อาการแพ้แลคโตสทารก เกิดจากอะไร พร้อมวิธีป้องกันเมื่อลูกแพ้

อาการแพ้แลคโตสทารก เกิดจากอะไร พร้อมวิธีป้องกันเมื่อลูกแพ้

14.12.2023

เพราะเรื่องโภชนาการ อาหารการกิน คือเรื่องสำคัญของลูกที่คุณแม่ทุกคนต้องใส่ใจเป็นพิเศษ แต่บางทีเวลาให้ลูกกินนม แล้วลูกเกิดอาการผิดปกติเช่น ท้องเสีย ถ่ายเหลว ท้องอืด นั่นอาจเป็นสัญญาณของอาการผิดปกติที่มีชื่อว่า อาการแพ้แลคโตส ซึ่งเป็นเรื่องที่เราจะมาทำความรู้จักไปพร้อม ๆ กัน ว่ามีสาเหตุเกิดจากอะไร มันคืออะไร และคุณพ่อคุณแม่จะรับมือมันอย่างไรได้บ้าง

headphones

PLAYING: อาการแพ้แลคโตสทารก เกิดจากอะไร พร้อมวิธีป้องกันเมื่อลูกแพ้

อ่าน 5 นาที

 

สรุป

  • อาการแพ้แลคโตสทารกหรือภาวะการย่อยแลคโตสบกพร่อง คือ ภาวะผิดปกติของร่างกายที่ไม่สามารถย่อยน้ำตาลแลคโตสได้ เนื่องจากขาดแคลนเอนไซม์แลคเตส หรือไม่สามารถผลิตเอนไซม์แลคเตสได้เพียงพอ
  • อาการแพ้แลคโตสทารก  มีอาการผิดปกติได้หลากหลาย เช่น ถ่ายเหลว คลื่นไส้ อาเจียน ท้องมีลมเยอะ ท้องอืด เป็นต้น
  • อาการแพ้แลคโตสทารก ไม่ใช่อาการแพ้นมวัว เป็นคนละโรคกัน การดูแลรักษาก็ต่างกัน ควรพาไปพบแพทย์เพื่อวินิจฉัยและทำการรักษาให้ถูกโรค

 

เลือกอ่านตามหัวข้อ

 

อาการแพ้แลคโตสคืออะไร

อาการแพ้แลคโตส (Lactose Intolerance) หรือ ภาวะการย่อยแลคโตสบกพร่อง แท้จริงแล้วคือ ภาวะผิดปกติอย่างหนึ่งของร่างกาย ที่เกิดจากการที่ไม่สามารถทนต่อการรับประทานน้ำตาลแลคโตสได้ เนื่องจากร่างกายขาดแคลนเอนไซม์แลคเตส หรือมีไม่มากพอที่จะทำการย่อยน้ำตาลแลคโตสได้ โดยปกติแล้วเมื่อทานนมเข้าไป เซลล์เยื่อบุลำไส้เล็กจะ ผลิตเอนไซม์แลคเตส (Lactase) ออกมาเพื่อย่อยน้ำตาลแลคโตส ที่เป็นน้ำตาลโมเลกุลคู่ให้เป็นน้ำตาลโมเลกุลเดี่ยว เพื่อให้ร่างกายดูดซึมน้ำตาลเข้าสู่ผิวบุผนังลำไส้ แล้วเปลี่ยนเป็นพลังงานให้แก่ร่างกายได้ง่ายยิ่งขึ้น ซึ่งน้ำตาลแลคโตสนี้ เป็นส่วนประกอบสำคัญที่พบได้มากในน้ำนมของสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม เช่น น้ำนมวัว น้ำนมแม่ ดังนั้นเด็กที่มีอาการแพ้แลคโตส ก็มักจะเกิดอาการผิดปกติเมื่อรับประทานนมวัวนั่นเอง

 

สาเหตุที่ทำให้ลูกเกิดอาการแพ้แลคโตส

สาเหตุสำคัญที่ส่งผลให้ลูกเกิดอาการแพ้น้ำตาลแลคโตสทารก นั้นแบ่งออกได้เป็น 3 ประเภทใหญ่ได้แก่

