ปวดฉี่บ่อย แต่ฉี่นิดเดียวในคนท้อง เป็นอย่างไร พร้อมแชร์วิธีรับมือ?

ปวดฉี่บ่อย แต่ฉี่นิดเดียวในคนท้อง เป็นอย่างไร พร้อมแชร์วิธีรับมือ?

การเปลี่ยนแปลงทางสรีระเมื่อตั้งครรภ์ทำให้มดลูกที่ขยายใหญ่ขึ้นไปเบียดกระเพาะปัสสาวะ ส่งผลให้คุณแม่ปัสสาวะบ่อย ปัสสาวะกะปริบกะปรอย แต่ในทางกลับกัน อาการ ปวดฉี่บ่อย แต่ฉี่นิดเดียว อาจเป็นสัญญาณของความผิดปกติอื่น ๆ ได้เช่นกัน บทความนี้จะมาไขข้อข้องใจ เพื่อให้คุณแม่ตั้งครรภ์รับมือได้อย่างถูกต้อง

ปวดฉี่บ่อย แต่ฉี่นิดเดียวในคนท้อง เป็นอย่างไร พร้อมแชร์วิธีรับมือ?

คำถามที่พบบ่อย

คนท้องควรดื่มน้ำวันละเท่าไหร่? ดื่มเยอะจะยิ่งทำให้ฉี่บ่อยหรือไม่?

คนท้องควรดื่มน้ำสะอาดอย่างน้อยวันละ 6-8 แก้ว หรือประมาณ 1-2 ลิตรต่อวัน แม้การดื่มน้ำจะทำให้ปัสสาวะบ่อยขึ้น แต่เป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่งเพื่อป้องกันภาวะขาดน้ำและช่วยลดความเข้มข้นของปัสสาวะ ซึ่งจะช่วยลดความเสี่ยงของการติดเชื้อในทางเดินปัสสาวะได้

ทำไมตอนกลางคืนถึงปวดปัสสาวะบ่อย?

สาเหตุหลัก ๆ ที่ทำให้คุณแม่ต้องตื่นมาปัสสาวะตอนกลางคืน หรือที่เรียกว่า Nocturia อาจมากจากหลายปัจจัยดังนี้

  1. ผลิตปัสสาวะมากเกินไปในตอนกลางคืน:
    • อาจเกิดจากการดื่มน้ำ, เครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์หรือคาเฟอีนมากเกินไปในช่วงเย็น
    • บางครั้งเป็นผลจากอาการบวมน้ำที่ขา พอนอนราบ ของเหลวจะไหลกลับเข้าสู่ร่างกายและถูกขับออกทางไตมากขึ้น ทำให้ต้องเข้าห้องน้ำบ่อยขึ้น
    • นอกจากนี้ ยังเป็นสัญญาณของโรคบางอย่าง เช่น เบาหวาน หรือปัญหาเกี่ยวกับไต
  2. ความจุของกระเพาะปัสสาวะลดลง:
    • ทำให้กระเพาะปัสสาวะกักเก็บปัสสาวะได้น้อยลง จึงต้องลุกไปเข้าห้องน้ำบ่อยขึ้น

หากคุณแม่ต้องลุกไปเข้าห้องน้ำมากกว่า 2 ครั้งต่อคืน ควรปรึกษาคุณหมอที่ดูแลครรภ์เพื่อหาสาเหตุที่แท้จริง เพราะอาการนี้อาจเกี่ยวข้องกับปัญหาสุขภาพอื่น ๆ และยังส่งผลต่อคุณภาพการนอนหลับพักผ่อนอีกด้วย

ถ้าฉี่เล็ดตอนไอหรือจาม เป็นอาการอันตรายไหม?

