อัลตร้าซาวด์ 4 มิติ คืออะไร? แตกต่างกับ 2 มิติ 3 มิติอย่างไร?

อัลตร้าซาวด์ 4 มิติ คืออะไร? แตกต่างกับ 2 มิติ 3 มิติอย่างไร?

อัลตร้าซาวด์ 4 มิติ คืออะไร? แตกต่างกับ 2 มิติ 3 มิติอย่างไร?

เลือกอ่านตามหัวข้อ

 

อัลตร้าซาวด์ 4 มิติ คืออะไร? แตกต่างกับ 2 มิติ และ 3 มิติอย่างไร?

ในปัจจุบันอัลตร้าซาวด์มีหลายแบบ เช่น แบบ 2 มิติ 3 มิติ และ 4 มิติ ซึ่งแต่ละแบบ จะมีการเห็นทารกในครรภ์ที่แตกต่างกันออกไป ซึ่งความแตกต่างของอัลตร้าซาวด์ในแต่ละแบบ มีดังต่อไปนี้

  • อัลตร้าซาวด์ 2 มิติ เป็นการตรวจด้วยคลื่นเสียงความถี่สูงที่ให้ภาพตัดขวางของทารกในครรภ์ โดยภาพที่ได้จะเป็นแบบขาวดำ โดยแพทย์จะมีวิธีอ่านฟิล์มอัลตร้าซาวด์ มีการแสดงรายละเอียดในแนวระนาบ 2 มิติ ได้แก่ ความกว้างและความยาว แต่ไม่มีความลึก คุณพ่อคุณแม่บางท่านอาจรู้สึกสับสนกับภาพที่เกิดขึ้นได้ เนื่องจากภาพที่ปรากฏอาจดูเป็นเงาและไม่สามารถเห็นใบหน้าทารกได้อย่างชัดเจน แต่ก็สามารถพอให้ทราบเพศของทารกในครรภ์ได้เหมือนกับการอัลตร้าซาวด์ประเภทอื่นเช่นกัน แพทย์สามารถใช้ข้อมูลภาพจากอัลตร้าซาวด์ประเภทนี้เพื่อตรวจดูพัฒนาการของทารกและประเมินสุขภาพครรภ์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
  • อัลตร้าซาวด์ 3 มิติ เป็นเทคโนโลยีที่พัฒนาต่อยอดจากอัลตร้าซาวด์ 2 มิติ โดยสามารถแสดงภาพในแบบ 3 มิติ ที่มีความกว้าง ความสูง และความลึก ทำให้เห็นรายละเอียดของทารกในครรภ์ได้ชัดเจนขึ้น หลักการทำงานของอัลตร้าซาวด์ 3 มิติคือ หัวตรวจจะส่งคลื่นเสียงความถี่สูงในมุมที่แตกต่างกัน ภาพที่ได้คือพื้นผิวของทารก และภาพอวัยวะภายในที่มีความสมจริงมากขึ้น คุณพ่อคุณแม่สามารถเห็นโครงสร้างร่างกายและใบหน้าของทารกในครรภ์ได้อย่างชัดเจนกว่าอัลตร้าซาวด์ 2 มิติ และเข้าใจพัฒนาการของลูกน้อยในครรภ์ได้ดียิ่งขึ้น
  • อัลตร้าซาวด์ 4 มิติ เป็นเทคโนโลยีที่พัฒนามาจากอัลตร้าซาวด์ 3 มิติ โดยเพิ่มมิติที่ 4 เข้ามา ซึ่งก็คือเวลา ทำให้สามารถแสดงภาพเคลื่อนไหวของทารกในครรภ์แบบเรียลไทม์ได้ นอกจากการเห็นรายละเอียดโครงสร้างร่างกายและใบหน้าของทารกในแบบ 3 มิติแล้ว เทคโนโลยีนี้ยังช่วยให้คุณพ่อคุณแม่สามารถสังเกตพฤติกรรมต่าง ๆ ของลูกได้อย่างชัดเจน ไม่ว่าจะเป็นการขยับนิ้ว อ้าปาก หาว หรือแม้แต่การยิ้ม หลักการทำงานของอัลตร้าซาวด์ 4 มิตินั้นคล้ายกับอัลตร้าซาวด์ 3 มิติ แต่มีการประมวลผลที่ซับซ้อนมากขึ้น เทคโนโลยีนี้ไม่เพียงแต่ช่วยให้คุณพ่อคุณแม่ได้เห็นทารกในครรภ์เสมือนจริงเท่านั้น แต่ยังเป็นประโยชน์อย่างยิ่งในการตรวจหาความผิดปกติของทารก โดยเฉพาะความผิดปกติที่พื้นผิว เช่น ปากแหว่ง หรือเนื้องอกบางชนิด ซึ่งช่วยให้แพทย์สามารถวินิจฉัยและวางแผนการรักษาได้ตั้งแต่ระยะเริ่มต้นได้อีกด้วย

