
วัยทอง 3 ขวบ ลูกกรี๊ด เอาแต่ใจ รับมือวัยทองเด็ก 3 ขวบ ยังไงดี
คำถามที่พบบ่อย
ทำไมลูก 3 ขวบถึงดื้อมากคะ เป็นเพราะเราเลี้ยงไม่ดีหรือเปล่า?
เข้าใจเลยค่ะว่าเป็นเรื่องที่น่ากังวลใจ แต่พฤติกรรมดื้อและเอาแต่ใจของเด็กวัย 3 ขวบนั้นเป็นเรื่องปกติมากค่ะ ไม่ได้หมายความว่าคุณพ่อคุณแม่เลี้ยงดูไม่ดีเลย จริงๆ แล้วมันเป็นสัญญาณของการเติบโตที่สมองส่วนควบคุมอารมณ์ของเขายังพัฒนาไม่เต็มที่ ทำให้เขายังจัดการกับความผิดหวังไม่เก่ง และในขณะเดียวกันก็เริ่มมีความคิดเป็นของตัวเอง อยากจะทำอะไรด้วยตัวเอง พฤติกรรมเหล่านี้จะค่อยๆ ดีขึ้นตามวัยค่ะ แต่หากคุณแม่รู้สึกว่าพฤติกรรมของน้องรุนแรงจนกระทบการใช้ชีวิตประจำวัน หรือกังวลใจเป็นพิเศษ การปรึกษากุมารแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญด้านพัฒนาการเด็กก็เป็นทางเลือกที่ดีที่สุดเพื่อความสบายใจค่ะ
ลูก 3 ขวบชอบกรี๊ดอาละวาดเวลาอยู่ข้างนอก ควรรับมือยังไงให้สถานการณ์ไม่แย่ลงคะ?
เป็นสถานการณ์ที่ท้าทายคุณพ่อคุณแม่มากเลยค่ะ สิ่งสำคัญที่สุดคือการที่คุณพ่อคุณแม่ต้องตั้งสติและใจเย็นเข้าไว้ พยายามอย่าดุหรือตะคอก เพราะจะยิ่งทำให้สถานการณ์แย่ลง ลองพาลูกออกมาจากตรงนั้นไปยังมุมที่สงบๆ แล้วกอดเขาไว้เงียบๆ เพื่อช่วยให้เขาสงบลง เมื่อเขาเริ่มนิ่งแล้วค่อยพูดคุยสั้นๆ เพื่อสะท้อนความรู้สึกของเขา การตอบสนองอย่างสงบและหนักแน่นจะช่วยให้ลูกเรียนรู้ว่าการอาละวาดไม่ใช่วิธีที่ถูกต้อง อย่างไรก็ตาม หากการอาละวาดเกิดขึ้นบ่อยครั้งและคุณแม่รู้สึกว่ารับมือได้ยากขึ้นเรื่อยๆ การปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญอาจช่วยให้เราพบแนวทางที่เหมาะสมกับครอบครัวเราโดยเฉพาะได้ค่ะ
การลงโทษลูกวัย 3 ขวบที่เอาแต่ใจ ได้ผลจริงไหมคะ หรือมีวิธีอื่นที่ดีกว่า?
