พัฒนาการเด็ก 4 เดือน ทารก 4 เดือน พร้อมวิธีเสริมพัฒนาการลูก

พัฒนาการเด็ก 4 เดือน ทารก 4 เดือน พร้อมวิธีเสริมพัฒนาการลูก

หากคุณพ่อคุณแม่สังเกตจะเห็นว่า พัฒนาการเด็ก 4 เดือน เต็มไปด้วยการเปลี่ยนแปลงที่น่าทึ่ง ลูกน้อยจะเริ่มส่งเสียงอืออา หรือส่งเสียงในรูปแบบต่าง ๆ เพื่อบอกความต้องการ เช่น หิว หรือง่วง ซึ่งเป็นสัญญาณว่าลูกกำลังเรียนรู้ที่จะสื่อสารและทำความเข้าใจโลกรอบตัวมากขึ้น มาดูกันว่าจะช่วยส่งเสริมพัฒนาการของลูกน้อยในวัยนี้ได้อย่างไรบ้าง

พัฒนาการเด็ก 4 เดือน ทารก 4 เดือน พร้อมวิธีเสริมพัฒนาการลูก

คำถามที่พบบ่อย

ลูก 4 เดือนแล้ว แต่ยังชันคอไม่แข็งเลย ผิดปกติไหม?

โดยทั่วไปเด็กวัย 4 เดือนควรจะชันคอได้ค่อนข้างมั่นคงแล้ว หากลูกยังชันคอไม่ได้ ควรปรึกษากุมารแพทย์เพื่อประเมินพัฒนาการและรับคำแนะนำในการกระตุ้นพัฒนาการที่ถูกต้อง

ทำไมลูกถึงชอบเอาของทุกอย่างเข้าปาก?

สำหรับคุณพ่อคุณแม่ที่สงสัยว่าทำไมลูกน้อยวัย 4-8 เดือนถึงชอบหยิบสิ่งของรอบตัวและนำเข้าปาก นั่นเป็นเพราะมือของลูกยังทำงานไม่สัมพันธ์กันมากนัก แต่ด้วยพัฒนาการตามวัย พวกเขากระตือรือร้นที่จะเรียนรู้และสำรวจสิ่งต่าง ๆ รอบตัวอย่างมาก การใช้ปากจึงเป็นวิธีที่ง่ายที่สุดในการทำความรู้จักกับสิ่งของเหล่านั้น ซึ่งรวมถึงการดูดนิ้วเท้าของตัวเองด้วย

ลูก 4 เดือนเริ่มนอนน้อยลงตอนกลางวัน เป็นเรื่องน่ากังวลไหม?

ไม่น่ากังวลค่ะ เนื่องจากจำนวนชั่วโมงการนอนของทารกจะค่อย ๆ ลดลงตามอายุที่เพิ่มขึ้นค่ะ โดยเมื่ออายุได้ 4 เดือน ทารกส่วนใหญ่จะนอนหลับประมาณ 10-12 ชั่วโมงในตอนกลางคืน และจะตื่นขึ้นมากินนม 1-2 ครั้ง ส่วนในตอนกลางวันจะหลับประมาณ 3-5 ชั่วโมง โดยทารกจะงีบหลับ 2-3 ครั้ง