 

สรุป

  • อัลตร้าซาวด์ ใช้เทคโนโลยีทางการแพทย์เพื่อตรวจสอบโครงสร้างภายในร่างกาย มีการประมวลผลเป็นภาพเพื่อช่วยให้แพทย์วินิจฉัยได้แม่นยำมากขึ้น ปัจจุบันยังไม่มีหลักฐานว่าอัลตร้าซาวด์ก่อให้เกิดอันตรายต่อคุณแม่และทารกในครรภ์แต่อย่างใด จึงถือเป็นวิธีการตรวจที่มีความปลอดภัย
  • อัลตร้าซาวด์มี 3 ประเภท ได้แก่ แบบ 2 มิติ 3 มิติ และ 4 มิติ ซึ่งแตกต่างกันตามระดับรายละเอียดของภาพ โดยแบบ 2 มิติ จะให้ภาพตัดขวางขาวดำแบบแนวระนาบ แต่ก็สามารถพอให้ทราบเพศของทารกในครรภ์ได้เหมือนกับการ อัลตร้าซาวด์ประเภทอื่น แบบ 3 มิติ แสดงภาพแบบมีมิติ ทั้งความกว้าง ความยาว และความลึก ทำให้เห็นโครงสร้างและใบหน้าได้ชัดขึ้น แบบ 4 มิติ เป็นภาพเคลื่อนไหวแบบเรียลไทม์ ช่วยให้สังเกตพฤติกรรมของทารก และตรวจหาความผิดปกติได้แม่นยำยิ่งขึ้น

 

อัลตร้าซาวด์คืออะไร?

อัลตร้าซาวด์ คือคลื่นเสียงความถี่สูงมากกว่า 20,000 เฮิรตซ์ ที่ถูกนำมาใช้ในทางการแพทย์เพื่อตรวจสอบโครงสร้างภายในร่างกาย โดยหลักการทำงานของอัลตร้าซาวด์คือ มีการส่งคลื่นเสียงจากหัวตรวจไปยังเนื้อเยื่อต่าง ๆ โดยคลื่นเสียงเหล่านี้จะถูกดูดซับหรือสะท้อนกลับในปริมาณที่แตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับความหนาแน่น และระดับความลึกของเนื้อเยื่อ หัวตรวจจะรับสัญญาณสะท้อนกลับ และนำไปประมวลผลเพื่อสร้างเป็นภาพที่ช่วยให้แพทย์สามารถวิเคราะห์และวินิจฉัยอาการทางการแพทย์ได้อย่างแม่นยำ และจากข้อมูลในปัจจุบัน ยังไม่พบอันตรายต่อคุณแม่และทารกในครรภ์จากการตรวจอัลตร้าซาวด์ หรือความเสี่ยงที่อาจก่อให้เกิดโรคมะเร็ง ความพิการโดยกำเนิด พัฒนาการและการเจริญเติบโต หรือความผิดปกติหลังการคลอดแต่อย่างใด คุณพ่อคุณแม่สามารถมั่นใจได้ว่า การตรวจอัลตร้าซาวด์มีความปลอดภัยแน่นอน

