง ที่มีสฟิงโกไมอีลิน สารอาหารสำคัญ ช่วยพัฒนาสมองจากแม่สู่ลูก
- เทคนิคเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ สุดยอดสารอาหารจากแม่สู่ลูก
- เพิ่มน้ำนมคุณแม่ ด้วยการกระตุ้นน้ำนม จากธรรมชาติ ดีกับคุณแม่และลูก
- นมแม่อยู่ได้กี่ชม น้ำนมแม่เก็บได้นานแค่ไหน เก็บรักษาอย่างไรให้ถูกวิธี
- อาการทารกหิวนม สัญญาณจากลูกน้อย ที่คุณแม่สังเกตเองได้
- เด็กแรกเกิดกินนมกี่ออนซ์ ถึงจะดีที่สุด ปริมาณเท่าไหร่ถึงเรียกว่าพอดี
- วิธีจับลูกเรอ ท่าอุ้มเรอช่วยให้ลูกสบายท้อง หลังลูกอิ่มนม
- คัดเต้านมทำยังไงดี คัดเต้ากี่วันหาย พร้อมวิธีบรรเทาอาการนมคัด
- เจ็บหัวนม หัวนมแตก อาการเจ็บหัวนม ต้องรักษาอย่างไร ให้นมลูกต่อได้ไหม
- ทารกไม่ยอมนอน ลูกงอแงไม่ยอมนอนไม่มีสาเหตุ พร้อมวิธีรับมือ
- วิธีชงนมที่ถูกต้อง พร้อมขั้นตอนการเตรียมน้ำชงนม สำหรับแม่มือใหม่
อ้างอิง
- Cesarean Birth, The American College of Obstetricians and Gynecologists (ACOG)
- 8 เคล็ดลับดูแลแผลผ่าคลอดให้แผลสวย หายไว ฟื้นตัวเร็ว, โรงพยาบาลวิมุต
- การดูแลหลังคลอด แบบผ่าตัดหน้าท้อง, โรงพยาบาลสมิติเวช
- 5 เทคนิค...วิธีดูแล “แผลผ่าตัด”, โรงพยาบาลเปาโล
- สิ่งที่คุณแม่ตั้งครรภ์ควรรู้เกี่ยวกับการผ่าคลอด, โรงพยาบาลสมิติเวช
- คำถามยอดฮิตที่คุณแม่ผ่าคลอดอยากรู้, โรงพยาบาลศิครินทร์
- อาหารที่ควรกินหลังศัลยกรรม, โรงพยาบาลพญาไท
อ้างอิง ณ วันที่ 22 ตุลาคม 2566