ใช่เลยค่ะ! อาการแสบร้อนกลางอกหลังกินเผ็ดคืออาการคลาสสิกของ "กรดไหลย้อน" ซึ่งคนท้องเป็นกันง่ายมากเพราะมดลูกที่ขยายใหญ่จะมาเบียดกระเพาะอาหาร

โดยทั่วไปแล้วอาการคันที่เกิดจากผิวแห้งหรือผิวแตกลาย ไม่ได้ส่งผลอันตรายโดยตรงต่อลูกน้อยในท้องเลยค่ะ เป็นอาการที่คุณแม่รู้สึกไม่สบายตัวคนเดียวค่ะ แต่ถ้าคุณแม่มีอาการคันรุนแรงมาก

ข่าวดีก็คือคุณแม่ส่วนใหญ่ "อาการคันจะค่อยๆ ดีขึ้นและหายไปเอง" หลังคลอดค่ะ เมื่อระดับฮอร์โมนในร่างกายกลับเข้าสู่ภาวะปกติและผิวหนังไม่ต้องขยายตัวอีกต่อไป อาการคันก็จะค่อยๆ

"ไม่แนะนำให้ใช้ค่ะ" และเป็นความเชื่อที่อาจทำให้อาการแย่ลงได้! แม้จะดูเหมือนช่วยลดการกดทับโดยตรง แต่การนั่งบนโดนัทจะทำให้เกิดแรงกดและแรงถ่าง

อาการปวดแปล๊บๆ หรือหน่วงๆ ที่ท้องน้อยหรือขาหนีบเวลาเปลี่ยนท่าทางกะทันหันนั้น ไม่เป็นอันตรายค่ะ เป็นอาการที่เกิดจาก เส้นเอ็นยึดมดลูก

ไม่ใช่ค่ะคุณแม่! ต้องแยกกันก่อนนะคะ ที่ตรวจไข่ตกจะตรวจหาฮอร์โมน LH เพื่อบอกวันไข่ตก ส่วนที่ตรวจครรภ์จะตรวจหาฮอร์โมน HCG เพื่อบอกการตั้งครรภ์ค่ะ แม้จะขึ้น 2 ขีดเหมือนกัน

เป็นความกลัวอันดับต้นๆ ของคุณแม่หลังคลอดธรรมชาติเลยค่ะ! เคล็ดลับสำคัญคือ "ทำให้อุจจาระนิ่มเข้าไว้" ค่ะ
ดื่มน้ำเยอะๆ: อย่างน้อยวันละ 8-10

ใช่แล้วค่ะ กรณีที่ชัดเจนที่สุดคือเด็กที่เป็นโรคทางพันธุกรรมที่หายากชื่อว่า "กาแลคโตซีเมีย" (Galactosemia) ค่ะ คือร่างกายของเขาไม่สามารถย่อยน้ำตาลกาแลคโตสที่พบในนมแม่และนมวัวได้เลย

ใจเย็นๆ ก่อนนะคะคุณแม่ ในวัยนี้สมองของเขากำลังพัฒนาจนเริ่มแยกแยะเรื่องจริงกับเรื่องโกหกได้แล้วค่ะ การโกหกเล็กๆ น้อยๆ จึงเป็นการทดลองใช้ทักษะใหม่นี้ หรืออาจเกิดจากจินตนาการที่กว้างไกลของเขาค่ะ

จริงที่สุดเลยค่ะ! ไข่ไก่เปรียบเหมือนขุมพลังสารอาหารบำรุงสมองเลยค่ะ โดยเฉพาะในไข่แดงจะมีสารที่ชื่อว่า "โคลีน" และ "สฟิงโกไมอีลิน" ที่ช่วยเรื่องความจำและการส่งสัญญาณของสมองโดยตรงเลยค่ะ

เข้าใจเลยค่ะว่าช่วงที่ลูกเลือกทานนี่น่ากังวลใจมาก ลองเน้นไปที่อาหาร 2-3 กลุ่มหลักๆ ที่จำเป็นต่อสมองนะคะ คือ "ธาตุเหล็ก" ที่มีในเนื้อสัตว์ไม่ติดมัน ซึ่งช่วยเรื่องสมาธิ และ "โปรตีน" จากไข่หรือนม

Finger Food ไม่ใช่แค่เรื่องการกินนะคะคุณแม่ แต่มันคือ "โรงเรียนฝึกทักษะย่อมๆ" ของลูกเลยค่ะ เขาจะได้ฝึกใช้กล้ามเนื้อมัดเล็กในการหยิบจับ, ฝึกการทำงานประสานกันระหว่างสายตาและมือ

