ISOFIX คืออะไร จำเป็นสำหรับการติดตั้งคาร์ซีทเด็กไหม

ISOFIX คืออะไร จำเป็นสำหรับการติดตั้งคาร์ซีทเด็กไหม

ที่นั่งพิเศษสำหรับเด็กในรถยนต์ หรือคาร์ซีท (Car Seat) ซึ่ง กฎหมายบังคับให้เด็กเล็กอายุน้อยกว่า 6 ปี ต้องนั่งคาร์ซีท เพื่อป้องกันการเกิดอันตรายจากอุบัติเหตุขณะนั่งอยู่ในรถยนต์ สงสัยกันหรือไม่ว่า ทำไมต้องใช้คาร์ซีทระบบ ISOFIX บทความนี้จะมาไขข้อสงสัยเกี่ยวกับคาร์ซีทระบบ ISOFIX ให้ได้ทราบกัน

ISOFIX คืออะไร จำเป็นสำหรับการติดตั้งคาร์ซีทเด็กไหม

สรุป

  • ISOFIX หรือที่เรียกว่า International Standards Organization Fix คือระบบติดตั้งเบาะนั่งรถยนต์ที่ได้มาตรฐานสากล โดยจะล็อคเบาะนั่งรถยนต์หรือฐานเบาะนั่งรถยนต์เข้ากับคลิปโลหะ 2 อัน (จุดยึด ISOFIX)
  • ISOFIX Car Seat เป็นระบบติดตั้งเบาะนิรภัยที่จะใช้กับเด็กตั้งแต่แรกเกิดถึงอายุ 4 ปี สำหรับเบาะนั่งนิรภัยแบบ ISOFIX เด็ก ๆ จะมีสายรัดนิรภัยยึดทั้งหมด 5 จุด
  • ISOFIT Car Seat เป็นระบบติดตั้งเบาะนิรภัยที่จะใช้กับเด็กอายุ 4 ปีขึ้นไปจนถึงเด็กโต สำหรับเบาะนั่งแบบ ISOFIT จะใช้เข็มขัดนิรภัย 3 จุดของรถยนต์
  • ข้อดีของ ISOFIX คือ ติดตั้งเข้ากับเบาะนิรภัยง่าย และตัวล็อก ISOFIX ทำให้คาร์ซีทติดแน่นกับเบาะรถยนต์ มีความแข็งแรงปลอดภัย

 

เลือกอ่านตามหัวข้อ

 

ISOFIX คืออะไร

ISOFIX มีชื่อเต็มว่า International Standards Organization Fix คือระบบติดตั้งเบาะนั่งรถยนต์ที่ได้มาตรฐานสากล โดยจะล็อคฐานคาร์ซีทให้ยึดติดกับเบาะรถยนต์ ซึ่ง ISOFIX เป็นวิธีการติดตั้งเบาะนั่งเด็ก (Car Seat) ในรถยนต์ที่ปลอดภัยที่สุด ง่ายที่สุด และรวดเร็วที่สุดอย่างถูกต้องโดยไม่ต้องใช้เข็มขัดนิรภัยในรถยนต์

 

ISOFIX Car Seat กับ ISOFIT Car Seat ต่างกันอย่างไร

ISOFIX และ ISOFIT คือระบบยึดติดคาร์ซีท ซึ่งทั้ง 2 ระบบ มีข้อแตกต่างกันในการเลือกใช้ดังต่อไปนี้

  • ISOFIX Car Seat: คือระบบติดตั้งเบาะนั่งนิรภัยสำหรับเด็กที่ติดอยู่กับตัวรถด้วยตัวเชื่อมต่อโดย เบาะนั่งนิรภัยแบบ ISOFIX เด็ก ๆ จะได้รับการยึดด้วยสายรัดนิรภัย 5 จุด ซึ่ง ISOFIX จะใช้กับเด็กตั้งแต่แรกเกิดถึงอายุ 4 ปี
  • ISOFIT Car Seat: คือระบบติดตั้งเบาะนั่งนิรภัยสำหรับเด็กที่ติดอยู่กับตัวรถด้วยตัวเชื่อมต่อ โดยเบาะนั่งแบบ ISOFIT จะใช้เข็มขัดนิรภัย 3 จุดของรถยนต์ และจะใช้กับเด็กอายุตั้งแต่ 4 ปีขึ้นไปจนถึงเด็กโต