 

อัลตร้าซาวด์ 2 มิติ: พื้นฐานของการตรวจสุขภาพ

อัลตร้าซาวด์ 2 มิติ เป็นการตรวจด้วยคลื่นเสียงความถี่สูงที่ให้เป็นภาพระนาบเดียวและภาพที่ได้จะเป็นแบบขาวดำ มีการแสดงรายละเอียดได้แก่ ความกว้างและความยาว แต่ไม่มีความลึก ทำให้ภาพที่ปรากฏอาจดูเป็นเงาและไม่สามารถเห็นใบหน้าทารกได้อย่างชัดเจน ซึ่งเป็นข้อจำกัดของอัลตร้าซาวด์ 2 มิติ แพทย์สามารถใช้ข้อมูลภาพจากอัลตร้าซาวด์ประเภทนี้เพื่อตรวจดูพัฒนาการของทารกและประเมินสุขภาพครรภ์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

 

อัลตร้าซาวด์ 3 มิติ: เพิ่มมิติให้ภาพชัดเจนขึ้น

อัลตร้าซาวด์ 3 มิติ ต่อยอดจากอัลตร้าซาวด์ 2 มิติ โดยสามารถแสดงภาพความกว้าง ความสูง และความลึกเพิ่มเข้ามา ทำให้ภาพสมจริงและมีรายละเอียดของทารกในครรภ์มากยิ่งขึ้น โดยภาพที่ได้ คือพื้นผิวของทารก โครงสร้างใบหน้าและอวัยวะภายใน คุณพ่อคุณแม่เห็นโครงสร้างร่างกายและใบหน้าของทารกในครรภ์ได้อย่างชัดเจนกว่าอัลตร้าซาวด์ 2 มิติ ทำให้ทราบถึงพัฒนาการของอวัยวะสำคัญของลูกน้อยในครรภ์ได้ดียิ่งขึ้น แต่ข้อจำกัดของอัลตร้าซาวด์ 3 มิติ คือจะได้เป็นภาพนิ่งเท่านั้น ไม่มีการเคลื่อนไหวแบบเรียลไทม์แต่อย่างใด

 

อัลตร้าซาวด์ 4 มิติ: นวัตกรรมที่สมจริงที่สุดในปัจจุบัน

อัลตร้าซาวด์ 4 มิติ แสดงเป็นภาพเคลื่อนไหวเสมือนจริง โดยภาพที่ได้ จะเป็นเหตุการณ์ปัจจุบันหรือแบบเรียลไทม์ สามารถแสดงรายละเอียดของทารกในครรภ์ได้อย่างครบถ้วน เช่น

  1. เพศของทารกในครรภ์
  2. หัวใจ
  3. กะโหลกศีรษะและสมอง
  4. ใบหน้าและอวัยวะต่าง ๆ บนใบหน้า
  5. แขน ขา มือ เท้าและนิ้ว
  6. ตำแหน่งของทารก สายสะดือ และปริมาณน้ำคร่ำ
  7. กระเพาะอาหาร กระเพาะปัสสาวะ ไตและกระดูกสันหลัง
  8. การเจริญเติบโตและพัฒนาการในครรภ์ของทารก
  9. อัตราการเจริญเติบโตของทารก ขนาดของศีรษะ น้ำหนักและความยาว

 

ข้อดีของอัลตร้าซาวด์ 4 มิติ คือ คุณพ่อคุณแม่สามารถมองเห็นพฤติกรรมต่าง ๆ ของทารกในครรภ์ได้อย่างชัดเจน เช่น ลูกกำลังยิ้มหรือกำลังหาว เป็นต้น ซึ่งช่วยสร้างความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างคุณพ่อคุณแม่และลูกตั้งแต่ยังอยู่ในครรภ์ แต่ข้อเสียของอัลตร้าซาวด์ 4 มิติ คือ มีค่าใช้จ่ายสูงที่สุด เมื่อเทียบกับอัลตร้าซาวด์แบบ 2 มิติและ 3 มิติ