  • ภาวะพร่องหรือขาดแคลนเอนไซม์แลคเตส เกิดจากการที่ผนังลำไส้เล็กนั้นผลิตเอนไซม์แลคเตสได้น้อยลงเรื่อย ๆ ตามวัยที่มากขึ้น ส่งผลให้เกิดปัญหาเมื่อรับประทานนมเมื่ออายุมากขึ้น
  • ภาวะขาดเอนไซม์แลคเตสตั้งแต่เกิด ถือเป็นความผิดปกติทางกรรมพันธุ์ และพบอาการได้ตั้งแต่ยังเป็นเด็ก
  • ภาวะขาดเอนไซม์แลคเตสหลังการอักเสบติดเชื้อของลำไส้ เพราะว่าผนังลำไส้เล็กที่เป็นแหล่งผลิตของเอนไซม์แลคเตสเกิดความเสียหาย หรือถูกทำลาย ทำให้การผลิตเอนไซม์แลคเตสของร่างกายนั้นลดลงชั่วคราว
  • เด็กคลอดก่อนกำหนดมักมีอาการ ภาวะการย่อยแลคโตสบกพร่องเนื่องจากระบบทางเดินอาหารของเด็กยังเติบโตไม่เต็มที่ ทำให้มีปัญหาเกี่ยวกับลำไส้เล็กจนนำไปสู่ภาวะดังกล่าวได้

 

อาการภาวะย่อยแลคโตสบกพร่องเป็นแบบไหน

เมื่อน้ำตาลแลคโตสไม่ถูกทำให้ย่อย จึงเกิดการหมักจากแบคทีเรีย ที่อยู่ในลำไส้ใหญ่ ทำให้เกิดการสร้างกรดและแก๊สในท้องจนเป็นเหตุให้เกิดอาการต่าง ๆ เพื่อให้คุณพ่อคุณแม่สามารถเตรียมตัวรับมือได้ทัน ก็ควรรู้อาการของลูกเมื่อเกิดภาวะย่อยแลคโตสบกพร่อง ซึ่งมักจะแสดงอาการผิดปกติออกมาดังต่อไปนี้

 

อาการแพ้แลคโตสทารก เกิดจากอะไร พร้อมวิธีป้องกันเมื่อลูกแพ้

 

ลูกมีอาการย่อยแลคโตสบกพร่อง ควรทำอย่างไร

หากสังเกตอาการแล้วพบว่า ลูกมีอาการเข้าข่ายอาการย่อยแลคโตสบกพร่อง แนะนำให้คุณพ่อคุณแม่พาลูกน้อยไปพบแพทย์ เพื่อรับการรักษา และรับคำแนะนำในการเลี้ยงดูที่เหมาะสม นอกจากนี้คุณพ่อคุณแม่ต้องทำความเข้าใจกับภาวะความผิดปกติของลูก เพื่อปรับเปลี่ยนวิธีการดูแลในเรื่องของโภชนาการให้เหมาะสมกับสภาพร่างกายของลูก

 

ภาวะย่อยแลคโตสผิดปกติไม่ใช่อาการแพ้นมวัว

เป็นเรื่องสำคัญอย่างยิ่งที่คุณพ่อคุณแม่ควรทำความเข้าใจให้ชัดเจน ว่าภาวะย่อยแลคโตสผิดปกติหรืออาการแพ้แลคโตสทารกนั้น ไม่ใช่อาการแพ้นมวัว เป็นคนละโรคกัน ดังนั้นวิธีการดูแล ป้องกัน รวมถึงการรักษานั้น ย่อมแตกต่างกันไป ดังนั้น หากเกิดความผิดปกติที่ไม่แน่ใจว่าเป็นอาการไหนกันแน่ คุณพ่อคุณแม่ควรพาลูกไปพบแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เพื่อทำการตรวจวินิจฉัยโรคที่ถูกต้อง จากนั้นจึงค่อยเตรียมตัวรับมือ และดูแลลูกน้อยตามอาการของโรคที่ถูกวินิจฉัยแล้ว

 

ภาวะย่อยแลคโตสบกพร่อง แตกต่างกับ ภาวะแพ้นมยังไง

ในตอนนี้คุณพ่อคุณแม่ก็ได้รู้แล้วว่า ภาวะย่อยแลคโตสบกพร่องหรืออาการแพ้แลคโตสทารกนั้น เกิดจากการที่ร่างกายขาดแคลนเอนไซม์แลคเตสซึ่งเป็นเอนไซม์ที่ช่วยให้ร่างกายสามารถย่อยน้ำตาลแลคโตสได้ แต่ภาวะแพ้นม หรือโรคแพ้โปรตีนนมวัวนั้น ไม่ใช่โรคเดียวกันกับ ภาวะย่อยแลคโตสบกพร่อง มีความแตกต่างคือ ภาวะแพ้นมนั้นเกิดจากการที่ร่างกายของลูกมีปฏิกิริยาทางภูมิคุ้มกันต่อโปรตีนในนมวัว จนแสดงอาการแพ้ออกมา ซึ่งมีความรุนแรงในหลากหลายระดับ เช่น การเกิดผื่นลมพิษตามผิวหนัง การเกิดความผิดปกติต่อระบบทางเดินหายใจเช่น น้ำมูกไหล หอบ หรือเกิดความผิดปกติต่อระบบทางเดินอาหารเช่น อาเจียน ถ่ายเหลวเฉียบพลัน เป็นต้น

