สำหรับการคลอดเองตามธรรมชาติ คุณแม่ก็สามารถพิจารณาฤกษ์คลอดได้เช่นกัน แต่สิ่งสำคัญที่สุดคือการเตรียมร่างกายให้พร้อม ปรึกษาแพทย์อย่างใกล้ชิด และรับฟังคำแนะนำจากทีมแพทย์ การเลือกฤกษ์ควรเป็นส่วนเสริ

ทางวิทยาศาสตร์เน้นการเลือกวันคลอดตามความพร้อมของมารดาและสภาพร่างกายของทารก แพทย์จะพิจารณาจากการเจริญเติบโตของทารก และความเสี่ยงต่างๆ โดยไม่พิจารณาฤกษ์ตามโหราศาสตร์

ลักษณะนิสัยของเด็กที่เกิดในปีนักษัตรต่างๆ แตกต่างกันไปตามความเชื่อ เช่น เด็กเกิดปีฉลูอาจเชื่อว่าเป็นคนขยันอดทน ปีมะโรงอาจเชื่อว่าเป็นคนกล้าหาญ ฯลฯ ซึ่งเป็นเพียงความเชื่อทางโหราศาสตร์

การปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญและผู้ให้คำปรึกษาทางจิตวิทยาอาจช่วยคลายความกังวลได้ การพูดคุยกับคนใกล้ชิดที่ให้กำลังใจและการหาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการคลอดบุตรอย่างถูกต้องอาจช่วยลดความกังวล

การทำบุญกุศล การรักษาศีล 5 การบริจาคทาน การฝึกสมาธิ และการทำจิตใจให้สงบ ล้วนเป็นวิธีเสริมดวงและสร้างพลังบวกที่ดีต่อทั้งคุณแม่และลูกน้อย

แม้ว่าการเลือกผ่าคลอดตามฤกษ์จะช่วยให้คุณแม่รู้สึกสบายใจ แต่ควรคำนึงถึงความปลอดภัยของทั้งแม่และเด็กเป็นหลัก ควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อประเมินความพร้อมของร่างกายและความเหมาะสมของวันผ่าคลอด

นอกจากฤกษ์แล้ว คุณแม่ควรคำนึงถึงสุขภาพของตนเองและทารกเป็นสำคัญ ควรปรึกษาแพทย์เพื่อเลือกวันผ่าคลอดที่ปลอดภัยและเหมาะสมกับสภาพร่างกาย รวมถึงควรพิจารณาความพร้อมของโรงพยาบาลและบุคลากรทางการแพทย์ด้วย

แต่ละฤกษ์สะท้อนถึงลักษณะนิสัยและโชคชะตาที่แตกต่างกัน เช่น มหัทธโนฤกษ์เน้นด้านการเงิน ราชาฤกษ์เน้นความเป็นผู้นำ ครอบครัวควรพิจารณาคุณลักษณะที่ต้องการให้ลูกมีและเลือกฤกษ์

รสชาติเปลี่ยนไปแน่นอนค่ะ และนั่นเป็นข้อดี! การที่คุณแม่ทานอาหารและผลไม้ที่หลากหลาย จะทำให้รสชาติของน้ำนมเปลี่ยนแปลงไปเล็กน้อยในแต่ละวัน ซึ่ง

มีหลายประเพณี เช่น การเตรียมของขวัญสำหรับเด็กแรกเกิด การจัดพิธีบายศรีสู่ขวัญ การทำพิธีสะดือ ฯลฯ ซึ่งล้วนมีจุดประสงค์เพื่อความเป็นสิริมงคลและความปลอดภัยของทั้งแม่และเด็ก

สามารถเลือกใช้ชื่อที่เป็นมงคล ทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้กับลูก หรือปฏิบัติพิธีกรรมทางศาสนาอื่นๆ ตามความเชื่อของครอบครัวเพื่อเสริมสร้างความเป็นสิริมงคล

เป็นความเชื่อที่ส่งต่อกันมานาน แต่ "ไม่เป็นความจริงในทางการแพทย์" ค่ะ
เรื่องลูกตัวสะอาด/ไม่มีไข: ไขสีขาวๆ ที่เคลือบผิวทารกแรกเกิด

