แอลรียูเทอรี (L. reuteri) โพรไบโอติกเพื่อสุขภาพลำไส้และภูมิคุ้มกันลูก
คำถามที่พบบ่อย
แอลรียูเทอรี (L. reuteri) มีจุดเด่นอย่างไร?
แอลรียูเทอรี (L. reuteri) เป็นโพรไบโอติกที่มีจุดเด่นรอบด้าน โดยสามารถพบได้ในหลายส่วนของร่างกายรวมถึงน้ำนมแม่ หน้าที่หลักคือการปรับปรุงสุขภาพลำไส้และเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน จุดเด่นแรก คือความสามารถในการผลิตสารต้านจุลชีพ ที่มีประสิทธิภาพ เช่น รียูเทอรี (reuterin) ซึ่งช่วยยับยั้งเชื้อโรคและปรับสมดุลจุลินทรีย์ในลำไส้ จุดเด่นที่สอง คือการให้ ประโยชน์ต่อระบบภูมิคุ้มกัน โดยลดการสร้างสารที่ก่อให้เกิดการอักเสบ (pro-inflammatory cytokines) และจุดเด่นที่สาม คือการเสริมสร้างเกราะป้องกันลำไส้ ให้แข็งแรง ช่วยป้องกันเชื้อก่อโรค ที่อาจเป็นสาเหตุของการอักเสบในลำไส้
เด็กที่กินนมแม่ล้วน จำเป็นต้องเสริม แอลรียูเทอรี (L. reuteri) หรือไม่?
โดยปกติแล้ว น้ำนมแม่คือแหล่งที่ดีที่สุดของแอลรียูเทอรี (L. reuteri) อย่างไรก็ตาม ปริมาณจุลินทรีย์ในน้ำนมแม่แต่ละคนอาจไม่เท่ากัน หากลูกน้อยยังมีอาการโคลิค ท้องอืด หรือปัญหาลำไส้อื่น ๆ ควรปรึกษากุมารแพทย์เพิ่มเติม
ต้องให้ลูกกินแอลรียูเทอรี (L. reuteri) นานแค่ไหนถึงจะเห็นผล?
แนะนำให้ปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรก่อนเสมอ โดยระยะเวลาในการเห็นผลและขนาดที่ควรได้รับอาจแตกต่างกันไปในเด็กแแต่ละคน
สรุป
- แอลรียูเทอรี (L. reuteri) คือ โพรไบโอติก หรือจุลินทรีย์สุขภาพในกลุ่มแล็กโทบาซิลลัส (Lactobacillus) ที่มีการศึกษาค้นพบว่าอาศัยอยู่ในหลายส่วนของร่างกาย ตั้งแต่ทางเดินอาหาร ทางเดินปัสสาวะ ผิวหนัง และใน น้ำนมแม่
- แอลรียูเทอรี (L. reuteri) มีบทบาทสำคัญในการกระตุ้นการสร้างไซโตไคน์ (cytokines) ซึ่งเป็นสารโปรตีนที่ทำหน้าที่เหมือนกับ "สารสื่อประสาท" ของระบบภูมิคุ้มกัน โดยไซโตไคน์จะคอยส่งสัญญาณเพื่อเรียกเซลล์ภูมิคุ้มกันให้เข้ามาจัดการกับเชื้อโรคหรือสิ่งแปลกปลอมต่าง ๆ นอกจากนี้ยังช่วยควบคุมการตอบสนองของระบบภูมิคุ้มกันและการอักเสบ ทำให้ภูมิคุ้มกันของลูกน้อยทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพและสมดุล
- แอลรียูเทอรี (L. reuteri) ช่วยลดอาการโคลิค มีงานวิจัยที่ได้ทำการศึกษาทารกที่มีอาการโคลิค พบว่ากลุ่มที่ได้รับโพรไบโอติก แอลรียูเทอรี มีเวลาในการร้องไห้และงอแงน้อยกว่ากลุ่มที่ไม่ได้รับโพรไบโอติก นอกจากนี้ ในเด็กกลุ่มที่ได้รับ (L. reuteri) ยังมีโอกาสที่อาการจะดีขึ้นเกือบ 2 เท่า
เลือกอ่านตามหัวข้อ
- แอลรียูเทอรี (L. reuteri) คืออะไร?
