ทำหมันแล้วอยากมีลูก? เปิดค่าใช้จ่ายแก้หมัน และข้อมูลทำหมันครบ
คำถามที่พบบ่อย
หลังทำหมันต้องงดมีเพศสัมพันธ์นานแค่ไหน และจะมีผลต่อความรู้สึกทางเพศหรือไม่?
โดยทั่วไปแพทย์แนะนำให้งดมีเพศสัมพันธ์ประมาณ 6-8 สัปดาห์ หรือจนกว่าแผลจะหายสนิทและไม่มีอาการเจ็บ เพื่อป้องกันแผลฉีกขาดและติดเชื้อ ส่วนความรู้สึกทางเพศและระดับฮอร์โมนจะยังคงเป็นปกติเหมือนเดิมทุกอย่าง การทำหมันไม่มีผลกระทบต่อเรื่องนี้
ทำหมันแล้ว หากเปลี่ยนใจอยากมีลูกอีก จะทำได้ไหม?
คุณแม่สามารถแก้หมันได้ หากมีความจำเป็นต้องตั้งครรภ์และมีลูกอีกครั้ง ก็สามารถปรึกษาคุณหมอเพื่อทำการผ่าตัดเชื่อมต่อท่อนำไข่ที่เหลือเข้าหากันได้ค่ะ หากการเชื่อมต่อสำเร็จและไม่มีปัจจัยอื่นที่ทำให้มีบุตรยาก คุณแม่ก็สามารถตั้งครรภ์ได้อีกครั้ง
หลังทำหมันแล้วจะยังมีประจำเดือนอยู่ไหม ?
หลังการทำหมันแล้วคุณแม่จะยังคงมีประจำเดือนตามปกติ คือยังมีไข่ตก และมดลูกก็จะยังคงสร้างเยื่อบุโพรงมดลูกขึ้นมาและหลุดลอกออกมาเป็นประจำเดือนเช่นเดิม เพียงแต่ไข่จะไม่สามารถเดินทางไปผสมกับอสุจิได้
หลังการผ่าตัดทำหมัน อาจมีเลือดออกกะปริบกะปรอยประมาณหนึ่งเดือน และประจำเดือนอาจกลับมาใน 4-6 สัปดาห์ ประจำเดือนครั้งแรกหลังทำหมันอาจมามากกว่าปกติหรือรู้สึกปวดท้องมากกว่าที่เคย หากคุณแม่ทำหมันหลังจากการคลอดบุตร ประจำเดือนอาจกลับมาช้ากว่าเดิม โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากคุณแม่กำลังให้นมบุตรอยู่ ประจำเดือนอาจยังไม่มาทันที ซึ่งเป็นผลจากการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนหลังตั้งครรภ์ ไม่ใช่ผลจากการทำหมัน
สรุป
- การทำหมันหญิงเป็นการคุมกำเนิดแบบถาวรที่ป้องกันไม่ให้อสุจิผสมกับไข่ได้ โดยแพทย์จะทำให้ท่อนำไข่อุดตัน ซึ่งทำได้หลายวิธี เช่น การผูก, รัด, หนีบ, หรือตัดท่อนำไข่บางส่วนออก
- การทำหมันหญิงมี 2 ประเภท คือ การทำหมันหลังคลอด หรือ การทำหมันเปียก (Postpartum) วิธีนี้เป็นการทำหมันหลังคลอดลูกภายใน 24-48 ชั่วโมง การทำหมันปกติ หรือ การทำหมันแห้ง (Interval Sterilization) วิธีนี้เป็นการทำหมันที่ไม่ได้ทำหลังคลอดทันที สามารถทำได้ในทุกช่วงเวลาที่ไม่ได้ตั้งครรภ์ ซึ่งส่วนใหญ่จะทำหลังมีประจำเดือนแล้ว เพื่อให้มั่นใจว่าคุณแม่ไม่ได้กำลังตั้งครรภ์
- ก่อนการผ่าตัดทำหมัน แพทย์จะใช้ยาชาเฉพาะที่หรือยาสลบเพื่อระงับความรู้สึก ทำให้คุณแม่ไม่รู้สึกเจ็บปวดระหว่างการผ่าตัด ซึ่งวิธีที่ใช้จะขึ้นอยู่กับการพิจารณาของแพทย์เป็นหลัก
- การผ่าตัดแก้หมันหญิง คือการศัลยกรรมเพื่อเชื่อมต่อท่อนำไข่ที่เคยถูกตัดหรือผูกไว้ให้กลับมาทำงานได้ตามปกติอีกครั้ง โดยสามารถทำได้ 2 รูปแบบหลัก คือ การผ่าตัดผ่านทางหน้าท้อง จะทำการเปิดแผลขนาดเล็กบริเวณหน้าท้องส่วนล่างเพื่อเชื่อมต่อท่อนำไข่ และการผ่าตัดส่องกล้องแก้หมัน ด้วยการเจาะแผลเล็กประมาณ 3 จุดที่หน้าท้องเพื่อใช้กล้องและเครื่องมือตัดต่อ
เลือกอ่านตามหัวข้อ
- การทำหมันหญิงคืออะไร? รู้จักการคุมกำเนิดแบบถาวร
- การทำหมันหญิงมีกี่แบบ?
- การทำหมันหญิง ข้อดี ข้อเสีย
- ถ้าทำหมันแล้วเปลี่ยนใจ อยากมีลูกอีกครั้ง ทำได้ไหม?
- ขั้นตอนการทำหมันหญิงเป็นอย่างไร?
- การทำหมันหญิงเจ็บไหม?
