นมสำหรับเด็ก 1 ขวบ ควรมีสารอาหารอะไรบ้าง ที่ช่วยให้ลูกสมองไว มีพัฒนาการที่ดี

นมสำหรับเด็ก 1 ขวบ ควรมีสารอาหารอะไรบ้าง ให้ลูกสมองไว มีพัฒนาการที่ดี

เมื่อลูกน้อยอายุ 1 ขวบสามารถรับประทานอาหารได้หลากหลายและรับประทานอาหารหลักได้ครบ 3 มื้อแล้ว แต่ ยังควรดื่มนมวันละ 2 แก้ว เพื่อเสริมอาหารมื้อหลักให้เด็กได้สารอาหารสำคัญอย่างเหมาะสม เพราะอยู่ในช่วงวัยแห่งพัฒนาการร่างกาย สมอง และภูมิต้านทาน ดังนั้น นมสำหรับเด็ก 1 ปีขึ้นไป จึงมีความสำคัญและเป็นพื้นฐานที่ดีของชีวิตลูกน้อย

headphones
อ่าน 7 นาที

ตอนนี้คุณพ่อคุณแม่อาจมีคำถามว่า จะเลือกนมแบบไหนที่ดีต่อลูกวัย 1 ขวบปี ขอพาไปทำความรู้จักนมที่ได้รับความนิยมในเวลานี้ ไม่ว่าจะเป็น นม UHT นมวัว และ นมสำหรับเด็ก 1 ปีขึ้นไป

 

ความแตกต่างระหว่าง นมสำหรับเด็ก 1 ปีขึ้นไป นมกล่อง UHT สำหรับเด็ก 1 ปีขึ้นไป และนมวัว UHT

คุณพ่อคุณแม่ทราบกันดีว่า นมคือแหล่งอาหารที่อุดมด้วยสารอาหารที่มีประโยชน์ โดยเฉพาะโปรตีนและแคลเซียม ซึ่งเป็นอาหารตามวันที่เหมาะสมสำหรับเด็กวัย 1 ขวบ แต่จะเลือกนมชนิดไหน ลองสำรวจความแตกต่างของนมแต่ละชนิดได้ ดังต่อไปนี้

 

ตารางเปรียบเทียบสารอาหารระหว่าง นมสำหรับเด็ก 1 ปีขึ้นไป นมกล่อง UHT สำหรับเด็ก 1 ขวบ และนมวัว UHT

 

1. นมผงสำหรับเด็ก 1 ปี

นมผงที่เหมาะอย่างยิ่งสำหรับเด็กวัย 1 ขวบขึ้นไปคือ นมผงสูตร 3 เนื่องจากมีการพัฒนาสูตรให้เหมาะสมกับความต้องการของเด็กวัยนี้ โดยเน้นปริมาณของโปรตีนและแคลเซียมเพิ่มขึ้นอีก แม้จะมีความใกล้เคียงกับนมวัว แต่นมสูตร 3 นมสำหรับเด็ก 1 ปีขึ้นไป มีสารอาหารเหมาะสมกว่าด้วยการเพิ่มวิตามินและแร่ธาตุที่จำเป็นต่อร่างกายและสมอง ที่ช่วยให้เด็กได้รับสารอาหารจำเป็นในปริมาณที่เพียงพอสำหรับพัฒนาการที่ดีรอบด้าน ทั้งทางร่างกายและสมอง

  • จุดเด่นของนมสำหรับเด็ก 1 ปีขึ้นไป คือการเติมสารอาหารได้หลากหลาย ซึ่งเป็นสารอาหารที่สำคัญที่เด็กวัยนี้ควรได้รับ เช่น สฟิงโกไมอีลิน ดีเอชเอ โคลีน ใยอาหารชนิด 2’-เอฟแอล ใยอาหารจากธรรมชาติ และยังมีวิตามินและแร่ธาตุที่สำคัญต่อพัฒนาการอย่างเหมาะสม

     

นอกจากนี้ นมผงสำหรับเด็ก 1 ปีขึ้นไป ยังเติมใยอาหารที่มีคุณสมบัติเป็น พรีไบโอติก เช่น โอลิโกฟรุคโตส (Oligofructose)   อินนูลิน (Inulin) ที่สกัดจากหัวชิโครี (Chicory Root Extract) ที่ช่วยให้ระบบขับถ่ายดี ลดอาการท้องเสีย  ท้องผูก และกระตุ้นการสร้างภูมิคุ้มกันให้ร่างกาย โดยช่วยเพิ่มจำนวนจุลินทรีย์ที่ดี เพื่อไปต่อสู้กับเชื้อโรคต่างๆ ได้ด้วย