- ประโยชน์ของฮีโร่ตัวจิ๋ว แอลรียูเทอรี (L. reuteri) ต่อสุขภาพของลูกน้อย
- แอลรียูเทอรี (L. reuteri) พบได้จากที่ไหนบ้าง?
- วิธีการคลอดต่อจุลินทรีย์ในลำไส้และสุขภาพ
- ทำไมนมแม่ถึงสำคัญ
แอลรียูเทอรี (L. reuteri) คืออะไร?
อยากรู้กันใช่ไหมคะว่าเจ้าฮีโร่ตัวจิ๋วนี้คือใคร? แอลรียูเทอรี (L. reuteri) คือ โพรไบโอติก หรือ "จุลินทรีย์ดี" ที่คุณแม่ทุกคนควรรู้จักค่ะ เจ้าจุลินทรีย์ตัวนี้เป็นหนึ่งในสมาชิกตระกูลแล็กโทบาซิลลัส (Lactobacillus) ที่โดดเด่นไม่แพ้ใคร เพราะมีการศึกษาค้นพบว่า แอลรียูเทอรี (L. reuteri) นี้อาศัยอยู่ในหลายส่วนของร่างกายเรา ตั้งแต่ทางเดินอาหาร ทางเดินปัสสาวะ ผิวหนัง และที่สำคัญที่สุดก็คือ "น้ำนมแม่" ของเรานี่เองค่ะ
การที่เจ้าฮีโร่ตัวจิ๋วนี้มีอยู่ในน้ำนมแม่ ก็เหมือนกับเป็น "ของขวัญล้ำค่า" ที่ธรรมชาติมอบให้ลูกน้อยตั้งแต่แรกเกิด เป็นการเริ่มต้นที่ดีที่สุดในการสร้างรากฐานสุขภาพที่แข็งแรงให้กับลูกรักค่ะ
ประโยชน์ของฮีโร่ตัวจิ๋ว แอลรียูเทอรี (L. reuteri) ต่อสุขภาพของลูกน้อย
เจ้าฮีโร่ตัวจิ๋ว แอลรียูเทอรี (L. reuteri) ไม่ได้มีดีแค่เป็นจุลินทรีย์ในน้ำนมแม่เท่านั้น แต่ยังมีคุณประโยชน์สำคัญที่ช่วยเสริมสร้างสุขภาพลูกน้อยให้แข็งแรงจากภายในสู่ภายนอกอีกด้วยค่ะ
1. สร้างสมดุลให้ระบบทางเดินอาหาร
หน้าที่หลักของฮีโร่ตัวจิ๋วนี้คือการเข้าไปช่วยสร้างสมดุลให้จุลินทรีย์ในลำไส้ ทำให้ลูกน้อยมีสุขภาพลำไส้ที่ดี จากงานวิจัยพบว่าแอลรียูเทอรี (L. reuteri) สามารถช่วย ปกป้องลำไส้จากเชื้อโรคที่เล็ดลอดเข้ามาในร่างกาย และยังช่วย ลดการอักเสบ ที่อาจเกิดขึ้นได้
นอกจากนี้ แอลรียูเทอรี (L. reuteri) ยังเป็นผู้ช่วยสำคัญในการ ปรับการขับถ่าย ของลูกรักให้เป็นปกติ ช่วยลดปัญหาที่น่ากังวลอย่างอาการท้องผูกหรือท้องเสียได้อีกด้วยค่ะ

2. เสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้แข็งแรง
การมีภูมิคุ้มกันที่แข็งแรงก็เหมือนกับการมีเกราะป้องกันภัยรอบตัว และฮีโร่ตัวจิ๋ว แอลรียูเทอรี (L. reuteri) ก็ช่วยเสริมเกราะนี้ให้ลูกน้อยได้อย่างดีเยี่ยมค่ะ
