
10 ข้อห้ามหลังผ่าคลอด พร้อมวิธีลุกจากเตียงหลังผ่าตัดคลอด
การผ่าคลอดลูกเป็นการผ่าตัดใหญ่ที่ต้องใช้เวลาพักฟื้น เพื่อให้แผลหายเร็วและกลับมาแข็งแรงได้เร็ว หลังผ่าคลอด คุณแม่ควรหลีกเลี่ยงกิจกรรมบางอย่างที่อาจส่งผลเสียต่อแผลผ่าตัดและสุขภาพโดยรวม และนี่คือ 10 ข้อห้ามหลังผ่าคลอด พร้อมวิธีลุกจากเตียงอย่างถูกต้อง เพื่อให้คุณแม่ดูแลตัวเองหลังคลอดได้อย่างมั่นใจ
สรุป
- ลูกน้อยจะได้รับสารอาหาร และรสชาติของอาหารจากที่คุณแม่รับประทานเข้าไป ผ่านมาทางน้ำนมแม่ ดังนั้นคุณแม่ไม่ควรรับประทานอาหารรสจัด อาหารและเครื่องดื่มที่ไม่มีประโยชน์ ได้แก่ ของหมักดอง น้ำอัดลม ชา กาแฟ และแอลกอฮอล์
- หลังผ่าคลอดคุณแม่จะฟื้นตัวดีขึ้นใน 12 ชั่วโมง และต้องอยู่พักฟื้นเพื่อติดตามอาการหลังคลอดที่โรงพยาบาลอีกประมาณ 4 วัน
- หลังผ่าคลอดคุณแม่ไม่ควรมีเพศสัมพันธ์ก่อน 6 สัปดาห์ เนื่องจากแผลผ่าตัดยังไม่หายดี และยังมีน้ำคาวปลา ช่วงเวลาที่เหมาะสมหากต้องการมีเพศสัมพันธ์ช่วง 6 สัปดาห์ขึ้นไป
- อาการของแผลผ่าคลอดที่มีความปกติ ได้แก่ แผลบวม แดง ร้อนบริเวณแผล มีเลือดซึมออกมา และมีไข้ร่วมด้วย
เลือกอ่านตามหัวข้อ
- หลังผ่าตัดคลอด คุณแม่จึงควรขยับตัวให้เร็วที่สุด
- หลังผ่าตัดคลอด คุณแม่ควรอยู่โรงพยาบาลกี่วัน
- 10 ข้อห้ามหลังผ่าคลอด คุณแม่ไม่ควรทำอะไรบ้าง
- หลังผ่าตัดคลอด คุณแม่จะมีอาการอย่างไร
- อาการแผลผ่าคลอดผิดปกติ หลังผ่าตัดคลอด
- วิธีลุกจากเตียงหลังผ่าคลอด สำหรับแม่ผ่าตัดคลอด
- อาหารที่คุณแม่หลังผ่าคลอดควรรับประทาน
หลังผ่าตัดคลอด คุณแม่จึงควรขยับตัวให้เร็วที่สุด
คุณแม่หลังผ่าตัดคลอดเมื่อฟื้นตัวได้ดีขึ้น คุณหมอจะแนะนำให้คุณแม่พยายามพลิกตัว และลุกเดินบ่อย ๆ ก็เพื่อช่วยกระตุ้นให้ลำไส้กลับมาทำงานปกติ และป้องกันไม่เกิดพังพืดตรงบริเวณแผลผ่าตัด การเคลื่อนไหวเบา ๆ ยังช่วยเสริมการฟื้นตัวของกล้ามเนื้อและร่างกายโดยรวมได้ด้วย
หลังผ่าคลอด ควรอยู่โรงพยาบาลกี่วัน
คุณแม่หลังผ่าคลอดจะเริ่มฟื้นตัวได้ดีขึ้นภายใน 12 ชั่วโมง ในคุณแม่ผ่าคลอดจะต้องอยู่พักฟื้นที่โรงพยาบาลนานประมาณ 4 วัน ช่วงระหว่างที่คุณแม่พักฟื้นที่โรงพยาบาล เจ้าหน้าที่พยาบาลจะมาตรวจชีพจร วัดความดันของคุณแม่ทุก 4 ชั่วโมง
