เมื่อแม่หลังคลอดต้องกลับไปทำงาน เตรียมตัวอย่างไรก่อนกลับไปทำงาน

คุณแม่หลังคลอด ควรเตรียมตัวอย่างไรก่อนกลับไปทำงาน

26.03.2020

เมื่อถึงเวลากลับไปทำงานหลังลาคลอดแล้ว เวลาที่จะต้องจากลูกรักเพื่อกลับไปทำงาน แม้ว่าคุณแม่จะรู้สึกใจหายเพราะได้เลี้ยงใกล้ชิดมาตลอด 3 เดือน ในช่วงแรก ๆ อาจจะขลุกขลักไปบ้าง แต่ค่อยเป็นค่อยไปนะคะ เดี๋ยวทุกอย่างจะดีขึ้นเอง มาเตรียมตัวกลับไปทำงานหลังลาคลอดอย่างสบายใจกันค่ะ สู้เพื่อลูก เป็นกำลังใจให้ Working mom ทุกคนนะคะ และ Working mom ต้องรู้ นมแม่ไม่ใช่แค่ดีต่อใจ แต่ดีต่อสมองของลูกด้วย

headphones

PLAYING: คุณแม่หลังคลอด ควรเตรียมตัวอย่างไรก่อนกลับไปทำงาน

อ่าน 4 นาที

เมื่อแม่หลังคลอดต้องเตรียมตัวกลับไปทำงาน 

เมื่อถึงเวลากลับไปทำงานหลังลาคลอดแล้ว เวลาที่จะต้องจากลูกรักเพื่อกลับไปทำงาน แม้ว่าคุณแม่จะรู้สึกใจหายเพราะได้เลี้ยงใกล้ชิดมาตลอด 3 เดือน ในช่วงแรก ๆ อาจจะขลุกขลักไปบ้าง แต่ค่อยเป็นค่อยไปนะคะ เดี๋ยวทุกอย่างจะดีขึ้นเอง มาเตรียมตัวกลับไปทำงานหลังลาคลอดอย่างสบายใจกันค่ะ สู้เพื่อลูก เป็นกำลังใจให้เวิร์กกิ้ง มัม ทุกคนนะคะ

 

เมื่อแม่หลังคลอดต้องกลับไปทำงาน เตรียมตัวอย่างไรก่อนกลับไปทำงาน

เมื่อถึงเวลาต้องเตรียมตัวกลับไปทำงาน...


ก่อนจะกลับไปทำงานต้องรู้อะไรบ้าง คุณแม่ เวิร์กกิ้ง มัม ที่การลาคลอดเดินทางมาใกล้ถึง 90 วัน คงกังวลไม่น้อยกับวันที่ 91 ที่กำลังจะมาถึง บางคนอาจจะเพิ่งตื่นตัว หากคุณแม่ กำลังหา how-to ดีดี สำหรับการเตรียมตัวกลับไปทำงาน วันนี้เรามีเคล็ดลับการเตรียมตัวมาบอกค่ะ 


1. ฝากลูกไว้กับใครหลังกลับไปทำงาน 
หากคุณอยู่กับพ่อและแม่ คนแรกที่ควรนึกถึงคือ คุณแม่ของคุณเองหรือคุณยาย เพราะท่านจะคอยดูแลลูกของคุณอย่างสุดฝีมือ และนั่นก็จะทำให้คุณรู้สึกอุ่นใจ ที่ลูกน้อยได้อยู่กับคนที่คุณไว้ใจ แต่หากคุณไม่มีผู้ใหญ่ที่จะช่วยดูแลลูก คงต้องมองหาเนอร์สเซอรีที่มีคุณภาพในสภาพแวดล้อมที่ดี เพื่อฝากดูแลลูกในเวลากลางวัน


2. Checklist สิ่งที่ต้องเตรียมหลังกลับไปทำงาน 
คุณแม่อาจแบ่งสิ่งที่ต้องทำออกเป็น งานในบ้านและงานนอกบ้าน หรือไม่ก็งานของคุณแม่และงานของคุณพ่อ รวมถึงสิ่งที่จำเป็นต้องทำ สิ่งที่รอได้ และสิ่งที่เว้นไปก่อนก็ได้ เพื่อให้คุณสามารถจัดลำดับงานต่าง ๆ ของคุณได้อย่างลงตัว เช่น หากต้องฝากเลี้ยง คุณแม่ควรเตรียมของใช้ให้พร้อมตั้งแต่ก่อนเข้านอน จัดของลูกที่จำเป็นให้ครบ ทั้งเสื้อผ้า แพมเพิส ขวดนม นมแม่ที่บรรจุถุงเรียบร้อย หรือนมผงจัดแบ่งให้พร้อม เลือกชุดใส่ไปทำงานเตรียมไว้ ล้างอุปกรณ์และเตรียมปั๊มนมไว้ให้เรียบร้อย เมื่อถึงตอนเช้าคุณแม่จะได้ไม่ต้องฉุกละหุกกับการจัดเตรียมของ