สรุป

  • พัฒนาการเด็ก 4 เดือน โดยทั่วไปแล้ว พัฒนาการของลูกน้อยวัย 4 เดือนจะก้าวหน้าไปมาก ลูกสามารถ พลิกคว่ำได้ ชันคอได้ดี และพยายามใช้มือเพื่อ คว้าจับสิ่งของ นอกจากนี้ ในด้านการมองเห็น ลูกจะสามารถ มองตามสิ่งของจากซ้ายไปขวาได้ 180 องศา ส่วนพัฒนาการด้านอารมณ์และสังคมจะเห็นได้ชัดเจนขึ้น ลูกจะเริ่ม ยิ้ม ทักทายส่งเสียงโต้ตอบ และ หัวเราะเสียงดัง เพื่อสื่อสารกับคนรอบข้าง
  • พัฒนาการเด็ก 4 เดือน ในส่วนของพัฒนาการด้านน้ำหนักและส่วนสูงสำหรับเด็ก 4 เดือนนั้น โดยเฉลี่ยแล้ว เด็กผู้ชายจะมีน้ำหนักประมาณ 7 กิโลกรัม และส่วนสูงประมาณ 63.9 เซนติเมตร ส่วนเด็กผู้หญิงจะมีน้ำหนักเฉลี่ยประมาณ 6.4 กิโลกรัม และส่วนสูงประมาณ 62.1 เซนติเมตร ทั้งนี้ ตัวเลขเหล่านี้เป็นเพียงค่าเฉลี่ยและเกณฑ์มาตรฐานเท่านั้น การเจริญเติบโตของเด็กแต่ละคนอาจมีความแตกต่างกันไปบ้างเล็กน้อย
  • หากเด็ก 4 เดือนแล้ว แต่ยังไม่มีพัฒนาการที่แสดงออกถึงความสนใจหรือการโต้ตอบกับคนรอบข้าง เช่น ไม่ยิ้มให้ผู้คน ไม่ส่งเสียงอ้อแอ้ รวมถึงไม่มีพฤติกรรมที่แสดงถึงการเรียนรู้และสำรวจสิ่งต่าง ๆ อย่างการ ไม่เอามือเข้าปาก หรือไม่มีปฏิกิริยาตอบสนองทางร่างกาย เช่น ไม่ถีบขาเมื่อวางบนพื้นที่แข็ง เหล่านี้อาจเป็นสัญญาณที่บ่งบอกถึงพัฒนาการที่ล่าช้า และควรปรึกษากุมารแพทย์เพื่อขอคำแนะนำและตรวจประเมินพัฒนาการของลูกน้อยอย่างละเอียดต่อไป

 

เลือกอ่านตามหัวข้อ

 

ภาพรวมพัฒนาการเด็ก 4 เดือนใน 4 ด้านหลัก

เมื่อลูกน้อยก้าวเข้าสู่เดือนที่ 4 โลกของเขาจะไม่ได้มีแค่เรื่องกินและนอนอีกต่อไป เพราะลูกเริ่มมองหาปฏิสัมพันธ์และแสดงออกถึงอารมณ์อย่างชัดเจนมากขึ้น คุณแม่จะสังเกตเห็นว่าลูกเริ่มเรียนรู้และเติบโตอย่างรวดเร็วในทุก ๆ ด้าน ทั้งร่างกาย ภาษา อารมณ์ และสติปัญญาค่ะ

พัฒนาการด้านการเคลื่อนไหวและร่างกาย

เด็ก 4 เดือน ลูกน้อยจะเริ่มมีการเคลื่อนไหวที่แข็งแรงและมีเป้าหมายมากขึ้น ซึ่งเป็นสัญญาณที่ดีของการพัฒนาด้านกล้ามเนื้อ คุณแม่จะสังเกตเห็นว่าลูก

  • เอามือเข้าปาก ซึ่งเป็นวิธีหนึ่งในการสำรวจสิ่งรอบตัว
  • ใช้ศอกดันตัวขึ้นเวลานอนคว่ำ เพื่อยกศีรษะและมองสิ่งต่าง ๆ ได้ดีขึ้น
  • ตั้งศีรษะได้โดยไม่ต้องประคอง แสดงว่ากล้ามเนื้อคอแข็งแรงขึ้นมาก
  • เริ่มพลิกตัวจากนอนคว่ำเป็นหงายได้ เป็นก้าวแรกที่สำคัญของการเคลื่อนที่
  • ใช้ขาถีบพื้นเมื่อเท้าของเขาอยู่บนพื้นแข็ง เป็นการฝึกใช้กล้ามเนื้อขาเพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการยืน
  • เขย่าของเล่นที่ถืออยู่ในมือ เป็นการประสานงานระหว่างมือและตา