ปลาที่มีไขมันดีอย่างปลาแซลมอนหรือปลาทู ดีต่อสมองของลูกมากๆ เลยค่ะ เพราะมี DHA สูงซึ่งเป็นส่วนประกอบสำคัญของเซลล์สมองค่ะ แนะนำให้ทานประมาณ 1-2 ครั้งต่อสัปดาห์ก็เพียงพอแล้วค่ะ

วัย 5 ขวบเป็นวัยที่เก่งขึ้นรอบด้านเลยค่ะ! ด้านร่างกาย เขาจะปีนป่ายคล่องแคล่ว ใช้ช้อนส้อมได้ดี ด้านความคิด จะเริ่มนับเลขได้เกิน 10 รู้จักซ้าย-ขวา และเข้าใจเหตุผลง่ายๆ ได้แล้ว ด้านสังคมและอารมณ์

เป็นเรื่องปกติและเป็นสัญญาณที่ดีเลยค่ะ! แสดงว่าสมองส่วนเหตุผลของเขากำลังพัฒนา เขากำลังเรียนรู้เรื่องกฎกติกา ความยุติธรรม และการต่อรองค่ะ คุณแม่ลองใจเย็นๆ รับฟังเหตุผลของเขา

ไม่เสมอไปค่ะ! แม้ว่าน้ำหนักตัวของคุณแม่จะเป็นปัจจัยหนึ่ง แต่ไม่ใช่ปัจจัยเดียวค่ะ ในช่วงแรกที่แพ้ท้อง หรือในคุณแม่บางท่านที่เผาผลาญดี น้ำหนัก

เป็นเรื่องที่เจอได้บ่อยเลยค่ะ ไม่ต้องตกใจนะคะ เป็นเพราะฮอร์โมนการตั้งครรภ์ที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างมาก สามารถทำให้ร่างกายของเราไวต่อสิ่งกระตุ้นต่างๆ มากขึ้นค่ะ บางครั้งอาการเหล่านี้ก็จะหายไปเองหลังคลอด

สบายใจได้เลยค่ะคุณแม่ โดยทั่วไปแล้วอาการภูมิแพ้ของคุณแม่ เช่น การจาม หรือคัดจมูก ไม่ได้ส่งผลอันตรายโดยตรงต่อลูกน้อยในท้องเลยค่ะ แต่สิ่งที่สำคัญคือการดูแลสุขภาพของคุณแม่ไม่ให้ทรุดโทรม

ไม่จริงในทางการแพทย์ค่ะ ความรู้สึก "เย็น" ที่ได้รับจากการกินแตงโม มาจากการที่แตงโมมีน้ำเป็นส่วนประกอบสูงถึง 95% ซึ่งช่วยคลายร้อนและทำให้

ไม่ต้องกังวลไปนะคะคุณแม่ ความรู้สึกจะคล้ายๆ กับตอนเจาะเลือดเลยค่ะ จะรู้สึกเจ็บจี๊ดๆ แค่ตอนที่คุณหมอแทงเข็มผ่านหน้าท้องเข้าไปเท่านั้นค่ะ หลังจากนั้นจะไม่รู้สึกเจ็บแล้วค่ะ

ยังสามารถทานได้ค่ะ แต่ต้องจำกัดปริมาณอย่างเคร่งครัด" แม้แตงโมจะมีดัชนีน้ำตาล (GI) สูง แต่ก็มีปริมาณคาร์โบไฮเดรตต่อหน่วยบริโภคไม่มากนัก

โดยทั่วไปแล้ว ยังถือว่าอยู่ในเกณฑ์ปกติได้ค่ะ ตกขาวปกติสามารถมีสีแตกต่างกันได้เล็กน้อย ตั้งแต่สีใส, ขาวขุ่น, ไปจนถึงเหลืองอ่อนๆ ได้ โดยเฉพาะ

มีเคล็ดลับง่ายๆ ในการเลือกค่ะ:
ดูลาย: เลือกลูกที่มีลายบนเปลือกชัดเจน และมีระยะห่างระหว่างลายสม่ำเสมอ
ดูขั้ว: ขั้วของแตงโมควรจะแห้งและเป็น

เป็นคำถามที่ดีมากค่ะ น้ำหนักที่ได้จากการอัลตราซาวด์เป็นการ "คาดคะเน" หรือ "ประเมิน" จากการวัดส่วนต่างๆ ของทารก (เช่น เส้นรอบศีรษะ, รอบท้อง