10 ข้อห้ามหลังผ่าคลอด คุณแม่ไม่ควรทำอะไรบ้าง
หลังผ่าตัดคลอด คุณแม่ยังไม่สามารถกลับไปทำในหลายเรื่องที่เคยทำได้ก่อนที่จะมีการตั้งครรภ์ นั่นก็เพราะเพื่อความปลอดภัยต่อสุขภาพร่างกายของคุณแม่และลูกน้อย
1. ห้ามรับประทานอาหารรสจัด
24 ชั่วโมงแรก คุณแม่จะยังไม่สามารถดื่มน้ำและรับประทานอาหาร จนกว่าลำไส้จะกลับมาทำงานได้เป็นปกติ เมื่อผ่าน 24 ชั่วโมงไปแล้ว คุณแม่ก็จะเริ่มได้จิบน้ำ และรับประทานอาหารได้เล็กน้อยเป็นซุป หรือน้ำแกงจืด และค่อย ๆ ปรับเป็นข้าวต้มนิ่ม ๆ โจ๊ก อาหารที่รับประทานได้ช่วงแรกหลังคลอดจะเป็นอาหารที่ย่อยง่าย และมีรสชาติจืด
เมื่อคุณแม่กลับมาพักฟื้นร่างกายที่บ้าน การรับประทานอาหารสำหรับคุณแม่ผ่าคลอด จะต้องหลากหลายมีประโยชน์ครบ 5 หมู่ เพื่อที่ร่างกายจะได้ผลิตน้ำนมออกมาได้ปริมาณที่เพียงพอสำหรับลูกน้อย อาหารที่ดีกับร่างกาย ระบบขับถ่ายของคุณแม่หลังคลอดได้แก่ ผัก ผลไม้ที่มีไฟเบอร์ และอาหารที่ช่วยกระตุ้นสร้างน้ำนม เช่น ขิง ฟักทอง หัวปลี ฯลฯ
2. ห้ามนอนเฉย ๆ ตลอดเวลา
หลังผ่าคลอดตั้งแต่วันแรก คุณหมอจะแนะนำให้คุณแม่ลุกยืน เดินช้า ๆ ก้าวสั้น ๆรอบเตียง เพื่อกระตุ้นให้ลำไส้กลับมาขยับและทำงานเป็นปกติ การลุกเดินหลังผ่าคลอดยังช่วยป้องกันการเกิดอาการท้องอืดอีกด้วย
3. ห้ามละเลยดูแลแผลผ่าคลอด
- ดูแลแผลผ่าคลอด: ก่อนคุณแม่กลับมาพักฟื้นร่างกายหลังคลอดที่บ้าน สำหรับแผลผ่าตัดคุณหมอจะปิดแผลด้วยแผ่นติดชนิดกันน้ำให้ คุณแม่สามารถอาบน้ำได้ตามปกติ เพียงแต่ต้องระวังอย่าให้น้ำซึมเข้าไปในแผ่นแปะปิดแผล และพอครบ 7 วันหลังคลอด คุณหมอก็จะนัดคุณแม่เพื่อมาตรวจดูแผลผ่าตัดและตัดไหมออกให้
- แผลผ่าคลอดกี่วันหาย: คุณแม่จะได้รับคำแนะนำในการดูแลแผลผ่าคลอดก่อนออกจากโรงพยาบาล และโดยปกติแผลจะใช้เวลาประมาณ 7 วันในการหายเป็นปกติ และคุณแม่จะต้องดูแลตัวเองต่อที่บ้านอีกประมาณ 6-8 สัปดาห์จนกว่าแผลจะหายสนิท
4. ห้ามมีเพศสัมพันธ์