 

ภาวะการย่อยแลคโตสผิดปกติอันตรายหรือไม่

เมื่อขึ้นชื่อว่า ภาวะผิดปกติต่อร่างกายแล้วนั้น ย่อมมีอันตรายต่อร่างกายของลูกหากไม่ได้รับการดูแลรักษา และเตรียมตัวรับมืออย่างเหมาะสม เพราะภาวะการย่อยแลคโตสผิดปกติหรืออาการแพ้แลคโตสทารกนั้น จะก่อให้เกิดอาการต่าง ๆ ที่ไม่ดีต่อร่างกายลูก เช่น ปวดท้อง ไม่สบายท้อง ถ่ายเหลว อาเจียน คลื่นไส้ อาจส่งผลให้น้ำหนักตัวลด เกิดภาวะทุพโภชนาการหากไม่ได้รับการดูแล ซึ่งแน่นอนว่าจะส่งผลต่อพัฒนาการโดยรวมของลูกอีกด้วย

 

อาการแพ้แลคโตสทารกและการดูแลลูกน้อย

 

การดูแลลูกที่มีภาวะย่อยแลคโตสผิดปกติทำได้อย่างไร

เมื่อพาลูกไปพบแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ และวินิจฉัยได้แล้วว่า ลูกน้อยของเรามีภาวะย่อยแลคโตสผิดปกติหรืออาการแพ้แลคโตสทารก สิ่งที่คุณแม่ควรทำคือ หลีกเลี่ยงการให้ลูกรับประทานนมวัวที่มีน้ำตาลแลคโตส และปรึกษาแพทย์เกี่ยวกับนมที่เป็นสูตรปราศจากแลคโตส (lactose free) แทน นอกจากนี้คุณหมอเองก็อาจจะพิจารณาให้การดูแลที่เหมาะสมหากมีความจำเป็น ส่วนในกรณีที่ยังเป็นเด็กเล็ก หรือเด็กทารก คุณแม่อาจต้องทำการปั๊มน้ำนมส่วนหน้า ที่เป็นส่วนที่มีปริมาณน้ำตาลแลคโตสสูงออกก่อน และให้ลูกดื่มน้ำนมส่วนหลังแทน

 

อาการแพ้แลคโตสทารกนั้น เป็นเรื่องที่สำคัญต่อพัฒนาการของลูก คุณพ่อคุณแม่จึงควรให้ความสำคัญ ใส่ใจ และหมั่นสังเกตว่าลูกรักของเรามีอาการผิดปกติที่เข้าข่ายหรือไม่ และเมื่อพบว่ามีอาการผิดปกติแล้ว ก็ต้องปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการดูแลลูกให้เหมาะสม เพื่อให้ลูกมีพัฒนาการตามวัยที่ดีอย่างต่อเนื่อง สมวัย

 

บทความแนะนำสำหรับคุณแม่ให้นม

 

 

อ้างอิง:

  1. ไขข้อข้องใจ..โรคแพ้โปรตีนนมวัวและการย่อยแลกโทสบกพร่อง ต่างกันอย่างไร?, โรงพยาบาลพญาไท
  2. แพ้แลคโตส รู้ทันอาการ สาเหตุ และวิธีรับมือ, พบแพทย์
  3. รู้ได้อย่างไรว่าแพ้แลคโตส, โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย
  4. บทความปริทัศน์: การย่อยแลกโทสบกพร่อง, pthaigastro
  5. Lactose intolerance: babies, children and teenagers, raisingchildren

