การลงโทษรุนแรง เช่น การตีหรือดุว่าเสียงดัง มักไม่ได้ผลในระยะยาวกับเด็กวัยนี้ค่ะ ตรงกันข้ามอาจทำให้เขายิ่งต่อต้านและรู้สึกไม่ดีกับตัวเอง วิธีที่ดีกว่าคือการสอน

พฤติกรรมตี กัด หรือผลัก เป็นเรื่องที่พบได้บ่อยในเด็กวัยนี้ค่ะ ส่วนใหญ่แล้วไม่ใช่สัญญาณของความก้าวร้าวที่น่ากลัว แต่เป็นวิธีการสื่อสารความไม่พอใจ

เป็นความกังวลอันดับหนึ่งของคุณพ่อคุณแม่เลยค่ะ! หัวใจสำคัญคือการต้มหรือนึ่งผักให้นิ่มมากๆ ค่ะ ระดับที่สามารถใช้นิ้วมือของเราบี้ให้เละได้ง่ายๆ เลยค่ะ การให้เขาได้ลอง

เป็นข้อควรระวังที่สำคัญมากเลยค่ะ! สำหรับน้องที่อายุยังไม่ถึง 1 ขวบ ควรใช้เป็น "นมแม่หรือนมผง" สูตรที่น้องทานเป็นประจำในการผสมอาหารเท่านั้นนะคะ

ได้แน่นอนค่ะ! คุณแม่สามารถใช้มันเทศหรือฟักทองนึ่งบดแทนได้เลยค่ะ เป็นตัวเลือกที่ยอดเยี่ยม ให้รสชาติหวานอ่อนๆ และมีประโยชน์มากเหมือนกัน หรือจะลองเป็นโยเกิร์ต

เป็นเรื่องปกติมากเลยค่ะที่คุณแม่จะสงสัย! ในช่วงแรกๆ ให้มองว่ามันคือการ "ฝึกซ้อม" มากกว่าการกินจริงจังค่ะ ลองเริ่มจากปริมาณน้อยๆ แค่ 1-2 ช้อนชาก็พอ

เป็นคำถามที่ดีมากเลยค่ะ! ตามคำแนะนำทางการแพทย์ในปัจจุบัน เด็กอายุ 6 เดือนขึ้นไปสามารถทานไข่ได้ "ทั้งฟอง" เลยค่ะ ไม่จำเป็นต้องแยกไข่แดงไข่ขาว

เป็นคำถามที่สำคัญและแยกได้ยากมากสำหรับคุณพ่อคุณแม่ค่ะ โดยทั่วไปแล้ว จุดสังเกตเบื้องต้นคือ ออทิสติกแท้มักจะมีลักษณะพฤติกรรมทำซ้ำๆ หรือมีความสนใจที่จำกัด

เป็นคำถามที่ดีมากเลยค่ะ และข่าวดีคือไม่จำเป็นเลยค่ะ! ของเล่นที่ดีที่สุดสำหรับเด็กวัยนี้คือของที่เปิดโอกาสให้เขาได้ใช้จินตนาการอย่างเต็มที่ ซึ่งกล่องกระดาษ

เป็นเรื่องที่คุณพ่อคุณแม่หลายคนกังวลเลยค่ะ แต่จริงๆ แล้วการที่น้องสามารถจดจ่อกับของเล่นชิ้นโปรดได้นานๆ ถือเป็นสัญญาณที่ดีของการมีสมาธิค่ะ การเล่นซ้ำๆ

ข่าวดีก็คือ ภาวะออทิสติกเทียมสามารถดีขึ้นได้อย่างมากและมีโอกาสกลับมามีพัฒนาการที่สมวัยได้สูงค่ะ หัวใจสำคัญคือการ "ปรับเปลี่ยนสิ่งแวดล้อม" และ "การกระตุ้นพัฒนาการ

เป็นพฤติกรรมตามวัยที่ปกติมากค่ะ เพราะปากยังเป็นอีกหนึ่งช่องทางที่เขาใช้สำรวจโลกรอบตัว การเลือกของเล่นที่ปลอดภัยจึงสำคัญที่สุดค่ะ หลักการง่ายๆ คือของเล่น

การที่น้องยอมทานผักสักชนิดหนึ่งก็ถือเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีมากแล้วค่ะ! แต่อย่างที่คุณแม่กังวล การทานผักที่หลากหลายก็สำคัญเพื่อให้ได้รับวิตามินและแร่ธาตุที่แตกต่างกันไปค่ะ

ความเชื่อที่ว่าเสมหะสีเขียวหรือเหลืองหมายถึงการติดเชื้อแบคทีเรียเสมอไปนั้น "ไม่ถูกต้องเสมอไป" นะคะ! สีของเสมหะสามารถเกิดจากการที่มีเซลล์เม็ดเลือดขาวออกมาต่อสู้กับการติดเชื้อ

อาจเป็นได้ทั้งสองอย่างเลยค่ะ ในแง่พฤติกรรม มันอาจเป็นวิธีที่เขากำลังทดสอบขอบเขตหรือเรียกร้องความสนใจจากเรา แต่สิ่งสำคัญที่คุณพ่อคุณแม่ไม่ควรมองข้ามคือสาเหตุทางกายภาพค่ะ

เป็นคำถามที่สำคัญมากสำหรับคุณพ่อคุณแม่มือใหม่เลยค่ะ! ในช่วงที่สายสะดือของน้องยังไม่หลุดและยังไม่แห้งสนิทดี คุณหมอส่วนใหญ่มักจะแนะนำให้ "เช็ดตัว"

