สะดือทารกมีเลือดออกอันตรายไหม สะดือเด็กทารกเลือดออกทำยังไงดี

สะดือทารกมีเลือดออกอันตรายไหม สะดือเด็กทารกเลือดออกทำยังไงดี

10.10.2024

การดูแลทารกแรกเกิดเป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อน เนื่องจากอวัยวะและระบบต่าง ๆ ในร่างกายยังไม่สมบูรณ์คุณแม่จึงต้องระมัดระวังและหมั่นดูแลรักษาความสะอาดร่างกายของลูกน้อยอยู่เสมอ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง “ขั้วสะดือ” ของเด็กแรกคลอด หากคุณแม่ทำความสะอาดไม่ถูกวิธี อาจทำให้เกิดการสะสมของเชื้อโรคจนเกิดการติดเชื้อเข้าสู่ร่างกายทางสายสะดือได้ แล้วถ้าสะดือทารกมีเลือดออกล่ะ แบบนี้อันตรายไหม? อยู่ ๆ บริเวณสะดือของลูกเลือดออกควรทำอย่างไร เรามาดูคำแนะนำกันดีกว่า

headphones

PLAYING: สะดือทารกมีเลือดออกอันตรายไหม สะดือเด็กทารกเลือดออกทำยังไงดี

อ่าน 5 นาที

 

สรุป

  • สะดือทารกมีเลือดออก เป็นอาการที่เกิดขึ้นได้ เนื่องจากขั้วสะดือของลูกน้อยหลุด หลังจากนั้น 2-3 วัน สะดือของลูกน้อยจะค่อย ๆ ดีขึ้น ส่วนใหญ่แล้วสะดือของทารกจะแห้งภายในระยะเวลาประมาณ 7 วัน
  • หลังจากที่สะดือหลุดและมีเลือดออกซึมอยู่ให้คุณแม่ทำความสะอาดบริเวณรอบ ๆ สะดือ ด้วยการนำสำลีที่สะอาดมาเช็ดเลือดและกดเบา ๆ เพื่อให้เลือดหยุด
  • เช็ดทำความสะอาดสะดือและรอบสะดือโดยใช้สำลีชุบแอลกอฮอล์ 70 เปอร์เซ็นต์ ให้สะอาดจนกว่าสะดือจะแห้งสนิท ระหว่างนี้ไม่ควรใช้แป้งโรยบริเวณสะดือเพื่อป้องกันการติดเชื้อ และหลีกเลี่ยงการสวมใส่ผ้าอ้อมบริเวณสะดือเพื่อไม่ให้เกิดการเสียดสีบริเวณสะดือของลูกน้อย

 

เลือกอ่านตามหัวข้อ

 

สะดือทารกมีเลือดออก เพราะอะไร

สะดือทารกมีเลือดออก เป็นเรื่องที่คุณแม่สามารถพบเจอได้ เพราะว่าหลังจากขั้วสะดือหลุดแล้วอาจมีหยดเลือดบนผ้าอ้อมของลูกน้อย เบื้องต้นคุณแม่ไม่ต้องตกใจให้เช็ดทำความสะอาดบริเวณสะดือลูกน้อยจนแห้ง หลังจากนั้น 2-3 วัน สะดือของลูกน้อยจะค่อย ๆ ดีขึ้น แต่ถ้าคุณแม่เห็นว่าบริเวณสะดือลูกน้อยมีเลือดออกมาก เลือดยังไหลซึมอยู่ตลอดเวลาให้รีบพาลูกน้อยไปพบแพทย์ คุณหมอจะได้ทำการวินิจฉัยและรับการรักษาอย่างทันท่วงที

 

สะดือทารกแรกเกิดจะหลุดไปเองตอนไหน

ขั้วสะดือทารกแรกเกิดที่คุณหมอผูกสายสะดือไว้หลังคลอด จะค่อย ๆ แห้งและหลุดไปภายใน 7-30 วันหลังคลอด แล้วแต่ขนาดของสายสะดือทารก ในระหว่างที่คุณแม่รอให้ขั้วสายสะดือหลุดนั้นควรหมั่นทำความสะอาดสะดือทารกอย่างเหมาะสมอยู่เสมอ เพื่อป้องกันการติดเชื้อเข้าสู่ร่างกาย

 

