วิธีไล่ลมในท้องทารก เมื่อลูกน้อยมีอาการท้องอืด ไม่สบายท้อง

วิธีไล่ลมในท้องทารก เมื่อลูกน้อยมีอาการท้องอืด ไม่สบายท้อง

19.10.2024

วิธีไล่ลมในท้องทารก เมื่อลูกน้อยมีอาการท้องอืด ไม่สบายท้อง ในทารกแรกเกิดนั้น ระบบย่อยอาหารยังทำงานไม่สมบูรณ์ ทำให้เกิดลมในกระเพาะอาหารเมื่อดื่มนม การไล่ลมในท้องทารกหลังดื่มนมจึงเป็นสิ่งสำคัญ นอกจากจะช่วยไล่ลม ลดอาการแน่นท้อง ทำให้ลูกสบายตัวแล้ว ยังเป็นการช่วยป้องกันไม่ให้ลูกท้องอืด ป้องกันภาวะกรดไหลย้อน และโคลิคได้

headphones

PLAYING: วิธีไล่ลมในท้องทารก เมื่อลูกน้อยมีอาการท้องอืด ไม่สบายท้อง

อ่าน 7 นาที

 

สรุป

  • ลูกท้องอืด มีลมในท้อง เกิดจากดูดนมที่ผิดวิธี หรือร้องไห้เป็นเวลานาน ๆ ทำให้กลืนเอาลมเข้าไป ทำให้มีลมมากในกระเพาะอาหาร
  • คุณพ่อคุณแม่สามารถทำการไล่ลมในท้องทารกได้ การไล่ลมช่วยลดอาการท้องอืด ลดการแน่นท้องให้กับลูก ไม่เกิดการแหวะนม
  • ลูกท้องอืดมีลมในท้อง จะทำให้อึดอัดท้อง แน่นท้อง งอแง ดิ้นไปมา ยกขาขึ้นสูงไปทางหน้าท้อง บริเวณท้องของลูกจะป่อง และแข็ง มีลมแน่นอยู่ในกระเพาะ
  • วิธีไล่ลมในท้องทารก ควรอุ้มลูกเรอ ลูบหลังเบา ๆ หรือนวดไล่ลม ทำให้ลูกเรอแล้วค่อยให้ลูกนอน เพื่อเป็นการไล่ลม ช่วยให้ลูกสบายท้อง และป้องกันภาวะกรดไหลย้อนได้

 

เลือกอ่านตามหัวข้อ

 

ทารกมีลมในท้อง เกิดจากอะไร

ลูกท้องอืด มีลมในท้อง เกิดได้จากหลายสาเหตุ เนื่องจากระบบย่อยอาหารในวัยทารกนั้นยังทำงานได้ไม่สมบูรณ์ และสาเหตุต่าง ๆ ที่ทำให้ลูกท้องอืด ไม่สบายท้อง เกิดลมในท้องของลูก มีดังนี้

1. อาการท้องอืดมีลมในท้อง

ลูกน้อยที่มีอาการท้องอืดหลังกินนม เกิดขึ้นได้กับเด็กทารก เพราะวัยทารกนั้นจะดูดนมแม่ แล้วก็นอน ไม่ได้เคลื่อนไหว หรือมีกิจกรรมในแต่ละวันเทียบกับวัยอื่น ๆ จึงทำให้วัยทารกท้องอืดได้

 

2. เด็กทารกที่ต้องดื่มนมแม่ผ่านทางขวดนม

เด็กทารกบางรายที่จำเป็นต้องดื่มนมจากขวด ที่ไม่ได้มีปริมาณน้ำนมที่ท่วมคอขวดตลอด หรือจุกนมที่ไม่พอดีกับปากของทารกเวลาดูด อีกทั้งทารกดื่มนมตลอดเกือบทั้งวัน จึงทำให้ลมเข้าไปในท้องมาก เมื่อทารกกินแล้วนอน จะทำให้ลมนั้นอยู่ในท้องจนทารกหลับไป

