ชีสมีไขมันและแคลอรีค่อนข้างสูงค่ะ ถ้าทานในปริมาณที่พอเหมาะก็จะให้ประโยชน์มากกว่าโทษค่ะ แต่ถ้าทานเยอะเกินไปก็อาจทำให้น้ำหนักตัวเพิ่มขึ้นได้ง่ายค่ะ หัวใจสำคัญคือการทานอย่างสมดุล

ทานได้เช่นกันค่ะ แต่แนะนำให้ทานในปริมาณที่จำกัดนะคะ เพราะปลาทูน่าเป็นปลาใหญ่ที่อาจมีสารปรอทสะสมอยู่บ้างค่ะ การทานสลับกับปลากระป๋องที่ทำจากปลาตัวเล็กอย่างปลาซาร์ดีน

ตัวเนื้อปลาในกระป๋องไม่ได้เป็นอันตรายโดยตรงค่ะ แต่สิ่งที่ต้องระวังคือ "ปริมาณโซเดียม" ที่สูงมากในน้ำซอส ซึ่งอาจทำให้คุณแม่ตัวบวมหรือความดันสูงได้ และอีกเรื่องคือความสะอาดจากการเลือก

เคล็ดลับง่ายๆ เลยค่ะคุณแม่: 1) เลือกระป๋องที่สภาพสวยงาม ไม่บุบ ไม่มีสนิม 2) มีเครื่องหมาย อย. และยังไม่หมดอายุ 3) ก่อนทานให้นำไปอุ่นหรือปรุงให้ร้อนอีกครั้งเพื่อความมั่นใจ และ 4)

ทานได้เลยค่ะ เป็นมื้อเช้าที่สะดวกและอร่อยดีค่ะ แต่มีข้อควรระวังนิดนึงคือ "อย่าปิ้งจนไหม้เกรียม" นะคะ เพราะส่วนที่ไหม้ๆ อาจมีสารที่ไม่ดีต่อสุขภาพได้ค่ะ ปิ้งแค่พอเหลืองกรอบกำลังดีจะดีที่สุดค่ะ

ถ้าเป็นขนมปังโฮลวีท คุณแม่อาจจะทานได้วันละ 2-4 แผ่นค่ะ ขึ้นอยู่กับความต้องการพลังงานของคุณแม่แต่ละท่านค่ะ แนะนำให้ทานคู่กับโปรตีนดีๆ เช่น ไข่ หรืออะโวคาโด จะช่วยให้อิ่มนาน

เป็นคำถามที่ดีมากเลยค่ะคุณแม่! ถ้าเราเลือกทาน "ขนมปังโฮลวีท" ในปริมาณที่พอเหมาะ ก็ไม่น่ากังวลค่ะ แต่ถ้าทาน "ขนมปังขาว" เยอะเกินไป ก็อาจเพิ่มความเสี่ยงได้จริงๆ เพราะมีแป้งขัดขาว

เป็นความเชื่อที่เล่าต่อกันมาสนุกๆ ค่ะคุณแม่! ในทางการแพทย์แล้ว รูปร่างของสะดือที่เปลี่ยนไปเกี่ยวข้องกับสรีระและกล้ามเนื้อหน้าท้องของคุณแม่แต่ละคนเท่านั้น ไม่มีความเกี่ยวข้องกับเพศของลูกน้อย

ไม่เสมอไปค่ะคุณแม่ โดยเฉพาะในคุณแม่ท้องแรก การที่ลูกกลับหัวเป็นเพียงการที่เขาเข้าไป "จองที่" เตรียมพร้อมไว้ก่อนเท่านั้นค่ะ อาจจะอยู่ในท่านั้นไปอีกหลายสัปดาห์กว่าจะถึงวันคลอดจริงก็ได้ค่ะ

เป็นคำถามที่ดีมากเลยค่ะ! สัญญาณที่คุณแม่พอจะสังเกตเองได้คือ จะรู้สึกว่า "หายใจโล่งขึ้น" เพราะยอดมดลูกไม่ดันปอดแล้ว แต่ในทางกลับกันอาจจะรู้สึก "ปวดปัสสาวะบ่อยขึ้น" เพราะหัวของลูกลงไปเบียด