 

ความแตกต่างระหว่าง นมสำหรับเด็ก 1 ปีขึ้นไป นมกล่อง UHT สำหรับเด็ก 1 ขวบ และนมวัว UHT

 

2. นมกล่อง UHT

นม UHT สำหรับเด็ก 1 ปีขึ้นไป  เป็นนมเสริมอาหารที่ผลิตจากนมวัวแท้ โดยมีการเติมสารอาหารที่สำคัญหลากหลายเหมาะกับช่วงวัยของเด็ก 1 ปีขึ้นไป และมีการนำน้ำนมไปผ่านกรรมวิธีฆ่าเชื้อจุลินทรีย์ผ่านความร้อนในระบบ Ultra Heat Treatment โดยใช้อุณหภูมิสูง 135-150 องศาเซลเซียส ในช่วงเวลา 2-3 วินาทีเพื่อทำลายจุลินทรีย์ที่มีผลเสียต่อสุขภาพทั้งหมด จากนั้นบรรจุใส่กล่องในสภาพปลอดเชื้อ เพื่อให้เก็บนมไว้ได้นานแม้อยู่ภายนอกตู้เย็น

  • จุดเด่นของนมกล่อง UHT คือ สามารถเติมสารอาหารสำคัญได้หลากหลายชนิด ไม่ว่าจะเป็น สฟิงโกไมอีลีน ดีเอชเอ โคลีน แอลฟา-แลคตัลบูมิน ลูทีน รวมถึงวิตามินและแร่ธาตุต่าง ๆ ที่สำคัญต่อพัฒนาการของเด็กในวัยนี้อย่างครบถ้วน โดยนมกล่อง UHT นมสำหรับเด็ก 1 ปีขึ้นไป ได้รับความนิยมด้านความสะดวกสบายในการดื่มและการพกพาไปดื่มในที่ต่าง ๆ ได้ทันที เหมาะสำหรับเด็กวัย 1 ปีที่ต้องการเรียนรู้โลกกว้างอย่างไม่หยุดนิ่ง

     

อย่างไรก็ตาม ในกระบวนการผลิต ทำให้ไม่สามารถเติมสารอาหารบางประเภทในปริมาณสูงได้ และด้วยกรรมวิธีผ่านความร้อนสูง จึงไม่สามารถเติมจุลินทรีย์สุขภาพชนิด โพรไบโอติก ได้ด้วยเช่นกัน

 

เสริมพัฒนาการลูกน้อยให้เติบโตได้อย่างแข็งแรง ด้วยนมกล่องสำหรับเด็ก 1 ปีขึ้นไป

 

3. นมวัว 100%

นมวัว 100% คือน้ำนมวัวแท้บรรจุกล่องที่ผ่านกรรมวิธีการฆ่าเชื้อจุลินทรีย์ในอุณภูมิที่สูง เพื่อให้เก็บรักษานมได้นานถึง 6-9 เดือนโดยไม่ต้องแช่ตู้เย็น แต่อย่างไรก็ดีข้อมูลจากสมาคมกุมารแพทย์แห่งประเทศไทย ระบุว่า นมวัวอาจไม่เหมาะที่สำหรับเด็กอายุต่ำกว่า 1 ขวบ เนื่องจากเด็กทารกยังมีข้อจำกัดในการย่อยโปรตีนอื่น ๆ นอกเหนือจากในนมแม่

  • จุดเด่นของนมวัว 100% คือ มีแคลเซียมสูง และมีโปรตีนสูงกว่านมผงสูตร 3 และ นมเสริมสารอาหาร UHT  แต่อย่างไรก็ดีเมื่อเปรียบเทียบกันด้านสารอาหารแล้ว นมวัว 100% นมกล่องสำหรับเด็ก 1 ปีขึ้นไป มีคุณค่าสารอาหารที่เหมาะสมกับเด็กน้อยกว่า นมผงสูตร 3 นมเสริมสารอาหาร UHT ที่มีการเติมสารอาหารสำคัญหลากหลาย ที่เป็นประโยชน์ต่อการเจริญเติบโตของร่างกาย เสริมสร้างพัฒนาการสมอง เพื่อพัฒนาการที่ดีสมวัยของเด็ก 1 ปีขึ้นไป

     

 