อาการฉี่เล็ดขณะไอหรือจามเป็นเรื่องปกติที่พบได้บ่อยในคุณแม่ตั้งครรภ์ สาเหตุหลักมาจากกล้ามเนื้อหูรูดท่อปัสสาวะที่เสื่อมประสิทธิภาพลง ทำให้ไม่สามารถทำงานได้ตามปกติ ประกอบกับมดลูกที่ขยายใหญ่ขึ้นไปกดทับกระเพาะปัสสาวะ เมื่อคุณแม่ไอหรือจามจะยิ่งเพิ่มแรงดันในช่องท้องและกระตุ้นให้เกิดการปัสสาวะเล็ดออกมา อาการนี้มักจะเกิดขึ้นเพียงชั่วคราวและส่วนใหญ่จะหายไปเองได้หลังคลอด หากอาการฉี่เล็ดรบกวนการใช้ชีวิตประจำวันมาก หรือกังวลว่าจะเป็นอันตราย ควรปรึกษาคุณหมอที่ดูแลครรภ์เพื่อรับคำแนะนำที่เหมาะสม

สรุป

  • อาการปวดฉี่บ่อยแต่ฉี่นิดเดียวในช่วงตั้งครรภ์ โดยเฉพาะในไตรมาสแรกและไตรมาสสุดท้าย เป็นเรื่องปกติที่คุณแม่ตั้งครรภ์หลายท่านต้องเจอ เนื่องจากเมื่อทารกเติบโตขึ้น มดลูกของคุณแม่ก็จะขยายตามไปด้วย ทำให้ไปเบียดทับกระเพาะปัสสาวะที่อยู่ใกล้เคียง จึงทำให้คุณแม่รู้สึกปวดปัสสาวะบ่อยกว่าปกติ
  • อาการฉี่บ่อยแต่ฉี่นิดเดียวแค่ไหนถึงเรียกว่าปกติ คุณแม่สามารถสังเกตอาการได้ง่าย ๆ โดยปกติแล้วคนเราจะปัสสาวะประมาณ 6-8 ครั้งใน 24 ชั่วโมง และลุกขึ้นมาปัสสาวะตอนกลางคืนเพียง 1-2 ครั้ง หากคุณแม่ปัสสาวะบ่อยกว่านี้ โดยเฉพาะถ้าต้องตื่นขึ้นมาเข้าห้องน้ำตอนกลางคืนหลายครั้ง อาจเป็นสัญญาณที่บ่งชี้ถึงโรคบางอย่างมากกว่าอาการปัสสาวะบ่อยในตอนกลางวัน ซึ่งมักเกิดจากการดื่มน้ำหรือเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีนและเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในปริมาณมากเกินไป
  • อาการปวดฉี่บ่อย แต่ฉี่นิดเดียว ที่คุณแม่ต้องไปพบคุณหมอทันที ได้แก่ ปัสสาวะมีสีขุ่น รู้สึกเจ็บหรือแสบขัดขณะปัสสาวะ มีอาการปวดหน่วงบริเวณท้องน้อย และมีไข้ร่วมด้วย
  • กระเพาะปัสสาวะอักเสบในคุณแม่ตั้งครรภ์ หากมีอาการรุนแรงอาจทำให้ไตอักเสบเฉียบพลันได้ โดยส่วนใหญ่มีสาเหตุมาจากเชื้อแบคทีเรีย Escherichia coli (E. coli) หากปล่อยทิ้งไว้โดยไม่รักษา อาจเพิ่มความเสี่ยงต่อการคลอดก่อนกำหนดและทารกมีน้ำหนักแรกเกิดต่ำกว่าเกณฑ์

 

เลือกอ่านตามหัวข้อ

 

คนท้องปวดฉี่บ่อย แต่ฉี่นิดเดียว เกิดจากอะไร?