- การดูแลตัวเองหลังทำหมันหญิง ต้องพักฟื้นกี่วัน
- ผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นหลังการทำหมันหญิง
- ไขข้อสงสัยการทำหมันหญิง
การทำหมันหญิงคืออะไร? รู้จักการคุมกำเนิดแบบถาวร
การทำหมันหญิง(Female sterilization) คือการคุมกำเนิดแบบถาวรที่ได้รับความนิยมวิธีหนึ่งค่ะ คุณหมอจะทำให้ท่อนำไข่อุดตัน เพื่อป้องกันไม่ให้อสุจิเดินทางมาพบกับไข่ได้ ซึ่งสามารถทำได้หลายวิธี เช่น การผูก, รัด, หนีบ, หรือตัดท่อนำไข่บางส่วนออกไป วิธีนี้เป็นทางเลือกที่ดีสำหรับคุณแม่ที่มั่นใจว่ามีลูกเพียงพอแล้ว และต้องการวางแผนครอบครัวในระยะยาวอย่างมีประสิทธิภาพค่ะ
การทำหมันหญิงมีกี่ประเภท?
การทำหมันหญิงนั้นมี 2 ประเภทหลัก ๆ ค่ะ ซึ่งแต่ละแบบก็จะมีช่วงเวลาและขั้นตอนที่แตกต่างกันออกไป เพื่อให้คุณแม่เลือกได้ตามความเหมาะสม
1. การทำหมันหลังคลอด หรือ ทำหมันเปียก (Postpartum)
วิธีนี้เป็นการทำหมันในระยะหลังคลอด โดยมักจะทำในช่วง 24-48 ชั่วโมงหลังจากคุณแม่คลอดลูก แต่ไม่ควรเกิน 7 วันหลังคลอด สาเหตุที่นิยมทำในช่วงนี้ก็เพราะเป็นช่วงที่มดลูกยังมีขนาดโตและลอยอยู่เหนืออุ้งเชิงกราน ทำให้คุณหมอหาท่อนำไข่ได้ง่าย และไม่ต้องใช้เวลาพักฟื้นนานกว่าการคลอดตามปกติ โดยคุณหมอจะลงแผลเล็ก ๆ ใต้สะดือ เพื่อเข้าไปผูกและตัดท่อนำไข่บางส่วนออกทั้งสองข้าง
2. การทำหมันปกติ หรือ การทำหมันแห้ง (Interval Sterilization)
วิธีนี้เป็นการทำหมันที่ไม่ได้ทำหลังคลอดทันทีค่ะ สามารถทำได้ในทุกช่วงเวลาที่ไม่ได้ตั้งครรภ์ ซึ่งส่วนใหญ่มักจะทำหลังมีประจำเดือนแล้ว เพื่อให้มั่นใจว่าไม่ได้ตั้งครรภ์ค่ะ การทำหมันแบบนี้จะมีความซับซ้อนกว่าเล็กน้อย เพราะมดลูกกลับสู่ขนาดปกติแล้ว คุณหมอจึงจะผ่าตัดทางหน้าท้องเหนือหัวหน่าว และใช้วิธีผูกและตัดท่อนำไข่เช่นกัน โดยจะใช้เวลาผ่าตัดไม่เกิน 30 นาที และใช้วิธีดมยาสลบค่ะ
ไม่ว่าคุณแม่จะเลือกทำหมันแบบไหน การปรึกษาคุณหมอผู้เชี่ยวชาญเพื่อวางแผนการดูแลอย่างเหมาะสมก็เป็นสิ่งสำคัญที่สุดค่ะ
การทำหมันหญิง ข้อดี ข้อเสีย
การตัดสินใจทำหมันหญิงเป็นเรื่องใหญ่ที่ต้องพิจารณาอย่างรอบคอบ การทำความเข้าใจข้อดีและข้อเสียจะช่วยให้คุณแม่สามารถตัดสินใจได้อย่างมั่นใจและเหมาะสมกับวิถีชีวิตของตัวเองและครอบครัวค่ะ
ข้อดีของการทำหมันหญิง
- คุมกำเนิดได้อย่างมีประสิทธิภาพ: เป็นวิธีที่ป้องกันการตั้งครรภ์ได้สูงถึง 99%
- ปลอดภัยจากผลข้างเคียงของฮอร์โมน: คุณแม่จะไม่ต้องกังวลกับผลข้างเคียงจากการใช้ยาคุมกำเนิดที่มีฮอร์โมน เช่น น้ำหนักเพิ่ม อารมณ์แปรปรวน หรือผิวพรรณเปลี่ยนแปลง
- ไม่กระทบกับการใช้ชีวิตคู่: การทำหมันจะไม่มีผลต่อความรู้สึกทางเพศ ทำให้คุณแม่และสามีสามารถใช้ชีวิตปกติได้อย่างมีความสุข
- ยังสามารถมีบุตรได้ในอนาคต: หากมีการเปลี่ยนใจและต้องการมีลูกอีกครั้ง สามารถปรึกษาแพทย์เพื่อผ่าตัดแก้หมัน หรือใช้เทคโนโลยีช่วยการเจริญพันธุ์ เช่น IVF และ ICSI เพื่อช่วยให้การตั้งครรภ์สำเร็จได้ค่ะ
ข้อเสียของการทำหมันหญิง
- อาจมีภาวะแทรกซ้อนจากการผ่าตัด: เช่น อาการคลื่นไส้ หรืออ่อนเพลียจากการใช้ยาสลบ ซึ่งเป็นอาการที่พบได้เป็นปกติ
- ไม่ใช่การคุมกำเนิดที่ 100%: แม้จะป้องกันได้สูง แต่ยังมีโอกาสน้อยมากที่หมันจะหลุด ทำให้เกิดการตั้งครรภ์ได้ และอาจมีความเสี่ยงที่จะเป็นการตั้งครรภ์นอกมดลูก
- อาจมีอาการปวดท้องน้อย: ในบางรายอาจเกิดพังผืดขึ้นบริเวณที่ผ่าตัด ทำให้มีอาการปวดท้องน้อยได้เล็กน้อยค่ะ
การตัดสินใจครั้งนี้ควรมาจากความเข้าใจและความพร้อมของทั้งคุณแม่และคุณสามีนะคะ หากมีข้อสงสัยใด ๆ สามารถปรึกษาคุณหมอเพิ่มเติมได้เลยค่ะ
ถ้าทำหมันแล้วเปลี่ยนใจ อยากมีลูกอีกครั้ง ทำได้ไหม?