 

เคล็ดลับกระตุ้นพัฒนาการ

  • วางของเล่นแบบที่มีเสียง: ไว้ใกล้ ๆ เพื่อกระตุ้นให้ลูกเอื้อมมือไปจับและเขย่า
  • กระตุ้นให้ลูกได้พลิกตัว: โดยวางเขาไว้บนพื้นผิวที่แข็ง เพราะพื้นนุ่มจะทำให้พลิกตัวได้ยากเกินไปสำหรับวัยนี้

 

พัฒนาการด้านสมองการเรียนรู้

ในช่วงวัยนี้ เด็ก 4 เดือนพร้อมที่จะเรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ ตลอดเวลา มือและสายตาเริ่มทำงานประสานกัน คุณแม่จะสังเกตเห็นว่าลูก

  • จดจำวัตถุและคนที่คุ้นเคยได้จากระยะไกล
  • ตอบสนองต่อความรักและความเอาใจใส่
  • มองตามวัตถุที่เคลื่อนไหว จากด้านหนึ่งไปยังอีกด้านหนึ่งได้
  • แสดงอารมณ์ ให้คุณแม่รู้ว่ากำลังมีความสุขหรือเศร้า
  • จ้องมองใบหน้า และพยายามเอื้อมมือหยิบของเล่น

 

เคล็ดลับกระตุ้นพัฒนาการ

  • วางของเล่นไว้ใกล้ลูก: เพื่อช่วยกระตุ้นให้ลูกใช้มือเอื้อมหยิบ เป็นการช่วยกระตุ้นพัฒนาการด้านการใช้มือและสายตาให้ประสานกัน
  • คุยกับลูกน้อยในระหว่างทำกิจวัตรประจำวัน: เล่าสิ่งที่คุณสังเกตเห็นให้ลูกฟัง เพื่อสร้างคลังคำศัพท์และช่วยให้สมองของลูกเรียนรู้ภาษาได้ดีขึ้น

 

พัฒนาการด้านภาษาและการสื่อสาร

ลูกน้อยวัยนี้เริ่มใช้เสียงเป็นเครื่องมือในการสื่อสารเพื่อบอกความต้องการของตัวเองแล้วค่ะ ซึ่งคุณแม่สามารถสังเกตพัฒนาการในการสื่อสารของลูกน้อยได้จาก

  • ร้องไห้ด้วยเสียงที่แตกต่างกันออกไป เมื่อหิว เจ็บ หรือเหนื่อย ซึ่งบ่งบอกถึงการสื่อสารที่ซับซ้อนขึ้น
  • ส่งเสียงไม่เป็นภาษา (อ้อแอ้) และพยายามเลียนแบบเสียงที่ได้ยิน เป็นการฝึกออกเสียงเพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการพูดคำแรกในอนาคต

 

เคล็ดลับกระตุ้นพัฒนาการ

  • เมื่อลูกร้องไห้ ควรตอบสนองให้เร็วที่สุด: และพยายามทำความเข้าใจว่าลูกต้องการอะไร เพื่อให้ลูกรู้สึกว่ามีคนรับฟัง
  • พูดคุยและโต้ตอบกับลูกด้วยเสียงที่หลากหลาย: เหมือนกับเสียงที่ลูกสื่อสารออกมา เพื่อกระตุ้นให้ลูกเรียนรู้ภาษา

 

พัฒนาการด้านอารมณ์และสังคม

เด็ก 4 เดือนกำลังเติบโตและเรียนรู้ที่จะเข้าสังคมผ่านการปฏิสัมพันธ์ง่าย ๆ กับคนรอบตัว คุณแม่จะเริ่มเห็นสัญญาณที่น่ารักเหล่านี้ของลูกค่ะ