 

รูปแบบของ ISOFIX Car Seat

ระบบ ISOFIX คือมาตรฐานสากลในการติดตั้งคาร์ซีท ที่คุณพ่อคุณแม่มั่นใจได้ว่าลูกน้อยจะนั่งรถอย่างปลอดภัยทุกครั้ง การเลือกคาร์ซีทที่เข้ากับระบบ ISOFIX นั้นสำคัญมาก มาทำความรู้จักกับรูปแบบของ ISOFIX Car Seat กัน ดังนี้

  1. Universal: ใช้ติดตั้งคาร์ซีทแบบหันไปทางด้านหน้า (Forward – facing) ที่ใช้ยึดเกาะได้ทั้งส่วนบน (Top tether) กับส่วนล่าง (Foot prop) เข้ากับพื้น ซึ่งรถยนต์รุ่นใหม่ ๆ ในปัจจุบันนิยมใช้การติดตั้งคาร์ซีท รูปแบบนี้
  2. Semi Universal: ใช้ติดตั้งคาร์ซีทได้ทั้งแบบหันไปทางด้านหน้า (Forward – facing) และหันไปทางด้านหลัง (Rearward – facing) ที่ใช้ยึดเกาะได้ทั้งส่วนบน (Top tether) กับส่วนล่าง (Foot prop) เข้ากับพื้น รวมทั้งส่วนของ Connectors ที่เสียบเข้ากับเบาะ
  3. Vehicle Specific: เป็นรูปแบบที่ใช้การยึดเกาะเสียบกับเบาะเฉพาะจุดเดียว สำหรับการติดตั้งต้องตรวจสอบก่อนว่า รถยนต์ที่ใช้อยู่รองรับรูปแบบ Vehicle Specific ด้วยหรือไม่

 

ข้อดีของ ISOFIX Car Seat

การเดินทางกับเด็กเล็กเป็นเรื่องสำคัญที่ต้องคำนึงถึงความปลอดภัยเป็นอันดับแรก มาดูกันว่าข้อดีของ ISOFIX Car Seat นั้นมีอะไรกันบ้าง

  • ISOFIX เป็นระบบติดตั้งเบาะนั่งนิรภัยที่ติดตั้งง่าย สะดวกสบาย
  • การติดตั้งเบาะนั่งนิรภัยสำหรับเด็กในรถยนต์ด้วยระบบ ISOFIX จะทำให้การยึดเกาะของคาร์ซีทมีความแข็งแรง
  • การติดตั้งเบาะนั่งนิรภัยสำหรับเด็กด้วยระบบ ISOFIX สามารถติดตั้งจัดวางคาร์ซีทได้ถูกต้องตรงตำแหน่งมากกว่าการติดตั้งด้วยเข็มขัดนิรภัย

 

ข้อเสียของ ISOFIX Car Seat

สำหรับข้อเสียของระบบติดตั้งนิรภัยแบบ ISOFIX จะไม่ได้ถูกออกแบบไว้ในรถยนต์ทุกรุ่น จะมีเฉพาะกับรถยนต์บางรุ่นเท่านั้น หากคุณพ่อคุณแม่ใช้รถยนต์รุ่นเก่าอาจไม่มีระบบ ISOFIX ติดมากับเบาะนั่งในรถยนต์

 

รถยนต์รุ่นไหนมี ISOFIX

รถยนต์รุ่นที่เริ่มผลิตตั้งแต่ปี 2006 จะเป็นรถยนต์รุ่นใหม่ที่มีระบบ ISOFIX ติดไว้บนเบาะรถยนต์ที่ได้รับรองมาตรฐาน ซึ่งตามกฎหมายในประเทศยุโรป จะกำหนดให้รถยนต์ทุกคันจำเป็นต้องมีจุดสำหรับติดตั้ง คาร์ซีทที่เป็นระบบ ISOFIX ตามมาตรฐานที่กฎหมายกำหนดไว้ตั้งแต่ปี 2011