 

อัลตร้าซาวด์แต่ละแบบต่างกันอย่างไร: อัลตร้าซาวด์ 2 มิติ, 3 มิติ และ 4 มิติ

 

อัลตร้าซาวด์แต่ละแบบต่างกันอย่างไร: อัลตร้าซาวด์ 2 มิติ, 3 มิติ และ 4 มิติ

อัลตร้าซาวด์ในแต่ละแบบมีความแตกต่างกันของผลลัพธ์ที่ได้ ความชัดเจนและมุมมองของภาพที่แสดงผล รวมถึงค่าใช้จ่ายจะแตกต่างไปตามความละเอียดของการแสดงผลด้วย โดยมีรายละเอียดที่แตกต่างกัน ดังนี้

  • อัลตร้าซาวด์ 2 มิติ ภาพที่ได้จะเป็นแบบขาวดำ และมีการแสดงรายละเอียดในแนวระนาบสองมิติ ได้แก่ ความกว้างและความยาว แต่ไม่มีความลึก ทำให้ภาพที่ปรากฏอาจดูเป็นเงาและไม่สามารถเห็นใบหน้าทารกได้อย่างชัดเจน
  • อัลตร้าซาวด์ 3 มิติ เนื่องจากเป็นเทคโนโลยีที่พัฒนาต่อยอดจากอัลตร้าซาวด์ 2 มิติ จึงทำให้เห็นรายละเอียดของทารกในครรภ์ได้ชัดเจนขึ้น ภาพที่ได้คือพื้นผิวของทารก ทั้งโครงสร้างร่างกายและใบหน้าของทารก รวมถึงภาพอวัยวะภายในที่มีความสมจริงมากขึ้น
  • อัลตร้าซาวด์ 4 มิติ จะเพิ่มเติมในส่วนของเวลา ทำให้สามารถแสดงภาพเคลื่อนไหวของทารกในครรภ์ได้แบบเรียลไทม์ ช่วยให้คุณพ่อคุณแม่สามารถสังเกตพฤติกรรมต่าง ๆ ของลูกได้อย่างชัดเจน ไม่ว่าจะเป็นการขยับนิ้ว อ้าปาก หาว หรือแม้แต่การยิ้ม เป็นต้น

 

อัลตร้าซาวด์ 4 มิติช่วยตรวจเพศลูกได้หรือไม่?

อัลตร้าซาวด์ 4 มิติ สามารถตรวจดูเพศของทารกในครรภ์ได้ ซึ่งอัลตร้าซาวด์ 2 มิติ และ 3 มิติ ก็สามารถดูเพศได้เช่นกัน การตรวจอัลตร้าซาวด์สามารถตรวจได้ทุกช่วงอายุ และตลอดการตั้งครรภ์ตามการพิจารณาของแพทย์ โดยช่วงอายุครรภ์ที่ควรได้รับการตรวจอัลตร้าซาวด์มีดังนี้

  • อายุครรภ์ 5-11 สัปดาห์
    1. เพื่อยืนยันการตั้งครรภ์และวินิจฉัยแยกภาวะลูกแฝด
    2. เพื่อกำหนดอายุครรภ์จากการวัดขนาดของทารกในครรภ์
    3. ตรวจวินิจฉัยภาวะเลือดออกผิดปกติจากชั้นใต้เยื่อหุ้มรก
    4. ตรวจวินิจฉัยการตั้งครรภ์ที่ผิดปกติ เช่น ตั้งครรภ์ที่ไม่มีตัวอ่อน การตั้งครรภ์นอกมดลูก เป็นต้น
    5. ตรวจวินิจฉัยภาวะเนื้องอกมดลูกหรือเนื้องอกรังไข่

 