  • ยิ้มอย่างเป็นธรรมชาติ เพื่อแสดงความสุขและตอบรับการสื่อสาร
  • เลียนแบบการเคลื่อนไหวและสีหน้า ของคุณ เป็นการเริ่มเรียนรู้ปฏิสัมพันธ์ทางสังคม
  • ชอบเล่นกับคนอื่น และอาจอารมณ์เสียเล็กน้อยเมื่อต้องหยุดเล่น แสดงว่าลูกเริ่มมีความผูกพันและติดคุณแล้ว

 

เคล็ดลับกระตุ้นพัฒนาการ

  • มีส่วนร่วมในสิ่งที่ลูกสนใจ: ด้วยการมองและชี้ตาม เพื่อให้ลูกรู้สึกว่าคุณกำลังร่วมอยู่ในโลกของเขา
  • ยิ้มและพูดคุยกับลูกอย่างอ่อนโยน: เพื่อสร้างความผูกพันที่แน่นแฟ้นกับลูกค่ะ

เมื่อได้ทราบพัฒนาการเด็ก 4 เดือนในด้านต่าง ๆ ของลูกน้อยแล้ว อย่าลืมใช้เคล็ดลับที่แนะนำไปเพื่อส่งเสริมพัฒนาการของลูกให้เติบโตอย่างเต็มศักยภาพนะคะ และหากคุณแม่มีข้อสงสัยใด ๆ หรือต้องการคำแนะนำเพิ่มเติม สามารถปรึกษาคุณหมอผู้เชี่ยวชาญเพิ่มเติมได้ค่ะ

 

พัฒนาการเด็ก 4 เดือน ลูกโตขึ้นแค่ไหน

สำหรับคุณแม่ที่มีลูกน้อยวัย 4 เดือน ควรทราบถึงเกณฑ์เฉลี่ยของน้ำหนักและส่วนสูงเพื่อเป็นแนวทางในการดูแลลูก อย่างไรก็ตาม การเจริญเติบโตของเด็กแต่ละคนอาจแตกต่างกันไปค่ะ

  • เด็กผู้ชาย มีน้ำหนักเฉลี่ยประมาณ 7 กิโลกรัม และส่วนสูงเฉลี่ยประมาณ 63.9 เซนติเมตร
  • เด็กผู้หญิง มีน้ำหนักเฉลี่ยประมาณ 6.4 กิโลกรัม และส่วนสูงเฉลี่ยประมาณ 62.1 เซนติเมตร

หากคุณแม่มีความกังวลเกี่ยวกับพัฒนาการของลูก สามารถปรึกษากุมารแพทย์เพื่อตรวจประเมินพัฒนาการของลูกได้อย่างละเอียดอีกครั้งค่ะ

 

เช็กให้ชัวร์! พัฒนาการเด็ก 4 เดือน ตามเกณฑ์หรือไม่?

คุณแม่ท่านไหนกำลังเช็กอยู่ว่า พัฒนาการเด็ก 4 เดือน ของลูกน้อยตามเกณฑ์ไหม มาเช็กไปพร้อมกันได้ง่าย ๆ เลยค่ะ โดยพัฒนาการของเด็กวัยนี้จะเน้นไปที่การใช้กล้ามเนื้อมัดใหญ่และมัดเล็ก รวมถึงการเรียนรู้และโต้ตอบกับคนรอบข้างมากขึ้นค่ะ

