เด็กอายุเท่าไหร่ขึ้นเครื่องบินได้ พร้อมวิธีเตรียมตัวให้ลูกน้อย

เด็กอายุเท่าไหร่ขึ้นเครื่องบินได้ พร้อมวิธีเตรียมตัวให้ลูกน้อย

คู่มือคุณแม่มือใหม่
บทความ
เม.ย. 18, 2025
8นาที

การพาเด็กขึ้นเครื่องบินเป็นสิ่งที่ควรปฏิบัติด้วยความระมัดระวัง หากมีการวางแผนและเตรียมความพร้อมก่อนเดินทางจะช่วยให้เด็กขึ้นเครื่องบินได้อย่างราบรื่นและปลอดภัย บทความนี้จะแชร์ความรู้ให้กับคุณพ่อคุณแม่ที่พาเด็กขึ้นเครื่องบินครั้งแรก เด็กอายุเท่าไหร่ขึ้นเครื่องบินได้ และต้องเตรียมตัวอย่างไรบ้าง

เด็กอายุเท่าไหร่ขึ้นเครื่องบินได้ พร้อมวิธีเตรียมตัวให้ลูกน้อย

สรุป

  • เมื่อคุณพ่อคุณแม่ต้องพาลูกขึ้นเครื่องบินครั้งแรก ควรศึกษาข้อกำหนดและกฎของแต่ละสายการบินเกี่ยวกับการพาเด็กขึ้นเครื่องบิน เนื่องจากแต่ละสายการบินมีข้อกำหนดที่ไม่เหมือนกัน เด็กทารกสามารถขึ้นเครื่องบินได้ โดยขึ้นอยู่กับข้อกำหนดอายุขั้นต่ำของเด็กในแต่ละสายการบิน อย่างไรก็ตาม ไม่ควรพาเด็กขึ้นเครื่องบินหากยังไม่มีภูมิคุ้มกันที่แข็งแรงมากพอ
  • พาเด็กขึ้นเครื่องบิน ควรวางแผนเลือกเที่ยวบินที่ตรงกับเวลานอนหลับของเด็กพอดีและจัดเตรียมสิ่งของจำเป็นต้องใช้ขึ้นเครื่องบินไปด้วย เพื่อการเดินทางที่อุ่นใจตลอดเที่ยวบิน โดยอุปกรณ์ที่ต้องเตรียม เช่น นม ผ้าอ้อม ทิชชูเปียก ผ้าห่ม ของเล่นที่ลูกชอบ และยาประจำตัว
  • ก่อนเดินทางควรพาเด็กไปตรวจสุขภาพกับหมอเด็กโดยละเอียด และในระหว่างเดินทาง หากเด็กร้องไห้งอแงให้คุณพ่อคุณแม่สังเกตอาการของลูก โดยหากลูกมีอาการผิดปกติรุนแรงให้รีบแจ้งพนักงานของสายการบินเพื่อเข้าช่วยเหลือทันที

 

เลือกอ่านตามหัวข้อ

 

เด็กอายุเท่าไหร่ขึ้นเครื่องบินได้

โดยทั่วไปแล้ว สายการบินจะมีข้อกำหนดในการพาเด็กขึ้นเครื่องบินซึ่งผู้ปกครองจะต้องศึกษาและปฏิบัติตาม สายการบินส่วนใหญ่อนุญาตให้เด็กเดินทางด้วยเครื่องบินได้ตั้งแต่อายุเพียงแค่ 14 วัน ในกรณีที่เด็กมีสุขภาพแข็งแรง สายการบินบางแห่งอนุญาตให้เด็กทารกอายุ 7 วันขึ้นเครื่องได้ ซึ่งนโยบายจะแตกต่างกันไปในแต่ละสายการบิน ดังนั้น คุณพ่อคุณแม่จึงควรสอบถามข้อกำหนดและกฎของสายการบินที่เดินทางโดยตรง อย่างไรก็ตาม ในเด็กแรกเกิด ภูมิคุ้มกันจะยังไม่แข็งแรง มีโอกาสเสี่ยงติดเชื้อโรคได้สูงกว่าเด็กโต เนื่องจากบนเครื่องบินมีเชื้อโรคปะปนและอากาศไม่ถ่ายเท จึงแนะนำให้เด็กมีอายุอย่างน้อย 3 เดือน หรือ 6 เดือนก่อน ค่อยพาเด็กขึ้นเครื่องบินเพราะเป็นวัยที่ลูกจะได้รับวัคซีนป้องกันโรคอย่างเหมาะสมแล้ว