แอลรียูเทอรี (L. reuteri) มีบทบาทสำคัญในการกระตุ้นการสร้าง "ไซโตไคน์" (cytokines) ซึ่งเป็นสารโปรตีนที่ทำหน้าที่เหมือนกับ "สารสื่อประสาท" ของระบบภูมิคุ้มกัน โดยไซโตไคน์จะคอยส่งสัญญาณเพื่อเรียกเซลล์ภูมิคุ้มกันให้เข้ามาจัดการกับเชื้อโรคหรือสิ่งแปลกปลอมต่าง ๆ นอกจากนี้ยังช่วยควบคุมการตอบสนองของระบบภูมิคุ้มกันและการอักเสบ ทำให้ภูมิคุ้มกันของลูกน้อยทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพและสมดุล เมื่อร่างกายของลูกน้อยมีฮีโร่ตัวจิ๋วนี้อยู่เป็นจำนวนมาก ก็จะช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดโรคที่เกี่ยวข้องกับการอักเสบได้อีกด้วยค่ะ
เรียกได้ว่า แอลรียูเทอรี (L. reuteri) เป็นมากกว่าจุลินทรีย์ทั่วไป แต่เป็นเหมือน "เพื่อนซี้" ของสุขภาพลูกน้อยที่คอยดูแลและปกป้องอย่างไม่หยุดพักเลยค่ะ
3. ช่วยบรรเทาปัญหาสุขภาพลำไส้ในเด็ก
เจ้าฮีโร่ตัวจิ๋ว แอลรียูเทอรี (L. reuteri) ยังมีบทบาทสำคัญในการดูแลปัญหาสุขภาพลำไส้ในเด็กโดยเฉพาะ โดยสายพันธุ์ที่ใช้กันอย่างแพร่หลายและมีผลการศึกษาทางการแพทย์รองรับอย่างกว้างขวางคือ สายพันธุ์ DSM 17938 ซึ่งเป็นสายพันธุ์ที่นิยมใช้ในมนุษย์ โดยเฉพาะในเด็กเล็กค่ะ
กลไกการทำงานคือ การเข้าไปปรับสมดุลจุลินทรีย์ในลำไส้ ทำให้การทำงานของลำไส้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ซึ่งช่วยลดโอกาสการเกิดปัญหาเกี่ยวกับระบบทางเดินอาหารต่าง ๆ ที่พบบ่อยในเด็ก เช่น โรคลำไส้อักเสบและอาการท้องเสียที่เกิดจากการติดเชื้อค่ะ
4. ช่วยป้องกันอาการท้องผูก
สาเหตุหลักของอาการท้องผูกในเด็กส่วนใหญ่มักเกี่ยวข้องกับระบบย่อยอาหารที่ยังพัฒนาไม่เต็มที่ ทำให้การย่อยอาหารที่รับประทานเข้าไปทำได้ไม่สมบูรณ์ และส่งผลให้เกิดอาการไม่สบายท้องหรือท้องผูกตามมาได้ง่ายค่ะ
วิธีป้องกันและบรรเทาอาการท้องผูก
จุลินทรีย์ชนิดหนึ่งที่เข้ามามีบทบาทสำคัญในการป้องกันและบรรเทาอาการท้องผูกคือ แล็กโทบาซิลลัส รียูเทอรี (Lactobacillus reuteri) เป็นจุลินทรีย์ชนิดดีที่พบได้ในนมแม่ค่ะ จุลินทรีย์นี้มีคุณสมบัติที่สำคัญต่อระบบย่อยอาหารและการขับถ่ายของลูกน้อย โดยช่วยกระตุ้นการเคลื่อนไหวของลำไส้ เพื่อช่วยให้มีการขับถ่ายที่ดีขึ้นและลดอาการท้องผูกนอกจากนี้ ยังมีส่วนช่วย ลดอาการโคลิค (Colic) และแหวะนม ทำให้สุขภาพทางเดินอาหารของลูกแข็งแรงและสมดุล
5. ลดอาการโคลิค (Colic) ในทารก
อาการโคลิค หรืออาการร้องไห้หนักผิดปกติโดยไม่ทราบสาเหตุในเด็กเล็ก มักสร้างความกังวลใจให้กับคุณพ่อคุณแม่อย่างมาก แต่ข่าวดีก็คือ เจ้าฮีโร่ แอลรียูเทอรี (L. reuteri) ได้รับการพิสูจน์แล้วว่ามีประสิทธิภาพอย่างยิ่งในการจัดการปัญหานี้