การตัดสินใจในชีวิตนั้นสามารถเปลี่ยนแปลงได้เสมอ และเป็นเรื่องที่เข้าใจได้อย่างยิ่ง หากคุณแม่บางท่านเปลี่ยนใจและต้องการมีบุตรเพิ่มหลังจากที่ได้ทำหมันไปแล้ว ข่าวดีคือ ปัจจุบันทางการแพทย์มีทางเลือกสำหรับคุณค่ะ โดยหลัก ๆ แล้ว มี 2 แนวทางที่คุณสามารถพิจารณาได้ คือ การผ่าตัดแก้หมัน และการใช้เทคโนโลยีช่วยการเจริญพันธุ์ เช่น การทำเด็กหลอดแก้ว ซึ่งแต่ละวิธีมีข้อดี โอกาสสำเร็จ และข้อจำกัดที่แตกต่างกัน เพื่อให้คุณสามารถตัดสินใจได้อย่างเหมาะสมที่สุด
ทางเลือกที่ 1 การผ่าตัดแก้หมันหญิง (Tubal Reanastomosis)
การผ่าตัดแก้หมัน คือ การศัลยกรรมเพื่อเชื่อมต่อท่อนำไข่ที่เคยถูกตัดหรือผูกไว้ให้กลับมาทำงานได้ตามปกติอีกครั้ง เพื่อให้เชื้ออสุจิและไข่สามารถเดินทางมาพบกันได้ วิธีนี้สามารถทำได้ 2 รูปแบบหลัก ๆ โดยมีอัตราความสำเร็จใกล้เคียงกันคือ 40-60% ค่ะ ได้แก่
- การผ่าตัดแก้หมันผ่านทางหน้าท้อง: เป็นการเปิดแผลขนาดเล็กบริเวณหน้าท้องส่วนล่าง เพื่อทำการตัดต่อเชื่อมท่อนำไข่ทั้งสองข้างให้กลับมาติดกัน
- การผ่าตัดส่องกล้องแก้หมัน: เป็นการผ่าตัดโดยการเจาะแผลขนาดเล็กประมาณ 1 เซนติเมตร 3 จุด ที่หน้าท้อง เพื่อสอดกล้องและเครื่องมือเข้าไปทำการตัดต่อท่อนำไข่
หลังจากผ่าตัดแก้หมันแล้ว แพทย์จะนัดให้คุณแม่เข้ารับการตรวจฉีดสี (Hysterosalpingography - HSG) เพื่อประเมินว่าท่อนำไข่กลับมาเปิดและใช้งานได้หรือไม่ โดยทั่วไปจะทำประมาณ 3 เดือนหลังการผ่าตัดค่ะ
การแก้หมัน ผู้ชาย ผู้หญิง เหมือนกันไหม ?
หลักการของการแก้หมันทั้งในหญิงและชายคือการเชื่อมต่ออวัยวะที่ถูกตัดแยกให้กลับมาใช้งานได้อีกครั้ง โดยมีความคล้ายคลึงกันในขั้นตอนการตรวจประเมินก่อนและหลังการผ่าตัด รวมถึงระยะเวลาพักฟื้นในโรงพยาบาลที่ใกล้เคียงกัน คือประมาณ 2 วันค่ะ อย่างไรก็ตาม มีความแตกต่างที่สำคัญดังนี้ค่ะ
| รายละเอียด | การแก้หมันหญิง (ท่อนำไข่) | การแก้หมันชาย (ท่ออสุจิ) |
| อวัยวะที่เชื่อมต่อ | ท่อนำไข่ | ท่ออสุจิ |
| โอกาสสำเร็จ | สูงกว่า (ประมาณ 60-80%) | ต่ำกว่า (ประมาณ 30-40%) |
| ภาวะแทรกซ้อน | มีความเสี่ยงที่จะเกิดการตั้งครรภ์นอกมดลูก หรือการแท้งได้ | ภาวะแทรกซ้อนที่เกี่ยวข้องกับการตั้งครรภ์ไม่มี |
การแก้หมันไม่ได้หมายความว่าจะสามารถมีบุตรได้ 100% ค่ะ ถึงแม้ว่าท่อนำไข่จะกลับมาเชื่อมต่อได้ดี แต่ยังมีปัจจัยอื่น ๆ อีก เช่น คุณภาพของไข่ อายุ และภาวะแทรกซ้อนต่าง ๆ ที่ต้องให้แพทย์พิจารณาร่วมด้วย
ปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อความสำเร็จในการผ่าตัดแก้หมัน
การผ่าตัดแก้หมันให้ประสบความสำเร็จและนำไปสู่การตั้งครรภ์ได้นั้น ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัยร่วมกัน ทั้งปัจจัยด้านตัวคุณแม่เอง เทคนิคการทำหมันเดิม รวมถึงสุขภาพของสามี ซึ่งแพทย์จะพิจารณาอย่างถี่ถ้วนก่อนตัดสินใจทำหัตถการให้ค่ะ โดยมีปัจจัยสำคัญ ในการพิจารณา ได้แก่
- อายุของผู้หญิง: เป็นปัจจัยสำคัญที่สุด โดยเฉพาะในคุณแม่ที่อายุเกิน 40 ปี โอกาสที่การแก้หมันจะสำเร็จและสามารถตั้งครรภ์ได้ตามธรรมชาติจะลดลงอย่างมาก
- สภาพของท่อนำไข่:
- ความยาวที่เหลือ: หากท่อนำไข่มีความยาวเหลือน้อยกว่า 4-5 เซนติเมตร โอกาสสำเร็จในการเชื่อมต่อและการตั้งครรภ์จะลดลง
- วิธีและตำแหน่งที่ทำหมันเดิม: รูปแบบการทำหมันในอดีตมีผลต่อความเสียหายของท่อนำไข่
- ระยะเวลาหลังทำหมัน: หากทำหมันมาเป็นเวลานาน โอกาสประสบความสำเร็จในการแก้หมันและตั้งครรภ์ก็จะลดลงตามไปด้วย