การลงโทษรุนแรง เช่น การตีหรือดุว่าเสียงดัง มักไม่ได้ผลในระยะยาวกับเด็กวัยนี้ค่ะ ตรงกันข้ามอาจทำให้เขายิ่งต่อต้านและรู้สึกไม่ดีกับตัวเอง วิธีที่ดีกว่าคือการสอนและสร้างวินัยเชิงบวกค่ะ เช่น การตั้งขอบเขตที่ชัดเจนแต่ทำอย่างอ่อนโยน หรือการใช้เทคนิค "ขอเวลานอกเชิงบวก" (Positive Time-out) โดยให้ลูกไปนั่งสงบสติอารมณ์ในมุมสงบของบ้านโดยมีเราอยู่ใกล้ๆ การปรับพฤติกรรมต้องใช้ความอดทนและสม่ำเสมอ แต่หากลองหลายวิธีแล้วยังรู้สึกว่าสถานการณ์ไม่ดีขึ้น การขอคำแนะนำจากนักจิตวิทยาเด็กหรือกุมารแพทย์ด้านพัฒนาการก็เป็นสิ่งที่ควรทำ เพื่อให้ได้เครื่องมือที่เหมาะสมกับลูกของเราค่ะ
สรุป
- วัยทอง 3 ขวบ เป็นช่วงของพัฒนาการเด็กที่ต่อเนื่องมาจาก วัยทอง 2 ขวบ ที่สมองส่วนควบคุมอารมณ์ยังพัฒนาไม่สมบูรณ์ทำให้ลูกมีพฤติกรรมต่อต้าน ดื้อมาก ร้องอาละวาด เอาแต่ใจ
- เมื่อลูกโตขึ้นสามารถเข้าใจความรู้สึกตัวเอง และสื่อสารความต้องการของตัวเองได้ พฤติกรรมเหล่านี้จะค่อย ๆ ดีขึ้นตามลำดับ
- คุณพ่อคุณแม่ควรรับมือกับลูกน้อยวัยนี้ ด้วยความเข้าใจ สอนลูกให้ใจเย็น รู้เท่าทันอารมณ์ รู้จักควบคุมอารมณ์ และเป็นแบบอย่างที่ดีในเรื่องการควบคุมอารมณ์ ไม่ดุ ด่า ตีลูก หรือลงโทษ ขณะกำลังโกรธ
เลือกอ่านตามหัวข้อ
- วัยทอง 3 ขวบ (Terrible three) คืออะไร
- วัยทองเด็ก 3 ขวบ เด็กจะมีอาการอย่างไร
- วัยทอง 3 ขวบ ส่งผลเสียร้ายแรงกับลูกไหม
- ลูกอารมณ์เสียง่าย อาจเกิดจากอาการเจ็บป่วยก็ได้
- ลูกเป็นวัยทอง 3 ขวบ คุณแม่ควรสอนลูกแบบไหน
- อาการวัยทอง 3 ขวบ คุณแม่รับมือแบบไหนดี
- ลูกดื้อ เอาแต่ใจจนรับมือไม่ไหว ควรรีบไปปรึกษาแพทย์
วัยทอง 3 ขวบ (Terrible three) คืออะไร
วัยทอง 3 ขวบ หรือที่รู้จักกันดีในชื่อ "Terrible Three" เป็นช่วงพัฒนาการที่ต่อเนื่องมาจากวัยทอง 2 ขวบ แต่รุนแรงกว่า
โดยลูกน้อยจะแสดงพฤติกรรมต่อต้าน เอาแต่ใจ ร้องไห้ โมโหง่าย ร้องอาละวาด ซึ่งสร้างความสับสนและท้อแท้ให้กับพ่อแม่ผู้ปกครองเป็นอย่างมาก
อย่างไรก็ตาม พฤติกรรมเหล่านี้ล้วนเป็นส่วนหนึ่งของพัฒนาการตามปกติของเด็ก โดยวัยนี้สมองของเด็กกำลังพัฒนา โดยเฉพาะส่วนที่ควบคุมอารมณ์ยังพัฒนาไม่สมบูรณ์ ทำให้เด็ก ๆ ควบคุมอารมณ์ได้ยาก รู้สึกหงุดหงิดง่าย ประกอบกับยังไม่สามารถสื่อสารความต้องการของตัวเองได้อย่างมีประสิทธิภาพ จึงแสดงออกผ่านพฤติกรรมต่าง ๆ โดยพฤติกรรมเหล่านี้จะค่อย ๆ ดีขึ้น เมื่อลูกน้อยอายุประมาณ 4 ขวบ หรือสามารถเข้าใจความรู้สึกตัวเอง และสื่อสารความต้องการของตัวเองได้