คุณแม่ที่คลอดลูกด้วยวิธีผ่าคลอด อาจสงสัยว่า 'หลังคลอด 1 เดือนมีเพศสัมพันธ์ได้ไหม' โดยทั่วไป แพทย์จะ แนะนำคุณแม่ที่คลอดธรรมชาติงดมีเพศสัมพันธ์เป็นเวลา 4 สัปดาห์หลังคลอค แต่ในกรณี คุณแม่ผ่าคลอดอาจต้องรอจนถึง 6 สัปดาห์ เพื่อให้ร่างกายฟื้นตัวเต็มที่ และแผลผ่าตัดแห้งสนิท เพราะถ้าแผลผ่าตัดยังไม่หายจะทำให้คุณแม่รู้สึกเจ็บและไม่สบายตัวขณะมีเพศสัมพันธ์ได้ แนะนำให้คุณแม่พบคุณหมอเพื่อตรวจดูแผลผ่าตัดก่อนมีเพศสัมพันธ์
5. ห้ามหยุดให้นมลูก
ผลข้างเคียงของการผ่าคลอด อาจทำให้ร่างกายคุณแม่ผลิตน้ำนมออกมาได้ช้า การแก้ไขก็คือให้ลูกเข้าเต้ากินนมแม่หลังคลอดให้เร็วที่สุด การเข้าเต้าจะไปช่วยกระตุ้นร่างกายให้ผลิตน้ำนมได้ดีขึ้น คุณแม่ให้ลูกเข้าเต้าดูดนมบ่อย ๆ ในช่วงกลางวันทุก 2-3 ชั่วโมง และช่วงกลางคืนทุก 3-4 ชั่วโมง
6. ห้ามรับประทานอาหารสุก ๆ ดิบ ๆ
คุณแม่ผ่าคลอด ห้ามกินอะไรบ้าง? หลังผ่าคลอด คุณแม่ควรใส่ใจเรื่องอาหารเป็นพิเศษ เพื่อป้องกันอาการท้องอืด ท้องเสีย ซึ่งอาหารที่ควรหลีกเลี่ยง เช่น นม น้ำอัดลม แอลกอฮอล์ เครื่องดื่มที่มีคาเฟอีน อาหารรสจัด และอาหารประเภทหมักดองต่าง ๆ
7. ห้ามดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์
การดื่มแอลกอฮอล์ของคุณแม่หลังคลอด เป็นอันตรายต่อพัฒนาการสมองการเรียนรู้ของลูกน้อย เพราะแอลกอฮอล์ส่งผ่านมาทางน้ำนมได้ และยังส่งผลเสียต่อสุขภาพของคุณแม่ด้วย
8. ห้ามแช่อ่างอาบน้ำ
สำหรับคุณแม่ที่ผ่าคลอด แพทย์จะแนะนำให้เช็ดตัวในช่วงแรก หากแพทย์เปลี่ยนผ้าปิดแผลเป็นพลาสเตอร์กันน้ำแล้ว สามารถอาบน้ำได้ตามปกติ ให้น้ำไหลผ่าน พลาสเตอร์ได้โดยที่แผลไม่เปียกน้ำ แต่ห้ามแช่อ่างอาบน้ำ ควรสังเกตว่าพลาสเตอร์ลอกหรือมีน้ำซึมเข้าแผลหรือไม่ หากมีน้ำซึมเข้าไปในพลาสเตอร์ให้เปลี่ยนใหม่
9. ห้ามขับรถ
เพื่อความปลอดภัยในการขับรถหลังผ่าคลอด ควรเว้นระยะอย่างน้อย 6 สัปดาห์ เนื่องจากกิจกรรมดังกล่าวอาจส่งผลกระทบต่อแผลผ่าตัดได้ เช่น การเสียดสีหรือสัมผัสบริเวณแผลจากเข็มขัดนิรภัย หรือแรงสั่นสะเทือนขณะขับขี่ ซึ่งอาจทำให้เกิดเลือดออกและเพิ่มความเสี่ยงต่อการติดเชื้อหากไม่ได้รับการดูแลที่เหมาะสม
10. ห้ามยกของหนัก
ในช่วง 6 สัปดาห์แรกหลังผ่าคลอด คุณแม่ควรหลีกเลี่ยงการยกของหนักหรือเกร็งกล้ามเนื้อหน้าท้อง เนื่องจากการยกของหนักหรือเกร็งกล้ามเนื้อหน้าท้องอาจทำให้แผลอักเสบ และมดลูกเคลื่อนต่ำลงมาได้