- ความสมบูรณ์ด้านการเจริญพันธุ์: สุขภาพโดยรวมของระบบสืบพันธุ์ เช่น
- ภาวะมดลูก/รังไข่: ต้องไม่มีความผิดปกติ เช่น มีเนื้องอก มดลูกโต หรือภาวะรังไข่ฝ่อ/ทำงานน้อย
- โรคประจำตัว: หากมีโรคที่ควบคุมไม่ได้ เช่น เบาหวาน ความดันโลหิตสูง หรือโรคหัวใจ แพทย์จะไม่แนะนำให้แก้หมัน เพราะจะเพิ่มความเสี่ยงสูงทั้งต่อตัวคุณแม่และทารกหากเกิดการตั้งครรภ์
- คุณภาพน้ำเชื้อของฝ่ายชาย: ก่อนตัดสินใจแก้หมันหญิง แพทย์จะแนะนำให้มีการตรวจน้ำเชื้อของสามี/คู่ครองก่อน เพื่อให้มั่นใจว่าเชื้ออสุจิมีความสมบูรณ์เพียงพอ (ปริมาณ, ความแข็งแรง, รูปร่าง) หากน้ำเชื้ออ่อนแอ จะส่งผลให้โอกาสตั้งครรภ์ลดลงอย่างมาก
- ความเชี่ยวชาญของแพทย์: การผ่าตัดแก้หมันเป็นหัตถการที่ละเอียดอ่อน ความชำนาญของศัลยแพทย์จึงเป็นปัจจัยสำคัญต่อผลลัพธ์ของการเชื่อมต่อท่อนำไข่
ผู้ที่เหมาะสมกับการแก้หมันคือผู้ที่มีปัจจัยข้างต้นอยู่ในเกณฑ์ดี โดยเฉพาะผู้หญิงที่อายุน้อย และมีท่อนำไข่ที่เหลือยาวเพียงพอค่ะ
ข้อดี ข้อเสีย ของการผ่าตัดแก้หมัน
การเลือกผ่าตัดแก้หมันเป็นการตัดสินใจที่มีทั้งข้อดีและข้อที่ต้องพิจารณาอย่างรอบคอบ ดังนี้ค่ะ
| หัวข้อ | รายละเอียด |
| ข้อดี |
|
| ข้อเสีย |
|
|
ทางเลือกที่ 2 เทคโนโลยีช่วยการเจริญพันธุ์ (เด็กหลอดแก้ว IVF/ICSI)
สำหรับคุณแม่ที่เคยทำหมันไปแล้วและต้องการมีบุตรอีกครั้ง การทำเด็กหลอดแก้ว ถือเป็นอีกทางเลือกที่มีประสิทธิภาพสูง โดยวิธีนี้เป็นการใช้เทคโนโลยีช่วยการเจริญพันธุ์ เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาการอุดตันของท่อนำไข่ หลักการทำเด็กหลอดแก้ว คือ การนำเอาเซลล์ไข่ของฝ่ายหญิงและเชื้ออสุจิของฝ่ายชายออกมาทำการปฏิสนธิภายนอกร่างกายในห้องปฏิบัติการ เมื่อปฏิสนธิจนได้เป็นตัวอ่อนที่สมบูรณ์แล้ว จึงจะย้ายตัวอ่อนกลับเข้าไปฝังตัวในโพรงมดลูกของคุณแม่ เพื่อให้เกิดการตั้งครรภ์ต่อไปค่ะ
IVF และ ICSI เหมือนหรือแตกต่างกันอย่างไร?
เทคโนโลยีช่วยการเจริญพันธุ์หลัก ๆ ที่ใช้คือ IVF (In Vitro Fertilization) และ ICSI (Intra-Cytoplasmic Sperm Injection) ซึ่งมีขั้นตอนเริ่มต้นและขั้นตอนสุดท้ายเหมือนกัน แต่แตกต่างกันที่วิธีการปฏิสนธิในห้องปฏิบัติการค่ะ
| เทคโนโลยี | หลักการทำงาน | เหมาะสำหรับ |
| IVF | นำไข่และอสุจิหลายตัวมาใส่ไว้ในจานทดลอง ปล่อยให้อสุจิว่ายเข้าเจาะไข่เอง ตามกลไกธรรมชาติ | ผู้ที่มีจํานวนอสุจิน้อยหรือไม่มีคุณภาพ มีภาวะเยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่ และท่อนําไข่อุดตันหรือเสียหาย |
| ICSI | เป็นวิธีการทำเด็กหลอดแก้วแบบหนึ่ง โดยที่นักวิทยาศาสตร์จะฉีดอสุจิ 1 ตัว เข้าไปในไข่ 1 ฟองโดยตรง | ผู้มีปัญหาภาวะมีบุตรยากจากสาเหตุในเพศชาย (อสุจิอ่อนแอ/ปริมาณน้อย) |
ไม่ว่าจะทำ IVF หรือ ICSI หลังจากปฏิสนธิแล้ว ตัวอ่อนที่คุณภาพดีที่สุดจะถูกเลี้ยงในตู้เพาะเลี้ยงเป็นเวลา 3-5 วัน ก่อนจะถูกย้ายกลับเข้าสู่มดลูกของคุณแม่เพื่อรอการฝังตัวและตั้งครรภ์ค่ะ
ข้อดี-ข้อเสีย ของการทำเด็กหลอดแก้ว IVF/ICSI
การเลือกใช้วิธีทำเด็กหลอดแก้ว (IVF/ICSI) มีข้อดีที่โดดเด่นและเป็นทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับผู้ที่เคยทำหมันมาแล้ว แต่ก็มีข้อจำกัดที่ควรพิจารณา ดังนี้ค่ะ
| หัวข้อ | รายละเอียด |
| ข้อดี |
|
| ข้อเสีย |
|
ทำเด็กหลอดแก้ว การแก้หมันหญิง ค่าใช้จ่ายเท่าไหร่? ใช้สิทธิประกันสังคมได้หรือไม่?