ส่วนใหญ่มักจะไม่ใช่เรื่องที่น่ากังวลค่ะ การนอนกรนชั่วคราวเวลาที่เป็นหวัดเกิดจากการที่เยื่อบุในจมูกบวมและมีน้ำมูกอุดตัน ทำให้ทางเดินหายใจแคบลงชั่วคราวค่ะ

เป็นปัญหาที่ทำให้คุณพ่อคุณแม่เพลียที่สุดเลยค่ะ! สิ่งสำคัญที่สุดคือพยายาม "ไม่เล่นด้วย" และ "ไม่เปิดไฟสว่าง" ค่ะ ให้บรรยากาศในห้องเงียบและมืดที่สุดเท่าที่จะทำได้

เป็นความกังวลที่สมเหตุสมผลเลยค่ะ และคำตอบคือ "เป็นไปได้" ค่ะ การให้ลูกได้มีเวลาเล่นบนพื้น (Floor Time) หรือการทำ Tummy Time เป็นสิ่งสำคัญมากในการเสริมสร้างกล้ามเนื้อคอ

เป็นคำถามที่คุณพ่อคุณแม่ถามเข้ามาบ่อยที่สุดเลยค่ะ การที่น้องเข้าใจคำสั่งได้ดีเรียกว่า "พัฒนาการด้านความเข้าใจภาษา" ซึ่งมักจะมาก่อน "การแสดงออกทางภาษา"

เป็นความกังวลที่ถูกต้องเลยค่ะ หลักการง่ายๆ คือ "สุก ร้อน สะอาด" ค่ะ พยายามเลือกร้านที่ดูโปร่ง อากาศถ่ายเทดี และเลี่ยงอาหารที่ปรุงทิ้งไว้นานๆ ค่ะ

เข้าใจเลยค่ะว่าเราอยากจะสอนสิ่งทีถูกต้องให้ลูก แต่การ "แก้" หรือ "บังคับ" ให้พูดใหม่ตรงๆ อาจจะทำให้น้องรู้สึกกดดันและไม่อยากพยายามพูดได้ค่ะ วิธีที่ดีกว่าคือการ

เป็นคำถามที่ดีมากเลยค่ะ เพราะเส้นแบ่งบางทีก็ดูไม่ชัดเจน จุดสังเกตสำคัญคือ "ผลกระทบ" ค่ะ ถ้าการดูจอเริ่มเข้ามาแทนที่กิจกรรมที่สำคัญอื่นๆ เช่น การเล่นนอกบ้าน

เป็นภาพที่น่าตกใจและบีบคั้นหัวใจคุณพ่อคุณแม่ที่สุดเลยค่ะ ภาวะชักจากไข้สูง (Febrile Seizure) สามารถเกิดขึ้นได้ในเด็กเล็กค่ะ และโรคส่าไข้ก็เป็นหนึ่งในสาเหตุที่พบบ่อย

เป็นคำถามที่ดีมากเลยค่ะ จุดสังเกตที่ง่ายที่สุดคือ "ลำดับการเกิดอาการ" ค่ะ ส่าไข้มักจะมีไข้สูงก่อนหลายวัน แล้ว "ไข้ลดลงแล้วผื่นถึงจะขึ้น" ค่ะ ส่วนโรคหัดหรืออีสุกอีใสมักจะมีไข้ไป

เป็นปัญหาที่เจอบ่อยเลยค่ะ ในกรณีนี้เจ้าบ้านสามารถทำ "หนังสือมอบอำนาจ" ให้บุคคลอื่น (เช่น คุณพ่อหรือคุณแม่) ไปดำเนินการแทนได้ค่ะ โดยต้องแนบสำเนาบัตรประชาชน

เป็นคำถามที่ดีมากเลยค่ะ เพราะอาการคล้ายกันจริงๆ จุดสังเกตสำคัญคือ ถ้าเกิดจากภูมิแพ้ มักจะมีอาการ "คัน" เป็นหลัก อาจจะมีตาบวมและน้ำมูกใสๆ ร่วมด้วย

การทาครีมหรือโลชั่นช่วยได้มากเลยค่ะ! การเพิ่มความชุ่มชื้นจะช่วยให้ผิวใหม่ของน้องแข็งแรงและลดความแห้งตึงได้ค่ะ ควรเลือกใช้ผลิตภัณฑ์สำหรับทารกโดยเฉพาะที่ "ปราศจากน้ำหอม"

ห้ามเด็ดขาดเลยนะคะ! ยาหยอดตาสำหรับผู้ใหญ่มีส่วนผสมและความเข้มข้นของตัวยาที่แตกต่างจากยาสำหรับเด็ก และยาบางชนิดอาจเป็นอันตรายต่อดวงตาที่บอบบางของลูกได้ค่ะ

เสียงของคุณแม่คือเสียงที่ดีที่สุดในโลกสำหรับลูกค่ะ! การที่เขาได้ยินเสียงสูงๆ ต่ำๆ และจังหวะการพูดคุยร้องเพลงจากคุณแม่โดยตรง สำคัญต่อการสร้างสายสัมพันธ์

เป็นสถานการณ์ที่ท้าทายคุณพ่อคุณแม่มากที่สุดเลยค่ะ อาการนี้คล้ายกับอาการถอนยาเลยค่ะ สิ่งสำคัญที่สุดคือคุณแม่ต้องใจเย็นและหนักแน่น ยอมรับอารมณ์ของเขา

เป็นคำถามสำคัญมากสำหรับคุณแม่หลายๆ ท่านเลยค่ะ โดยปกติแล้วคุณแม่ซึ่งเป็นผู้มีอำนาจปกครองบุตรตามกฎหมาย (ในกรณีที่ไม่ได้จดทะเบียนสมรส) สามารถดำเนินการ