สะดือทารกที่หลุดแล้วเป็นแบบไหน

สายสะดือทารกใกล้หลุด จะมีสีดำ พอสายสะดือหลุดแล้วคุณแม่อาจจะเห็นว่ามีเลือดซึมหรือมีของเหลวซึมอยู่บริเวณสะดือ ช่วงเวลานี้คุณแม่ควรหมั่นทำความสะอาดบริเวณสะดืออย่างเหมาะสมจนกว่าจะแห้งสนิทดี และอย่าโรยแป้งที่บริเวณสะดือลูกน้อยเด็ดขาด ซึ่งส่วนใหญ่แล้วสะดือของทารกจะแห้งภายในระยะเวลาประมาณ 7 วัน หากหลังจาก 7 วันแล้วสะดือของลูกน้อยยังไม่แห้ง แนะนำให้คุณแม่พาลูกน้อยไปพบคุณหมอ

 

สะดือลูกหลุดช้า ผิดปกติไหม

ขั้วสะดือของทารกแต่ละคนใช้เวลาในการหลุดที่แตกต่างกันตามขนาดของสะดือทารก โดยปกติแล้วจะใช้เวลาหลุดประมาณ 7-30 วัน ในเด็กบางคนอาจจะหลุดก่อนหรือหลุดช้ากว่านี้ก็ได้

 

วิธีทำความสะอาดสะดือทารกมีเลือดออก

 

วิธีทำความสะอาดสะดือทารกมีเลือดออก

หลังจากสะดือหลุดแล้วคุณแม่อาจจะเห็นว่าบริเวณสะดือทารกมีเลือดออกอยู่เล็กน้อย คุณแม่สามารถทำความสะอาดบริเวณรอบ ๆ สะดือของลูกน้อยได้โดยการนำสำลีที่สะอาดมาเช็ดเลือดและกดเบา ๆ เพื่อให้เลือดหยุด หากมีคราบเลือดหรือของเหลวอยู่ให้นำสำลีไปชุบกับน้ำอุ่นสะอาดแล้วซับเบา ๆ ให้คราบที่สกปรกหลุดออกไป จากนั้นเช็ดทำความสะอาดสะดือและรอบสะดือโดยใช้สำลีชุบแอลกอฮอล์ 70 เปอร์เซ็นต์ ให้สะอาดจนกว่าสะดือจะแห้งสนิท

 

สะดือเด็กทารกเลือดออก ดูแลลูกอย่างไรให้ถูกวิธี

  • หมั่นเช็ดสะดือให้แห้งอยู่เสมอ: คุณแม่ควรหมั่นเช็ดทำความสะอาดสะดือของลูกน้อยให้แห้งทุกครั้งหลังอาบน้ำ หรือเปียกน้ำ หรือเปื้อนอุจจาระ ปัสสาวะ
  • ไม่ควรใช้แป้งโรยบริเวณสะดือ: หลังจากคุณแม่ทำความสะอาดสะดือทารกที่มีเลือดออกเรียบร้อยแล้ว ห้ามโรยแป้งหรือยาผงบริเวณสะดือลูกน้อยเด็ดขาด เพื่อความสะอาดของสะดือทารก
  • ไม่ควรใส่ผ้าอ้อม หรือกางเกงที่รัดบริเวณสะดือ: คุณแม่ควรระวังไม่สวมผ้าอ้อมทับสะดือลูกน้อย หรือใส่กางเกงรัดสะดือเพราะอาจทำให้เกิดเลือดออกมากขึ้นจากการเสียดสีบริเวณสะดือของลูกน้อย

 

ทำความสะอาดสะดือลูกด้วยแอลกอฮอล์ 70 เปอร์เซ็นต์

สามารถทำความสะอาดสะดือลูกน้อยด้วยการเช็ดทำความสะอาดด้วยแอลกอฮอล์ 70 เปอร์เซ็นต์ เนื่องจากสะดือทารกที่ยังแห้งไม่สนิทหรือยังมีเลือดซึมอยู่จำเป็นต้องระมัดระวังไม่ให้เกิดการสะสมของสิ่งสกปรกหรือเชื้อโรคที่อาจเป็นสาเหตุของการติดเชื้อบริเวณสะดือได้ ดังนั้น คุณแม่ควรใช้สำลีชุบแอลกอฮอล์ 70 เปอร์เซ็นต์ เช็ดทำความสะอาดสะดือและบริเวณผิวหนังรอบ ๆ สะดือของลูกน้อยด้วยทุกครั้ง

 