จากงานวิจัยที่ได้ทำการศึกษาทารกที่มีอาการโคลิค พบว่ากลุ่มที่ได้รับโพรไบโอติก แอลรียูเทอรี (L. reuteri) มีเวลาในการร้องไห้และงอแงน้อยกว่ากลุ่มที่ไม่ได้รับโพรไบโอติกอย่างชัดเจน นอกจากนี้ กลุ่มที่ได้รับ แอลรียูเทอรี (L. reuteri) ยังมีโอกาสที่อาการจะดีขึ้นเกือบ 2 เท่า เมื่อเทียบกับกลุ่มที่ไม่ได้รับ แอลรียูเทอรี (L. reuteri) ที่สำคัญ ผลลัพธ์นี้เห็นผลอย่างมากในกลุ่มทารกที่กินนมแม่ ซึ่งเป็นการตอกย้ำถึงความสำคัญของจุลินทรีย์ชนิดนี้ที่มีต่อสุขภาพของทารกค่ะ
แอลรียูเทอรี (L. reuteri) พบได้จากที่ไหนบ้าง?
มาดูกันดีกว่าค่ะว่าเราจะหาฮีโร่ตัวจิ๋ว แอลรียูเทอรี (L. reuteri) ได้จากที่ไหนบ้าง เพื่อให้ลูกน้อยได้รับประโยชน์สูงสุด
1. น้ำนมแม่ แหล่งที่ดีที่สุดตามธรรมชาติ
ถ้าพูดถึงแหล่งที่ดีที่สุดของเจ้าฮีโร่ตัวนี้ แน่นอนว่าต้องเป็น น้ำนมแม่ ค่ะ เพราะน้ำนมแม่คืออาหารมื้อแรกที่มีคุณค่าที่สุดของลูกน้อย และยังมีจุลินทรีย์ดีอย่างแอลรียูเทอรี (L. reuteri) อยู่ด้วย ซึ่งเป็นเหมือนของขวัญที่ธรรมชาติมอบให้ลูกเพื่อสร้างภูมิคุ้มกันที่ดีตั้งแต่แรกเกิด
2. ผลิตภัณฑ์นมสำหรับเด็กที่เสริมโพรไบโอติก
ปัจจุบันมีผลิตภัณฑ์นมสำหรับเด็กที่อายุ 1 ปีขึ้นไป หลายชนิดที่ได้รับการพัฒนาให้มีส่วนผสมของจุลินทรีย์โพรไบโอติกดี ๆ อย่างแอลรียูเทอรี (L. reuteri) เพิ่มเข้ามา เพื่อเป็นอีกทางเลือกสำหรับคุณแม่ที่ต้องการเสริมจุลินทรีย์ดีให้กับลูกน้อย อย่างไรก็ตามการจะเลือกผลิตภัณฑ์นมเสริมสำหรับลูกน้อย หรือแม้แต่การจะเปลี่ยนนม ควร ปรึกษากุมารแพทย์ก่อนเสมอนะคะ เพื่อให้แน่ใจว่าลูกรักจะได้รับการเสริมนมที่เหมาะสมกับช่วงพัฒนาการค่ะ
แอลรียูเทอรี (L. reuteri) ไม่ใช่แค่จุลินทรีย์ธรรมดา แต่เป็นเหมือน "ฮีโร่ตัวจิ๋ว" ที่ช่วยวางรากฐานสุขภาพที่แข็งแรงให้กับลูกน้อยตั้งแต่แรกเกิด ทั้งช่วยดูแลระบบทางเดินอาหาร เสริมสร้างภูมิคุ้มกัน และบรรเทาอาการไม่สบายท้องต่าง ๆ ที่พบบ่อยในเด็ก ดังนั้น การใส่ใจในสุขภาพลำไส้ของลูกจึงเป็นสิ่งที่คุณพ่อคุณแม่ไม่ควรมองข้าม และการเริ่มต้นที่ดีที่สุดเพื่อสุขภาพที่แข็งแรงอย่างยั่งยืนของลูกน้อยก็คือ การให้ได้รับนมแม่ตั้งแต่แรกเกิด เพราะเป็นแหล่งของจุลินทรีย์ดีตามธรรมชาติ ที่จะช่วยให้ลูกรักมีพัฒนาการที่สมวัยและเติบโตอย่างแข็งแรงในอนาคตค่ะ
ตามคำแนะนำขององค์การอนามัยโลก (WHO) และยูนิเซฟ คุณแม่ควรให้ลูกได้กินนมแม่ภายใน 1 ชั่วโมงแรกหลังคลอด และควรให้ลูกกิน นมแม่อย่างเดียว ไปจนถึงอายุ 6 เดือน จากนั้นจึงค่อยให้นมแม่ควบคู่ไปกับอาหารตามวัยจนถึง 2 ปี หรือนานกว่านั้นค่ะ