  • อายุครรภ์ 11-13 สัปดาห์
    1. วัดขนาดของทารกเพื่อกำหนดอายุครรภ์ และเพื่อที่จะทราบว่าท้องกี่เดือนรู้เพศ
    2. วัดความหนาของชั้นน้ำ ที่สะสมใต้ผิวหนังต้นคอของทารก เพื่อใช้พิจารณาร่วมกับผลการเจาะเลือดของคุณแม่ สำหรับใช้ในการตรวจคัดกรองดาวน์ซินโดรมของทารก
    3. ตรวจวินิจฉัยความพิการของทารก
    4. ตรวจประเมินอวัยวะในอุ้งเชิงกรานของคุณแม่ เช่น รังไข่และมดลูก

 

  • อายุครรภ์ 18-23 สัปดาห์
    1. ตรวจวินิจฉัยความผิดปกติของอวัยวะต่าง ๆ ของทารกในครรภ์ เช่น แขน ขา กะโหลกศีรษะ และหัวใจ เป็นต้น
    2. ตรวจวินิจฉัยการเจริญเติบโตของทารก
    3. ตรวจความยาวปากมดลูกของคุณแม่ เพื่อประเมินดูความเสี่ยงต่อการคลอดก่อนกำหนด

 

  • อายุครรภ์ 28 สัปดาห์ขึ้นไปจนถึงช่วงใกล้คลอด
    1. ตรวจดูการเจริญเติบโตและน้ำหนักของทารก
    2. ตรวจวินิจฉัยภาวะทารกน้ำหนักต่ำกว่าเกณฑ์
    3. ตรวจวินิจฉัยตำแหน่งของรก ภาวะรกเกาะต่ำ ท่าของทารกในครรภ์และปริมาณน้ำคร่ำ
    4. ตรวจสุขภาพของทารกในครรภ์ โดยตรวจการหายใจและการเคลื่อนไหวของทารก

 

ทั้งนี้ หากคุณแม่มีภาวะครรภ์เสี่ยงสูง ตั้งครรภ์ลูกแฝด หรือมีภาวะแทรกซ้อนใด ๆ ควรได้รับการตรวจประเมินสุขภาพของทารกในครรภ์บ่อยขึ้น และควรปรึกษาแพทย์เพื่อตรวจวินิจฉัยอย่างต่อเนื่อง เพื่อความปลอดภัยของคุณแม่และทารกในครรภ์

 

ควรเลือกอัลตร้าซาวด์แบบไหน?

การเลือกอัลตร้าซาวด์แบบที่เหมาะสม ควรมีปัจจัยในการพิจารณาดังนี้

  • การเลือกอัลตร้าซาวด์ตามวัตถุประสงค์ของการตรวจ การตรวจอัลตร้าซาวด์ทารกในครรภ์ องค์การอนามัยโลกแนะนำตรวจอย่างน้อย 3 ครั้ง โดยการตรวจอัลตร้าซาวด์จะมีหลายแบบ อาทิ แบบ 2 มิติ จะแสดงภาพเป็นขาวดำ และมีเฉพาะความกว้างและความยาวเท่านั้น แบบ 3 มิติ จะแสดงทั้งความกว้าง ความยาว และความลึก และแบบ 4 มิติ ที่จะแสดงทั้งความกว้าง ความยาว และความลึก รวมทั้งแสดงภาพเคลื่อนไหวแบบเรียลไทม์ คุณพ่อคุณแม่ควรปรึกษาแพทย์ เพื่อรับคำแนะนำการตรวจอัลต้าซาวด์ในแบบที่เหมาะสมของข้อมูลที่แสดงออกมา โดยอัลตร้าซาวด์ทุกแบบ จะแสดงผลออกมาเหมือนกัน ในเรื่องของความสมบูรณ์และพัฒนาการของทารกในครรภ์ รวมไปถึงความผิดปกติต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในครรภ์
  • การเลือกอัลตร้าซาวด์ตามงบประมาณ อัลตร้าซาวด์แบบ 2 มิติ จะมีค่าใช้จ่ายต่ำที่สุด แบบ 3 มิติ และ 4 มิติ จะมีค่าใช้จ่ายที่สูงขึ้นตามลำดับ หากปรึกษาแพทย์แล้ว แพทย์แนะนำให้ตรวจแบบ 2 มิติได้ ก็น่าจะมีความเพียงพอต่อการตรวจ 2 มิติ ก็เพียงพอต่อการดูการเจริญเติบโต ความสมบูรณ์แข็งแรง และพัฒนาการของทารกในครรภ์ได้เช่นกัน คุณพ่อคุณแม่จึงสามารถปรึกษาแพทย์เพื่อหาวิธีอัลตร้าซาวด์ที่เหมาะสมต่อไป
  • การเลือกอัลตร้าซาวด์โดยคำแนะนำจากแพทย์ แพทย์จะประเมินการเลือกใช้ชนิดของอัลตร้าซาวด์ให้เหมาะสมกับความจำเป็นทางการแพทย์ รวมถึงอธิบายค่าใช้จ่ายที่แตกต่างกันให้คุณแม่ทราบ โดยหัวใจสำคัญของการเลือก ได้แก่
     