วัยทองเด็ก 3 ขวบ เด็กจะมีอาการอย่างไร
วัยทองเด็ก 3 ขวบ เปรียบเสมือนลูกนกตัวน้อยที่กำลังหัดบิน เต็มไปด้วยพลัง ความอยากรู้อยากเห็น และความต้องการที่จะเรียนรู้สิ่งต่าง ๆ รอบตัว แต่ด้วยการพัฒนาการทางสมองของลูกและอารมณ์ที่ยังไม่สมบูรณ์ เด็กวัยนี้จึงมักแสดงพฤติกรรมที่ท้าทายความอดทนของพ่อแม่ผู้ปกครอง
โดยพฤติกรรมที่พบบ่อย ได้แก่ การร้องอาละวาด เนื่องจาก เริ่มมีความคิดเป็นของตัวเอง และต้องการตัดสินใจทำสิ่งต่าง ๆ ด้วยตัวเอง ต่อต้านคำสั่ง ชอบเถียง ไม่ชอบให้ใครมาเล่นของเล่น ต้องการให้ทุกอย่างเป็นไปตามใจตนเอง แต่ลูกน้อยยังควบคุมอารมณ์ได้ไม่ดี จึงมักแสดงพฤติกรรมเอาแต่ใจ ร้องไห้ โวยวาย ดื้อรั้น ต่อต้าน เมื่อไม่ได้ดั่งใจ
อาการวัยทอง 3 ขวบ คุณแม่รับมือแบบไหนดี
เมื่อลูกแสดงอาการวัยทอง 3 ขวบ ดื้อ ร้องไห้ อาละวาด เอาแต่ใจ ให้คุณแม่ทำตามนี้
1. นิ่งเฉยเมื่อลูกเอาแต่ใจ
ในกรณีที่ลูกร้องอาละวาดไม่รุนแรง เช่น ร้องไห้ เตะขา กรีดร้อง หรือมีคำพูดที่ทำให้ไม่สบายใจ คุณแม่ไม่ต้องพูดอะไร ไม่ต้องสบตา ไม่ต้องให้ความสนใจทั้งทางบวก (เช่น ชมเชย) หรือทางลบ (เช่น ด่า ตี) รอจนกว่าลูกจะสงบ เมื่อลูกสงบลง ค่อยเข้าไปกอด ปลอบโยน และพูดคุยถึงสิ่งที่เกิดขึ้น
2. เป็นผู้รับฟังที่ดีให้กับลูก
ให้ความสนใจเมื่อลูกเล่าเหตุการณที่เกิดขึ้น ให้ตั้งใจฟัง สบตา แสดงท่าทางว่าสนใจ และไม่พูดอะไรแทรก ใช้คำถามปลายเปิด ถามลูกว่า "เมื่อกี้นี้เกิดอะไรขึ้น" เพื่อเปิดโอกาสให้ลูกได้ทบทวนเรื่องราวด้วยตัวเอง อย่ารีบตัดสิน หรือบอกลูกว่าอะไรถูก อะไรผิด ให้ลูกได้คิดวิเคราะห์ด้วยตัวเอง เมื่อลูกเข้าใจปัญหาแล้ว ควรร่วมมือกับลูกหาทางออก หรือวิธีแก้ไข ที่เหมาะสม
3. หลีกเลี่ยงการพูดคำว่า “ไม่”
คำว่า "ไม่" มักกระตุ้นให้เด็กต่อต้าน เพิ่มความโกรธ และแสดงพฤติกรรมรุนแรงขึ้น การใช้คำอื่นที่สื่อความหมายคล้ายกัน แต่ไม่ใช่คำว่า "ไม่" จะช่วยลดการต่อต้าน ทำให้เด็กรับฟัง และเปิดใจมากขึ้น เช่น "ใจเย็น ๆ นะลูก" "รอแป๊บนึงนะ" "เดี๋ยวแม่มาช่วย" เป็นต้น
4. กอดลูกเมื่อมีพฤติกรรมก้าวร้าว
เพื่อหยุดพฤติกรรมอันตรายอย่างปลอดภัย เมื่อลูกทำร้ายตัวเอง ทำร้ายคนอื่น หรือทำลายข้าวของ กอดลูกเอาไว้สักพักจนกว่าลูกจะสงบ กอดด้วยความอ่อนโยน บอกด้วยน้ำเสียงที่นุ่มนวล ว่า "แม่ พ่ออยู่ตรงนี้กับลูกนะ" "ใจเย็น ๆ นะลูก" การกอด ช่วยให้เด็กรู้สึกอบอุ่น ปลอดภัย และลดความโกรธลง การกอดเป็นการแสดงความรัก ช่วยให้เด็กรู้สึกมีคุณค่า และอยากปรับเปลี่ยนพฤติกรรม