เด็ก 4 เดือน พัฒนาการตามเกณฑ์

ถ้าลูกน้อยของคุณแม่มีพัฒนาการเหล่านี้ ถือว่าแข็งแรงและเติบโตตามวัยค่ะ

  • พลิกคว่ำได้: ลูกจะเริ่มใช้กล้ามเนื้อลำตัวในการพลิกจากหงายไปคว่ำได้เอง
  • ชันคอได้ดี: เมื่อจับให้นอนคว่ำ ลูกจะสามารถยกหัวและอกขึ้นได้สูง
  • พยายามคว้าจับของเล่น: ลูกจะเริ่มใช้มือคว้าของที่อยู่ใกล้ตัวได้ดีขึ้น บางครั้งอาจมีการประสานมือทั้งสองข้างด้วยค่ะ
  • มองตามได้ 180 องศา: สายตาของลูกจะเริ่มพัฒนาดีขึ้น สามารถมองตามของเล่นที่เคลื่อนไหวจากซ้ายไปขวาได้ทั่วถึง
  • ส่งเสียงโต้ตอบและหัวเราะ: ลูกจะเริ่มยิ้ม หัวเราะเสียงดัง และส่งเสียงอ้อแอ้เพื่อตอบโต้กับคุณพ่อคุณแม่มากขึ้น

 

เด็ก 4 เดือนพัฒนาการอาจล่าช้า

หากคุณแม่สังเกตว่าลูกน้อยมี พัฒนาการเด็ก 4 เดือน ที่แตกต่างไปจากที่กล่าวมา หรือมีสัญญาณดังต่อไปนี้ อาจเป็นสัญญาณของพัฒนาการที่ล่าช้า ควรปรึกษากุมารแพทย์เพื่อรับคำแนะนำที่เหมาะสมนะคะ

1. เรื่องสายตาและการมองเห็น

  • ลูกไม่สามารถกรอกตาไปในทิศทางต่าง ๆ ได้ตามปกติ ไม่ว่าจะกรอกตาข้างเดียวหรือทั้งสองข้างก็ตาม
  • ไม่ยิ้มโต้ตอบเมื่อมีคนเล่นด้วยหรือไม่แสดงความสนใจต่อใบหน้าของคนอื่น

 

2. เรื่องการใช้กล้ามเนื้อและการเคลื่อนไหว

  • ไม่นำมือเข้าปาก หรือไม่สนใจคว้าสิ่งของต่าง ๆ
  • ไม่ถีบขาหรือออกแรงดันตัวเมื่อถูกวางลงบนพื้นผิวที่แข็ง
  • ไม่สามารถตั้งคอได้มั่นคง หรือเกร็งคอจนดูแข็งทื่อ

 

3. เรื่องการสื่อสาร

  • ไม่ส่งเสียงอ้อแอ้หรือส่งเสียงเล็ก ๆ น้อย ๆ เพื่อโต้ตอบกับคุณพ่อคุณแม่

 

อย่างไรก็ตาม พัฒนาการเด็ก 4 เดือน ของแต่ละคนไม่เหมือนกันเสมอไปค่ะ ลูกน้อยอาจมีพัฒนาการที่เร็วหรือช้ากว่าเพื่อนวัยเดียวกันได้บ้าง สิ่งสำคัญคือการสังเกตและส่งเสริมพัฒนาการของลูกอย่างสม่ำเสมอ หากคุณแม่มีข้อสงสัยหรือไม่สบายใจเรื่องพัฒนาการของลูกน้อย สามารถขอคำปรึกษาจากกุมารแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญด้านพัฒนาการเด็กเพิ่มเติมได้ค่ะ การได้รับคำแนะนำที่ถูกต้องจะช่วยให้คุณแม่สามารถดูแลลูกน้อยได้อย่างเต็มที่นะคะ

 

ผู้ปกครองอุ้มเด็ก

 

วิธีส่งเสริมและกระตุ้นพัฒนาการเด็ก 4 เดือน

คุณแม่หลายคนอาจกำลังมองหาวิธีช่วยส่งเสริม พัฒนาการเด็ก 4 เดือน ให้สมวัยใช่ไหมคะ มาดูกันว่ามีวิธีไหนบ้างที่จะช่วยให้ลูกรักเติบโตอย่างแข็งแรงนะคะ