คุณแม่หลายท่านคงสงสัยว่าทำไมถึงต้องเข้าห้องน้ำบ่อยจัง โดยเฉพาะในช่วงตั้งครรภ์ไตรมาสแรกและไตรมาสสุดท้าย อาการปวดปัสสาวะบ่อยนี้เป็นเรื่องปกติที่เกิดขึ้นได้ค่ะ เนื่องจากเมื่อเจ้าตัวน้อยเติบโตขึ้นในครรภ์ มดลูกของคุณแม่ก็จะขยายตามไปด้วย ทำให้ไปเบียดทับกระเพาะปัสสาวะที่อยู่ใกล้เคียง จึงทำให้คุณแม่รู้สึกปวดปัสสาวะบ่อยกว่าปกติ

อาการปัสสาวะบ่อยจะลดลงเองเมื่อเข้าสู่ไตรมาสที่สอง เพราะมดลูกจะขยับขึ้นไปในตำแหน่งที่สูงขึ้น ทำให้ไม่ไปกดทับกระเพาะปัสสาวะ แต่จะกลับมาเป็นอีกครั้งในช่วงไตรมาสสุดท้ายก่อนคลอดค่ะ

แม้จะเป็นอาการปกติและจะหายไปเองหลังคลอด แต่คุณแม่สามารถดูแลตัวเองได้ด้วยการออกกำลังกายขมิบช่องคลอด หรือที่เรียกว่า Kegel exercise ตามคำแนะนำของคุณหมอที่ดูแลครรภ์ ซึ่งจะช่วยบริหารกล้ามเนื้ออุ้งเชิงกรานให้แข็งแรง และยังช่วยป้องกันภาวะกลั้นปัสสาวะไม่อยู่ได้อีกด้วยค่ะ

 

คนท้องปวดฉี่บ่อย แต่ฉี่นิดเดียว แค่ไหนถึงจะเรียกว่า 'ปกติ'

เชื่อว่าคุณแม่คงมีคำถามในใจว่า แล้วอาการฉี่บ่อยแค่ไหนถึงเรียกว่าปกติและไม่ต้องกังวลมากไป? โดยปกติแล้ว ใน 24 ชั่วโมง เราจะปัสสาวะประมาณ 6-8 ครั้ง ซึ่งเป็นเรื่องปกติ สิ่งสำคัญที่ควรสังเกตคือ หากคุณแม่ต้องลุกมาเข้าห้องน้ำกลางดึกมากกว่า 1-2 ครั้ง หรือรู้สึกว่าต้องเข้าห้องน้ำบ่อยผิดปกติในตอนกลางวัน ทั้งที่ไม่ได้ดื่มน้ำมากเกินไป ก็อาจเป็นสัญญาณที่ควรปรึกษาคุณหมอที่ดูแลครรภ์คุณแม่เพื่อตรวจหาสาเหตุนะคะ การใส่ใจในความเปลี่ยนแปลงเล็ก ๆ น้อย ๆ ของร่างกายจะช่วยให้คุณแม่คลายความกังวลและดูแลตัวเองได้อย่างถูกวิธีค่ะ

 

คนท้องปวดฉี่บ่อย แต่ฉี่นิดเดียว อาการแบบไหนที่คุณแม่ต้องไปพบคุณหมอ

แม้ว่าอาการปัสสาวะบ่อยจะเป็นเรื่องปกติของคุณแม่ตั้งครรภ์ เพราะมดลูกที่ขยายใหญ่ขึ้นไปกดทับกระเพาะปัสสาวะ แต่หากคุณแม่รู้สึกว่าอาการเหล่านี้เริ่มผิดปกติและรบกวนชีวิตประจำวัน หรือมีอาการอื่น ๆ ร่วมด้วย ก็ไม่ควรนิ่งนอนใจนะคะ ลองสังเกตตัวเองว่ามีอาการเหล่านี้หรือไม่

  • ปัสสาวะมีสีขุ่น หรือมีเลือดปน
  • ปัสสาวะมีสีแดง หรือสีน้ำตาลเข้ม
  • รู้สึกเจ็บหรือแสบขัดขณะปัสสาวะ
  • มีอาการปวดหน่วงบริเวณท้องน้อย
  • ปัสสาวะลำบาก หรือรู้สึกว่าปัสสาวะไม่สุด
  • กลั้นปัสสาวะไม่อยู่
  • มีไข้