    1. ช่วยให้แพทย์สามารถดูการเจริญเติบโตและพัฒนาการของทารกในครรภ์ได้อย่างเหมาะสม เช่น ขนาดศีรษะ ขนาดลำตัว และน้ำหนักตัว เป็นต้น
    2. ช่วยให้แพทย์สามารถตรวจสอบความสมบูรณ์ของอวัยวะต่าง ๆ เช่น แขน ขา ใบหน้า และหัวใจ เพื่อให้แน่ใจว่าทารกในครรภ์มีสุขภาพสมบูรณ์แข็งแรง
    3. ช่วยให้แพทย์สามารถวางแผนการดูแลสุขภาพของทั้งคุณแม่และทารกในครรภ์ได้อย่างเหมาะสม

 

เมื่อไหร่ควรปรึกษาแพทย์เกี่ยวกับอัลตร้าซาวด์?

คุณแม่สามารถปรึกษาแพทย์เกี่ยวกับการอัลตร้าซาวด์ได้ทันที เมื่อทราบว่าตั้งครรภ์หรือมาก่อนอายุครรภ์ 14 สัปดาห์ ทั้งนี้ก็เพื่อตรวจดูอายุครรภ์ให้แน่ชัด เพราะคุณแม่บางคนประจำเดือนมาไม่แน่นอน ทำให้ไม่สามารถกำหนดคลอดได้ และยังเป็นการดูความเสี่ยงของภาวะดาวน์ซินโดรม เมื่อมีอายุครรภ์ 18-22 สัปดาห์ อัลตร้าซาวด์ดูความครบถ้วนของอวัยวะต่าง ๆ และเมื่ออายุครรภ์ 28-32 สัปดาห์ ดูการเจริญเติบโตและความผิดปกติของกระดูก

 

อัลตร้าซาวด์ 4 มิติ กับการดูแลสุขภาพทารกในครรภ์

การอัลตร้าซาวด์แบบ 4 มิติ เพื่อติดตามการเจริญเติบโตของทารกในทุกช่วงอายุครรภ์ ยังมีข้อดีอื่น ๆ ดังนี้

  • เห็นใบหน้าของทารกในครรภ์ได้ชัดเจน ทำให้คุณพ่อคุณแม่สามารถสังเกตอวัยวะต่าง ๆ ได้ เช่น ตา จมูก ปาก เป็นต้น
  • เห็นพัฒนาการของทารก คุณพ่อคุณแม่สามารถเห็นทารกขยับตัว ยิ้ม หาว หรือหลับได้ ทำให้ทราบพัฒนาการของทารกได้ชัดเจนยิ่งขึ้น
  • ตรวจหาความผิดปกติได้เร็ว ซึ่งช่วยให้แพทย์ตรวจพบความผิดปกติของทารกในครรภ์ได้ตั้งแต่เนิ่น ๆ และแพทย์สามารถทำการวินิจฉัยและรักษาได้อย่างทันท่วงที

 

ทั้งนี้การตรวจสุขภาพทารกในครรภ์ด้วยการการอัลตร้าซาวด์แบบ 4 มิติ ควรทำภายใต้คำแนะนำของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเท่านั้น

อัลตร้าซาวด์เป็นเทคโนโลยีทางการแพทย์ที่ใช้คลื่นเสียงความถี่สูงเพื่อตรวจสอบโครงสร้างภายในร่างกาย โดยมี 3 ประเภทหลักได้แก่ แบบ 2 มิติ ที่ให้ภาพขาวดำแบบตัดขวาง ใช้ประเมินพัฒนาการของทารก แต่ก็สามารถพอให้ทราบเพศของทารกในครรภ์ได้เหมือนกับการอัลตร้าซาวด์ประเภทอื่น ต่อมาคือแบบ 3 มิติ แสดงภาพที่มีความกว้าง ความสูง และความลึก ทำให้เห็นโครงสร้างและใบหน้าทารกชัดเจนขึ้น และสุดท้ายคือแบบ 4 มิติ มีการเพิ่มมิติของเวลา ทำให้สามารถเห็นภาพเคลื่อนไหวของทารกแบบเรียลไทม์ ช่วยสังเกตพฤติกรรมต่าง ๆ ของทารกได้ อีกทั้งยังช่วยตรวจหาความผิดปกติที่พื้นผิว เช่น ปากแหว่งหรือเนื้องอกบางชนิดได้อย่างแม่นยำ ทั้งนี้ถึงแม้ว่าปัจจุบัน ยังไม่พบอันตรายต่อคุณแม่และทารกในครรภ์จากการตรวจอัลตร้าซาวด์แต่อย่างใด แต่คุณแม่ควรปรึกษาแพทย์ก่อนทำการตรวจอัลตร้าซาวด์ เพื่อความปลอดภัยของคุณแม่และทารกในครรภ์ต่อไป

 

บทความแนะนำสำหรับคุณแม่มือใหม่

อ้างอิง:

  1. ไขข้อสงสัย อัลตราซาวด์ทารกในครรภ์ แต่ละแบบต่างกันอย่างไร, โรงพยาบาลนครธน
  2. อัลตราซาวด์คืออะไร, โรงพยาบาลพญาไท
  3. ตรวจอัลตราซาวด์บ่อย ๆ จะส่งผลกับลูกน้อยในครรภ์หรือไม่?, โรงพยาบาลพญาไท
  4. โปรแกรมตรวจอัลตร้าซาวด์ทารกในครรภ์ 4 มิติ เเละ 2 มิติ, โรงพยาบาลเปาโล
  5. รู้จักลูกน้อยในครรภ์ด้วยอัลตราซาวด์ 4 มิติ, โรงพยาบาลขอนแก่น ราม
  6. อัลตราซาวด์ 2มิติ ต่างจาก 4มิติ ต่างกันอย่างไร, โรงพยาบาลเปาโล
  7. การตรวจอัลตร้าซาวนด์คุณแม่ตั้งครรภ์ สำคัญหรือไม่, โรงพยาบาลพญาไท
  8. อัลตราซาวด์ทารกในครรภ์แต่ละไตรมาสสำคัญแค่ไหน, โรงพยาบาลนครธน
  9. อัลตราซาวด์ 4 มิติ, มุสิกาคลินิก
  10. อัลตร้าซาวด์ และการตรวจความผิดปกติของทารกในครรภ์, โรงพยาบาลสมิติเวช
  11. เช็กพัฒนาการของลูกน้อย จากการตั้งครรภ์ด้วย Ultrasound 4D, โรงพยาบาลสินแพทย์

อ้างอิง ณ วันที่ 1 เมษายน 2568