สร้างความผูกพันผ่านการสื่อสาร

  • พูดคุยและร้องเพลง: ลองพูดคุยกับลูกด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยนและสดใส อาจจะร้องเพลงกล่อมเด็กหรือเล่านิทานง่าย ๆ ให้ลูกฟังบ่อย ๆ ค่ะ
  • สบตาและทำท่าทาง: ในขณะที่พูดคุย ลองสบตาลูก ยิ้ม หัวเราะ และทำท่าทางตลก ๆ เพื่อดึงดูดความสนใจของลูก การทำเช่นนี้จะช่วยให้ลูกเรียนรู้การสื่อสารและสร้างความรู้สึกอบอุ่นปลอดภัยได้ค่ะ

 

กระตุ้นการใช้กล้ามเนื้อ

  • แขวนโมบายของเล่น: หาโมบายสีสันสดใสมาแขวนไว้เหนือเปลในระยะที่ลูกเอื้อมถึงได้พอดี เพื่อกระตุ้นให้ลูกพยายามคว้าจับของเล่น เป็นการฝึกกล้ามเนื้อมือและสายตาไปพร้อมกันค่ะ
  • จัดท่าให้ลูกนอนคว่ำ: ลองจัดให้ลูกนอนคว่ำโดยใช้ข้อศอกยันพื้น แล้วพูดคุยกับลูก เมื่อลูกมองหน้าคุณแม่ ลองค่อย ๆ ขยับศีรษะขึ้นลงช้า ๆ เพื่อให้ลูกพยายามเงยหน้ามองตาม ซึ่งจะช่วยเสริมสร้างกล้ามเนื้อคอและหลังให้แข็งแรงขึ้นค่ะ
  • ให้ของเล่นที่จับง่าย: ลองหาของเล่นที่มีขนาดพอเหมาะและปลอดภัยสำหรับเด็กวัยนี้ ให้ลูกถือหรือเขย่าเล่นได้เอง เป็นการฝึกกล้ามเนื้อมัดเล็กให้แข็งแรงและช่วยให้ลูกได้เรียนรู้การสำรวจสิ่งของรอบตัวค่ะ

การส่งเสริมพัฒนาการของลูกน้อยควรเป็นเรื่องที่สนุกสนานและเต็มไปด้วยความรักนะคะ ขอให้คุณแม่มีความสุขกับการใช้เวลาดี ๆ ร่วมกับลูกค่ะ

 

โภชนาการสำคัญของเด็ก 4 เดือน

คุณแม่คงทราบดีอยู่แล้วว่าโภชนาการเป็นเรื่องสำคัญที่สุดสำหรับลูกน้อยในวัยนี้ค่ะ และเมื่อพูดถึง พัฒนาการเด็ก 4 เดือน สิ่งที่คุณแม่ควรให้ความสำคัญที่สุดก็คือ "นม" นั่นเองค่ะ