แน่นอนว่านอกเหนือจากโอกาสความสำเร็จแล้ว ค่าใช้จ่าย และ สิทธิการรักษาพยาบาล เป็นปัจจัยสำคัญในการตัดสินใจเลือกวิธีกลับมามีบุตรอีกครั้ง การทำความเข้าใจเกี่ยวกับค่าใช้จ่ายโดยประมาณของทั้งการผ่าตัดแก้หมันและการทำเด็กหลอดแก้ว รวมถึงการตรวจสอบว่าสิทธิประกันสังคมหรือสิทธิการรักษาอื่น ๆ ครอบคลุมหรือไม่ จะช่วยให้คุณพ่อคุณแม่วางแผนทางการเงินได้อย่างมั่นใจและเตรียมพร้อมก่อนเริ่มกระบวนการค่ะ
ตอบคำถามเรื่องค่าใช้จ่าย ทางเลือกที่ 1 การผ่าตัดแก้หมันหญิง
สำหรับการผ่าตัดแก้หมันหญิงนั้น ถือเป็นหัตถการที่ต้องอาศัยความชำนาญและมีค่าใช้จ่ายค่อนข้างสูง โดยมีช่วงราคาโดยประมาณอยู่ที่ 30,000 - 50,000 บาทต่อราย อย่างไรก็ตาม ช่วงราคานี้เป็นเพียงการประเมินเบื้องต้นเท่านั้น เนื่องจากค่าใช้จ่ายจริงอาจแตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับวิธีการผ่าตัด (ผ่าตัดเปิดหน้าท้อง หรือผ่าตัดส่องกล้อง) ความยากง่ายของแต่ละเคส และนโยบายราคาของแต่ละโรงพยาบาลหรือคลินิก ดังนั้น เพื่อให้ได้ข้อมูลค่าใช้จ่ายที่แม่นยำที่สุด ควรติดต่อสอบถามรายละเอียดและรายการที่ครอบคลุมโดยตรงจากสถานพยาบาลที่เลือกเข้ารับการปรึกษาอีกครั้งค่ะ
ตอบคำถามเรื่องสิทธิการรักษา แก้หมัน ประกันสังคม ใช้ได้ไหม
โดยทั่วไปแล้ว การผ่าตัดแก้หมัน (Tubal Reanastomosis) ไม่สามารถใช้สิทธิประกันสังคม ได้ค่ะ
- เหตุผล: สำนักงานประกันสังคมและสิทธิพื้นฐานมองว่า การแก้หมันเป็นการรักษาเพื่อความต้องการมีบุตร ซึ่งไม่เข้าข่ายภาวะเจ็บป่วย อุบัติเหตุ หรือการรักษาโรคที่จำเป็นต่อชีวิต โดยเฉพาะอย่างยิ่งกรณีที่เกี่ยวข้องกับการคุมกำเนิด (เช่น การฉีดยาคุมกำเนิด การฝังยาคุมกำเนิด ห่วงคุมกำเนิด และการแก้หมัน) ซึ่งสำนักงานประกันสังคมไม่คุ้มครองสิทธิเหล่านี้
- ทางเลือก: หากคุณแม่มีประกันสุขภาพเอกชนที่ทำไว้ ควรตรวจสอบกรมธรรม์กับบริษัทประกันโดยตรง เพราะอาจมีบางแผนหรือบางกรมธรรม์ที่ให้ความคุ้มครองสำหรับการรักษาภาวะมีบุตรยาก หรือการผ่าตัดลักษณะนี้เพิ่มเติมค่ะ
ค่าใช้จ่ายในการทำเด็กหลอดแก้ว ประมาณเท่าไหร่?