5. เป็นแบบอย่างที่ดีให้ลูกเห็น
พ่อแม่ควรสงบสติอารมณ์ตัวเองก่อนเสมอ แยกตัวออกมาก่อน หากยังระงับอารมณ์ไม่ได้ ไม่ควรตะโกน ด่า ตี หรือลงโทษลูกขณะโกรธ เพราะจะยิ่งทำให้สถานการณ์แย่ลง เมื่อควบคุมอารมณ์ได้ดีแล้ว ค่อยกลับมาจัดการปัญหา
วัยทอง 3 ขวบ ส่งผลเสียร้ายแรงกับลูกไหม
พฤติกรรมต่อต้านของวัยทอง 3 ขวบ เป็นช่วงพัฒนาการตามปกติของเด็กวัยนี้ ซึ่งพฤติกรรมเหล่านี้ไม่ได้ส่งผลเสียร้ายแรงต่อลูกน้อย เพียงแต่เป็นสัญญาณเตือนว่า สมองของลูกกำลังพัฒนา อย่างไรก็ตาม ปัจจัยที่มีผลต่อนิสัยของเด็ก มี 2 ส่วน ได้แก่
- พื้นฐานอารมณ์ของตัวเด็กเอง ที่ทำให้เด็กแต่ละคนมีนิสัยแตกต่างกัน
- สิ่งแวดล้อม คือ การเลี้ยงดูของคนในครอบครัว
ดังนั้นในช่วงวัยทอง 3 ขวบ สำหรับเด็กที่มีพื้นฐานนิสัยใจร้อน ก็อาจแสดงออกมากกว่าเด็กคนอื่น แต่หากคนในครอบครัวช่วยกันปรับนิสัยใจร้อน และพฤติกรรมต่อต้านของลูกน้อย เมื่อโตขึ้นเขาก็จะสามารถควบคุมอารมณ์ไปในทิศทางที่ดีได้
ลูกอารมณ์เสียง่าย อาจเกิดจากอาการเจ็บป่วยก็ได้
ลูกอารมณ์เสียง่าย ร้องไห้บ่อย สาเหตุอาจไม่ได้มาจากนิสัยของลูกเพียงอย่างเดียว แต่ อาการเจ็บป่วยหรือโรคบางชนิดก็อาจส่งผลต่อพฤติกรรมของลูกได้เช่นกัน เช่น สมาธิสั้น ไบโพลาร์ ออทิสติก รวมถึง โรคบางชนิดที่ส่งผลต่อต่อมไร้ท่อ เช่น โรคไทรอยด์ โรคเบาหวาน ก็อาจส่งผลต่อพัฒนาการด้านอารมณ์ของเด็ก ทำให้หงุดหงิด โมโหง่าย หรือซึมเศร้าได้
นอกจากนี้ การเจ็บป่วย ไม่สบายตัว ก็เป็นสาเหตุได้เช่นกัน เด็กที่ป่วยไม่สบาย หิว เหนื่อย หรืออดนอน มักมีอารมณ์หงุดหงิด โมโหง่าย และร้องไห้บ่อยได้เช่นกัน หากลูกน้อยอารมณ์เสียง่าย พ่อแม่ควรสังเกตพฤติกรรมของลูก หากพบว่าลูกมีอาการผิดปกติ ควรพาไปพบแพทย์เพื่อหาสาเหตุและรับการรักษาที่เหมาะสม

ลูกเป็นวัยทอง 3 ขวบ คุณแม่ควรสอนลูกแบบไหน
คุณแม่สามารถช่วยลูกน้อยผ่านพ้นช่วงวัยทองนี้ไปได้อย่างราบรื่น โดยใช้วิธีการสอนดังต่อไปนี้
1. สอนให้ลูกเห็นคุณค่าของตัวเอง
ชมเชยเมื่อลูกควบคุมอารมณ์ตนเองได้และแสดงพฤติกรรมเหมาะสม โดยชมลูกแบบบรรยายพฤติกรรม เช่น “หนูเงียบแล้ว หนูเก่งค่ะลูก” เน้นย้ำถึงคุณสมบัติเชิงบวกของลูก เช่น “หนูใจเย็นจังเลย” “หนูเป็นเด็กดีมาก” เป็นต้น
2. สอนให้ลูกมีความอดทนในการรอ