เด็ก 1 ปีขึ้นไป ควรดื่มวันละเท่าไหร่ ให้เพียงพอต่อความต้องการตามวัย

แม้เด็กวัย 1 ขวบขึ้นไปมีระบบการย่อยและดูดซึมอาหารที่ดีใกล้เคียงกับผู้ใหญ่ โดยสามารถรับประทานอาหารอาหารมื้อหลักได้ครบ 3 มื้อได้ แต่เด็กวัยนี้ยังต้องดื่มนมเป็นอาหารเสริม อย่างนมสำหรับเด็ก 1 ปีขึ้นไป เพื่อให้ได้สารอาหารครบถ้วนตามความต้องการตามวัย ที่มีอัตราการเจริญเติบโตสูง โดยควรได้รับพลังงานประมาณ 1,000 กิโลแคลอรีต่อวัน และควรได้รับโปรตีนประมาณวันละ 18 กรัม

 

ดังนั้น สารอาหารจากอาหารหลักประจำวันอาจไม่เพียงพอ ควรเสริมด้วยนมผงสำหรับเด็ก 1 ปีขึ้นไป หรือ นมกล่องสำหรับเด็ก 1 ปีขึ้นไป วันละ 2 แก้ว หรือ 2 กล่องต่อวัน เพราะนมอุดมไปด้วยสารอาหารสำคัญต่างๆ ยิ่งนมที่มีการเติมสารอาหารที่สำคัญตามความต้องการในวัยนี้ ย่อมช่วยในการเจริญเติบโตของร่างกายและสมองของเด็กได้ดียิ่งขึ้น

 

นมสำหรับเด็ก 1 ปีขึ้นไป ควรดื่มวันละเท่าไหร่ ให้เพียงพอต่อความต้องการตามวัย

 

 

วิธีเลือกนมสำหรับเด็ก 1 ปีขึ้นไป ให้เหมาะกับลูก

มาถึงตรงนี้ คุณพ่อคุณแม่อาจสงสัยว่า มีนมชนิดต่างๆ หรือนมสำหรับเด็ก 1 ปีขึ้นไป วางขายอยู่มากมาย แต่ควรจะเลือกนมอย่างไรให้เหมาะกับลูกน้อยมากที่สุด มีคำแนะนำดังต่อไปนี้

 

  • สังเกตความน่าเชื่อถือของผู้ผลิตและคุณภาพสินค้า ไม่ว่าจะเป็นเครื่องหมายของ อย. รับรองความถูกต้อง ระบุวันผลิตและวันหมดอายุอย่างครบถ้วน มีที่อยู่ของบริษัทติดต่อชัดเจน สภาพของบรรจุภัณฑ์ดูสะอาดและปลอดภัย
  • ในแง่ของสารอาหารต้องพิจารณาสารอาหารที่เหมาะสมกับช่วงวัยของลูกมากที่สุด อาจพิจารณาเลือกนมที่เพิ่มสารอาหารสำคัญ เพื่อให้ลูกได้รับสารอาหารที่ครบถ้วน
  • สำหรับรสชาติ แม้จะมีให้เลือกหลากหลายในท้องตลาด แต่ควรเลือกเป็นรสจืด ทั้งในรูปแบบของนมผง นมกล่อง UHT เพื่อป้องกันไม่ให้ลูกติดรสหวาน และป้องกันการเกิดฟันผุจากการดื่มนมที่เติมน้ำตาลหรือสารแต่งรสอื่น ๆ 
  • เลือกรูปแบบของนมตามความสะดวกตามสถานการณ์ต่าง ๆ หากต้องการให้ลูกดื่มนมที่คุณพ่อคุณแม่มั่นใจในการชงเอง อาจเลือกเป็นนมผง แต่หากต้องออกไปนอกบ้านและต้องการความสะดวก ก็อาจเลือกเป็นนมกล่องได้เช่นกัน 

 

สำหรับเด็กวัย 1 ขวบขึ้นไป การดื่มนมยังคงมีความสำคัญอย่างมาก นอกเหนือจากอาหารหลักประจำวัน คุณพ่อคุณแม่จึงควรพิจารณาเลือกนมผงสำหรับเด็กและนมกล่องสำหรับเด็ก 1 ปีขึ้นไป ที่ตรงความต้องการตามวัยของลูกเป็นพิเศษ เพื่อเลือกสรรนมที่มีคุณค่าสารอาหารเหมาะสมที่สุด ที่จะเสริมให้ลูกน้อยมีร่างกายที่เติบโตอย่างเต็มที่ มีพัฒนาการที่ดีรอบด้าน รวมทั้งมีพลังสมอง พร้อมพลังกายในการสำรวจและเรียนรู้โลกกว้างของลูกอย่างไม่รู้จบ

 