การทำเด็กหลอดแก้ว (IVF/ICSI) ถือเป็นการรักษาที่มีค่าใช้จ่ายสูงกว่าการแก้หมันมาก เนื่องจากเป็นกระบวนการที่ซับซ้อนและใช้เทคโนโลยีเฉพาะทาง
- ค่าใช้จ่ายโดยประมาณ: ค่าใช้จ่ายสำหรับการทำเด็กหลอดแก้ว (ต่อรอบการรักษา) มักจะอยู่ในช่วง หลักแสนบาทไปจนถึงหลายแสนบาท ขึ้นอยู่กับแพ็กเกจและสถานพยาบาล
- รายการค่าใช้จ่ายหลักที่ครอบคลุม: ค่าใช้จ่ายโดยรวมมักรวมบริการหลายขั้นตอน ดังนี้ค่ะ
- การเตรียมตัว: ค่าปรึกษาแพทย์และค่าติดตามผล
- ค่ายาและหัตถการ: ค่ายากระตุ้นรังไข่ และค่าหัตถการเจาะเก็บไข่
- งานในห้องปฏิบัติการ (แล็บ): ค่าปฏิสนธิ การเลี้ยงตัวอ่อน และค่าแช่แข็งตัวอ่อน
- การย้ายตัวอ่อน: ค่าหัตถการย้ายตัวอ่อนกลับเข้าสู่โพรงมดลูก และยาที่ใช้หลังการย้ายตัวอ่อน
- ทางเลือกเสริม: อาจรวมถึงค่าตรวจคัดกรองโครโมโซมตัวอ่อน (ขึ้นอยู่กับแพ็กเกจ)
เนื่องจากราคามีความผันผวนสูงมาก ค่าใช้จ่ายที่ระบุเป็นเพียงการประเมินเบื้องต้นเท่านั้น คุณพ่อคุณแม่ควรสอบถามและขอคำปรึกษาเพิ่มเติมจากโรงพยาบาลหรือคลินิกรักษาผู้มีบุตรยากที่สนใจอีกครั้ง เพื่อให้ทราบค่าใช้จ่ายที่ชัดเจนและเหมาะสมกับแผนการรักษาค่ะ
การเลือกระหว่างการผ่าตัดแก้หมันกับการทำเด็กหลอดแก้วนั้น ขึ้นอยู่กับว่าคุณพ่อคุณแม่ให้น้ำหนักกับปัจจัยใดมากที่สุด หากต้องการโอกาสตั้งครรภ์ตามธรรมชาติในระยะยาว และมีปัจจัยด้านอายุและสุขภาพท่อนำไข่ที่เอื้ออำนวย การผ่าตัดแก้หมันอาจเป็นคำตอบ แต่หากต้องการเน้นที่อัตราความสำเร็จในการตั้งครรภ์ต่อรอบการรักษาที่สูงกว่า หลีกเลี่ยงความเสี่ยงจากการผ่าตัดใหญ่เพื่อแก้หมัน และต้องการคัดกรองความสมบูรณ์ของตัวอ่อน การทำเด็กหลอดแก้ว (IVF/ICSI) จะเป็นทางเลือกที่มอบโอกาสสูงกว่า แม้ว่าจะมีค่าใช้จ่ายต่อรอบที่สูงกว่าก็ตามค่ะ
ขั้นตอนการทำหมันหญิงเป็นอย่างไร?
การทำหมันหญิงในปัจจุบันมีหลายวิธี แต่ในประเทศไทยวิธีที่นิยมมากที่สุดคือ การผ่าตัดเปิดหน้าท้อง ค่ะ โดยคุณหมอจะใช้เวลาผ่าตัดไม่นาน เพียงแค่ประมาณ 30 นาทีเท่านั้น ขั้นตอนการทำหมันจะเริ่มจากการที่คุณหมอจะให้ยาสลบ จากนั้นจะเริ่มการผ่าตัดตามขั้นตอนดังนี้ค่ะ
- คุณหมอจะกรีดแผลขนาดเล็กประมาณ 2.5 เซนติเมตร บริเวณใต้สะดือหรือท้องน้อยของคุณแม่
- คุณหมอจะใส่เครื่องมือผ่าตัดขนาดเล็กเข้าไปในแผลเพื่อหาตำแหน่งของท่อนำไข่
- หลังจากเจอท่อนำไข่แล้ว คุณหมอจะทำการตัดท่อหรือผูกท่อนำไข่ไว้ เพื่อป้องกันไม่ให้อสุจิเดินทางไปผสมกับไข่ได้
- เมื่อขั้นตอนเสร็จสิ้น คุณหมอจะเย็บปิดแผลให้เรียบร้อยค่ะ
คุณแม่ไม่ต้องกังวลนะคะ ขั้นตอนเหล่านี้เป็นขั้นตอนมาตรฐานที่คุณหมอผู้เชี่ยวชาญจะดูแลคุณแม่อย่างใกล้ชิดตลอดการผ่าตัด เพื่อให้คุณแม่รู้สึกปลอดภัยและสบายใจที่สุดค่ะ
การทำหมันหญิงเจ็บไหม?
กลัวว่าจะเจ็บตอนทำหมันกันใช่ไหมคะ คุณแม่ไม่ต้องกังวล เพราะก่อนผ่าตัดทำหมัน คุณหมอจะระงับความรู้สึกเฉพาะส่วนให้ค่ะ อาจเป็นวิธีการใช้ยาชาเฉพาะที่ หรือการให้ยาสลบ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของคุณหมอค่ะ ส่วนเรื่องแผลผ่าตัด คุณหมอจะปิดแผลไว้เพื่อป้องกันไม่ให้โดนน้ำเป็นเวลาประมาณ 7 วัน หลังทำค่ะ
- หากเย็บด้วยไหมละลาย เมื่อเปิดแผล และแผลติดดีแล้ว ก็สามารถโดนน้ำได้ตามปกติค่ะ
- หากเย็บด้วยไหมธรรมดา เมื่อครบ 7 วัน จะต้องไปตัดไหมก่อน แล้วจึงจะโดนน้ำได้นะคะ
อย่างไรก็ตาม คุณแม่ควรดูแลตัวเองตามคำแนะนำของคุณหมออย่างเคร่งครัดเพื่อให้แผลหายเร็วขึ้นนะคะ แต่หากพบอาการผิดปกติ เช่น ปวดแผลรุนแรง มีไข้ หรือมี เลือดหรือน้ำซึมออกจากแผลผ่าตัด ควรรีบไปพบคุณหมอทันทีค่ะ
การดูแลตัวเองหลังทำหมันหญิง ต้องพักฟื้นกี่วัน
หลังจากการผ่าตัดทำหมันเรียบร้อยแล้ว คุณแม่ควรใช้เวลาพักฟื้นประมาณ 2-3 วันก่อนกลับไปใช้ชีวิตประจำวันตามปกติ และเพื่อให้ร่างกายฟื้นตัวได้เร็วและปลอดภัย ควรดูแลตัวเองด้วยวิธีเหล่านี้ค่ะ