หลังผ่าคลอด คุณแม่จะมีอาการอย่างไร
การคลอดลูกด้วยการผ่าตัดคลอด คุณแม่จะมีอาการต่าง ๆ หลังผ่าคลอดที่เกิดขึ้นได้หลังฟื้นตัวจากการผ่าตัดคลอด
1. คลื่นไส้อาเจียน
ผลข้างเคียงจากยาบล็อกหลังผ่าคลอด เมื่อฟื้นตัวขึ้นมาหลังคลอด คุณแม่จะมีอาการคลื่นไส้และอาเจียนได้
2. ขยับขาไม่ได้
ยาบล็อกหลังที่ฉีดเข้าที่ช่องไขสันหลัง จะทำให้คุณแม่ชาไม่มีความรู้สึกไปถึงช่วงขาทั้งสองข้าง เมื่อฟื้นตัวขึ้นมาหลังคลอด ผลค้างเขียงจากฤทธิ์ยาบล็อกหลัง คุณแม่จะไม่สามารถขยับขาและลุกขึ้นนั่ง หรือเดินได้ในทันที แต่หลังจาก 2-4 ชั่วโมงหลังคลอดไปแล้ว คุณแม่จะรู้ขยับขาได้เป็นปกติ
3. ปวดแผลผ่าตัดคลอด
ในช่วงแรกหลังผ่าตัดคลอด คุณแม่จะมีอาการเจ็บแผลผ่าตัด มาก เนื่องจากเต้านมถูกกระตุ้นจากการดูดนมของลูกน้อย ทำให้มดลูกหดรัดตัว
4. เจ็บหัวนมสองข้าง
หลังผ่าตัดคลอด คุณแม่จะรู้สึกได้ถึงความไวของหัวนมจนรู้สึกเจ็บ และเมื่อให้ลูกน้อยเข้าเต้าดูดนม อาการเจ็บหัวนมจะหายไปภายใน 1 นาที และหลังคลอดประมาณหนึ่งสัปดาห์ อาการเจ็บหัวนมก็จะหายเป็นปกติ
อาการแผลผ่าคลอดผิดปกติ หลังผ่าตัดคลอด
อาการหลังผ่าตัดคลอด คุณแม่อาจพบความผิดปกติที่แผลผ่าคลอดได้ ซึ่งอาจเป็นสัญญาณของการติดเชื้อหรือภาวะแทรกซ้อนที่ต้องได้รับการดูแลจากแพทย์โดยเร็ว หากพบอาการดังต่อไปนี้ ควรรีบไปโรงพยาบาลทันที เพื่อป้องกันการติดเชื้อหรือภาวะอักเสบที่อาจรุนแรงขึ้นหลังผ่าตัดคลอด
1. แผลบวม แดง
อาการบวมและแดงบริเวณแผลอาจเป็นสัญญาณของการอักเสบหรือติดเชื้อ ซึ่งต้องตรวจเช็กและรับการรักษาจากแพทย์ทันที
2. รู้สึกร้อนบริเวณแผล
หากรู้สึกร้อนที่แผลผ่าตัด อาจเป็นอาการบ่งบอกถึงการติดเชื้อที่เริ่มลุกลามในเนื้อเยื่อรอบ ๆ แผล
3. มีเลือดซึมออกมา
การมีเลือดหรือหนองซึมออกมาจากแผลเป็นสัญญาณของการติดเชื้อหรือการเปิดแผล หากพบลักษณะนี้ต้องรีบพบแพทย์ทันที
4. มีไข้ร่วมด้วย
การมีไข้สูงหลังผ่าตัดอาจเกิดจากการติดเชื้อในร่างกาย เป็นภาวะที่ต้องเฝ้าระวัง เนื่องจากสามารถลุกลามและส่งผลต่อสุขภาพโดยรวม
วิธีลุกจากเตียงหลังผ่าคลอด สำหรับแม่ผ่าตัดคลอด