มีหลายอย่างเลยค่ะ และเป็นตัวช่วยที่ดีมากเวลาที่รู้สึกคลื่นไส้:
น้ำขิงอุ่นๆ: ขิงมีสรรพคุณช่วยลดอาการคลื่นไส้อาเจียนได้ดีมาก
น้ำมะนาว หรือ

"ควรงดเมนูนี้ไปก่อนค่ะ" แต่เหตุผลหลักไม่ได้อยู่ที่ "ความเผ็ด" นะคะ แต่อยู่ที่ "ความเสี่ยงจากของดิบและของหมักดอง" ค่ะ
ปลาร้าดิบและปูดอง: มีความ

เป็นคำถามที่ดีมากค่ะ เพราะเปลือกก็มีประโยชน์แต่ก็มีความเสี่ยง:
ประโยชน์ของเปลือก: เปลือกผลไม้เป็นแหล่งของ "ใยอาหาร" และ "สารต้านอนุมูลอิสระ"

ทานได้ค่ะ แต่ต้องทานในปริมาณที่ "น้อยมากๆ" และต้องระวังเป็นพิเศษ!
ข้อดี: ทุเรียนเป็นแหล่งของพลังงานและมีสารอาหารบางชนิดที่ดี

เป็นเมนูโปรดที่ "ควรหลีกเลี่ยงไปก่อน" ในช่วงตั้งครรภ์ค่ะ เหตุผลก็เพราะความเสี่ยงจาก "พยาธิและแบคทีเรีย" (เช่น Listeria) ที่อาจปนเปื้อนมากับ

ควรหลีกเลี่ยงไปก่อนจะดีที่สุดค่ะ แม้ว่าจะทำมาจากผลไม้ แต่ในกระบวนการแปรรูปนั้นมีการใช้ "เกลือ (โซเดียม)" และ "น้ำตาล" ในปริมาณที่สูงมาก ซึ่ง

ทานได้ค่ะ แต่ต้องทานในปริมาณที่ "น้อยมากๆ" และต้องระวังเป็นพิเศษ!
ข้อดี: ทุเรียนเป็นแหล่งของพลังงาน, ไฟเบอร์, และสารอาหารบางชนิดที่ดี

จริงค่ะ ควรทานในปริมาณที่ "พอเหมาะ" เท่านั้น
ข้อดี: ตับเป็นแหล่งของ "ธาตุเหล็ก" และ "โฟเลต" ที่ดีเยี่ยม
ข้อควรระวัง: ตับก็เป็นแหล่งของ

เข้าใจเลยค่ะว่าเป็นสถานการณ์ที่น่าตกใจและทำให้รู้สึกผิดมากๆ เลย แต่คุณแม่ต้องทราบว่าถึงแม้กระหม่อมจะยังไม่ปิด แต่ก็ยังมีเยื่อหุ้มที่เหนียวและแข็งแรงมากๆ

เป็นเรื่องที่หลีกเลี่ยงได้ยากมากและ "ปกติมาก" ค่ะ! ในช่วง 6 เดือนถึง 1 ปีแรกของการไปเนอร์สเซอรี่ ระบบภูมิคุ้มกันของน้องกำลังถูกท้าทายและสร้างเสริมให้แข็งแรงขึ้น

คุณแม่ไม่ต้องกังวลเรื่องการขาดสารอาหารในทันทีนะคะ เพราะในช่วง 6-12 เดือนแรก "นม" (ไม่ว่าจะเป็นนมแม่หรือนมผง) ยังคงเป็นแหล่งสารอาหารหลักของเขาอยู่ค่ะ

เป็นข้อสังเกตที่ดีมากเลยค่ะ ส่วนใหญ่แล้วถ้าเป็นพัฒนาการปกติ น้องจะดูสนุกสนาน มีความสุข และมักจะทำเสียงอ้อแอ้ไปด้วยค่ะ แต่ถ้าหากเป็นปัญหาการกลืน น้องอาจจะมีอาการอื่นร่วมด้วย

เข้าใจความกังวลของคุณแม่เลยค่ะ แต่ไม่ต้องกลัวนะคะ การตรวจนั้นไม่เจ็บเลยค่ะ คุณหมอจะใช้อุปกรณ์ที่เรียกว่า "โอโตสโคป" (Otoscope) ซึ่งเป็นเครื่องมือที่มีไฟฉายและเลนส์ขยาย