 

ทารกขึ้นเครื่องบินได้ไหม

ตามคำจำกัดความขององค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ (ICAO) นิยามไว้ว่า Infant (ทารก) หมายถึง ผู้โดยสารที่อายุยังไม่ถึง 2 ปี ซึ่งโดยทั่วไปแล้ว ทารกสามารถขึ้นเครื่องบินได้ แต่ขึ้นอยู่กับนโยบายในการพาเด็กทารกขึ้นเครื่องบินของแต่ละสายการบินที่อาจมีข้อกำหนดหรือกฎเกณฑ์ทางด้านอายุที่แตกต่างกัน เช่น บางสายการบินอาจกำหนดอายุของทารกไว้ว่าต้องมีอายุไม่ต่ำกว่า 7 วันจึงจะสามารถขึ้นเครื่องบินได้ หรือบางสายการบินอาจกำหนดอายุขั้นต่ำของเด็กไว้ที่ 14 วัน และทารกจะขึ้นเครื่องบินได้ต่อเมื่อเดินทางพร้อมผู้ใหญ่อายุ 18 ปีขึ้นไปเท่านั้น เป็นต้น

 

เด็กขึ้นเครื่องบินต้องใช้เอกสารอะไรบ้าง

ไม่ว่าจะเดินทางครั้งไหน ๆ คุณพ่อคุณแม่จะต้องจัดเตรียมเอกสารแสดงตนของลูกน้อยก่อนเดินทางให้ครบถ้วน เพื่อให้เป็นไปตามข้อบังคับของสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย โดยเอกสารที่จะต้องใช้สำหรับเช็กอินขึ้นเครื่องมีดังนี้

เที่ยวบินภายในประเทศ

  • เด็กทารก-อายุไม่ถึง 7 ปี ในวันเดินทาง : สูติบัตร หรือ หนังสือเดินทาง (Passport) อย่างใดอย่างหนึ่ง
  • เด็กอายุ 7 ปี แต่ไม่ถึง 15 ปี ในวันเดินทาง : บัตรประชาชนเด็ก หรือ สูติบัตร หรือ หนังสือเดินทาง (Passport) อย่างใดอย่างหนึ่ง

 

สำหรับเที่ยวบินภายในประเทศ สำนักงานการบินพลเรือนอนุโลมให้ใช้สำเนาสูติบัตรได้ในกรณีเด็กเดินทางกับพ่อหรือแม่ที่มีชื่อระบุตามเอกสาร ซึ่งพ่อหรือแม่จะต้องแสดงเอกสารระบุตัวตนกับเจ้าหน้าที่ ในกรณีที่เด็กไม่ได้เดินทางกับพ่อหรือแม่แต่เดินทางพร้อมผู้ปกครองตามกฎหมาย ผู้ปกครองจะต้องแสดงเอกสารทางกฎหมายที่ระบุความเป็นผู้ปกครอง เช่น คำสั่งศาล เพื่อความปลอดภัยของเด็ก

 

เที่ยวบินระหว่างประเทศ

  • สำหรับเที่ยวบินระหว่างประเทศ ผู้โดยสารทุกคนไม่ว่าจะเป็นเด็กเล็กหรือผู้ใหญ่จะต้องแสดงหนังสือเดินทาง (Passport) ที่มีอายุไม่ต่ำกว่า 6 เดือน ฉบับจริง ซึ่งคุณพ่อคุณแม่สามารถพาลูกไปทำหนังสือเดินทางได้ แม้เป็นเด็กแรกเกิด

 