วิธีลุกจากเตียงหลังผ่าคลอด คุณแม่ต้องระมัดระวังในการลุกขึ้นจากเตียง เพื่อลดความเสี่ยงในการกระทบกระเทือนแผลผ่าตัด การลุกขึ้นในท่าที่ถูกต้อง สามารถช่วยลดอาการเจ็บปวดและช่วยให้การฟื้นตัวเร็วขึ้น
- นอนตะแคง ก่อนลุกจากเตียง ให้คุณแม่พลิกตัวนอนตะแคงไปด้านที่ถนัด โดยขยับช้า ๆ เพื่อไม่ให้แผลตึงหรือเจ็บ
- ใช้ข้อศอกยันพื้นเตียง ขยับแขนด้านล่าง ใช้ข้อศอกยันกับพื้นเตียงเพื่อช่วยพยุงตัวเองขึ้น
- ใช้แขนอีกข้างเกาะเหล็กกั้นเตียง ใช้มืออีกข้างจับเหล็กกั้นเตียงเพื่อช่วยดึงตัวขึ้น ซึ่งจะช่วยลดแรงที่อาจไปกระทบแผล
- พยุงตัวขึ้นในท่าตะแคง ค่อย ๆ พยุงตัวให้อยู่ในท่านั่ง โดยเริ่มจากท่านอนตะแคงแล้วขยับลำตัวช้า ๆ จนลุกออกจากเตียงได้
อาหารที่คุณแม่หลังผ่าคลอดควรรับประทาน
การเลือกอาหารที่เหมาะสมและมีคุณค่าทางโภชนาการสูงเป็นสิ่งสำคัญสำหรับคุณแม่หลังผ่าคลอด เพราะช่วยให้ร่างกายฟื้นตัวเร็วขึ้นและเสริมสร้างพลังงานในการดูแลลูกน้อย รวมถึงการผลิตน้ำนมที่เพียงพอ
อาหารที่มีประโยชน์ครบ 5 หมู่ เน้นโปรตีนสูง
อาหารครบ 5 หมู่ที่เน้นโปรตีนจะช่วยซ่อมแซมเนื้อเยื่อและฟื้นฟูร่างกายหลังการผ่าคลอด เช่น เนื้อสัตว์ไม่ติดมัน ไข่ เต้าหู้ และถั่ว โปรตีนยังช่วยเสริมสร้างน้ำนมและพลังงานให้กับคุณแม่เพื่อดูแลลูกน้อย
อาหารที่ช่วยกระตุ้นเพิ่มน้ำนม
อาหารบางชนิดสามารถช่วยกระตุ้นการผลิตน้ำนม เช่น กะเพรา ขิง กระเทียม ฟักทอง ขมิ้น และใบแมงลัก ซึ่งมีคุณสมบัติช่วยเพิ่มปริมาณน้ำนมและกระตุ้นให้ไหลสะดวกขึ้น
อาหารที่ปรุงสุก สดใหม่
ควรเลือกอาหารที่ปรุงสุก สะอาด และสดใหม่ทุกวัน เพื่อหลีกเลี่ยงการติดเชื้อที่อาจส่งผลต่อแผลผ่าคลอด รวมถึงลดความเสี่ยงในการเกิดอาการท้องอืดหรือไม่สบายท้อง
น้ำนมแม่มีประโยชน์ดีต่อพัฒนาการสมองการเรียนรู้ และระบบภูมิคุ้มของลูกน้อย คุณแม่ควรให้ลูกได้กินนมแม่ให้เร็วที่สุดหลังคลอด นมแม่มีสารอาหารกว่า 200 ชนิด รวมทั้งสารอาหารสำคัญอย่าง แอลฟาแล็ค สฟิงโกไมอีลิน ดีเอชเอ ที่เป็นสารอาหารเพื่อพัฒนาให้สมองมีการเรียนรู้ได้เร็ว และมีจุลินทรีย์สุขภาพหลายสายพันธุ์ เช่น B. lactis ช่วยกระตุ้นสร้างภูมิคุ้มกันในลำไส้ให้แข็งแรง
บทความแนะนำสำหรับคุณแม่มือใหม่
- Health check แบบประเมินสุขภาพของคุณแม่และพัฒนาการของลูกน้อย