มองหน้าสบตาลูก พูดด้วยน้ำเสียงนิ่ง สีหน้าเรียบอย่างจริงจัง บอกลูกว่า “แม่จะรอหนูเงียบ เราถึงจะคุยกัน” ให้คุณแม่อดทนรอจนกว่าลูกจะสงบ ไม่ควรตะโกน ด่า หรือลงโทษ
3. สอนให้ลูกรู้เท่าทันอารมณ์ของตัวเอง
คุณแม่ต้องเข้าใจและยอมรับอารมณ์ของลูก บอกลูกว่า "แม่รู้ว่าหนูโกรธ" "แม่เข้าใจว่าหนูเสียใจ" การยอมรับอารมณ์ของลูก จะช่วยให้เด็กรู้สึกปลอดภัย และกล้าที่จะแสดงออก แต่อย่างไรก็ตาม แม่ไม่ยอมรับพฤติกรรมก้าวร้าวที่ลูกแสดงออก อธิบายให้ลูกเข้าใจว่า พฤติกรรมเหล่านี้ ไม่ได้ช่วยแก้ปัญหา และส่งผลเสียต่อผู้อื่นอย่างไร สอนให้ลูกรู้จักคำศัพท์เกี่ยวกับอารมณ์ต่าง ๆ เช่น โกรธ เสียใจ ดีใจ กลัว อาย อึดอัด ฝึกให้เด็กรู้จักสังเกต และบอกเล่าอารมณ์ความรู้สึกของตัวเอง ให้เวลาและอยู่เคียงข้างลูก
4. สอนให้ลูกควบคุมตัวเองได้
หากิจกรรมเสริมสร้างการควบคุมตนเอง เช่น การเล่นกีฬา ช่วยให้เด็กฝึกการอดทน รอคอย ควบคุมอารมณ์ และเรียนรู้กฎกติกา การรับผิดชอบงานบ้าน ฝึกให้เด็กรู้จักหน้าที่ ความรับผิดชอบ สอนลูกให้เป็นคนดีและการทำงานร่วมกับผู้อื่น การเลี้ยงสัตว์ สอนให้เด็กรู้จักความเมตตา ความเห็นอกเห็นใจ และการดูแลผู้อื่น
5. สอนให้ลูกรู้จักการแบ่งปัน
พูดคุย อธิบายให้ลูกเข้าใจว่า การแบ่งปันเป็นสิ่งที่ดี ช่วยให้เพื่อนมีความสุข และเราก็จะมีความสุขด้วย ชวนลูกเล่นบทบาทสมมติ สร้างสถานการณ์ที่ลูกต้องแบ่งปันของเล่นกับเพื่อน ฝึกให้ลูกพูดประโยคว่า "แบ่งกันนะ" "เล่นด้วยกันนะ" อ่านนิทาน เล่านิทานเกี่ยวกับการแบ่งปัน ให้ลูกเห็นตัวอย่างที่ดีจากตัวละครในนิทาน
ลูกดื้อ เอาแต่ใจจนรับมือไม่ไหว ควรรีบไปปรึกษาแพทย์
หากลูกดื้อ เอาแต่ใจจนคุณพ่อคุณแม่รับมือไม่ไหว เช่น เมื่อลูกน้อยทำร้ายตนเอง หรือทำร้ายคนอื่นขณะที่กำลังร้องอาละวาด หรือลูกน้อยมีพฤติกรรมที่แย่ลงหลังอายุ 4 ขวบ ควรปรึกษาแพทย์ เพื่อดูว่าลูกน้อยมีปัญหาจิตใจ หรืออื่น ๆ แอบแฝงอยู่หรือไม่
ในช่วงวัยทอง 3 ขวบนี้ แม้พฤติกรรมจะดูท้าทาย แต่หากพ่อแม่เข้าใจและสนับสนุนลูกอย่างเหมาะสม ก็จะช่วยให้ลูกเติบโตอย่างมั่นคง โภชนาการถือเป็นอีกหนึ่งตัวช่วยสำคัญ เพราะตั้งแต่แรกเริ่มลูกได้รับนมแม่ที่อุดมด้วยสารอาหารกว่า 200 ชนิด รวมถึงสารอาหารสำคัญ เช่น แอลฟาแล็ค สฟิงโกไมอีลิน (Alphalac Sphingomyelin) ซึ่งมีบทบาทในการสร้างสารสื่อประสาท และส่งเสริมการเชื่อมโยงระหว่างเซลล์สมอง ช่วยให้เด็กเจนใหม่ มีสมาธิ และเรียนรู้ได้ไวขึ้น รวมถึงสารอาหารอื่นๆ ที่ช่วยเสริมพัฒนาการในด้านต่างๆ เช่น โคลีน (Choline) ช่วยเรื่องความจำ, แกงกลิโอไซด์ (Ganglioside) มีส่วนช่วยพัฒนาระบบประสาท, ดีเอชเอ (DHA) เสริมสร้างสมองและจอประสาทตา, ลูทีน (Lutein) ถนอมสายตา และ ธาตุเหล็ก (Iron) ที่มีส่วนสำคัญต่อการลำเลียงออกซิเจนไปยังสมอง ช่วยให้สมองทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ และเมื่อเข้าสู่วัยนี้ ร่างกายและสมองยังคงเติบโตอย่างรวดเร็ว จึงจำเป็นต้องได้รับโภชนาการที่เหมาะสมเพื่อสนับสนุนการเรียนรู้ การจดจำ และการควบคุมอารมณ์ ให้ลูกมีความพร้อมทั้งร่างกายและจิตใจ รับมือกับช่วงวัยที่เต็มไปด้วยการเรียนรู้ การลองผิดลองถูก และก้าวผ่าน “Terrible Three” ได้อย่างราบรื่น
การร้องอาละวาด ดื้อมาก เอาแต่ใจ เป็นส่วนหนึ่งของพัฒนาการที่ปกติของเด็ก วัยทอง 3 ขวบ ไม่ง่ายนักที่จะจัดการ แต่การเลี้ยงดูจากพ่อแม่ผู้ปกครองที่ให้ความรัก ความเอาใจใส่ และความเข้าใจในตัวเด็ก ก็จะสามารถช่วยให้ลูกน้อยมีพัฒนาการที่ดี เติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่มีคุณภาพต่อไปได้แน่นอน
บทความแนะนำสำหรับพัฒนาการลูกน้อย
- พัฒนาการเด็ก 1 เดือน พร้อมวิธีเสริมพัฒนาการลูก
- พัฒนาการเด็ก 2 เดือน พร้อมวิธีเสริมพัฒนาการลูก
- พัฒนาการเด็ก 3 เดือน พร้อมวิธีเสริมพัฒนาการลูก
- พัฒนาการเด็ก 4 เดือน พร้อมวิธีเสริมพัฒนาการลูก
- พัฒนาการเด็ก 5 เดือน พร้อมวิธีเสริมพัฒนาการลูก
- พัฒนาการเด็ก 6 เดือน พร้อมวิธีเสริมพัฒนาการลูก
- พัฒนาการเด็ก 7 เดือน พร้อมวิธีเสริมพัฒนาการลูก
- พัฒนาการเด็ก 8 เดือน พร้อมวิธีเสริมพัฒนาการลูก
- พัฒนาการเด็ก 9 เดือน พร้อมวิธีเสริมพัฒนาการลูก
- พัฒนาการเด็ก 10 เดือน พร้อมวิธีเสริมพัฒนาการลูก
- พัฒนาการเด็ก 11 เดือน พร้อมวิธีเสริมพัฒนาการลูก
- พัฒนาการเด็ก 1 ขวบ พร้อมวิธีเสริมพัฒนาการลูก
- PlayBrain ยิ่งเล่น สมอยิ่งแล่น โปรแกรมฝึกฝนทักษะ EF พัฒนาสมองลูกน้อย
อ้างอิง:
- วัยทอง 2 ขวบ รู้จักอาการ และ 6 แนวทางการรับมืออย่างเหมาะสม, pobpad
- วัยทอง 2 ขวบ, โรงพยาบาลสมิติเวช
- มาเข้าใจพัฒนาการของเด็กวัย 1-3 ขวบ กันเถอะ, โรงพยาบาลเวชธานี
- ปราบเด็กดื้อ เอาแต่ใจ ก้าวร้าวอาละวาด, โรงพยาบาลนครธน
- เทคนิคปราบลูกดื้อ, โรงพยาบาลสมิติเวช
- เปลี่ยน “เด็กหวงของ” ให้แบ่งปันมีน้ำใจ แก้ไขได้ไม่ยาก, Nestle Mom and Me
- อย่าปล่อยให้เด็กโมโหร้ายคุมความโกรธไม่ได้, โรงพยาบาลกรุงเทพ
อ้างอิง ณ วันที่ 14 กรกฎาคม 2567