- ทานยาแก้ปวดตามที่คุณหมอสั่ง: หากรู้สึกปวดหน่วง ๆ คล้ายมีประจำเดือน ซึ่งเป็นเรื่องปกติหลังการผ่าตัด
- ระวังไม่ให้แผลโดนน้ำ: จนกว่าจะครบกำหนดเปิดแผล หรือประมาณ 7 วัน เพื่อป้องกันไม่ให้แผลอักเสบหรือติดเชื้อ
- งดการมีเพศสัมพันธ์: ประมาณ 6-8 สัปดาห์ หรือตามคำแนะนำของแพทย์ ทั้งนี้คุณแม่ไม่ต้องกังวลนะคะ เพราะการทำหมันจะไม่ส่งผลต่อความต้องการทางเพศเลยค่ะ
- รีบไปพบคุณหมอทันที: หากพบอาการผิดปกติ เช่น ปวดท้องต่อเนื่องนานเกิน 12 ชั่วโมง มีเลือดหรือของเหลวที่มีกลิ่นเหม็นไหลออกจากแผล หรือมี ไข้สูงเกิน 38 องศาเซลเซียส
ผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นหลังการทำหมันหญิง
คุณแม่หลายท่านอาจกังวลเรื่องผลข้างเคียงผู้หญิงทำหมันนะคะ แต่โดยรวมแล้วอันตรายจากการผ่าตัดมีน้อยมากค่ะ เนื่องจากในปัจจุบันมีเครื่องมือที่ทันสมัยและปลอดภัยสูงมาก ส่วนอาการแทรกซ้อนก็พบน้อยมากเช่นกันค่ะ หลังจากการผ่าตัด คุณแม่อาจจะรู้สึกดังนี้
- คลื่นไส้หรืออ่อนเพลีย: ซึ่งเป็นอาการปกติจากฤทธิ์ยาสลบ โดยจะค่อย ๆ ดีขึ้นภายใน 1-2 วันค่ะ
- เจ็บแผลที่ท้อง: หรือปวดหน่วง ๆ บริเวณท้องน้อย อาการเหล่านี้จะค่อย ๆ หายไปในประมาณ 7 วันค่ะ
- มีอาการปวดท้องน้อย: ซึ่งอาจเกิดจากพังผืดเล็ก ๆ บริเวณที่ตัดผูกท่อนำไข่ แต่ไม่ต้องกังวลนะคะ อาการนี้จะค่อย ๆ ทุเลาลง
คุณแม่ไม่ต้องกังวลจนเกินไปนะคะ อาการเหล่านี้เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นได้ชั่วคราว และจะค่อย ๆ ดีขึ้นเองค่ะ หากมีข้อสงสัยหรืออาการผิดปกติใด ๆ สามารถปรึกษาคุณหมอได้ตลอดเวลาเลยนะคะ
คุณแม่หลังคลอดที่ทำหมันแล้ว แนะนำให้ฟื้นฟูร่างกายกลับมาแข็งแรงด้วยการรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ครบ 5 หมู่ เพื่อที่ร่างกายของคุณแม่จะได้ผลิตน้ำนมแม่ที่มีคุณภาพให้กับลูกน้อย เพราะน้ำนมแม่มีสารอาหารมากกว่า 200 ชนิด เช่น ดีเอชเอ (DHA) ที่มีความจำเป็นต่อการทำงานของสมองและการมองเห็น รวมถึงมี แอลฟาแล็ค สฟิงโกไมอีลิน (Alphalac Sphingomyelin) มีส่วนช่วยพัฒนาสมองของเด็กเจนใหม่ให้มีประสิทธิภาพสูงสุด โดยจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและความเร็วในการส่งสัญญาณประสาท และกระตุ้นการสร้างสารสื่อประสาท ทำให้ลูกน้อยเกิดการจดจำและเรียนรู้สิ่งต่าง ๆ ได้อย่างรวดเร็ว

รวมคำถามสำหรับคุณแม่ ไขข้อสงสัยการทำหมันหญิง
หลังจากที่คุณแม่ได้เรียนรู้เกี่ยวกับขั้นตอนต่าง ๆ ของการทำหมันหญิงไปแล้ว จึงได้รวบรวมคำถามที่คุณแม่หลายคนสงสัยเกี่ยวกับการทำหมัน มาพร้อมคำตอบที่เข้าใจง่ายและเป็นประโยชน์ เพื่อคลายความกังวลและช่วยให้คุณแม่ตัดสินใจได้อย่างมั่นใจค่ะ
ทำหมันแล้ว ยังมีประจำเดือนอยู่ไหม?
คุณแม่ไม่ต้องกังวลนะคะ หลังจากการทำหมันแล้ว จะไม่ทำให้ร่างกายมีการเปลี่ยนแปลงไปแต่อย่างใด เช่น การมีประจำเดือนยังคงมาตามปกติ รวมถึงความรู้สึกทางเพศด้วยค่ะ
ก่อนทำหมันต้องคำนึงถึงเรื่องใดบ้าง?
การตัดสินใจทำหมันเป็นการตัดสินใจครั้งสำคัญในชีวิตคู่ค่ะ ก่อนที่จะเข้ารับการผ่าตัด คุณแม่ควรพิจารณาในประเด็นสำคัญเหล่านี้ก่อนนะคะ
- ความแน่ใจในการตัดสินใจ: ควรปรึกษาและพูดคุยกับคนในครอบครัวให้แน่ใจว่าทุกคนเห็นพ้องต้องกัน เพราะเมื่อตัดสินใจทำหมันแล้ว โอกาสที่จะมีลูกอีกครั้งจะน้อยลงมาก แม้ว่าจะสามารถแก้หมันได้ แต่ก็มีค่าใช้จ่ายสูงและอาจไม่สำเร็จเสมอไปค่ะ
- เรื่องสุขภาพ: หากคุณแม่มีโรคประจำตัว เช่น โรคหัวใจ หรือโรคปอด ควรแจ้งให้คุณหมอทราบอย่างละเอียด เพื่อที่คุณหมอจะได้ดูแลอย่างใกล้ชิดและเตรียมความพร้อมระหว่างการดมยาสลบเพื่อความปลอดภัยสูงสุดค่ะ
การทำหมันสามารถป้องกันการตั้งครรภ์ได้ไหม?