  • วิธีสังเกตว่ารถยนต์มี ISOFIX: รถยนต์ส่วนใหญ่จะมีจุดยึด ISOFIX ที่ด้านหลังของรถ เนื่องจากเป็นจุดที่ปลอดภัยที่สุดในการติดตั้งเบาะนั่งเด็ก
  • ISOFIX ติดตั้งเพิ่มได้ไหม: ISOFIX หากจะเชื่อมต่อกับตัวคาร์ซีท รถยนต์ที่ใช้จะต้องมี ISOFIX ติดมากับรถยนต์ตั้งแต่แรก สำหรับรถยนต์รุ่นที่ไม่มี ISOFIX จะไม่สามารถติดตั้ง ISOFIX เพิ่มได้ในภายในหลัง

 

วิธีติดตั้ง ISOFIX Car Seat

ปัจจุบันรถยนต์รุ่นใหม่จะมีสัญลักษณ์ ISOFIX อยู่ที่เบาะผู้โดยสารตอนหลังของรถยนต์สำหรับเชื่อมต่อกับคาร์ซีท การติดตั้งมีขั้นตอนไม่ยุ่งยาก สามารถติดตั้งได้ดังนี้

  1. ให้ถอดฝาครอบที่ติดตะขอ ISOFIX ออก และเมื่อถอดออกมาแล้วจะเห็นตะขอล็อกคาร์ซีทอยู่ด้านใน
  2. นำคาร์ซีทวางไว้ที่เบาะหลังด้านที่นั่งสำหรับติดตั้งคาร์ซีทกับระบบ ISOFIX จากนั้นกดเลื่อนขา 2 ข้างที่อยู่ด้านข้างคาร์ซีทออกมาให้สุด เพื่อที่จะล็อกกับ ISOFIX
  3. จากนั้นให้หันขาทั้ง 2 ข้างเข้าไปที่เบาะรถ สังเกตตรงขีดที่เป็นสัญลักษณ์สีแดง เมื่อวางขาทั้งสองข้าง ตรงกับตัวเชื่อม แล้วให้เลื่อนคาร์ซีทเข้าไป เมื่อขึ้นสัญลักษณ์สีเขียว แสดงว่าคาร์ซีทได้ติดกับระบบ ISOFIX เรียบร้อย

 

คำแนะนำในการเลือก Car Seat ให้ลูก

คาร์ซีท (Car Seat) หรือที่นั่งนิรภัย คืออุปกรณ์เสริมของที่นั่งหรือเบาะสำหรับเด็กในรถยนต์ ซึ่งมีความสำคัญอย่างมาก เพราะจะทำหน้าที่ในการปกป้องและป้องกัน ความรุนแรงหรืออันตรายเมื่อเกิดอุบัติเหตุขึ้น ลดโอกาสการเสียชีวิตจากการเดินทางด้วยรถยนต์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ สำหรับการเลือกซื้อคาร์ซีท มีข้อแนะนำดังนี้

1. เลือกคาร์ซีทที่ผ่านการรับรองมาตรฐาน

คาร์ซีทที่ได้รับรองมาตรฐานสากล มีอยู่ 3 รูปแบบ คือ FMVSS 213 มาตรฐานสำหรับคาร์ซีทของประเทศสหรัฐอเมริกา ECE R44/04 มาตรฐานสำหรับคาร์ซีทของสหภาพยุโรป และ ECE R129 (i-Size) มาตรฐานใหม่ล่าสุดสำหรับคาร์ซีทของสหภาพยุโรป ก่อนซื้อคาร์ซีท ให้คุณพ่อคุณแม่สังเกตดูจากป้ายที่ติดไว้บนคาร์ซีท

 

2. เลือกคาร์ซีทให้เหมาะกับอายุและส่วนสูงของลูก

สำหรับคาร์ซีทจะมีทั้งหมด 4 แบบ ได้แก่ คาร์ซีทแบบนั่งหันหน้าเข้าหาเบาะ (Rear – Facing Seat) เหมาะสำหรับเด็กอายุ 0 ถึง 15 เดือน คาร์ซีทแบบผสม (Combination Seat) เป็นคาร์ซีทที่สามารถปรับหันไปทางด้านหน้าหรือหันไปทางด้านของหลังรถก็ได้ เหมาะสำหรับเด็กอายุแรกเกิด ถึง 6 ปี คาร์ซีทแบบหันไปทางเดียวกับเบาะหน้า (Forward – Facing Seat) เหมาะสำหรับเด็กอายุ 9 เดือน ถึง 11 ปี และคาร์ซีทแบบมีพนักพิงหลัง (High backed Booster Seat) เหมาะหรับเด็กที่มีอายุ 4 ถึง 12 ปี

