แม้คุณแม่จะเริ่มรู้สึกว่าลูกดิ้นได้แล้วในช่วงนี้ แต่ช่วงเวลาที่แนะนำให้เริ่ม "นับลูกดิ้นอย่างจริงจัง" คือช่วง ไตรมาสที่ 3 (ตั้งแต่สัปดาห์ที่

เป็นช่วงเวลาที่ดีมากสำหรับการทำอัลตราซาวด์เลยค่ะ! ในช่วงนี้คุณแม่จะได้เห็น:
โครงสร้างร่างกายที่สมบูรณ์: เห็นแขน, ขา, นิ้วมือ, นิ้วเท้า และ

ยินดีด้วยค่ะ! โอกาสท้องสูงมากถึง 99% เลยค่ะ ขีดที่สองแม้จะจางแค่ไหน ก็หมายถึงร่างกายของคุณแม่ได้เริ่มผลิตฮอร์โมน hCG (ฮอร์โมนตั้งครรภ์) ออก

ไม่ผิดปกติเลยค่ะ และถือว่าคุณแม่โชคดีมาก! อาการแพ้ท้องไม่ใช่สิ่งที่จะเกิดขึ้นกับคุณแม่ทุกคนค่ะ คุณแม่ประมาณ 20-30% อาจจะไม่มีอาการแพ้ท้องเลย

เป็นอาการยอดฮิตของคุณแม่ช่วงนี้เลยค่ะ สาเหตุหลักก็เพราะ "มดลูกที่ขยายใหญ่ขึ้น" จนยอดมดลูกอยู่สูงระดับสะดือแล้ว กำลังเริ่ม "เบียดและดันอวัยวะ

เป็นคำถามที่สำคัญมากค่ะ และเป็นสิ่งที่ต้องสังเกตอย่างใกล้ชิด:
ท้องแข็งปกติ/เจ็บหลอก (Braxton Hicks): จะเป็นการแข็งตึงที่ "ไม่สม่ำเสมอ"

เป็นความกลัวที่เข้าใจได้ค่ะ แต่การสื่อสารเป็นสิ่งสำคัญที่สุด ลองเริ่มจากการเลือกช่วงเวลาที่สงบและเป็นส่วนตัว แล้วพูดคุยโดยใช้ประโยคที่ขึ้นต้น

เป็นคำถามที่สร้างความกังวลใจให้คุณแม่มากที่สุดในช่วงนี้ค่ะ การมีเลือดออกเล็กน้อยในช่วงไตรมาสแรกสามารถเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ:
อาจเป็นเลือด

จริงค่ะ และเป็นเรื่องปกติ การเคลื่อนไหวร่างกายจะไปกระตุ้นให้มดลูกบีบตัวและช่วยขับน้ำคาวปลาที่ค้างอยู่ออกมาได้ดีขึ้น คุณแม่อาจจะสังเกตเห็นว่า

ปกติและเป็นสัญญาณที่ดีมากค่ะ! อาการปวดหน่วงๆ ที่ท้องน้อยที่คุณแม่รู้สึกนั้นเรียกว่า "Afterpains" หรือ "อาการปวดมดลูกหลังคลอด" ซึ่งเกิดจากการ

เกี่ยวข้องกันค่ะ และเป็นความรู้สึกที่พบได้บ่อยโดยเฉพาะในคุณแม่ที่คลอดธรรมชาติ ความรู้สึกเหมือนโดนถ่วงนี้เกิดจากการที่ กล้ามเนื้ออุ้งเชิงกราน

เป็นคำถามที่ดีมากและเป็นจุดที่ทำให้คุณแม่มือใหม่สับสนที่สุดค่ะ! ในทางการแพทย์ การนับอายุครรภ์จะเริ่มนับจาก "วันแรกของประจำเดือนครั้งสุดท้าย"

อาการนี้เป็นผลโดยตรงจาก "ฮอร์โมนโปรเจสเตอโรน (Progesterone)" ที่พุ่งสูงขึ้นอย่างมหาศาลในช่วงไตรมาสแรกค่ะ ฮอร์โมนตัวนี้มีฤทธิ์คล้ายๆ ยานอนหลับ

เป็นคำถามที่ดีมากค่ะ ทั้งสองอย่างออกมาจากช่องคลอดเหมือนกัน แต่ "แตกต่างกันโดยสิ้นเชิง" ค่ะ
น้ำคาวปลา: คือ เลือดและเนื้อเยื่อจากแผลในโพรงมด

ไม่ผิดปกติเลยค่ะ และเป็นสัญญาณที่ดีมาก! แสดงว่าเต้านมของคุณแม่กำลังเตรียมพร้อมสำหรับการให้นมลูกอย่างเต็มที่แล้วค่ะ ร่างกายเริ่มผลิตน้ำนมเหลือง

คุณไม่ใช่แม่ที่ไม่ดีเลยค่ะ และความรู้สึกนี้ "ไม่ใช่ความผิดของคุณแม่" แต่มันคือ "อาการหนึ่งของโรคซึมเศร้าหลังคลอด" ค่ะ ภาวะซึมเศร้าจะไปบดบัง

เป็นคนละอย่างกันค่ะ แต่มีความเกี่ยวเนื่องกัน! การแยกสองภาวะนี้ออกจากกันสำคัญมากค่ะ:
เบบี้บลูส์ (Baby Blues): เปรียบเสมือน อาการเศร้าหลังคลอด

การที่น้ำคาวปลามี "กลิ่นคาวเลือด" หรือ "กลิ่นอับ" เล็กน้อยถือเป็น "เรื่องปกติ" ค่ะ เพราะมันคือเลือดและเนื้อเยื่อที่ออกมาทำปฏิกิริยากับอากาศ

ปกติและเป็นสัญญาณที่ดีมากค่ะ! ขณะที่ลูกกำลังดูดนม ร่างกายของคุณแม่จะหลั่งฮอร์โมน "ออกซิโทซิน (Oxytocin)" ออกมา ซึ่งฮอร์โมนตัวนี้จะไปกระตุ้น

ไม่ต้องตกใจนะคะ เป็นกลไกที่ปกติมากค่ะ ลิ่มเลือดเหล่านี้เกิดจากเลือดที่ "ค้าง" หรือ "ตกตะกอน" อยู่ในโพรงมดลูกขณะที่คุณแม่นอนหรือนั่งนิ่งๆ ค่ะ

โดยส่วนใหญ่แล้ว "ใช่ค่ะ" ฮอร์โมนที่ใช้ในการผลิตน้ำนม (โปรแลคติน) จะไปกดการทำงานของรังไข่ ทำให้ไม่มีการตกไข่และไม่มีประจำเดือนค่ะ แต่ระยะเวลา

คุณแม่ไม่ได้คิดไปเองค่ะ เป็นเรื่องจริงและปกติมาก! ในท้องหลังๆ อาการปวดมดลูกหลังคลอดมักจะเจ็บปวดรุนแรงกว่าท้องแรก เหตุผลก็เพราะว่ากล้ามเนื้อ