วิธีการคลอดต่อจุลินทรีย์ในลำไส้และสุขภาพ
รู้ไหมคะว่า วิธีการคลอด เป็นปัจจัยสำคัญอย่างมากที่เกิดการเปลี่ยนแปลงของจุลินทรีย์ในลำไส้ในช่วงทารกแรกเกิด มีการศึกษาพบว่าการเปลี่ยนแปลงของจุลินทรีย์ในลำไส้ที่เกิดจากการผ่าคลอด (Cesarean Section หรือ C-section) สามารถส่งผลกระทบต่อการทำงานของเซลล์เยื่อบุผิวในลำไส้และการพัฒนาของระบบภูมิคุ้มกันได้โดยตรง นอกจากนี้ โรคแพ้ภูมิตัวเอง (autoimmune) และ ความผิดปกติทางเมตาบอลิซึม (metabolic disorders) บางชนิด อาจมีความเกี่ยวพันกับภาวะจุลินทรีย์เสียสมดุล (microbiota dysbiosis) ในทารกที่เกิดจากการผ่าคลอด แต่เรื่องที่น่าสนใจคือ โพรไบโอติก (probiotics) สามารถเข้ามาช่วยส่งเสริมระบบนิเวศขนาดเล็ก (microecology) ในลำไส้ ซึ่งอาจช่วยป้องกันและรักษาโรคที่เกี่ยวข้องกับการผ่าคลอดได้ค่ะ
ความแตกต่างของจุลินทรีย์ในลำไส้เด็กผ่าคลอด
ความแตกต่างของวิธีการคลอดมีความเชื่อมโยงกับความแตกต่างของจุลินทรีย์ในลำไส้ (gut microflora) ของทารกอย่างชัดเจน มีงานวิจัยที่ชี้ว่าช่องคลอดคุณแม่จะมีโพรไบโอติกที่เป็นประโยชน์ เช่น Lactobacillus reuteri, L. rhamnosus และอื่น ๆ เมื่อเทียบกับทารกที่คลอดโดยการผ่าคลอดแล้ว ทารกที่คลอดด้วยวิธีธรรมชาติผ่านทางช่องคลอดคุณแม่จะสัมผัสกับแบคทีเรียที่เป็นประโยชน์เหล่านี้มากกว่า ดังนั้น กลุ่มแบคทีเรียในลำไส้ของทารกที่คลอดทางช่องคลอดจึงคล้ายกับที่พบในช่องคลอดของมารดา การศึกษาต่าง ๆ จึงได้ยืนยันว่าจุลินทรีย์ในลำไส้ของทารกที่คลอดโดยการผ่าคลอดนั้นแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญค่ะ อย่างไรก็ตาม ไม่ว่าลูกน้อยจะคลอดด้วยวิธีคลอดธรรมชาติ หรือผ่าคลอด ก็สามารถมีภูมิคุ้มกันที่แข็งแรงได้เหมือนกัน เริ่มต้นง่าย ๆ ตั้งแต่แรกเกิดด้วยการกินนมแม่ ซึ่งเป็นแหล่งรวมจุลินทรีย์สุขภาพชั้นดี นมแม่มีจุลินทรีย์ที่เป็นประโยชน์อย่าง แอลรียูเทอรี (L. reuteri) ที่จะช่วยสร้างสมดุลและเสริมความแข็งแกร่งให้ลำไส้ของลูกน้อยค่ะ
ทำไมนมแม่ถึงสำคัญ
เพราะนมแม่คืออาหารที่เหมาะสมที่สุดสำหรับทารก มีสารอาหารกว่า 200 ชนิด ที่ร่างกายลูกน้อยต้องการ ทั้งยังมีการปรับเปลี่ยนสารอาหารให้เหมาะสมกับพัฒนาการในแต่ละช่วงวัยอีกด้วย นอกจากนี้ นมแม่ยังมีวิตามิน ฮอร์โมน และแบคทีเรียที่ดีต่อระบบทางเดินอาหารของลูกน้อยอีกด้วย สำหรับทารกแรกเกิดที่มีภูมิคุ้มกันยังไม่สมบูรณ์ นมแม่เปรียบเสมือนวัคซีนหยดแรก ที่ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันโรค และปกป้องลูกน้อยจากเชื้อโรคต่าง ๆ ค่ะ