 

3. เกิดจากที่ลูกดูดนมเร็ว

ลูกที่ดูดนมเร็วและกลืนน้ำนมรวดเร็ว อาจประสบปัญหาสะสมลมในกระเพาะอาหารมากเกินไป ซึ่งอาจนำไปสู่ความรู้สึกไม่สบายตัวหรือการเจ็บป่วยบางอย่าง เช่น ท้องอืด การเรอ และอาการปวดท้อง

 

4. 3 เดือนแรกหลังคลอดของทารก

ระบบย่อยอาหารนั้นยังทำงานไม่สมบูรณ์ จึงอาจทำให้เกิดแก๊สในกระเพาะอาหารเมื่อดื่มนมได้

 

5. ลูกร้องไห้เป็นเวลานาน

เด็กร้องไห้ไม่หยุด ลูกร้องไห้ไม่มีสาเหตุติดต่อกันนาน ๆ จะทำให้กลืนอากาศเข้าไปมาก ทำให้มีลมในท้องได้

 

เด็กทารกท้องอืด มีลมในท้องเป็นอย่างไร

ลูกท้องอืด มีลมในท้อง จะทำให้ท้องของลูกแข็ง และป่อง มีลมแน่นอยู่ในกระเพาะอาหาร ทำให้ลูกอึดอัด ร้องไห้งอแง ดิ้นตลอดเวลา ยกขาขึ้นสูงไปทางหน้าท้อง กำมือแน่น ใบหน้าเปลี่ยนเป็นสีแดง

 

ทำไมคุณพ่อคุณแม่ ควรไล่ลมในท้องทารก

การไล่ลมในท้องทารก หรือขับลมออกจากกระเพาะอาหารนั้น คุณพ่อคุณแม่สามารถทำเองได้ ด้วยท่าอุ้มเรอ เพื่อเป็นการไล่ลมในท้องของทารก จะช่วยทำให้ทารกท้องไม่อืด สบายท้อง ลดการแน่นท้อง ลดอาการทารกแหวะนม

 

รู้ได้ยังไงว่าลูกมีลมในท้องเยอะ

ลูกมีลมในท้องเยอะ สังเกตได้จากหน้าท้องของทารก เมื่อมีลมในท้องเยอะ ลูกจะมีหน้าท้องแข็ง และป่องขึ้น เนื่องจากมีลมอยู่ในกระเพาะอาหารมาก ประกอบกับลูกมีอาการไม่สบายตัว ร้องไห้งอแง ดิ้น ยกขาไปทางหน้าท้อง เพราะอึดอัดจากลมที่อัดแน่นในท้อง

 

เริ่มไล่ลมในท้องลูกน้อย ตอนอายุเท่าไหร่ดี

คุณพ่อคุณแม่สามารถทำเองได้ตั้งแต่แรกคลอด โดยวิธีไล่ลมในท้องทารกให้เริ่มไล่ลมด้วยการจับลูกเรอทุกครั้งหลังดูดนม เมื่อลูกดูดนมแล้วจะเปลี่ยนไปดูดอีกข้าง คุณแม่ควรจับให้ลูกเรอก่อนประมาณ 3-5 นาที แล้วค่อยเปลี่ยนข้างดูด เมื่อลูกดูดนมจนอิ่มแล้ว ควรอุ้มลูกเรอ ลูบหลังเบา ๆ จนลูกเรอแล้วค่อยให้ลูกนอน เพื่อเป็นการไล่ลมในท้องทารก ช่วยให้ลูกสบายท้อง ป้องกันการเกิดกรดไหลย้อน

 

วิธีไล่ลมในท้องทารก ด้วยการจับเรอทำยังไง

 