อ้างอิง ณ วันที่ 5 พฤศจิกายน 2566

บทความแนะนำ

ลูกหายใจครืดคราดแต่ไม่มีน้ำมูก เป็นเพราะอะไร เป็นสัญญาณอันตรายไหม

ลูกหายใจครืดคราดแต่ไม่มีน้ำมูก เกิดจากอะไร อันตรายกับลูกน้อยไหม

อาการลูกหายใจครืดคราดแต่ไม่มีน้ำมูก เกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ คุณพ่อคุณแม่ควรหมั่นสังเกตอาการของลูกน้อยให้ดี เมื่อลูกหายใจครืดคราดแต่ไม่มีน้ำมูก

ลูกบิดตัวบ่อยหลับไม่สนิท เป็นเพราะอะไร คุณพ่อคุณแม่ต้องดูแลแบบไหน

ลูกบิดตัวบ่อยหลับไม่สนิท เป็นเพราะอะไร คุณพ่อคุณแม่ต้องดูแลแบบไหน

ลูกบิดตัวบ่อยหลับไม่สนิท ทารกนอนหลับไม่สนิทบิดตัวไปมา เกิดจากสาเหตุอะไร ปัญหาที่สร้างความกังวลใจให้คุณพ่อคุณแม่ ลูกบิดตัวบ่อยหลับไม่สนิท อันตรายหรือเปล่า ไปดูกัน

โรคซางในเด็กเล็กมีจริงไหม เกิดจากอะไร ดูแลและป้องกันได้หรือเปล่า

โรคซางในเด็กเล็กมีจริงไหม เกิดจากอะไร ดูแลและป้องกันได้หรือเปล่า

โรคซางในเด็กเล็ก เกิดจากสาเหตุอะไร หากลูกของคุณแม่มีอาการเหมือนจะเป็นโรคซาง มีไข้ เบื่ออาหาร หรือน้ำหนักลด คุณแม่ควรเฝ้าดูอาการและรีบพาไปพบแพทย์ทันที

วัคซีนเด็กแรกเกิด สำคัญแค่ไหน ลูกน้อยต้องฉีดอะไรบ้าง

วัคซีนเด็กแรกเกิด สำคัญแค่ไหน ลูกน้อยต้องฉีดอะไรบ้าง

วัคซีนเด็กแรกเกิดสำคัญกับลูกน้อยแค่ไหน ทำไมควรฉีดวัคซีนเด็กแรกเกิด เพื่อสร้างเกราะป้องกันและเสริมภูมิต้านทานโรคให้ลูก คุณแม่ควรเตรียมตัวให้ลูกน้อยอย่างไร ไปดูกัน

ลูกตัวร้อน ทำอย่างไรดี พร้อมวิธีสังเกตอาการลูกมีไข้ไม่ทราบสาเหตุ

ลูกตัวร้อนอย่างเดียวทำไงดี พร้อมวิธีสังเกตเมื่อลูกตัวร้อนไม่ทราบสาเหตุ

ลูกตัวร้อนอย่างเดียว ลูกตัวร้อนมีไข้ไม่ทราบสาเหตุ เกิดจากอะไร คุณแม่ดูแลลูกน้อยอย่างไรได้บ้าง หากลูกร้องไห้ไม่หยุด อ่อนเพลียและมีอาการอาเจียน

ทารกนอนสะดุ้ง เกิดจากอะไร พร้อมวิธีแก้ลูกนอนสะดุ้งและวิธีรับมือ

ทารกนอนสะดุ้ง เกิดจากอะไร พร้อมวิธีแก้ลูกนอนสะดุ้งและวิธีรับมือ

ทารกนอนสะดุ้ง เป็นภาวะที่เกิดขึ้นได้ คุณพ่อคุณแม่ไม่ต้องกังวลใจไปด้วยวิธีรับมือช่วยให้ลูกนอนหลับสบาย แต่ก็ควรหมั่นสังเกตว่าลูกนอนสะดุ้งถี่มากเกินไปหรือเปล่า

ลูกมีน้ำมูกไหลเป็นน้ำใส ๆ ไม่หยุด ลูกเป็นหวัดน้ำมูกไหลไม่หายสักที

ลูกเป็นหวัดน้ำมูกไหลไม่หายสักที ลูกมีน้ำมูกไหลเป็นน้ำใส ๆ ไม่หยุด

ลูกเป็นหวัดน้ำมูกไหลไม่หายสักที อาการที่บอกว่าลูกกำลังไม่สบาย อาจเกิดจากการที่ลูกเป็นหวัดหรือเป็นภูมิแพ้ ไปดูวิธีดูแลลูกเป็นหวัดน้ำมูกไหลไม่หายสักทีกัน

เลือกระยะการตั้งครรภ์และพัฒนาการเด็ก