3. มีแผนสำรองเตรียมไว้เสมอ 
สิ่งต่าง ๆ อาจเกิดขึ้นโดยไม่คาดฝันก็สามารถเกิดขึ้นได้ทั้งนั้น คุณแม่จึงต้องเตรียมตัวให้พร้อมอยู่เสมอ ต้องรู้ว่าจะทำอย่างไรหากลูกน้อยของคุณไม่สบาย หรือหากคุณยายไม่สบายไม่สามารถดูแลลูกให้คุณได้ หรือวันไหนที่คุณแม่มีประชุมต้องกลับค่ำ ควรหาแผนสำรองว่าจะฝากใครช่วยเลี้ยงได้บ้าง


4. คุยกับเจ้านายและทำความเข้าใจกับเพื่อนร่วมงาน 
คุณแม่ควรพูดคุยกับเจ้านายว่าต้องการเวลาสำหรับปั๊มนมให้ลูก เพื่อหัวหน้างานจะได้จัดสรรเวลาการทำงานให้ได้อย่างเหมาะสม คุณแม่ควรเตรียมปั๊มนมสต๊อกเก็บไว้สม่ำเสมอนะคะ เก็บตั้งแต่ก่อนเริ่มไปทำงานเลยค่ะ รวมถึงเมื่อไปทำงานแล้วในระหว่างวันที่ต้องทำงานก็ควรหาเวลาว่างเพื่อนั่งปั๊มนมเก็บไว้ อาจจะปั๊มทุก ๆ 2 ชั่วโมง เพื่อเป็นการกระตุ้นการผลิตน้ำนมไปด้วย แต่หากไม่สะดวกคุณอาจใช้เวลาก่อนออกจากบ้านและทันทีที่กลับถึงบ้านควรปั๊มน้ำนมเก็บไว้ให้ลูกได้ค่ะ


5. ดูแลลูกแล้ว อย่าลืมดูแลตัวเองด้วย
เมื่อถึงเวลาต้องเตรียมตัวกลับไปทำงาน หลังจากในวันหยุดที่คุณแม่ต้องดูแลลูกด้วยตัวเอง คุณแม่มือใหม่อาจจะเป็นกังวลว่าจะดูแลลูกน้อยได้ไม่เต็มที่ จนบางทีไม่ยอมหลับยอมนอนเพราะห่วงลูกมากเกินไป ซึ่งคุณแม่ต้องผ่อนคลายจิตใจของตนเองด้วย และควรหาเวลาให้กับตัวเองบ้าง เช่น หลับพักผ่อนสักหน่อย เวลาที่คุณแม่ดูแลเจ้าตัวน้อยจนหลับปุ๋ยแล้ว คุณแม่อาจจะอ่านหนังสือเล่มโปรด นั่งฟังเพลงสบาย ๆ เพื่อผ่อนคลาย เวลาที่ลูกน้อยเข้านอนเป็นเวลาพักผ่อนที่ดีสำหรับคุณแม่ ทางที่ดีควรใช้ช่วงเวลานี้งีบหลับด้วยเช่นกัน คุณแม่จะได้ไม่เหนื่อยจนเกินไป ต้องพยายามรักษาสุขภาพให้แข็งแรงนะคะ
 

เวิร์คกิ้งมัมต้องรู้ นมแม่ไม่ใช่แค่ดีต่อใจ แต่ดีต่อสมองของลูกด้วย 

นมแม่นอกจากจะดีต่อใจทั้งแม่และลูกแล้ว ยังดีต่อสุขภาพและความฉลาดของลูกน้อยในอนาคตอีกด้วย นมแม่ ประกอบด้วยสารอาหารมากมายโดยสารอาหารหลักคือ ไขมัน โปรตีน แลคโตส วิตามิน เกลือแร่และสารอาหารอื่นๆ อีกมากมาย สมองของคนเราประกอบด้วยไขมัน 60%