นอกจากนี้ ในน้ำนมแม่ยังอุดมไปด้วยสารอาหารที่มีประโยชน์มากมาย ทั้งแคลเซียม โปรตีน วิตามิน DHA (ดีเอชเอ) และ แอลฟาแล็ค สฟิงโกไมอีลิน (AlphaLac Sphingomyelin) ซึ่งสารอาหารเหล่านี้เป็นส่วนสำคัญที่ช่วยเสริมสร้างการทำงานของสมองในเด็กเจนใหม่ ให้มีประสิทธิภาพสูงสุด โดยจะเข้าไปช่วยสร้างสารสื่อประสาท และเพิ่มความเร็วในการส่งสัญญาณประสาทให้เป็นไปอย่างก้าวกระโดด ส่งผลให้ลูกน้อยเกิดการจดจำและเรียนรู้สิ่งต่าง ๆ ได้อย่างรวดเร็วค่ะ และที่สำคัญ ในน้ำนมแม่ยังมีจุลินทรีย์สุขภาพดีอย่าง บี แล็กทิส (B. lactis) ที่ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้แข็งแรง โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับลูกน้อยที่คลอดด้วยวิธีผ่าคลอด ควรได้รับจุลินทรีย์ชนิดนี้ให้เร็วที่สุดหลังคลอด เพราะมีการศึกษาพบว่า เด็กที่คลอดด้วยวิธีนี้มักจะมีปริมาณจุลินทรีย์ชนิดนี้น้อยกว่าเด็กที่คลอดเองตามธรรมชาติค่ะ
อ้างอิง:
- 5 Benefits of Lactobacillus reuteri Yogurt, Dr.Berg
- The role of potential probiotic strains Lactobacillus reuteri in various intestinal diseases: New roles for an old player, National Library of Medicine
- Role of Lactobacillus reuteri in Human Health and Diseases, National Library of Medicine
- ภาวะวิกฤต…ชีวิตจบ, ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์
- Lactobacillus reuteri to Treat Infant Colic: A Meta-analysis, National Library of Medicine
- นมแม่มีประโยชน์ กรมอนามัย แนะ ทารก ตั้งแต่แรกเกิดถึง 6 เดือน กินนมแม่อย่างเดียว, กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข
- Savino, F. et al. (2010). "Lactobacillus reuteri DSM 17938 reduces crying time in infants with colic: a randomized, double-blind, placebo-controlled trial." Pediatrics.
- แก้ปัญหาลูกท้องผูก ด้วยจุลินทรีย์ แอล รียูเทอรี, Nestle
- The Effects of Delivery Mode on the Gut Microbiota and Health: State of Art, National Library of Medicine
อ้างอิง ณ วันที่ 10 พฤศจิกายน 2568