ในช่วงวัยนี้ลูกน้อยยังไม่ต้องการอาหารตามวัยใด ๆ เพราะกิจกรรมหลัก ๆ ของลูกยังคงเป็นการนอน กินนม ยิ้ม หรือร้องไห้เท่านั้น นมแม่จึงเป็นอาหารที่ดีและครบถ้วนที่สุดสำหรับลูกค่ะ เพราะนมแม่มีสารอาหารกว่า 200 ชนิด ทั้งโปรตีน ไขมัน สารให้ภูมิคุ้มกัน ซึ่งช่วยเสริมสร้างร่างกายให้แข็งแรงและลดความเสี่ยงจากการเจ็บป่วยด้วยโรคติดเชื้อต่าง ๆ เช่น ปอดอักเสบ หูอักเสบ หรือเยื่อหุ้มสมองอักเสบได้ดีกว่าเด็กที่ไม่ได้รับนมแม่ค่ะ นมแม่ยังมีสารอาหารที่ช่วยพัฒนาสมองอย่าง แอลฟาแล็ค สฟิงโกไมอีลิน (Alphalac Sphingomyelin) เป็นสารอาหารสำคัญที่มีบทบาทในการส่งเสริมการทำงานของระบบประสาทและสมองของเด็กเจนใหม่ตั้งแต่แรกเกิด ช่วยให้ลูกน้อยมีพัฒนาการด้านการเรียนรู้ได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพค่ะ ที่สำคัญคุณแม่ไม่ต้องกังวลว่าลูกจะดื่มน้ำไม่เพียงพอค่ะ เพราะในนมแม่มีน้ำเป็นส่วนประกอบมากถึง 80% ซึ่งเพียงพอต่อความต้องการของร่างกายลูกน้อยแล้วค่ะ และตามคำแนะนำของกรมการแพทย์ โดยสถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติมหาราชินี ทารกควรได้รับนมแม่อย่างเดียวในช่วง 6 เดือนแรก จากนั้นจึงค่อยเริ่มให้อาหารตามวัยควบคู่ไปกับนมแม่จนถึงอายุ 2 ปีหรือมากกว่านั้นค่ะ

นมแม่ไม่เพียงแต่เป็นแหล่งอาหารที่ดีที่สุด แต่ยังเป็นเหมือนยาวิเศษที่ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันและความผูกพันระหว่างคุณแม่กับลูกน้อยอีกด้วยค่ะ

 

ข้อควรระวังเพื่อความปลอดภัยสำหรับเด็ก 4 เดือน

ถึงแม้ลูกน้อยวัย 4 เดือนจะดูตัวเล็กและบอบบาง แต่ในวัยนี้เขามีพัฒนาการที่รวดเร็วและมีความอยากรู้อยากเห็นมากขึ้น สิ่งสำคัญที่สุดคือการจัดสภาพแวดล้อมให้ปลอดภัยเพื่อป้องกันอุบัติเหตุที่อาจเกิดขึ้นได้ง่ายค่ะ

1. การพลัดตกหกล้ม

ลูกน้อยวัยนี้เริ่มพลิกตัวและเคลื่อนไหวได้เก่งขึ้นแล้วค่ะ ไม่ควรปล่อยให้ลูกอยู่บนที่สูงตามลำพัง ไม่ว่าจะเป็นบนเตียง โซฟา หรือแม้แต่โต๊ะเปลี่ยนผ้าอ้อม หากคุณแม่จำเป็นต้องหันไปทำอย่างอื่นสักครู่ ควรวางลูกไว้ในที่ที่ปลอดภัยบนพื้นหรือในคอกกั้นเด็กจะดีที่สุดค่ะ

 

2. ของร้อนและของมีคม

เนื่องจากลูกน้อยเริ่มเรียนรู้ที่จะคว้าจับสิ่งของต่าง ๆ ได้แล้ว ควรหลีกเลี่ยงการถือของร้อนหรือของมีคมในขณะที่อุ้มลูก เพื่อป้องกันไม่ให้ลูกเอื้อมมือไปจับและทำให้เกิดอันตรายได้ค่ะ

 

3. คาร์ซีท

เพื่อความปลอดภัยสูงสุดในการเดินทาง ควรให้ลูกนั่งคาร์ซีททุกครั้ง และที่สำคัญคือคาร์ซีทยังคงต้องหันหน้าไปทางด้านหลังรถ เพราะจะช่วยปกป้องลูกจากแรงกระแทกได้ดีที่สุดค่ะ

 

4. วัตถุขนาดเล็ก

ลูกน้อยในวัยนี้ชอบสำรวจสิ่งของด้วยการนำเข้าปาก ควรเก็บวัตถุขนาดเล็กที่อาจหลุดเข้าคอและทำให้สำลักได้ให้พ้นมือลูก เช่น เหรียญ กระดุม หรือชิ้นส่วนของเล่นขนาดเล็กค่ะ