วิธีไล่ลมในท้องทารก ด้วยการจับเรอทำยังไง

วิธีไล่ลมในท้องทารก เมื่อลูกน้อยมีอาการท้องอืด ไม่สบายท้อง ด้วยการจับลูกเรอนั้นเป็นวิธีที่ง่ายและได้ผล คุณพ่อคุณแม่ และผู้เลี้ยงดูสามารถทำได้ด้วยตัวเอง โดยวิธีไล่ลมในท้องทารกมีหลายวิธี ดังนี้

  1. วิธีนวดไล่ลมในท้องทารก แบบท่านั่งบนตัก โดยอุ้มลูกนั่งบนตัก ใช้มือสอดประคองบริเวณคางด้านหน้า และหน้าอกของลูกไว้ ใช้มืออีกข้างลูบหลังลูกลง ประมาณ 5-10 นาที
  2. วิธีนวดไล่ลมในท้องทารก แบบท่าอุ้มพาดบ่า แล้วลูบหลังลง ประมาณ 5-10 นาที
  3. ไล่ลมในท้องทารก แบบอุ้มลูกให้คางพักอยู่บริเวณไหล่ของแม่ แล้วใช้มือตบหลังลูกเบา ๆ
  4. วิธีนวดไล่ลมในท้องทารก แบบอุ้มลูกวางบนตักในท่านอนคว่ำ ให้ศีรษะลูกอยู่สูงกว่าลำตัวเล็กน้อย ใช้มือตบหลังลูกเบา ๆ
  5. วิธีนวดไล่ลมในท้องทารก แบบอุ้มลูกวางในท่านอนหงาย จับขาสองข้างของลูกขยับสลับไปมาคล้ายท่าปั่นจักรยานอากาศ
  6. วิธีนวดไล่ลมในท้องทารก แบบอุ้มลูกวางในท่านอนหงาย นวดตรงหน้าท้องลูกเบา ๆ โดยเริ่มจากด้านขวาไปด้านซ้าย

 

3 วิธีไล่ลมในท้องทารก ด้วยวิธีธรรมชาติ

วิธีไล่ลมในท้องทารก เมื่อลูกมีอาการท้องอืด เด็กท้องผูก ไม่สบายท้อง นอกเหนือจากการจับลูกเรอด้วยท่าต่าง ๆ แล้ว ยังมีวิธีธรรมชาติอีกหลายวิธี ที่จะช่วยไล่ลม ขับลมในท้องทารกได้อย่างปลอดภัย ไม่ต้องใช้ยา คุณพ่อคุณแม่สามารถฝึกทำได้ด้วยตัวเองที่บ้าน ดังนี้

1. นวดตัวให้ลูก

การนวดท้องให้ทารกถ่ายหรือนวดตัวทารก จะช่วยไล่ลมในท้องทารกอย่างปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ ควรนวดท้องลูกในช่วงค่ำเพื่อสร้างบรรยากาศที่เงียบ และช่วยให้ลูกนอนหลับ ไม่ควรนวดทันทีหลังลูกกินนมเพราะอาจทำให้อาเจียนได้

 

2. กายบริหารก่อนนอน

อุ้มลูกวางในท่านอนหงาย จับขาสองข้างของลูกทำท่าปั่นจักรยานช้าๆ ดันเข่าของลูกขึ้นไปตรงบริเวณท้องค้างไว้ 10 วินาที เพื่อให้ขาของลูกช่วยดันอากาศที่ติดอยู่ในท้องออกมา

 