- หัวนมบอด คืออะไร ปัญหาหัวนมบอดของคุณแม่ให้นมที่แก้ไขได้
- หัวนมคนท้อง การเปลี่ยนแปลงของเต้านมคนท้องระหว่างตั้งครรภ์
- หัวนมแตก อาการเจ็บหัวนมดูแลอย่างไร คุณแม่ให้นมลูกต่อได้ไหม
- วิธีให้นมลูกสำหรับคุณแม่มือใหม่ การให้นมลูกหลังคลอดที่ถูกต้อง
- วิธีให้ลูกดูดขวด เมื่อลูกติดเต้าไม่ดูดขวดนม พร้อมวิธีรับมือลูกน้อย
- วิธีกู้น้ำนม เมื่อคุณแม่น้ำนมไม่ไหล น้ำนมหด พร้อมวิธีเพิ่มน้ำนม
- วิธีจับลูกเรอ ท่าอุ้มเรอเมื่อลูกไม่เรอ ช่วยให้ลูกสบายท้องหลังอิ่มนม
- ท่าให้นมลูก ท่านอนให้นม พร้อมท่าจับเรอ ป้องกันลูกน้อยท้องอืด
- ท่อน้ำนมอุดตัน ภาวะท่อน้ำนมตันของคุณแม่ให้นมหลังคลอด
- วิธีนวดเปิดท่อน้ำนม นวดเต้าหลังคลอด แก้ไขปัญหาคุณแม่น้ำนมน้อย
- ท่านอนหลังผ่าคลอด คุณแม่ควรนอนท่าไหนดีที่สุด
อ้างอิง:
- คำแนะนำการปฏิบัติตนก่อนและหลังผ่าตัดคลอดบุตร, โรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ
- การดูแลหลังคลอด แบบผ่าตัดทางหน้าท้อง, โรงพยาบาลสมิติเวช
- คุณแม่มือใหม่ ต้องเตรียมตัวอย่างไรหลังคลอด ?, โรงพยาบาลวิมุต
- 6 คำแนะนำหลังคลอดบุตร, โรงพยาบาลเปาโล
- คำถามยอดฮิตที่คุณแม่ผ่าคลอดอยากรู้, โรงพยาบาลศิครินทร์
- ให้นมลูกอยู่คุณแม่ห้ามกินอะไรบ้าง, โรงพยาบาลวิชัยเวช อินเตอร์เนชั่นแนล อ้อมน้อย
- ผ่าคลอดกี่ครั้งถึงไม่อันตราย?...รวมเรื่องน่ารู้ก่อนเตรียมตัวผ่าคลอด, โรงพยาบาลพญาไท
- การดูแลตัวเองหลังผ่าตัดคลอด, โรงพยาบาลพษณุเวช พิจิตร
- ผ่าคลอด! บล็อกหลังหรือดมยาสลบดี?, โรงพยาบาลศิครินทร์
- โรคหลังคลอด ที่คุณแม่ต้องเตรียมรับมือ, โรงพยาบาลกรุงเทพ
- คำแนะนำสำหรับผู้ป่วยที่ได้รับการผ่าตัดทางนรีเวช, โรงพยาบาลเปาโล
- 8 เคล็ดลับดูแลแผลผ่าคลอดให้แผลสวย หายไว ฟื้นตัวเร็ว, โรงพยาบาลวิมุต
- แม่หลังคลอด ดูแลสุขภาพและแผลผ่าคลอดอย่างไร ช่วยให้หายไว, โรงพยาบาล MedPark
- 6 คำแนะนำหลังคลอดบุตร, โรงพยาบาลพญาไท
- คำแนะนำการปฏิบัติตัวหลังคลอด, โรงพยาบาลวิภาวดี
- ผ่าคลอด สิ่งที่คุณแม่ตั้งครรภ์ควรรู้, โรงพยาบาลสมิติเวช
- 8 เคล็ดลับดูแลแผลผ่าคลอดให้แผลสวย หายไว ฟื้นตัวเร็ว, โรงพยาบาลวิมุต
อ้างอิง ณ วันที่ 25 ธันวาคม 2566 / วันที่ 16 มีนาคม 2568