 

5. จุกนมหลอก

หากคุณแม่ให้ลูกใช้จุกนมหลอก ไม่ควรผูกหรือติดจุกนมกับชุดนอนของลูกด้วยเชือกหรือริบบิ้น เพราะอาจทำให้รัดคอและเป็นอันตรายถึงชีวิตได้ค่ะ

 

6. เปลและเตียงนอน

เมื่อลูกเริ่มชันคอได้ดีและพยายามลุกขึ้นนั่งแล้ว ควรเอาของเล่นที่ยึดติดกับเปลออก และ ปรับระดับที่นอนให้ต่ำลง เพื่อป้องกันไม่ให้ลูกปีนป่ายและตกจากเตียงได้ค่ะ

 

การดูแลลูกน้อยในแต่ละวันอาจต้องใช้ความระมัดระวังเป็นพิเศษ แต่ถ้าคุณแม่ใส่ใจในรายละเอียดเล็ก ๆ น้อย ๆ เหล่านี้ ก็จะช่วยให้ลูกเติบโตอย่างปลอดภัยและมีความสุขในทุกช่วงวัยค่ะ

พัฒนาการของลูกน้อยในช่วง 4 เดือนแรกของชีวิตเป็นเรื่องที่น่าอัศจรรย์นะคะ คุณแม่จะได้เห็นลูกเรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ ในทุกวัน ทั้งการส่งเสียงอ้อแอ้ การยิ้มและหัวเราะ การชันคอ หรือแม้แต่การคว้าของเล่นที่อยู่ใกล้ตัว พัฒนาการเด็ก 4 เดือน อาจแตกต่างกันไปในเด็กแต่ละคน สิ่งสำคัญคือการหมั่นสังเกตพัฒนาการของลูกอย่างใกล้ชิด หากคุณแม่สังเกตว่าลูกน้อยมีพัฒนาการที่ผิดปกติหรือไม่แน่ใจในเรื่องใด อย่าลังเลที่จะปรึกษากุมารแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อรับการวินิจฉัยและคำแนะนำที่ถูกต้องค่ะ การดูแลที่รวดเร็วจะช่วยให้ลูกน้อยเติบโตขึ้นอย่างสมบูรณ์สมวัยและแข็งแรงค่ะ

 

บทความแนะนำสำหรับคุณแม่มือใหม่

อ้างอิง:

  1. พัฒนาการของลูกน้อยเมื่ออายุ 4 เดือน ทุกสิ่งที่คุณควรรู้เมื่อลูกน้อยอายุได้ 4 เดือน, Unicef Thailand
  2. เรียนรู้พัฒนาการที่สมวัยของน้อง ๆ อายุแรกเกิด –3 ปีกันเถอะ, โรงพยาบาลแพทย์รังสิต
  3. พัฒนาการเด็ก แต่ละช่วงวัย (เด็กแรกเกิด - 6 ปี), โรงพยาบาลสมิติเวช
  4. ทานอาหารให้เหมาะสมตามช่วงวัย สำหรับทารกแรกเกิด ถึง 1 ปี, โรงพยาบาลพญาไท 2
  5. “นมแม่” ยิ่งทารกแรกเกิดป่วย ยิ่งต้องได้รับนมแม่, สถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติมหาราชินี
  6. Your Baby at 4 Months, UCSF Benioff Children's Hospitals
  7. 4-Month-Old Baby, What to Expect
  8. น้ำหนักทารก และส่วนสูง ตามช่วงอายุ, แพทย์หญิงสุสิตา หวังจิรนิรันดร์ โรงพยาบาลมหาวิทยาลัยนเรศวร helloคุณหมอ
  9. The Sweetest Baby Milestones and When to Expect Them, Parents

 

อ้างอิง ณ วันที่ 16 กันยายน 2568