3. ให้ลูกดื่มนมแม่

เนื่องจากทารกยังเล็ก ระบบย่อยอาหารยังไม่สมบูรณ์ การดูดซึมอาหาร และการย่อยทำได้ช้า ทำให้เกิดลม เกิดแก๊สในกระเพาะอาหาร ทำให้มีอาการท้องผูกในเด็ก ดังนั้น จึงควรดื่มนมแม่ เพราะในนมแม่มีสารอาหารที่ดีที่สุด มีคุณสมบัติ H.A. (Hypo-Allergenic) โปรตีนในนมแม่บางส่วนได้ถูกย่อยให้มีขนาดเล็กลง (PHP: Partially Hydrolyzed Proteins) ง่ายต่อการดูดซึม นอกจากนี้นมแม่ยังมีสารอาหารที่ช่วยเสริมสร้างพัฒนาการทางสมอง อาทิ DHA ARA แอลฟา-แล็คตัลบูมิน สฟิงโกไมอีลิน รวมไปถึงโพรไบโอติกหลายชนิด เช่น B. lactis (บีแล็กทิส) หนึ่งในจุลินทรีย์สุขภาพสายพันธุ์ที่มีส่วนช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันและลดความเสี่ยงของการเกิดภูมิแพ้บางชนิดได้

 

จะรู้ได้ยังไงว่าไล่ลมในท้องทารกหมดแล้ว

เมื่อจับลูกเรอ ไล่ลมในท้องทารกแล้ว อาการท้องแข็ง ท้องป่อง แน่นท้องนั้นจะหายไป หากไล่ลมในท้องทารกแล้ว ยังไม่เรอภายใน 5 นาที ให้ปรับเปลี่ยนท่าทางการอุ้ม หรือนวดทารกด้วยการจับขาสองข้าง ทำท่าปั่นจักรยาน หากทารกอาการไม่ดีขึ้น มีลมในท้องมาก มีไข้สูงกว่า 38 องศา กินนมแล้วอาเจียน ขับถ่ายเป็นเลือด ท้องร่วง ควรพาไปพบแพทย์เพื่อรับการตรวจวินิจฉัยอย่างละเอียด

 

เมื่อทารกมีอาการแน่นท้อง มีลมในท้อง หากคุณพ่อคุณแม่ใช้วิธีไล่ลมในท้องทารกแล้วอาการไม่ดีขึ้น และมีอาการเหล่านี้ร่วมด้วย เช่น ร้องไห้งอแง แน่นท้อง ท้องอืด ท้องแข็ง มีไข้สูงกว่า 38 องศา อาเจียน หรืออุจจาระมีเลือดปน อาจเป็นการส่งสัญญาณปัญหาทางสุขภาพอื่น ๆ ของลูก ให้รีบพาลูกไปพบแพทย์เพื่อตรวจวินิจฉัยอย่างละเอียด และหาแนวทางรักษาอย่างถูกวิธี

 

บทความแนะนำสำหรับคุณแม่ให้นม

 

 

อ้างอิง:

  1. ท้องอืดในเด็กเล็ก, โรงพยาบาลกรุงเทพ
  2. ท้องอืดในทารก รับมืออย่างไร, Pobpad
  3. ต้องจับลูกเรอหลังกินนมทุกครั้งหรือไม่ ถ้าสะอึกจะทำอย่างไรดี, มูลนิธิศูนย์นมแม่แห่งประเทศไทย
  4. คลินิกนมแม่, คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล
  5. คุณแม่อย่าเผลอ...อย่าลืมให้ลูกเรอหลังกินนม, โรงพยาบาลเด็กสินแพทย์
  6. Have a Gassy Baby? What to Know About Infant Gas, what to expect
  7. How to Give Your Baby a Massage to Relieve Gas, WebMD
  8. วิธีจับลูกเรอ ป้องกันอาการจุดเสียด ท้องอืด ทำได้อย่างไร, HelloKhunmor
  9. นมแม่แก้อาการโคลิก, สถาบันราชานุกูล กรมสุขภาพจิต

อ้างอิง ณ วันที่ 2 สิงหาคม 2567

บทความแนะนำ

เด็กทารกเล่นน้ำลาย คุณแม่ควรห้ามไหม มีผลต่อพัฒนาการอย่างไร

เด็กทารกเล่นน้ำลาย คุณแม่ควรห้ามไหม มีผลต่อพัฒนาการอย่างไร

เด็กทารกเล่นน้ำลาย เกิดจากอะไร เด็กเล่นน้ำลายบ่อย ผิดปกติไหม จะมีผลต่อพัฒนาการของลูกน้อยหรือเปล่า คุณพ่อคุณแม่ควรดูแลลูกน้อยอย่างไร เมื่อลูกชอบเล่นน้ำลาย

