คุณแม่สามารถเริ่มเปลี่ยนจากการใช้เครื่องปั่นมาเป็นการใช้ส้อมบดอาหารแทนได้เลยค่ะ เนื้อสัมผัสที่ได้จะมีความหยาบมากขึ้นแต่ยังคงความนิ่มอยู่ นอก

ได้ค่ะ อาหารสามารถช่วยได้ โดยคุณแม่สามารถเตรียมอาหารลักษณะแท่ง (Finger Foods) ที่มีความนิ่มแต่แน่นพอให้ลูกใช้เหงือกนวดได้ เช่น แตงกวาแช่เย็น

ได้ค่ะ นอกจากข้าวหอมมะลิแล้ว ยังสามารถใช้ข้าวกล้องซึ่งมีใยอาหารสูง หรือใช้ข้าวโอ๊ตเป็นฐานในการทำโจ๊กได้ ซึ่งเป็นทางเลือกที่ดีในการเพิ่มความ

ให้สังเกตจากสัญญาณของลูกเป็นหลักแทนการยึดติดกับปริมาณที่กำหนดไว้ หากลูกอิ่มแล้ว เขาจะเริ่มแสดงอาการ เช่น หันหน้าหนี, เม้มปากแน่น, ปัดช้อนทิ้ง

เด็กวัย 9 เดือนสามารถเริ่มดื่มน้ำเปล่าได้ โดยควรให้ในปริมาณเล็กน้อยประมาณ 2–4 ออนซ์ต่อวัน ระหว่างหรือหลังมื้ออาหาร เพื่อช่วยเรื่องการขับถ่าย

ควรจัดอาหารมื้อหลัก 3 มื้อ (เช้า, กลางวัน, เย็น) และอาจมีมื้อว่าง 1-2 มื้อ โดยเว้นระยะห่างจากการให้นมประมาณ 1-2 ชั่วโมง เพื่อไม่ให้ลูกอิ่มนม

อาหารที่เก็บในตู้เย็นช่องธรรมดาควรใช้ให้หมดภายใน 2 วัน

ควรอย่างยิ่งค่ะ! นี่คือช่วงเวลาทองของการเตรียมความพร้อมเลยค่ะ:
เริ่มทานกรดโฟลิก (Folic Acid) ทันที: ไม่ต้องรอให้ตรวจเจอว่าท้องนะคะ การทาน

เป็นเรื่องปกติของพัฒนาการในวัยนี้ที่ลูกจะเริ่มมีความชอบหรือไม่ชอบเป็นของตัวเอง คุณพ่อคุณแม่ไม่ควรบังคับ แต่ให้ลองเสนออาหารนั้นซ้ำอีกในโอกาส

ควรเตรียมอาหารที่มีเนื้อสัมผัสนิ่ม สามารถละลายได้ง่ายในปาก และหั่นเป็นชิ้นขนาดพอดีคำ หรือหั่นเป็นแท่งยาวเพื่อให้ลูกฝึกใช้มือกำและกัดแทะได้

เป็นคำถามที่ดีมากและเป็นจุดที่ทำให้คุณแม่มือใหม่สับสนที่สุดค่ะ! ในทางการแพทย์ การนับอายุครรภ์จะเริ่มนับจาก "วันแรกของประจำเดือนครั้งสุดท้าย"

ปกติมากค่ะ และเป็นสัญญาณที่ดีมากด้วย! การสะอึกของทารกในครรภ์คือการที่เขากำลัง "ฝึกหายใจ" ค่ะ เป็นการขยับกล้ามเนื้อกะบังลมขึ้นลงเพื่อเตรียม

วัย 10 เดือนเป็นวัยที่สามารถเริ่มฝึกได้ โดยคุณแม่อาจจะให้ช้อนสำหรับเด็กในมือลูก 1 คัน ส่วนคุณแม่ใช้ช้อนอีกคันในการป้อน เพื่อให้ลูกได้คุ้นเคย

คุณแม่ไม่ได้คิดไปเองค่ะ อาการเหล่านี้ "เกิดขึ้นจริง" แต่ยัง "บอกไม่ได้ว่าท้อง" ค่ะ!
เหตุผลคือ: อาการเจ็บคัดเต้านม, อ่อนเพลีย, หรืออารมณ์แปร

สามารถทานได้ค่ะ นอกจากปลาและไก่แล้ว คุณแม่สามารถเริ่มให้ลูกลองทานเนื้อหมูหรือเนื้อวัวที่นำไปต้มจนเปื่อยแล้วบดหรือสับให้ละเอียดได้เช่นกัน

คุณแม่สามารถยื่นช้อนสำหรับเด็กให้ลูกถือในทุกมื้ออาหาร เพื่อให้เขาคุ้นเคยและลองตักเอง ควบคู่ไปกับการเตรียมอาหารที่หยิบจับง่าย (Finger Food)

เป็นช่วงเวลาที่ดีในการเริ่มฝึกค่ะ คุณแม่สามารถตักแบ่งอาหารจากเมนูของผู้ใหญ่ให้ลูกได้ โดยต้องทำก่อนที่จะปรุงรสจัดจ้านเสมอ อาหารสำหรับลูกควร

นอกจากผลไม้สดหั่นชิ้นแล้ว คุณแม่สามารถให้โยเกิร์ตรสธรรมชาติ, ชีสชนิดอ่อนหั่นเต๋าเล็กๆ, มันเทศหรือฟักทองนึ่งหั่นแท่ง, หรือขนมปังโฮลวีทนิ่มๆ

ควรเริ่มให้ไข่ขาวที่ปรุงสุกเต็มที่ในปริมาณน้อยมากๆ (เช่น ปลายช้อนชา) ผสมกับอาหารที่ลูกคุ้นเคย จากนั้นสังเกตอาการแพ้ เช่น ผื่นคัน ปากบวม หรือ

เป็นเรื่องปกติที่อาจเกิดขึ้นได้ คุณแม่ไม่ควรบังคับ แต่ให้ลองเปลี่ยนเมนู สลับวัตถุดิบ หรือปรับเนื้อสัมผัสให้มีความน่าสนใจมากขึ้น ลองเว้นระยะ

ปลาที่แนะนำคือ ปลาแซลมอน, ปลาช่อน และปลากะพงขาว เพราะเป็นปลาที่มีโปรตีนคุณภาพดี ย่อยง่าย และอุดมไปด้วยโอเมก้า 3, EPA และ DHA ซึ่งเป็นกรดไขมัน

เป็นอาการที่พบได้บ่อยในช่วงนี้ค่ะ สาเหตุไม่ได้มาจากน้ำหนักท้องเพียงอย่างเดียว แต่เกิดจาก:
การเปลี่ยนแปลงของจุดศูนย์ถ่วง: มดลูกที่เริ่มขยาย

ปกติมากค่ะ และเป็นสัญญาณที่ดีมากด้วย! การที่ลูกดิ้นแรงและบ่อยขึ้นในช่วงนี้ แสดงว่าเขามีกล้ามเนื้อที่แข็งแรงและมีสุขภาพดีค่ะ ส่วนการที่มักจะด