สะดือทารกมีเลือดออกแบบไหน ต้องไปพบแพทย์

ในระหว่างที่คุณแม่ดูแลลูกน้อยและพบว่าสะดือทารกมีเลือดออก คุณแม่ควรสังเกตอาการลูกน้อยว่าพบอาการอื่นร่วมด้วยหรือไม่ หากลูกน้อยมีสัญญาณเหล่านี้ให้คุณแม่พาลูกน้อยไปพบคุณหมอ

  • มีเลือดออกมากกว่าปกติ: เมื่อขั้วสะดือของลูกน้อยหลุดจะมีเลือดซึมออกมาเป็นปกติเว้นแต่ว่าเลือดไหลออกมาเป็นจำนวนมาก คุณแม่ต้องรีบพาลูกน้อยไปพบคุณหมอทันที
  • มีไข้สูง: หากสะดือทารกมีเลือดออก พร้อมกับลูกน้อยมีอาการไม่สบาย ตัวร้อนและมีไข้สูง ร่วมด้วย เป็นอาการผิดปกติที่ต้องพาไปพบคุณหมอทันที
  • ลูกร้องไห้หนัก เมื่อสัมผัสบริเวณท้องหรือสะดือ: ทารกแรกเกิดเป็นวัยที่ยังสื่อสารกับพ่อแม่ไม่ได้ ดังนั้น คุณแม่ต้องคอยสังเกตพฤติกรรมและรอบ ๆ สะดือของลูกน้อยว่าผิดปกติไปจากเดิมไหม หากสะดือทารกมีเลือดออกผิดปกติ มีรอยแดง พอคุณแม่ไปสัมผัสแล้วลูกร้องไห้งอแงให้รีบพาไปพบคุณหมอทันที
  • สะดือมีลักษณะผิดปกติ: บวม แดง หรือเป็นหนอง ผิวหนังบริเวณรอบ ๆ สะดือของทารกถ้าคุณแม่ทำความสะอาดได้ไม่ดีพออาจทำให้สะดือของลูกน้อยเกิดอาการบวม แดง หรือมีหนองซึ่งเป็นลักษณะของการติดเชื้อได้
  • สะดือมีกลิ่นเหม็น: เมื่อสะดือของลูกน้อยมีเลือดออกและเกิดการติดเชื้ออาจส่งกลิ่นเหม็น พร้อมกับมีรอยแดงรอบ ๆ สะดือด้วย ซึ่งเป็นสัญญาณอันตรายที่คุณแม่ควรรีบพาลูกน้อยไปหาคุณหมอ

 

สะดือทารกหลังคลอดจะยังมีขั้วสะดือติดอยู่ คุณแม่ต้องหมั่นทำความสะอาดเป็นประจำ เช่น เช็ดทำความสะอาดให้แห้ง ทำความสะอาดด้วยการใช้สำลีชุบแอลกอฮอล์ 70 เปอร์เซ็นต์ เพื่อป้องกันเกิดการอักเสบติดเชื้อบริเวณสายสะดือ และหลังจากขั้วสะดือหลุดแล้ว คุณแม่อาจเห็นเลือดซึมออกมาซึ่งเป็นอาการที่สามารถพบได้ แต่ถ้าคุณแม่ซับเลือดแล้วเลือดไม่หยุดไหลหรือหลายวันแล้วยังมีเลือดซึมอยู่ มีรอยแดง บวม เป็นหนองบริเวณสะดือ หรือมีไข้ร่วมด้วย ให้รีบพาลูกน้อยไปพบแพทย์ทันที

 

บทความแนะนำสำหรับคุณแม่มือใหม่

 

 

อ้างอิง:

  1. การดูแลขั้วสะดือทารก, โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย
  2. การดูแลสายสะดือ, Family Health Service (FHS) Department of Health
  3. คำแนะนำเกี่ยวกับการดูแลทารก, โรงพยาบาลเด็กสินแพทย์
  4. สะดือเด็กทารกทำความสะอาดอย่างไรให้ปลอดภัย ?, โรงพยาบาลศิครินทร์
  5. “ลักษณะทั่วไปของทารกแรกเกิด” สิ่งที่พ่อแม่ควรรู้..เพื่อดูความผิดปกติ, โรงพยาบาลพญาไท
  6. Caring for your baby's umbilical cord stump and belly button, Children's Health Queensland