 

หากคุณแม่มีอาการเหล่านี้เพียงอย่างใดอย่างหนึ่ง แนะนำให้รีบไปปรึกษาคุณหมอที่ฝากครรภ์เพื่อตรวจวินิจฉัยและรับการรักษาอย่างถูกวิธีนะคะ การดูแลตัวเองตั้งแต่เนิ่น ๆ จะช่วยให้คุณแม่คลายความกังวลและสุขภาพดีทั้งคุณแม่และลูกน้อยค่ะ

 

กระเพาะปัสสาวะอักเสบในคนท้อง และความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น

นอกจากอาการปวดฉี่บ่อย แต่ฉี่นิดเดียว ที่เกิดจากการเปลี่ยนแปลงทางร่างกายแล้ว คุณแม่ตั้งครรภ์ยังมีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อทางเดินปัสสาวะหรือ UTI (Urinary Tract Infection) ได้ ซึ่งอาการจะแตกต่างกันไป ตั้งแต่ไม่มีอาการเลย ไปจนถึงอาการกระเพาะปัสสาวะอักเสบ และในกรณีที่มีอาการรุนแรงอาจทำให้ไตอักเสบเฉียบพลันได้ค่ะ

โดยส่วนใหญ่แล้ว เชื้อแบคทีเรีย Escherichia coli (E. coli) เป็นสาเหตุหลักของการติดเชื้อในคุณแม่ตั้งครรภ์ ซึ่งหากปล่อยไว้โดยไม่ได้รับการรักษา อาจเพิ่มความเสี่ยงต่อการคลอดก่อนกำหนด หรือทำให้ลูกน้อยมีน้ำหนักแรกเกิดต่ำกว่าเกณฑ์ได้

นอกจากนี้ ในกรณีที่การติดเชื้อรุนแรงจนเกิดภาวะไตอักเสบเฉียบพลัน อาจนำไปสู่ภาวะแทรกซ้อนที่อันตราย เช่น การติดเชื้อในกระแสเลือด หรือภาวะลิ่มเลือดอุดตันในหลอดเลือด ดังนั้นการสังเกตอาการตัวเองและรีบปรึกษาคุณหมอที่ดูแลครรภ์คุณแม่ตั้งแต่เนิ่น ๆ จึงเป็นสิ่งสำคัญมาก การดูแลตัวเองอย่างถูกวิธีจะช่วยให้คุณแม่และลูกน้อยปลอดภัยและมีสุขภาพดีตลอดการตั้งครรภ์ค่ะ

วิธีสังเกตอาการกระเพาะปัสสาวะอักเสบในคนท้อง

เพื่อให้คุณแม่สังเกตอาการตัวเองได้อย่างทันท่วงที ลองมาดูกันว่าอาการแบบไหนที่อาจบ่งชี้ถึงภาวะกระเพาะปัสสาวะอักเสบค่ะ

  • ปัสสาวะบ่อย แต่ฉี่นิดเดียว และรู้สึกเหมือนยังปัสสาวะไม่สุด
  • รู้สึกปวดหรือแสบขัด ขณะปัสสาวะ โดยเฉพาะช่วงใกล้จะสุด
  • ปัสสาวะมีสีขุ่น บางครั้งมีกลิ่นผิดปกติ หรือในบางรายอาจถึงขั้นปัสสาวะมีเลือดปน

หากคุณแม่มีอาการเหล่านี้ ควรไปพบคุณหมอที่ดูแลครรภ์เพื่อตรวจวินิจฉัยและรักษาทันทีนะคะ เพื่อความปลอดภัยของทั้งคุณแม่และลูกน้อยในครรภ์ค่ะ

 

วิธีป้องกันกระเพาะปัสสาวะอักเสบสำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์

การดูแลตัวเองอย่างถูกวิธีจะช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดกระเพาะปัสสาวะอักเสบได้ค่ะ ลองทำตามคำแนะนำเหล่านี้ เพื่อป้องกันและดูแลตัวเองให้ห่างไกลจากความกังวลนะคะ