เด็กขาโก่ง จำเป็นต้องดัดขาลูกไหม ลูกขาโก่งดูยังไง

เด็กขาโก่ง จำเป็นต้องดัดขาลูกไหม ลูกขาโก่งดูยังไง

เด็กขาโก่ง เกิดจากอะไร ภาวะขาโก่งในเด็ก อันตรายไหม ลูกน้อยขาโก่ง คุณแม่ต้องดัดขาลูกทุกวันหรือเปล่า ลูกขาโก่งดูยังไง ไปดูวิธีสังเกตเด็กขาโก่งและวิธีแก้ไขกัน

แผลฝีเย็บไม่ติดกัน แผลสมานไม่สนิท เกิดจากอะไร

แผลฝีเย็บไม่ติดกัน แผลสมานไม่สนิท เกิดจากอะไร

แผลฝีเย็บไม่ติดกัน เกิดจากอะไรได้บ้าง คุณแม่แผลเย็บหลังคลอดไม่ติด แผลจะอักเสบไหม อันตรายกับคุณแม่หลังคลอดหรือเปล่า พร้อมวิธีดูแลแผลฝีเย็บไม่ติดกัน

เด็กพัฒนาการเร็ว ลูกฉลาดเกินวัย มีสัญญาณแบบไหนบ้าง

เด็กพัฒนาการเร็ว ลูกฉลาดเกินวัย มีสัญญาณแบบไหนบ้าง

เด็กพัฒนาการเร็วเป็นอย่างไร ลูกฉลาดเกินวัย เกิดจากสาเหตุอะไรได้บ้าง เด็กมีพัฒนาการที่เร็วกว่าเด็กปกติคือเด็กอัจฉริยะหรือเปล่า พร้อมวิธีเสริมพัฒนาการลูก

Overfeeding คืออะไร ให้ลูกกินนมเยอะเกินไป อันตรายแค่ไหน

Overfeeding คืออะไร ให้ลูกกินนมเยอะเกินไป อันตรายแค่ไหน

Overfeeding คืออะไร คุณแม่ให้ลูกกินนมเยอะเกินไป จะเป็นอันตรายกับลูกน้อยไหม ลูกน้อยจะมีอาการอย่างไร เมื่อให้นมลูกเยอะเกิน พร้อมวิธีให้นมลูกน้อยที่ถูกต้อง

ประจำเดือนหลังคลอดจะเริ่มมาเมื่อไหร่ ประจำเดือนหลังคลอดมากี่วัน

ประจำเดือนหลังคลอดจะเริ่มมาเมื่อไหร่ ประจำเดือนหลังคลอดมากี่วัน

ประจำเดือนหลังคลอดจะกลับมาตอนไหน ประจําเดือนหลังคลอดมากี่วัน แบบไหนเรียกผิดปกติ คุณแม่หลังคลอดดูแลตัวเองยังไงให้ร่างกายกลับมาปกติเร็วที่สุด

แม่หลังคลอดกินผลไม้อะไรได้บ้าง ผลไม้ชนิดไหนช่วยฟื้นฟูร่างกาย ดีต่อสุขภาพ

แม่หลังคลอดกินผลไม้อะไรได้บ้าง ผลไม้ชนิดไหนช่วยฟื้นฟูร่างกาย

แม่หลังคลอดกินผลไม้อะไรได้บ้าง ผลไม้ชนิดไหนช่วยให้ร่างกายของคุณแม่แข็งแรงและกระตุ้นน้ำนมให้ไหลดี มีคุณภาพ ช่วยให้สารอาหารส่งถึงลูกโดยตรง ไปดูกัน

เลือกระยะการตั้งครรภ์และพัฒนาการเด็ก