เอกสารอ้างอิง

  • คู่มืออาหารตามวัยสำหรับทารกและเด็กเล็ก สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ https://www.tmwa.or.th/new/lib/file/20170121162528.pdf 

อ้างอิง ณ วันที่ 24 เมษายน 2566

บทความแนะนำ

วันตกไข่ คืออะไร นับวันตกไข่อย่างไรให้แม่นยำ ไม่มีพลาด

วันตกไข่ คืออะไร นับวันตกไข่อย่างไรให้แม่นยำ ไม่มีพลาด

ใครอยากมีลูกต้องอ่าน วันตกไข่ คืออะไร ทำไมถึงสำคัญ อาการแบบไหนถึงรู้ว่าตัวเองอยู่ในช่วงวันตกไข่ และนับวันตกไข่แบบไหน ช่วยเพิ่มโอกาสในการตั้งครรภ์ให้คนที่อยากมีลูก

วิธีนับอายุครรภ์ คำนวณอายุครรภ์ด้วยตัวเอง ก่อนคลอด

วิธีนับอายุครรภ์ คำนวณอายุครรภ์ด้วยตัวเอง ก่อนคลอด

วิธีการนับอายุครรภ์คืออะไร ทำไมคุณแม่ต้องรู้และวิธีคำนวณอายุครรภ์ที่ถูกต้อง นับแบบไหนได้บ้าง เพื่อให้คุณแม่วางแผนการคลอดและติดตามพัฒนาการของลูกในครรภ์ได้อย่างแม่นยำ

แผลฝีเย็บหลังคลอด ดูแลอย่างไรให้ปลอดภัย แผลหายเร็ว

แผลฝีเย็บหลังคลอด ดูแลอย่างไรให้ปลอดภัย แผลหายเร็ว

แผลฝีเย็บหลังคลอด ดูแลอย่างไรให้ปลอดภัย แผลหายเร็ว

ฤกษ์ดีผ่าคลอด ปี 2565

ฤกษ์ผ่าคลอด 2565 ฤกษ์คลอด ฤกษ์มงคล เสริมดวงลูกรัก

ฤกษ์ดีผ่าคลอด ปี 2565 การกำหนด ฤกษ์ผ่าคลอด หรือ ฤกษ์คลอด ควรทำควบคู่ไปกับการขอรับคำปรึกษาจากแพทย์ผู้ทำคลอดด้วย เพราะหากผู้ปกครองดื้อรั้นกำหนดวันคลอดเองโดยไม่ได้รับความเห็นชอบจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ นอกจากจะไม่ได้รับอนุญาตให้คลอดในวันดังกล่าวแล้ว ยังอาจมีผลกระทบต่อสุขภาพของคุณแม่และทารกในครรภ์ไปตลอดชีวิตอีกด้วย

นมสูตร 3 สำหรับเด็กอายุ 1 ปีขึ้นไป พร้อมสารอาหารสำคัญสำหรับลูก

นมสูตร 3 สำหรับเด็กอายุ 1 ปีขึ้นไป พร้อมสารอาหารที่สำคัญสำหรับลูก

นมสูตร 3 มีสารอาหารที่สำคัญและมีประโยชน์สำหรับเด็กอายุ 1 ปีขึ้นไป นมผงสูตร 3 อุดมไปด้วยคุณค่าทางสารอาหาร อย่างสฟิงโกไมอีลิน ช่วยให้ลูกสมองดี เติบโตได้อย่างสมวัย

ผ่าคลอดดีไหม ผ่าคลอดเจ็บไหม ดูแลแผลผ่าคลอดอย่างไร

ผ่าคลอดดีไหม ผ่าคลอดเจ็บไหม ดูแลแผลผ่าคลอดอย่างไร

ไขข้อสงสัยเกี่ยวกับการ ผ่าคลอด พร้อมคำแนะนำต่างๆ เพื่อเตรียมพร้อมให้คุณแม่มั่นใจเมื่อผ่าคลอด

เทคนิคพัฒนาสมอง เสริมสร้างศักยภาพให้ลูกน้อยฉลาด พร้อมเรียนรู้

เทคนิคพัฒนาสมอง เสริมสร้างศักยภาพให้ลูกน้อยฉลาด พร้อมเรียนรู้

สมองของลูกน้อยมีพัฒนาการ ตลอดเวลาตั้งแต่อยู่ในท้องของคุณแม่ 1000 วันแรก เป็นช่วงเวลาทอง ที่คุณแม่สามารถช่วยพัฒนาสมองลูกน้อยได้อย่างไม่มีขีดจำกัด