ค่าตั๋วเครื่องบินของเด็กเล็ก

ค่าบัตรโดยสารของเด็กเล็กจะขึ้นอยู่กับนโยบายของแต่ละสายการบิน คุณพ่อคุณแม่ควรตรวจสอบรายละเอียดค่าบัตรโดยสารทุกครั้งก่อนจอง พร้อมทั้งแจ้งข้อมูลของเด็กเพื่อให้สายการบินเตรียมการอำนวยความสะดวกและความปลอดภัยแก่เด็กอย่างเหมาะสม อย่างไรก็ดี แต่ละสายการบินอาจมีการเก็บค่าธรรมเนียมสำหรับทารกตามเกณฑ์ของสายการบินนั้น ๆ ยกตัวอย่าง สายการบินไทย ซึ่งเป็นสายการบินแห่งชาติของประเทศไทย มีเกณฑ์การเก็บค่าธรรมเนียมบัตรโดยสารของเด็กดังนี้

เที่ยวบินภายในประเทศ

  • บัตรโดยสารทารก : ทารกอายุต่ำกว่า 2 ปี ในวันที่เดินทาง ราคาค่าตั๋วเครื่องบินจะอยู่ที่ประมาณ 10% ของราคาผู้ใหญ่ โดยจะไม่มีที่นั่ง เด็กต้องนั่งตักผู้ปกครอง
  • บัตรโดยสารเด็ก : เด็กอายุ 2 - 11 ปี ซึ่งต้องเดินทางพร้อมผู้ใหญ่ ราคาค่าตั๋วเครื่องบินจะอยู่ที่ประมาณ 50% ของราคาผู้ใหญ่

 

เที่ยวบินระหว่างประเทศ

  • บัตรโดยสารทารก : ทารกอายุต่ำกว่า 2 ปี ในวันที่เดินทาง ราคาค่าตั๋วเครื่องบินจะอยู่ที่ประมาณ 25% ของราคาผู้ใหญ่ โดยจะไม่มีที่นั่ง เด็กต้องนั่งตักผู้ปกครอง
  • บัตรโดยสารเด็ก : เด็กอายุ 2 - 11 ปี ซึ่งต้องเดินทางพร้อมผู้ใหญ่ ราคาค่าตั๋วเครื่องบินจะอยู่ที่ประมาณ 75% ของราคาผู้ใหญ่

 

คุณพ่อคุณแม่ควรศึกษาประเภทบัตรโดยสารของสายการบินที่จะเดินทางไปด้วยว่ามีบริการให้ยืมรถเข็นเด็กสำหรับผู้โดยสารที่มากับเด็กทารกไหม หรือประเภทบัตรโดยสารดังกล่าวได้รวมบริการนำตะกร้าสำหรับทารก รถเข็นเด็กพับได้ หรือคาร์ซีท จัดเก็บเป็นสัมภาระโหลดใต้เครื่องแล้วหรือยัง มีการเรียกเก็บค่าธรรมเนียมเพิ่มเติมของน้ำหนักสัมภาระอีกหรือไม่

 

พาเด็กขึ้นเครื่องบินพ่อแม่ต้องเตรียมตัวยังไง

เมื่อคุณพ่อคุณแม่จำเป็นจะต้องเดินทางพร้อมลูกน้อย ควรมีการวางแผนและเตรียมความพร้อมก่อนเดินทาง เพื่อช่วยให้ลูกน้อยขึ้นเครื่องบินได้อย่างราบรื่นและปลอดภัย ป้องกันปัญหารบกวนผู้อื่นบนเครื่องบิน โดยคุณพ่อคุณแม่สามารถเตรียมตัวได้ดังนี้

1. พาลูกไปพบแพทย์เพื่อตรวจสุขภาพก่อนเดินทาง

ปรึกษาคุณหมอเด็กก่อนพาลูกเดินทาง เพื่อให้มั่นใจว่าลูกสุขภาพแข็งแรงพอที่จะเดินทางไกลได้ และอาจได้รับวัคซีนเป็นภูมิคุ้มกันเด็ก เพื่อป้องกันเชื้อโรคต่าง ๆ ในระหว่างเดินทาง และในประเทศปลายทาง

2. สอบถามสายการบินเกี่ยวกับการพาเด็กขึ้นเครื่องบิน

เช่น เกณฑ์อายุขั้นต่ำของเด็กที่ได้รับอนุญาตให้ขึ้นเครื่อง ค่าตั๋วสำหรับเด็ก ขนาดของคาร์ซีทและรถเข็นเด็กที่สามารถนำขึ้นเครื่องได้ เป็นต้น เพราะข้อมูลอาจแตกต่างกันไปในแต่ละสายการบิน คุณพ่อคุณแม่จึงควรตรวจสอบข้อมูลก่อนทำการจองที่นั่ง และจะต้องระบุรายละเอียดการเดินทางพร้อมเด็กให้แก่สายการบินทราบด้วย