 

3. เลือกคาร์ซีทที่มีกันกระแทกด้านข้าง

เพื่อการป้องกันอย่างดีที่สุดให้กับลูกน้อยขณะนั่งโดยสารในรถยนต์ คาร์ซีทที่ใช้ควรมีด้านข้างที่แข็งแรงสำหรับป้องกันอุบัติเหตุจากการชนกระแทกจากทางด้านข้าง

 

4. เลือกคาร์ซีทที่มีระบบรัดเข็มขัด 5 จุด (5-Points harness)

เป็นคาร์ซีทที่มีความปลอดภัยอย่างมาก เพราะจะมีจุดล็อกเข็มขัด 5 จุด คือ รัดที่ไหล่ 2 เส้นของแต่ละข้าง รัดเอว 2 เส้น และผ่านระหว่างขาอีก 1 เส้น ซึ่งจุดล็อกทั้งหมดจะมาบรรจบกันที่ตรงกลางลำตัวของลูก

 

5. เลือกซื้อคาร์ซีทศูนย์ไทย

เพื่อให้สะดวกในการเคลม และส่งซ่อมคาร์ซีทได้ง่าย หากคาร์ซีทเกิดปัญหาจากการใช้งาน

 

ระบบ ISOFIX คือมาตรฐานสากลในการติดตั้งคาร์ซีท ที่ได้รับการยอมรับทั่วโลก เนื่องจากเป็นระบบที่ช่วยให้คาร์ซีทยึดติดเข้ากับตัวรถได้อย่างแข็งแรงและปลอดภัย ซึ่งการเลือกใช้คาร์ซีทที่มีระบบ ISOFIX เป็นทางเลือกที่ดีที่สุดสำหรับคุณพ่อคุณแม่ ที่ต้องการให้ลูกน้อยเดินทางอย่างปลอดภัย เพราะนอกจากจะติดตั้งง่าย รวดเร็วแล้ว ยังช่วยลดความเสี่ยงจากอุบัติเหตุได้อย่างมีประสิทธิภาพ และเพื่อให้การเดินทางสนุกไม่น่าเบื่อ คุณแม่สามารถหากิจกรรมการเล่นอย่างโปรแกรม PlayBrain ไว้เล่นเสริมทักษะ ช่วยพัฒนาสมองการเรียนรู้ให้กับลูกน้อยได้ สามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่นี่ https://www.s-momclub.com/playbrain

 

บทความแนะนำสำหรับคุณแม่มือใหม่

 

อ้างอิง:

  1. ผู้ปกครองต้องรู้ ! คาร์ซีทมีผลบังคับใช้แล้ว ถ้าไม่มีต้องปฏิบัติตามสามข้ออย่างเคร่งครัด กรมประชาสัมพันธ์
  2. The Real Easy Guide To ISOFIX, ARRIVE ALIVE
  3. What is ISOFIX?, MAXI.COSI
  4. ISOfix vs. ISOfit? The mind boggles…, Erfmission
  5. ISOFIX คืออะไร สำคัญกับคาร์ซีทอย่างไร, BABY
  6. ระบบ ISOFIX ในคาร์ซีท (Car Seat) คืออะไร, Britax Thailand
  7. วิธีการติดตั้ง Car Seat แบบ ISOFIX อย่างถูกต้อง, HONDA MASUK
  8. รวมเหตุผลง่าย ๆ ว่าทำไมเด็กต้องใช้ Car Seat, มหาวิทยาลัยมหิดล
  9. เลือกคาร์ซีทอย่างไร?…ให้ปลอดภัย, สภาองค์กรของผู้บริโภค

อ้างอิง ณ วันที่ 25 พฤศจิกายน 2567