1.    เรื่องความสะอาด

  • ทำความสะอาดจุดซ่อนเร้นอย่างถูกวิธี โดยใช้น้ำเปล่าหรือสบู่อ่อน ๆ ที่มีค่า pH เป็นกลาง
  • หลังเข้าห้องน้ำ ควรเช็ดทำความสะอาดจากด้านหน้าไปด้านหลังเสมอ เพื่อป้องกันเชื้อแบคทีเรียจากอุจจาระเข้าสู่ท่อปัสสาวะ
  • หลีกเลี่ยงการสวนล้างช่องคลอด รวมถึงน้ำยาทำความสะอาดจุดซ่อนเร้น เพราะอาจทำลายแบคทีเรียดีในช่องคลอดได้

 

2.    การจัดการความอับชื้น

  • ไม่สวมกางเกงที่รัดแน่นเกินไป
  • เลือกใส่กางเกงในที่ทำจากผ้าฝ้าย เพื่อระบายอากาศได้ดี ลดความอับชื้น

 

3.    นิสัยประจำวัน

  • ดื่มน้ำสะอาดให้เพียงพอ อย่างน้อยวันละ 1-2 ลิตร เพื่อช่วยขับเชื้อแบคทีเรีย
  • อย่าอั้นปัสสาวะเด็ดขาด เมื่อรู้สึกปวดควรรีบเข้าห้องน้ำทันที

 

4.    อาหารและสุขภาพ

  • เลือกรับประทานอาหารที่อุดมไปด้วย วิตามินซี เบต้าแคโรทีน (Beta-carotene) และสังกะสี เพื่อช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้ร่างกายแข็งแรง
  • หลีกเลี่ยงอาหารที่อาจทำให้เกิดการอักเสบและระคายเคืองกระเพาะอาหาร

การใส่ใจในรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ เหล่านี้ จะช่วยให้คุณแม่สบายใจและมีสุขภาพที่ดีตลอดการตั้งครรภ์ค่ะ

 

วิธีดูแลตัวเองเมื่อคุณแม่มีอาการกระเพาะปัสสาวะอักเสบ

หากคุณแม่พบว่ามีอาการที่น่าสงสัยว่าเป็นกระเพาะปัสสาวะอักเสบ สิ่งสำคัญที่สุดคือการเข้าพบคุณหมอที่ดูแลครรภ์ทันที เพื่อให้คุณหมอวินิจฉัยและวางแผนการรักษาที่เหมาะสมกับคุณแม่ตั้งครรภ์ โดยอาจสั่งจ่ายยาปฏิชีวนะสำหรับบรรเทาอาการ

คุณแม่ต้องรับประทานยาตามที่ได้รับคำแนะนำจากคุณหมออย่างเคร่งครัดและครบตามระยะเวลาที่กำหนด เพื่อให้การรักษามีประสิทธิภาพและกำจัดเชื้อแบคทีเรียได้หมดจด สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ ห้ามซื้อยามารับประทานเองโดยเด็ดขาดนะคะ เพราะยาบางชนิดอาจส่งผลกระทบต่อลูกน้อยในครรภ์ได้ การปรึกษาคุณหมอจะทำให้คุณแม่มั่นใจและปลอดภัยที่สุดค่ะ

 

คนท้องอั้นฉี่แล้วปวดท้อง อาจเป็นสัญญาณของอาการท้องแข็ง

ปวดฉี่บ่อย แต่ฉี่นิดเดียว ก็เลยไม่อยากลุกเข้าห้องน้ำบ่อย ๆ ใช่ไหมคะ? คุณแม่ทราบไหมว่าการอั้นปัสสาวะนาน ๆ อาจส่งผลให้เกิดอาการท้องแข็งได้ โดยเฉพาะในช่วงไตรมาสสุดท้ายของการตั้งครรภ์ เพราะมดลูกที่ขยายใหญ่ขึ้นจะไปเบียดกับกระเพาะปัสสาวะ ทำให้มดลูกถูกบีบและหดรัดตัวได้ง่ายขึ้น ดังนั้น เมื่อรู้สึกปวดปัสสาวะเมื่อไหร่ ให้รีบเข้าห้องน้ำทันทีนะคะ อย่าอั้นเด็ดขาดเลย