3. เดินทางตรงกับเวลานอนของเด็ก

เช่น เที่ยวบินกลางคืน หรือ เที่ยวบินที่ตรงกับเวลานอนกลางวันของเด็กพอดี โดยเลือกแถวที่นั่งที่กว้างกว่าบริเวณอื่น และติดริมหน้าต่าง เพื่อป้องกันอันตรายที่อาจเกิดขึ้นจากการนั่งริมทางเดิน

4. วางแผนการเดินทางและเตรียมสิ่งของจำเป็น

จัดเตรียมเอกสารและอุปกรณ์ที่จำเป็นให้พร้อมสำหรับการดูแลลูกน้อยระหว่างเดินทางเพื่อความอุ่นใจ เช่น นม น้ำเปล่า จุกหลอก ผ้าอ้อม ผ้าห่ม เสื้อผ้าสำรอง ของเล่นเด็ก อาหารขบเคี้ยว และยาสามัญประจำตัวเด็ก และอาจพาลูกพบแพทย์เพื่อตรวจสุขภาพก่อนเดินทาง รวมถึงเตรียมยาและสิ่งต่าง ๆ ตามคำแนะนำของแพทย์ รวมถึงกระเป๋าสัมภาระ เบาะนั่งสำหรับเด็กทารกแบบพกพา หรือ คาร์ซีท เป็นต้น ซึ่งตามมาตรฐาน ICAO และประกาศกรมการขนส่งทางอากาศ อนุญาต นม หรือ อาหาร สำหรับเด็กทารก ในปริมาณที่เหมาะสมต่อการเดินทาง แต่ต้องแสดงให้เจ้าหน้าที่ ณ จุดตรวจค้นของสนามบินตรวจสอบก่อน

5. สวมใส่เสื้อผ้าที่สบายและเปลี่ยนผ้าอ้อมให้ลูกก่อนขึ้นเครื่อง

จะช่วยให้ลูกน้อยรู้สึกสบายตัว ไม่งอแงในขณะเดินทาง

6. ปฏิบัติตามคำแนะนำของเจ้าหน้าที่สายการบิน

ผู้ปกครองควรอุ้มทารกไว้บนตักโดยไม่ต้องใช้เข็มขัดนิรภัยเสริมสำหรับทารก ให้ใช้เข็มขัดนิรภัยเสริมจากสายการบิน หรือ ให้เด็กนั่งบนเบาะนั่งเด็กนิรภัย

 

รับมือยังไงถ้าเด็กร้องงอแงบนเครื่องบิน

เมื่อต้องพาลูกน้อยขึ้นเครื่องบินเป็นครั้งแรก จะมีวิธีการรับมือแบบไหนบ้างที่ช่วยให้ลูกน้อยเดินทางได้อย่างปลอดภัยและราบรื่นตลอดการเดินทาง อาจมีบ้างที่ลูกร้องไห้งอแงเพื่อส่งสัญญาณว่ามีความผิดปกติเกิดขึ้น คุณพ่อคุณแม่ควรหมั่นสังเกตอาการของลูก เพื่อป้องกันไม่ให้ส่งเสียงดังร้องไห้งอแงรบกวนผู้อื่นระหว่างเที่ยวบิน โดยเมื่อลูกร้องไห้อาจเกิดจากสาเหตุเหล่านี้