อ้างอิง ณ วันที่ 23 กรกฎาคม 2567
 

บทความแนะนำ

เด็กทารกเล่นน้ำลาย คุณแม่ควรห้ามไหม มีผลต่อพัฒนาการอย่างไร

เด็กทารกเล่นน้ำลาย คุณแม่ควรห้ามไหม มีผลต่อพัฒนาการอย่างไร

เด็กทารกเล่นน้ำลาย เกิดจากอะไร เด็กเล่นน้ำลายบ่อย ผิดปกติไหม จะมีผลต่อพัฒนาการของลูกน้อยหรือเปล่า คุณพ่อคุณแม่ควรดูแลลูกน้อยอย่างไร เมื่อลูกชอบเล่นน้ำลาย

เด็กขาโก่ง จำเป็นต้องดัดขาลูกไหม ลูกขาโก่งดูยังไง

เด็กขาโก่ง จำเป็นต้องดัดขาลูกไหม ลูกขาโก่งดูยังไง

เด็กขาโก่ง เกิดจากอะไร ภาวะขาโก่งในเด็ก อันตรายไหม ลูกน้อยขาโก่ง คุณแม่ต้องดัดขาลูกทุกวันหรือเปล่า ลูกขาโก่งดูยังไง ไปดูวิธีสังเกตเด็กขาโก่งและวิธีแก้ไขกัน

เด็กพัฒนาการเร็ว ลูกฉลาดเกินวัย มีสัญญาณแบบไหนบ้าง

เด็กพัฒนาการเร็ว ลูกฉลาดเกินวัย มีสัญญาณแบบไหนบ้าง

เด็กพัฒนาการเร็วเป็นอย่างไร ลูกฉลาดเกินวัย เกิดจากสาเหตุอะไรได้บ้าง เด็กมีพัฒนาการที่เร็วกว่าเด็กปกติคือเด็กอัจฉริยะหรือเปล่า พร้อมวิธีเสริมพัฒนาการลูก

Overfeeding คืออะไร ให้ลูกกินนมเยอะเกินไป อันตรายแค่ไหน

Overfeeding คืออะไร ให้ลูกกินนมเยอะเกินไป อันตรายแค่ไหน

Overfeeding คืออะไร คุณแม่ให้ลูกกินนมเยอะเกินไป จะเป็นอันตรายกับลูกน้อยไหม ลูกน้อยจะมีอาการอย่างไร เมื่อให้นมลูกเยอะเกิน พร้อมวิธีให้นมลูกน้อยที่ถูกต้อง

แม่หลังคลอดกินผลไม้อะไรได้บ้าง ผลไม้ชนิดไหนช่วยฟื้นฟูร่างกาย ดีต่อสุขภาพ

แม่หลังคลอดกินผลไม้อะไรได้บ้าง ผลไม้ชนิดไหนช่วยฟื้นฟูร่างกาย

แม่หลังคลอดกินผลไม้อะไรได้บ้าง ผลไม้ชนิดไหนช่วยให้ร่างกายของคุณแม่แข็งแรงและกระตุ้นน้ำนมให้ไหลดี มีคุณภาพ ช่วยให้สารอาหารส่งถึงลูกโดยตรง ไปดูกัน

ไขบนหัวทารก เกิดจากอะไร คุณแม่ดูแลไขที่หัวทารกได้อย่างไรบ้าง

ไขบนหัวทารก เกิดจากอะไร คุณแม่ดูแลไขที่หัวทารกได้อย่างไรบ้าง

ไขบนหัวทารก เกิดจากสาเหตุอะไร ไขที่หัวทารกอันตรายไหมกับลูกน้อยไหม ไขที่หัวทารกกี่วันถึงหายไป ต้องพาลูกน้อยไปพบแพทย์ไหม พร้อมวิธีดูแลและทำความสะอาดไขบนหัวลูก

อารมณ์คนท้องแปรปรวน เกิดจากอะไร คุณพ่อมือใหม่รับมือยังไงดี

อารมณ์คนท้องแปรปรวน เกิดจากอะไร คุณพ่อมือใหม่รับมือยังไงดี

อารมณ์คนท้องแปรปรวน คนท้องมีอารมณ์ขึ้น ๆ ลง ๆ เกิดจากสาเหตุอะไร คุณแม่ท้องอารมณ์แปรปรวนบ่อย ส่งผลกระทบกับลูกในครรภ์ไหม พร้อมวิธีรับมือเมื่อคนท้องอารมณ์แปรปรวน

เลือกระยะการตั้งครรภ์และพัฒนาการเด็ก