โดยไขมันเป็นส่วนประกอบหลักของไมอีลินในสมอง ส่วนดีเอชเอ ธาตุเหล็ก โคลีน วิตามิน บี12  โปรตีน และสฟิงโกไมอีลินก็เป็นหนึ่งในสารอาหารที่มีส่วนช่วยในการสร้างเจ้าตัวไมอีลินค่ะ  “สฟิงโกไมอีลิน” คือหนึ่งในสารอาหารช่วยสร้างไมอีลิน  และไมอีลินก็ช่วยให้สมองส่งข้อมูลได้อย่างมีประสิทธิภาพ

เมื่่อสมองส่งข้อมูลได้อย่างมีประสิทธิภาพ ลูกก็จะฉลาดเรียนรู้ไว ไอคิวสูง นั่นเองค่ะ  เห็นหรือยังคะว่าดื่มนมแม่ก็มีส่วนช่วยให้ลูก ฉลาด สมองดี เรียนรู้ไวได้แล้ว “สฟิงโกไมอีลิน” พบมากในนมแม่ ไข่ ผลิตภัณฑ์นม และชีส ดังนั้นในช่วง 2 ปีแรกของชีวิตของเด็กทารก หากได้รับสารนี้อย่างเหมาะสม จะทำให้สมองดี เรียนรู้ไว


บทความอื่นๆ ที่สนใจ 

วิธีการให้นมลูกอย่างถูกวิธี  

สฟิงโกไมอีลิน หนึ่งในสารอาหารสำคัญต่อสมองลูก

อ้างอิง

https://www.thairath.co.th/lifestyle/woman/momandkid/1659948 

https://www.thairath.co.th/lifestyle/woman/momandkid/1360713

บทความแนะนำ

น้ำนมส่วนหน้าและน้ำส่วนหลัง แตกต่างกันอย่างไร เรื่องน้ำนมที่แม่ต้องรู้

น้ำนมส่วนหน้าและน้ำส่วนหลัง แตกต่างกันอย่างไร เรื่องน้ำนมที่แม่ต้องรู้

คุณแม่รู้ไหม นมส่วนหน้าและนมส่วนหลัง แตกต่างกันอย่างไร น้ำนมคุณแม่มีทั้งหมดกี่ระยะ ประโยชน์ของน้ำนมส่วนหน้าและน้ำนมส่วนหลัง คุณแม่ควรรู้อะไรบ้าง ไปดูกัน

ท่อน้ำนมอุดตัน คืออะไร คุณแม่ควรดูแลตัวเองอย่างไร เมื่อท่อน้ำนมอุดตัน

ท่อน้ำนมอุดตัน คืออะไร คุณแม่ควรดูแลตัวเองอย่างไร เมื่อท่อน้ำนมอุดตัน

ท่อน้ำนมอุดตัน เกิดจากอะไร คุณแม่ควรทำอย่างไร เมื่อน้ำนมส่วนหน้าอุดตันไม่ไหล ไปดูสาเหตุ อาการของท่อน้ำนมอุดตัน พร้อมวิธีป้องกันไม่ให้กลับมาเป็นซ้ำ

วิธีกู้น้ำนม เมื่อคุณแม่น้ำนมไม่ไหล น้ำนมหด พร้อมวิธีเพิ่มน้ำนม

วิธีกู้น้ำนม เมื่อคุณแม่น้ำนมไม่ไหล น้ำนมหด พร้อมวิธีเพิ่มน้ำนม

คุณแม่น้ำนมหด น้ำนมน้อย น้ำนมไม่ไหล เกิดจากอะไร คุณแม่ควรกู้น้ำนมแบบไหน ถึงดีที่สุดสำหรับคุณแม่ให้นม ไปดูวิธีกู้น้ำนม เมื่อน้ำนมหด น้ำนมไหลน้อย พร้อมวิธีรับมือ

วิธีชงนมที่ถูกต้อง พร้อมขั้นตอนการเตรียมน้ำชงนม สำหรับแม่มือใหม่

วิธีชงนมที่ถูกต้อง พร้อมขั้นตอนการเตรียมน้ำชงนม สำหรับแม่มือใหม่

คุณแม่มือใหม่ ชงนมให้ลูกแบบไหนปลอดภัย ป้องกันทารกท้องอืด ไม่สบายท้อง พร้อมวิธีชงนมให้ลูกน้อย ด้วยวิธีที่ถูกต้อง ไปดู 4 ขั้นตอนวิธีชงนมผงให้ลูก เพื่อสุขอนามัยที่ดีกัน