การทำหมันถือเป็นวิธีคุมกำเนิดที่มีประสิทธิภาพสูงมากค่ะ สามารถป้องกันการตั้งครรภ์ได้สูงถึง 99% เลยทีเดียว เมื่อคุณแม่ตัดสินใจทำหมันแล้ว จะช่วยให้ไม่ต้องกังวลเรื่องการตั้งครรภ์ที่ไม่พร้อมอีกต่อไปค่ะ
การทำหมันหญิงเป็นการผ่าตัดที่ช่วยป้องกันการตั้งครรภ์ได้อย่างถาวร โดยเป็นการตัดหรือผูกท่อนำไข่ เพื่อป้องกันไม่ให้ไข่เดินทางมาพบกับอสุจิและเกิดการปฏิสนธิได้ ซึ่งแตกต่างจากวิธีการคุมกำเนิดชั่วคราวอื่น ๆ อย่างการทานยาคุม การฉีด หรือการฝังยาคุม ที่อาจต้องทำซ้ำ ๆ และมีความเสี่ยงที่จะลืมได้ค่ะ
มีข้อกำจัดในการทำหมันหญิงหรือไม่?
แม้ว่าการทำหมันหญิงจะเป็นวิธีการคุมกำเนิดที่มีประสิทธิภาพสูง แต่ก็ยังมีข้อจำกัดและโอกาสที่จะตั้งครรภ์ได้ ซึ่งเป็นสิ่งที่คุณแม่ควรทราบเพื่อความเข้าใจที่ถูกต้อง ดังนี้ค่ะ
- ไม่สามารถทำได้ในบางกรณี: คุณหมออาจไม่สามารถทำการผ่าตัดได้หากมีภาวะแทรกซ้อน เช่น มีพังผืดในช่องท้องมาก ซึ่งอาจเป็นอันตรายต่อความปลอดภัยของผู้เข้ารับการผ่าตัด
- ความเสี่ยงในการตั้งครรภ์: แม้ว่าการทำหมันจะมีประสิทธิภาพสูงถึง 99% แต่ก็ยังมีโอกาสตั้งครรภ์ได้ โดยพบประมาณ 1-7 รายต่อการทำหมัน 1,000 รายในปีแรกหลังการทำหมัน เนื่องจากท่อนำไข่สามารถเชื่อมต่อกันใหม่ได้
- ภาวะแทรกซ้อนจากการตั้งครรภ์หลังทำหมัน: หากตั้งครรภ์หลังการทำหมันอาจเป็นได้ทั้งการตั้งครรภ์ในมดลูกหรือการตั้งครรภ์นอกมดลูก หากประจำเดือนขาด ควรปรึกษาคุณหมอทันที เนื่องจากหากเป็นการตั้งครรภ์นอกมดลูกจะเป็นอันตรายได้
การตัดสินใจเข้ารับการทำหมันจึงควรอยู่ภายใต้การพิจารณาและการให้คำแนะนำอย่างละเอียดจากคุณหมอผู้เชี่ยวชาญค่ะ
การทำหมันหญิงเป็นการคุมกำเนิดที่มีประสิทธิภาพสูงและมีความปลอดภัย แต่เป็นการตัดสินใจครั้งสำคัญที่คุณแม่ควรปรึกษาและพูดคุยกับคนในครอบครัวให้แน่ใจ เพราะเป็นการคุมกำเนิดแบบถาวร หากมีข้อสงสัยใด ๆ เกี่ยวกับการทำหมัน อย่าลังเลที่จะปรึกษาคุณหมอโดยตรงนะคะ
บทความแนะนำสำหรับคุณแม่มือใหม่
อ้างอิง:
- การทำหมันหญิง (Female sterilization), คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
- ทำหมันหญิง คุมกำเนิดอย่างได้ผล ทำได้ทั้งตอนคลอดและหลังคลอด, โรงพยาบาลนครธน
- การทำหมันหญิง ประเภท และวิธีดูแลตัวเองหลังทำ, โรงพยาบาลสินแพทย์
- การทำหมันหญิง การเตรียมตัว ขั้นตอน ความเสี่ยง, Helloคุณหมอ
- เรื่องน่ารู้ของการทำหมันสตรี, ศูนย์ศรีพัฒน์ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
- ต่อหมัน-แก้หมัน, โรงพยาบาลเอกชัย
- การทำหมันหญิง, คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล
- เรื่องการทำหมันสตรี (Female sterilization), ราชวิทยาลัยสูตินรีแพทย์แห่งประเทศไทย
- Getting Your Tubes Tied: Pros, Cons, and What to Know, WebMD
- แก้หมันแล้วมีลูกได้ไหม?, โรงพยาบาลวิชัยเวช อินเตอร์เนชั่นแนล อ้อมน้อย
- ผ่าตัดแก้หมันหญิง วิธีของผู้อยากมีลูกเพิ่ม, โรงพยาบาลนครธน
- แก้หมันหญิง / ต่อหมันหญิง, มุสิกาคลินิก
- ต่อหมันหญิง, คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล
- ทำหมันแล้ว แต่อยากมีลูก ทำไงดี!?, โรงพยาบาลเวิลด์เมดิคอล
- IVF กับ ICSI แตกต่างกันอย่างไร, โรงพยาบาล MedPark
- การทําเด็กหลอดแก้ว (IVF - In Vitro Fertilization), โรงพยาบาล MedPark
- ข้อดี-ข้อจำกัด การทำเด็กหลอดแก้ว IVF, โรงพยาบาลแพทย์รังสิต
- ทำหมันแบบไหน ประกันสังคมถึงคุ้มครอง, สำนักงานประกันสังคม กระทรวงแรงงาน
อ้างอิง ณ วันที่ 6 กันยายน 2568