  • หิว เบื่อ หรือไม่สบายเนื้อไม่สบายตัว ซึ่งหมายความว่า อาจได้เวลาที่ต้องให้อาหารขบเคี้ยว ให้ของเล่นที่ลูกชอบ หรือถึงเวลาที่ลูกต้องการเปลี่ยนผ้าอ้อม ขึ้นอยู่กับสาเหตุที่เด็กร้องไห้
  • อุณหภูมิบนเครื่องบินอาจหนาวเกินไปสำหรับเด็ก หากลูกน้อยมีอาการเหมือนเป็นหวัดไม่สบาย แนะนำให้สวมใส่เสื้อผ้าที่อุ่นขึ้น หรือห่มผ้าให้ลูกน้อย
  • ลูกมีอาการปวดแก้วหู หรือ หูอื้อ เนื่องจากเกิดการเปลี่ยนความดันอากาศภายในห้องโดยสารของเครื่องบิน พยายามให้ลูกใช้จุกยาง ดูดนม หรือดื่มน้ำ เพื่อบรรเทาอาการปวดหู หากลูกมีอาการรุนแรงมากให้แจ้งพนักงานของสายการบินทันที เพราะบนเครื่องบินจะมียาและเวชภัณฑ์ฉุกเฉินเก็บอยู่บนเครื่อง
  • ในเด็กที่เป็นหวัดอาจมีอาการคัดจมูก ในระหว่างเดินทางสามารถหยดน้ำเกลือลงไปในรูจมูกทั้ง 2 ข้างของเด็กทารก ทิ้งไว้ประมาณ 1 นาที จากนั้นใช้เครื่องดูดน้ำมูกดูดออก โดยสามารถทำได้ทุก ๆ 2 ชั่วโมง นอกจากนี้ ควรให้เด็กดื่มนมหรือน้ำอย่างสม่ำเสมอในระหว่างการเดินทางด้วย เพราะบนเครื่องบินอากาศจะแห้งกว่าปกติ

 

เมื่อคุณพ่อคุณแม่มีความจำเป็นต้องเดินทางพร้อมลูกน้อยโดยเครื่องบิน ควรวางแผนการเดินทางและจัดเตรียมสิ่งของจำเป็นให้ครบถ้วน ที่สำคัญคุณแม่อย่าลืมเตรียมปั๊มนมออกมาในปริมาณที่เหมาะสมพกติดกระเป๋าสัมภาระขึ้นเครื่องไปด้วย เพื่อให้ลูกน้อยได้กินนมแม่และเป็นการเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้ลูกน้อยมีสุขภาพแข็งแรง เพราะนมแม่มีสารอาหารมากกว่า 200 ชนิด เช่น ดีเอชเอ วิตามิน แคลเซียม แอลฟา-แล็คตัลบูมิน และสฟิงโกไมอีลิน รวมทั้งยังมีสารภูมิคุ้มกันและจุลินทรีย์ที่มีประโยชน์หลายชนิด สำหรับคุณแม่ที่มีลูกเล็กและต้องการติดตามทุกช่วงพัฒนาการของลูกน้อย สามารถอ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่ https://www.s-momclub.com/member-privilege

 

บทความแนะนำสำหรับคุณแม่มือใหม่

 


อ้างอิง:

  1. พาลูกขึ้นเครื่องบินอย่างไร ไม่ให้รบกวนเพื่อนร่วมทาง, โรงพยาบาลสมิติเวช
  2. เด็กเดินทางโดยเครื่องบิน ใช้เอกสารการเดินทางอะไร?, สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย
  3. ลูกวัยทารกแรกเกิดขึ้นเครื่องบินได้ไหมคะ, พญ.สุธีรา เอื้อไพโรจน์กิจ
  4. เทคนิคดูแลเด็กทารกบนเครื่องบิน, POBPAD
  5. แม่ไปไหนหนูไปด้วย, AOT Official
  6. ดูแลทารก บนเครื่องบินอย่างไร, hellokhunmor
  7. เทคนิคลูกเล็กขึ้นเครื่องบิน เรื่องที่ควรรู้ก่อนพาลูกเดินทาง (Flying with an Infant), พญ.ทานตะวัน พระโสภา drnoithefamily
  8. ทารกเดินทางโดยเครื่องบินได้หรือไม่?, สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย
  9. การเดินทางกับทารก, สายการบินไทย
  10. เอกสารใช้แสดงตนก่อนขึ้นเครื่องบิน, สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย
  11. Thailand Cross Country, สายการบินไทย
  12. Travel The World, สายการบินไทย
  13. เงื่อนไขควรรู้นำนมแม่ขึ้นเครื่องบิน, AOT Official

อ้างอิง ณ วันที่ 26 พฤศจิกายน 2567