ยังไม่ผิดปกติเลยค่ะคุณแม่ สบายใจได้นะคะ ในช่วง 7 เดือน เขายังมีพื้นที่ในมดลูกให้ตีลังกาเล่นได้สบายๆ อยู่เลยค่ะ เขายังมีเวลาอีกหลายสัปดาห์ที่จะหมุนตัวหาท่าที่เหมาะสมค่ะ

เป็นความกังวลอันดับต้นๆ ของคุณแม่ไตรมาสแรกเลยค่ะ ข่าวดีคือ "ลูกยังได้รับสารอาหารเพียงพอค่ะ" ในช่วง 1-3 เดือนแรกนี้ ทารกในครรภ์ยังมีขนาดเล็ก

"ควรงดไปก่อนค่ะ" เหตุผลหลักไม่ได้อยู่ที่ความเผ็ด แต่เป็นเรื่องของ "ความสะอาดและเชื้อโรค" ค่ะ
ปูดองและปลาร้าดิบ: มีความเสี่ยงสูงมากที่จะมี

คุณแม่ยังพอมีความสุขเล็กๆ น้อยๆ ได้ค่ะ ไม่จำเป็นต้องงดเด็ดขาด 100% ค่ะ คำแนะนำทางการแพทย์ส่วนใหญ่คือ คุณแม่ตั้งครรภ์สามารถบริโภคคาเฟอีนได้

จริงๆ แล้วไม่ได้มีอาหารที่ "ห้ามกิน" เด็ดขาดค่ะ แต่มีอาหารบางอย่างที่ควร "เลี่ยง" การกินพร้อมกับยาบำรุงเลือดค่ะ เช่น นม, ชีส, โยเกิร์ต, และเครื่องดื่มอย่างชาหรือกาแฟค่ะ เพราะแคลเซียม

ไม่จำเป็นเลยค่ะ! การเจาะน้ำคร่ำเป็นการตรวจวินิจฉัยเพิ่มเติมที่คุณหมอจะแนะนำสำหรับคุณแม่ที่มีความเสี่ยงบางอย่างเท่านั้นค่ะ เช่น คุณแม่ที่อายุ 35 ปีขึ้นไป, มีประวัติครอบครัวเป็นโรคทางพันธุกรรม

เป็นคำถามที่คุณแม่กังวลใจกันมากค่ะ ปัจจุบันการเจาะน้ำคร่ำถือเป็นหัตถการที่มีความปลอดภัยสูงมากค่ะ เพราะคุณหมอจะใช้อัลตราซาวด์ดูตำแหน่งของลูกน้อยตลอดเวลาเพื่อไม่ให้เข็มไปโดนตัวน้องค่ะ

ใช่แล้วค่ะ! เป็นเรื่องมหัศจรรย์มากเลย รสชาติต่างๆ จากอาหารที่คุณแม่ทานจะสามารถผ่านเข้าไปในน้ำคร่ำได้ และเมื่อลูกน้อยฝึกกลืนน้ำคร่ำ เขาก็จะได้เรียนรู้รสชาติเหล่านั้นไปด้วยค่ะ

ใช่แล้วค่ะ! เป็นเรื่องมหัศจรรย์มากเลย รสชาติต่างๆ จากอาหารที่คุณแม่ทานจะสามารถผ่านเข้าไปในน้ำคร่ำได้ และเมื่อลูกน้อยฝึกกลืนน้ำคร่ำ เขาก็จะได้เรียนรู้รสชาติเหล่านั้นไปด้วยค่ะ

ได้ยินชัดเลยค่ะคุณแม่! เหมือนมีผู้ฟังตัวน้อยๆ อยู่ในท้องเลยค่ะ เขาจะเริ่มได้ยินเสียงต่างๆ ชัดเจนขึ้นประมาณเดือนที่ 6 ของการตั้งครรภ์ค่ะ การที่คุณแม่พูดคุย ร้องเพลง หรือเล่านิทานให้เขาฟังบ่อยๆ