โดยปกติแล้ว คุณแม่อาจรู้สึกท้องแข็งเป็นครั้งคราว ซึ่งถือเป็นเรื่องปกติ แต่ถ้ามีอาการท้องแข็งนานเกิน 10 นาที เป็นต่อเนื่อง 4-5 ครั้งติด ๆ กัน หรือหากมีเลือดออกทางช่องคลอดร่วมด้วย ควรรีบไปพบคุณหมอโดยเร็วที่สุด เพื่อรับการวินิจฉัยและดูแลอย่างเหมาะสมค่ะ

อาการปวดฉี่บ่อย แต่ฉี่นิดเดียวในคุณแม่ตั้งครรภ์เป็นเรื่องที่พบได้บ่อยและไม่ใช่เรื่องน่ากังวลเสมอไป เนื่องจากเกิดจากการเปลี่ยนแปลงทางสรีระของร่างกายที่มดลูกไปเบียดกระเพาะปัสสาวะ แต่หากมีอาการผิดปกติร่วมด้วย เช่น ปวดแสบขัด ปัสสาวะมีเลือดปน หรือมีไข้ ควรรีบไปปรึกษาคุณหมอทันทีเพื่อความปลอดภัยค่ะ

การดูแลตัวเองอย่างถูกวิธีตลอดการตั้งครรภ์จะช่วยให้คุณแม่สบายใจและมีสุขภาพแข็งแรงจนถึงวันคลอด และเมื่อลูกน้อยลืมตาดูโลกแล้ว การมอบสิ่งที่ดีที่สุดให้กับเขาคือการให้ นมแม่ ซึ่งเป็นอาหารวิเศษที่มีสารอาหารมากกว่า 200 ชนิด ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันและพัฒนาการการเรียนรู้ที่ดีให้ลูกน้อย
นมแม่ยังอุดมไปด้วยสารอาหารสำคัญอย่าง แอลฟาแล็ค สฟิงโกไมอีลิน (Alphalac Sphingomyelin) ที่ช่วยให้ลูกน้อยเจริญเติบโตอย่างแข็งแรง และยังมีสารภูมิคุ้มกันและจุลินทรีย์ที่มีประโยชน์หลายชนิดอย่าง บีแล็กทิส (B. lactis ) ที่ช่วยลดความเสี่ยงต่อการเจ็บป่วย

 

บทความแนะนำสำหรับคุณแม่มือใหม่

อ้างอิง:

  1. การตั้งครรภ์ส่งผลกระทบต่อร่างกายทุกส่วนทุกส่วนของผู้หญิง, โรงพยาบาลนครธน
  2. ภาวะปัสสาวะบ่อย, โรงพยาบาลเมดพาร์ค
  3. อาการปัสสาวะบ่อยอย่างไร ถึงเรียกว่าผิดปกติ, โรงพยาบาลจุฬารัตน์ 9 แอร์พอร์ต
  4. Urinary Tract Infections in Pregnancy, คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
  5. กระเพาะปัสสาวะอักเสบ, โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์
  6. กระเพาะปัสสาวะอักเสบ อันตรายต่อคนท้อง รู้ทันป้องกันได้, โรงพยาบาลสินแพทย์ กาญจนบุรี
  7. ท้องแข็งขณะตั้งครรภ์ เสี่ยงอันตรายแค่ไหน, โรงพยาบาลพญาไท
  8. ภาวะไอ จาม ปัสสาวะเล็ด, คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล
  9. Nocturia: Causes and Treatments for Frequent Urination, Sleep Foundation

 

อ้างอิง ณ วันที่ 17 สิงหาคม 2568